- หน้าแรก
- ท่องเที่ยวในประเทศ
- แก่งคุดคู้ จังหวัดเลย ประเทศไทย
แก่งคุดคู้ จังหวัดเลย ประเทศไทย
- อ่าน (9,165)
- ByWebmaster
- 16:59:19 | 15 พ.ย. 2564
แก่งคุดคู้ จังหวัดเลย ประเทศไทย
Kaeng Khut Khu, Loei, Thailand
ทิวทัศน์ทางธรรมชาติที่สวยงามของแก่งคุดคู้
แก่งคุดคู้ (Kaeng Khut Khu) เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวของอำเภอเชียงคานที่เราจะได้ชมทัศนียภาพอันสวยงามของแม่น้ำโขง โขดหินน้อยใหญ่ และทิวเขา เป็นสถานที่ที่มีบรรยากาศทางธรรมชาติสวยงามร่มรื่น ที่นี่จึงเป็นอีกหนึ่งในจุดชมวิวและสถานที่พักผ่อนหย่อนใจยอดนิยมของนักท่องเที่ยวที่มาเยือนยังเมืองเชียงคาน
แผนที่ตั้ง แก่งคุดคู้ (Kaeng Khut Khu) จังหวัดเลย ประเทศไทย
ประวัติ
แก่งคุดคู้ตั้งอยู่ในอำเภอเชียงคาน มีอาณาบริเวณกว้างใหญ่กินพื้นที่ตั้งแต่ริมฝั่งโขงของไทยไปจรดยังฝั่งลาว เป็นแก่งที่มีแนวก้อนหินขนาดใหญ่ทอดตัวอยู่ในใต้ลำน้ำโขงซึ่งหินเหล่านี้ถูกสายน้ำกัดเซาะจนมีรูปร่างแตกต่างกันไป
แก่งคุดคู้มีตำนานที่เล่าเรื่องราวสืบต่อกันมาว่า นานมาแล้วมีนายพรานชาวลาวคนหนึ่งมีนามว่าตาจึ่งดึง เขามีรูปร่างใหญ่โตและมีจมูกสีแดง มีความเชี่ยวชาญในการล่าสัตว์บกและสัตว์น้ำเป็นอย่างมาก วันหนึ่งในขณะที่เขากำลังหาปลาอยู่ริมแม่น้ำโขงได้เห็นควายตัวใหญ่มากินน้ำอยู่ในฝั่งตรงข้าม เขาจึงอยากกินเนื้อควายขึ้นมา เขาจึงซุ่มดักยิงควายตัวนั้นอยู่ที่พุ่มไม้ริมน้ำ ขณะนั้นเองมีเรือสินค้าแล่นผ่านมา ควายตกใจเรือจึงหนีกลับขึ้นเขาไป ภูเขาลูกนั้นชาวบ้านจึงเรียกกันว่า "ภูควายเงิน" ส่วนนายพรานที่ยิงพลาดเป้าก็เกิดความโกรธจึงยิงปืนใส่ภูเขาอีกลูกเพื่อระบายความโกรธ ด้วยความแรงของกระสุนปืนทำให้ยอดภูเขาลูกที่โดนยิงนั้นแหว่งไป ชาวบ้านจึงเรียกภูเขาลูกนั้นว่า "ผาแบ่น" ต่อมานายพรานจึงหาวิธีที่จะทำให้เรือสินค้าไม่รบกวนการล่าสัตว์ของเขาโดยการคิดจะเอาก้อนหินมาขวางลำน้ำเอาไว้ ขณะนั้นเณรน้อยเห็นเข้าจึงคิดว่าถ้าหากนายพรานทำสำเร็จจะทำให้เกิดความเดือดร้อนให้กับคนและสัตว์ที่อาศัยแม่น้ำโขงในการดำรงชีพและขวางทางสัญจรไปมา จึงออกอุบายให้นายพรานหาไม้ไผ่มาทำเป็นคานแบกหามเพื่อแบกก้อนหินได้ทีละเยอะๆ นายพรานหลงเชื่อจึงทำตาม โดยในขณะที่เขาหาบก้อนหินไปนั้นไม้คานเกิดหัก ความคมของไม้ไผ่จึงได้บาดคอนายพรานจนถึงแก่ความตายในท่านอนคุดคู้อยู่ในบริเวณที่เขาน้ำก้อนหินมากั้นน้ำไว้ จึงเป็นที่มาของชื่อแก่งคุดคู้มาจนถึงทุกวันนี้
