- หน้าแรก
- ท่องเที่ยวต่างประเทศ
- วัดเชียงทอง สุดยอดอัญมณีศิลปะล้านช้างในหลวงพระบาง ประเทศลาว
วัดเชียงทอง สุดยอดอัญมณีศิลปะล้านช้างในหลวงพระบาง ประเทศลาว
- อ่าน (15,788)
- By Webmaster
- 10:06:30 | 13 ส.ค. 2561
วัดเชียงทอง สุดยอดอัญมณีศิลปะล้านช้างในหลวงพระบาง ประเทศลาว
Xieng Thong Temple, Luang Prabang, Laos
วัดเชียงทอง เพชรเม็ดเอกแห่งล้านนา แขวงหลวงพระบาง ประเทศลาว
วัดเชียงทองตั้งอยู่ริมแม่น้ำโขง ถือว่าเป็นวัดเก่าแก่ที่สุดของแขวงหลวงพระบาง ประเทศลาว นับเป็นสถานที่ท่องเที่ยวไฮไลท์ของการมาเยือนเมืองมรดกโลกนี้ โดยเป็นวัดที่มีความสวยงามอลังการจนได้รับการยกย่องจากนักโบราณคดีว่าเป็นดั่ง “อัญมณีแห่งสถาปัตยกรรมสกุลช่างล้านช้าง” ที่งดงามที่สุดในดินแดนลาว
ประวัติของวัดเชียงทอง
ริมแม่น้ำโขง ที่วัดเชียงทองตั้งอยู่
วัดเชียงทองได้ถูกสร้างขึ้นใน พ.ศ. 2103 โดยพระเจ้าไชยเชษฐาธิราช กษัตริย์ผู้ครองอาณาจักรล้านช้างและล้านนา ก่อนที่พระองค์จะย้ายเมืองหลวงจากหลวงพระบางไปยังนครหลวงเวียงจันทน์ วัดนี้จึงถือว่าเป็น “วัดประตูเมือง” และท่าเทียบเรือด้านเหนือสำหรับการเสด็จประพาสทางชลมารคของกษัตริย์หลวงพระบางด้วย ทำให้วัดเชียงทองได้รับการอุปถัมภ์มาโดยตลอด
พระประธานที่ประดิษฐานภายในสิมหรือ ชาวลาวเรียกว่า พระองค์หลวง
และที่สำคัญยังเป็นวัดเดียวที่ไม่ถูกเผาทำลายในศึกฮ่อธงดำบุกปล้นเมืองหลวงพระบาง ใน พ.ศ. 2428 สิ่งก่อสร้างที่สำคัญ เช่น พระอุโบสถ ซุ้มประตูโขง พระธาตุ หอไหว้น้อย หอไหว้สีกุหลาบ หอไหว้หลังพระอุโบสถ หอกลอง หอราชโกศเจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวงศ์ ฯลฯ ยังคงอยู่อย่างครบถ้วน และสมบูรณ์เหมือนเดิมทุกประการนับเป็นตัวแทนของศิลปะสกุลช่างล้านช้างที่งดงามและสมบูรณ์ และเป็นความโชคดีของวัดเชียงทองอย่างยิ่ง
การเดินทางจากสนามบินไปตัวเมือง
- รถแท็กซี่ เป็นวิธีการเดินทางที่ได้รับความนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการความสะดวกสบาย หรือมีสัมภาระติดตัวค่อนข้างมาก ใช้เวลาเดินทางเข้าเมืองประมาณ 20 นาที โดยค่าโดยสารจากสนามบิน ราคา 50,000 กีบ นั่งได้ 3 คน (ลงที่เดียวกัน)
- รถโดยสารรับจ้างทั่วไป โดยนักท่องเที่ยวสามารถเดินออกจากสนามบินแล้วข้ามถนนมายังอีกฝั่ง จะมีรถตุ๊กตุ๊กวิ่งไปมาอยู่ตลอด สามารถต่อรองราคาแล้วระบุจุดหมายปลายทางได้ ราคาอยู่ที่ประมาณ 20,000 กีบ
- รถเมล์ ต้องข้ามฝั่งเช่นเดียวกันกับรถโดยสารรับจ้างทั่วไป ซึ่งจะเป็นรถเมล์สีเขียววิ่งสวนกันไปมา ราคาอยู่ที่ 5,000 กีบ/คน แต่รถมาไม่ถี่นัก สามารถดู GPS ของรถเมล์ที่ต้องการได้ที่ https://lao.busnavi.asia
การเดินทางไปวัดเชียงทอง
- รถมอเตอร์ไซค์ เป็นวิธีการเดินทางที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวมากที่สุด สามารถเช่ามอเตอร์ไซค์ได้ตามที่พักหรือในเมือง ราคาวันละประมาณ 100,000 กีบ
- รถรับจ้างท้องถิ่น มีบริการรถรับจ้างท้องถิ่นทั้งจากสนามบินและตัวเมือง สามารถว่าจ้างแบบเหมาจ่ายเพื่อรับ-ส่งถึงอาคารผู้โดยสารได้
- รถยนต์ส่วนตัว ใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 13 ตัดเข้าถนน Phetsarat จากสนามบินเพื่อเข้าสู่ตัวเมือง
เวลาในการเปิด – ปิดทำการ
วัดเชียงทองเปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 06.00 น. - 17.30 น.
