- หน้าแรก
- ท่องเที่ยวต่างประเทศ
- มหาวิหารมง-แซง-มีแชล แคว้นนอร์ม็องดี ประเทศฝรั่งเศส
มหาวิหารมง-แซง-มีแชล แคว้นนอร์ม็องดี ประเทศฝรั่งเศส
- อ่าน (5,298)
- By Webmaster
- 11:03:37 | 24 ม.ค. 2561
มหาวิหารมง-แซง-มีแชล แคว้นนอร์ม็องดี ประเทศฝรั่งเศส
Le Mont-Saint-Michel, Normandy, France
มหาวิหารมง-แซง-มีแชล (Le Mont-Saint-Michel) หรือที่โด่งดังในชื่อของ “มหาวิหารกลางน้ำ” ตั้งอยู่บนเกาะหิน ใกล้ชายฝั่งของเมืองม็องช์ แคว้นนอร์ม็องดี ประเทศฝรั่งเศส
มหาวิหารมง-แซง-มีแชล เป็นศูนย์รวมแห่งศรัทธาของคริสต์ศาสนาสืบเนื่องมายาวนานเกือบ 1,000 ปี นับแต่ศตวรรษที่ 8 จนถึงศตวรรษที่ 18 และยังถูกยกย่องให้เป็น สัญลักษณ์อันยากจะลืมเลือนของแหล่งท่องเที่ยวในยุโรป โดยมหาวิหารแห่งนี้มีนักท่องเที่ยวมาเยือนมากถึงปีละ 2.5 ล้านคน เพื่อชื่นชมมหาวิหารที่ตั้งอยู่บนเกาะกลางน้ำ ซึ่งจะมีเวลาที่น้ำขึ้น-ลง ทำให้บางช่วงน้ำขึ้น นักท่องเที่ยวจะสามารถเก็บภาพมหาวิหารกลางผืนน้ำได้ หรือสามารถเดินเล่นบนหาดทรายได้ ในเวลาที่น้ำลง
ด้วยเหตุนี้เอง มหาวิหารมง-แซง-มีแชล จึงได้รับการแต่งตั้งให้เป็นมรดกโลก ในปี 1979
มหาวิหารมง-แซง-มีแชลเมื่อมองจากชายฝั่งจะเห็นสายน้ำที่ไหลลงสู่ท้องทะเล
มหาวิหารยามค่ำคืนกับน้ำทะเลที่เริ่มขึ้นสูง
ภาพของหาดทรายตอนน้ำลดเมื่อมองจากด้านบนของมหาวิหาร
บรรยากาศในตัวเกาะที่คึกคักไปด้วยผู้คน
ที่มาของมหาวิหารมง-แซง-มีแชล
บันทึกของมหาวิหารมง-แซง-มีแชล ระบุว่า บิชอปอูเบิร์ตเป็นคนแรกที่ริเริ่มสร้างโบสถ์นี้ขึ้นในปี 709 ตามนิมิตที่ได้รับมาจากอัครเทวดามีแชล (หรือที่รู้จักกันในนามมิคาเอล – อัครเทวดาคนสำคัญของศาสนาคริสตร์) โดยสภาพแรกเริ่มนั้นเป็นเพียงโบสถ์หลังเล็กๆ ศิลปะยุคก่อนโรมาเนสก์(นอร์มัน) เท่านั้น
ต่อมา โบสถ์แห่งนี้ได้รับการต่อเติมหลายครั้ง นับแต่ศตวรรษที่ 11 ไปจนถึงศตวรรษที่ 15 โดยการต่อเติมทุกครั้งจะใช้ศิลปะที่โดดเด่นของแต่ละยุคสมัย อาทิศิลปะโรมาเนสก์ ศิลปะโกธิค จนกระทั่งเกิดเหตุวุ่นวายทางการเมืองภายในประเทศฝรั่งเศส การต่อเติมจึงได้หยุดไป และมหาวิหารได้ถูกใช้เป็นเรือนจำคุมขังนักโทษอยู่ระยะเวลาหนึ่ง ก่อนที่จะกลับมาเป็นศาสนสถานอันยิ่งใหญ่อีกครั้ง (อ่านเพิ่มเติมได้ทื่ http://www.ot-montsaintmichel.com/en/histoire.htm)
ประติมากรรมประดับมหาวิหารตามความเชื่อในศาสนาคริสตร์
มหาวิหารอันยิ่งใหญ่เมื่อมองจากด้านล่างขึ้นไป
การเดินทางไปมหาวิหารมง-แซง-มีแชล โดยผ่านทางเมืองม็องช์
มหาวิหารมง-แซง-มีแชล ตั้งอยู่ติดกับชายฝั่งของเมืองม็องช์ แคว้นนอร์ม็องดี ทางตอนเหนือของประเทศฝรั่งเศส นักท่องเที่ยวจึงจำเป็นต้องเดินทางผ่านเมืองม็องช์ก่อน โดยสามารถเลือกใช้เส้นทางได้คือ
เมืองปารีส -->เมืองม็องช์ -->มหาวิหารมง-แซง-มีแชล
