- หน้าแรก
- ท่องเที่ยวต่างประเทศ
- 21 สถานที่เที่ยวยอดนิยมในปารีส ประเทศฝรั่งเศส
21 สถานที่เที่ยวยอดนิยมในปารีส ประเทศฝรั่งเศส
- อ่าน (7,141)
- By Webmaster Webmaster
- 11:10:33 | 30 ม.ค. 2567
21 สถานที่เที่ยวยอดนิยมในปารีส ประเทศฝรั่งเศส
Top 21 Travel Destinations in Paris, France
ปารีส คือเมืองหลวงของประเทศฝรั่งเศสและเป็นเมืองแห่งมนตร์ขลังที่อ้าแขนรับ รอให้นักท่องเที่ยวไปสัมผัสกับเสน่ห์เมืองเก่าของยุโรปผสานไปกับความสวยงามของสถาปัตยกรรมยุคปฏิวัติ และความสะดวกสบาย ความทันสมัย รวมไปถึงแฟชั่นใหม่ๆ ที่มีต้อนรับผู้มาเยือนเมืองแห่งนี้อย่างครบครัน
แผนที่แสดง 21 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในปารีส ประเทศฝรั่งเศส
1. หอไอเฟล (The Eiffel Tower)
สิ่งปลูกสร้างอันเป็นสัญลักษณ์ของเมืองปารีส ประเทศฝรั่งเศส เป็นหอสูงโครงสร้างเหล็ก ความสูงรวมจากฐานถึงยอดบนสุดที่ถูกบันทึกไว้ในปัจจุบันคือ 324 เมตร เคยครองอันดับสิ่งก่อสร้างที่สูงที่สุดในโลก จนถึงปี 1930 มีนักท่องเที่ยวไปเยือนมากถึงปีละ 7 ล้านคน โดยร้อยละ 75 เป็นชาวต่างชาติที่มาเยือนพร้อมกับความเชื่อว่า “หากมาเที่ยวฝรั่งเศสแล้วไม่ได้มาเยือนหอไอเฟล ก็เหมือนมาไม่ถึงฝรั่งเศส”
ข้อมูลการเดินทาง
- รถไฟ RER Local train สาย C ลงที่ป้าย Champs de mars
- รถไฟ Metro หรือรถไฟฟ้าใต้ดิน สาย 6 ลงที่สถานี Bir-Hakeim, สาย 8 ลงที่สถานี École militaire หรือสาย 9 เพื่อลงที่ Trocadéro
เวลาเปิด-ปิดทำการ : ทุกวัน 9.00 น. – 00.45 น. โดยบางส่วนอาจมีการปิดบริการ
พิกัด GPS : 48°51'30.2"N 2°17'40.1"E
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : http://palanla.com/index.php?op=abroadLocation-detail&id=28
2. ประตูชัยแห่งฝรั่งเศส (Arc de triomphe de l'Étoile)
สถาปัตยกรรมที่มีความงดงาม ทั้งยังเป็นสถานที่ที่มีบทบาทสำคัญต่อเหตุการณ์ในประวัติศาสตร์ของประเทศฝรั่งเศสหลายเหตุการณ์ โดยเฉพาะเหตุการณ์สงครามต่างๆในช่วงสมัยปฎิวัติฝรั่งเศสและสมัยจักรวรรดิฝรั่งเศส และเป็นสัญลักษณ์แห่งสันติภาพอีกด้วย ตั้งอยู่ติดกับถนนช็องเซลีเซ่ ซึ่งได้รับการยอมรับว่าเป็นถนนที่สวยที่สุดในโลก
ข้อมูลการเดินทาง
- รถไฟ RER Local train สาย A ลงที่ป้าย Charles-de-Gaulle-Etoile
- รถไฟ Metro หรือรถไฟฟ้าใต้ดิน สาย 1, สาย 2 และสาย 6 โดยเลือกลงที่สถานี Charles-de-Gaulle-Etoile
เวลาเปิด-ปิดทำการ : ทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง
พิกัด GPS : 48°52'25.7"N 2°17'42.1"E
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : http://palanla.com/index.php?op=abroadLocation-detail&id=40
3. พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ (Louvre Museum)
พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์เก็บรวบรวมผลงานศิลปะอันทรงคุณค่าไว้มากกว่า 35,000 ชิ้น รวมไปถึงผลงานชื่อก้องโลกอย่าง ภาพวาดโมนาลิซ่า ของศิลปินลีโอนาโด ดาวินซี หรือ รูปปั้น Venus de Milo จึงเป็นพิพิธภัณฑ์ที่ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก และนอกจากนี้ พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ยังเป็นหนึ่งในฉากสำคัญของภาพยนตร์ชื่อดังระดับโลกอย่าง รหัสลับดาวินซี (The Davinci Code)
ข้อมูลการเดินทาง
- รถไฟ Metro หรือรถไฟฟ้าใต้ดิน สาย 1 ลงที่สถานี Palais-Royal–Musée du Louvre
เวลาเปิด-ปิดทำการ : วันจันทร์, วันพฤหัสบดี, วันเสาร์ และวันอาทิตย์ เปิดบริการ 9.00 น. – 18.00 น. วันพุธและวันศุกร์ เปิดบริการ 9.00 น. - 21.45 น.
พิกัด GPS : 48°51'38.2"N 2°20'15.5"E
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : http://palanla.com/index.php?op=abroadLocation-detail&id=48
4. มหาวิหารแห่งปารีส (The Cathedral Notre Dame de Paris)
สถาปัตยกรรมอันโดดเด่นคู่กับเมืองปารีสมากกว่า 850 ปี ได้รับการยกย่องให้เป็นผลงานชิ้นเอกในศิลปะโกธิค และเป็นศูนย์รวมความศรัทธาต่อศาสนาคริสตร์ที่สำคัญอย่างยิ่งของเมืองปารีสมานับตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน นอกจากนี้ยังเป็นฉากหลังและแรงบันดาลใจให้กับผลงานเรื่อง “คนค่อมแห่งนอร์ท-ดาม” (The Hunchback of Notre Dame) ของวิกเตอร์ อูโก นักเขียนชาวฝรั่งเศสชื่อดัง ซึ่งหนังสือเล่มนี้ ภายหลังโด่งดังไปทั่วโลกทั้งในฐานะของภาพยนตร์และการ์ตูนอนิเมชั่น ของวอลล์ ดีสนีย์
ข้อมูลการเดินทาง
- รถไฟ RER Local train สาย B และ สาย C ลงที่ป้าย สถานี Saint-Michel-Notre-Dame
- รถไฟ Metro หรือรถไฟฟ้าใต้ดิน สาย 4 เลือกลงที่สถานี City(Cite) หรือสถานี St. Michael, สาย 1 กับสาย 11 นักท่องเที่ยวสามารถเลือกลงที่สถานี City Hall, สาย 10 เลือกลงที่สถานี Maubert-Mutualite หรือ สถานี Cluny - La Sorbonne
เวลาเปิด-ปิดทำการ : ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 8.45 น. – 18.45 น. แต่หากเป็นวันเสาร์ – อาทิตย์ จะปิดบริการเวลา 19.15 น.
