- หน้าแรก
- ท่องเที่ยวต่างประเทศ
- ศาลเจ้าฮาโกเน่ จังหวัดคานากาว่า ประเทศญี่ปุ่น
ศาลเจ้าฮาโกเน่ จังหวัดคานากาว่า ประเทศญี่ปุ่น
- อ่าน (5,975)
- By Webmaster
- 03:53:11 | 2 ก.พ. 2566
ศาลเจ้าฮาโกเน่ จังหวัดคานากาว่า ประเทศญี่ปุ่น
Hakone Shrine, Kanagawa, Japan
เสาโทริอิของศาลเจ้าฮาโกเน่ถูกปกคลุมด้วยหิมะในฤดูหนาว
ศาลเจ้าฮาโกเน่ เป็นศาลเจ้าเก่าแก่ในศาสนาชินโต ตั้งอยู่บริเวณตีนเขาฮาโกเน่ และอยู่ริมทะเลสาบอะชิ จังหวัดคานากาว่า ประเทศญี่ปุ่น
ภาพของทะเลสาบอะชิ เสาโทริอิสีแดงริมทะเลสาบ และมีภูเขาไฟฟูจิเป็นฉากหลัง ถือเป็นมุมยอดนิยมซึ่งกลายเป็นภาพคุ้นตาที่ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวมาเยือนเมืองฮาโกเน่เป็นจำนวนมาก โดยเสาโทริอิในภาพเหล่านั้นก็คือบริเวณที่ตั้งของศาลเจ้าฮาโกเน่นั่นเอง โดยศาลเจ้าแห่งนี้โดดเด่นด้วยบรรยากาศที่ตั้งอยู่ในภูเขา มีโคมไฟสีแดงจำนวนมากเรียงรายอยู่ระหว่างทางเดิน และยิ่งดูขึมขลังมากยิ่งขึ้นในวันที่มีหมอกปกคลุมไปทั่วทุกบริเวณ
ประวัติความเป็นมาของศาลเจ้าฮาโกเน่
ศาลเจ้าฮาโกเน่เป็นสถานที่ยอดนิยมทั้งสำหรับนักท่องเที่ยวและคนญี่ปุ่น จึงมีผู้คนจำนวนมากเดินทางมาที่นี่ในทุกฤดู
เชื่อกันว่าศาลเจ้าฮาโกเน่ถูกสร้างขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ. 745 หรือยุคของจักพรรดิโคโช โดยที่ตั้งเดิมนั้นอยู่บนยอดเขาฮาโกเน่ พร้อมกับมีตำนานเล่าว่าชาวบ้านในบริเวณฮาโกเน่ต่างต้องทนทุกข์กับภัยพิบัติขนาดใหญ่ทุกปี ซึ่งเชื่อกันว่าเกิดจากมังกร 9 หัวที่อาศัยอยู่ในก้นทะเลสาบอะชิ จนทำให้ต้องมีการบูชายัญมังกรด้วยชีวิตของเด็กทารกปีละ 1 คนมาตลอด กระทั่งในปีค.ศ. 1667 มีนักบวชรูปหนึ่งเดินแสวงบุญผ่านมาบริเวณนี้ จึงได้ช่วยชาวบ้านสะกดวิญญาณของมังกร 9 หัวเอาไว้ในทะเลสาบ และย้ายที่ตั้งของศาลเจ้าจากบนยอดเขา ลงมาที่บริเวณริมทะเลสาบอะชิจนถึงทุกวันนี้
นักท่องเที่ยวสามารถพบกับเสาโทริอิมากมายหลายขนาดตามจุดต่างๆตั้งแต่ทางเข้าศาลเจ้า มาจนถึงบริเวณตัวศาลเจ้า
ศาลเจ้าฮาโกเน่ยังเป็นสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ของญี่ปุ่น เนื่องจากในอดีต ครอบครัวของ Minamoto Yoritomo มงกุฎราชกุมารในขณะนั้นถูกประหารชีวิตทั้งหมด และตัวเขาก็ถูกเนรเทศออกจากเกียวโต และลี้ภัยมาอยู่ที่ศาลเจ้าฮาโกเน่แห่งนี้ เมื่อเวลาผ่านไป เขาได้รวบรวมกองพลเพื่อชิงอำนาจกลับคืนมาจนสำเร็จ และเป็นผู้ตั้งรัฐบาลโชกุคามาคุระแห่งคานากาว่าขึ้นมา ซึ่งถือเป็นระบอบโชกุนระบอบที่ 2 ที่ถูกสถาปนาขึ้นในประเทศญี่ปุ่น ศาลเจ้าแห่งนี้จึงได้รับความเคารพนับถือทั้งจากโชกุนและเหล่าซามูไรเป็นอย่างมาก
การเดินทางไปศาลเจ้าฮาโกเน่จากกรุงโตเกียว
