8 สถานที่เที่ยวยอดนิยมในจังหวัดลำปาง ประเทศไทย

  • อ่าน (4,560)
  • ByWebmaster
  • 14:14:38 | 12 ม.ค. 2567

8 สถานที่เที่ยวยอดนิยมในจังหวัดลำปาง ประเทศไทย

Top 8 Travel Destinations in Lampang Province, Thailand

             เพราะลำปางไม่ได้มีแค่รถม้า ทว่ายังมีวัดสวยๆ และแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงามและน่าอัศจรรย์อีกหลายแห่งทั้งภูเขา น้ำตก บ่อพุน้ำร้อน อันเป็นเสน่ห์ของจังหวัดเล็กๆ ทางภาคเหนือแห่งนี้ที่ยังรอให้ทุกคนไปสัมผัสด้วยตนเอง


แผนที่แสดง 8 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในจังหวัดลำปาง โดยมีกาดกองต้าเป็นศูนย์กลาง


1. กาดกองต้า

             กาดกองต้า (Kad Kong Ta) กาดกองต้า หรือ ตลาดจีน เป็นตลาดโบราณของเมืองลำปาง ตั้งอยู่ขนาบแม่น้ำวัง เริ่มก่อตั้งสมัยรัชกาลที่ 5 เมื่อประมาณปี พ.ศ. 2420 ในอดีตมีความสำคัญคือเป็นท่าเรือขนถ่ายสินค้าทางภาคเหนือและเป็นศูนย์กลางการค้าไม้ ตลาดแห่งนี้เป็นจุดที่ห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวงเมื่อมาเที่ยวจำหวัดลำปาง ซึ่งนอกจากจะเป็นถนนคนเดิน ขายสินค้านานาชนิดและอาหารอร่อยๆ ในวันเสาร์ อาทิตย์แล้ว ถนนทั้งสายยังขนาบข้างไปด้วยสถาปัตยกรรมล้านนา-พม่า-จีน ที่เต็มไปด้วยประวัติความเป็นมาอันยาวนาน และเปิดไฟประดับแสนโรแมนติกในยามค่ำคืน

การเดินทาง

             กาดกองต้าอยู่ที่ถนนตลาดเก่า ตั้งแต่ฝั่งถนนสวนดอก จนถึงสะพานรัษฏาภิเศก โดยอยู่ห่างจากสถานีขนส่งจังหวัดลำปาง 3 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางโดยรถยนต์ประมาณ 7 นาที

เวลาทำการเปิด – ปิด : สามารถเดินชมตึกสถาปัตยกรรมบ้านเรือนเก่าได้ทุกวัน ส่วนถนนคนเดินเปิดทุกวันเสาร์ - อาทิตย์ เวลา 17.00 - 22.00 น.

พิกัด GPS 18°17'29.2"N 99°29'54.9"E

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ กาดกองต้า ได้ที่ : https://www.palanla.com/index.php?op=domesticLocation-detail&id=362


2. พระธาตุลำปางหลวง

             วัดพระธาตุลำปางหลวง (Pra That Lampang Luang) เป็นวัดคู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดลำปางมาตั้งแต่สมัยพระนางจามเทวีหรือราวปลายพุทธศตวรรษที่ 20  มีลักษณะเด่นคือเป็นวัดไม้ที่มีความยิ่งใหญ่ สง่างาม  และยังเป็นพระธาตุประจำปีฉลู วัดพระธาตุลำปางหลวงประกอบด้วยวิหารสามหลัง ได้แก่ วิหารหลวง วิหารน้ำแต้ม และวิหารพระพุทธ  ซึ่งนอกจากสถาปัตยกรรมภายในวัดจะสร้างด้วยความงดงามประณีตแล้ว วัดแห่งนี้ยังได้รับการยกย่องว่าเป็นแหล่งรวมงานศิลปกรรมล้านนาที่สมบูรณ์มากที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศไทย โดยที่องค์ประกอบทางศิลปะหลายๆ อย่างไม่สามารถหาชมจากที่อื่นได้อีกแล้ว

การเดินทาง

             พระธาตุลำปางหลวงอยู่ห่างจากตัวเมืองลำปางประมาณ 20 กิโลเมตร หากไม่ได้เดินทางโดยรถส่วนตัว สามารถขึ้นรถสองแถวได้ที่ท่ารถเกาะคา แต่รถสองแถวนี้ก็ไม่ได้วิ่งไปถึงพระธาตุลำปางหลวง โดยรถสองแถวจะจอดที่หน้าโรงงานน้ำตาลแล้วต้องต่อรถมอเตอร์ไซค์ไปพระธาตุอีก วิธีที่สะดวกที่สุดคือเหมารถไปจากตัวจังหวัดลำปางเลยประมาณ 400 – 500 บาท

เวลาทำการเปิด – ปิด : พระธาตุลำปางหลวงเปิดทุกวัน เวลา 07.30 - 17.00 น.

