20 สถานที่เที่ยวยอดนิยมในไอซ์แลนด์

  • อ่าน (9,415)
  • By Webmaster
  • 11:45:09 | 30 ม.ค. 2567

20 สถานที่เที่ยวยอดนิยมในไอซ์แลนด์

Top 20 Travel Destinations in Iceland

 

             ไอซ์แลนด์ (Iceland) ประเทศที่ขึ้นชื่อในเรื่องทัศนียภาพอันงดงามที่มีเอกลักษณ์เฉพาะ ไม่ว่าจะเป็นภูเขา น้ำตก น้ำพุร้อน ชายหาดสีดำ แสงเหนือ และความมหัศจรรย์ทางธรรมชาติที่มีอยู่ทั่วประเทศ ทำให้ที่นี่เป็นจุดหมายปลายในฝันทางของนักเที่ยวจากทั่วโลกที่ต้องการเดินทางไปเยือนสักครั้งในชีวิต


1. เรคยาวิก (Reykjavik)

             เรคยาวิก (Reykjavik) เมืองหลวงของประเทศไอซ์แลนด์ (Iceland) เป็นเมืองหลวงที่ตั้งอยู่ใกล้กับขั้วโลกเหนือมากที่สุด มีความสวยงามและเสน่ห์ไม่แพ้เมืองหลวงอื่นๆ ในแถบสแกนดิเนเวีย เป็นเมืองที่เพียบพร้อมด้วยความบริสุทธิ์ทางธรรมชาติ อาคารบ้านที่เรือนสวยงาม และสถาปัตยกรรมทรงคุณค่าที่ถักทอประวัติศาสตร์ บอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับ “ดินแดนน้ำแข็ง” เล็กๆ แห่งนี้ไว้ได้อย่างน่าสนใจ

           ไม่ว่าจะเป็นโบสถ์ฮอลล์กริมสเคิร์กยา (Hallgrímskirkja) ฮาร์ปา (Harpa) หอศิลป์แห่งชาติไอซ์แลนด์ (Icelandic National Gallery) พิพิธภัณฑ์การเดินเรือไวกิ้ง  (Vikin Maritime Museum) และอื่นๆ อีกมาก นอกจากนี้ ที่เรคยาวิกยังมีกิจกรรมล่องเรือชมวาฬ และแสงเหนือให้บริการแก่นักท่องเที่ยวด้วย

ข้อมูลการเดินทาง : การเดินทางจากสนามบินนานาชาติ Keflavik International Airport (KEF) ไปยังตัวเมืองเรคยาวิกใช้เวลา 40 – 45 นาที นักท่องเที่ยวสามารถใช้บริการ เช่ารถยนต์ ได้จากหลากหลายบริษัท ศึกษาข้อมูลและจองได้ล่วงหน้าได้ก่อนเดินทางได้ที่ www.motorhomerepublic.com และ www.rentalcars.com ทั้งนี้ หากนักท่องเที่ยวไม่ได้เช่ารถยนต์ขับจากสนามบินเลยก็สามารถใช้บริการ รถโดยสารสาธารณะ ชื่อ Flybus Airport Transfers เพื่อไปลงที่ BSI Bus Terminal หรือจุดจอดต่างๆ ในตัวเมืองเรคยาวิก โดยรถจะมีให้บริการทุกๆ 30 นาทีหรือ 1 ชั่วโมง ราคาอยู่ที่ 2.950 ISK ต่อคน โดยนักท่องเที่ยวสามารถจองตั๋วล่วงหน้าได้ที่ https://www.re.is/flybus

พิกัด GPS : 64°08'46.1"N 21°56'32.6"W

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ เรคยาวิก ได้ที่ : http://www.palanla.com/index.php?op=abroadLocation-detail&id=162


2. คีร์กจูเฟล (Kirkjufell)

            คีร์กจูเฟล (Kirkjufell) หรือ “ภูเขาโบสถ์” เป็นภูเขาที่คล้ายกับโบสถ์ หรือหมวกของแม่มด เป็นหนึ่งในสถานที่ที่ถูกถ่ายรูปมากที่สุดของไอซ์แลนด์ ตัวภูเขามีลักษณะเป็นชั้นๆ ต่างสีกัน เชื่อกันว่าฟอสซิลชั้นล่างสุดเกิดตั้งแต่ยุคน้ำแข็งนับล้านปี ส่วนชั้นบนซึ่งเป็นหินลาวาเกิดในช่วงที่ยุคน้ำแข็งเริ่มอุ่นขึ้น

           คีร์กจูเฟล เป็นสถานที่ที่มีความงดงามตลอดทั้งปี แม้ในฤดูหนาวที่ “หมวกแม่มด” แห่งนี้ปกคลุมไปด้วยหิมะขาวโพลน นักท่องเที่ยวนิยมมาที่นี่เพื่อถ่ายภาพสวยๆ ของน้ำตกที่มีฉากหลังเป็นภูเขา รวมถึงนักปีนเขาที่นิยมมาปืนเขาที่นี่ขึ้นไปชมความงามบนยอด

ข้อมูลการเดินทาง : จากเมืองเรคยาวิกไปยังคีร์กจูเฟล ใช้เส้นทาง Vesturlandsvegur/ถนนหมายเลข 49 ระยะเวลา 3 นาที (1.3 กม.) จากนั้นใช้ Þjóðvegur 1, Þjóðvegur, Snæfellsnesvegur, Vatnaleið และ Snæfellsnesvegur ไปทาง Kvíabryggja ระยะเวลา 2 ชม. 16 นาที (173 กม.) เลี้ยวขวาเข้าสู่ Kvíabryggja ระยะเวลา 3 นาที (1.7 กม.)

