12 วัดสวยภาคอีสาน ประเทศไทย

  • อ่าน (9,202)
  • ByWebmaster
  • 13:58:13 | 26 มิ.ย. 2564

12 วัดสวยภาคอีสาน

             ภาคอีสาน นอกจากขึ้นชื่อในเรื่องของวัฒนธรรมที่ธรรมงดงามและวิถีชีวิตอันเป็นเอกลักษณ์แล้ว ยังเป็นภูมิภาคที่เต็มไปด้วยวัดวาอารามที่มีสถาปัตยกรรมสวยงามและทรงคุณค่า วันนี้ Palanla จึงจะขอชวนออกเดินทางไปเที่ยวชมและรับสิริมงคลกับ 12 วัดสวยภาคอีสานกัน


แผนที่แสดงตำแหน่งของ 12 วัดสวยภาคอีสาน


1. พระมหาธาตุแก่นนคร จังหวัดขอนแก่น

             พระมหาธาตุแก่นนคร (Pra Mahathat Kaen Nakhon) หรือที่คนท้องถิ่นเรียกกันว่า “พระธาตุวัดหนองแวง” เนื่องจากองค์พระธาตุนั้นตั้งอยู่ที่วัดหนองแวงพระอารามหลวง วัดเก่าแก่คู่บ้านคู่เมืองของชาวขอนแก่นมานานกว่า 200 ปี “พระมหาธาตุแก่นนคร” เป็นพระธาตุ 9 ชั้น งดงามและโดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมแบบสมัยทวาราวดี ผสมผสานกับศิลปะอินโดจีนซึ่งเป็นลักษณะแบบชาวอีสาน โดยเรือนยอดทรงเจดีย์นั้นได้จำลองแบบจากพระธาตุขามแก่น ส่วนด้านในพระธาตุแต่ละชั้นก็เต็มไปด้วยสิ่งน่าสนใจ ที่บอกเล่าเรื่องราวอันเกี่ยวพันกับวิถีชีวิตของคนอีสานและพระพุทธศาสนาให้ได้ชม รวมถึงยังเป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุด้วย จากชั้นบนยอดเจดีย์เราจะสามารถมองเห็นวิวสวยๆ ของบึงแก่นนครและเมืองขอนแก่นได้อย่างชัดเจน

พิกัด GPS : 16°24'29.3"N 102°50'03.2"E

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ พระมหาธาตุแก่นนคร ได้ที่ : https://palanla.com/index.php?op=domesticLocation-detail&id=248


2. วัดป่าวังน้ำเย็น จังหวัดมหาสารคาม

             วัดป่าวังน้ำเย็น (Wat Pa Wang Nam Yen) เป็นวัดที่มีศาลาปฏิบัติธรรมไม้สักทองที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ตั้งอยู่บนพื้นที่กว่า 30 ไร่ ที่ ต.เกิ้ง อ.เมือง จ.มหาสารคาม เมื่อก้าวเข้าไปในวัดแห่งนี้ เราจะพบกับศาลาปฏิบัติธรรมไม้สักทองขนาดใหญ่ ด้วยเสาถึง 112 ต้น ที่สร้างจากไม้เนื้อแข็งคือไม้แดง ไม้ประดู่ ตกแต่งด้วยไม้สักทอง มีมูลค่ากว่า 80 ล้านบาท และ “มหาเจดีย์ศรีมหาสารคาม" ที่ภายในเป็นที่ประดิษฐานสิ่งศักดิ์สิทธิ์มากมาย ไม่ว่าจะเป็น พระบรมสารีริกธาตุ พระพุทธรูปทองคำ 3 องค์น้ำหนักกว่า 12  กิโลกรัม พระบูชาถึง 84,000 องค์ รวมถึงพระกรุพระธาตุนาดูนด้วย ยิ่งใหญ่และทรงคุณค่าสมกับเป็น “มหาเจดีย์ศรีมหาสารคาม" สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่เมืองมหาสารคามในปัจจุบัน