พิกัด GPS 18°13'02.1"N 99°23'20.1"E

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ วัดพระธาตุลำปางหลวง ได้ที่ : https://palanla.com/index.php?op=domesticLocation-detail&id=264


3. วัดพระธาตุดอยพระฌาน

             วัดพระธาตุดอยพระฌาน (Wat Phra That Doi Phra Chan) ก่อสร้างด้วยสถาปัตยกรรมแบบล้านนาดั้งเดิมที่มีความอ่อนช้อยงดงาม ภายในวัดมีองค์พระธาตุเก่าแก่สีขาวยอดฉัตรสีทองอายุกว่า 100 ปี วัดแห่งนี้เป็นทั้งศาสนสถานและจุดชมวิวทะเลหมอกแห่งจังหวัดลำปาง แวดล้อมด้วยธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ ถือเป็นหนึ่งในที่เที่ยวอันซีนที่ตั้งอยู่บนยอดเขาสูงอำเภอแม่ทะ และยังเป็นจุดที่สามารถมองเห็นทัศนียภาพที่สวยงามของอำเภอแม่ทะได้รอบทิศทาง ยามเช้าๆ ในช่วงฤดูฝนและฤดูหนาวสามารถเห็นทะเลหมอกได้ด้วย

การเดินทาง

             วัดพระธาตุดอยพระฌาน ตั้งอยู่ที่ ม.5 ตำบลป่าตัน อำเภอแม่ทะ ห่างจากตัวจังหวัดลำปาง 22 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางโดยรถยนต์ประมาณ 25 นาที

เวลาทำการเปิด – ปิด : เปิดทุกวัน เวลา 6.00 – 17.00 น.

พิกัด GPS : 18°06'39.7"N 99°28'15.8"E

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ วัดพระธาตุดอยพระฌาน ได้ที่ : https://www.palanla.com/index.php?op=domesticLocation-detail&id=369


4. พิพิธภัณฑ์เซรามิคธนบดี

             พิพิธภัณฑ์เซรามิคธนบดี (Dhanabadee Ceramic Museum) เป็นสถานที่ที่จะพาผู้มาเยือนย้อนรอยกลับไปสู่ตำนานชามไก่นครลำปางอย่างเจาะลึกและได้เรียนรู้ถึงขั้นตอนการผลิตอย่างใกล้ชิดตั้งแต่การขึ้นรูปจนออกจากเตาเผาก่อนจะมาเป็นเซรามิคหนึ่งใบ ภายในพิพิธภัณฑ์มีการจัดแสดงเกี่ยวกับประวัติของบริษัทในเครือธนบดี ต้นกำเนิดชามไก่ ต้นกำเนิดเซรามิคของเมืองลำปาง และมีการสาธิตการผลิตชามไก่แบบโบราณ รวมถึงกระบวนการผลิตเซรามิคสมัยใหม่ซึ่งเป็นเทคนิคที่สร้างชื่อเสียงให้ธนบดีเป็นที่รู้จักแก่นานาประเทศสาธิตให้นักท่องเที่ยวได้ชมอย่างใกล้ชิด

การเดินทาง

             พิพิธภัณฑ์เซรามิคธนบดี ตั้งอยู่ถนนวัดจองคำ พระบาทซอย 1 ต.พระบาท อำเภอเมือง จังหวัดลำปาง ห่างจากสถานีขนส่งจังหวัดลำปาง 4 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางโดยรถยนต์ประมาณ 10 นาที

เวลาทำการเปิด – ปิด : เปิดทุกวัน เวลา 09.00 – 17.00 น

พิกัด GPS 18°16'49.3"N 99°30'45.3"E

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ พิพิธภัณฑ์เซรามิคธนบดี ได้ที่ : https://www.palanla.com/index.php?op=domesticLocation-detail&id=367