พิกัด GPS : 48°51'10.7"N 2°20'59.6"E
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : http://palanla.com/index.php?op=abroadLocation-detail&id=46
5. โบสถ์เซนต์ปอลเซนต์หลุยส์ (Eglise Saint-Paul-Saint-Louis)
โบสถ์แห่งแรกของคณะนิกายเยซูอิด และเป็นโบสถ์แห่งแรกๆที่สร้างขึ้นโดยเน้นไปทางศิลปะบาโรกอันสวยงามมากกว่าศิลปะโกธิคที่เคยได้รับความนิยมอยู่ช่วงเวลาหนึ่ง และโด่งดังในฐานะฉากหลังของผลงานเรื่องเหยื่ออธรรม (Les Misérables) ของวิคเตอร์ ฮูโก้ ผู้เขียนคนค่อมแห่งนอร์ทเธอดาม ซึ่งในเรื่องเหยื่ออธรรม หนึ่งในฉากอันประทับใจอย่างฉากการแต่งงานและเสียงระฆังที่ดังกึกก้องก็ได้รับแรงบันดาลใจมาจากโบสถ์แห่งนี้นั่นเอง
ข้อมูลการเดินทาง
- รถไฟ Metro หรือรถไฟฟ้าใต้ดิน สาย 1 เลือกลงที่สถานี Saint-Paul Station
เวลาเปิด-ปิดทำการ : ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 8.00 น. – 17.00 น.
พิกัด GPS : 48°51'16.1"N 2°21'41.3"E
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : http://www.palanla.com/index.php?op=abroadLocation-detail&id=273
6. พระราชวังแวร์ซาย (Château de Versailles)
สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของประเทศฝรั่งเศส มีนักท่องเที่ยวไปเยือนมากถึงปีละ 15 ล้านคน ปัจจุบันไม่ได้เป็นเพียงพระราชวังที่เคยเป็นที่ประทับของราชวงศ์ฝรั่งเศสเท่านั้น แต่ยังมีความสำคัญในฐานะเสมือนพิพิธภัณฑ์แห่งชาติและอุทยานประวัติศาสตร์ที่โด่งดังแห่งประเทศฝรั่งเศสที่เก็บรวบรวมความสวยงามของสถาปัตยกรรมพระตำหนักต่างๆ ไปจนถึงผลงานศิลปะอันล้ำค่าจากอดีต จนได้รับการยกย่องให้เป็นมรดกโลกตั้งแต่ปี ค.ศ. 1979
ข้อมูลการเดินทาง
- รถบัส รถบัสสาย 171 ซึ่งมีเส้นทางการวิ่งตั้งแต่ ป้าย Pont de Sèvres เมืองปารีส จนถึง Chateau de Versailles หรือพระราชวังแวร์ซาย โดยมีรอบการให้บริการทุก 15 นาที ใช้เลาเดินทางประมาณ 45 นาที ระยะทาง 25 กิโลเมตร
- รถไฟฟ้า รถไฟ RER สาย C เลือกลงที่สถานี Versailles Château - Rive Gauche ใช้เวลาประมาณ 40 นาที และเดินเท้าต่อไปอีกเป็นเวลา 10 นาที หรือใช้บริการ รถไฟ SNCF เพื่อไปยังสถานี Versailles – Chantiers หรือ สถานี Versailles - Rive Droite โดยทั้งสองสถานีใช้เวลาในการเดินต่อไปยังพระราชวังแวร์ซายประมาณ 20 นาที
เวลาเปิด-ปิดทำการ : วันอังคาร – วันอาทิตย์ 9.00 น. – 18.00 น. (อาจมีการเปลี่ยนแปลงตามฤดูกาล)
พิกัด GPS : 48°48'17.5"N 2°07'13.3"E
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : http://palanla.com/index.php?op=abroadLocation-detail&id=42
7. ดิสนีย์แลนด์ปารีส (Disneyland Paris)
สวนสนุกที่มีผู้เข้าชมมากเป็นลำดับต้นๆของยุโรป มีผู้ไปเยือนเกือบ 15 ล้านในปี 2017 ที่ผ่านมา โดยแบ่งการให้บริการของสวนสนุกออกเป็น 2 ส่วนหลักๆคือ ส่วนของดิสนีย์แลนด์พาร์ก (Disneyland Park) และส่วนของสตูดิโอ (Walt Disney Studio) ซึ่งนอกจากจะมีบริการเครื่องเล่นแสนสนุกและมุมเก็บภาพสำหรับแฟนๆของดิสนีย์แล้ว ยังมีการแสดงโชว์, ขบวนพาเหรด และกิจกรรมอีกมากมาย
ข้อมูลการเดินทาง
- รถไฟ RER Local train สาย A ลงที่ป้าย สถานี Marne-la-Vallée/Chessy station
- รถยนต์ อยู่ห่างไปประมาณ 32 กิโลเมตร
- บริการรถด่วนพิเศษของดิสนีย์แลนด์ หรือ Disneyland Paris Express
เวลาเปิด-ปิดทำการ : ทุกวัน ตั้งแต่ 10.00 0น. – 17.00 น. ในส่วนของดิสนีย์ปาร์ค และ 10.00 น. – 18.00 น. ในส่วนของสตูดิโอ
พิกัด GPS : 48°52'01.8"N 2°47'01.7"E
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : http://www.palanla.com/index.php?op=abroadLocation-detail&id=272
8. มูแลง รูจ (Moulin Rouge)
เป็นโรงละครที่มีชื่อเสียงมากที่สุดแห่งหนึ่งในกรุงปารีสที่ตั้งอยู่ในย่านมงมาร์ต หลายคนรู้จักชื่อนี้จากภาพยนตร์อันโด่งดังของยุค 90 ในชื่อเรื่องเดียวกัน โรงละครแห่งนี้เป็นที่รู้จักของผู้ที่ชื่นชอบมิวสิเคิลแดนซ์รวมถึงศิลปะการเต้นระบำแบบ “แคนแคน แดนซ์” หรือ ก็องก็อง ด๊องซ์” (Cancan Dance) ที่นักเต้นบนเวทีจะใส่กระโปรงฟูฟ่องยาวๆ เตะขาสูง เต้นระบำไปตามจังหวะเพลงคล้ายการแสดงโชว์แบบคาบาเรต์ ประกอบแสง สี เสียง สุดอลังการ ด้านหน้าของโรงละครเร่มูแลง รูจ มีสัญลักษณ์โดดเด่นอันเป็นที่จดจำของผู้คนคือกังหันลมสีแดง
ข้อมูลการเดินทาง
- รถยนต์ จากสถานี Châtelet - Les Halles ไปยัง Moulin Rouge โดยใช้ถนนเส้น Boulevard de Sébastopol มีระยะทาง 4.4 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 16 นาที
- รถประจำทาง จากสถานี Châtelet - Les Halles ขึ้นรถประจำทาง สาย 74 Clichy - Berges de Seine ที่ป้าย Rivoli - Chatelet ไปลงป้าย Blanche ใช้เวลาเดินทางประมาณ 15 นาที
- รถไฟ RER จากสถานี Châtelet - Les Halles นั่งรถไฟ RER สาย RER A GARE DE CERGY LE HAUTGare de Cergy le Haut ไปลงที่สถานี Charles de Gaulle – Étoile แล้วเปลี่ยนเป็นรถไฟ M สาย 2 Nation ไปลงสถานี Blanche ใช้เวลา 17 นาที
เวลาเปิด-ปิดทำการ : เปิดทุกวัน ระหว่างเวลา 19.00 น. – 01.00 น. รอบการแสดงมีให้เลือก 2 รอบ คือ 21.00 น. กับ 23.00 น.