เวลาเปิด-ปิด : เปิดตลอด 24 ชั่วโมง

พิกัด GPS : 64°56'23.5"N 23°18'23.3"W

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ คีร์กจูเฟล ได้ที่ : http://www.palanla.com/index.php?op=abroadLocation-detail&id=167


3. น้ำตกฮรวนฟอสซาร์ (Hraunfossar)

             น้ำตกฮรวนฟอสซาร์ (Hraunfossar) มีชื่อเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า Lava waterfalls หรือน้ำตกลาวา ตั้งอยู่ใกล้ๆ กับหมู่บ้านเรย์คอลท์ (Reykholt) เมืองบอร์การ์ดิก (Borgarbyggd) ทางตะวันตกของไอซ์แลนด์ลักษณะเด่นของน้ำตกแห่งนี้คือ เป็นน้ำตกที่ไม่ได้ไหลลงมาจากหน้าผาตรงๆ เหมือนน้ำตกแห่งอื่น แต่ประกอบด้วยสายน้ำเล็กๆ ซึ่งเกิดจากแหล่งน้ำผิวดิน รวมกับน้ำที่ละลายจากธารน้ำแข็ง โดยน้ำที่มีปริมาณมากของน้ำตกแห่งนี้ส่วนหนึ่งเป็นน้ำที่ละลายมาจากธารน้ำแข็ง Langjokull ไหลผ่านชั้นหินต่างๆ ของทุ่งหินลาวาลงไปสู่แม่น้ำควิทอา (Hvítá)

ข้อมูลการเดินทาง : จากเมืองเรคยาวิกไปยังน้ำตก Hraunfossar ใช้เส้นทาง Vesturlandsvegur/ถนนหมายเลข 49 ระยะเวลา 3 นาที (1.3 กม.) จากนั้นตามÞjóðvegur 1, Þjóðvegur, Hvalfjarðargöng และ Þjóðvegur ไปทาง Borgarfjarðarbraut มุ่งไป Vesturland ระยะเวลา 50 นาที (63.2 กม.) จากนั้น ขับไปตาม Borgarfjarðarbraut และ Hálsasveitarvegur

เวลาเปิด-ปิด : เปิดตลอด 24 ชั่วโมง

พิกัด GPS : 64°42'10.4"N 20°58'37.8"W

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ น้ำตกฮรวนฟอสซาร์ ได้ที่ : http://www.palanla.com/index.php?op=abroadLocation-detail&id=165


4. เมืองอาคูเรย์รี่ (Akureyri)

            เมืองอาคูเรย์รี่ (Akureyri) ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของประเทศไอซ์แลนด์ และยังเป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับสองของประเทศ เป็นศูนย์กลางทางการค้า การศึกษาและวัฒนธรรมของภูมิภาค เมืองอาคูเรย์รี่ยังเคยเป็นที่ตั้งของหน่วยสัมพันธมิตรในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง และเป็นหนึ่งในเมืองที่มีบทบาทสำคัญทางประวัติศาสตร์เมืองหนึ่งของประเทศไอซ์แลนด์

           แม้ว่าเมืองอาคูเรย์รี่จะอยู่ห่างจากเส้นอาร์คติกเซอร์เคิล “Arctic Circle” เพียง 60 ไมล์ แต่อาคูเรย์รี่ก็เป็นเมืองที่มีอากาศอบอุ่น มีการวางผังเมืองและบ้านเรือนที่เป็นระเบียบสวยงาม เหมาะแก่การแวะเที่ยวชมและพักผ่อนหากมีโอกาสได้เดินทางท่องเที่ยวไปยังตอนเหนือของไอซ์แลนด์

ข้อมูลการเดินทาง : จากเมืองเรคยาวิกไปยังเมืองอาคูเรย์รี่ ใช้เส้นทาง Vesturlandsvegur/ถนนหมายเลข 49 ระยะเวลา 3 นาที (1.3 กม.) จากนั้นตาม Þjóðvegur ไปทาง Hlíðarbraut มุ่งไป Akureyri ระยะเวลา 4 ชม. 28 นาที (377 กม.) เดินทางต่อไปบน Hlíðarbraut ขับไปทาง Brattahlíð 3 นาที (1.1 กม.) เพื่อไปยังเมือง Akureyri

เวลาเปิด-ปิด : เปิดตลอด 24 ชั่วโมง

พิกัด GPS : 65°40'57.2"N 18°05'26.8"W

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ เมืองอาคูเรย์รี่ ได้ที่ : http://www.palanla.com/index.php?op=abroadLocation-detail&id=168


5. น้ำตกโกดาฟอสส์ (Godafoss)

            น้ำตกโกดาฟอสส์ (Godafoss) หรือ น้ำตกของพระเจ้า เป็นน้ำตกที่มีความงดงามและใหญ่ติดอันดับ 1 ใน 3 ของประเทศ น้ำตกแห่งนี้ถูกค้นพบเมื่อ 1,000 ปีก่อนคริสตกาล สายน้ำตกของโกดาฟอสส์มีลักษณะโค้งเป็นครึ่งวงกลม และไหลตกลงมายังแอ่งตรงกลาง น้ำตกแห่งนี้ได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในน้ำตกที่สวยงามที่สุดของประเทศไอซ์แลนด์

           คนท้องถิ่นเรียกมักเรียกโกดาฟอสส์ด้วยชื่อเล่นว่า 'The Beauty' ซึ่งแปลว่าโฉมงาม เมื่อเปรียบกับ 'The Beast' หรือเจ้าชายอสูร อย่างน้ำตก Dettifoss ฉายาอันไพเราะนี้ บ่งบอกได้เป็นอย่างดีถึงความงดงาม และโดดเด่นของน้ำตกโกดาฟอสส์

ข้อมูลการเดินทาง : จากเมืองเรคยาวิกไปยังน้ำตกโกดาฟอสส์ ใช้เส้นทาง Vesturlandsvegur/ถนนหมายเลข 49 ระยะเวลา 3 นาที (1.3 กม.) ตาม Þjóðvegur ที่มุ่งสู่ Goðafoss Sightseeing ไปยัง Norðurland eystra ระยะเวลา 5 ชั่วโมง 11 นาที (429 กม.) จากนั้น เลี้ยวขวาเข้าสู่ Goðafoss Sightseeing ระยะเวลา 43 วินาที (350 เมตร)

เวลาเปิด-ปิด : เปิดตลอด 24 ชั่วโมง

พิกัด GPS : 65°40'58.0"N 17°33'00.7"W

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ น้ำตกโกดาฟอสส์ ได้ที่ : http://www.palanla.com/index.php?op=abroadLocation-detail&id=169


6. มีวัทน์ (Myvatn)

            มีวัทน์ (Myvatn) ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของประเทศไอซ์แลนด์ เป็นภูมิภาคที่เต็มไปด้วยสิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาติอันงดงาม ทั้งเทือกเขาเขียวชอุ่ม เขตสงวนที่อยู่ใกล้เคียงอันเป็นที่อยู่ของสัตว์ป่าและพืชพรรณนานาชนิด ไปจนถึงผืนน้ำอันงดงาม