5. วัดพระพุทธบาทสุทธาวาส

             วัดพระพุทธบาทสุทธาวาส (Wat Chalermprakiat) หรือชื่อเดิมคือ วัดเฉลิมพระเกียรติพระจอมเกล้าราชานุสรณ์ หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่าวัดพระพุทธบาทปู่ผาแดง อีกหนึ่งในอันซีนของจังหวัดลำปาง โดดเด่นด้วยเจดีย์น้อยใหญ่กระจายไปตามแนวสันเขาหินปูนฝั่งด้านตะวันตกของอำเภอแจ้ห่ม เป็นทัศนียภาพที่สวยงามดูแปลกตา ซึ่งนอกจากความสวยงามขององค์เจดีย์น้อยใหญ่ที่เรียงรายอยู่บนยอดหินแล้ว จากบนวัดนี้ยังสามารถมองเห็นทัศนียภาพของอำเภอแจ้ห่มได้อย่างกว้างไกลพร้อมมีลมเย็นๆ โชยอยู่ตลอดเวลา การขึ้นไปชมวิวด้านบนวัดพระพุทธบาทสุทธาวาสนักท่องเที่ยวจะต้องนั่งรถขับเคลื่อนสี่ล้อของชาวบ้านที่มีให้บริการขึ้นไปเท่านั้น เนื่องจากทางชันและต้องอาศัยความชำนาญทาง ซึ่งเมื่อรถขึ้นไปถึงจุดเดินเท้าด้านบนแล้วต้องเดินขึ้นบันไดไปอีกประมาณ 800 ขั้นจึงจะถึงตัววัด

การเดินทาง

             วัดพระพุทธบาทสุทธาวาส ตั้งอยู่ที่ ตำบลวิเชตนคร อำเภอแจ้ห่ม ห่างจากตัวจังหวัดลำปาง 61 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางโดยรถยนต์ประมาณ 1 ชั่วโมง

เวลาทำการเปิด – ปิด : เปิดทุกวัน เวลา 7.00 – 17.00 น.โดยประมาณ

พิกัด GPS : 18°44'44.2"N 99°31'56.0"E

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ วัดพระพุทธบาทสุทธาวาส ได้ที่ https://www.palanla.com/index.php?op=domesticLocation-detail&id=370


6. น้ำตกแจ้ซ้อน

             น้ำตกแจ้ซ้อน (Chaeson Waterfall) จุดท่องเที่ยวที่น่าสนใจอีกแห่งหนึ่งภายในอุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อนที่เกิดจากน้ำจากลำห้วยแม่มอญ ไหลผ่านภูมิประเทศที่มีระดับความสูงแตกต่างกันกลายเป็นน้ำตกที่มีความสวยงามจำนวน 6 ชั้น ท่ามกลางผืนป่าเบญจพรรณ น้ำตกแจ้ซ้อนมีน้ำไหลตลอดปี มีแอ่งน้ำรองรับตลอดสาย รวมระยะทางประมาณ 180 เมตร บริเวณชั้นล่างไม่ลึกมาก เด็กๆ สามารถปีนหินได้สนุกสนาน และบริเวณรอบๆ น้ำตกก็มีโต๊ะให้นั่ง นอกจากนี้ยังมีเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติน้ำตกแจ้ซ้อน-น้ำพุร้อนแจ้ซ้อน ระยะทางประมาณ 3 กิโลเมตร มีทางเดินไปสะดวกและสามารถเดินจากบ่อน้ำพุร้อนแจ้ซ้อนไปถึงน้ำตกได้

การเดินทาง

             น้ำตกแจ้ซ้อน ตั้งอยู่ที่อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน ตำบลแจ้ซ้อน อำเภอเมืองปาน ห่างจากตัวจังหวัดลำปาง 73 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 15 นาที หากไม่ได้เดินทางโดยรถส่วนตัว นักท่องเที่ยวสามารถนั่งรถโดยสารประจำทางสายลำปาง-แจ้ซ้อน จากบริเวณถนนตลาดเก่าไปลงที่ทำการอุทยานฯ ค่าโดยสารราคา 50 บาท มีรถออกจากลำปางตั้งแต่เวลา 08.00 - 18.00 น.

เวลาทำการเปิด – ปิด : อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อนเปิดให้เข้าชมทุกวัน เวลา 6.00 – 18.00 น.