- รถไฟ การนั่งรถไฟมายังเมืองฮาโกเน่ มีสองวิธีหลักคือ โดยสารรถไฟชินคันเซ็นจากสถานี Tokyo มายังสถานี Odawara ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 35 นาที ค่าโดยสารเริ่มต้นที่ 3,220 เยน และอีกวิธีคือการโดยสารรถไฟสาย Odakyu จากสถานี Shinjuku มายังสถานี Odawara โดยใช้เวลาในการเดินทางทั้งหมดประมาณ 1 ชั่วโมง 40 นาที ค่าโดยสารเริ่มต้นที่ 880 เยน
จากสถานีรถไฟ Odawara นักท่องเที่ยวสามารถโดยสารรถบัสของบริษัท Hakone Tozan Bus สาย HakoneMachi (สีแดง) ลงที่ป้าย Motohakone-ko ค่าโดยสาร 1,180 เยน ใช้เวลาเดินทางประมาณ 50 นาที จากนั้นเดินต่อจากป้ายรถเมล์อีกประมาณ 5-10 นาที
นักท่องเที่ยวสามารถตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับรถบัสของบริษัท Hakone Tozan Bus ได้ที่ https://www.hakone-tozanbus.co.jp/english/index.html
- รถบัส นักท่องเที่ยวสามารถใช้บริการรถบัสของ Highway Bus ที่วิ่งระหว่างโตเกียว-ฮาโกเน่ ค่าโดยสารเที่ยวละ 2,010 เยน ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง 15 นาที โดยจุดขึ้นรถจะอยู่ที่สถานีรถบัสด่วนพิเศษชินจูกุ (Shinjuku Expressway Bus Terminal) และลงที่ป้ายสุดท้าย Hakone Odakyu Yamano Hotel ซึ่งโรงแรมแห่งนี้ตั้งอยู่ห่างจากศาลเจ้าฮาโกเน่ 600 เมตร นักท่องเที่ยวสามารถตรวจสอบตารางเวลาและข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.odakyu-hakonehighway.co.jp/common/pdf/english.pdf
ในกรณีที่นักท่องเที่ยวต้องการล่องเรือในทะเลสาบอะชิ สามารถลงรถบัสที่ป้ายท่าเรือ Togendai และขึ้นเรือทัศนาจรชมทะเลสาบฮาโกเน่ มาลงที่ท่าเรือ Motohakone-ko ค่าโดยสารเที่ยวละ 1,000 เยน ใช้เวลาเดินทาง 30 นาที เมื่อถึงท่าเรือปลายทางแล้ว เดินต่อไปยังศาลเจ้าอีกประมาณ 5-10 นาที
เวลาในการเปิด-ปิดทำการ
ศาลเจ้าฮาโกเน่เปิดให้เข้าชมทุกวัน ไม่มีวันหยุดและปิดทำการ
นักท่องเที่ยวต่างมาขอพรกันที่ตัวอาคารหลักของศาลเจ้าฮาโกเน่
การซื้อบัตรเข้าชม
ไม่เสียค่าใช้จ่ายในการเข้าชม
รูปปั้นสิงโตบริเวณหน้าศาลเจ้า ที่ทำหน้าที่เสมือนผู้ดูแลพื้นที่แห่งนี้
ข้อมูลทั่วไปที่ควรรู้
ศาลเจ้าฮาโกเน่ตั้งอยู่บนเนินเขา นักท่องเที่ยวจึงต้องเดินขึ้นบันไดก่อนที่จะเข้าไปถึงตัวอาคารหลักของศาลเจ้า
ทางเดินไปยังบริเวณศาลเจ้าฮาโกเน่ มีทั้งทางเดินลาดยาว และบันไดขึ้นไปตามภูเขา นักท่องเที่ยวจึงควรใช้ความระมัดระวัง และใส่รองเท้าที่เดินได้อย่างสะดวกสบายขณะเดินขึ้นไปสู่ตัวศาลเจ้า และอาจต้องใช้ความระมัดระวังมากยิ่งขึ้นในวันที่มีฝนหรือหิมะตก
เสาโทริอิขนาดใหญ่ริมแม่น้ำ ที่นักท่องเที่ยวสามารถสังเกตเห็นได้อย่างชัดเจนยามลองเรือในทะเลสาบ หรือจากจุดชมวิว