เมืองปารีสซึ่งเป็นเมืองหลวงของประเทศฝรั่งเศส ตั้งอยู่ห่างจากเมืองม็องช์ 324 กิโลเมตร และห่างจากมหาวิหารมง-แซง-มีแชล 360 กิโลเมตร โดยเมืองปารีสมีสนามบินให้บริการหลักๆถึง 2 สนามบิน คือ สนามบิน Roissy Charles de Gaulle และ สนามบิน Orly นักท่องเที่ยวจึงสามารถเดินทางมาที่เมืองปารีส และเดินทางต่อได้อยย่างง่ายๆโดย
- รถยนต์ สำหรับนักท่องเที่ยวที่เลือกเดินทางด้วยรถยนต์ สามารถใช้ บริการทางด่วน หรือ ถนน Tollway หมายเลข A13 และต่อด้วย ทางหลวงหมายเลข A84 ในการเดินทางผ่านเมืองม็องช์และไปยังมหาวิหารมง-แซง-มีแชล โดยจะใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมงครึ่ง – 5 ชั่วโมง สามารถตรวจสอบรายละเอียดเส้นทางและค่า Tollway เพิ่มเติมได้ที่ http://www.autoroutes.fr/index.htm?lang=en
ทั้งนี้ เมื่อนักท่องเที่ยวไปถึงชายฝั่งแล้ว สามารถนำรถมาจอดไว้ยังที่จอดรถซึ่งจัดไว้บริการนักท่องเที่ยวได้ โดยสามารถดูรายละเอียดที่จอดรถ และอัตราค่าบริการจอดรถเพิ่มเติมได้ที่ http://www.bienvenueaumontsaintmichel.com/en/preparing-your-visit/arriving-by-car
เมืองก็อง --> เมืองม็องช์ --> มหาวิหารมง-แซง-มีแชล
เมืองก็อง เป็นหนึ่งในเมืองเอกของแคว้นนอร์ม็องดี ตั้งอยู่ห่างจากเมืองม็องช์ประมาณ 92 กิโลเมตร และห่างจากมหาวิหารมง-แซง-มีแชล 128 กิโลเมตร มีสนามบิน ก็อง-การ์ปิเกวต (Caen-Carpiquet Airport) ซึ่งเป็นสนามบินนานาชาติไว้บริการ จึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการเดินทางไปท่องเที่ยวมหาวิหารมง-แซง-มีแชล ซึ่งสามารถเลือกเดินทางต่อได้โดย
- รถยนต์ นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางด้วย ทางหลวงหมายเลข A84 ในการเดินทางผ่านเมืองม็องช์และไปยังมหาวิหารมง-แซง-มีแชล โดยใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมงเศษ ซึ่งระหว่างทางนักท่องเที่ยวยังสามารถชื่นชมกับทิวทัศน์ของทางหลวงประเทศฝรั่งเศสได้อีกด้วย การเดินทางไประหว่างเมืองด้วยรถจึงเป็นการเดินทางที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวจำนวนมาก สามารถตรวจสอบรายละเอียดเส้นทางและจุดแวะพักระหว่างทางเพิ่มเติมได้ที่ http://www.autoroutes.fr/index.htm?lang=en
และเมื่อนักท่องเที่ยวไปถึงชายฝั่งแล้ว สามารถนำรถมาจอดไว้ยังที่จอดรถซึ่งจัดไว้บริการนักท่องเที่ยวได้ โดยสามารถดูรายละเอียดที่จอดรถ และอัตราค่าบริการจอดรถเพิ่มเติมได้ที่ http://www.bienvenueaumontsaintmichel.com/en/preparing-your-visit/arriving-by-car
- รถไฟ TER หรือ Transport Express Régional รถไฟที่วิ่งภายในแคว้นของประเทศฝรั่งเศส โดยนักท่องเที่ยวที่ต้องการใช้บริการรถไฟนี้สามารถซื้อตั๋วที่ตู้จำหน่ายบริเวณสถานี และขึ้นรถไฟเพื่อออกเดินทางได้โดยไม่ต้องจองตั๋วล่วงหน้า นักท่องเที่ยวสามารถ ขึ้นรถไฟจากภายในเมืองก็องและเลือกลงที่สถานี Pontorson ของเมืองม็องช์ โดยสามารถตรวจสอบรอบการเดินทางและราคาค่าโดยสารได้ที่ http://www.sncf.com/en/trains/ter
