- หน้าแรก
- ท่องเที่ยวในประเทศ
- สะพานไม้แกดำ จังหวัดมหาสารคาม ประเทศไทย
สะพานไม้แกดำ จังหวัดมหาสารคาม ประเทศไทย
![](https://palanla.com//upload/core/pic-4971673179288.jpg)
- อ่าน (5,900)
- ByWebmaster
- 17:53:56 | 15 ธ.ค. 2563
สะพานไม้แกดำ จังหวัดมหาสารคาม ประเทศไทย
Kae Dam Wooden Bridge, Maha Sarakham Province, Thailand
สะพานไม้แกดำ (Kae Dam Wooden Bridge) สะพานไม้เก่าแก่แบบอีสาน ที่มีอายุยาวนานราวหนึ่งศตวรรษ หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวในบรรยากาศแบบธรรมชาติๆ ที่ตั้งอยู่ที่อำเภอแกดำ จังหวัดมหาสารคาม
ประวัติ
สะพานไม้แกดำ เป็นสะพานไม้ความยาวประมาณ 1 กิโลเมตร อายุเก่าแก่ราว 100 ปีท่ามกลางธรรมชาติยังที่ยังคงอุดมสมบูรณ์และสวยงามของจังหวัดมหาสารคาม สะพานแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อใช้ในการไปมาหาสู่กันกันในระหว่างคน 2 ฟากฝั่งหนอง คือฝั่งหนองแกดำด้านวัดดาวดึงษ์แกดำ กับหมู่บ้านหัวขัว (คำว่า ขัว ในภาษาอีสาน แปลว่า สะพาน)
สะพานไม้แกดำ เป็นสะพานไม้ที่สร้างขึ้นด้วยวิธีง่ายๆ โดยการปักเสาลงไปในโคลนใต้น้ำจนถึงชั้นดิน ปูด้วยแผ่นไม้ สะพานไม้เก่าแห่แห่งนี้ทอดข้ามหนองแกดำ ซึ่งมีสภาพกว้างใหญ่ ลึกบ้างตื้นบ้างเป็นช่วงๆ เป็นแหล่งน้ำสำหรับการเกษตร และเป็นแหล่งหาปลาที่สำคัญของชาวบ้าน
ชาวบ้านแถบนี้ยังดำรงชีวิตตามแบบบรรพบุรุษ แม้แต่เรือที่ใช้ก็เป็นเรือที่ยังทำมาจากไม้หนึ่งท่อนขุดให้เป็นโพรง รวมถึงสะพานไม้แกดำแห่งนี้ที่ชาวบ้านยังคงใช้ในการสัญจรไปมาอยู่เป็นประจำ แม้ว่าจะเคยมีโครงการรื้อถอนเพื่อสร้างสะพานคอนกรีตจากทางจังหวัดเพื่อใช้เป็นเส้นทางสัญจรที่แข็งแรง ทว่าชาวบ้านต้องการให้อนุรักษ์สะพานนี้ไว้ตามเดิม สะพานไม้แกดำจึงยังคงอยู่เช่นทุกวันนี้ และเป็นที่รู้จักเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ สำหรับนักท่องเที่ยวจากต่างถิ่นที่ต้องการมาชมและถ่ายภาพของสะพานไม้โบราณที่ทอดข้ามหนองน้ำท่ามกลางบรรยากาศท้องทุ่งที่เป็นธรรมชาติ
ป้ายบอกพิกัดสะพานไม้แกดำอันโดดเด่น
หนองน้ำแกดำ
สะพานไม้แกดำเป็นสะพานไม้ความยาวประมาณ 1 กิโลเมตรที่มีมานานราว 100 ปี
การเดินทางไปจังหวัดมหาสารคาม
- รถยนต์ (Car/ Bus) การเดินทางโดยรถยนต์จากกรุงเทพฯ ไปจังหวัดมหาสารคาม มีระยะทาง 457 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 6 ชั่วโมง 20 นาที
จังหวัดมหาสารคามไม่มีเส้นทางรถไฟตัดผ่าน และยังไม่มีสนามบิน สำหรับผู้ที่เดินทางโดยรถไฟและเครื่องบินนิยมนั่งไปลงที่จังหวัดใกล้เคียงคือจังหวัดขอนแก่นแล้วเดินทางโดยรถยนต์หรือรถโดยสารประจำทางต่อมาที่จังหวัดมหาสารคาม