พิกัด GPS : 48°53'02.5"N 2°19'56.0"E
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : https://www.palanla.com/th/abroadLocation/detail/774
9. มหาวิหาร ซาเคร-เกอร์ บาซิลิก้า (Basilica of the Sacred Coeur)
ซาเคร-เกอร์ บาซิลิก้า หรือ บาซิลิก้า วิหารในคริสตจักรโรมันคาทอลิกอันงดงามด้วยสถาปัตยกรรมรูปแบบโรมันไบแซนไทน์ (Romano-Byzantine) ซึ่งมีความโดดเด่นและแตกต่างจากโบสถ์แห่งอื่นๆ ในปารีส สถานที่แห่งนี้ถูกขนานนามว่าเป็น “หัวใจอันศักดิ์สิทธิ์ของปารีส” ซึ่งนอกจากจะเป็นศูนย์รวมแห่งศรัทธาแล้ว ซาเคร-เกอร์ บาซิลิก้าบนเนินเขามงมาร์ตแห่งนี้ยังเป็นจุดชมวิวชั้นยอดที่ได้รับความนิยมอีกแห่งหนึ่ง เนื่องจากเป็นจุดที่สามารถมองเห็นหอไอเฟลตั้งเด่นเป็นสง่างามอยู่กลางเมืองปารีสได้ชัดเจนและสวยงาม
ข้อมูลการเดินทาง
- รถยนต์ จากสถานี Châtelet - Les Halles ไปยัง Basilica of the Sacred Coeur โดยใช้ถนนเส้น Boulevard de Sébastopol มีระยะทาง 6.3 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 20 นาที
- รถประจำทาง จากสถานี Châtelet - Les Halles ขึ้นรถประจำทาง สาย 85 Saint-Ouen - les Docks ที่ป้าย Rivoli - Pont Neuf ไปลงป้าย Muller ใช้เวลาเดินทางประมาณ 13 นาที แล้วเดินต่ออีก 400 เมตร
- รถไฟ RER จากสถานี Châtelet - Les Halles นั่งรถไฟสาย 4 Porte de Clignancourt ไปลงที่สถานี Château Rouge ใช้เวลา 10 นาที จากนั้นเดินต่ออีกประมาณ 600 เมตร
เวลาเปิด-ปิดทำการ : มหาวิหาร เปิดบริการทุกวันตั้งแต่เวลา 6.00 น. – 22.30 น. ส่วนที่เป็นโดม เปิดให้บริการ 8.00 น. – 22.30 น. ในเดือนพฤษภาคม – เดือนกันยายน และ 9.00 น. – 17.00 น. ในเดือนตุลาคม – เดือนเมษายน
พิกัด GPS : 48°53'12.1"N 2°20'35.2"E
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : https://www.palanla.com/th/abroadLocation/detail/771
10. ห้างสรรพสินค้าลาฟาแยต (Galeries Lafayette)
ห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งของประเทศฝรั่งเศส และยังถูกจัดให้เป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของเมืองปารีส มีพื้นที่กว่า 70,000 ตารางเมตรจากตัวตึก 3 ตึก มีร้านค้ามากกว่า 3,500 ร้านที่จำหน่ายสินค้าแบรนด์ดังจากทั่วโลก และมีภัตตาคารซึ่งให้บริการอาหารฝรั่งเศสซึ่งเป็นรสชาติเฉพาะของเมืองปารีสอีก 25 ร้าน เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสถึงศิลปะการใช้ชีวิตแบบปารีเซียงที่หรูหรา ตามคอนเซ็ปต์ของห้างสรรพสินค้า
ข้อมูลการเดินทาง
- รถไฟ RER Local train สาย A ลงที่ป้าย สถานี Auber
- รถไฟ Metro หรือรถไฟฟ้าใต้ดิน สาย 7 หรือ สาย 9 เลือกลงที่สถานี Chaussee d'Antin-La Fayette
เวลาเปิด-ปิดทำการ : วันจันทร์ – เสาร์ 9.30 น. – 20.30 น., วันอาทิตย์ 11.00 น – 19.00 น.