           มีวัทน์ยังถือเป็นสวรรค์ของนักดูนก โดยเฉพาะในช่วงฤดูร้อนที่ทะเลสาบและบริเวณรอบๆ จะเป็นศูนย์รวมของนกน้ำนานาชนิดมากกว่าบริเวณอื่นใดของโลก ปล่องภูเขาไฟริมทะเลสาบซึ่งเกิดจากการระเบิดครั้งใหญ่ของภูเขาไฟเมื่อ 2,300 ปีที่แล้ว ล้วนเป็นองค์ประกอบที่ทำให้มิวัทน์เป็นเหมือนโลกอีกใบอันน่าตื่นตาตื่นใจสำหรับนักท่องเที่ยว

ข้อมูลการเดินทาง : จากเมืองเรคยาวิกไปยังมีวัทน์ ระยะทางประมาณ 480 กิโลเมตร ใช้เส้นทาง Vesturlandsvegur/ถนนหมายเลข 49 ระยะเวลา 3 นาที (1.3 กม.) จากนั้นตาม Þjóðvegur มุ่งไป Norðurland eystra ระยะเวลา 5 ชม. 41 นาที (471 กม.) ขับไปยัง Myvatn ระยะเวลา 8 นาที (2.7 กม.)

เวลาเปิด-ปิด : เปิดตลอด 24 ชั่วโมง

พิกัด GPS : 65°36'10.7"N 16°59'50.1"W

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ มีวัทน์ ได้ที่ : http://www.palanla.com/index.php?op=abroadLocation-detail&id=171


7. เทือกเขาเนามาฟียาทล์ (Namafjall)

            เทือกเขาเนามาฟียาทล์ (Namafjall) หรือที่เรียกว่า นามาสการ์ด (Narmaskard) เป็นเทือกเขาสีส้ม เหลือง เต็มไปด้วยบ่อโคลนเดือดซึ่งมีกำมะถันอยู่มากและมีไอน้ำร้อนจัดอยู่เบื้องล่าง เมื่อไอน้ำนั้นเคลื่อนที่จะทำให้โคลนที่อยู่ด้านบนพุ่งกระจายขึ้นมาคล้ายการระเบิดย่อยๆ บริเวณภูเขาไฟ

           สิ่งที่น่าทึ่งคือนามาสการ์ดเป็นบริเวณที่ไม่มีต้นไม้ ดอกไม้ขึ้นอยู่เลย เนื่องจากบ่อโคลนกำมะถันที่ปล่อยควันออกมาอย่างต่อเนื่องทำให้พื้นดินเสื่อมสภาพและเป็นกรด ไม่เหมาะแก่การเจริญเติบโตใดๆ ธรรมชาติและภูมิประเทศที่แปลกของที่นี่กลับเป็นสิ่งน่าอัศจรรย์สำหรับนักท่องเที่ยวให้ต้องไปเดินทางเยือน

ข้อมูลการเดินทาง : จากเมืองเรคยาวิกไปยัง Namafjall ใช้เส้นทาง Vesturlandsvegur/ถนนหมายเลข 49 ระยะเวลา 3 นาที (1.3 กม.) จากนั้น ตาม Þjóðvegur มุ่งไป Norðurland eystra ระยะเวลา 5 ชม. 53 นาที (484 กม.) ขับไปยัง Namafjall  ระยะเวลา 1 นาที (400 เมตร)

เวลาเปิด-ปิด : เปิดตลอด 24 ชั่วโมง

พิกัด GPS : 65°38'21.1"N 16°49'11.3"W

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ เทือกเขาเนามาฟียาทล์ ได้ที่ : http://www.palanla.com/index.php?op=abroadLocation-detail&id=172


8. น้ำตกเดตตี้ฟอสส์ (Dettifoss)

            น้ำตกเดตตี้ฟอสส์ (Dettifoss) ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติวัทนาโจกุล (Vatnajökull National Park) ซึ่งเป็นอุทยานแห่งชาติที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป ความน่าตื่นตาตื่นใจของน้ำตกที่แห่งนี้คือน้ำตกทรงพลังที่ไหลลงมาจากขอบหน้าผาอันกว้างใหญ่ น้ำตกเดตตี้ฟอสส์ได้ชื่อว่าเป็นน้ำตกที่ใหญ่และไหลแรงมากที่สุดของยุโรป

           โดยสายน้ำที่ไหลจากน้ำตกจะไหลลดหลั่นลงไปในหุบเหวที่อยู่ลึกลงไปอีกราวๆ 45 เมตร นับเป็นภาพที่สวยงามน่าประทับใจอย่างยิ่ง ซึ่งนักท่องเที่ยวยังจะสามารถมองเห็นละอองน้ำที่สาดกระเซ็นขึ้นสู่ท้องฟ้าจากระยะไกลหลายกิโลเมตร

ข้อมูลการเดินทาง : จากเมืองเรคยาวิกไปยังน้ำตกเดตตี้ฟอสส์ ใช้เส้นทาง Vesturlandsvegur/ถนนหมายเลข 49 ระยะเวลา 3 นาที (1.3 กม.) ตาม Þjóðvegur ไปทาง Norðausturvegur มุ่งไป Norðurland eystra ระยะเวลา 5 ชม. 6 นาที (425 กม.) จากนั้นตาม Norðausturvegur, ถนนหมายเลข 85 และ Hólsfjallavegur ระยะเวลา 1 ชม. 52 นาที (134 กม.) จากจุดจอดรถ นักท่องเที่ยวจะต้องเดินต่ออีกประมาณ 800 เมตรเพื่อไปยังน้ำตก

เวลาเปิด-ปิด : เปิดตลอด 24 ชั่วโมง

พิกัด GPS : 65°48'52.8"N 16°23'04.3"W

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ น้ำตกเดตตี้ฟอสส์ ได้ที่ : http://www.palanla.com/index.php?op=abroadLocation-detail&id=173


9. เมืองฮอฟน์ (Hofn)

            เมืองฮอฟน์ (Hofn) หรืออีกชื่อหนึ่งว่า Hofn í Hornafirdi เมืองเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศไอซ์แลนด์ เป็นอีกหนึ่งเมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงทางด้านทัศนียภาพที่สวยงามและมีชื่อเสียงในเรื่องการประมงกุ้งลอบสเตอร์ (Lobster) จนได้ชื่อว่าเป็นเมืองหลวงแห่งล็อบสเตอร์ของยุโรปเหนือ (The Lobster Capital of Northern Europe)

           สำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางท่องเที่ยวรอบประเทศไอซ์แลนด์ เมืองฮอฟน์คือจุดพักและเป็นประตูสู่อุทยานแห่งชาติวัทนาโจกุล (Vatnajökull National Park) ซึ่งเป็นที่ตั้งของโจกุลซาร์ลอน (Jokulsarlon) ธารน้ำแข็งที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป และการเดินทางท่องเที่ยวไปยังสถานที่น่าสนใจแห่งอื่นๆ

ข้อมูลการเดินทาง : จากเมืองเรคยาวิกไปยังเมืองฮอฟน์ ใช้เส้นทาง Vesturlandsvegur/ ถนนหมายเลข 49 ระยะเวลา 3 นาที (1.3 กม.) จากนั้นตาม Þjóðvegur ไปทาง 1122 มุ่งไป Austurland ระยะทาง 5 ชั่วโมง 34 นาที (445 กม.) เดินทางต่อไปบน 1122 มุ่งสู่ Hofn ระยะเวลา 6 นาที (5.0 กม.)

