พิพิธภัณฑ์ซีดา ซามิ และศูนย์ศึกษาธรรมชาติ เมืองอินาริ ประเทศฟินแลนด์

  • อ่าน (3,006)
  • By Webmaster
  • 11:25:13 | 13 ส.ค. 2563

พิพิธภัณฑ์ซีดา ซามิ และศูนย์ศึกษาธรรมชาติ เมืองอินาริ ประเทศฟินแลนด์

Siida Sami Museum and Nature Centre, Inari, Finland

             พิพิธภัณฑ์ซีดา ซามิ (Siida Sami Museum) และศูนย์ศึกษาธรรมชาติ (Nature Centre) เป็นอีกหนึ่งสถานที่ไม่ควรพลาดสำหรับผู้ที่สนใจในเรื่องของวัฒนธรรมท้องถิ่น ความเป็นมาของชาวซามิ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งคือเรื่องเกี่ยวกับแสงเหนือหรือแสงออโรร่าที่พิพิธภัณฑ์แห่งนี้จัดแสดงไว้ได้อย่างครบถ้วนและน่าสนใจอย่างยิ่ง


ประวัติ

             พิพิธภัณฑ์ซีดา ซามิ และศูนย์ศึกษาธรรมชาติ ก่อตั้งเมื่อปี ค.ศ. 1959 โดยเปิดให้บริการแก่สาธารณะครั้งแรกในปี ค.ศ. 1963 อาคารพิพิธภัณฑ์ตั้งอยู่บริเวณซึ่งเป็นพื้นที่ของหมู่บ้านอินาริ ส่วนหนึ่งของแลปแลนด์ (Lapland) นอกจากพิพิธภัณฑ์ซีดา ซามิ และศูนย์ศึกษาธรรมชาติแล้วที่นี่ยังมีพิพิธภัณฑ์กลางแจ้ง (open air Inari Sami Museum) ที่เปิดให้บริการในช่วงฤดูร้อนอีกด้วย

             เนื่องจากซีดาเป็นดินแดนซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของชาวซามิ (Sami) ซึ่งเป็นชนพื้นเมืองในทวีปยุโรป มานานกว่า 9,000 ปี ประมาณการกันว่าปัจจุบันมีชาวซามิทั้งหมด 75,000 คน โดยส่วนใหญ่นั้นอาศัยอยู่ในประเทศนอร์เวย์ และมีบางส่วนที่ยังคงอาศัยอยู่ในภูมิภาคแลปแลนด์ของประเทศฟินแลนด์

             ผู้เชี่ยวชาญได้พบหลักฐานที่สำคัญทางโบราณคดีว่าที่นี่เป็นที่อยู่อาศัยที่แรกสุดของผู้ตั้งถิ่นฐานในแลปแลนด์ซึ่งก็คือชาวซามิ ซึ่งพิพิธภัณฑ์ซีดา ซามิ และศูนย์ศึกษาธรรมชาติแห่งนี้เองที่เป็นสถานที่ที่จัดแสดงคอลเล็กชั่นซึ่งสามารถสะท้อนวัฒนธรรมทางจิตวิญญาณและประวัติศาสตร์ของชาวซามิดั้งเดิมไว้ได้อย่างน่าสนใจ การก่อตั้งพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ก็สืบเนื่องมาจากวัตถุประสงค์เพื่อต้องการที่จะสนับสนุนตัวตนของคนโบราณเหล่านี้ที่มีมาอย่างยาวนานด้วยนั่นเอง


นิทรรศการที่จัดแสดงภายในพิพิธภัณฑ์เต็มไปด้วยเรื่องราวที่น่าสนใจต่างๆ ได้แก่
 

             ลำดับเวลาของธรรมชาติและวัฒนธรรมทางเหนือและการเชื่อมโยงกับประวัติศาสตร์โลก (Timeline of Northern nature and culture and how it interlaced with global history)

             ประวัติศาสตร์โบราณคดีของภูมิภาค (Archaeological history of the region)

             ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับผู้คนในแถบอาร์กติกรวมถึงชาวเอเชียตะวันออกเฉียงเหนือ ผู้เลี้ยงกวางเรนเดียร์ (Introduction to the Arctic Peoples as well as the Northern Eurasian Reindeer Herders)

             วิวัฒนาการของภาษา (Sami Evolution of the Sami languages)

             วัฒนธรรม Sami (Sami culture)

             สภาพแวดล้อมทางธรรมชาติที่เป็นเอกลักษณ์ของ (Northern Lapland Northern Lapland’s unique natural environment)

             การเอาชีวิตรอดในขั้วโลกเหนือ (Survival in the Arctic extremes)

             วัฏจักรตามฤดูกาลและปรากฏการณ์ทางธรรมชาติในภูมิภาค (Seasonal cycles and natural phenomena in the region)

             ตัวตนของชาวซามิ (Sami identity)

ในช่วงฤดูร้อนของทางเหนือจะเป็นช่วงที่พิพิธภัณฑ์กลางแจ้งเปิดให้บริการรวมถึง

             บ้านพัก Sami (Sami dwellings)

             การล่าสัตว์และการตกปลา (Hunting and fishing practices)

             อาคารแบบดั้งเดิมของ (Authentic Tirro Farm buildings)

             ศาลของ Mirham Hut (Mirham Hut courthouse)

             บ้านพักซามิ, เต็นท์ และตาดกระท่อม (Sami lodges, tents, and sod huts)

             กับดักล่าสัตว์ (Hunting traps)

             เรือและรถเลื่อน (Boats and sleds)

             ที่พิพิธภัณฑ์มีบริการนำเที่ยวภายในพิพิธภัณฑ์ มีร้านอาหาร คาเฟ่ บรรยากาศสบายๆ ให้บริการอาหาร Lappish ดั้งเดิมแบบสดใหม่สำหรับมื้อกลางวันด้วย


ซีดา (Siida) ซึ่งเป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์ เป็นดินแดนซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของชาวซามิมานานกว่า 9,000 ปี


ตู้จัดแสดงโมเดลสัตว์จำลองภายในพิพิธภัณฑ์


ตู้จัดแสดงเกี่ยวกับธรณีวิทยา


พิพิธภัณฑ์ซีดา ซามิ และศูนย์ศึกษาธรรมชาติเปิดให้บริการแก่สาธารณะครั้งแรกในปี ค.ศ. 1963


ดอกไม้และพืชพันธุ์ท้องถิ่นของแลปแลนด์


เครื่องแต่งกายของชาวซามิ  


ข้าวของเครื่องใช้โบราณที่ชาวซามิใช้ในการดำรงชีพ  


บรรยากาศบางส่วนของนิทรรศการ 


การเดินทางจาก Helsinki ไป Ivalo

             สนามบินที่อยู่ใกล้กับ Siida Sami Museum and Nature Centre มากที่สุดคือสนามบิน Ivalo (IVL) เมืองอิวาโล (Ivalo) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของภูมิภาคแลปแลนด์ (Lapland) โดยตั้งอยู่ทางตอนเหนือสุดของประเทศฟินแลนด์ ห่างจากเมืองหลวงคือเฮลซิงกิ (Helsinki) ราว 1,094 กิโลเมตร จากประเทศไทยไม่มีเที่ยวบินตรง นักท่องเที่ยวที่ต้องการเดินทางไปยังเมืองอิวาโลจะต้องต่อเครื่องไปจากเฮลซิงกิ ส่วนการเดินทางโดยรถยนต์นั้นใช้เวลาที่ยาวนาน

             - เครื่องบิน (Plane) การเดินทางโดยเครื่องบินจากสนามบิน Vantaa เฮลซิงกิ (HEL) ไปยังสนามบิน Ivalo (IVL) ใช้เวลา 1 ชั่วโมง 30 นาที

             - รถยนต์ (Car) การเดินทางจากเฮลซิงกิไปอิวาโลทางรถยนต์โดยใช้ถนนสาย E75 มีระยะระยะทาง 1,094 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 12 ชั่วโมง 30 นาที