บันไดทางเดินขึ้นวัดเชียงทอง
การซื้อบัตรเข้าชม
สามารถซื้อบัตรเข้าชมได้ที่ด้านหน้าวัดเชียงทอง ราคา 20,000 กีบ
จุดท่องเที่ยวสำคัญบริเวณวัด
หลังคาของสิมที่ซ้อนกัน 3 ตับ ลักษณะโค้งงอนและลาดต่ำ
พระอุโบสถ (ชาวลาวเรียกว่า “สิม”) ของวัดนี้ถือว่าเป็นแบบอย่างของหลวงพระบางอันเก่าแก่ สร้างด้วยการก่ออิฐถือปูน มีโครงสร้างที่ไม่สูงนัก มีความงดงามด้วยสัดส่วนและการประดับตกแต่งต่างๆ อย่างลงตัว จนได้รับการยกย่องว่ามีความงดงามอลังการมากที่สุด เปรียบประดุจอัญมณีแห่งงานสถาปัตยกรรมของราชอาณาจักรลาวอย่างแท้จริง
สิ่งที่โดดเด่นเป็นพิเศษ คือ หลังคาซ้อน 3 ตับ ลักษณะโค้งงอน และลาดต่ำลงมามากถือเป็นแบบฉบับของสิมแบบล้านช้าง ซึ่งชาวลาว เปรียบสิมหลังคาโค้งต่ำอย่างสิมวัดเชียงทอง หรืออีกหลายวัดในหลวงพระบางเป็นสิมสุภาพสตรี ส่วนสิมทรงสูงอย่างวัดทางเวียงจันทน์หรือวัดในเมืองไทยเป็นสิมสุภาพบุรุษ นอกจากนี้เพื่อป้องกันฝนสาดเข้าไปในพระอุโบสถด้วย
ช่อฟ้า 17 ช่อ อันหมายถึงเป็นวัดของพระมหากษัตริย์และยังเป็นรูปเขาพระสุเมรุ จำลองจักรวาลตามคติพุทธศาสนา
บนกลางสันหลังคามีการทำ “ช่อฟ้า” รูปเขาพระสุเมรุ และทิวเขาสัตตบริภัณฑ์ที่ล้อมรอบ 7 ชั้น รองรับด้วยปลาอานนท์ อันเป็นรูปแบบการจำลองจักรวาลตามคติทางพุทธศาสนา เช่น เดียวกับที่ปรากฏในจิตรกรรมของล้านนาและอยุธยา ซึ่งหน้าบันของพระอุโบสถ แกะสลักเป็นรูปดอกตาเว็น หรือลายดวงอาทิตย์ ที่ดูคล้ายกับลายดอกจอกของไทย
ถัดหน้าบันของพระอุโบสถเข้ามา ภายในประดิษฐานพระประธาน
วิหารน้อย (หรือหอไหว้น้อย) มีหลังคาเป็นรูปใบโพธิ์ตัดครึ่ง อันเป็นรูปแบบของลาวดั้งเดิมซึ่งประดับด้วยกระจกสีงดงามมาก ภายในวิหารประดิษฐานพระพุทธรูปหลายองค์ที่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวของไทย พระราชทานให้แก่ เจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวงศ์
อูบมุง ประดิษฐานพระพุทธรูปที่ในหลวงพระราชทานให้เจ้าศรีสว่างวัฒนา (ด้านข้างสิม)
หอไหว้สีกุหลาบ (สีชมพู) เป็นหอไหว้เก่าแก่ที่มีการบูรณะครั้งใหญ่โดย “ท้าวคำม้าว” เมื่อ พ.ศ. 2500 เพื่อเป็นการฉลอง 25 พุทธศตวรรษของพระพุทธศาสนา ประดับด้วยกระจกสีต่างๆ ตัดเป็นชิ้นเล็กๆ แล้วปะติดปะต่อเป็นภาพเล่าเรื่องต่างๆ เช่น เรื่องราววรรณกรรมชั้นเอกของลาว และเรื่องราวของวิถีชีวิตชาวบ้านทั่วไป
วิหารด้านข้างสิมอีกฝั่ง โดยมีชื่อเรียกว่า หอไหว้สีกุหลาบ
ภายในมีพระพุทธรูปปางไสยาสน์ เนื้อสัมฤทธิ์ สร้างเมื่อ พ.ศ. 2112 ในสมัยพระเจ้าไชยเชษฐาธิราช สิ่งที่ทำให้แปลกตา คือ ช่องบรรจุพระพุทธรูปขนาดเล็กจำนวนนับพันองค์บนผนังภายในวิหารหลังนี้ เป็นเรื่องของพระอนันตพระพุทธเจ้า