และหลังจากที่นักท่องเที่ยวออกมาจากสถานีรถไฟแล้ว สามารถใช้บริการ Shutter Bus ซึ่งมีค่าบริการเพียง 2.8 ยูโร/คน/เที่ยว เพื่อเดินทางต่อไปยังมหาวิหารมง-แซง-มีแชล โดยสามารถอ่านรายละเอียดตารางเวลาเพิ่มเติมได้ที่ http://www.bienvenueaumontsaintmichel.com/en/preparing-your-visit/arriving-by-train
เวลาสำหรับการเที่ยวชมมหาวิหารมง-แซง-มีแชล
ภายในมหาวิหารมง-แซง-มีแชล เปิดให้เข้าชม เกือบทุกวัน ยกเว้นวันที่ 1 มกราคม (วันปีใหม่), วันที่ 1 พฤษภาคม (วันแรงงาน) และวันที่ 25 ธันวาคม (วันคริสตร์มาส) ตั้งแต่เวลา 9.30 น. – 18.00 น.
และนอกเหนือจากเวลาดังกล่าว นักท่องเที่ยวยังสามารถเดินเที่ยวชมความงาม ภายนอกของมหาวิหาร และบริเวณอื่นๆรอบเกาะได้ตลอดเวลา
นอกจากมหาวิหาร ส่วนอื่นๆภายในเกาะก็เต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวเช่นเดียวกัน
อัตราค่าเข้าชม
นักท่องเที่ยวที่ต้องการเข้าชมภายในมหาวิหาร มีค่าใช้จ่ายในการเข้าชมคือ 10 ยูโร/คน และหากต้องการใช้บริการ Audio Guide จะมีค่าใช้จ่าย เพิ่มเติม 3 ยูโร/คน
แต่สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการเก็บภาพ ภายภายนอกของมหาวิหาร, ภาพของน้ำทะเลที่ต่างระดับในเวลาต่างๆรอบมหาวิหาร หรือบริเวณอื่นของเกาะเป็นหลัก สามารถเดินชมได้ฟรีโดยไม่มีค่าใช้จ่าย
ด้านบนของมหาวิหารซึ่งเป็นจุดชมทิวทัศน์ยอดนิยม สามารถไปเก็บภาพได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
การเที่ยวชมมหาวิหารมง-แซง-มีแชล
หลังจากนักท่องเที่ยวเดินทางมาถึงชายฝั่ง นักท่องเที่ยวสามารถแวะที่สถานที่จอดรถซึ่งจัดทำไว้เป็นลานหลายลานเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวจำนวนมากที่มาเยือน กับศูนย์บริการนักท่องเที่ยวที่อยู่ใกล้ๆกันได้ โดยภายในศูนย์บริการนักท่องเที่ยวแห่งนี้จะมีการบอกเล่าประวัติการสร้าง, การต่อเติมของมหาวิหารมง-แซง-มีแชล ในอดีต รวมถึงมีบริการห้องน้ำฟรีอีกด้วย
เมื่อชมศูนย์บริการนักท่องเที่ยวแล้ว นักท่องเที่ยวที่จะเดินทางไปยังเกาะอันเป็นที่ตั้งของมหาวิหาร สามารถเลือกเดินทางด้วยวิธีการต่างๆคือ
- การเดินเท้า / การปั่นจักรยาน เกาะมง-แซง-มีแชล อยู่ห่างจากชายฝั่งไปประมาณ 760 เมตร และมีการทำสะพานเชื่อมถึงกันไว้ นักท่องเที่ยวสามารถเลือกเดินเท้าไปบนสะพาน หรือปั่นจักรยานไปได้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆเพิ่มเติม
สะพานเชื่อมซึ่งพานักท่องเที่ยวเดินทางไปยังมหาวิหาร
- Shutter Bus นักท่องเที่ยวสามารถใช้บริการ Shutter Bus จากจุดบริการเชื่อมต่อ Sutter Bus ที่อยู่ใกล้กับลานจอดรถและศูนย์บริการนักท่องเที่ยวบนชายฝั่งได้ โดยรถ Shutter Bus จะพานักท่องเที่ยวออกจากชายฝั่งไปตามสะพานที่เพิ่งข้ามมาใหม่ และหยุดให้นักท่องเที่ยวลงบริเวณที่เลยจากกึ่งกลางสะพานไปเล็กน้อย เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้เดินต่อไปพร้อมๆกับชื่นชมบรรยากาศ