การเดินทางไป Siida Sami Museum and Nature Centre

             - รถยนต์ (Car) การเดินทางโดยรถยนต์จากสนามบิน Ivalo (IVL) ไป Siida Sami Museum and Nature Centre โดยใช้ถนนสาย E75 มีระยะทาง  49.5 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทาง 40 นาที

             ทั้งนี้ การเดินทางท่องเที่ยวไปยังสถานที่ต่างๆ ในแลปแลนด์นั้น วิธีที่สะดวกที่สุดคือการเดินทางไปกับทัวร์ หรือเช่ารถขับ เนื่องจากอากาศที่หนาวเย็นนั้นจะเป็นอุปสรรคต่อการเดินทางอย่างยิ่งหากต้องเดินทางโดยรถสาธารณะ ซึ่งตารางเวลาการเดินทางนั้นไม่ได้มีเยอะและเส้นทางการเดินรถไม่ได้ครอบคลุมทุกพื้นที่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการรอรถท่ามกลางอากาศที่หนาวเย็นโดยที่ไม่มีเครื่องทำความอุ่นเหมือนเดินทางไปกับทัวร์หรือรถเช่าส่วนตัวนั้น จะทำให้การเดินทางท่องเที่ยวถูกลดทอนความสนุก และเสียเวลาไปมากกว่าที่ควรจะเป็น


เวลาทำการเปิด – ปิด

             เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 9.00 – 17.00 น.


อัตราค่าเข้าชม

             ตั๋วเข้าชมราคา 10 ยูโร


สิ่งที่ไม่ควรพลาดเมื่อไปเที่ยว
Siida Sami Museum and Nature Centre

             ภายในพิพิธภัณฑ์เต็มไปด้วยเรื่องราวที่น่าสนใจต่างๆ มากมายที่ไม่ควรพลาด โดยเฉพาะอย่างยิ่งคือนิทรรศการเกี่ยวกับการเกิดปรากฏการณ์แสงเหนือนั่นเอง เนื่องจากแลปแลนด์ (Lapland) นั้นเป็นพื้นที่ที่ตั้งอยู่ใกล้ขั้วโลกเหนือมากและมีชื่อเสียงในเรื่องของการเกิดปรากฏการณ์แสงเหนือ ภายในพิพิธภัณฑ์จึงได้มีการจัดนิทรรศการถาวรเกี่ยวกับแสงเหนือ (Aurora)ไว้อย่างละเอียดและน่าสนใจทั้งข้อมูลและภาพประกอบ ซึ่งแนะนำว่าหากนักท่องเที่ยวมีโอกาสได้มาเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ก่อนที่จะออกไปล่าแสงเหนือน่าจะทำให้เข้าใจที่มาของการเกิดปรากฏการณ์ทางธรรมชาตินี้ได้อย่างดีและทำให้การเฝ้ารอชมแสงเหนือนั้นเป็นไปโดยสนุกสนานยิ่งขึ้น


นิทรรศการถาวรที่จัดแสดงเกี่ยวกับการเกิดปรากฏการณ์แสงเหนือหรือแสงออโรร่า

             แสงเหนือ (Aurora) เป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติทางธรรมชาติ ที่มีแสงเรืองบนท้องฟ้าในเวลากลางคืน โดยมักจะขึ้นในบริเวณประเทศแถบขั้วโลก ได้แก่ ประเทศสวีเดน (Sweden) ประเทศรัสเซีย (Russia) ประเทศไอซ์แลนด์ (Iceland) รัฐอะแลสกา สหรัฐอเมริกา (Alaska) ประเทศแคนนาดา (Canada) ประเทศนอร์เวย์ (Norway) ประเทศกรีนแลนด์ (Greenland) และประเทศฟินแลนด์ (Finland)