การเดินทางไปสะพานไม้แกดำ
สะพานไม้แกดำตั้งอยู่ที่ อำเภอแกดำ โดยอยู่ห่างจากตัวเมืองมหาสารคามประมาณ 25 กิโลเมตร ไม่มีรถสาธารณะไปถึง นักท่องเที่ยวต้องเดินทางโดยรถส่วนตัวเท่านั้น
เวลาทำการเปิด – ปิด
เปิดทุกวัน 24 ชั่วโมง
อัตราค่าเข้าชม
ไม่เสียค่าเข้าชม
ท่ามกลางธรรมชาติยังที่ยังคงอุดมสมบูรณ์
สิ่งที่ไม่ควรพลาดเมื่อไปเที่ยวสะพานไม้แกดำ
ถ่ายภาพสวยๆ คู่กับสะพานไม้แกดำเป็นที่ระลึก แวะเยี่ยมชมและสักการระสิ่งศักดิ์สิทธิ์วัดดาวดึงษ์แกดำที่อยู่ใกล้ๆ กัน
จุดถ่ายภาพ
วัดดาวดึงษ์แกดำ
เวลาที่เหมาะสมสำหรับการท่องเที่ยว
สามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปี
นักท่องเที่ยวที่สนใจไปเที่ยวชม สะพานไม้แกดำ สามารถศึกษา ข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่
สะพานไม้แกดำ จังหวัดมหาสารคาม ประเทศไทย
(Kae Dam Wooden Bridge, Maha Sarakham Province, Thailand)
ระดับความนิยม :
อัตราค่าเข้าชม : ไม่เสียค่าเข้าชม
เวลาทำการเปิด – ปิด : เปิดทุกวัน 24 ชั่วโมง
ตั้งอยู่ที่ : อำเภอแกดำ จ.มหาสารคาม
โทรศัพท์ : -
เว็บไซต์ : -
ข้อมูลอื่นๆ ที่ควรรู้ : พยากรณ์อากาศ https://www.accuweather.com
ศูนย์ข้อมูลนักท่องเที่ยวจังหวัดมหาสารคาม https://mahasarakham.mots.go.th
ศูนย์บริการข้อมูลท่องเที่ยวประเทศไทย https://thai.tourismthailand.org
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ
![](https://palanla.com//upload/dms/pictures/pic-202307121701922558_33574_37-7900.png)
5 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในจังหวัดยโสธร ประเทศไทย
จังหวัดยโสธรเป็นจังหวัดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่างของไทยที่ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำชี จังหวัดยโสธรมีสถานที่ท่องเที่ยวเชิงศาสนาและวัฒนธรรมหลายแห่ง เพราะเป็นเมืองที่ผ่านประวัติศาสตร์มาอย่างยาวนานตั้งแต่สมัยทวาราวดี วันนี้ทาง Palanla จึงได้รวบรวมสถานที่ที่เป็นไฮไลท์ของจังหวัดยโสธรมาฝากทุกท่านไว้ในบทความนี้
อ่านต่อ![](https://palanla.com//upload/dms/pictures/pic-202307121701921664_66937_37-9155.jpg)
วัดพระพุทธบาทยโสธร จังหวัดยโสธร ประเทศไทย
วัดพระพุทธบาทยโสธร (Wat Phra Buddhabat Yasothon) เป็นวัดที่มีความสวยงามจากหมู่อาคารสีขาวท่ามกลางบรรยากาศที่เงียบสงบ นักท่องเที่ยวที่มาเยือนนิยมมาเที่ยวชมวัดและสักการะโบราณวัตถุทางพุทธศาสนาอันได้แก่ รอยพระพุทธบาท พระพุทธรูปปางนาคปรก และศิลาจารึกโบราณที่มีอายุราวห้าร้อยปี รวมทั้งพระพุทธรูปหยกขาวที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยที่ประดิษฐานอยู่ในพระอุโบสถ และพระบรมสารีริกธาตุที่ประดิษฐานอยู่ภายในเจดีย์ของวัดอีกด้วย วัดแห่งนี้จึงเป็นอีกหนึ่งวัดดังของจังหวัดยโสธรที่ควรค่าต่อการมาเที่ยวชมเป็นอย่างยิ่ง
