- หน้าแรก
- ท่องเที่ยวต่างประเทศ
- จุงเฟรายอร์ค ประเทศสวิตเซอร์แลนด์
จุงเฟรายอร์ค ประเทศสวิตเซอร์แลนด์

- อ่าน (2,839)
- By Webmaster
- 10:03:52 | 29 มิ.ย. 2565
จุงเฟรายอร์ค ประเทศสวิตเซอร์แลนด์
Jungfraujoch, Switzerland
จุงเฟรายอร์ค (Jungfraujoch) หรือ ยอดเขาจุงเฟรา ได้รับการขนานนามว่าเป็น “Top of Europe” เป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในทวีปยุโรป ด้วยความสูงถึง 4,158 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล บวกกับภูมิประเทศของเทือกเขาสูงสลับซับซ้อนอันงดงาม ปกคลุมด้วยหิมะสีขาวตลอดทั้งปี ที่นี่จึงเป็นจุดหมายปลายทางในฝันของใครหลายๆ คนที่สักครั้งหนึ่งในชีวิตอยากมาเยือน
ประวัติ
ยอดเขาจุงเฟรา หรือ จุงเฟรายอร์ค เป็นส่วนหนึ่งในเทือกเขาแอลป์ ตั้งอยู่ในรัฐแบร์น ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ถือเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในทวีปยุโรป โดยส่วนยอดสูงสุดของจุงเฟรามีความสูงถึง 4,158 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล นอกจากนี้ยังได้รับการยกย่องเป็นพื้นที่มรดกโลกทางธรรมชาติแห่งแรกของยุโรปจากองค์การยูเนสโก เมื่อปี ค.ศ. 2001 อีกด้วย
บนยอดเขาจุงเฟรามีจุดให้เที่ยวชมและทำกิจกรรมได้หลากหลาย นักท่องเที่ยวสามารถใช้เวลา 2-3 ชั่วโมงเที่ยวบนนี้ หรือตลอดทั้งวันก็ได้ ซึ่งจุดเที่ยวหลักๆ ของยอดเขาจุงเฟรานั้นประกอบด้วย Jungfrau Panorama, หอคอย Sphinx, ธารน้ำแข็ง Aletsch Glacier, ทัวร์รถไฟใต้ดิน Alpine Sensation, ถ้ำน้ำแข็งพันปี Ice Palace และที่ราบสูงริมเขา Plateau
Jungfrau Panorama
เป็นจุดแรกเมื่อออกมาจากสถานีรถไฟมา สามารถชมวิวที่ราบกว้างอันงดงาม ออกไปสัมผัสกับหิมะขาวโพลน และชมทัศนียภาพของธารน้ำแข็ง Aletsch
หอคอย Sphinx
หอคอย Sphinx เป็นจุดชมวิวที่สูงที่สุดบนยอดเขาแห่งนี้ อยู่ที่ระดับความสูง 3,571 เมตร บนหอคอยสามารถชมวิวได้แบบ 360 องศา มองเห็นยอดเขาอื่นๆ เรียงรายสลับซับซ้อนปกคลุมไปด้วยหิมะงดงาม (มีลิฟต์ขึ้นไปที่ระเบียงชมวิว)
ธารน้ำแข็ง Aletsch Glacier
เป็นธารน้ำแข็งที่ยาวที่สุดในเทือกเขาแอลป์ (Alps) ด้วยความยาวถึง 32 กิโลเมตร กินพื้นที่ตั้งแต่ภาคกลางของสวิตเซอร์แลนด์ เริ่มจาก Jungfrau ในแคว้น Bern ลากยาวไปถึงภาคใต้ในแคว้น Valais ส่วนที่หนาที่สุดของธารน้ำแข็งนี้มีความหนากว่า 900 เมตร โดยธารน้ำแข็งจะเคลื่อนที่ไปอย่างช้าๆ ด้วยความเร็วเพียง 200 เมตรต่อปี ทว่าในแต่ละปีธารน้ำแข็งแห่งนี้จะละลายเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งบนยอดเขาจุงเฟราก็มีร้านอาหารและร้านกาแฟพร้อมที่นั่งชมวิวสวยๆ ของธารน้ำแข็ง Aletsch ให้นักท่องเที่ยวได้นั่งพักผ่อนพร้อมกับชมความงามของธรรมชาติไปด้วย
Alpine Sensation
เป็นทัวร์รถไฟใต้ดินที่รู้จักกันในชื่อ Alpine Sensation