การท่องเที่ยวแก่งคุดคู้สามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปี โดยในช่วงฤดูแล้งราวเดือนกุมภาพันธ์ถึงเดือนพฤษภาคมแก่งหินจะโผล่พ้นลำน้ำโขงขึ้นมาจนสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนและสามารถเดินลงไปเที่ยวชมยังโขดหินและสันทรายได้ ส่วนในฤดูอื่นๆ ที่แม่น้ำโขงท่วมแก่งหินก็จะมีความสวยงามของแม่น้ำที่ไหลผ่านกับทัศนียภาพของภูเขาให้เที่ยวชมความสวยงามได้เช่นกัน นอกจากนี้ภายในบริเวณยังมีร้านอาหารรวมถึงบริการเรือยนต์และแพลากไว้บริการนักท่องเที่ยวอีกด้วย
บริเวณริมแก่งคุดคู้มีต้นไม้ให้ความร่มรื่นมากมาย
ความร่มรื่นภายในสวนสาธาณะริมแก่งคุดคู้
บริเวณศาลาชมวิวแม่น้ำโขงและภูเขา
บรรยากาศของแม่น้ำโขงและภูเขาอันเขียวขจี
แก่งคุดคู้ สุดแดนสยาม
ป้ายบอกเล่าเรื่องราวตำนานของแก่งคุดคู้
หุ่นนายพรานเล็งปืนไปยังภูเขาฝั่งตรงข้าม
หุ่นนายพรานนอนสิ้นใจในท่าคุ้ดคู้
มุมจัดแสดงความรู้เรื่องไดโนเสาร์ที่พบในประเทศไทย
การเดินทางจากกรุงเทพไปยังจังหวัดเลย
- รถยนต์ (Car) จากกรุงเทพไปยังจังหวัดเลยโดยรถยนต์ มีระยะทางประมาณ 545 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 8 ชั่วโมง
- เครื่องบิน (Flight) จากกรุงเทพขึ้นเครื่องที่สนามบินดอนเมืองหรือสนามบินสุวรรณภูมิ และลงเครื่องที่สนามบินเลย ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง
- อื่นๆ (others) จากกรุงเทพ หากต้องการเดินทางโดยรถทัวร์ สามารถไปขึ้นรถได้ที่สถานีขนส่งหมอชิตใหม่ และลงรถที่สถานีขนส่งเลย โดยสามารถตรวจสอบข้อมูลเวลาเดินรถ และค่าโดยสารได้ที่ https://ticket.transport.co.th/
การเดินทางไปแก่งคุดคู้
- รถยนต์ (Car) จากตัวเมืองเลย ไปแก่งคุดคู้ มีระยะทางประมาณ 57 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง
สามารถเหมารถหรือเช่ารถไปยังสถานที่ต่างๆ ในจังหวัดเลยได้ตามความสะดวก
เวลาทำการเปิด-ปิด
เปิดตลอดเวลา
อัตราค่าเข้าชม
ไม่เสียค่าเข้าชม
เวลาที่เหมาะสมสำหรับการท่องเที่ยว
สามารถชมวิวแม่น้ำโขงได้ตลอดทั้งปี หากต้องการเดินลงไปเที่ยวชมแก่งหินควรมาในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ถึงเดือนพฤษภาคมซึ่งเป็นช่วงฤดูแล้วที่แม่น้ำโขงจะลดระดับลง
นักท่องเที่ยวที่สนใจมาเที่ยว แก่งคุดคู้ สามารถศึกษา ข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่
แก่งคุดคู้ จังหวัดเลย ประเทศไทย
(Kaeng Khut Khu, Loei, Thailand)
ระดับความนิยม :
อัตราค่าเข้าชม : ไม่เสียค่าเข้าชม
เวลาเปิด-ปิด : เปิดตลอดเวลา
ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการท่องเที่ยว : สามารถชมวิวแม่น้ำโขงได้ตลอดทั้งปี หากต้องการเดินลงไปเที่ยวชมแก่งหินควรมาในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ถึงเดือนพฤษภาคมซึ่งเป็นช่วงฤดูแล้วที่แม่น้ำโขงจะลดระดับลง
สถานที่ตั้ง : จังหวัดเลย ประเทศไทย
โทรศัพท์ : (+66) 042-822-288
เว็บไซต์ : https://thai.tourismthailand.org/Attraction/แก่งคุดคู้
