- หน้าแรก
- ท่องเที่ยวต่างประเทศ
- เกรย์ไฟรเออร์บ็อบบี้ (Greyfriars Bobby Statue) & ฮาจิโกะ (Hachiko)
เกรย์ไฟรเออร์บ็อบบี้ (Greyfriars Bobby Statue) & ฮาจิโกะ (Hachiko)
- อ่าน (792)
- By Webmaster
- 11:05:16 | 10 พ.ค. 2567
เกรย์ไฟรเออร์บ็อบบี้ (Greyfriars Bobby Statue) & ฮาจิโกะ (Hachiko)
2 รูปปั้นสุนัขผู้ซื่อสัตย์แห่งเอดินเบอระและโตเกียว
สุนัข ได้ชื่อว่าเป็นเพื่อนที่แสนดีและซื่อสัตย์ของมนุษย์มายาวนานอยู่ทุกหนแห่งของโลกใบนี้ หลายๆ เรื่องราวถูกถ่ายทอดความประทับใจออกมาผ่านภาพยนตร์ หนังสือ ตลอดจนสร้างเป็นรูปปั้นอนุสรณ์สถานเพื่อเชิดชูและระลึกถึงความรักอันบริสุทธิ์ที่เจ้าตูบและมนุษย์มีต่อกัน เช่นเดียวกับรูปปั้นของสุนัขผู้ซื่อสัตย์ 2 แห่งที่ Palanla จะพาไปชมในวันนี้ ที่แรกคือ รูปปั้นสุนัขเกรย์ไฟรเออร์บ็อบบี้ (Greyfriars Bobby Statue) เมืองเอดินเบอระ ประเทศสกอตแลนด์ และอีกที่คือ รูปปั้นสุนัขฮาจิโกะ (Hachiko) ที่เมืองโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น
รูปปั้นสุนัขเกรย์ไฟรเออร์บ็อบบี้ (Greyfriars Bobby Statue)
รูปปั้นสุนัขเกรย์ไฟรเออร์บ็อบบี้ตั้งอยู่หน้าร้านเกรย์ไฟรเออร์บ็อบบี้ซึ่งตั้งตามชื่อของสุนัขตัวนี้
รูปปั้นสุนัขเกรย์ไฟรเออร์บ็อบบี้ เป็นรูปปั้นสุนัขที่เป็นแลนด์มาร์กเล็กๆ ของเมือง แต่มีเรื่องราวอันยิ่งใหญ่ที่สร้างความซาบซึ้งใจให้กับชาวเอดินเบอระ บ็อบบี้เป็นสุนัขพันธุ์สกายเทอร์เรียที่เจ้าของเสียชีวิตลงอย่างกะทันหันในปีค.ศ.1858 และในทุกๆ วันบ็อบบี้ก็จะมาเฝ้าหลุมศพของเจ้านายอันเป็นที่รักของมันด้วยความภักดี มันทำเช่นนี้อยู่เป็นเวลา 14 ปีจนเสียชีวิตลง และร่างของมันก็ได้รับการฝังไว้เป็นกรณีพิเศษที่สุสานเดียวกันกับเจ้าของ อีกทั้งยังมีการสร้างรูปปั้นนี้ไว้ใกล้กับสุสานเพื่อเป็นที่ระลึกถึงเจ้าบ็อบบี้ สุนัขผู้ซื่อสัตย์แห่งเมืองเอดินเบอระ
แลนด์มาร์กเล็กๆ ของเมืองเอดินเบอระ ประเทศสกอตแลนด์
รูปปั้นสุนัขเกรย์ไฟรเออร์บ็อบบี้เป็นรูปปั้นที่ตั้งอยู่หน้าร้านเกรย์ไฟรเออร์บ็อบบี้ซึ่งตั้งตามชื่อของสุนัขตัวนี้ เรื่องราวของเจ้าบ็อบบี้เป็นที่รู้จักไปทั่วเมืองเอดินเบอระ จากความซื่อสัตย์และความรักที่มีต่อเจ้าของ เจ้าของบ็อบบี้มีชื่อว่าจอห์น เกรย์ เขาพร้อมภรรยาและลูกชายย้ายมาที่เมืองเอดินเบอระในปีค.ศ.1850 พวกเขาเป็นชาวสวนมาก่อนแต่หางานชาวสวนในเมืองนี้ไม่ได้ จึงสมัครงานเป็นยามกะกลางคืนแทน ในฤดูหนาวปีนั้นเขาได้รับเพื่อนคู่หูคือเจ้าสุนัขบ็อบบี้ตัวน้อยมาอยู่ด้วย เมื่อเวลาผ่านไปชาวเมืองในละแวกนั้นจึงคุ้นชินกับภาพของจอห์นและบ็อบบี้ที่เดินตรวจตราไปตามท้องถนนด้วยกันเสมอ