ทั้งนี้การใช้บริการ Shutter Bus ไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆเพิ่มเติม และจะให้บริการในระหว่าง 7.30 น. – 24.00 น. หากนอกเวลาดังกล่าว นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเป็นหมู่คณะสามารถติดต่อเพื่อขอใช้บริการเพิ่มเติมได้ที่ http://www.bienvenueaumontsaintmichel.com/en/accessing-the-site/using-the-passeur-shuttle_bus
ป้ายจุดขึ้นรถ Shutter Bus ไปยังมหาวิหาร
- การนั่งรถม้า นักท่องเที่ยวสามารถใช้บริการรถม้าได้จากป้ายเดียวกับที่ให้บริการ shutter bus ใกล้ลานจอดรถ โดยการโดยสารรถม้านี้ นักท่องเที่ยวจะสามารถนั่งชมทิวทัศน์และเก็บบรรยากาศจากบนรถไปได้จนถึงสุดถนน ใกล้กับประตูทางเข้ามง-แซง-มีแชลบนตัวเกาะ
ทั้งนี้การใช้บริการรถม้ามีค่าใช้จ่าย 5.30 ยูโร/คน/เที่ยว นักท่องเที่ยวที่ต้องการใช้บริการ สามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://www.bienvenueaumontsaintmichel.com/en/accessing-the-site/using-the-horse-drawn-carriages
ป้ายแสดงรายละเอียดเกี่ยวกับการนั่งรถม้าสำหรับนักท่องเที่ยวที่สนใจ
หลังจากเดินทางมาถึงเกาะแล้ว นักท่องเที่ยวสามารถเริ่มเดินชมจากด้านล่างของเกาะ ผ่านอาคารบ้านเรือนซึ่งยังได้รับการดูแลอนุรักษ์รูปทรงจากอดีตไว้ เนื่องจากในอดีต บริเวณนี้เป็นชุมชนที่เคยมีผู้อาศัยอยู่เกือบ 1,000 คน แต่ในปัจจุบัน หลายแห่งได้ถูกปรับปรุงเป็นโรงแรมที่พักและร้านอาหาร เพื่อสนับสนุนการท่องเที่ยว
ประตูเมืองแบบโบราณที่กลายเป็นทางเดินของนักท่องเที่ยว
นักท่องเที่ยวที่เดินผ่านประตูเข้ามาในเมืองจะเจอกับร้านอาหารแบบใหม่
ตัวอาคารซึ่งเป็นสิ่งปลูกสร้างแบบเก่าแต่ได้รับการปรับปรุงเพื่อบริการสมัยใหม่
มองขึ้นไปจากบางมุม จะเห็นมหาวิหารสูงตระหง่านอยู่ด้านบน
และเมื่อนักท่องเที่ยวเดินผ่านบริเวณชุมชนไป จะเห็นทางเดินขึ้นไปจากด้านข้างของมหาวิหาร เพื่อขึ้นไปยังจุดชมทิวทัศน์ของเกาะ ซึ่งจากจุดนี้จะสามารถมองเห็นบางมุมของมหาวิหาร และหากน้ำลด ก็สามารถมองเห็นหาดทรายซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถลงไปเดินเล่นได้
ทางเดินขึ้นด้านข้างของมหาวิหาร
ภาพมหาวิหารเมื่อมองจากทางเดินทางล่าง
ทางเดินบริเวณจุดชมทิวทัศน์ด้านบน ซึ่งสามารถมองเห็นรอบๆเกาะได้
นอกจากทางเดินแล้ว บางจุดยังมีที่ให้นั่งพักพร้อมชมทิวทัศน์ด้วย
ทิวทัศน์ในตัวเมืองที่มองเห็นได้จากด้านบน
มองย้อนกลับลงไปจะเห็นบางส่วนของแนวเมืองและหาดทรายอย่างชัดเจน
หาดทรายแห่งนี้จะปรากฏเฉพาะเวลาน้ำลดเท่านั้น
ที่พักแรมใกล้มหาวิหารมง-แซง-มีแชล
ปัจจุบันชุมชนในเกาะที่ตั้งของมหาวิหารมง-แซง-มีแชล ได้เปลี่ยนเป็นโรงแรมที่พักหรือร้านอาหารเป็นส่วนใหญ่ นักท่องเที่ยวที่ต้องการดื่มด่ำกับบรรยากาศของมหาวิหารในยามค่ำคืน และชมทิวทัศน์เวลาน้ำขึ้น-น้ำลง สามารถเลือกพักโรงแรมในเกาะได้
ที่พักแรมในเกาะซึ่งมีกระจายอยู่เกือบทั่วทั้งเกาะ