หอพระม่าน พระพม่าที่ชาวหลวงพระบางนับถือมาก
วิหารหลังใหญ่ หลังพระอุโบสถ เป็นหอไหว้เก่าแก่ที่ได้รับการบูรณะขึ้นมาใหม่ หอไหว้หลังนี้ประดิษฐานพระม่าน (พระพม่า) ที่ชาวหลวงพระบางนับถือกันมาก เนื่องจากพม่าได้เข้ามามีอิทธิพลในล้านช้างอยู่ระยะหนึ่ง ในช่วงท้ายพุทธศตวรรษที่ 21 ชาวลาวนิยมมาบนบานเพื่อขอบุตรจากพระม่านองค์นี้
สิมวัดเชียงทอง ยอดอัญมณีแห่งสถาปัตยกรรมล้านนา
นอกจากนี้ยังมีสิ่งก่อสร้างอื่นๆ ที่มีความสวยงามอีกมากมาย เช่น หอกลอง หอราชโกศเจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวงศ์ (โรงเมี้ยนโกศ) สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2505 หลังการสิ้นพระชนม์ของ เจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวงศ์ เป็นอาคารที่มีหลังคาสูง ประดับด้วยงานแกะสลักเรื่องรามเกียรติ์ งดงามมาก หอราชโกศนี้ใช้เป็นพิพิธภัณฑ์เก็บรักษามรดกเก่าแก่ของหลวงพระบาง เช่น ราชรถ ไม้แกะสลักปิดทอง ประดิษฐานพระโกศ 3 องค์ คือ องค์ใหญ่ตรงกลางเป็นของเจ้าศรีสว่างวงศ์ องค์เล็กด้านหลังของพระราชมารดา ส่วนองค์ด้านหน้าเป็นของพระเจ้าอา
เวลาที่เหมาะสมสำหรับการท่องเที่ยว
วิหารแดงหรือหอไหว้สีกุหลาบ ด้านข้างพระอุโบสถวัดเชียงทอง
เนื่องจากวัดเชียงทองเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอันสำคัญของหลวงพระบาง ที่ในแต่ละวันมีคนไปเที่ยวชมเป็นจำนวนมาก ซึ่งวัดเชียงทองก็ยังเต็มเปี่ยมไปด้วยวิถีแห่งพุทธศาสนาทำให้นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางเข้าชมได้ตลอดทั้งปี แต่ควรไปในช่วงเช้า เพราะแดดจะยังไม่ส่องตัววัดอย่างเต็มที่ ทำให้ถ่ายรูปได้อย่างสวยงาม
นอกจากนี้หากนักท่องเที่ยวต้องการบรรยากาศที่พิเศษออกไป สามารถเดินทางไปในช่วงสงกรานต์ได้ เนื่องจากมีประเพณีสรงน้ำพระม่านของชาวหลวงพระบาง
ข้อมูลทั่วไปที่ควรรู้
โรงเมี้ยนโกศวัดเชียงทอง สร้างขึ้นเพื่อใช้เพื่อเก็บโกศและพระราชรถ
พระม่านเพี้ยนมาจากคำว่า "พม่า" เนื่องจากพม่าได้สร้างองค์พระจากทองคำเนื้อนพเก้า (ทองเนื้อเก้าคือทองที่สวยและสูงค่าที่สุด )เสร็จแล้วจึงได้นำขึ้นแพล่องแม่น้ำโขงเพื่อนำกลับพม่า แต่พอถึงบริเวณเมืองหลวงพระบาง องค์พระได้หยุดและหมุนวนน้ำ ทำยังไงก็ไม่สามารถดึงแพไปต่อได้ เจ้าอาวาสทุกวัดได้มาอัญเชิญ อุ้มท่านขึ้นจากแม่น้ำโขงแต่ก็ไม่มีวัดไหนสามารถยกขึ้นมาได้ จนกระทั่งเจ้าอาวาส "วัดเชียงทอง" มาตั้งจิตอธิษฐาน และสามารถอุ้มองค์พระขึ้นจากน้ำได้ราวปาฏิหาริย์ จึงได้อัญเชิญเข้าวัดและทำการสมโภชอย่างยิ่งใหญ่