รูปปั้นสุนัขเกรย์ไฟรเออร์บ็อบบี้ถูกนำมาตั้งไว้ใกล้กับสุสานในเดือนพฤศจิกายน ค.ศ.1873
ด้วยการทำงานบนท้องถนนมาหลายปีจึงทำให้จอห์นล้มป่วยเป็นวัณโรคและต้องเข้ารับการรักษาตัว แต่ในที่สุดจอห์นก็เสียชีวิตลงในวันที่ 15 กุมภาพันธ์ ค.ศ.1858 และร่างของเขาถูกฝังไว้ในสุสานเกรย์ไฟรเออร์สเคิร์กยาร์ด เจ้าบ็อบบี้มาเฝ้าหลุมศพของเจ้านายทุกวันไม่เว้นแม้แต่ในเวลาที่สภาพอากาศเลวร้ายที่สุด เจมส์ บราวน์ เซกซ์ตัน ผู้ดูแลสุสานพยายามไล่บ็อบบี้ออกไปจากสุสานหลายครั้ง จนในที่สุดเขาก็ยอมแพ้และหาที่พักพิงเล็กๆ ให้บ็อบบี้ข้างหลุมฝังศพของจอห์น ในช่วงนั้นชื่อเสียงและเรื่องราวของบ็อบบี้ก็แพร่สะพัดออกไป จนเกือบทุกวันจะมีผู้คนมายืนรอชมบ็อบบี้ออกมาจากข้างหลุมศพของจอห์นเพื่อออกไปกินมื้อเที่ยง โดยบ็อบบี้จะติดตามวิลเลียม ดาว ช่างไม้ท้องถิ่นไปที่ร้านกาแฟแห่งเดียวกับที่มันเคยแวะเวียนไปกับจอห์น และที่ร้านนั้นจะให้ให้อาหารมัน
ในปีค.ศ.1867 มีการออกกฎหมายใหม่ซึ่งกำหนดให้สุนัขทุกตัวต้องได้รับใบอนุญาตในเมือง มิฉะนั้นพวกมันจะถูกกำจัด ในตอนนั้นเซอร์วิลเลียม แชมเบอร์ส หรือ ลอร์ดโพรโวสต์แห่งเอดินเบอระ ตัดสินใจจ่ายค่าใบอนุญาตให้บ็อบบี้และมอบปลอกคอที่มีจารึกชื่อทองเหลืองว่า “Greyfriars Bobby from the Lord Provost 1867 licensed” ซึ่งสามารถชมปลอกคอนี้ได้ที่พิพิธภัณฑ์แห่งเอดินเบอระ
สุสานเกรย์ไฟรเออร์สเคิร์กยาร์ด
หลุมศพของจอห์น เกรย์ เจ้าของผู้นำบ็อบบี้มาเลี้ยง
หลายปีผ่านไป มีคนใจดีมากมายในเอดินเบอระช่วยดูแลบ็อบบี้เป็นอย่างดี แต่มันก็ยังคงภักดีต่อเจ้านายของมันและเฝ้าหลุมศพทุกวันอย่างต่อเนื่องเป็นเวลา 14 ปี จนกระทั่งมันเสียชีวิตลงในปีค.ศ.1872 ด้วยความซาบซึ้งใจในความภักดีของบ็อบบี้ที่มีต่อเจ้าของมาอย่างยาวนาน ร่างของมันจึงได้รับการฝังไว้ที่สุสานแห่งเดียวกันกับเจ้านาย และมีการสร้างรูปปั้นบ็อบบี้ขึ้นมา รูปปั้นนี้ถูกนำมาตั้งไว้ใกล้กับสุสานในเดือนพฤศจิกายน ค.ศ.1873 เพื่อเป็นที่ระลึกถึงบ็อบบี้ในฐานะสุนัขผู้ซื่อสัตย์แห่งเอดินเบอระนับแต่นั้นมา
เวลาปิด - เปิด : เปิดทุกวัน 24 ชั่วโมง
พิกัด GPS : 55°56'49.0"N 3°11'28.7"W
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ รูปปั้นสุนัขเกรย์ไฟรเออร์บ็อบบี้ ได้ที่ : https://palanla.com/th/abroadLocation/detail/2518