             คำเรียกว่า แสงเหนือ หรือ แสงใต้ นั้นขึ้นอยู่กับแหล่งกำเนิดว่าเป็นแสงที่เกิดขึ้นที่ขั้วโลกเหนือหรือขั้วโลกใต้ ปรากฏการออโรราเป็นตัวอย่างปรากฏการณ์ทางฟิสิกส์ที่น่าทึ่งที่สุดที่เกิดขึ้นในอวกาศที่ใกล้พื้นโลก โดยมีความสูงจากพื้นโลก (altitudes) ประมาณ 100 ถึง 300 กิโลเมตร ตามประวัตินั้นแสงเหนือถูกเรียกด้วยหลากหลายชื่อที่แตกต่างกัน ทั้งนี้ ชื่อวิทยาศาสตร์ของปรากฏการณ์นี้ คือ ออโรรา บอเรลลีส (Aurora Borealis) ซึ่งเป็นภาษาละติน หมายถึง รุ่งอรุณสีแดงแห่งทิศเหนือ ซึ่งตั้งชื่อโดย กาลิเลโอ กาลิเลอิ (Galileo Galilei) 

             ปรากฏการณ์แสงเหนือเกิดจากการชนกันระหว่างก๊าซในชั้นบรรยากาศโลกกับอนุภาคไฟฟ้าที่ถูกปล่อยออกมาจากพลังงานแสงอาทิตย์ ก่อให้เกิดการระเบิดเป็นลำแสงสีต่างๆ กันออกไป ขึ้นอยู่กับแสงนั้นเกิดขึ้นในช่วงชั้นบรรยากาศไหน และเกิดจากก๊าซชนิดใด โดยในระดับความสูงที่เหนือชั้นบรรยากาศ 100 กิโลเมตรขึ้นไปจะประกอบด้วยโมเลกุลไนโตรเจนและออกซิเจนเป็นส่วนใหญ่

             สีเขียวอมเหลือง เกิดในช่วง 100 - 200 กิโลเมตร เป็นช่วงที่มีโมเลกุลออกซิเจนหนาแน่น (สามารถเห็นแสงเหนือสีนี้ได้บ่อยๆ)

             สีฟ้าและสีม่วง เกิดในช่วงที่ต่ำกว่า 120 กิโลเมตร เป็นช่วงที่มีโมเลกุลของไนโตรเจนหนาแน่นกว่าออกซิเจน

             สีแดง เกิดในช่วงที่ความสูงเกิน 200 กิโลเมตร


ปรากฏการณ์แสงเหนือเกิดจากการชนกันระหว่างก๊าซในชั้นบรรยากาศโลกกับอนุภาคไฟฟ้าที่ถูกปล่อยออกมาจากพลังงานแสงอาทิตย์ ก่อให้เกิดการระเบิดเป็นลำแสงสีต่างๆ


ในระดับความสูงเหนือชั้นบรรยากาศ 100 กิโลเมตรขึ้นไปจะประกอบด้วยโมเลกุลไนโตรเจนและออกซิเจนเป็นส่วนใหญ่


แสงเหนือสีที่สามารถเห็นได้บ่อยๆ คือสีเขียวอมเหลือง ซึ่งเกิดในช่วง 100 - 200 กิโลเมตร


สีของแสงเหนือที่จะปรากฏนั้นขึ้นอยู่กับว่าเกิดขึ้นในช่วงชั้นบรรยากาศไหน และเกิดจากก๊าซชนิดใด

             ช่วงเวลาที่ดีที่สุดของการเกิดแสงเหนือจะอยู่ในช่วงฤดูหนาวของทางขั้วโลก  โดยเฉพาะในช่วงเดือนกันยายน - มีนาคม และอาจเลยไปถึงเมษายน ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศในแต่ละปี นอกจากนี้หากได้ไปเยือนขั้วโลกในขณะที่ท้องฟ้าปลอดโปร่ง ไร้เมฆ มีความมืดมิดสนิท มีสภาพแวดล้อมที่ค่อนข้างปลอดมลพิษ และอยู่ระหว่างช่วงเวลาตั้งแต่ 22.00 - 24.00 น. ก็จะยิ่งมีโอกาสในการเห็นแสงเหนือมากยิ่งขึ้น