พิกัด GPS 18°50'28.3"N 99°28'09.2"E

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ น้ำตกแจ้ซ้อน ได้ที่ : https://www.palanla.com/index.php?op=domesticLocation-detail&id=364


7. บ่อน้ำพุร้อนแจ้ซ้อน

             บ่อน้ำพุร้อนแจ้ซ้อน (Chaeson Hot Spring) เป็นแหล่งน้ำพุร้อนที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของจังหวัดลำปางที่อยู่ภายในเขตอุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน น้ำพุร้อนแจ้ซ้อนครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 3 ไร่ มีบ่อน้ำพุที่ผุดขึ้นมาเป็นบ่อเล็กๆ 9 บ่อ โดยทางอุทยานฯ ได้ปรับแต่งภูมิทัศน์รอบๆ บ่อน้ำร้อนให้สวยงามและมีทางเดินปลอดภัยลัดเลาะไปตามบ่อน้ำร้อนเหล่านั้น กิจกรรมยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวคือการ “ต้มไข่” ในบ่อน้ำพุที่อุณหภูมิสูงถึงกว่า 80 องศาเซลเซียส และการลงไปแช่น้ำแร่ร้อนเพื่อบำบัดความเมื่อยล้าของร่างกาย

การเดินทาง

             บ่อน้ำพุร้อนแจ้ซ้อน ตั้งอยู่ที่อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน ตำบลแจ้ซ้อน อำเภอเมืองปาน ห่างจากตัวจังหวัดลำปาง 73 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 15 นาที หากไม่ได้เดินทางโดยรถส่วนตัว นักท่องเที่ยวสามารถนั่งรถโดยสารประจำทางสายลำปาง-แจ้ซ้อน จากบริเวณถนนตลาดเก่าไปลงที่ทำการอุทยานฯ ค่าโดยสารราคา 50 บาท มีรถออกจากลำปางตั้งแต่เวลา 08.00 - 18.00 น.  

เวลาทำการเปิด – ปิด : อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อนเปิดให้เข้าชมทุกวัน เวลา 6.00 – 18.00 น.

พิกัด GPS 18°50'11.6"N 99°28'18.4"E

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ บ่อน้ำพุร้อนแจ้ซ้อน ได้ที่ https://www.palanla.com/index.php?op=domesticLocation-detail&id=366


8. เขื่อนกิ่วลม

             เขื่อนกิ่วลม (Kiew Lom Dam) เป็นเขื่อนคอนกรีตขนาดใหญ่ที่มีบรรยากาศสวยงาม แวดล้อมด้วยภูเขาและป่าไม้ที่อุดมสมบูรณ์ อากาศสดชื่นบริสุทธิ์และเย็นสบายตลอดปี เป็นสถานที่ที่เหมาะแก่การหลีกหนีความวุ่นวาย ไปใช้เวลาช้าๆ สัมผัสธรรมชาติอย่างใกล้ชิดกับการล่องแพชมทัศนียภาพสวยงามของทะเลสาบเหนือเขื่อนและชมวิวธรรมชาติเขียวขจี นอกจากนี้สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการพักค้างคืนที่เขื่อนกิ่วลมก็สามารถทำได้เช่นกัน

การเดินทาง

             เขื่อนกิ่วลม ตั้งอยู่ที่ บ้านแลง อำเภอเมืองลำปาง จังหวัดลำปาง อยู่ห่างจากตัวเมืองประมาณ 38 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางโดยรถยนต์ประมาณ 30 นาที

เวลาทำการเปิด – ปิด : เปิดทุกวัน เวลา 06.00-18.00 น.

พิกัด GPS :  18°31'26.1"N 99°37'27.0"E

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ เขื่อนกิ่วลม ได้ที่ https://www.palanla.com/index.php?op=domesticLocation-detail&id=363


ข้อมูลอื่นๆ ที่ควรรู้

- เว็บไซต์พยากรณ์อากาศ

  www.accuweather.com

- ศูนย์ข้อมูลนักท่องเที่ยวจังหวัดลำปาง

  https://lampang.mots.go.th

- การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)

  https://thai.tourismthailand.org/ 

- บริการขนส่ง (รถทัวร์ประจำทาง) 

  http://www.busticket.in.th , http://www.thairoute.com 

- สกุลเงินที่ใช้ : บาท (THB)


แอปพลิเคชัน "บริการรถแท็กซี่" ในประเทศไทย

- Grab สามารถดาวน์โหลดได้ที่ App Store (iOS) และ Play Store (Android)
 