นักท่องเที่ยวที่สนใจไปเที่ยว วัดเชียงทอง สามารถศึกษา ข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่
วัดเชียงทอง หลวงพระบาง ประเทศลาว
(Xieng Thong Temple, Luang Prabang, Laos)
ระดับความนิยม :
อัตราค่าเข้าชม : 20,000 กีบ
เวลาเปิด – ปิด : 06.00 น. – 17.30 น.
ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการท่องเที่ยว : ตลอดทั้งปี
สถานที่ตั้ง : แขวงหลวงพระบาง ประเทศลาว
โทรศัพท์ : -
เว็บไซต์ : www.louangprabang.net
ข้อมูลอื่น ๆ ที่ควรรู้ : พยากรณ์อากาศ www.accuweather.com
ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวในหลวงพระบาง http://uxolao.org/ และ http://www.fwab.org/fvc
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ
หน้าผาโทจินโบ จังหวัดฟุกุอิ ประเทศญี่ปุ่น
หน้าผาโทจินโบ (Tojinbo) ตั้งอยู่ในจังหวัดฟุกุอิ (Fukui) ทางภาคตะวันออกของประเทศญี่ปุ่น เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมจากทั้งนักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่นและชาวต่างชาติ ด้วยความงามของหน้าผาที่สูงชันและวิวทิวทัศน์ที่น่าทึ่ง และไม่เพียงแต่เป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยความงามจากธรรมชาติ แต่ยังแฝงไปด้วยตำนานและความเชื่อที่ลึกซึ้งด้วย
อ่านต่อเมจิจิงกูไกเอ็น กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น
เมจิจิงกูไกเอ็น (Meiji Jingu Gaien) หรือ สวนด้านนอกศาลเจ้าเมจิ เป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่ในย่านชินจูกุและอาโอยามะของกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น สวนนี้มีชื่อเสียงในเรื่องของถนนต้นแปะก๊วยสีเหลืองทองที่สวยงาม ทอดยาวสุดลูกหูลูกตาในช่วงฤดูใบไม้ร่วง
อ่านต่อปราสาทฮิโกเนะ จังหวัดชิงะ ประเทศญี่ปุ่น
ปราสาทฮิโกเนะ (Hikone Castle) เป็นหนึ่งในปราสาทดั้งเดิมไม่กี่แห่งของญี่ปุ่นที่ยังคงสภาพสมบูรณ์อยู่จนถึงปัจจุบัน ด้วยสถาปัตยกรรมอันงดงามและประวัติศาสตร์อันยาวนาน ที่นี่จึงเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของจังหวัดชิงะ
อ่านต่อถนนทิวสนเมตาซีคัวญา จังหวัดชิงะ ประเทศญี่ปุ่น
ถนนทิวสนเมตาซีคัวญา (Metasequoia Namiki Avenue) ในจังหวัดชิงะ ประเทศญี่ปุ่น คือถนนที่ได้รับการจัดอันดับให้เป็นหนึ่งใน 100 ถนนที่สวยที่สุดในญี่ปุ่น และเป็นจุดชมธรรมชาติที่ผู้คนหลั่งไหลมาเยี่ยมชมอยู่เสมอ โดยเฉพาะในช่วงฤดูใบไม้ร่วงที่ทิวสนเปลี่ยนเป็นสีเหลืองอร่ามตลอดสองข้างถนน