พิกัด GPS : 48°52'24.1"N 2°19'52.9"E
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : http://palanla.com/index.php?op=abroadLocation-detail&id=29
11. ถนนฌ็องเซลิเซ่ (Champs Elysees)
ถนนฌ็องเซลิเซ่ เป็นหนึ่งในถนนที่มีชื่อเสียงโด่งดังในฝรั่งเศสและเป็นสวรรค์ของนักช้อป ฌ็องเซลิเซ่ มาจากคำว่า “ทุ่งเอลิเซียม” จากเทพปกรณัมกรีกในภาษาฝรั่งเศส ในอดีตเคยเป็นท้องทุ่งและสวนธรรมดาในกรุงปารีสเท่านั้น กระทั่งปีค.ศ.1616 พระราชินี มารี เดอ เมดิชิ ทรงมีพระประสงค์ในการขยายพื้นที่ของสวนหย่อมในพระราชวังตุยเลอรีให้กว้างขึ้น และในปี ค.ศ. 1724 มีการตัดเส้นทางถนนฌ็องเซลิเซ่ให้เชื่อมต่อกับจัตุรัสชาร์ล เดอ โกล ที่มีประตูชัยฝรั่งเศสตั้งตระหง่านอยู่ตรงกลาง ตึกส่วนใหญ่บนถนนฌ็องเซลิเซ่เป็นสถาปัตยกรรมที่ผสมผสานระหว่างศิลปะแบบ Art Deco กับการตกแต่งสไตล์ Art Nouveau เข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว ถนนสายนี้เรียกได้ว่าเป็นย่านศูนย์การค้าระดับพรีเมียมที่รวมแบรนด์ดังระดับโลกเอาไว้ รวมถึงร้านอาหารหรูและอีกมากมายที่น่าตื่นตาตื่นใจตลอดสองข้างทาง
ข้อมูลการเดินทาง
- รถไฟ RER Local train สาย A ลงที่ป้าย Charles-de-Gaulle-Etoile
- รถไฟ Metro หรือรถไฟฟ้าใต้ดิน สาย 1, สาย 2 และสาย 6 โดยเลือกลงที่สถานี Charles-de-Gaulle-Etoile
เวลาเปิด-ปิดทำการ : ทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง
พิกัด GPS : 48°52'25.7"N 2°17'42.1"E
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : http://palanla.com/index.php?op=abroadLocation-detail&id=40
12. เอาท์เล็ท ลาวาเล่ (La Vallée Village)
เอาท์เล็ท ลาวาเล่ ตั้งอยู่ห่างจากเมืองปารีสออกไปทางทิศตะวันออกประมาณ 32 กิโลเมตร เป็นหนึ่งในเอาท์เล็ทชื่อดังที่ก่อตั้งขึ้นมาตั้งแต่ 1992 และบริหารงานโดยเครือบริษัท Value Retail ซึ่งมีความตั้งใจจะทำแหล่งรวมร้านค้าชื่อดังต่างๆ ที่ไม่เพียงให้นักท่องเที่ยวได้จับจ่ายซื้อของราคาถูกเท่านั้น แต่ยังมอบบรรยากาศสบายๆ ที่น่าประทับใจให้กับนักท่องเที่ยวที่มาเยือนด้วย เอาท์เล็ทแห่งนี้เป็นเอาท์เล็ทจำหน่ายสินค้าแบรด์เนมชื่อดังต่างๆ โดยจำหน่ายในราคาถูกกว่าราคาปกติอย่างน้อย 30 เปอร์เซ็นต์ และมีบางช่วงโปรโมชั่นพิเศษตามฤดูกาลต่างๆ ที่อาจลดราคาไปถึง 70 เปอร์เซ็นต์หรือมากกว่า ทำให้เป็นสถานที่ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากจากนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบการช็อปปิ้งสินค้าแบรนด์เนม
ข้อมูลการเดินทาง
- รถไฟ RER รถไฟ RER สาย A ลงที่ป้าย Val d'Europe Station ซึ่งอยู่ใกล้กับเอาท์เล็ท หรือ นั่งไปลงจนสุดสายที่สถานี Marne-la-Vallée / Chessy station จากนั้นนั่งรถบัสที่ให้บริการระหว่างดิสนีย์แลนด์และเอาท์เล็ทเดินทางมายังเอาท์เล็ทแห่งนี้ได้
เวลาเปิด-ปิด : เอาท์เล็ท ลาวาเล่ เปิดให้บริการทุกวัน โดยวันจันทร์ – ศุกร์ จะเปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 10.00 น. – 19.00 น. และในวันเสาร์ – อาทิตย์ หรือในช่วงเทศกาลพิเศษ จะเปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 10.00 น. – 20.00 น.พิกัด GPS : 48°51'12.1"N 2°46'58.0"E
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ เอาท์เล็ท ลาวาเล่ ได้ที่ : https://palanla.com/th/abroadLocation/detail/228
13. ล่องเรือแม่น้ำแซนชมเมืองปารีส (Sunset River Cruise on the Seine)
ปารีสเป็นเมืองที่มีแม่น้ำไหลผ่านโอบรอบตัวเมือง และมีสถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่งที่ตั้งอยู่ใกล้กับแม่น้ำ การชมปารีสด้วยการล่องเรือเป็นกิจกรรมที่นักท่องเที่ยวนิยมไม่แพ้กับทางบก จึงมีหลายบริษัทที่ให้บริการล่องเรือชมเมืองปารีสในยามพระอาทิตย์อัสดงด้วย โดยจุดเริ่มต้นของเส้นทางการล่องเรือมักจะอยู่ที่ท่าเรือบริเวณใกล้กับสะพานของหอไอเฟล ค่อยๆ ล่องไปตามแม่น้ำแซนมาแล้ววนกลับมายังจุดเริ่มต้นเป็นระยะเวลา 1 ชั่วโมง โดยผ่านสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญหลายแห่ง อาทิ หอไอเฟล มหาวิหารแห่งปารีส พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ ฯลฯ รวมถึงลอดใต้สะพานอเล็กแซนเดอร์ที่ 3 (หรือ Pont Alexandre-III) ซึ่งได้รับการยกย่องว่าเป็นสะพานที่สวยงามที่สุดในเมืองปารีส
ข้อมูลการเดินทาง
- รถไฟ RER จากสถานี Châtelet - Les Halles นั่งรถไฟ RER สาย BFontaine Michalon ไปลงที่สถานี Saint-Michel Notre-Dame จากนั้นเปลี่ยนเป็นสาย CVersailles Château Rive Gauche ไปลงที่สถานี Pont de l'Alma ใช้เวลา 9 นาที แล้วเดินต่อประมาณ 600 เมตรเพื่อไปยังจุดขึ้นเรือที่ River Cruise Port ใกล้ๆ กับหอไอเฟล
เวลาเปิด-ปิดทำการ : ช่วงเดือนเมษายน – เดือนกันยายน เรือมีให้บริการตั้งแต่เวลา 10.00 - 22.30 น. ส่วนในช่วงเดือนตุลาคม – เดือนมีนาคม ตั้งแต่เวลา 10.30 - 21.20 น.