อ่านต่อ![](https://palanla.com//upload/dms/pictures/pic-202307121701918154_78010_37-6480.png)
8 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในจังหวัดศรีสะเกษ ประเทศไทย
จังหวัดศรีสะเกษเป็นจังหวัดในภาคอีสานตอนล่างที่มีแหล่งท่องเที่ยวหลายแห่ง ทั้งสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ที่เป็นจุดชมวิวอันน่าประทับใจ ไปจนถึงแหล่งโบราณสถานอันทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์ และวัดวาอารามที่สร้างขึ้นอย่างงดงามให้เที่ยวชม วันนี้ทาง Palanla ได้รวบรวม 8 สถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นไฮไลท์ของจังหวัดศรีเกษมาฝากทุกท่านกันในบทความนี้
อ่านต่อ![](https://palanla.com//upload/dms/pictures/pic-202307121701916880_78028_37-7297.jpg)
ผามออีแดง จังหวัดศรีสะเกษ ประเทศไทย
ผามออีแดง (Pha Mor E Daeng) เป็นหน้าผาที่ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร เป็นจุดชมวิวที่มองเห็นปราสาทเขาพระวิหาร ป่าไม้ และบ้านเมืองของกัมพูชาที่อยู่ไกลออกไปได้ ในยามเช้าของช่วงปลายฝนต้นหนาวจะเป็นจุดชมทะเลหมอกที่สวยงาม ส่วนในยามพระอาทิตย์ตกดินจะมองเห็นฝูงค้างคาวบินออกมาจากถ้ำเพื่อหากิน นอกจากนี้ อีกหนึ่งไฮไลท์ของผามออีแดงคือภาพจิตรกรรมโบราณที่ถูกสลักไว้ริมหน้าผาซึ่งมีความเก่าแก่กว่าหนึ่งพันห้าร้อยปีทีเดียว ถือเป็น Unseen Thailand ที่คุ้มค่าต่อการมาเที่ยวชมเป็นอย่างยิ่ง
อ่านต่อ![](https://palanla.com//upload/dms/pictures/pic-202307121701916268_93127_37-8809.jpg)
น้ำตกสำโรงเกียรติ จังหวัดศรีสะเกษ ประเทศไทย
น้ำตกสำโรงเกียรติ (Samrong Kiat Waterfall) เป็นน้ำตกที่มีต้นกำเนิดจากเทือกเขาบรรทัด น้ำตกแห่งนี้มีเอกลักษณ์ตรงที่บริเวณด้านบนหน้าผาจะมีแอ่งลานหินขนาดใหญ่รองรับธารน้ำเอาไว้ก่อนที่จะไหลตกลงมาตามชั้นหน้าผา น้ำตกสำโรงเกียรติมีน้ำไหลตลอดปี และจะมีน้ำมากที่สุดในช่วงฤดูฝน บรรยากาศโดยรอบมีความร่มรื่นจากป่าไม้ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เหมาะกับการมาเล่นน้ำ นั่งพักผ่อนหย่อนใจ และถ่ายภาพสวยๆ ได้อย่างเพลิดเพลิน
อ่านต่อ![](https://palanla.com//upload/dms/pictures/pic-202307121701915080_71739_37-2018.jpg)
เกาะกลางน้ำ จังหวัดศรีสะเกษ ประเทศไทย