             ทว่า สำหรับนักท่องเที่ยวที่ไปล่าแสงเหนือ หากต้องการความแม่นยำสำหรับโอกาสที่จะได้เห็นแสงเหนือมากที่สุด แนะนำให้ไปล่าแสงเหนือในช่วงที่ผ่านวัฏจักรจุดสุริยะ (Sun Spot) มาแล้ว 2 วัน ซึ่งเป็นช่วงที่แสงเหนือจะเกิดขึ้นชัดเจนที่สุด ก่อนจะค่อย ๆ ลดระดับแสงลงจนกว่าจะเปล่งแสงเจิดจ้าขึ้นมาอีกครั้งเมื่อครบรอบวัฏจักร 11 ปี แต่วัฏจักรดังกล่าวไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยๆ เพราะจะเกิดขึ้นทุกๆ 11 ปีเท่านั้น โดยช่วงที่ผ่านวัฏจักรจุดสุริยะไปครั้งล่าสุดคือรอยต่อของปี ค.ศ. 2013 - ค.ศ.  2014

             แม้ว่าแสงเหนือจะเป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติที่สามารถคำนวณการเกิดได้ โดยเฉพาะในปัจจุบันที่มีแอพลิเคชั่นต่างๆ อยู่มากมายให้สามารถดาวน์โหลดมาใช้ได้อย่างสะดวก แต่ก็ไม่มีใครสามารถการันตีได้ว่าจะได้ชมแสงเหนือร้อยเปอร์เซ็นต์หรือไม่  ฉะนั้นการไปท่องเที่ยวล่าแสงเหนือนี้จึงถือเป็นความตื่นเต้นท้าทายอย่างหนึ่งที่นักท่องเที่ยวทุกคนต้องลุ้นกันเอาเองว่าโชคจะเข้าข้างหรือไม่


เวลาที่เหมาะสมสำหรับการท่องเที่ยว

             นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางไปเที่ยว Siida Sami Museum and Nature Centre ได้ตลอดทั้งปี


ร้านจำหน่ายสินค้าที่ระลึกภายในพิพิธภัณฑ์

 

             นักท่องเที่ยวที่สนใจไปเที่ยวชม Siida Sami Museum and Nature Centre สามารถศึกษา ข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่

                        พิพิธภัณฑ์ซีดา ซามิ และศูนย์ศึกษาธรรมชาติ เมืองอินาริ ประเทศฟินแลนด์

                        (Siida Sami Museum and Nature Centre, Inari, Finland)

                        ระดับความนิยม :

                        อัตราค่าเข้าชม : ตั๋วเข้าชมราคา 10 ยูโร

                        เวลาทำการเปิด – ปิด : เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 9.00 – 17.00 น.

                        ตั้งอยู่ที่ : Siida, Inarintie 46, 99870 Inari, Finland

                        โทรศัพท์ : (+358) 400 898 212

                        เว็บไซต์https://siida.fi/en

                        ข้อมูลอื่นๆที่ควรรู้ : พยากรณ์อากาศ https://www.accuweather.com/

                                        เว็บไซต์การท่องเที่ยวเมืองอินาริ https://visitinari.fi

                                        เว็บไซต์การท่องเที่ยวแลปแลนด์ https://www.visitlapland.com

                                        เว็บไซต์การท่องเที่ยวประเทศฟินแลนด์ https://www.visitfinland.com

 

สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ

ล่องบอลลูนชม 2 ดินแดนมรดกโลก…พุกาม & คัปปาโดเชีย

หากเอ่ยถึง “พุกาม” (Bagan) เชื่อว่าคงจะนึกถึงสิ่งอื่นใดไปไม่ได้ นอกจากทะเลเจดีย์นับพันที่สร้างมาตั้งแต่สมัยโบราณ ตั้งเรียงรายอยู่บริเวณพื้นที่ของเขตเขตมัณฑะเลย์ ประเทศเมียนมาร์ และหากเอ่ยถึง “คัปปาโดเชีย” (Cappadocia) ประเทศตุรกีหรือตุรเคีย แน่นอนว่าก็คงจะต้องมีภาพของบอลลูนหลากสีลอยล่องอยู่เหนือภูมิประเทศแปลกตา ที่เต็มไปด้วยกลุ่มภูเขาหินรูปกรวยโผล่ขึ้นมาจากพื้นดิน... ในครั้งนี้ Palanla จะพาออกเดินทางไปสัมผัสกับความน่าอัศจรรย์ของ 2 ดินแดนมรดกโลก “พุกาม” และ “คัปปาโดเชีย” ด้วยมุมมองจากบนท้องฟ้าผ่านการล่องบอลลูนลมร้อน พร้อมแล้วไปด้วยกัน!