บริเวณเสาโทริอิซึ่งตั้งอยู่ริมแม่น้ำ ถือเป็นหนึ่งในจุดถ่ายรูปยอดนิยมของนักท่องเที่ยว บางครั้งในช่วงน้ำลด นักท่องเที่ยวสามารถเดินไปยืนถ่ายรูปที่เสาได้เลย แต่ทั้งนี้ต้องมีความระมัดระวัง และรักษาความเหมาะสมด้วยทุกครั้ง
นอกจากนี้ นักท่องเที่ยวยังสามารถตรวจสอบพยากรณ์อากาศล่วงหน้าเพื่อความสะดวกในการท่องเที่ยวได้ที่ https://www.accuweather.com/
นักท่องเที่ยวที่สนใจไปเที่ยว ศาลเจ้าฮาโกเน่ สามารถศึกษา ข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่
ศาลเจ้าฮาโกเน่
(Hakone Shrine)
อัตราค่าเข้าชม : ไม่มีค่าใช้จ่าย
เวลาเปิด-ปิด : ไม่มีวันหยุดและวันปิดทำการ
ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการท่องเที่ยว : ตลอดทั้งปี
สถานที่ตั้ง : จังหวัดคานากาว่า ประเทศญี่ปุ่น
เว็บไซต์ : http://hakonejinja.or.jp/
โทรศัพท์ : (+81) 460-83-7123
ระดับความนิยม :
ข้อมูลอื่นๆที่ควรรู้ : เว็บไซต์หน่วยงานการท่องเที่ยวฮาโกเน่ https://www.hakone.or.jp/en/
เว็บไซต์รวบรวมข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยวและการเดินทางบริเวณฮาโกเน่ http://www.hakonenavi.jp/thai/
เว็บไซต์ผู้ให้บริการการล่องเรือในทะเลสาบอะชิ http://www.hakone-kankosen.co.jp/foreign/thai/index.html
เว็บไซต์สำหรับตรวจสอบสภาพอากาศ https://www.accuweather.com
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ
8 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเมืองญาจาง – ดาลัด ประเทศเวียดนาม
หากอยากสัมผัสบรรยากาศเมืองชายทะเลสุดคึกคักอากาศอบอุ่น แล้วไปผ่อนคลายในเมืองแห่งภูเขาอากาศเย็นสบายที่เวียดนามใต้ ญาจางและดาลัดคือคำตอบ! สองเมืองนี้จะพาคุณดื่มด่ำไปกับธรรมชาติที่งดงาม วัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์และกิจกรรมที่หลากหลาย Palanla ได้รวบรวมเอา 8 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเมืองญาจางและดาลัดมาให้แล้วในบทความนี้
อ่านต่ออาสนวิหารญาจาง เมืองญาจาง ประเทศเวียดนาม
อาสนวิหารญาจาง (Christ the King Cathedral Nha Trang) หรือ โบสถ์หินญาจาง สุดยอดสถาปัตยกรรมแบบนีโอโกธิคผสมผสานกับสถาปัตยกรรมแบบโรมัน ที่ตั้งตระหง่านอยู่บนเนินเขาใจกลางเมืองญาจาง ประเทศเวียดนาม อายุเกือบร้อยปีแห่งนี้ เปรียบเสมือนแลนด์มาร์กของเมือง ด้วยผนังหินสีน้ำตาลเข้มที่สลักเสลาอย่างวิจิตรบรรจง และหลังคาสูงชะลูดที่ดูอลังการ ตัดกับท้องฟ้าสีคราม ทำให้โบสถ์แห่งนี้กลายเป็นแลนด์มาร์กที่โดดเด่นและเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยว
อ่านต่อหาดญาจาง เมืองญาจาง ประเทศเวียดนาม
หาดญาจาง (Nha Trang Beach) เป็นหนึ่งในชายหาดที่สวยที่สุดของประเทศเวียดนาม ด้วยชายรูปร่างเหมือนพระจันทร์เสี้ยว ความยาวกว่า 6 กิโลเมตรที่โอบล้อมอ่าวญาจาง ในจังหวัดหวัดคั้ญฮวา ท่ามกลางภูมิทัศน์โดยรอบที่สวยงามของอาคารสถาปัตยกรรมสำคัญๆ มากมาย