พิกัด GPS : 48°51'41.3"N 2°17'45.6"E
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : https://palanla.com/th/abroadLocation/detail/226
14. นั่ง Hop-on Hop-off เที่ยวปารีส (Hop-on Hop-off Sightseeing Big Bus Paris)
Hop-on Hop-off เป็น บริการรถบัส 2 ชั้น โดยชั้นบนเปิดประทุน วิ่งวนตามเส้นทางที่ผ่านแหล่งท่องเที่ยวสำคัญต่างๆในเมืองปารีส อาทิ พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์, หอไอเฟล, ประตูชัยแห่งฝรั่งเศส และถนนช็องเซลีเซ่ ฯลฯ นักท่องเที่ยวจะสามารถดื่มด่ำและเก็บภาพสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญเหล่านี้ได้อย่างชัดเจนจากมุมมองด้านบนของตัวรถ และยังสามารถเลือกลงที่จุดจอดตามแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ เพื่อเที่ยวชมได้ โดยหลังจากเที่ยวเสร็จสามารถเดินกลับมาที่ป้ายจุดจอด Hop-on Hop-off เพื่อรอขึ้นรถคันใหม่ที่จะวิ่งวนมาทุก 7 – 15 นาที
ข้อมูลการเดินทาง
- รถไฟ Metro จากสถานี Châtelet - Les Halles นั่งรถไฟใต้ดินสาย 14 ไปลงที่สถานี Pyramides ซึ่งอยู่ใกล้กับสำนักกงานของ Hop-on Hop-off ใช้เวลาเดินทาง 3 นาที
เวลาเปิด-ปิดทำการ : ทุกวันตั้งแต่เวลา 09.45 – 17.30 น. รถคันแรกเริ่มให้บริการ 09.45 น. และรถคันสุดท้ายให้บริการเวลา 17.30 น. จาก จุดขึ้นรถ หมายเลข 1
พิกัด GPS : 48°51'39.1"N 2°17'42.6"E
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : https://palanla.com/th/abroadLocation/detail/227
15. จัตุรัสคองคอร์ด (Place de la Concorde)
จัตุรัสคองคอร์ด หรือ ปลัส เดอ ลา กงกอร์ (Place de la Concorde) จัตุรัสที่กว้างขวางที่สุดและตรงกลางมีเสาโอเบลิสก์ (L’Obélisque) น้ำหนัก 227 ตัน สูง 22.83 เมตร ตั้งโดดเด่นใจกลางกรุงปารีสแห่งนี้ ถือเป็นสัญลักษณ์ของสงครามกลางเมืองและการปฏิวัติการปกครองของฝรั่งเศสที่ไม่อาจลืมเลือน
จัตุรัสคองคอร์ด หรือ ปลัส เดอ ลา กงกอร์ สร้างขึ้นในสมัยของพระเจ้าหลุยส์ที่ 15 เพื่อประดิษฐานพระบรมรูปทรงม้า โดยสร้างแล้วเสร็จในปี ค.ศ.1755 ทว่าถูกทำลายโดยพระเจ้าหลุยส์ที่ 16 พร้อมการนำเครื่องประหารชีวิต “กิโยติน” (Guillotine) มาตั้งแทน ในอดีตช่วงที่มีการปฏิวัติฝรั่งเศสนั้น พื้นที่ของจัตุรัสแห่งนี้เคยใช้เป็นที่ประหารชีวิตผู้คนเป็นจำนวนมากด้วยเครื่องประหารคอกิโยติน รวมถึงเป็นที่ประหารกษัตริย์คือ พระเจ้าหลุยส์ที่ 16 และราชินีคือพระนางมารี อ็องตัวแนตด้วย ภายหลังหมดยุคแห่งการนองเลือดแล้ว ทางการฝรั่งเศสจึงได้เปลี่ยนชื่อจัตุรัสเป็นชื่อต่างๆ อยู่หลายต่อหลายครั้ง จนสุดท้ายจึงมาลงเอยที่ชื่อ ปลัส เดอ ลา กงกอร์ (Place de la Concorde) ที่แปลว่า “จัตุรัสแห่งความสงบสุข”
ข้อมูลการเดินทาง
- รถยนต์ จากสถานี Châtelet - Les Halles ไปยัง Place de la Concorde โดยใช้ถนนเส้น Rue de Rivoli มีระยะทาง 3.3 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 10 นาที
- รถประจำทาง จากสถานี Châtelet - Les Halles ขึ้นรถประจำทาง สาย 72 Parc de Saint-Cloud ที่ป้าย Rivoli – Chatelet ไปลงป้าย Cours la Reine / Chevaux de Marly ใช้เวลาเดินทางประมาณ 15 นาที แล้วเดินต่ออีก 350 เมตร
- รถไฟ จากสถานี Châtelet - Les Halles นั่งรถไฟสาย 1 La Defense ไปลงที่สถานี Concorde ใช้เวลา 4 นาที จากนั้นเดินต่ออีกประมาณ 600 เมตร
เวลาเปิด-ปิดทำการ : เปิดทุกวัน 24 ชั่วโมง
พิกัด GPS : 48°51'55.7"N 2°19'13.8"E
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : https://palanla.com/th/abroadLocation/detail/770
16. พระราชวังลุกซ็องบูร์ (Luxembourg Palace)
ขอบคุณภาพประกอบจาก https://unsplash.com/
พระราชวังลุกซ็องบูร์ (Palais du Luxembourg / Luxembourg Palace) ตั้งอยู่ในเขตของสวนลุกซ็องบูร์ บริเวณทางเหนือในกรุงปารีส ในอดีตพระราชวังแห่งนี้เคยเป็นพระราชวังของสมเด็จพระราชินีมารี เดอ เมดิชิ แห่งพระเจ้าหลุยส์ที่ 13 ปัจจุบันเป็นที่ทำการของวุฒิสภาฝรั่งเศส พระราชวังลุกซ็องบูร์ได้รับการออกแบบให้มีสไตล์คล้ายกับพระราชวังพิตติ (Pitti Palace) ในเมืองฟลอเรนซ์ ประเทศอิตาลี ซึ่งเป็นบ้านเกิดของสมเด็จพระราชินีมารี เดอ เมดิชิ ในอดีตภายในพระราชวังนี้แห่งนี้มีของล้ำค่ามากมายประดับตกแต่งอยู่ ปัจจุบันของเหล่านั้นได้สูญหายไปเป็นจำนวนค่อนข้างมาก และบางส่วนก็ถูกส่งไปตาม พิพิธภัณฑ์ต่างๆ มีเพียงสิ่งเดียวที่ยังคงประดับอยู่ในพระราชวังแห่งนี้ คือ ภาพวาดของพระราชินีมารี เดอ เมดิชิ ที่วาดโดย ปีเตอร์ พอล รูเบนส์ (Peter Paul Rubens) จิตรกรยุคบาโรก ที่มีชื่อเสียงในคริสต์ศตวรรษที่ 17