Ice Palace
เป็นถ้ำน้ำแข็งพันปีที่ไม่มีวันละลาย เกิดจากการขุดเจาะใต้ธารน้ำแข็ง Glacier ลึกลงไป 30 เมตร ภายในมีผลงานศิลปะเป็นน้ำแข็งแกะสลักอยู่ตามจุดต่างๆ ให้ถ่ายรูปเป็นที่ระลึก
Plateau
เป็นที่ราบสูงริมเขา ซึ่งเป็นจุดชมวิวที่สวยงามอีกจุดหนึ่ง โดยจะต้องเดินออกมาตามทางเดินด้านนอก จุดนี้จะมีธงชาติสวิตเซอร์แลนด์ปักอยู่ นักท่องเที่ยวนิยมไปถ่ายรูปกับธงชาติสวิตเซอร์แลนด์กัน
การเดินทางไปยอดเขาจุงเฟรานั้น จากสถานี Interlaken OSTสามารถเลือกเดินทางได้ 2 เส้นทาง คือ ไปทางเมืองกรินเดลวาลด์ (Grindelwald) หรือ ไปทางเมืองเลาเทอร์บรุนเนิน (Lauterbrunnen) แต่ไม่ว่าจะมาทางเมืองกรินเดลวาลด์ หรือ เมืองเลาเทอร์บรุนเนิน ก็จะมาบรรจบกันที่สถานีไคลน์ไซเด็ก (Kleine Scheidegg) จากนั้นนักท่องเที่ยวต้องเปลี่ยนไปนั่งรถไฟสีแดง เพื่อขึ้นสู่ยอดเขาที่สถานีจุงเฟรายอร์ค (Jungfraujoch)
กระเช้าสถานีกระเช้า Eigergletscher ที่จะพานักท่องเที่ยวเดินทางขึ้นสู่เขา ก่อนที่จะต้องเปลี่ยนไปนั่งรถไฟสีแดงเพื่อขึ้นสู่ยอดเขาจุงเฟรายอร์ค (Jungfraujoch)
ทัศนียภาพเบื้องล่างเป็นสีเขียวขจีในช่วงฤดูร้อน
เมื่อกระเช้าไต่ระดับความสูงขึ้นมาเรื่อยๆ ก็จะสัมผัสกับหิมะสีขาวที่ยังปกคลุมเทือกเขา
รถไฟสีแดงขึ้นสู่ยอดเขาจุงเฟรายอร์ค (Jungfraujoch)
ธงชาติประเทศสวิตเซอร์แลนด์
บริเวณระเบียงจุดชมวิว
หอคอย Sphinx เป็นจุดชมวิวที่สูงที่สุดบนยอดเขาแห่งนี้
Plateau เป็นจุดชมวิวที่สวยงามอีกจุดหนึ่ง มีธงชาติสวิตเซอร์แลนด์ปักอยู่ นักท่องเที่ยวนิยมไปถ่ายรูป
Ice Palace เกิดจากการขุดเจาะใต้ธารน้ำแข็ง Glacier ลึกลงไป 30 เมตร
ภายใน Ice Palace มีผลงานศิลปะเป็นน้ำแข็งแกะสลักอยู่ตามจุดต่างๆ ให้ถ่ายรูปเป็นที่ระลึก
การเดินทางไปเมือง Interlaken
- รถยนต์ (Car) จากซูริคไปยังเมืองอินเทอร์ลาเคน โดยรถยนต์ มีระยะทาง 118 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 50 นาที
- รถไฟ (Train) จากซูริคไปยังเมืองอินเทอร์ลาเคน โดยรถไฟ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง
การเดินทางไป Jungfraujoch
การเดินทางไปยอดเขาจุงเฟรานั้น จากสถานี Interlaken OST สามารถเลือกเดินทางได้ 2 เส้นทาง คือ ไปทาง เมืองกรินเดลวาลด์ (Grindelwald) หรือ ไปทาง เมืองเลาเทอร์บรุนเนิน (Lauterbrunnen) แต่ไม่ว่าจะมาทางเมืองกรินเดลวาลด์ หรือ เมืองเลาเทอร์บรุนเนิน ก็จะมาบรรจบกันที่ สถานีไคลน์ไซเด็ก (Kleine Scheidegg) จากนั้น นักท่องเที่ยวต้องเปลี่ยนไปนั่งรถไฟสีแดง เพื่อขึ้นสู่ยอดเขาที่ สถานีจุงเฟรายอร์ค (Jungfraujoch)
*** เส้นทางเมืองกรินเดลวาลด์ (Grindelwald) ใช้เวลาเดินทางโดยรวมประมาณ 1 ชั่วโมง 20 นาที
*** เส้นทางเมืองเลาเทอร์บรุนเนิน (Lauterbrunnen) ใช้เวลาเดินทางโดยรวมประมาณ 1 ชั่วโมง 40 นาที
เวลาทำการเปิด – ปิด
เปิดทุกวัน เวลา 07.30 - 15.30 น.