เวลาเปิด-ปิด : เปิดตลอด 24 ชั่วโมง

พิกัด GPS : 64°15'02.1"N 15°12'11.2"W

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ เมืองฮอฟน์ ได้ที่ : http://www.palanla.com/index.php?op=abroadLocation-detail&id=174


10. โจกุลซาร์ลอน (Jokulsarlon)

            โจกุลซาร์ลอน (Jokulsarlon) เป็นทะเลสาบธารน้ำแข็งอายุกว่า 1,000 ปีที่ใหญ่ที่สุดในไอซ์แลนด์ และใหญ่เป็นอันดับสามของโลก ครอบคลุมพื้นที่กว่า 8,300 ตารางกิโลเมตร ซึ่งมีขนาดเท่ากับธารน้ำแข็งทั้งหมดในทวีปยุโรปรวมกัน ที่นี่เคยเป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์อันโด่งดังมาแล้วหลายเรื่อง

           นอกจากที่นักท่องเที่ยวจะได้ตื่นตาตื่นใจกับภาพของก้อนน้ำแข็งสีฟ้าครามขนาดมหึมาจำนวนมากที่ละลายลงมาจากภูเขาน้ำแข็งด้านบน และลอยล่องอยู่เต็มทะเลสาบธารน้ำแข็งขนาดแปดพันกว่าตารางกิโลเมตรแห่งนี้ ที่โจกุลซาร์ลอนยังเป็นจุดที่สามารถนั่งเรือล่องไปตามแนวภูเขาน้ำแข็งได้ด้วย

ข้อมูลการเดินทาง : จากเมืองเรคยาวิกไปยังโจกุลซาร์ลอน ใช้เส้นทาง Vesturlandsvegur / ถนนหมายเลข 49 ระยะเวลา 3 นาที (1.3 กม.) จากนั้น ขับจาก Þjóðvegur ไป Austurland ระยะเวลา 4 ชม. 39 นาที (370 กม.) และขับไปยังจุดหมาย ระยะเวลา 4 นาที (850 เมตร)

เวลาเปิด-ปิด : เปิดตลอด 24 ชั่วโมง

พิกัด GPS : 64°04'42.5"N 16°13'50.2"W

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ โจกุลซาร์ลอน ได้ที่ : http://www.palanla.com/index.php?op=abroadLocation-detail&id=175


11. น้ำตกสวาร์ติฟอสส์ (Svartifoss)

            น้ำตกสวาร์ติฟอสส์ (Svartifoss) หรือ Black Waterfall อันหมายถึง น้ำตกสีดำ เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวหลักของ Skaftafell National Park อุทยานแห่งชาติที่ใหญ่เป็นอันดับสองของประเทศไอซ์แลนด์ แม้สวาร์ติฟอสส์จะไม่ใช่น้ำตกที่สูงมากนัก แต่จุดเด่นนั้นอยู่ที่แท่นหินลาวาสีดำลดหลั่นกันเป็นชั้นๆ ที่ธรรมชาติได้รังสรรค์ความแปลกตาทางธรณีวิทยา สร้างความงดงาม และอลังการให้กับน้ำตกแห่งนี้ได้อย่างน่าอัศจรรย์

           ความสวยที่มีเอกลักษณ์ของผนังหินที่น้ำตกสวาร์ติฟอสส์แห่งนี้ยังเป็นแรงบันดาลใจให้กับ Guðjón Samúelsson สถาปนิกผู้ออกแบบสถาปัตยกรรมชื่อดังอย่างโบสถ์ Hallgrímskirkja และ The National Theatre ที่เมืองเรคยาวิกอีกด้วย

ข้อมูลการเดินทาง : จากเมืองเรคยาวิกไปยังน้ำตกสวาร์ติฟอสส์ ใช้เส้นทาง Vesturlandsvegur/ ถนนหมายเลข 49 ระยะเวลา 3 นาที (1.3 กม.) จากนั้น ตาม Þjóðvegur 1, ถนนหมายเลข 1 และ Þjóðvegur ไปทาง Skaftafellsvegur มุ่งไป Austurland ระยะเวลา 3 ชม. 58 นาที (316 กม.) เลี้ยวซ้าย เข้าสู่ Skaftafellsvegur ปลายทางจะอยู่ทางซ้าย

เวลาเปิด-ปิด : เปิดตลอด 24 ชั่วโมง

พิกัด GPS : 64°01'39.1"N 16°58'31.1"W

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ น้ำตกสวาร์ติฟอสส์ ได้ที่ : http://www.palanla.com/index.php?op=abroadLocation-detail&id=176


12. เรย์นิสฟายาร่า (Reynisfjara)

            เรย์นิสฟายาร่า (Reynisfjara) เป็นหาดทรายดำที่มีชื่อเสียงที่สุดของไอซ์แลนด์ และเป็นหนึ่งในหาดที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลก ทรายสีดำที่ชายหาดแห่งนี้เป็นตะกอนเม็ดทรายสีดำที่เกิดจากการสึกกร่อนของหินลาวา และแนวหินบะซอลต์ที่ถูกพัดพาไปสะสมตัวบริเวณชายหาด

           โดยเม็ดทรายนี้มีความหนาแน่นและทนทานต่อการแตกสลายผุพัง บริเวณนี้เป็นบริเวณที่คลื่นพัดแรง จะพัดเอาวัตถุที่มีความหนาแน่นน้อยกว่าออกไป วัตถุที่มีความหนาแน่นมากกว่าจะถูกพัดพาออกไปได้ช้าหรือยังคงสะสมรวมตัวกันอยู่ จนกลายเป็นชายหาดที่มีทรายสีดำ