ข้อมูลการเดินทาง
- รถยนต์ จากสถานี Châtelet - Les Halles ไปยัง Luxembourg Palace โดยใช้ถนนเส้น Quai de l'Hôtel de ville มีระยะทาง 3.8 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 18 นาที
- รถไฟ RER จากสถานี Châtelet - Les Halles นั่งรถไฟ RER สาย RER BPIDO 84St-Rémy-lès-Chevreuse ไปลงที่สถานี Luxembourg ใช้เวลา 4 นาที จากนั้นเดินต่ออีกประมาณ 700 เมตร
เวลาเปิด-ปิดทำการ : เปิดให้เข้าชมทุกวัน เวลาทำการเปิด-ปิดจะปรับเปลี่ยนไปในแต่ละฤดู โดยเวลาเปิดจะอยู่ระหว่าง 7.00 - 8.15 น. และเวลาปิดคือระหว่าง 16.45 - 21.45 น. นักท่องเที่ยวสามารถจัดทริปเดินชมภายในได้ในช่วงวันจันทร์และวันศุกร์ และในช่วงวันหยุดพิเศษระหว่างสุดสัปดาห์ที่ 3 ของเดือนกันยายน นอกเหนือจากนี้ยังสามารถเข้าชมได้หากไม่มีการประชุมวุฒิสภา
พิกัด GPS : 48°50'56.1"N 2°20'15.0"E
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : https://palanla.com/th/abroadLocation/detail/773
17. สะพานปงต์อาแล็กซ็องดร์-ทรัว (Pont Alexandre-III)
สะพานปงต์อาแล็กซ็องดร์-ทรัว (Pont Alexandre-III) หรือ สะพานอะเลคซันดร์ที่ 3 เป็นสะพานโค้งพาดผ่านแม่น้ำแซน เชื่อมต่อทั้งสองฝั่งแม่น้ำด้านฝั่งหอไอเฟลกับฝั่งช็องเซลีเซเข้าหากัน สร้างขึ้นช่วงปี ค.ศ. 1896 – ค.ศ. 1900 ด้วยสถาปัตยกรรมแบบอาร์ตนูโว (Art nouveau) ประดับตกแต่งด้วยโคมไฟอันวิจิตร รูปปั้นทูตสวรรค์ เทพีต่างๆ และม้าบิน ชื่อสะพานนั้นตั้งเพื่อเป็นเกียรติแด่สมเด็จพระจักรพรรดิอะเลคซันดร์ที่ 3 แห่งรัสเซีย ที่ได้ตกลงสัญญาพันธมิตรระหว่างสองประเทศในปี ค.ศ. 1892 สะพานปงต์อาแล็กซ็องดร์-ทรัวถูกกล่าวขานว่าเป็นสะพานที่ประดับประดาไปด้วยงานศิลปะชั้นเลิศ และหรูหราที่สุดในปารีส โดยในปัจจุบันได้ขึ้นทะเบียนเป็นอนุสรณ์สถานทางประวัติศาสตร์แห่งฝรั่งเศส สะพานแห่งนี้ถูกใช้เป็นโลเกชั่นสำหรับการถ่ายภาพยนตร์หลายต่อหลายเรื่อง ส่วนใหญ่มักเป็นฉากในหนังรักโรแมนติก อาทิ Midnight in Paris, Paris, je t'aime, Moulin Rouge, A View to a Kill และเรื่องอื่นๆ อีกหลายเรื่อง
ข้อมูลการเดินทาง
- รถยนต์ จากสถานี Châtelet - Les Halles ไปยัง Pont Alexandre-III โดยใช้ถนนเส้น Rue de Rivoli มีระยะทาง 3.9 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 15 นาที
- รถประจำทาง จากสถานี Châtelet - Les Halles ขึ้นรถประจำทาง สาย RER BSOSO14Robinson ไปลงป้าย Saint-Michel Notre-Dame จากนั้นต่อสาย RER CGOTA1IMontigny-Beauchamp ไปลงที่ Invalides ใช้เวลาเดินทางประมาณ 15 นาที
- รถไฟ จากสถานี Châtelet - Les Halles นั่งรถไฟสาย 1 La Defense ไปลงที่สถานี Champs-Élysées - Clemenceau ใช้เวลา 6 นาที จากนั้นเดินต่ออีกประมาณ 500 เมตร
เวลาเปิด-ปิดทำการ : เปิดทุกวัน 24 ชั่วโมง
พิกัด GPS : 48°51'46.9"N 2°18'48.7"E
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : https://palanla.com/th/abroadLocation/detail/769
18. หอคอย มงต์ปาร์นาส (Montparnasse Tower)
หอคอย มงต์ปาร์นาส (Montparnasse Tower) สร้างขึ้นระหว่างปี ค.ศ. 1969 - 1973 เป็นตึกสถาปัตยกรรมรูปแบบทันสมัย สีดำเงิน ความสูง 210 เมตร ตั้งตระหง่านอยู่ในย่านมงต์ปาร์นาสของกรุงปารีส ถือเป็นตึกระฟ้าที่สูงที่สุดในฝรั่งเศสจนถึงปีค.ศ. 2011 และยังสูงเป็นอันดับ 13 ของยุโรปอีกด้วย ภายในหอคอย มงต์ปาร์นาส ประกอบด้วยทั้งหมด 59 ชั้น มีทั้งอาคารสำนักงาน ร้านอาหาร บาร์ แหล่งช้อปปิ้ง รวมทั้งจุดชมวิว โดยจุดชมวิวจะอยู่ที่ชั้น 56 และ 59 ของอาคาร หอคอยแห่งนี้ทำหน้าที่ต้อนรับนักท่องเที่ยวมากกว่า 750,000 คนในแต่ละปี ที่มาชมทัศนียภาพที่ดีที่สุดและแลนด์มาร์กสำคัญของปารีสจากจุดชมวิวภายในอาคารแห่งนี้
ข้อมูลการเดินทาง
- รถยนต์ จากสถานี Châtelet - Les Halles ไปยังหอคอย มงต์ปาร์นาส มีระยะทาง 4.7 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 10 นาที
- รถไฟ จากสถานี Châtelet - Les Halles นั่งรถไฟสาย 4Bagneux - Lucie Aubrac ไปลงที่สถานี Paris Montparnasse Hall 1 - 2 ใช้เวลา 10 นาที แล้วเดินต่ออีก 270 เมตรเพื่อไปยังหอคอย มงต์ปาร์นาส
เวลาเปิด-ปิดทำการ : เปิดให้บริการทุกวันเวลา 09.30 น. - 23.30น. แต่สำหรับช่วงเดือนตุลาคม – มีนาคม วันเสาร์-อาทิตย์ขยายเวลาเปิดถึง 23.00 น.