อาคารบ้านเรือนกับเนินเขาสีเขียวในอ้อมกอดของเทือกเขาแอลป์
ทัศนียภาพที่สวยงามของสวิตเซอร์แลนด์มองจากบนกระเช้า
อัตราค่าเข้าชม
จาก Interlaken Ost ตั๋วเที่ยวเดียวราคา 105.6 CHF ไป-กลับราคา 210.80 CHF
จาก Grindelwald ตั๋วเที่ยวเดียวราคา 97.8 CHF ไป-กลับราคา 195 CHF
จาก Grindelwald Terminal ตั๋วเที่ยวเดียวราคา 95 CHF ไป-กลับราคา 190 CHF
จาก Lauterbrunnen ตั๋วเที่ยวเดียวราคา 97.8 CHF ไป-กลับราคา 195.6 CHF
*** (หากมี Swiss Travel Pass หรือ Swiss Half Fare Card ได้รับส่วนลด 25%)
ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับบัตร ได้ที่ : Swiss Travel Pass https://www.swiss-pass.ch/swiss-pass/ , Swiss Half Fare Card https://www.swiss-pass.ch/swiss-half-fare-card
สิ่งที่ไม่ควรพลาดเมื่อไปเที่ยวจุงเฟรายอร์ค
ดื่มด่ำกับทัศนียภาพโดยรอบที่งดงามของยอดเขาจุงเฟราจาก Jungfrau Panorama, ชมวิวจากหอคอย Sphinx, ชมธารน้ำแข็ง Aletsch Glacier, ทัวร์รถไฟใต้ดิน Alpine Sensation, ชมถ้ำน้ำแข็งพันปี Ice Palace และที่ราบสูงริมเขา Plateau
เวลาที่เหมาะสมสำหรับการท่องเที่ยว
สามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปี
นักท่องเที่ยวที่สนใจไปเที่ยวชม จุงเฟรายอร์ค สามารถศึกษา ข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่
จุงเฟรายอร์ค ประเทศสวิตเซอร์แลนด์
(Jungfraujoch, Switzerland)
ระดับความนิยม :
อัตราค่าเข้าชม : จาก Interlaken Ost ตั๋วเที่ยวเดียวราคา 105.6 CHF ไป-กลับราคา 210.80 CHF
จาก Grindelwald ตั๋วเที่ยวเดียวราคา 97.8 CHF ไป-กลับราคา 195 CHF
จาก Grindelwald Terminal ตั๋วเที่ยวเดียวราคา 95 CHF ไป-กลับราคา 190 CHF
จาก Lauterbrunnen ตั๋วเที่ยวเดียวราคา 97.8 CHF ไป-กลับราคา 195.6 CHF
(หากมี Swiss Travel Pass หรือ Swiss Half Fare Card ได้รับส่วนลด 25%)
ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับบัตร ได้ที่ : Swiss Travel Pass https://www.swiss-pass.ch/swiss-pass/ ,
Swiss Half Fare Card https://www.swiss-pass.ch/swiss-half-fare-card
เวลาทำการเปิด – ปิด : เปิดทุกวัน เวลา 07.30 - 15.30 น.