พิกัด GPS : 16°12'11.7"N 103°18'07.3"E

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ วัดป่าวังน้ำเย็น ได้ที่ : https://palanla.com/index.php?op=domesticLocation-detail&id=289


3. พระมหาเจดีย์ศรีชัยมงคล จังหวัดร้อยเอ็ด

             พระมหาเจดีย์ศรีชัยมงคล (Phra Maha Chedi Sri Chai Mongkol) เป็นมหาเจดีย์ขนาดใหญ่สีขาวตกแต่งลวดลายงดงามตระการตา ด้วยสีทองเหลืองอร่ามงดงามราวกับดินแดนสรรค์บนเนื้อที่ 101 ไร่ ท่ามกลางธรรมชาติภูเขาเขียวของจังหวัดร้อยเอ็ดที่โอบล้อม พระมหาเจดีย์ศรีชัยมงคลสร้างด้วยสถาปัตยกรรมที่ผสมผสานอย่างลงตัว ระหว่างศิลปกรรมของพระปฐมเจดีย์ของภาคกลางและพระธาตุพนมของภาคอีสาน องค์พระมหาเจดีย์รายล้อมด้วยเจดีย์องค์เล็กทั้ง 8 ทิศ ภายในแบ่งเป็นทั้งหมด 5 ชั้นด้วยกัน แต่ละชั้นตกแต่งอย่างงดงาม ด้วยลวดลายไทยที่วิจิตรพิสดาร มีทั้งส่วนที่เป็นพิพิธภัณฑ์ ส่วนที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุจากประเทศศรีลังกา รวมถึงรูปหล่อเกจิอาจารย์สายอีสานจำนวนมากที่ผู้คนให้ความเลื่อมใสศรัทธา

พิกัด GPS : 16°19'56.8"N 104°19'05.3"E

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ พระมหาเจดีย์ศรีชัยมงคล ได้ที่ : https://palanla.com/index.php?op=domesticLocation-detail&id=295


4. วัดประชาคมวนาราม (วัดป่ากุง) จังหวัดร้อยเอ็ด

             วัดประชาคมวนาราม (วัดป่ากุง) (Wat Prachakom Wanaram (Wat Phakoong) ตั้งอยู่ที่ตำบลศรีสมเด็จ อำเภอศรีสมเด็จ จังหวัดร้อยเอ็ด วัดแห่งนี้มีเอกลักษณ์โดดเด่นคือเจดีย์หินทรายที่สร้างเลียนแบบมาจากเจดีย์โบโรบูโด (บรมพุทโธ) เกาะชวา ประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งถือเป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก ความน่าอัศจรรย์ของเจดีย์หินทรายวัดป่ากุงคือสร้างด้วยหินธรรมชาติทั้งหลัง เป็นหินทรายธรรมชาติจากปากช่อง จ. นครราชสีมา โดยใช้เวลาก่อสร้างนานถึง 12 ปีจึงแล้วเสร็จ ภายนอกเจดีย์มีภาพแกะสลักที่สวยงาม วิจิตรพิสดาร เป็นเรื่องราวพุทธประวัติและพระเวสสันดรชาดก ส่วนภายในเป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุซึ่งอยู่ ณ จุดศูนย์กลางของเจดีย์ เจดีย์หินทรายวัดป่ากุงถือเป็นบุโรพุทโธเจดีย์หินทรายแห่งแรกของประเทศไทย

พิกัด GPS 15°59'28.8"N 103°29'43.8"E

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ วัดประชาคมวนาราม (วัดป่ากุง) ได้ที่ : https://palanla.com/index.php?op=domesticLocation-detail&id=297