ฮาจิโกะ (Hachiko)
ฮาจิโกะ ตั้งอยู่บริเวณสถานีชิบูย่าในกรุงโตเกียว
ฮาจิโกะ คือ รูปปั้นของสุนัขผู้ซื่อสัตย์ที่ไปรอรับเจ้าของที่สถานีชิบูย่าทุกวัน แม้เจ้าของจะจากไปแล้ว มันก็ยังคงเฝ้ารออยู่ที่เดิมเวลาเดิมเป็นเวลานานถึง 10 ปีเต็ม ความประทับใจของชาวญี่ปุ่นที่มีต่อสุนัขตัวนี้ กลายมาเป็นรูปปั้นซึ่งเป็นจุดนัดพบสำคัญและเป็นจุดเช็คอินที่ห้ามพลาดของชิบูย่า
ฮาจิเป็นสุนัขสายพันธ์อากิตะ
รูปปั้นสุนัข “ฮาจิโกะ” ตั้งอยู่สถานีชิบูย่า กรุงโตเกียว เป็นทั้งจุดนัดพบสำหรับคนญี่ปุ่นและสถานที่ที่มีชื่อเสียงโด่งดังสำหรับนักท่องเที่ยว ตามจริง “ฮาจิ” (Hachi) คือชื่อของสุนัข ส่วนคำว่าโกะหรือโค (公) แปลว่ารูปปั้น ย้อนไปในปี ค.ศ. 1924 ที่มาของรูปปั้นนี้มาจาก “ฮาจิ” สุนัขสายพันธุ์อากิตะของศาสตราจารย์อูเอโนะ ฮิเดะซาบุโร่ แห่งมหาวิทยาลัยโตเกียว ที่มักจะไปรอรับเจ้านายของมันที่สถานีรถไฟชิบูย่าอยู่เสมอ เป็นภาพที่คุ้นตาของผู้คนที่สัญจรผ่านไปมา จนในปีค.ศ. 1932 เรื่องราวของฮาจิโกะก็ถูกตีพิมพ์ลงหนังสือพิมพ์และทำให้ฮาจิโกะเป็นที่รู้จักไปทั่วญี่ปุ่นในชื่อ “ฮาจิโกะผู้ซื่อสัตย์”
รูปปั้นสุนัข “ฮาจิโกะ” เป็นทั้งจุดนัดพบสำหรับคนญี่ปุ่นและสถานที่ที่มีชื่อเสียงโด่งดังสำหรับนักท่องเที่ยว
กระทั่งวันหนึ่งในเดือนพฤษภาคม ปี ค.ศ. 1925 ศาสตราจารย์อูเอโนะเสียชีวิตอย่างกะทันหันที่มหาวิทยาลัยด้วยภาวะเลือดออกในสมอง แต่ทว่าเจ้าฮาจิโกะยังคงไปรอนายของมันที่สถานีทุกวัน เป็นเวลานานร่วม 10 ปี จนเมื่อเดือนมีนาคม ปี ค.ศ. 1935 ฮาจิโกะตายไป คนญี่ปุ่นจึงสร้างรูปปั้นของมันขึ้นมาเพื่อเป็นสัญลักษณ์ของความจงรักภักดี
รูปปั้นฮาจิโกะที่เห็นในปัจจุบันเป็นรูปปั้นตัวที่สองที่สร้างขึ้นหลังสงครามโลกครั้งที่ 2
ทั้งนี้ รูปปั้นฮาจิโกะที่เห็นในปัจจุบันเป็นรูปปั้นตัวที่สองที่สร้างขึ้นหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 เนื่องจากตัวแรกถูกทำลายในช่วงสงคราม และเมื่อปี ค.ศ. 2015 เนื่องในโอกาสครบรอบ 80 ปีที่ฮาจิจากไป ก็ได้มีการสร้างรูปปั้นศาสตราจารย์อูเอโนะกับฮาจิได้พบขึ้นที่คณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยโตเกียวที่ศาสตราจารย์เคยสอน นอกจากรูปปั้นแล้ว เรื่องราวของฮาจิยังถูกถ่ายทอดออกมาเป็นภาพยนตร์ในปี ค.ศ.2009 เรื่อง Hachi A Dog's Tale นำแสดงโดย ริชาร์ด ทิฟฟานี เกียร์ (Richard Tiffany Gere) หรือ ริชาร์ด เกียร์นั่นเอง