ตั้งอยู่ที่ : เมืองอินเทอร์ลาเคน รัฐแบร์น ประเทศสวิตเซอร์แลนด์
โทรศัพท์ : (+41) 338287233
เว็บไซต์ : https://www.jungfrau.ch/
ข้อมูลอื่นๆที่ควรรู้ : พยากรณ์อากาศ https://www.accuweather.com/
ศูนย์บริการข้อมูลท่องเที่ยวเมืองอินเทอร์ลาเคน https://www.interlaken.ch/en
ศูนย์บริการข้อมูลท่องเที่ยวประเทศสวิตเซอร์แลนด์ https://www.myswitzerland.com/en/
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ

21 สถานที่เที่ยวยอดนิยมในปารีส ประเทศฝรั่งเศส
ปารีส คือเมืองหลวงของประเทศฝรั่งเศสและเป็นเมืองแห่งมนตร์ขลังที่อ้าแขนรับ รอให้นักท่องเที่ยวไปสัมผัสกับเสน่ห์เมืองเก่าของยุโรปผสานไปกับความสวยงามของสถาปัตยกรรมยุคปฏิวัติ และความสะดวกสบาย ความทันสมัย รวมไปถึงแฟชั่นใหม่ๆ ที่มีต้อนรับผู้มาเยือนเมืองแห่งนี้อย่างครบครัน
อ่านต่อ
อนุสรณ์สถาน ดัตช์ ฮอโลคอสต์ เมืองอัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์
อนุสรณ์สถาน ดัตช์ ฮอโลคอสต์ (Dutch Holocaust Memorial of Names) ในเมืองอัมสเตอร์ดัม ที่โดดเด่นด้วยเขาวงกตกำแพงอิฐและกระจกแห่งนี้ สร้างขึ้นเพื่อรำลึกถึงเหตุการณ์ฮอโลคอสต์ หรือการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยมีเหยื่อชาวดัตช์ผู้เคราะห์ร้ายจำนวน 102,000 คนถูกขับไล่ออกจากประเทศและถูกสังหารอย่างโหดเหี้ยมในค่ายกักกันนาซีเยอรมัน
อ่านต่อ
หมู่บ้านชาวประมงโวเลนดัม เมืองอัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์
หมู่บ้านชาวประมงโวเลนดัม (Volendam) หรือฉายา "ไข่มุกแห่งซุยเดอร์ ซี" (The Pearl Of The Zuiderzee) เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงและได้รับความนิยมมากที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศเนเธอร์แลนด์ ด้วยเอกลักษณ์เฉพาะตัวอันมีเสน่ห์โวเลนดัมได้ดึงดูดบรรดาจิตรกรเอกในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 อย่างเรอนัวร์และปีกัสโซให้เดินทางมาที่นี่ เพื่อสัมผัสกับบรรยากาศและสร้างแรงบันดาลใจให้กับผลงานของพวกเขามาแล้ว
อ่านต่อ
กังหันลมแอเดรียน (1779) เมืองฮาร์เลม ประเทศเนเธอร์แลนด์
กังหันลมแอเดรียน (1779) (Windmill De Adriaan (1779)) เป็นกังหันลมขนาดใหญ่ริมแม่น้ำสปาร์เนอร์ และยังเป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์กสำคัญของเมืองฮาร์เลมอีกด้วย กังหันลมแห่งนี้สร้างขึ้นตั้งแต่ปีค.ศ.1779 ผ่านประวัติศาสตร์มาอย่างยาวนาน และมีการบูรณะซ่อมแซมให้ใช้งานได้จริงอยู่เสมอจนถึงปัจจุบัน ภายในอาคารด้านล่างของกังหันลมเป็นพื้นที่ของพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงนิทรรศการกังหันลมที่น่าสนใจ และยังสามารถขึ้นไปชมวิวความสวยงามริมแม่น้ำจากระเบียงอาคารด้านบนได้อีกด้วย
อ่านต่อ
ศาลากลางเมืองฮาร์เลม เมืองฮาร์เลม ประเทศเนเธอร์แลนด์
ศาลากลางเมืองฮาร์เลม (Town Hall Haarlem) เป็นอีกหนึ่งอาคารเก่าแก่สไตล์โกธิคที่ตั้งอยู่ใกล้กับบริเวณจัตุรัสตลาดกลางของเมืองฮาร์เลม อาคารแห่งนี้มีอายุหลายร้อยปีและยังใช้เป็นที่ทำการปกครองเมืองฮาร์เลมอยู่จนถึงปัจจุบัน เป็นอีกหนึ่งมุมถ่ายภาพสวยๆ ของเมือง และหากมาเที่ยวในช่วงฤดูใบไม้ผลิก็จะได้เห็นคู่บ่าวสาวมาทำพิธีแต่งงานกันที่นี่อีกด้วย