ข้อมูลการเดินทาง : จากเมืองเรคยาวิกไปยังเรย์นิสฟายาร่า ใช้เส้นทาง Vesturlandsvegur/ถนนหมายเลข 49 ระยะเวลา 3 นาที (1.3 กม.) ตาม Þjóðvegur 1, ถนนหมายเลข 1 และ Þjóðvegur ไปทาง Reynishverfisvegur มุ่งไป Suðurland ระยะเวลา 2 ชม. 13 นาที (173 กม.) จากนั้น เลี้ยวขวา เข้าสู่ Reynishverfisvegur ระยะเวลา 6 นาที (5.9 กม.) Reynisfjara ตั้งอยู่ห่างจากเรคยาวิคไปทางทิศตะวันออกประมาณ 180 กิโลเมตร นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางมาเที่ยวที่นี่ได้ทั้งจากฝั่งตะวันออก คือ Vik หรือจากทางฝั่งตะวันตกคือ Reykjavik

เวลาเปิด-ปิด : เปิดตลอด 24 ชั่วโมง

พิกัด GPS : 63°24'20.7"N 19°04'17.8"W

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ เรย์นิสฟายาร่า ได้ที่ : http://www.palanla.com/index.php?op=abroadLocation-detail&id=178


13. เรย์นิสดรังการ์ (Reynisdrangar)

            เรย์นิสดรังการ์ (Reynisdrangar) เป็นกลุ่มหินภูเขาไฟที่โผล่ขึ้นมาจากมหาสมุทรแอตแลนติก ที่บริเวณด้านหน้าของหาดทรายดำ (Reynisfjara) ชายฝั่งทิศใต้ของประเทศไอซ์แลนด์ เรย์นิสดรังการ์ ประกอบด้วยโขดหินแหลมขนาดใหญ่สามโขดที่เกี่ยวข้องกับเรื่องเล่าโทรล (Troll) ภูตตามความเชื่อและตำนานของไอซ์แลนด์

           เล่ากันว่า โทรล 3 ตัวได้พยายามที่จะลากเรือเข้าสู่ฝั่งแต่ไม่สำเร็จ เมื่อแสงแดดแห่งรุ่งอรุณมาเยือน โทรลทั้งสามจึงต้องคำสาปกลายเป็นหินกลางทะเลเช่นที่ปรากฏในปัจจุบัน ภาพของโขดหินที่ตั้งตระหง่านอยู่ท่ามกลางมหาสมุทรที่มีคลื่นลมปั่นป่วนและแนวชายฝั่งสีดำมีความสวยงาม อัศจรรย์

ข้อมูลการเดินทาง : จากเมืองเรคยาวิกไปยังเรย์นิสดรังการ์ ใช้เส้นทาง Vesturlandsvegur/ถนนหมายเลข 49 ระยะเวลา 3 นาที (1.3 กม.) ตาม Þjóðvegur 1, ถนนหมายเลข 1 และ Þjóðvegur ไปทาง Reynishverfisvegur มุ่งไป Suðurland ระยะเวลา 2 ชม. 13 นาที (173 กม.) จากนั้น เลี้ยวขวา เข้าสู่ Reynishverfisvegur ระยะเวลา 6 นาที (5.9 กม.)

เวลาเปิด-ปิด : เปิดตลอด 24 ชั่วโมง

พิกัด GPS : 63°24'05.6"N 19°02'11.2"W

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ เรนิสดรังการ์ ได้ที่ : http://www.palanla.com/index.php?op=abroadLocation-detail&id=177


14. แหลมดีร์โฮเลย์ (Dyrholaey)

            แหลมดีร์โฮเลย์ (Dyrholaey) เรียกกันอีกชื่อหนึ่งว่า "เกาะเนินประตู (Door hill island)" โดยมีที่มาจากซุ้มลาวาที่มีลักษณะโค้งขนาดมหึมายื่นรับอยู่ทางด้านหน้าของแหลม ซึ่งเกิดจากการกัดเซาะของน้ำทะเลและลมที่พัดผ่าน เมื่อทะเลสงบเรือขนาดใหญ่สามารถจะแล่นผ่านโค้งหินนี้ได้ แม้กระทั่งนักบินผาดโผนก็เคยบินผ่านโค้งหินนี้มาแล้ว

           ดีร์โฮเลย์เป็นเขตอนุรักษ์ธรรมชาติมาตั้งแต่ปี ค.ศ.1978 จากตรงนี้เมื่อมองไปทางทิศเหนือจะพบกับธารน้ำแข็ง Myrdalsjokull  ส่วนทางฝั่งตะวันออกคือกลุ่มหินลาวา Reynisdrangar และฝั่งตะวันตกจะเป็นภาพชายหาดที่ทอดตัวยาวไกลนับสิบกิโลเมตร

ข้อมูลการเดินทาง : จากเมืองเรคยาวิกไปยังดีร์โฮเลย์ ใช้เส้นทาง Vesturlandsvegur/ถนนหมายเลข 49 ระยะเวลา 3 นาที (1.3 กม.) ตาม Þjóðvegur 1, ถนนหมายเลข 1 และ Þjóðvegur ไปทาง Dyrhólavegur มุ่งไป  Suðurland ระยะเวลา 2 ชั่วโมง 6 นาที (166 กม.) ขับมุ่งสู่ Dyrhólavegur ระยะเวลา 12 นาที (6.5 กม.)

เวลาเปิด-ปิด : เปิดตลอด 24 ชั่วโมง

พิกัด GPS : 63°23'58.5"N 19°07'36.8"W

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ แหลมดีร์โฮเลย์ ได้ที่ : http://www.palanla.com/index.php?op=abroadLocation-detail&id=179


15. น้ำตกสโกกาฟอสส์ (Skogafoss)

            น้ำตกสโกกาฟอสส์ (Skogafoss) คือแลนด์มาร์กที่สวยงามอีกแห่งหนึ่งของประเทศไอซ์แลนด์ นอกจากสโกกาฟอสส์จะเป็นน้ำตกที่มีชื่อเสียงที่สุดทางตอนใต้ของประเทศแล้ว ยังเป็นน้ำตกที่สูงที่สุด โดยมีความสูงราว 62 เมตร และเป็นน้ำตกที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 5 ของประเทศไอซ์แลนด์อีกด้วย