อ่านต่อ8 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเมืองญาจาง – ดาลัด ประเทศเวียดนาม
หากอยากสัมผัสบรรยากาศเมืองชายทะเลสุดคึกคักอากาศอบอุ่น แล้วไปผ่อนคลายในเมืองแห่งภูเขาอากาศเย็นสบายที่เวียดนามใต้ ญาจางและดาลัดคือคำตอบ! สองเมืองนี้จะพาคุณดื่มด่ำไปกับธรรมชาติที่งดงาม วัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์และกิจกรรมที่หลากหลาย Palanla ได้รวบรวมเอา 8 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเมืองญาจางและดาลัดมาให้แล้วในบทความนี้
อ่านต่ออาสนวิหารญาจาง เมืองญาจาง ประเทศเวียดนาม
อาสนวิหารญาจาง (Christ the King Cathedral Nha Trang) หรือ โบสถ์หินญาจาง สุดยอดสถาปัตยกรรมแบบนีโอโกธิคผสมผสานกับสถาปัตยกรรมแบบโรมัน ที่ตั้งตระหง่านอยู่บนเนินเขาใจกลางเมืองญาจาง ประเทศเวียดนาม อายุเกือบร้อยปีแห่งนี้ เปรียบเสมือนแลนด์มาร์กของเมือง ด้วยผนังหินสีน้ำตาลเข้มที่สลักเสลาอย่างวิจิตรบรรจง และหลังคาสูงชะลูดที่ดูอลังการ ตัดกับท้องฟ้าสีคราม ทำให้โบสถ์แห่งนี้กลายเป็นแลนด์มาร์กที่โดดเด่นและเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยว
อ่านต่อหาดญาจาง เมืองญาจาง ประเทศเวียดนาม
หาดญาจาง (Nha Trang Beach) เป็นหนึ่งในชายหาดที่สวยที่สุดของประเทศเวียดนาม ด้วยชายรูปร่างเหมือนพระจันทร์เสี้ยว ความยาวกว่า 6 กิโลเมตรที่โอบล้อมอ่าวญาจาง ในจังหวัดหวัดคั้ญฮวา ท่ามกลางภูมิทัศน์โดยรอบที่สวยงามของอาคารสถาปัตยกรรมสำคัญๆ มากมาย
อ่านต่อหอคอยแตร่มเฮือง เมืองญาจาง ประเทศเวียดนาม
หอคอยแตร่มเฮือง (Tram Huong Tower) สัญลักษณ์และจุดเช็กอินยอดนิยมของหาดญาจางในปัจจุบัน
อ่านต่อวินเพิร์ลแลนด์ เมืองญาจาง ประเทศเวียดนาม
วินเพิร์ลแลนด์ (Vinpearl Land) เป็นสวนสนุกและรีสอร์ตหรูครบวงจรระดับโลกที่เมืองญาจาง ประเทศเวียดนาม มีจุดเด่นอยู่ที่ทำเลที่ตั้งที่สวยงามติดทะเล และสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน นอกจากนี้ยังมีไฮไลต์สำคัญของการไปเที่ยวที่นี่คือ การนั่งกระเช้าลอยฟ้าข้ามทะเลที่ยาวที่สุดในโลก
อ่านต่อวัดลองเซิน เมืองญาจาง ประเทศเวียดนาม
วัดลองเซิน (Long Son Pagoda) หรือที่รู้จักกันดีในชื่อ “วัดพระใหญ่” เป็นวัดพุทธมหายานเก่าแก่ และใหญ่ที่สุดของเมืองญาจาง ประเทศเวียดนาม นอกจากความสวยงามอลังการของตัววัดแล้ว จากยอดเขายังสามารถมองเห็นวิวของเมืองญาจางและทะเลได้อย่างสวยงาม
อ่านต่อ