พิกัด GPS : 48°50'29.9"N 2°19'17.8"E
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : https://palanla.com/th/abroadLocation/detail/2431
19. สะพานปงต์เดซาร์ (Pont des Art)
สะพานปงต์เดซาร์ (Pont des Art) เป็นสะพานคนเดินเท้าข้ามแม่น้ำแซนในปารีสที่เชื่อมระหว่างสถาบันแห่งฝรั่งเศส (Institut de France) กับจัตุรัสหน้าพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ สะพานแห่งนี้สร้างขึ้นราว ค.ศ. 1802-1804 ในสมัยจักรพรรดินโปเลียนที่ 1 เป็นสะพานเหล็กที่ประกอบด้วยช่องโค้งจำนวน 9 ช่อง โดยถือเป็นสะพานเหล็กแห่งแรกในปารีส ชื่อของสะพานนั้นตั้งตามชื่อของพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ซึ่งเคยมีชื่อเดิมว่า "ปาแลเดซาร์" (Palais des Arts) ปัจจุบันสะพานปงต์เดซาร์เป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญแห่งหนึ่งของปารีสที่คู่หนุ่มสาวนิยมนำกุญแจสลักชื่อของตัวเองหรือ Love Lock มาแขวนไว้กับราวสะพาน และโยนลูกกุญแจลงแม่น้ำแซน เป็นการแสดงคำมั่นสัญญาแทนความรักที่ยั่งยืน
ข้อมูลการเดินทาง
- เดิน จากสถานี Châtelet - Les Halles ไปยัง Pont des Art มีระยะทาง 850 เมตร วิธีที่สะดวกที่สุดคือการเดิน โดยใช้เวลาประมาณ 10 นาที
เวลาเปิด-ปิดทำการ : เปิดทุกวัน 24 ชั่วโมง
พิกัด GPS : 48°51'28.0"N 2°20'14.0"E
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : https://palanla.com/th/abroadLocation/detail/2429
20. สะพานปงต์เนิฟ (Pont Neuf)
สะพานปงต์เนิฟ (Pont Neuf) แปลความหมายตรงตัวว่า “สะพานใหม่” ทว่าเป็นสะพานเก่าแก่ที่สุดในกรุงปารีส เริ่มสร้างขึ้นตั้งแต่สมัยพระเจ้าอ็องรีที่ 3 ปี ค.ศ. 1578 และเสร็จสิ้นในสมัยพระเจ้าอ็องรีที่ 4 ในปี ค.ศ.1607 สะพานแห่งนี้แตกต่างจากสะพานเก่าแก่ทั่วไปคือไม่มีบ้านเรือนที่ผู้คนตั้งรกรากอยู่อาศัยสองข้างสะพาน เนื่องจากพระเจ้าอ็องรีที่ 4 ทรงมีความกังวลว่าจะบดบังทัศนียภาพอันสวยงามของพระราชวังลูฟร์ สะพานปงต์เนิฟผ่านการซ่อมปรับปรุงมาหลายต่อหลายครั้ง รวมถึงการสร้างเสาฐานขึ้นใหม่และลดระดับความสูงของตัวสะพานโดยเปลี่ยนจากช่องโค้งทรงกลมเป็นทรงรูปไข่ ขอบสะพานมีการแกะสลักตกแต่งอย่างสวยงาม การปรับปรุงครั้งใหญ่เกิดขึ้นในปีค.ศ. 1994 และได้เฉลิมฉลองครบรอบ 400 ปีของสะพานนี้ในปี ค.ศ. 2007
ข้อมูลการเดินทาง
- เดิน จากสถานี Châtelet - Les Halles ไปยัง Pont Neuf มีระยะทาง 400 เมตร วิธีที่สะดวกที่สุดคือการเดิน ใช้เวลาประมาณ 5 นาที
เวลาเปิด-ปิดทำการ : เปิดทุกวัน 24 ชั่วโมง
พิกัด GPS : 48°51'25.1"N 2°20'28.6"E
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : https://palanla.com/th/abroadLocation/detail/2430
21. จัตุรัส ปลาส ว็องโดม (Place Vendome)
จัตุรัส ปลาส ว็องโดม (Place Vendome) ตั้งอยู่ทางทิศเหนือของสวนจาร์คแด็ง เดอ ตุยเลอรีส์ (Jardin de Tuilleries) เดิมรู้จักกันในนามของ ปลาส เดส์ ก็องแก็ตต์ (Place des Conquettes) ซึ่งเริ่มสร้างมาตั้งแต่ ค.ศ. 1702 ในสมัยของพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 จัตุรัสแห่งนี้ถูกกล่าวขวัญว่าเป็นย่านที่หรูหราและแพงที่สุดในโลก เนื่องจากบรรดาร้านจำหน่ายเครื่องประดับชั้นสูงจากอัญมณีที่มีค่าที่สุดจากทุกแหล่งของโลกนั้นชุมนุมกันอยู่ที่นี่ อาทิ บูร์คเฌอฮ์รง (Bourcheron) ว็อง คลีฟ เอต์ อาร์คเปล (Van Cleef & Arpels) การ์คติเอร์ (Cartier) โชเมต์ (Chaumet) บูร์เชลลาตติ (Bourcellati) ปัวฮ์เร่ต์ (Poirret) เป็นต้น และยังเป็นที่ตั้งของโรงแรมที่มีชื่อเสียงอย่าง Hotel Ritz Paris ที่บรรดาราชวงศ์ต่างๆ จากทั่วโลกเคยมาประทับและโปรดปราน
ข้อมูลการเดินทาง
- รถยนต์ จากสถานี Châtelet - Les Halles ไปยัง Place Vendome มีระยะทาง 3.5 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 10 นาที
- รถไฟ จากสถานี Châtelet - Les Halles นั่งรถไฟสาย 1 La Défense (Grande Arche) ไปลงที่สถานี Tuileries ใช้เวลา 5 นาที แล้วเดินต่ออีกประมาณ 500 เมตร เพื่อไปยัง Place Vendôme
เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน 24 ชั่วโมง
พิกัด GPS : 48°51'59.8"N 2°19'50.6"E
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ จัตุรัส ปลาส ว็องโดม ได้ที่ : https://palanla.com/th/abroadLocation/detail/2426
ข้อมูลอื่นๆ ที่ควรรู้ :
- เว็บไซต์พยากรณ์อากาศ
https://www.accuweather.com
- ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวแคว้นอิล-เดอ-ฟรองซ์
http://en.visitparisregion.com/
- สกุลเงินที่ใช้ : สกุลเงินที่ใช้ : ยูโร (EUR)
แอปพลิเคชัน "บริการรถแท็กซี่" ในประเทศฝรั่งเศส