           สโกกาฟอสส์เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ มีน้ำแรงและไอน้ำฟุ้งกระจายตลอดเวลา หากนักท่องเที่ยวมาถึงที่นี่ในช่วงเวลาที่มีแดดส่องมาทางน้ำตกจะสามารถเห็นรุ้งกินน้ำอยู่ด้านหน้าน้ำตกได้อย่างชัดเจน บางครั้งหากโชคดีอาจได้เห็นรุ้งกินน้ำสองชั้น (Double Rainbow) ซึ่งสวยงามและน่าประทับใจมาก

ข้อมูลการเดินทาง : จากเมืองเรคยาวิกไปยังสโกการ์ฟอสส์ ใช้เส้นทาง Vesturlandsvegur/ถนนหมายเลข 49 ระยะเวลา 3 นาที (1.3 กม.) จากนั้นตาม Þjóðvegur 1, ถนนหมายเลข 1 และ Þjóðvegur ไปทาง Skógar มุ่งไป Suðurland ระระเวลา 1 ชม. 51 นาที (146 กม.) เดินทางต่อไปบน Skógar ขับไปทาง Skógafoss/Skógarfoss ระยะเวลา 4 นาที (1.4 กม.)

เวลาเปิด-ปิด : เปิดตลอด 24 ชั่วโมง

พิกัด GPS : 63°31'55.4"N 19°30'41.0"W

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ น้ำตกสโกกาฟอสส์ ได้ที่ : http://www.palanla.com/index.php?op=abroadLocation-detail&id=180


16. น้ำตกเซลจาลันด์ฟอสส์ (Seljalandfoss)

            น้ำตกเซลจาลันด์ฟอสส์ (Seljalandfoss) น้ำตกที่มีชื่อเสียงและถูกขนานนามว่าเป็นน้ำตกที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของไอซ์แลนด์ เป็นส่วนหนึ่งของแม่น้ำเซลย่าลันด์ซ่า (Seljalandsá) ซึ่งมีต้นกำเนิดอยู่ใต้ธารน้ำแข็ง น้ำตกแห่งนี้แม้จะค่อนข้างแคบแต่มีจุดเด่นอยู่ที่ความสูง และนักท่องเที่ยวสามารถเดินลอดไปหลังม่านน้ำตกได้ เป็นการเที่ยวชมน้ำตกที่ให้มุมมองแปลกตาและน่าค้นหาต่างจากที่อื่นๆ

           หากนักท่องเที่ยวเดินทางไปเยือนเซลจาลันด์ฟอสส์ในช่วงหน้าร้อน ภาพที่จะได้เห็น คือ ต้นหญ้าและมอสสีเขียวขจีที่ขึ้นโอบล้อมน้ำตก รวมทั้งดอกไม้หลากสีสันสวยงามทั่วบริเวณ

ข้อมูลการเดินทาง : จากเมืองเรคยาวิกไปยังน้ำตกเซลจาลันด์ฟอสส์ ใช้เส้นท้าง Vesturlandsvegur/ถนนหมายเลข 49 ระยะเวลา 3 นาที (1.3 กม.) จากนั้นใช้ Þjóðvegur 1, ถนนหมายเลข 1 และ Þjóðvegur ไปทาง Þórsmerkurvegur มุ่งไป Suðurland ระยะเวลา 1 ชม. 31 นาที (119 กม.) ตาม Þórsmerkurvegur ไปยัง Seljalandsfoss ระยะเวลา 2 นาที (800 เมตร)

เวลาเปิด-ปิด : เปิดตลอด 24 ชั่วโมง

พิกัด GPS : 63°36'56.3"N 19°59'18.9"W

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ น้ำตกเซลจาลันด์ฟอสส์ ได้ที่ : http://www.palanla.com/index.php?op=abroadLocation-detail&id=181


17. ไกเซอร์ (Geysir)

            ไกเซอร์ (Geysir) เป็นน้ำพุร้อนที่สูงที่สุดของไอซ์แลนด์ เวลาพุออกมาบางครั้งสูงถึง 80 เมตร เมื่อน้ำพุหยุดการพุบริเวณนั้นจะอบอวลไปด้วยไอน้ำดูแล้วเหมือนมีหมอกควันปกคลุมอยู่ ไกเซอร์ที่นี่ยังเป็นต้นตำรับของคำว่าไกเซอร์ที่ใช้เรียกน้ำพุลักษณะนี้ทั่วโลก

           น้ำพุร้อนไกเซอร์เป็นลักษณะทางธรณีวิทยาที่เกิดขึ้นชั่วคราว โดยอายุของไกเซอร์จะมีอายุเพียงไม่กี่พันปีเท่านั้น และสามารถพบไกเซอร์ได้เพียงไม่กี่แห่งในโลก ซึ่งหนึ่งในนั้นคือที่ประเทศไอซ์แลนด์ นับเป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่หาชมได้ยากชนิดหนึ่ง

ข้อมูลการเดินทาง : จากเมืองเรคยาวิกไปยังไกเซอร์ ใช้เส้นทาง Vesturlandsvegur/ถนนหมายเลข 49 ระยะเวลา 3 นาที (1.3 กม.) จากนั้นใช้ Þjóðvegur 1 และ Biskupstungnabraut ไปทาง ถนนหมายเลข 35 มุ่งไป Suðurland ระยะเวลา 1 ชม. 23 นาที (107 กม.)

เวลาเปิด-ปิด : เปิดตลอด 24 ชั่วโมง

พิกัด GPS : 64°18'37.4"N 20°18'08.5"W

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ไกเซอร์ ได้ที่ : http://www.palanla.com/index.php?op=abroadLocation-detail&id=182


18. น้ำตกกุลล์ฟอสส์ (Gullfoss)

            น้ำตกกุลล์ฟอสส์ (Gullfoss) หรือ “ไนแองการ่าแห่งไอซ์แลนด์” เป็นน้ำตกขนาดใหญ่และมีชื่อเสียงมากที่สุดแห่งหนึ่ง จุดเด่นของกุลล์ฟอสส์คือการไหลของน้ำตกเป็นรูปทรงกรวยสามเหลี่ยมแปลกตา และเป็นการไหลลงเป็นสองช่วง ก่อนจะตกลงสู่หุบเขาธารน้ำแข็งลึกเบื้องล่าง จนเกิดกลุ่มละอองน้ำสีขาวคล้ายกลุ่มควันพุ่งขึ้นมาจากหุบเขาลึกซึ่งเกิดจาก glacial floods ครั้งรุนแรงในช่วงปลายยุคน้ำแข็ง