5. วัดเขาพระอังคาร จังหวัดบุรีรัมย์

             วัดเขาพระอังคาร (Wat Khao Phra Angkhan) ตั้งอยู่ที่ภูเขาพระอังคาร อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.บุรีรัมย์ นับเป็นอีกหนึ่งวัดสวยในภาคอีสานที่มีสถาปัตยกรรมงดงามแปลกตาและให้กลิ่นอายอารยะธรรมขอมโบราณ รอบๆ พระอุโบสถประดิษฐานพระพุทธรูปปางมารวิชัยจำนวน 108 องค์เรียงรายอย่างสวยงาม มีหลักฐานที่แสดงให้เห็นว่าบริเวณที่สร้างวัดเคยเป็นพุทธสถานมาตั้งแต่สมัยทราวดี โดยมีการพบใบเสมาหินบะซอลต์อายุราว 1,300 ปีก่อน ซึ่งเป็นวัดแห่งเดียวในประเทศไทยที่ปรากฏใบเสมาหินบะซอลต์ด้วย แม้ว่าสถาปัตยกรรมต่างๆ ภายในวัดเขาพระอังคารที่เห็นในปัจจุบัน ส่วนใหญ่ถูกสร้างขึ้นมาใหม่แทนของเดิมที่ชำรุด ทว่าก็ได้ประยุกต์สถาปัตยกรรมหลายสมัยเข้าด้วยกันอย่างมีเสน่ห์และลงตัว

พิกัด GPS : 14°32'03.5"N 102°50'04.2"E

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ วัดเขาพระอังคาร ได้ที่ : https://palanla.com/index.php?op=domesticLocation-detail&id=276


6. วัดบ้านไร่ จังหวัดนครราชสีมา

             วัดบ้านไร่ (Wat Ban Rai) เป็นสถานที่สำคัญที่เกี่ยวเนื่องกับชีวิตของพระเทพวิทยาคม (หลวงพ่อคูณ ปริสุทฺโธ) พระเกจิชื่อดังซึ่งเป็นที่เคารพศรัทธาของคนทั้งประเทศ แม้ว่าท่านจะละสังขารจากโลกนี้ไปแล้ว ทว่าคำสอนและคุณความดีของหลวงพ่อคูณก็ยังคงได้รับการถ่ายทอดและอยู่ในใจของผู้คนเสมอ ซึ่งเป็นที่มาของ “วิหารเทพวิทยาคม” อุทยานธรรม 5 ชั้นกลางบึงน้ำขนาดใหญ่ที่เพิ่งสร้างเสร็จในปี พ.ศ. 2554 โดดเด่นด้วยประติมากรรมนูนต่ำและเซรามิกโมเสกสีสันสวยงามมากกว่า 20 ล้านชิ้น ที่ประกอบขึ้นด้วยความละเอียดประณีตโดยชาวบ้านผู้มีจิตศรัทธา ภายในวิหารถูกออกแบบให้เป็นมหาวิหารแห่งพระไตรปิฎกที่รวบรวมพุทธประวัติ พระวินัย และพระธรรมคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่ทรงแสดงไว้อย่างครบถ้วน ที่นี่จึงเรียกได้ว่าเป็นสถานที่แห่งแรกและแห่งเดียวในโลก ที่นำเอาพระไตรปิฎกมาแสดงและให้ความรู้แก่ประชาชนทั่วไป

พิกัด GPS : 15°17'59.9"N 101°44'09.5"E

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ วัดบ้านไร่ ได้ที่ : https://palanla.com/index.php?op=domesticLocation-detail&id=341