ข้อมูลอื่นๆ ที่ควรรู้ : พยากรณ์อากาศ https://www.accuweather.com
เว็บไซต์จังหวัดเลย https://loei.mots.go.th
เว็บไซต์การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย https://thai.tourismthailand.org
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ
อุทยานแห่งชาติภูผาเทิบ จังหวัดมุกดาหาร ประเทศไทย
อุทยานแห่งชาติภูผาเทิบ (Phu Pha Toep National Park) หรือ อุทยานแห่งชาติมุกดาหาร เป็นหนึ่งในอุทยานที่มีขนาดพื้นที่เล็กที่สุดในประเทศไทย โดยอุทยานแห่งนี้เป็นที่ตั้งของหินรูปทรงประหลาดและถ้ำที่มีจิตรกรรมวาดด้วยมือ
อ่านต่อภูห้วยอีสัน จังหวัดหนองคาย ประเทศไทย
ภูห้วยอีสัน (Phu Huai Isan) เป็นจุดชมวิวทะเลหมอกแห่งใหม่ที่กำลังได้รับความนิยมอย่างมากในช่วงปลายฝนต้นหนาว ด้วยวิวทิวทัศน์ที่สวยงามของทะเลหมอกลอยละล่องเหนือสายน้ำโขง และขุนเขาสลับซับซ้อน ทำให้ที่นี่เป็นจุดหมายปลายทางที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาดเมื่อมาจังหวัดหนองคาย
อ่านต่ออุทยานแห่งชาติป่าหินงาม จังหวัดชัยภูมิ ประเทศไทย
อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม (Pa Hin Ngam National Park) จังหวัดชัยภูมิ เป็นอุทยานแห่งชาติที่มีสภาพป่าสมบูรณ์และมีจุดเด่นทางธรรมชาติที่สวยงามหลายแห่ง โดยเฉพาะทุ่งดอกกระเจียวที่จะออกดอกสีชมพูอมม่วงบานสะพรั่งไปทั่วผืนป่าในช่วงต้นฤดูฝน ประมาณเดือนมิถุนายนถึงเดือนสิงหาคมของทุกปี
อ่านต่อปราสาทพนมวัน จังหวัดนครราชสีมา ประเทศไทย
ปราสาทพนมวัน (Prasat Phanom Wan) อีกหนึ่งปราสาทหินเก่าแก่ในจังหวัดนครราชสีมาที่สร้างขึ้นครั้งแรกตั้งแต่สมัยพุทธศตวรรษที่ 15 เพื่อเป็นเทวสถาน ปราสาทหินแห่งนี้ถือเป็นปราสาทหินที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 5 ของประเทศไทย
อ่านต่อ5 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในจังหวัดยโสธร ประเทศไทย
จังหวัดยโสธรเป็นจังหวัดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่างของไทยที่ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำชี จังหวัดยโสธรมีสถานที่ท่องเที่ยวเชิงศาสนาและวัฒนธรรมหลายแห่ง เพราะเป็นเมืองที่ผ่านประวัติศาสตร์มาอย่างยาวนานตั้งแต่สมัยทวาราวดี วันนี้ทาง Palanla จึงได้รวบรวมสถานที่ที่เป็นไฮไลท์ของจังหวัดยโสธรมาฝากทุกท่านไว้ในบทความนี้
อ่านต่อวัดพระพุทธบาทยโสธร จังหวัดยโสธร ประเทศไทย
วัดพระพุทธบาทยโสธร (Wat Phra Buddhabat Yasothon) เป็นวัดที่มีความสวยงามจากหมู่อาคารสีขาวท่ามกลางบรรยากาศที่เงียบสงบ นักท่องเที่ยวที่มาเยือนนิยมมาเที่ยวชมวัดและสักการะโบราณวัตถุทางพุทธศาสนาอันได้แก่ รอยพระพุทธบาท พระพุทธรูปปางนาคปรก และศิลาจารึกโบราณที่มีอายุราวห้าร้อยปี รวมทั้งพระพุทธรูปหยกขาวที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยที่ประดิษฐานอยู่ในพระอุโบสถ และพระบรมสารีริกธาตุที่ประดิษฐานอยู่ภายในเจดีย์ของวัดอีกด้วย วัดแห่งนี้จึงเป็นอีกหนึ่งวัดดังของจังหวัดยโสธรที่ควรค่าต่อการมาเที่ยวชมเป็นอย่างยิ่ง