เกาะกลางน้ำ (Koh Klang Nam) เป็นเกาะที่อยู่ใจกลางอ่างเก็บน้ำห้วยน้ำคำในอำเภอเมืองศรีสะเกษ บนเกาะแห่งนี้เป็นสวนสาธาณะขนาดใหญ่และเป็นที่ตั้งของอาคารสำคัญหลายแห่ง เช่น หอศรีลำดวนเฉลิมพระเกียรติที่เป็นหอชมเมืองศรีสะเกษได้รอบทิศ และศรีสะเกษอควาเรียมซึ่งเป็นศูนย์แสดงพันธุ์สัตว์น้ำที่ใหญ่ที่สุดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่นี่จึงเป็นทั้งสถานที่ท่องเที่ยวและสถานที่พักผ่อนหย่อนใจของจังหวัดศรีสะเกษอีกแห่งหนึ่งที่นักท่องเที่ยวให้ความสนใจมาเที่ยวชมเป็นอย่างมาก
อ่านต่อ![](https://palanla.com//upload/dms/pictures/pic-202303031677827064_74966_37-9214.jpg)
วัดบุไผ่ (วัดบ้านไร่ 2) จังหวัดนครราชสีมา ประเทศไทย
วัดบุไผ่ (วัดบ้านไร่ 2) Wat Bu Pai (Wat Ban Rai 2) เป็นวัดที่ตั้งตระหง่านบนเนินเขาในอำเภอวังน้ำเขียว ประดิษฐานรูปหล่อหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ หรือ พระเทพวิทยาคม พระเกจิดังวัดบ้านไร่องค์ใหญ่ที่สุดในโลก
อ่านต่อ![](https://palanla.com//upload/dms/pictures/pic-202303031677826237_89093_37-6298.jpg)
วัดแสงธรรมวังเขาเขียว จังหวัดนครราชสีมา ประเทศไทย
วัดแสงธรรมวังเขาเขียว (Wat Saeng Tham Wang Khao Khiao) เป็นที่ตั้งของพระมหาเจดีย์ศรีแสงธรรมวิสุทธิมงคล พระมหาเจดีย์รูปทรงดอกบัวสีขาวตั้งตระหง่านสง่างามอยู่กลางคูน้ำ ท่ามกลางสวนหย่อมสีเขียวขนาดใหญ่และแวดล้อมด้วยหุบเขาสีเขียวขจีของอำเภอวังน้ำเขียว
อ่านต่อ![](https://palanla.com//upload/dms/pictures/pic-202303031677825478_63890_37-6904.jpg)
ผาเก็บตะวัน จังหวัดนครราชสีมา ประเทศไทย
ผาเก็บตะวัน (Pha Kep Tawan) หนึ่งในที่เที่ยววังน้ำเขียวที่เป็นจุดชมวิวที่มีทัศนียภาพสวยงาม แวดล้อมด้วยความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติ เหมาะแก่การแวะมาชมวิวผ่อนคลาย หรือหากต้องการกางเต็นท์ค้างคืนก็ได้เช่นกัน
อ่านต่อ![](https://palanla.com//upload/dms/pictures/pic-202317011673975462_57311.jpg)
วัดป่าโนนสวรรค์ จังหวัดร้อยเอ็ด ประเทศไทย
วัดป่าโนนสวรรค์ (Wat Pa Non Sawan) เป็นวัดที่มีชื่อเสียงของจังหวัดร้อยเอ็ด ภายในวัดมีความน่าตื่นตาตื่นใจของประติมากรรมปูนปั้นมากมายที่ถ่ายทอดเรื่องเกี่ยวกับพุทธประวัติ พระธรรมคำสอน รวมถึงวรรณคดีไทยชื่อดังต่างๆ ให้ได้เดินเที่ยวชม และภายในวัดยังโดดเด่นด้วยองค์เจดีย์ขนาดใหญ่ที่ตกแต่งอย่างงดงาม รวมถึงศิลปะการตกแต่งที่ใช้หม้อดินมาประดับในส่วนต่างๆ โดยรอบจนมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว วัดแห่งนี้จึงเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดร้อยเอ็ดที่ไม่ควรพลาดชม
อ่านต่อ