7. วัดพระธาตุสุพรรณหงส์ จังหวัดศรีสะเกษ

             วัดพระธาตุสุพรรณหงส์ (Wat Phra That Suphannahong) หรือวัดบ้านหว้าน จัดเป็นวัดสวยอีกแห่งหนึ่งของภาคอีสานที่โดดเด่นด้วยพระอุโบสถบนเรือสุพรรณหงส์ตั้งอยู่กลางน้ำ และมีทางเดินเป็นบันไดพญานาคทอดยาวไปสู่พระอุโบสถอันงดงาม ถือเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่ไม่ควรพลาดหากมีโอกาสมาเที่ยวศรีสะเกษ พระอุโบสถบนเรือสุพรรณหงส์จำลองที่วัดแห่งนี้กว้าง 5 เมตร ยาว 13.6 เมตร หลังคาเป็นทรงจตุรมุข 3 ชั้นมียอดมณฑป ภายในเป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุและพระพุทธรูปหลายองค์ บริเวณทางเดินเป็นบันไดสลักลวดลายของพญานาคทอดยาวไปยังพระอุโบสถ นอกจากนักท่องเที่ยวจะได้ไหว้พระเพื่อความเป็นสิริมงคลแล้ว บริเวณภายในวัดยังมีตลาดโบราณวัฒนธรรมชุมชนให้ได้เดินเที่ยวชมด้วย

พิกัด GPS : 15°11'39.1"N 104°17'38.7"E

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ วัดพระธาตุสุพรรณหงส์ ได้ที่ : https://palanla.com/index.php?op=domesticLocation-detail&id=420


8. วัดพระธาตุหนองบัว จังหวัดอุบลราชธานี

             วัดพระธาตุหนองบัว (Wat Phrathat Nong Bua) ตั้งอยู่อำเภอเมืองอุบลราชธานี เป็นวัดที่โดดเด่นด้วยพระธาตุเจดีย์ศรีมหาโพธิ์สีขาวสะอาดตัดด้วยลวดลายสีทองและล้อมรอบด้วยกำแพงแก้ว พระธาตุเจดีย์แห่งนี้สร้างขึ้นเพื่อเป็นสัญลักษณ์ครบรอบ 25 ศตวรรษของพุทธศาสนา ซึ่งองค์พระธาตุได้จำลองมาจากเจดีย์ที่พุทธคยาของประเทศอินเดียโดยสร้างครอบพระธาตุองค์เดิมเอาไว้ ด้านในเป็นที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ องค์พระธาตุทั้งสี่ด้านแกะสลักพระประจำวันเกิด ส่วนบริเวณหัวมุมของกำแพงแก้วทั้งสี่มุมยังเป็นที่ประดิษฐานพระเจดีย์ขนาดเล็กอีกสี่องค์ นอกจากวัดพระธาตุหนองบัวจะเป็นสถานที่ที่มีความสำคัญต่อศาสนาพุทธแล้ว ยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมสำหรับผู้ที่มีโอกาสเดินทางมาเยือนจังหวัดอุบลราชธานีด้วย

พิกัด GPS : 15°15'47.8"N 104°50'20.5"E

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ วัดพระธาตุหนองบัว ได้ที่ : https://palanla.com/index.php?op=domesticLocation-detail&id=394


9. วัดสิรินธรวราราม (วัดภูพร้าว) จังหวัดอุบลราชธานี

             วัดสิรินธรวราราม (วัดภูพร้าว) (Wat Sirindhorn Wararam (Wat Phu Prao) ตั้งอยู่บนเนินเขาสูงในอำเภอสิรินธร ห่างจากตัวเมืองอุบลราชธานีประมาณ 88 กิโลเมตร เป็นวัดป่าที่รู้จักกันในนาม “วัดเรืองแสง” จากผลงานพุทธศิลป์ที่ถ่ายทอดออกมาในรูปแบบจิตรกรรมภาพเขียนต้นกัลปพฤกษ์ที่อยู่บนผนังด้านหลังของอุโบสถ ซึ่งจะเรืองแสงสีเขียวในยามค่ำคืนก่อให้เกิดภาพที่สวยงามแปลกตา อีกทั้งยังมีการสลักลวดลายเรืองแสงลงบนลานหินด้านนอกของอุโบสถ ซึ่งยิ่งส่งเสริมให้งานพุทธศิลป์นี้มีความอลังการ สร้างความตราตรึงใจให้แก่ผู้ที่มาเยือน ตัวอุโบสถของวัดสิรินธรวรารามนั้นจำลองมาจากวัดเชียงทองของประเทศลาว แต่มีขนาดใหญ่กว่าของจริงประมาณหนึ่งเท่า ด้านในมีเสาเรียงลงลวดลายดอกบัวแฝงคติธรรมเรื่องบัวสี่เหล่า เรียงรายทอดยาวไปยังพระประธานปางสมาธิที่ประดิษฐานอยู่ นอกจากนี้วัดแห่งนี้ยังมีจุดชมวิวพระอาทิตย์ตกดินที่สวยงาม ซึ่งสามารถมองเห็นลำน้ำโขงและอ่างเก็บน้ำบริเวณเชิงเขาได้อย่างชัดเจนด้วย