           นับเป็นอีกหนึ่งในความมหัศจรรย์ทางธรรมชาติระดับโลกที่ตั้งอยู่ที่ประเทศไอซ์แลนด์ นักท่องเที่ยวสามารถชมความงดงามของน้ำตกจากด้านบน หรือเดินไปตามเส้นทางที่ต่ำกว่าเพื่อให้ชมทัศนียภาพอย่างใกล้ชิดก็ได้เช่นกัน

ข้อมูลการเดินทาง : จากเมืองเรคยาวิกไปยังน้ำตกกุลลฟอสส์ ใช้เส้นทาง Vesturlandsvegur/ถนนหมายเลข 49 ระยะเวลา 3 นาที (1.3 กม.) จากนั้นตาม Þjóðvegur 1, Biskupstungnabraut และ ถนนหมายเลข 35 ไปทาง Gullfoss Parking มุ่งไป Suðurland ระยะเวลา 1 ชม. 31 นาที (116 กม.) จากนั้นขับไปทาง Gullfoss Parking

เวลาเปิด-ปิด : เปิดตลอด 24 ชั่วโมง

พิกัด GPS : 64°19'37.5"N 20°07'11.8"W

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ น้ำตกกุลล์ฟอสส์ ได้ที่ : http://www.palanla.com/index.php?op=abroadLocation-detail&id=183


19. อุทยานแห่งชาติซิงเควลลิร์ (Thingvellir National Park)

            อุทยานแห่งชาติซิงเควลลิร์ (Thingvellir National Park) เป็นอุทยานแห่งชาติแห่งแรกของประเทศไอซ์แลนด์ ตั้งอยู่ระหว่างรอยแยกของหุบเขากับทะเลสาบทางธรรมชาติที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ สถานที่แห่งนี้มีความสำคัญในฐานะที่เคยเป็นสภาแห่งแรกของประเทศไอซ์แลนด์ โดยรัฐสภาได้ก่อตั้งเมื่อปี ค.ศ. 930 และต่อเนื่องมาจนถึงปี ค.ศ. 1789

           อุทยานแห่งชาติซิงเควลลิร์เป็นจุดกำเนิดทางประวัติศาสตร์และทางธรณีวิทยาที่น่าสนใจของโลก เนื่องจากเป็นรอยต่อระหว่างทวีปยูเรเซียและทวีปอเมริกาเหนือ และยังมีร่องแยกแผ่นดินที่เกิดจากแผ่นดินไหวเมื่อปี ค.ศ. 1784 เป็นทางยาวหลายหมื่นกิโลเมตร องค์การยูเนสโก (UNESCO) ได้ขึ้นทะเบียนให้อุทยานแห่งนี้เป็นมรดกโลกในปี ค.ศ. 2004

ข้อมูลการเดินทาง : จากเมืองเรคยาวิกไปยังอุทยานแห่งชาติซิงเควลลิร์ ใช้เส้นทาง Vesturlandsvegur/ถนนหมายเลข 49 ระยะเวลา 3 นาที (1.3 กม.) จากนั้นตาม Vesturlandsvegur ไปทาง Þingvallavegur มุ่งไป Suðurland ระยะทาง 31 นาที (35.5 กม.)

เวลาเปิด-ปิด : เปิดตลอด 24 ชั่วโมง

พิกัด GPS : 64°15'21.0"N 21°07'47.6"W

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ อุทยานแห่งชาติซิงเควลลิร์ ได้ที่ : http://www.palanla.com/index.php?op=abroadLocation-detail&id=184


20. บลูลากูน (Blue Lagoon)

            บลูลากูน (Blue Lagoon) หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงที่สุดในไอซ์แลนด์ ที่มีนักท่องเที่ยวมาเยือนถึงปีละกว่า 5 แสนคน  เป็นบ่อน้ำร้อนสีฟ้าที่อุดมไปด้วยแร่ธาตุนานาชนิดจากใต้ดิน แร่ธาตุบางชนิดนอกจากจะมีสรรพคุณในการบำรุงผิวพรรณแล้ว ยังรักษาโรคผิวหนังบางชนิดได้ด้วย

           นักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวที่บ่อน้ำพุร้อนบลูลากูนแห่งนี้ สามารถลงไปแช่ตัวในบ่อน้ำพุร้อนเพื่อความผ่อนคลายได้ ซึ่งอุณหภูมิของน้ำในบ่อเป็นอุณหภูมิที่กำลังพอเหมาะสำหรับการผ่อนคลายกล้ามเนื้อและเส้นเอ็น น้ำในบลูลากูนจะเปลี่ยนใหม่อัตโนมัติทุกๆ 48 ชั่วโมง

ข้อมูลการเดินทาง : จากเมืองเรคยาวิกไปยังบลูลากูน ใช้เส้นทาง ถนนหมายเลข 49 ระยะเวลา 4 นาที (1.2 กม.) จากนั้นตาม ถนนหมายเลข 41 และ Grindavíkurvegur มุ่งไป Suðurnes ระยะเวลา 35 นาที (45.1 กม.) จากนั้นขับไปยังจุดหมาย ระยะเวลา 4 นาที (2.6 กม.)

เวลาเปิด-ปิด : 08.00 - 23.00 น.

พิกัด GPS : 63°52'49.4"N 22°26'58.3"W

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ บลูลากูน ได้ที่ : http://www.palanla.com/index.php?op=abroadLocation-detail&id=185
 

 

ข้อมูลอื่นๆ ที่ควรรู้ : 

- เว็บไซต์พยากรณ์อากาศ
   
https://www.accuweather.com

- ศูนย์บริการข้อมูลท่องเที่ยวประเทศไอซ์แลนด์ 
   https://www.iceland.is

- สกุลเงินที่ใช้ : โครนาไอซ์แลนด์ (ISK)


แอปพลิเคชัน "บริการรถแท็กซี่" ในประเทศไอซ์แลนด์

- TALIXO สามารถดาวน์โหลดได้ที่ App Store (iOS) และ Play Store (Android)


แอปพลิเคชัน "แผนที่ในการนำทาง" ในประเทศไอซ์แลนด์ 

- Google Map สามารถดาวน์โหลดได้ที่ App Store (iOS) และ Play Store (Android)

 

สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ

รวมที่เที่ยว 4 เมืองเด่น จาก ออสโล ถึง โอเลซุนด์ ประเทศนอร์เวย์

นอร์เวย์ (Norway) ดินแดนแห่งฟยอร์ดและขุนเขาที่งดงามราวกับภาพวาด การเดินทางจากออสโล (Oslo) เมืองหลวงของประเทศ สู่เบอร์เกน (Bergen) ฟลอม (Flam) และเอลซุนด์ ( Alesund) เปรียบเสมือนการเปิดประตูสู่โลกใหม่ที่เต็มไปด้วยธรรมชาติอันบริสุทธิ์ เส้นทางสายนี้จะพาคุณไปสัมผัสกับบ้านเมืองน่ารักๆ ทัศนียภาพที่สวยงามตระการตาของเทือกเขาสูงชัน น้ำตกที่ไหลเชี่ยว ฟยอร์ดที่ทอดยาว และหมู่บ้านเล็กๆ ที่ซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางธรรมชาติของนอร์เวย์

อ่านต่อ

รวมที่เที่ยว 3 เมืองเด่น จาก ออสโล ถึง โลโฟเทน ประเทศนอร์เวย์

นอร์เวย์ (Norway) ดินแดนแห่งฟยอร์ดและขุนเขาที่แสนสวยงาม เต็มไปด้วยเส้นทางท่องเที่ยวมากมายที่พร้อมจะมอบความทรงจำสุดประทับใจให้แก่ผู้มาเยือน การเดินทางจากออสโล (Oslo) สู่ทรุมเซอ (Tromso) และโลโฟเทน (Lofoten) นับเป็นอีกหนึ่งเส้นทางท่องเที่ยวที่น่าสนใจ เพราะนักท่องเที่ยวจะได้เดินทางผ่านภูมิประเทศที่หลากหลาย ตั้งแต่เมืองหลวงที่ทันสมัย ไปจนถึงธรรมชาติอันบริสุทธิ์ของอาร์กติก และหมู่เกาะที่สวยงามราวภาพวาด

อ่านต่อ

หมู่บ้านซอมมารอย เมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์

หมู่บ้านซอมมารอย (Sommarøy) เป็นหมู่บ้านชาวประมงเก่าแก่ทางตะวันตกของเมืองทรุมเซอ (Tromsø) ประเทศนอร์เวย์ อยู่ห่างจากเมืองทรุมเซอไปทางตะวันตกประมาณ 58 กิโลเมตร เป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมเนื่องจากมีหาดทรายขาวและทิวทัศน์สวยงาม

อ่านต่อ

มหาวิหารอาร์กติก เมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์

มหาวิหารอาร์กติก (Arctic Cathedral) เป็นหนึ่งในแลนด์มาร์คที่โดดเด่นที่สุดของเมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์ ด้วยสถาปัตยกรรมที่เป็นเอกลักษณ์และความหมายอันลึกซึ้ง ทำให้มหาวิหารแห่งนี้กลายเป็นสัญลักษณ์ของเมืองและเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเยือนทรุมเซอ

อ่านต่อ

มหาวิหารทรุมเซอ เมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์

มหาวิหารทรุมเซอ (Tromso Cathedral) หรือที่รู้จักในชื่อ "Tromsdalen Church" เป็นโบสถ์ที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นด้วยโครงสร้างไม้ขนาดใหญ่ และการออกแบบตกแต่งภายในอันงดงาม

อ่านต่อ

ท่าเรือทรุมเซอ เมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์

ท่าเรือทรุมเซอ (Port of Tromsø) ตั้งอยู่ในใจกลางเมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์ ท่าเรือแห่งนี้เป็นมากกว่าแค่จุดขึ้นลงเรือเท่านั้น แต่ยังเป็นหัวใจสำคัญของเมืองทรุมเซอ และเป็นประตูสู่ดินแดนอาร์กติกที่น่าตื่นตาตื่นใจ

อ่านต่อ

กระเช้าไฟฟ้าเฟียลไฮเซน เมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์

กระเช้าไฟฟ้าเฟียลไฮเซน (Fjellheisen Cable Car) เป็นอีกหนึ่งไฮไลต์ที่พลาดไม่ได้เมื่อมาเยือนเมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์ การนั่งกระเช้าลอยฟ้าขึ้นไปบนยอดเขาสโตรสไตเนิน (Storsteinen Mountain) จะพานักท่องเที่ยวไปสัมผัสกับวิวเมืองทรุมเซอและฟยอร์ดอันงดงามแบบ 360 องศา

อ่านต่อ

หมู่บ้านแฮมนอย หมู่เกาะโลโฟเทน ประเทศนอร์เวย์

หมู่บ้านแฮมนอย (Hamnoy) ถือเป็นสัญลักษณ์ของหมู่เกาะโลโฟเทน (Lofoten) มีลักษณะโดดเด่นคือ “โรบูเอ้” สีแดง (Rorbuer) กระท่อมสำหรับพักชั่วคราวของชาวประมงที่เรียงรายอยู่บนโขดหิน และมีฉากหลังเป็นภูเขา เป็นภาพที่ปรากฏอยู่บนโปสการ์ด ของที่ระลึก และสื่อประชาสัมพันธ์ท่องเที่ยวต่างๆ

อ่านต่อ

หมู่บ้านนูส์ฟยอร์ด หมู่เกาะโลโฟเทน ประเทศนอร์เวย์

หมู่บ้านนูส์ฟยอร์ด (Nusfjord) คือหมู่บ้านชาวประมงเล็ก ๆ ตั้งอยู่บนชายฝั่งด้านใต้ของเกาะ Flakstadøya ในอ่าวเวสฟยอร์เดน (Vestfjord) เขตเทศบาล Flakstad ของเมือง Lofoten ประเทศนอร์เวย์ หมู่บ้านแห่งนี้ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในหมู่บ้านชาวประมงที่สวยที่สุดในนอร์เวย์ และอาจจะเป็นหนึ่งในหมู่บ้านชาวประมงที่สวยที่สุดในโลกก็เป็นได้

อ่านต่อ

หมู่บ้านซาคริซอย หมู่เกาะโลโฟเทน ประเทศนอร์เวย์

หมู่บ้านซาคริซอย (Sakrisoy) เป็นหมู่บ้านเล็กๆ ที่ตั้งอยู่เชิงเขาโอลสตินด์ (Olstind) ซึ่งเป็นหนึ่งในภูเขาที่โดดเด่นที่สุดของหมู่เกาะโลโฟเทน (Lofoten) และอีกหนึ่งลักษณะที่โดดเด่นคือหมู่บ้านนี้คือ “โรบูเอ้” สีเหลือง (Rorbuer) กระท่อมสำหรับพักชั่วคราวของชาวประมงที่เรียงรายอยู่ตามริมฝั่งฟยอร์ด

อ่านต่อ
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