- G7 Taxi สามารถดาวน์โหลดได้ที่ App Store (iOS) และ Play Store (Android)
- Uber สามารถดาวน์โหลดได้ที่ App Store (iOS) และ Play Store (Android)
แอปพลิเคชัน "แผนที่ในการนำทาง" ในประเทศฝรั่งเศส
- Google Map สามารถดาวน์โหลดได้ที่ App Store (iOS) และ Play Store (Android)
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ
หมู่บ้านซอมมารอย เมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์
หมู่บ้านซอมมารอย (Sommarøy) เป็นหมู่บ้านชาวประมงเก่าแก่ทางตะวันตกของเมืองทรุมเซอ (Tromsø) ประเทศนอร์เวย์ อยู่ห่างจากเมืองทรุมเซอไปทางตะวันตกประมาณ 58 กิโลเมตร เป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมเนื่องจากมีหาดทรายขาวและทิวทัศน์สวยงาม
อ่านต่อมหาวิหารอาร์กติก เมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์
มหาวิหารอาร์กติก (Arctic Cathedral) เป็นหนึ่งในแลนด์มาร์คที่โดดเด่นที่สุดของเมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์ ด้วยสถาปัตยกรรมที่เป็นเอกลักษณ์และความหมายอันลึกซึ้ง ทำให้มหาวิหารแห่งนี้กลายเป็นสัญลักษณ์ของเมืองและเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเยือนทรุมเซอ
อ่านต่อมหาวิหารทรุมเซอ เมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์
มหาวิหารทรุมเซอ (Tromso Cathedral) หรือที่รู้จักในชื่อ "Tromsdalen Church" เป็นโบสถ์ที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นด้วยโครงสร้างไม้ขนาดใหญ่ และการออกแบบตกแต่งภายในอันงดงาม
อ่านต่อท่าเรือทรุมเซอ เมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์
ท่าเรือทรุมเซอ (Port of Tromsø) ตั้งอยู่ในใจกลางเมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์ ท่าเรือแห่งนี้เป็นมากกว่าแค่จุดขึ้นลงเรือเท่านั้น แต่ยังเป็นหัวใจสำคัญของเมืองทรุมเซอ และเป็นประตูสู่ดินแดนอาร์กติกที่น่าตื่นตาตื่นใจ
อ่านต่อกระเช้าไฟฟ้าเฟียลไฮเซน เมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์
กระเช้าไฟฟ้าเฟียลไฮเซน (Fjellheisen Cable Car) เป็นอีกหนึ่งไฮไลต์ที่พลาดไม่ได้เมื่อมาเยือนเมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์ การนั่งกระเช้าลอยฟ้าขึ้นไปบนยอดเขาสโตรสไตเนิน (Storsteinen Mountain) จะพานักท่องเที่ยวไปสัมผัสกับวิวเมืองทรุมเซอและฟยอร์ดอันงดงามแบบ 360 องศา
อ่านต่อหมู่บ้านแฮมนอย หมู่เกาะโลโฟเทน ประเทศนอร์เวย์
หมู่บ้านแฮมนอย (Hamnoy) ถือเป็นสัญลักษณ์ของหมู่เกาะโลโฟเทน (Lofoten) มีลักษณะโดดเด่นคือ “โรบูเอ้” สีแดง (Rorbuer) กระท่อมสำหรับพักชั่วคราวของชาวประมงที่เรียงรายอยู่บนโขดหิน และมีฉากหลังเป็นภูเขา เป็นภาพที่ปรากฏอยู่บนโปสการ์ด ของที่ระลึก และสื่อประชาสัมพันธ์ท่องเที่ยวต่างๆ
อ่านต่อหมู่บ้านนูส์ฟยอร์ด หมู่เกาะโลโฟเทน ประเทศนอร์เวย์
หมู่บ้านนูส์ฟยอร์ด (Nusfjord) คือหมู่บ้านชาวประมงเล็ก ๆ ตั้งอยู่บนชายฝั่งด้านใต้ของเกาะ Flakstadøya ในอ่าวเวสฟยอร์เดน (Vestfjord) เขตเทศบาล Flakstad ของเมือง Lofoten ประเทศนอร์เวย์ หมู่บ้านแห่งนี้ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในหมู่บ้านชาวประมงที่สวยที่สุดในนอร์เวย์ และอาจจะเป็นหนึ่งในหมู่บ้านชาวประมงที่สวยที่สุดในโลกก็เป็นได้
อ่านต่อหมู่บ้านซาคริซอย หมู่เกาะโลโฟเทน ประเทศนอร์เวย์
หมู่บ้านซาคริซอย (Sakrisoy) เป็นหมู่บ้านเล็กๆ ที่ตั้งอยู่เชิงเขาโอลสตินด์ (Olstind) ซึ่งเป็นหนึ่งในภูเขาที่โดดเด่นที่สุดของหมู่เกาะโลโฟเทน (Lofoten) และอีกหนึ่งลักษณะที่โดดเด่นคือหมู่บ้านนี้คือ “โรบูเอ้” สีเหลือง (Rorbuer) กระท่อมสำหรับพักชั่วคราวของชาวประมงที่เรียงรายอยู่ตามริมฝั่งฟยอร์ด
อ่านต่อหมู่บ้านไรเนอร์ หมู่เกาะโลโฟเทน ประเทศนอร์เวย์
หมู่บ้านไรเนอร์ (Reine) เป็นหมู่บ้านเล็กๆ ตั้งอยู่ในหมู่เกาะโลโฟเทน (Lofoten) ทางตอนเหนือของประเทศนอร์เวย์ ที่ซ่อนความงดงามและเสน่ห์อันไม่เหมือนใคร จนได้ชื่อว่าเป็นหมู่บ้านที่สวยที่สุดในหมู่เกาะโลโฟเทน และสวยที่สุดในประเทศนอร์เวย์
อ่านต่อล่องเรือชมฟยอร์ดไกแรงเกอร์ เมืองโอเลซุนด์ ประเทศนอร์เวย์
ไกแรงเกอร์ฟยอร์ด (Geirangerfjord) หนึ่งในฟยอร์ดที่สวยที่สุดในโลก และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก (UNESCO) ด้วยภูมิประเทศที่เป็นเอกลักษณ์ของหน้าผาสูงชัน น้ำตกที่ตกลงมาจากหน้าผา และหมู่บ้านเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ริมฟยอร์ด ทำให้ไกแรงเกอร์ฟยอร์ดเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการสัมผัสความงามของธรรมชาติอันบริสุทธิ์แห่งนอร์เวย์
อ่านต่อ