ทั้งนี้ นอกจากในเกาะแล้ว นักท่องเที่ยวสามารถเลือกพักแรมที่โรงแรมบนชายฝั่งซึ่งอยู่ไม่ห่างจากศูนย์บริการนักท่องเที่ยวเท่าไรนักได้ ซึ่งข้อดีของโรงแรมบนชายฝั่งคือมีราคาถูกกว่า ทั้งยังมีสภาพห้องที่ใหม่และสะอาดกว่าโรงแรมในตัวเกาะที่ราคาเท่ากัน และนักท่องเที่ยวยังสามารถเก็บภาพของมหาวิหารในเวลากลางคืนจากบนฝั่งได้อีกด้วย
มหาวิหารมง-แซง-มีแชลกับฤดูกาลต่างๆ
มหาวิหารมง-แซง-มีแชล มีนักท่องเที่ยวมาเยือนมากสุดใน ช่วงต้นเดือนพฤษภาคม – ปลายเดือนสิงหาคม ซึ่งเป็นช่วงรอยต่อของฤดูใบไม้ผลิไปจนถึงช่วงฤดูร้อน เนื่องจากเป็นเวลาที่อากาศแจ่มใส มีแสงแดดเยอะ และเหมาะกับการถ่ายรูป แต่สำหรับ นักท่องเที่ยวที่ไม่ชินหรือไม่ถูกอากาศร้อน หากไปเที่ยวในช่วงเวลาดังกล่าว ควรเตรียมหมวก ร่ม หรือแว่นกันแดดไปด้วย
นอกจากเวลาดังกล่าว นักท่องเที่ยวที่ต้องการสัมผัสอากาศเย็น, บรรยากาศในสายหมอกหรือสายฝน สามารถเลือกมาเยือนในช่วงเวลาอื่นๆของปี อาทิ เดือนกันยายน – เดือนพฤศจิกายน ซึ่งอยู่ในช่วงฤดูใบไม้ร่วง และเดือนธันวาคมเป็นต้นไปซึ่งเป็นฤดูหนาว ที่เสน่ห์ไม่แพ้กัน
แม้จะเป็นเดือนกันยายนที่อากาศเริ่มเย็นลง แต่ปริมาณนักท่องเที่ยวก็ไม่ได้ลดลงเท่าไรนัก
นักท่องเที่ยวที่แต่งกายเตรียมพร้อมรับลมเย็นยังเดินเข้าออกเป็นจำนวนมาก
ท้องฟ้าสีครามกับสถาปัตยกรรมหินบนหาดทรายคือเสน่ห์อย่างหนึ่งของการมาเที่ยวช่วงต้นฤดูใบไม้ร่วง
และนักท่องเที่ยวที่ต้องการเก็บภาพบรรยากาศของมหาวิหารมง-แซง-มีแชล ไม่ควรพลาดช่วงเวลาหัวค่ำจนถึงเวลาเที่ยงคืน ที่มหาวิหารจะเปิดไฟสว่างไสวท่ามกลางความมืดของท้องฟ้าและน้ำทะเล ซึ่งเป็นหนึ่งในเสน่ห์ความงามอันขึ้นชื่อของมหาวิหารมง-แซง-มีแชล
มหาวิหารมง-แซง-มีแชลยามค่ำคืนกับแสงไฟที่สว่างไสว
ทั้งนี้ นักท่องเที่ยวที่ต้องการเก็บบรรยากาศยามค่ำคืนในเกาะ และความแตกต่างของระดับน้ำขึ้น-น้ำลงรอบเกาะ ควรพักค้างแรมที่เกาะอย่างน้อยหนึ่งคืน หรือหากต้องการเก็บภาพภายในมหาวิหารและรอบๆเกาะอย่างชัดเจนในเวลากลางวัน ก็ควรใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 5 ชั่วโมงในการเที่ยวชมมหาวิหารและรอบๆเกาะ สามารถตรวจสอบพยากรณ์อากาศ เพื่อวางแผนการเดินทางล่วงหน้า ได้ที่ https://www.accuweather.com/
ข้อมูลทั่วไปที่ควรรู้ในการเที่ยวมหาวิหารมง-แซง-มีแชล
ในปัจจุบัน เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว นอกจากจะมีการสร้างสะพานเชื่อมระหว่างชายฝั่งกับเกาะที่ตั้งของมหาวิหารแล้ว ยังมีการคาดการณ์ช่วงเวลาและปริมาณที่น้ำทะเลจะหนุนขึ้นล่วงหน้าหลายเดือนอีกด้วย โดยนักท่องเที่ยวที่ต้องการเลือกชมภาพมหาวิหารตั้งอยู่กลางทะเล สามารถตรวจสอบวันที่และเวลาน้ำขึ้นดังกล่าวได้ที่ http://www.ot-montsaintmichel.com/en/horaire-marees/mont-saint-michel.htm
สะพานซึ่งสองฟากข้างคือหาดทราย แต่หากเป็นเวลาน้ำขึ้นจะรายล้อมด้วยน้ำทะเลแทน