พิกัด GPS : 15°08'55.7"N 105°27'56.3"E

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ วัดสิรินธรวราราม (วัดภูพร้าว) ได้ที่ : https://palanla.com/index.php?op=domesticLocation-detail&id=397


10. วัดป่าภูก้อน จังหวัดอุดรธานี

             วัดป่าภูก้อน (Wat Pa Phu Kon) อยู่ห่างจากตัวจังหวัดอุดรธานีราวๆ 125 กิโลเมตร มีพระวิหารขนาดใหญ่อันงดงามเป็นเอกลักษณ์ด้วยสถาปัตยกรรมไทยประยุกต์สมัยรัตนโกสินทร์ ท่ามกลางพื้นที่ที่อุดมไปด้วยธรรมชาติป่าเขาของเขตป่าสงวนแห่งชาติป่านายูงและป่าน้ำโสม ภายในพระวิหารตกแต่งอย่างวิจิตรตระการตา แฝงไปด้วยเรื่องราวคำสอนของพระพุทธเจ้า และยังเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธไสยาสน์โลกนาถศาสดามหามุนี ความยาว 20 เมตร สร้างด้วยหินอ่อนจากประเทศอิตาลีซึ่งเป็นหินอ่อนขาวที่มีความสวยงามและทนทานมากที่สุด นอกจากนี้วัดป่าภูก้อนยังเป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุบรรจุในพระเกศพระร่วงโรจน์ศรีบูรพา และยังมีรูปปั้นหินอ่อนของเหล่าเกจิอาจารย์ชื่อดังของประเทศไทยที่ประชาชนให้ความเคารพศรัทธาด้วย

พิกัด GPS : 17°55'22.0"N 102°07'05.7"E

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ วัดป่าภูก้อน ได้ที่ : https://palanla.com/index.php?op=domesticLocation-detail&id=477


11. วัดพระธาตุเชิงชุมวรวิหาร จังหวัดสกลนคร

             วัดพระธาตุเชิงชุมวรวิหาร (Wat Phra That Choeng Chum Worawihan) เป็นปูชนียสถานสำคัญคู่บ้านคู่เมืองสกลนครมาแต่โบราณ มีเอกลักษณ์อันโดดเด่นคือเจดีย์ก่ออิฐถือปูนทรงบัวเหลี่ยมสีขาวงดงาม บริเวณยอดฉัตรทำด้วยทองคำบริสุทธิ์หนัก 247 บาท และซุ้มยอดประตูที่มีลักษณะเป็นยอดปราสาท มีข้อสันนิษฐานว่าเดิมทีนั้นพระธาตุเชิงชุมเคยเป็นปราสาทหินทรายศิลปะสมัยขอม เนื่องจากภายในกรอบประตูทางเข้าอุโมงค์ด้านขวามือมีจารึกพระธาตุเชิงชุมอักษรขอมโบราณราวพุทธศตวรรษที่ 16 ปรากฏอยู่ ทว่าพระธาตุองค์ปัจจุบันเป็นศิลปะล้านช้างที่ได้รับอิทธิพลจากอาณาจักรล้านช้างซึ่งแผ่เข้ามาบริเวณภาคอีสานในราวพุทธศตวรรษที่ 19 และด้วยพระธาตุแห่งนี้สร้างครอบรอยพระบาทของพระพุทธเจ้าถึง 4 พระองค์ด้วยกัน จึงมีคำกล่าวที่ว่า “จะมีครั้งใดที่ได้อานิสงส์มากไปกว่าการได้มาบูชาพระธาตุที่สร้างครอบรอยพระบาทพระพุทธเจ้าถึง 4 พระองค์ที่พระธาตุเชิงชุมแห่งนี้” ภายในวัดพระธาตุเชิงชุมยังเป็นที่ประดิษฐานหลวงพ่อองค์แสน พระพุทธรูปปางมารวิชัย ศิลปะเชียงแสนอันศักดิ์สิทธิ์ และเป็นที่เคารพศรัทธาของชาวสกลนครมายาวนานด้วย

