ทะเลสาบไซโกะ จังหวัดยามานาชิ ประเทศญี่ปุ่น

  • อ่าน (4,276)
  • By Webmaster
  • 03:54:37 | 2 ก.พ. 2566

ทะเลสาบไซโกะ จังหวัดยามานาชิ ประเทศญี่ปุ่น

Saiko Lake, Yamanashi, Japan


ชาวญี่ปุ่นนั่งตกปลาริมทะเลสาบไซโกะในยามเช้า

           ทะเลสาบไซโกะ คือ 1 ในทะเลสาบทั้ง 5 รอบภูเขาไฟฟูจิ บริเวณโดยรอบเป็นภูเขา ป่าไม้ และมีถ้ำหลายแห่งที่เกิดจากลาวาของภูเขาไฟฟูจิไหลผ่าน ตั้งอยู่ติดกับทะเลสาบคาวากุจิโกะ ในจังหวัดยามานาชิ ประเทศญี่ปุ่น

           ทะเลสาบไซโกะมีต้นกำเนิดจากการระเบิดของภูเขาไฟฟูจิในอดีต จนทำให้ลาวาที่กระจายตัวออกมาปิดกั้นพื้นที่เดิมซึ่งเป็นแม่น้ำ จนกลายเป็นทะเลสาบดังเช่นทุกวันนี้ นอกจากนี้ยังได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากองค์กร Unesco พร้อมกันกับภูเขาไฟฟูจิ อุทยานแห่งชาติฟุจิ-ฮะโกะเนะ-อิซุ และน้ำตกชิระอิโตะ ในปี ค.ศ. 2013

           แม้ทะเลสาบไซโกะจะอยู่ติดกับทะเลสาบคาวากุจิโกะที่มีชื่อเสียงและได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวมากที่สุด แต่บรรยากาศโดยรอบของทะเลสาบไซโกะนั้นยังคงเต็มไปด้วยความสงบ และสามารถสัมผัสความสมบูรณ์ของธรรมชาติได้อย่างเต็มที่ ข้อจำกัดของทะเลสาบไซโกะคือพื้นที่ส่วนใหญ่ล้อมรอบด้วยภูเขาสูง จึงทำให้มีจุดที่สามารถมองเห็นวิวภูเขาไฟฟูจิอย่างชัดเจนเพียงจุดเดียว คือ บริเวณฝั่งทิศตะวันตกของทะเลสาบ (ป้ายรถเมล์หมายเลข 67 Nenba Minshuku)


บริเวณจุดจอดรถและจุดชมวิวภูเขาไฟฟูจิจากทะเลสาบไซโกะ ซึ่งอยู่ทางฝั่งทิศตะวันตกของทะเลสาบ
 

การเดินทางบริเวณทะเลสาบไซโกะ

           - รถบัส นักท่องเที่ยวสามารถใช้บริการรถ Saiko Sightseeing Bus (สายสีเขียว) ของบริษัท Fujikyu ซึ่งวิ่งระหว่างสถานีรถไฟคาวากุจิโกะ-ทะเลสาบคาวากุจิโกะ-ทะเลสาบไซโกะ ตั้งแต่เวลา 09.00 – 17.00 น. ใช้เวลาเดินทางเที่ยวละประมาณ 40 นาที นักท่องเที่ยวสามารถซื้อ 2 day pass ได้ในราคา 1,200 เยน นักท่องเที่ยวสามารถตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Saiko Sightseeing Bus ได้ที่ http://bus-en.fujikyu.co.jp/heritage-tour/detail/id/1/

           - รถแท็กซี่ บริเวณรอบภูเขาไฟฟูจิมีรถแท็กซี่ให้บริการทั้งแบบคิดตามมิเตอร์ และแบบเหมา โดยอัตรามิเตอร์เริ่มต้นที่ 730 เยน และเพิ่มขึ้นครั้งละ 90 เยนทุกๆระยะทาง 244 เมตร ส่วนอัตราเหมาเริ่มต้นที่ชั่วโมงละ 6,900 เยน นักท่องเที่ยวสามารถตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://www.fujiq-taxi.jp/en/taxi/
 