และเนื่องจากมหาวิหารมง-แซง-มีแชล เป็นมหาวิหารที่สำคัญในศาสนาคริสตร์ จึงมีการจัดงานเทศกาลเกี่ยวกับทางศาสนาอยู่บ่อยครั้ง อาทิ งานวันขอบคุณพระเจ้า หรือ งานวันคริสตร์มาส ซึ่งมีทั้งพิธีในโบสถ์หรือการประดับตกแต่งไฟรอบเกาะ เป็นต้น โดยนักท่องเที่ยวที่ต้องการสัมผัสบรรยากาศของงานเทศกาลอันยิ่งใหญ่เหล่านี้ สามารถตรวจสอบรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://www.ot-montsaintmichel.com/en/agenda/mont-saint-michel.htm
มหาวิหารมง-แซง-มีแชลในฤดูใบไม้ร่วงที่ยังเปิดให้คนเข้าชมความงามเสมอ
นักท่องเที่ยวที่สนใจไปเยี่ยมชม มหาวิหารมง-แซง-มีแชล สามารถศึกษา ข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่
มหาวิหารมง-แซง-มีแชล แคว้นนอร์ม็องดี ประเทศฝรั่งเศส
(Le Mont-Saint-Michel, Normandy, France)
อัตราค่าเข้าชม : ภายในมหาวิหาร 10 ยูโร/คน, ภายนอกหรือรอบเกาะไม่เสียค่าใช้จ่าย
เวลาเปิด – ปิด : ภายในมหาวิหาร 9.30 – 18.00 น. ทุกวัน (เว้น 1 มกราคม, 1 พฤษภาคม และ 25 ธันวาคม)
ภายนอกสามารถเที่ยวชมได้ตลอดเวลา
ฤดูกาลต่างๆในการท่องเที่ยว : ปลายฤดูร้อนและฤดูใบไม้ผลิเดือนพฤษภาคม – เดือนสิงหาคม เป็นช่วงอากาศแจ่มใสที่มีนักท่องเที่ยวเยอะที่สุด
ฤดูใบไม้ร่วงช่วงเดือนกันยายน – เดือนพฤศจิกายน อากาศจะเย็นลง
ฤดูหนาวเดือนธันวาคม – เดือนมีนาคม อากาศจะเย็นมากทั้งอาจมีหมอกอีกด้วย
ตั้งอยู่ที่ : เมืองม็องช์ แคว้นนอร์ม็องดี ประเทศฝรั่งเศส
โทรศัพท์ : (33) (0)2-14-13-20-15 เว็บไซต์ : http://www.bienvenueaumontsaintmichel.com/en
ระดับความนิยม :
ข้อมูลอื่นๆที่ควรรู้ : พยากรณ์อากาศ https://www.accuweather.com/
ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวแคว้นนอร์ม็องดี http://en.normandie-tourisme.fr
การท่องเที่ยวประเทศฝรั่งเศส http://uk.france.fr/en/discover/versailles
ขนส่งสาธารณะของประเทศฝรั่งเศส https://www.ratp.fr/en/plans-lignes
ศูนย์บริการข้อมูลนักท่องเที่ยวมหาวิหาร http://www.ot-montsaintmichel.com/index.htm?lang=en
ตารางคาดการณ์น้ำขึ้นน้ำลง http://bit.ly/1KJQIwj
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ
ล่องบอลลูนชม 2 ดินแดนมรดกโลก…พุกาม & คัปปาโดเชีย
หากเอ่ยถึง “พุกาม” (Bagan) เชื่อว่าคงจะนึกถึงสิ่งอื่นใดไปไม่ได้ นอกจากทะเลเจดีย์นับพันที่สร้างมาตั้งแต่สมัยโบราณ ตั้งเรียงรายอยู่บริเวณพื้นที่ของเขตเขตมัณฑะเลย์ ประเทศเมียนมาร์ และหากเอ่ยถึง “คัปปาโดเชีย” (Cappadocia) ประเทศตุรกีหรือตุรเคีย แน่นอนว่าก็คงจะต้องมีภาพของบอลลูนหลากสีลอยล่องอยู่เหนือภูมิประเทศแปลกตา ที่เต็มไปด้วยกลุ่มภูเขาหินรูปกรวยโผล่ขึ้นมาจากพื้นดิน... ในครั้งนี้ Palanla จะพาออกเดินทางไปสัมผัสกับความน่าอัศจรรย์ของ 2 ดินแดนมรดกโลก “พุกาม” และ “คัปปาโดเชีย” ด้วยมุมมองจากบนท้องฟ้าผ่านการล่องบอลลูนลมร้อน พร้อมแล้วไปด้วยกัน!