แอปพลิเคชัน "แผนที่ในการนำทาง" ในประเทศไทย

- Google Map​ สามารถดาวน์โหลดได้ App Store (iOS) และ Play Store (Android)
 

 

สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ

8 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในจังหวัดพะเยา ประเทศไทย

จังหวัดพะเยาเป็นจังหวัดทางภาคเหนือที่เต็มไปด้วยวัดสวยๆ หลายแห่งที่สร้างขึ้นด้วยสถาปัตยกรรมล้านนาอย่างงดงาม และยังเป็นที่ตั้งของวนอุทยานภูลังกาที่มีธรรมชาติอันสวยงามและอุดมสมบูรณ์ รวมถึงอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่อย่างกว๊านพะเยาให้เที่ยวชมอีกด้วย วันนี้ทาง Palanla จึงได้รวบรวมสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นไฮไลท์ของจังหวัดพะเยามาฝากทุกท่านเพื่อเป็นแนวทางในการจัดทริปเที่ยวเหนือกันในวัดหยุดที่กำลังจะมาถึงนี้

อ่านต่อ

วัดพระนั่งดิน จังหวัดพะเยา ประเทศไทย

วัดพระนั่งดิน (Wat Phra Nang Din) เป็นวัดเก่าแก่อีกแห่งหนึ่งของจังหวัดพะเยา ไฮไลท์ของวัดแห่งนี้อยู่ที่องค์พระประธานภายในวิหารของวัด นามว่าพระเจ้านั่งดินที่ประดิษฐานอยู่บนพื้น ซึ่งต่างจากพระพุทธรูปทั่วไปที่ต้องประดิษฐานอยู่บนฐาน ที่เป็นเช่นนี้เนื่องจากในอดีตเกิดเหตุการณ์อัศจรรย์ที่ไม่มีใครสามารถยกพระพุทธรูปขึ้นได้ แม้ต่อมาในยุคสมัยใหม่จะสามารถยกขึ้นประดิษฐานบนฐานได้ แต่หลังจากนั้นก็เกิดฟ้าผ่าลงหลังคาวิหารถึงสามครั้งจนต้องอัญเชิญพระพุทธรูปนี้ลงมาประดิษฐานไว้บนพื้นเช่นเดิม วัดแห่งนี้จึงเป็นอีกหนึ่งสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวและผู้มีจิตศรัทธาเป็นอย่างมาก

อ่านต่อ

จุดชมวิวภูลังกา จังหวัดพะเยา ประเทศไทย

จุดชมวิวภูลังกา (Phu Lanka Viewpoint) เป็นจุดชมวิวภายในวนอุทยานภูลังกาซึ่งเป็นอีกหนึ่งแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของอำเภอเชียงคำและอำเภอปง ไฮไลท์ของจุดชมวิวนี้อยู่ที่สามารถชมทัศนียภาพของภูเขาและหน้าผาต่างๆ ได้แบบพาโนรามา มีความสวยงามแตกต่างกันไปตามแต่ละฤดูกาลและชมวิวได้ไกลถึงฝั่งลาว โดยช่วงเวลาที่ได้รับการยอมรับว่าสวยที่สุดคือช่วงปลายฝนต้นหนาวที่มีทะเลหมอกล่องลอยท่ามกลางยอดดอยและหน้าผา เป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่ได้รับความนิยมที่สุดในจังหวัดพะเยา

อ่านต่อ

๑๒ วัดสวยในภาคเหนือ พุทธศิลป์แห่งอาณาจักรล้านนา

ภาคเหนือ เป็นหนึ่งในภูมิภาคของประเทศไทย ที่มีวิถีชีวิตของชาวพื้นเมือง และขนบธรรมเนียมประเพณีที่เรียบง่าย มีสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญ และมีชื่อเสียงอยู่มากมาย รวมไปถึงมีผลงานพุทธศิลป์แบบล้านนาสุดแสนจะวิจิตร ที่สะท้อนออกมาในรูปแบบของสถาปัตยกรรมและประติมากรรมในวัดวาอารามต่าง ๆ เป็นเอกลักษณ์ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวแวะมากราบสักการะ พร้อมชื่นชมผลงานศิลปะล้านนาที่อ่อนช้อย และทรงคุณค่า วันนี้ Palanla จึงจะขอชวนออกเดินทางไปเที่ยวชม และรับสิริมงคลกับ 12 วัดสวยในภาคเหนือกันค่ะ