อ่านต่อหอคอยแตร่มเฮือง เมืองญาจาง ประเทศเวียดนาม
หอคอยแตร่มเฮือง (Tram Huong Tower) สัญลักษณ์และจุดเช็กอินยอดนิยมของหาดญาจางในปัจจุบัน
อ่านต่อวินเพิร์ลแลนด์ เมืองญาจาง ประเทศเวียดนาม
วินเพิร์ลแลนด์ (Vinpearl Land) เป็นสวนสนุกและรีสอร์ตหรูครบวงจรระดับโลกที่เมืองญาจาง ประเทศเวียดนาม มีจุดเด่นอยู่ที่ทำเลที่ตั้งที่สวยงามติดทะเล และสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน นอกจากนี้ยังมีไฮไลต์สำคัญของการไปเที่ยวที่นี่คือ การนั่งกระเช้าลอยฟ้าข้ามทะเลที่ยาวที่สุดในโลก
อ่านต่อวัดลองเซิน เมืองญาจาง ประเทศเวียดนาม
วัดลองเซิน (Long Son Pagoda) หรือที่รู้จักกันดีในชื่อ “วัดพระใหญ่” เป็นวัดพุทธมหายานเก่าแก่ และใหญ่ที่สุดของเมืองญาจาง ประเทศเวียดนาม นอกจากความสวยงามอลังการของตัววัดแล้ว จากยอดเขายังสามารถมองเห็นวิวของเมืองญาจางและทะเลได้อย่างสวยงาม
อ่านต่อวัดตั๊กลัม เมืองดาลัด ประเทศเวียดนาม
วัดตั๊กลัม (Truc Lam Monastery of Da Lat) เป็นวัดพุทธในนิกายเซนบนยอดเขาเฟืองฮว่าง นอกจากภายในบริเวณวัดจะมีสิ่งก่อสร้างที่สวยงาม ยังมีการจัดตกแต่งภูมิทัศน์โดยรอบด้วยสวนดอกไม้สดสวย ถือเป็นวัดที่งดงามและได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวมากที่สุดในดาลัด
อ่านต่อน้ำตกดาตันลา เมืองดาลัด ประเทศเวียดนาม
น้ำตกดาตันลา (Datanla Waterfall) ไม่เพียงแต่เป็นน้ำตกที่สวยงาม แต่ยังซ่อนเรื่องราวตำนานพื้นเมืองของดาลัดที่น่าสนใจเอาไว้ นอกจากสัมผัสความเย็นฉ่ำของละอองน้ำที่กระเซ็นจากม่านน้ำตกแล้ว ยังมีกิจกรรมสนุกๆ คือการนั่งรถรางลัดเลาะไปตามเส้นทางที่โอบล้อมด้วยธรรมชาติอันเขียวขจี
อ่านต่อเจดีย์มังกรวัดลึงเฟือก เมืองดาลัด ประเทศเวียดนาม
เจดีย์มังกรวัดลึงเฟือก (Linh Phuoc Pagoda) วัดศาสนาพุทธนิกายเซนในดาลัด โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมที่สวยงามและเป็นเอกลักษณ์ ตัวอาคารทำจากเศษกระเบื้องเคลือบงดงามวิจิตร โดยเฉพาะอย่างยิ่งรูปปั้นมังกรขนาดใหญ่ที่พันรอบองค์พระเจดีย์ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของวัด
อ่านต่อฮาจิ เลน ประเทศสิงคโปร์
ตรอกฮาจิ หรือ ฮาจิ เลน (Haji Lane) ถนนสายเล็กๆ ที่เต็มไปด้วยสีสันและความมีชีวิตชีวาในย่านกัมปง กลาม (Kampong Glam) ของสิงคโปร์ เป็นที่รู้จักกันดีในหมู่นักท่องเที่ยวและคนท้องถิ่นในฐานะแหล่งรวมร้านค้าบูติก ร้านอาหาร คาเฟ่ และศิลปะบนท้องถนนที่น่าสนใจ ฮาจิ เลน ไม่เพียงแค่เป็นถนนสายช้อปปิ้ง แต่ยังเป็นเหมือนแกลเลอรี่กลางแจ้งที่แสดงให้เห็นถึงความคิดสร้างสรรค์และวัฒนธรรมที่หลากหลายของสิงคโปร์อีกด้วย
อ่านต่อ