เวลาในการเปิด-ปิดทำการ

           เนื่องจากทะเลสาบไซโกะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ จึงไม่มีวันหยุดและวันปิดทำการ สำหรับข้อมูลเวลาเปิดปิดทำการของสถานที่ต่างๆบริเวณทะเลสาบไซโกะ นักท่องเที่ยวสามารถตรวจสอบได้ที่ https://www.japan-guide.com/e/e6907.html


ป้ายทะเลสาบไซโกะบริเวณจุดชมวิว
 

การซื้อบัตรเข้าชม

           บริเวณรอบทะเลสาบยามานากาโกะไม่มีการเก็บค่าเข้าชม แต่สถานที่บางแห่งอาทิเช่นถ้ำต่างๆ มีการเก็บค่าเข้าชมเพิ่มเติม นักท่องเที่ยวสามารถตรวจสอบข้อมูลได้ที่ https://www.japan-guide.com/e/e6907.html
 

เวลาที่เหมาะสมสำหรับการท่องเที่ยว


ภูเขาสูงมากมายที่เรียงรายล้อมทะเลสาบไซโกะเอาไว้

           นักท่องเที่ยวสามารถมาเยือนทะเลสาบไซโกะได้ตลอดทั้งปี ทั้งนี้ในช่วงฤดูหนาว ระหว่างเดือนธันวาคมถึงกุมภาพันธ์ ตารางการเดินรถและกิจกรรมต่างๆรอบทะเลสาบอาจมีการยกเลิกหรือเปลี่ยนแปลง นักท่องเที่ยวควรตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมอีกครั้ง

           นอกจากนี้ นักท่องเที่ยวยังสามารถตรวจสอบพยากรณ์อากาศล่วงหน้าเพื่อความสะดวกในการท่องเที่ยวได้ที่ https://www.accuweather.com/
 

จุดท่องเที่ยวที่น่าสนใจบริเวณทะเลสาบไซโกะ

           - ถ้ำค้างคาว (Bat Cave) เป็นถ้ำที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในบรรดาทั้ง 3 ถ้ำที่เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมบริเวณทะเลสาบไซโกะ ลักษณะของถ้ำจะอยู่ใต้ดิน มีโพรงขนาดต่างๆซึ่งเกิดจากลาวาไหลผ่าน มีระยะทางที่เปิดให้เที่ยวชมประมาณ 350 เมตร นอกจากจะเป็นถ้ำที่มีค้างคาวอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก ยังมีการค้นพบค้างคาวชนิดใหม่ของญี่ปุ่นภายในถ้ำแห่งนี้ ที่บริเวณด้านหน้าของทำยังมีพิพิธภัณฑ์ค้างคาวเพื่อให้ข้อมูลความรู้แก่นักท่องเที่ยวอีกด้วย


บรรยากาศภายในถ้ำค้างคาวซึ่งมีการค้นพบค้างคาวชนิดใหม่ของญี่ปุ่น
 

           - ถ้ำน้ำแข็ง (Ice Cave) เป็นถ้ำที่มีอุณหภูมิต่ำกว่า 0 องศาตลอดทั้งปี ภายในถ้ำจะพบกับผลึกน้ำแข็งรูปทรงต่างๆมากมาย ระยะทางในการเดินชมตามเส้นทางภายในถ้ำมีความยาวทั้งหมด 153 เมตร มีเพดานค่อนข้างต่ำ และพื้นถ้ำอาจมีความลื่นอยู่บ้าง ในอดีต ถ้ำแห่งนี้ยังเคยถูกใช้เป็นที่เก็บน้ำแข็งของชาวบ้านเพื่อให้มีใช้ตลอดทั้งปีอีกด้วย


ถ้ำน้ำแข็งที่มีอุณหภูมิติดลบตลอดทั้งปี จนถูกใช้เป็นเหมือนตู้เย็นสำหรับชาวบ้านในอดีต
 