อ่านต่อ8 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในจังหวัดศรีสะเกษ ประเทศไทย
จังหวัดศรีสะเกษเป็นจังหวัดในภาคอีสานตอนล่างที่มีแหล่งท่องเที่ยวหลายแห่ง ทั้งสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ที่เป็นจุดชมวิวอันน่าประทับใจ ไปจนถึงแหล่งโบราณสถานอันทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์ และวัดวาอารามที่สร้างขึ้นอย่างงดงามให้เที่ยวชม วันนี้ทาง Palanla ได้รวบรวม 8 สถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นไฮไลท์ของจังหวัดศรีเกษมาฝากทุกท่านกันในบทความนี้
อ่านต่อผามออีแดง จังหวัดศรีสะเกษ ประเทศไทย
ผามออีแดง (Pha Mor E Daeng) เป็นหน้าผาที่ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร เป็นจุดชมวิวที่มองเห็นปราสาทเขาพระวิหาร ป่าไม้ และบ้านเมืองของกัมพูชาที่อยู่ไกลออกไปได้ ในยามเช้าของช่วงปลายฝนต้นหนาวจะเป็นจุดชมทะเลหมอกที่สวยงาม ส่วนในยามพระอาทิตย์ตกดินจะมองเห็นฝูงค้างคาวบินออกมาจากถ้ำเพื่อหากิน นอกจากนี้ อีกหนึ่งไฮไลท์ของผามออีแดงคือภาพจิตรกรรมโบราณที่ถูกสลักไว้ริมหน้าผาซึ่งมีความเก่าแก่กว่าหนึ่งพันห้าร้อยปีทีเดียว ถือเป็น Unseen Thailand ที่คุ้มค่าต่อการมาเที่ยวชมเป็นอย่างยิ่ง
อ่านต่อน้ำตกสำโรงเกียรติ จังหวัดศรีสะเกษ ประเทศไทย
น้ำตกสำโรงเกียรติ (Samrong Kiat Waterfall) เป็นน้ำตกที่มีต้นกำเนิดจากเทือกเขาบรรทัด น้ำตกแห่งนี้มีเอกลักษณ์ตรงที่บริเวณด้านบนหน้าผาจะมีแอ่งลานหินขนาดใหญ่รองรับธารน้ำเอาไว้ก่อนที่จะไหลตกลงมาตามชั้นหน้าผา น้ำตกสำโรงเกียรติมีน้ำไหลตลอดปี และจะมีน้ำมากที่สุดในช่วงฤดูฝน บรรยากาศโดยรอบมีความร่มรื่นจากป่าไม้ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เหมาะกับการมาเล่นน้ำ นั่งพักผ่อนหย่อนใจ และถ่ายภาพสวยๆ ได้อย่างเพลิดเพลิน
อ่านต่อเกาะกลางน้ำ จังหวัดศรีสะเกษ ประเทศไทย
เกาะกลางน้ำ (Koh Klang Nam) เป็นเกาะที่อยู่ใจกลางอ่างเก็บน้ำห้วยน้ำคำในอำเภอเมืองศรีสะเกษ บนเกาะแห่งนี้เป็นสวนสาธาณะขนาดใหญ่และเป็นที่ตั้งของอาคารสำคัญหลายแห่ง เช่น หอศรีลำดวนเฉลิมพระเกียรติที่เป็นหอชมเมืองศรีสะเกษได้รอบทิศ และศรีสะเกษอควาเรียมซึ่งเป็นศูนย์แสดงพันธุ์สัตว์น้ำที่ใหญ่ที่สุดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่นี่จึงเป็นทั้งสถานที่ท่องเที่ยวและสถานที่พักผ่อนหย่อนใจของจังหวัดศรีสะเกษอีกแห่งหนึ่งที่นักท่องเที่ยวให้ความสนใจมาเที่ยวชมเป็นอย่างมาก
อ่านต่อ