อ่านต่อ

อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ จังหวัดเชียงใหม่ ประเทศไทย

อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ (Doi Inthanon National Park) สถานที่ท่องเที่ยวอันมีชื่อเสียงประจำจังหวัดเชียงใหม่ อุทยานที่สวยงาม และแวดล้อมไปด้วยทิวเขาสูงสลับซับซ้อน น้ำตก ถ้ำ ผืนป่าอันอุดมสมบูรณ์ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาเยือนในทุกๆปี

อ่านต่อ

อุทยานแห่งชาติภูชี้ฟ้า จังหวัดเชียงราย ประเทศไทย

อุทยานแห่งชาติภูชี้ฟ้า (Phu Chi Fa National Park) ผืนป่าบนยอดดอยที่มีจุดชมทะเลหมอก พระอาทิตย์ขึ้น พระอาทิตย์ตก ที่มีความสวยงามติดอันดับต้นๆ ของเมืองไทย

อ่านต่อ

วัดจามเทวี จังหวัดลำพูน ประเทศไทย

วัดจามเทวี (Wat Chamdhevi) วัดคู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดลำพูน ภายในวัดมีเจดีย์บรรจุอัฐิของพระนางจามเทวี ปฐมกษัตริย์แห่งนครหริภุญไชย วัดแห่งนี้ยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์โบราณคดีที่สำคัญแห่งหนึ่งของประเทศไทยด้วย

อ่านต่อ

กู่ช้าง กู่ม้า จังหวัดลำพูน ประเทศไทย

กู่ช้าง กู่ม้า (Khu Chang – Khu Ma) เป็นโบราณสถานที่สำคัญของจังหวัดลำพูน โดยเชื่อว่ากู่ช้าง เป็นสุสานช้างศึกคู่บารมีของพระนางจามเทวี ปฐมกษัตริย์แห่งนครหริภุญชัย ส่วนกู่ม้า เป็นสุสานม้าทรงของพระโอรสในพระนางจามเทวี

อ่านต่อ

พระสถูปเจดีย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราชราชานุสรณ์ จังหวัดเชียงใหม่ ประเทศไทย

พระสถูปเจดีย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราชราชานุสรณ์ (King Naresuan Stupa) เป็นอนุสรณ์สถานที่สร้างขึ้นในรูปแบบของสถูปเจดีย์พร้อมกับพระบรมรูปเพื่อรำลึกถึงคุณงามความดีของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช และรำลึกเหตุการณ์ครั้งที่สมเด็จพระนเรศวรมหาราชเคยเสด็จมาประทับแรมที่เมืองงายแห่งนี้ก่อนกรีฑาทัพต่อไปยังเมืองอังวะของพม่าเมื่อปี พ.ศ. 2147 โดยสร้างขึ้นในบริเวณที่เคยเป็นเส้นทางเดินทัพเมื่อในอดีต นักท่องเที่ยวและชาวเมืองเชียงใหม่นิยมมาสักการะและขอพร นอกจากนี้ ภายในบริเวณยังมีส่วนนิทรรศการค่ายหลวงจำลองที่ประทับของสมเด็จพระนเรศวรมหาราชซึ่งกรมศิลปากรจัดสร้างขึ้นเพื่อให้ประชาชนทั่วไปได้เที่ยวชมและเรียนรู้ประวัติศาสตร์อีกด้วย

อ่านต่อ

น้ำตกแม่สา จังหวัดเชียงใหม่ ประเทศไทย

น้ำตกแม่สา (Mae Sa Waterfall) เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย และเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติยอดนิยมในอำเภอแม่ริม น้ำตกแห่งนี้เป็นน้ำตกขนาดใหญ่มีอยู่ด้วยกันทั้งหมด 10 ชั้น สามารถเดินขึ้นไปชมความงดงามในแต่ละชั้นได้ตามทางเดินที่ทางอุทยานจัดทำไว้ให้ และหากใครสนใจเล่นน้ำคลายร้อนก็สามารถลงเล่นน้ำได้เช่นกัน โดยชั้นที่เป็นที่นิยมคือชั้นที่ 3-6 เพราะค่อนข้างปลอดภัยและสามารถเล่นได้ทั้งครอบครัว นอกจากนี้ภายในบริเวณยังมีร้านค้า ร้านอาหาร และห้องน้ำให้บริการอีกด้วย

อ่านต่อ
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