           - ถ้ำลม (Wind Cave) มีลักษณะโดยทั่วไปคล้ายกับถ้ำน้ำแข็ง เป็นถ้ำที่มีอุณหภูมิต่ำกว่า 0 องศาตลอดทั้งปีเช่นกัน โดยในอดีตถ้ำแห่งนี้ถูกใช้เพื่อเก็บเสบียงอาหาร รวมถึงเป็นที่เก็บรักษาไข่ของหนอนไหมก่อนที่จะนำไปผลิตเครื่องนุ่งห่ม ถ้ำแห่งนี้มีความยาวทั้งหมด 201 เมตร และมีเพดานถ้ำค่อนข้างสูง นักท่องเที่ยวสามารถเดินชมได้อย่างไม่ลำบากมากนัก


บรรยากาศภายในถ้ำลมที่มีอุณหภูมิติดลบเช่นเดียวกับถ้ำน้ำแข็ง และมีเพดานถ้ำค่อนข้างสูง

           นักท่องเที่ยวสามารถตรวจสอบเวลาการเปิดปิดทำการ และค่าใช้จ่ายในการเข้าชมของถ้ำแต่ละแห่งได้ที่ https://www.japan-guide.com/e/e6911.html
 

           - พิพิธภัณฑ์หมู่บ้านอิยาชิโนซาโตะ (Iyashi no Sato) ในอดีตเป็นหมู่บ้านที่ทำเกษตรกรรมและหัตถกรรมแบบญี่ปุ่น จะกระทั่งในปี ค.ศ. 1966 หมู่บ้านแห่งนี้ถูกพายุไต้ฝุ่นพัดถล่มจนเสียหายอย่างหนัก คนในหมู่บ้านเดิมย้ายไปอยู่อาศัยในพื้นที่อื่น หลังจากนั้นจึงมีการบูรณะหมู่บ้านแห่งนี้ขึ้นมาใหม่ในปี ค.ศ. 2006 เพื่อทำเป็นพิพิธภัณฑ์กลางแจ้ง มีจุดประสงค์เพื่อให้ข้อมูลความรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมและงานหัตถกรรมแบบดั้งเดิม นอกจากนี้ยังเป็นจุดที่นักท่องเที่ยวสามารถพบกับภาพหมู่บ้านโบราณซึ่งมีภูเขาไฟฟูจิเป็นฉากหลังอีกด้วย นักท่องเที่ยวสามารถตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับพิพิธภัณฑ์หมู่บ้านอิยาชิโนซาโตะได้ที่ https://www.japan-guide.com/e/e6923.html


ต้นซากุระหน้าพิพิธภัณฑ์หมู่บ้านอิยาชิโนซาโตะผลิดอกในฤดูใบไม้ผลิ
 

ข้อมูลทั่วไปที่ควรรู้


ชาวญี่ปุ่นสูงวัยแวะมาตกปลาตามจุดต่างๆรอบทะเลสาบไซโกะ

           รถบัสสายเขียวของบริษัท Fujikyu ถือเป็นระบบขนส่งสาธารณะเพียงชนิดเดียวระหว่างสถานีคาวากุจิโกะและทะเลสาบไซโกะ ตลอดการเดินทางนักท่องเที่ยวจึงควรตรวจสอบตารางการเดินรถ และรักษาเวลาในการท่องเที่ยวให้ดี

           เนื่องจากทัศนวิสัยและสภาพอากาศบริเวณทะเลสาบคาวากุจิโกะอาจมีความแปรปรวนและส่งผลต่อการมองเห็นภูเขาไฟฟูจิเป็นอย่างมาก นอกจากการตรวจสอบพยากรณ์อากาศจากโทรศัพท์มือถือ หรือเว็บไซต์พยากรณ์อากาศที่เป็นสากลอย่าง Accuweather แล้ว นักท่องเที่ยวควรตรวจสอบพยากรณ์อากาศจากหน่วยงานในประเทศญี่ปุ่นควบคู่ไปด้วย เนื่องจากการพยากรณ์อากาศในญี่ปุ่นนั้นค่อนข้างมีความแม่นยำสูง และเชื่อถือได้ โดยหน่วยงานที่ได้รับการยอมรับมากที่สุดคือกรมอุตุวิทยาประเทศญี่ปุ่น (JMA) ที่มีการพยากรณ์สภาพอากาศในทุกจังหวัดของญี่ปุ่นแบบรายชั่วโมง และยังคอยแจ้งเตือนแผ่นดินไหว หรืออุบัติภัยอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับธรรมชาติในประเทศญี่ปุ่นอีกด้วย