พิกัด GPS : 17°09'52.6"N 104°09'10.5"E

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ วัดพระธาตุเชิงชุมวรวิหาร ได้ที่ : https://palanla.com/index.php?op=domesticLocation-detail&id=478


12. วัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร จังหวัดนครพนม

             วัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร (Wat Phra That Phanom Woramahawihan) อยู่ห่างจากตัวเมืองนครพนมประมาณ 55 กิโลเมตร ถือเป็นแลนด์มาร์กสำคัญของจังหวัดนครพนม ด้วยสถาปัตยกรรมพระธาตุรูปทรงสี่เหลี่ยมศิลปะแบบขอม ประดับลวดลายอันวิจิตรงดงาม เป็นปูชนียสถานเก่าแก่ที่สร้างขึ้นในระหว่าง พ.ศ. 1200 – 1400   ภายในองค์พระธาตุบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ พระอุรังคธาตุ (กระดูกส่วนหน้าอก) ของพระพุทธเจ้า และของมีค่าของจังหวัดนครพนมและภาคตะวันออกเฉียงเหนือไว้ รวมถึงฉัตรทองคำบนยอดพระธาตุที่มีน้ำหนักถึง 110 กิโลกรัม มีผู้กล่าวว่า “แม้ใครมีโอกาสมานมัสการองค์พระธาตุแม้เพียงสักครั้ง ก็ถือเป็นมงคลสูงสุดของชีวิต” สำหรับผู้ที่ต้องการมีบุตรก็มักจะนิยมมาอธิษฐานขอบุตรจากพระธาตุพนมเพราะเชื่อกันว่ามีความศักดิ์สิทธิ์และพรสัมฤทธิ์ผล นอกจากนี้ในพิธีราชาภิเษกทุกรัชกาลก็จะต้องมานำน้ำจากที่นี่ไปร่วมประกอบพิธีด้วย

พิกัด GPS 16°56'36.5"N 104°43'34.4"E

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ วัดพระธาตุพนม ได้ที่ : https://palanla.com/index.php?op=domesticLocation-detail&id=211



ข้อมูลอื่นๆ ที่ควรรู้
 : เว็บไซต์พยากรณ์อากาศ https://www.accuweather.com/

                             การท่องเที่ยวอีสาน https://i-san.tourismthailand.org/

                             การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) https://thai.tourismthailand.org/

                             บริการขนส่ง (รถทัวร์ประจำทาง) http://www.busticket.in.thhttp://www.thairoute.com   


แอปพลิเคชันแนะนำสำหรับเรียกใช้บริการรถแท็กซี่ในประเทศไทย

                   - Grab สามารถดาวน์โหลดได้ที่ App Store (iOS) และ Play Store (Android)


อัตราค่าบริการแท็กซี่ (
TAXI FARE)


อัตราค่าครองชีพ (
DAILY COST)


สภาพอากาศ (WEATHER)

 

สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ

อุทยานแห่งชาติภูผาเทิบ จังหวัดมุกดาหาร ประเทศไทย

อุทยานแห่งชาติภูผาเทิบ (Phu Pha Toep National Park) หรือ อุทยานแห่งชาติมุกดาหาร เป็นหนึ่งในอุทยานที่มีขนาดพื้นที่เล็กที่สุดในประเทศไทย โดยอุทยานแห่งนี้เป็นที่ตั้งของหินรูปทรงประหลาดและถ้ำที่มีจิตรกรรมวาดด้วยมือ

อ่านต่อ

ภูห้วยอีสัน จังหวัดหนองคาย ประเทศไทย

ภูห้วยอีสัน (Phu Huai Isan) เป็นจุดชมวิวทะเลหมอกแห่งใหม่ที่กำลังได้รับความนิยมอย่างมากในช่วงปลายฝนต้นหนาว ด้วยวิวทิวทัศน์ที่สวยงามของทะเลหมอกลอยละล่องเหนือสายน้ำโขง และขุนเขาสลับซับซ้อน ทำให้ที่นี่เป็นจุดหมายปลายทางที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาดเมื่อมาจังหวัดหนองคาย

อ่านต่อ

อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม จังหวัดชัยภูมิ ประเทศไทย

อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม (Pa Hin Ngam National Park) จังหวัดชัยภูมิ เป็นอุทยานแห่งชาติที่มีสภาพป่าสมบูรณ์และมีจุดเด่นทางธรรมชาติที่สวยงามหลายแห่ง โดยเฉพาะทุ่งดอกกระเจียวที่จะออกดอกสีชมพูอมม่วงบานสะพรั่งไปทั่วผืนป่าในช่วงต้นฤดูฝน ประมาณเดือนมิถุนายนถึงเดือนสิงหาคมของทุกปี

อ่านต่อ

ปราสาทพนมวัน จังหวัดนครราชสีมา ประเทศไทย

ปราสาทพนมวัน (Prasat Phanom Wan) อีกหนึ่งปราสาทหินเก่าแก่ในจังหวัดนครราชสีมาที่สร้างขึ้นครั้งแรกตั้งแต่สมัยพุทธศตวรรษที่ 15 เพื่อเป็นเทวสถาน ปราสาทหินแห่งนี้ถือเป็นปราสาทหินที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 5 ของประเทศไทย

อ่านต่อ

5 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในจังหวัดยโสธร ประเทศไทย

จังหวัดยโสธรเป็นจังหวัดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่างของไทยที่ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำชี จังหวัดยโสธรมีสถานที่ท่องเที่ยวเชิงศาสนาและวัฒนธรรมหลายแห่ง เพราะเป็นเมืองที่ผ่านประวัติศาสตร์มาอย่างยาวนานตั้งแต่สมัยทวาราวดี วันนี้ทาง Palanla จึงได้รวบรวมสถานที่ที่เป็นไฮไลท์ของจังหวัดยโสธรมาฝากทุกท่านไว้ในบทความนี้

อ่านต่อ

วัดพระพุทธบาทยโสธร จังหวัดยโสธร ประเทศไทย

วัดพระพุทธบาทยโสธร (Wat Phra Buddhabat Yasothon) เป็นวัดที่มีความสวยงามจากหมู่อาคารสีขาวท่ามกลางบรรยากาศที่เงียบสงบ นักท่องเที่ยวที่มาเยือนนิยมมาเที่ยวชมวัดและสักการะโบราณวัตถุทางพุทธศาสนาอันได้แก่ รอยพระพุทธบาท พระพุทธรูปปางนาคปรก และศิลาจารึกโบราณที่มีอายุราวห้าร้อยปี รวมทั้งพระพุทธรูปหยกขาวที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยที่ประดิษฐานอยู่ในพระอุโบสถ และพระบรมสารีริกธาตุที่ประดิษฐานอยู่ภายในเจดีย์ของวัดอีกด้วย วัดแห่งนี้จึงเป็นอีกหนึ่งวัดดังของจังหวัดยโสธรที่ควรค่าต่อการมาเที่ยวชมเป็นอย่างยิ่ง