อ่านต่อ
มหาวิหารเซนต์บาโวฮาร์เลม เมืองฮาร์เลม ประเทศเนเธอร์แลนด์
มหาวิหารเซนต์บาโวฮาร์เลม (St. Bavo Haarlem) เป็นมหาวิหารเก่าแก่ที่สร้างขึ้นด้วยสถาปัตยกรรมโกธิคอย่างวิจิตรงดงาม โดดเด่นด้วยหอคอยสูง เป็นแลนด์มาร์กสำคัญที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองฮาร์เล็มใกล้กับจตุรัสตลาดกลาง และยังเป็นมหาวิหารที่ใหญ่เป็นอันดับต้นๆ ของประเทศเนเธอร์แลนด์อีกด้วย ภายในประดับด้วยกระจกสี ภาพเขียน และโบราณวัตถุต่างๆ ที่นี่จึงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเที่ยวเมืองฮาร์เลม
อ่านต่อ
จัตุรัสตลาดกลาง เมืองฮาร์เลม ประเทศเนเธอร์แลนด์
จัตุรัสตลาดกลาง (Grote Markt) เป็นจัตุรัสที่ตั้งอยู่บริเวณใกล้กับมหาวิหารเซนต์บาโวฮาร์เลมและศาลากลางเมืองฮาร์เลม บริเวณนี้เป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวที่สำคัญของเมืองเพราะรายล้อมด้วยแหล่งท่องเที่ยวที่สามารถเดินถึงกันได้ บริเวณจัตุรัสตลาดกลางจะเปิดเป็นตลาดนัดในวันเสาร์โดยมีสินค้าหลากหลายประเภทจำหน่าย เช่น อาหาร ขนม ผักผลไม้ ดอกไม้ และของใช้ทั่วไป นอกจากการเดินชมตลาดแล้ว ที่นี่ยังเป็นจุดถ่ายภาพที่สวยงามอีกแห่งหนึ่งของเมืองฮาร์เลมอีกด้วย
อ่านต่อ
บ้านลูกบาศก์ เมืองรอตเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์
บ้านลูกบาศก์ (Cube Houses) เป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงสถาปัตยกรรมที่ผสมผสานกับศิลปะการออกแบบภายในที่น่าสนใจ มีลักษณะเป็นบ้านทรงลูกบาศก์ที่ตั้งเอียงอยู่บนเสาทรงหกเหลี่ยม ด้านในแสดงให้เห็นถึงการออกแบบห้องต่างๆ และการจัดวางพื้นที่ใช้สอยอย่างคุ้มค่าและลงตัวเหมาะกับการใช้ชีวิตในเมืองตามแนวคิดของ Piet Blom ซึ่งเป็นผู้ออกแบบบ้านลูกบาศก์เหล่านี้
อ่านต่อ
โบสถ์เซนต์ลอว์เรน เมืองรอตเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์
โบสถ์เซนต์ลอว์เรน (Grote of Sint-Laurenskerk) เป็นโบสถ์ประจำเมืองรอตเตอร์ดัม สร้างขึ้นด้วยสถาปัตยกรรมโกธิคที่ผ่านประวัติศาสตร์มายาวนานกว่าห้าร้อยปี โดดเด่นด้วยหอคอยสูงที่ด้านบนประดับด้วยนาฬิกา บริเวณโดยรอบตกแต่งด้วยสนามหญ้าและสวนอันร่มรื่น ที่นี่จึงเป็นแลนด์มาร์กอีกแห่งหนึ่งของเมืองที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยว โดยทางโบสถ์จะเปิดให้ขึ้นไปชมวิวด้านบนหอคอยได้ในช่วงเดือนมีนาคมถึงตุลาคมของทุกปี
อ่านต่อ
สะพานอีรามัส เมืองรอตเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์
สะพานอีรามัส (Erasmus Bridge) หรือสะพานหงส์ เป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์กของเมืองรอตเตอร์ดัม สะพานแห่งนี้เป็นสะพานที่ด้านบนขึงด้วยสายเคเบิลทอดข้ามแม่น้ำ Nieuwe Maas เพื่อเชื่อมพื้นที่ทางด้านทิศเหนือและทิศใต้ของเมืองรอตเตอร์ดัมเข้าไว้ด้วยกัน บริเวณนี้เป็นจุดชมวิวริมแม่น้ำที่สวยงามอีกแห่งหนึ่งที่สามารถชมวิวสะพานและแม่น้ำได้แบบพาโนรามา เป็นจุดแวะเที่ยวที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก
อ่านต่อ