อ่านต่อเกรย์ไฟรเออร์บ็อบบี้ (Greyfriars Bobby Statue) & ฮาจิโกะ (Hachiko)
สุนัข ได้ชื่อว่าเป็นเพื่อนที่แสนดีและซื่อสัตย์ของมนุษย์มายาวนานอยู่ทุกหนแห่งของโลกใบนี้ หลายๆ เรื่องราวถูกถ่ายทอดความประทับใจออกมาผ่านภาพยนตร์ หนังสือ ตลอดจนสร้างเป็นรูปปั้นอนุสรณ์สถานเพื่อเชิดชูและระลึกถึงความรักอันบริสุทธิ์ที่เจ้าตูบและมนุษย์มีต่อกัน เช่นเดียวกับรูปปั้นของสุนัขผู้ซื่อสัตย์ 2 แห่งที่ Palanla จะพาไปชมในวันนี้ ที่แรกคือ รูปปั้นสุนัขเกรย์ไฟรเออร์บ็อบบี้ (Greyfriars Bobby Statue) เมืองเอดินเบอระ ประเทศสกอตแลนด์ และอีกที่คือ รูปปั้นสุนัขฮาจิโกะ (Hachiko) ที่เมืองโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น
อ่านต่อ8 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเมืองอิสตันบูล ประเทศตุรกี
อิสตันบูล (Istanbul) เมืองที่ได้ชื่อว่าเป็นนคร 2 ทวีป ซึ่งมีช่องแคบบอสฟอรัสเป็นเส้นแบ่งระหว่างยุโรปและเอเชียแห่งนี้ คือเมืองที่รุ่มรวยไปด้วยประวัติศาสตร์ความเป็นมานับพันๆ ปี จึงไม่น่าแปลกใจหากอิสตันบลูจะเต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวที่มีสถาปัตยกรรมเก่าแก่และงดงามทรงคุณค่ามากมายที่บอกเล่าเรื่องราวความเป็นยุโรปและเอเชียจากอดีตจนถึงปัจจุบัน Palanla จะพาไปชม 8 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเมืองอิสตันบูลที่หากมีโอกาสไปเยือนประเทศตุรกีไม่ควรพลาด
อ่านต่อล่องเรือชมวิวช่องแคบบอสฟอรัส เมืองอิสตันบูล ประเทศตุรกี
ช่องแคบบอสฟอรัส เป็นช่องแคบเล็กๆ ที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ของตุรกี เคยเป็นทั้งเส้นทางการค้าที่สำคัญ และยังเป็นจุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญมาจนถึงปัจจุบัน การล่องเรือชมวิวช่องแคบบอสฟอรัส (Bosphorus Cruise) จึงเป็นวิธีที่ดีที่จะได้สัมผัสบรรยากาศ สถาปัตยกรรม และวัฒนธรรมที่หลากหลายของอิสตันบูล
อ่านต่ออุโมงค์เก็บน้ำเยเรบาตัน เมืองอิสตันบูล ประเทศตุรกี
อุโมงค์เก็บน้ำเยเรบาตัน (Yerebatan Sarnici) คือหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ของตุรกี ดินแดนที่เต็มไปด้วยประวัติความเป็นมามากกว่าพันปี อุโมงค์เก่าแก่ขนาดใหญ่แห่งนี้คือสถานที่เก็บน้ำในสมัยโบราณที่ยังคงความยิ่งใหญ่และงดงาม กับเอกลักษณ์โดดเด่นอย่างเสากรีกที่ค้ำเรียงรายมากถึง 336 ต้น และเสาเมดูซ่าพร้อมตำนานที่เล่าขานกันมาหลายชั่วอายุคน รวมถึงซากโบราณของพระราชวังใต้ดินแห่งกรุงคอนสแตนติโนเปิลสมัยไบเซนไทน์อีกด้วย
อ่านต่อตลาดเครื่องเทศ เมืองอิสตันบูล ประเทศตุรกี