อ่านต่อ

8 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในจังหวัดศรีสะเกษ ประเทศไทย

จังหวัดศรีสะเกษเป็นจังหวัดในภาคอีสานตอนล่างที่มีแหล่งท่องเที่ยวหลายแห่ง ทั้งสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ที่เป็นจุดชมวิวอันน่าประทับใจ ไปจนถึงแหล่งโบราณสถานอันทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์ และวัดวาอารามที่สร้างขึ้นอย่างงดงามให้เที่ยวชม วันนี้ทาง Palanla ได้รวบรวม 8 สถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นไฮไลท์ของจังหวัดศรีเกษมาฝากทุกท่านกันในบทความนี้

อ่านต่อ

ผามออีแดง จังหวัดศรีสะเกษ ประเทศไทย

ผามออีแดง (Pha Mor E Daeng) เป็นหน้าผาที่ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร เป็นจุดชมวิวที่มองเห็นปราสาทเขาพระวิหาร ป่าไม้ และบ้านเมืองของกัมพูชาที่อยู่ไกลออกไปได้ ในยามเช้าของช่วงปลายฝนต้นหนาวจะเป็นจุดชมทะเลหมอกที่สวยงาม ส่วนในยามพระอาทิตย์ตกดินจะมองเห็นฝูงค้างคาวบินออกมาจากถ้ำเพื่อหากิน นอกจากนี้ อีกหนึ่งไฮไลท์ของผามออีแดงคือภาพจิตรกรรมโบราณที่ถูกสลักไว้ริมหน้าผาซึ่งมีความเก่าแก่กว่าหนึ่งพันห้าร้อยปีทีเดียว ถือเป็น Unseen Thailand ที่คุ้มค่าต่อการมาเที่ยวชมเป็นอย่างยิ่ง

อ่านต่อ

น้ำตกสำโรงเกียรติ จังหวัดศรีสะเกษ ประเทศไทย

น้ำตกสำโรงเกียรติ (Samrong Kiat Waterfall) เป็นน้ำตกที่มีต้นกำเนิดจากเทือกเขาบรรทัด น้ำตกแห่งนี้มีเอกลักษณ์ตรงที่บริเวณด้านบนหน้าผาจะมีแอ่งลานหินขนาดใหญ่รองรับธารน้ำเอาไว้ก่อนที่จะไหลตกลงมาตามชั้นหน้าผา น้ำตกสำโรงเกียรติมีน้ำไหลตลอดปี และจะมีน้ำมากที่สุดในช่วงฤดูฝน บรรยากาศโดยรอบมีความร่มรื่นจากป่าไม้ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เหมาะกับการมาเล่นน้ำ นั่งพักผ่อนหย่อนใจ และถ่ายภาพสวยๆ ได้อย่างเพลิดเพลิน

อ่านต่อ

เกาะกลางน้ำ จังหวัดศรีสะเกษ ประเทศไทย

เกาะกลางน้ำ (Koh Klang Nam) เป็นเกาะที่อยู่ใจกลางอ่างเก็บน้ำห้วยน้ำคำในอำเภอเมืองศรีสะเกษ บนเกาะแห่งนี้เป็นสวนสาธาณะขนาดใหญ่และเป็นที่ตั้งของอาคารสำคัญหลายแห่ง เช่น หอศรีลำดวนเฉลิมพระเกียรติที่เป็นหอชมเมืองศรีสะเกษได้รอบทิศ และศรีสะเกษอควาเรียมซึ่งเป็นศูนย์แสดงพันธุ์สัตว์น้ำที่ใหญ่ที่สุดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่นี่จึงเป็นทั้งสถานที่ท่องเที่ยวและสถานที่พักผ่อนหย่อนใจของจังหวัดศรีสะเกษอีกแห่งหนึ่งที่นักท่องเที่ยวให้ความสนใจมาเที่ยวชมเป็นอย่างมาก

อ่านต่อ
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