เวลาปิด - เปิด : เปิดทุกวัน 24 ชั่วโมง
พิกัด GPS : 35°39'32.6"N 139°42'02.3"E
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ฮาจิโกะ ได้ที่ : https://www.palanla.com/th/abroadLocation/detail/2772
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ
รวมที่เที่ยว 4 เมืองเด่น จาก ออสโล ถึง โอเลซุนด์ ประเทศนอร์เวย์
นอร์เวย์ (Norway) ดินแดนแห่งฟยอร์ดและขุนเขาที่งดงามราวกับภาพวาด การเดินทางจากออสโล (Oslo) เมืองหลวงของประเทศ สู่เบอร์เกน (Bergen) ฟลอม (Flam) และเอลซุนด์ ( Alesund) เปรียบเสมือนการเปิดประตูสู่โลกใหม่ที่เต็มไปด้วยธรรมชาติอันบริสุทธิ์ เส้นทางสายนี้จะพาคุณไปสัมผัสกับบ้านเมืองน่ารักๆ ทัศนียภาพที่สวยงามตระการตาของเทือกเขาสูงชัน น้ำตกที่ไหลเชี่ยว ฟยอร์ดที่ทอดยาว และหมู่บ้านเล็กๆ ที่ซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางธรรมชาติของนอร์เวย์
อ่านต่อรวมที่เที่ยว 3 เมืองเด่น จาก ออสโล ถึง โลโฟเทน ประเทศนอร์เวย์
นอร์เวย์ (Norway) ดินแดนแห่งฟยอร์ดและขุนเขาที่แสนสวยงาม เต็มไปด้วยเส้นทางท่องเที่ยวมากมายที่พร้อมจะมอบความทรงจำสุดประทับใจให้แก่ผู้มาเยือน การเดินทางจากออสโล (Oslo) สู่ทรุมเซอ (Tromso) และโลโฟเทน (Lofoten) นับเป็นอีกหนึ่งเส้นทางท่องเที่ยวที่น่าสนใจ เพราะนักท่องเที่ยวจะได้เดินทางผ่านภูมิประเทศที่หลากหลาย ตั้งแต่เมืองหลวงที่ทันสมัย ไปจนถึงธรรมชาติอันบริสุทธิ์ของอาร์กติก และหมู่เกาะที่สวยงามราวภาพวาด
อ่านต่อหมู่บ้านซอมมารอย เมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์
หมู่บ้านซอมมารอย (Sommarøy) เป็นหมู่บ้านชาวประมงเก่าแก่ทางตะวันตกของเมืองทรุมเซอ (Tromsø) ประเทศนอร์เวย์ อยู่ห่างจากเมืองทรุมเซอไปทางตะวันตกประมาณ 58 กิโลเมตร เป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมเนื่องจากมีหาดทรายขาวและทิวทัศน์สวยงาม
อ่านต่อมหาวิหารอาร์กติก เมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์
มหาวิหารอาร์กติก (Arctic Cathedral) เป็นหนึ่งในแลนด์มาร์คที่โดดเด่นที่สุดของเมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์ ด้วยสถาปัตยกรรมที่เป็นเอกลักษณ์และความหมายอันลึกซึ้ง ทำให้มหาวิหารแห่งนี้กลายเป็นสัญลักษณ์ของเมืองและเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเยือนทรุมเซอ
อ่านต่อมหาวิหารทรุมเซอ เมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์
มหาวิหารทรุมเซอ (Tromso Cathedral) หรือที่รู้จักในชื่อ "Tromsdalen Church" เป็นโบสถ์ที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นด้วยโครงสร้างไม้ขนาดใหญ่ และการออกแบบตกแต่งภายในอันงดงาม
อ่านต่อท่าเรือทรุมเซอ เมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์
ท่าเรือทรุมเซอ (Port of Tromsø) ตั้งอยู่ในใจกลางเมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์ ท่าเรือแห่งนี้เป็นมากกว่าแค่จุดขึ้นลงเรือเท่านั้น แต่ยังเป็นหัวใจสำคัญของเมืองทรุมเซอ และเป็นประตูสู่ดินแดนอาร์กติกที่น่าตื่นตาตื่นใจ
อ่านต่อกระเช้าไฟฟ้าเฟียลไฮเซน เมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์
กระเช้าไฟฟ้าเฟียลไฮเซน (Fjellheisen Cable Car) เป็นอีกหนึ่งไฮไลต์ที่พลาดไม่ได้เมื่อมาเยือนเมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์ การนั่งกระเช้าลอยฟ้าขึ้นไปบนยอดเขาสโตรสไตเนิน (Storsteinen Mountain) จะพานักท่องเที่ยวไปสัมผัสกับวิวเมืองทรุมเซอและฟยอร์ดอันงดงามแบบ 360 องศา
อ่านต่อหมู่บ้านแฮมนอย หมู่เกาะโลโฟเทน ประเทศนอร์เวย์
หมู่บ้านแฮมนอย (Hamnoy) ถือเป็นสัญลักษณ์ของหมู่เกาะโลโฟเทน (Lofoten) มีลักษณะโดดเด่นคือ “โรบูเอ้” สีแดง (Rorbuer) กระท่อมสำหรับพักชั่วคราวของชาวประมงที่เรียงรายอยู่บนโขดหิน และมีฉากหลังเป็นภูเขา เป็นภาพที่ปรากฏอยู่บนโปสการ์ด ของที่ระลึก และสื่อประชาสัมพันธ์ท่องเที่ยวต่างๆ
อ่านต่อหมู่บ้านนูส์ฟยอร์ด หมู่เกาะโลโฟเทน ประเทศนอร์เวย์
หมู่บ้านนูส์ฟยอร์ด (Nusfjord) คือหมู่บ้านชาวประมงเล็ก ๆ ตั้งอยู่บนชายฝั่งด้านใต้ของเกาะ Flakstadøya ในอ่าวเวสฟยอร์เดน (Vestfjord) เขตเทศบาล Flakstad ของเมือง Lofoten ประเทศนอร์เวย์ หมู่บ้านแห่งนี้ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในหมู่บ้านชาวประมงที่สวยที่สุดในนอร์เวย์ และอาจจะเป็นหนึ่งในหมู่บ้านชาวประมงที่สวยที่สุดในโลกก็เป็นได้
อ่านต่อหมู่บ้านซาคริซอย หมู่เกาะโลโฟเทน ประเทศนอร์เวย์
หมู่บ้านซาคริซอย (Sakrisoy) เป็นหมู่บ้านเล็กๆ ที่ตั้งอยู่เชิงเขาโอลสตินด์ (Olstind) ซึ่งเป็นหนึ่งในภูเขาที่โดดเด่นที่สุดของหมู่เกาะโลโฟเทน (Lofoten) และอีกหนึ่งลักษณะที่โดดเด่นคือหมู่บ้านนี้คือ “โรบูเอ้” สีเหลือง (Rorbuer) กระท่อมสำหรับพักชั่วคราวของชาวประมงที่เรียงรายอยู่ตามริมฝั่งฟยอร์ด
อ่านต่อ