             เว็บไซต์กรมอุตุวิทยาญี่ปุ่น (Japan Meteorological Agency) : http://www.jma.go.jp/jma/indexe.html

           จากตัวอย่างในภาพ หากสัญลักษณ์ในตารางพยากรณ์อากาศในจังหวัด Yamanashi เป็น รูปดวงอาทิตย์ ถือว่ามีโอกาสสูงประมาณ 90% ที่จะมองเห็นภูเขาไฟฟูจิแบบไม่มีเมฆบดบัง หากสัญลักษณ์ในตารางพยากรณ์อากาศเป็น รูปดวงอาทิตย์และก้อนเมฆ จะมีโอกาสประมาณ 50-70% ที่จะมองเห็นภูเขาไฟฟูจิ หากเป็น รูปก้อนเมฆอย่างเดียว จะมีจะมีโอกาสประมาณ 20-40% ที่จะมองเห็นภูเขาไฟฟูจิ และหากเป็น รูปก้อนเมฆพร้อมฝน ถือว่าแทบไม่มีโอกาสมองเห็นภูเขาไฟฟูจิเลย

           นอกจากการตรวจสอบพยากรณ์อากาศ เพื่อข้อมูลที่ชัดเจนมากขึ้น บริเวณรอบภูเขาไฟฟูจิยังมี 2 หน่วยงานหลักที่ ติดตั้งกล้อง Webcam ไว้ตามจุดต่างๆ เพื่ออัพเดทภาพภูเขาไฟฟูจิแบบสดๆ หรืออัพเดทเป็นรายนาที ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถเข้าไปตรวจสอบภาพพื้นที่โดยรอบภูเขาไฟฟูจิในช่วงเวลาปัจจุบันได้ทันทีบนเว็บไซต์ เพื่อประกอบการตัดสินใจว่าควรเดินทางไปท่องเที่ยวบริเวณนั้นหรือไม่

             1. องค์การการท่องเที่ยวจังหวัดยามานาชิ (Yamanashi Prefecture Tourism Organization)

           กล้องขององค์การท่องเที่ยวจังหวัดยามานาชิ มีทั้งหมด 9 ตัว ซึ่งครอบคลุมภาพจากบริเวณทะเลสาบทั้ง 5 แห่ง รวมถึงจุดอื่นๆ ซึ่งมีการทำแผนที่แสดงมุมกล้องอย่างชัดเจนบนเว็บไซต์ เว็บไซต์ : https://www.yamanashi-kankou.jp/fujisanwatcher/live/index.html

             2. Fujigoko TV

           กล้องของบริษัท Fujigoko TV มีจำนวนกว่า 20 ตัวรอบภูเขาไฟฟูจิ ครอบคลุมทั้งพื้นที่ทะเลสาบทั้ง 5 แห่ง รวมถึงจุดท่องเที่ยวยอดนิยมอื่นๆอย่างโอชิโนะ ฮักไก และภูเขาไฟฟูจิชั้นที่ 5 โดยส่วนใหญ่จะเป็นภาพนิ่งจากกล้องที่มีการอัพเดททุกๆ 1-5 นาที และยังสามารถดูภาพย้อนหลังในช่วงเวลาอื่นของวันได้อีกด้วย เว็บไซต์ : http://www.fujigoko.tv/english/

 

             นักท่องเที่ยวที่สนใจไปเที่ยวทะเลสาบไซโกะ สามารถศึกษา ข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่