ตลาดเครื่องเทศ (Historical Spice Bazaar / Egyptıan Spıce Bazaar) ในอิสตันบูล เป็นหนึ่งในตลาดที่ใหญ่ที่สุดและเก่าแก่ที่สุดในโลก ตลาดแห่งนี้มีมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 17 ในสมัยจักรวรรดิออตโตมัน เดิมทีเป็นจุดแลกเปลี่ยนเครื่องเทศ ผ้าไหม และสินค้าอื่นๆ จากเอเชียมาสู่ยุโรป
อ่านต่อ10 สถานที่เที่ยวยอดนิยมในเมืองบูดาเปสต์ ประเทศฮังการี
บูดาเปสต์ (Budapest) เป็นเมืองหลวงของประเทศฮังการี ตัวเมืองถูกแบ่งออกเป็นสองฝั่งด้วยแม่น้ำดานูบที่ไหลผ่านกลางเมือง ทำให้ในเมืองเต็มไปด้วยบรรยากาศโรแมนติกจากสถาปัตยกรรมอันสวยงามเปี่ยมเสน่ห์ที่รอคอยให้นักท่องเที่ยวไปเยี่ยมเยือน Palanla ได้รวบรวมเอา 10 สถานที่เที่ยวยอดนิยมในเมืองบูดาเปสต์มาให้แล้วในบทความนี้
อ่านต่อ12 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเมืองปราก สาธารณรัฐเช็ก
ปราก (Prague) เมืองหลวงของสาธารณรัฐเช็ก ประเทศที่ไม่มีทางออกสู่ทะเลนี้ ตั้งอยู่ใจกลางของทวีปยุโรป ในอดีต เมืองปรากเคยเป็นศูนย์กลางการปกครองอันยิ่งใหญ่ของทวีปยุโรป ซึ่งอารยธรรมแห่งความยิ่งใหญ่ และเปี่ยมไปด้วยประวัติศาสตร์อันยาวนานนั้น ก็ยังคงสะท้อนอยู่ในวิถีชีวิตของชาวเมือง วัฒนธรรมประเพณี สถาปัตยกรรม ฯลฯ ราวกับมรดกที่สืบทอด และรักษากันมาอย่างดี จนถูกยกให้เป็นเมืองที่มีความน่าหลงใหล ควรค่าแก่การไปสัมผัสความเป็นยุโรปมากที่สุด โดยเมืองปรากยังได้รับการประกาศให้เป็นเมืองมรดกโลก จากองค์การยูเนสโก (UNESCO) ด้วย ปัจจุบันเมืองนี้นับเป็นหนึ่งในหมุดหมายสำคัญ ของบรรดานักท่องเที่ยวที่มาเยือนทวีปยุโรป ไปชม 12 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเมืองปรากพร้อมๆ กันกับ Palanla!
อ่านต่อถนนแฟชั่นบูดาเปสต์ เมืองบูดาเปสต์ ประเทศฮังการี
ถนนแฟชั่นบูดาเปสต์ (Fashion Street Budapest) เป็นถนนช้อปปิ้งที่มีชื่อเสียงในใจกลางเมืองบูดาเปสต์ ประเทศฮังการี ถนนสายนี้เป็นที่รู้จักในด้านร้านค้าแฟชั่นชั้นนำจากแบรนด์ระดับโลก อาทิ Gucci, Louis Vuitton, Dior, Armani, Prada และ Chanel ถนนสายนี้ยังเต็มไปด้วยร้านอาหาร บาร์ และคาเฟ่มากมาย จึงเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวและชาวเมืองบุดาเปสต์เองด้วย
อ่านต่อล่องเรือดินเนอร์ในบูดาเปสต์ เมืองบูดาเปสต์ ประเทศฮังการี
ล่องเรือดินเนอร์ในบูดาเปสต์ (Dinner Cruise Budapest) เป็นวิธียอดเยี่ยมในการชมความสวยงามของเมืองบูดาเปสต์ โดยขณะที่เรือล่องไปตามแม่น้ำดานูบ (Danube River) นักท่องเที่ยวจะได้เพลิดเพลินกับทัศนียภาพที่สวยงามของสะพาน พระราชวัง และสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ รวมทั้งอิ่มอร่อยกับอาหารรสเลิศและเครื่องดื่มแสนอร่อย
อ่านต่อ