                         ทะเลสาบไซโกะ

                         (Saiko Lake)

                         อัตราค่าเข้าชม : ไม่เสียค่าใช้จ่าย

                         เวลาเปิด-ปิด : ไม่มีวันปิดทำการ

                         ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการท่องเที่ยว : ตลอดทั้งปี

                         สถานที่ตั้ง : จังหวัดยามานาชิ ประเทศญี่ปุ่น

                         โทรศัพท์ : (+81) 555-72-3168

                         เว็บไซต์ : http://www.saiko-kankou.jp/ (ภาษาญี่ปุ่น)

                         ระดับความนิยม

                         ข้อมูลอื่นๆที่ควรรู้ : เว็บไซต์การท่องเที่ยวจังหวัดยามานาชิ http://www.yamanashi-kankou.jp/english/

                                         เว็บไซต์สำหรับตรวจสอบสภาพอากาศ https://www.accuweather.com

 

สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ

11 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในจังหวัดคานากาว่า ประเทศญี่ปุ่น

จังหวัดคานากาว่า (Kanagawa) เป็นเขตปกครองตนเองที่ตั้งอยู่ใน ภูมิภาคคันโต ของประเทศญี่ปุ่น จังหวัดนี้เป็นที่ตั้งของเมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงหลายเมืองด้วยกัน อาทิ คามาคุระ (Kamakura) โยโกฮาม่า (Yokohama) และฮาโกเน่ (Hakone)…Palanla ได้รวบรวมเอา 11 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในจังหวัดคานากาว่า ตั้งแต่ชายหาด พระใหญ่ วัดเก่าแก่ ศาลเจ้า ไชน่าทาวน์ สวนสนุก อควาเรียม ทะเลสาบ ไปจนถึงกระเช้าลอยฟ้าและจุดชมภูเขาไฟฟูจิ มาไว้แล้วในบทความนี้

อ่านต่อ

สวนหลิวหยวน เมืองซูโจว มณฑลเจียงซู ประเทศจีน

สวนหลิวหยวน หรือ สวนสิงโต (Lion Forest Garden) เป็นสวนจีนโบราณที่สวยงาม ตั้งอยู่ในเมืองซูโจว มณฑลเจียงซู ประเทศจีน สวนแห่งนี้มีประวัติศาสตร์อันยาวนานและมีการเปลี่ยนแปลงเจ้าของและชื่อหลายครั้งตลอดหลายศตวรรษ สวนหลิวหยวน ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในสวนคลาสสิกที่สำคัญที่สุดของซูโจว และเป็นส่วนหนึ่งของ "สวนคลาสสิกของซูโจว" ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมโดยองค์การยูเนสโก (UNESCO) ในปี ค.ศ.2000

อ่านต่อ

สวนจัวเจิ้ง เมืองซูโจว มณฑลเจียงซู ประเทศจีน

สวนจัวเจิ้ง (Humble Administrator’s Garden) เป็นสวนที่ใหญ่ที่สุดในซูโจวและได้ชื่อว่าเป็นสวนที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศจีนตอนใต้ สวนแห่งนี้ถูกใช้เป็นฉากหลังของภาพยนตร์และรายการโทรทัศน์จีนหลายเรื่องด้วยกัน และได้รับการบันทึกให้เป็นมรดกโลกโดยยูเนสโก (UNESCO) ในปี ค.ศ. 1997

อ่านต่อ

เนินเขาเสือ เมืองซูโจว มณฑลเจียงซู ประเทศจีน

เนินเขาเสือ หรือเนินหู่ชิว (Tiger Hill) ได้ชื่อว่าเป็นจุดชมวิวที่สวยที่สุดในซูโจว นักท่องเที่ยวนิยมปีนขึ้นไปชมทิวทัศน์ธรรมชาติที่มีเสน่ห์และโบราณวัตถุอันทรงคุณค่าของซูโจว ไม่ว่าจะเป็นหลุมศพโบราณ บ่อน้ำ เจดีย์ และห้องสมบัติ เหมือนได้ย้อนเวลากลับไปสัมผัสความสวยงามของทิวทัศน์ในวรรณคดีจีนโบราณ โดยที่นี่ยังได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก (UNESCO) ด้วย

อ่านต่อ

ทะเลสาบจินจี เมืองซูโจว มณฑลเจียงซู ประเทศจีน

ทะเลสาบจินจี (Jinji Lake) ทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดในซูโจว ซึ่งแวดล้อมไปด้วยสวนสาธารณะริมทะเลสาบ ศูนย์จัดแสดงสินค้า พิพิธภัณฑ์ โรงแรม ฯลฯ ถือเป็นพื้นที่พักผ่อนหย่อนใจและเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมอีกแห่งหนึ่งของเมืองซูโจว

อ่านต่อ

ถนนซานถัง เมืองซูโจว มณฑลเจียงซู ประเทศจีน

ถนนซานถัง (Shantang Street) ถนนโบราณที่มีความเก่าแก่เกือบ 1,200 ปี ครั้งหนึ่งถนนสายนี้เคยเป็นศูนย์กลางการค้าและวัฒนธรรมที่เจริญรุ่งเรืองที่สุดในสมัยราชวงศ์หมิงและราชวงศ์ชิง ปัจจุบันซานถังยังคงเป็นถนนที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ของประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม โดยได้รับการยกย่องว่าเป็น “ภาพย่อของซูโจวเก่า” และยังถูกจัดอันดับให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวระดับ AAAA ของประเทศ

อ่านต่อ

อุทยานวัฒนธรรมแห่งชาติคลองต้ายุ่น เมืองซูโจว มณฑลเจียงซู ประเทศจีน

อุทยานวัฒนธรรมแห่งชาติคลองต้ายุ่น (Grand Canal National Culture Park) เป็นส่วนหนึ่งของคลองต้ายุ่นซึ่งทอดตัวยาวกว่า 3,000 กิโลเมตร และเป็นแหล่งหลอมรวมวัฒนธรรมสำคัญในประเทศจีนมานานกว่า 2,500 ปี ที่นี่ถือเป็นหนึ่งในจุดท่องเที่ยวยอดนิยมของเมืองซูโจว

อ่านต่อ

สะพานโจกากุระ โอฮาชิ จังหวัดอาโอโมริ ประเทศญี่ปุ่น

สะพานโจกากุระ โอฮาชิ (Jogakura Ohashi Bridge) ในเทือกเขาฮักโกดะทางตอนใต้ในเมืองอาโอโมริ เป็นสะพานแขวนคอนกรีตเสริมเหล็กแห่งแรกของญี่ปุ่น และยังถือเป็นสะพานแขวนที่สูงที่สุดในญี่ปุ่น นอกจากสถาปัตยกรรมอันโดดเด่นของตัวสะพานแล้ว สะพานโจกากุระ โอฮาชิยังขึ้นชื่อเรื่องวิวทิวทัศน์ที่งดงาม โดยเฉพาะในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี

อ่านต่อ

พระใหญ่ไดบุทสึวัดเซเรียวจิ จังหวัดอาโอโมริ ประเทศญี่ปุ่น

พระใหญ่ไดบุทสึวัดเซเรียวจิ (Showa Daibutsu Seiryu-Ji) หรือ พระพุทธรูปไดบุทสึแห่งยุคโชวะ เป็นพระพุทธรูปสำริดขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่น ความสูง 21.35 เมตร น้ำหนัก 77 ตันที่ประดิษฐานอยู่ภายในวัดเซเรียวจิ จังหวัดอาโอโมริ

อ่านต่อ

ตลาดปลาอาอูกะ จังหวัดอาโอโมริ ประเทศญี่ปุ่น

ตลาดปลาอาอูกะ (Auga Fresh Market) ศูนย์กลางจำหน่ายอาหารทะเลสดใหม่จากท่าเรืออาโอโมริ ที่เป็นเหมือนครัวของเมืองนี้และเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่นักท่องเที่ยวไม่อาจพลาด

อ่านต่อ
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