อ่านต่อ

เกรย์ไฟรเออร์บ็อบบี้ (Greyfriars Bobby Statue) & ฮาจิโกะ (Hachiko)

สุนัข ได้ชื่อว่าเป็นเพื่อนที่แสนดีและซื่อสัตย์ของมนุษย์มายาวนานอยู่ทุกหนแห่งของโลกใบนี้ หลายๆ เรื่องราวถูกถ่ายทอดความประทับใจออกมาผ่านภาพยนตร์ หนังสือ ตลอดจนสร้างเป็นรูปปั้นอนุสรณ์สถานเพื่อเชิดชูและระลึกถึงความรักอันบริสุทธิ์ที่เจ้าตูบและมนุษย์มีต่อกัน เช่นเดียวกับรูปปั้นของสุนัขผู้ซื่อสัตย์ 2 แห่งที่ Palanla จะพาไปชมในวันนี้ ที่แรกคือ รูปปั้นสุนัขเกรย์ไฟรเออร์บ็อบบี้ (Greyfriars Bobby Statue) เมืองเอดินเบอระ ประเทศสกอตแลนด์ และอีกที่คือ รูปปั้นสุนัขฮาจิโกะ (Hachiko) ที่เมืองโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น

อ่านต่อ

8 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเมืองอิสตันบูล ประเทศตุรกี

อิสตันบูล (Istanbul) เมืองที่ได้ชื่อว่าเป็นนคร 2 ทวีป ซึ่งมีช่องแคบบอสฟอรัสเป็นเส้นแบ่งระหว่างยุโรปและเอเชียแห่งนี้ คือเมืองที่รุ่มรวยไปด้วยประวัติศาสตร์ความเป็นมานับพันๆ ปี จึงไม่น่าแปลกใจหากอิสตันบลูจะเต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวที่มีสถาปัตยกรรมเก่าแก่และงดงามทรงคุณค่ามากมายที่บอกเล่าเรื่องราวความเป็นยุโรปและเอเชียจากอดีตจนถึงปัจจุบัน Palanla จะพาไปชม 8 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเมืองอิสตันบูลที่หากมีโอกาสไปเยือนประเทศตุรกีไม่ควรพลาด

อ่านต่อ

ล่องเรือชมวิวช่องแคบบอสฟอรัส เมืองอิสตันบูล ประเทศตุรกี

ช่องแคบบอสฟอรัส เป็นช่องแคบเล็กๆ ที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ของตุรกี เคยเป็นทั้งเส้นทางการค้าที่สำคัญ และยังเป็นจุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญมาจนถึงปัจจุบัน การล่องเรือชมวิวช่องแคบบอสฟอรัส (Bosphorus Cruise) จึงเป็นวิธีที่ดีที่จะได้สัมผัสบรรยากาศ สถาปัตยกรรม และวัฒนธรรมที่หลากหลายของอิสตันบูล

อ่านต่อ

อุโมงค์เก็บน้ำเยเรบาตัน เมืองอิสตันบูล ประเทศตุรกี

อุโมงค์เก็บน้ำเยเรบาตัน (Yerebatan Sarnici) คือหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ของตุรกี ดินแดนที่เต็มไปด้วยประวัติความเป็นมามากกว่าพันปี อุโมงค์เก่าแก่ขนาดใหญ่แห่งนี้คือสถานที่เก็บน้ำในสมัยโบราณที่ยังคงความยิ่งใหญ่และงดงาม กับเอกลักษณ์โดดเด่นอย่างเสากรีกที่ค้ำเรียงรายมากถึง 336 ต้น และเสาเมดูซ่าพร้อมตำนานที่เล่าขานกันมาหลายชั่วอายุคน รวมถึงซากโบราณของพระราชวังใต้ดินแห่งกรุงคอนสแตนติโนเปิลสมัยไบเซนไทน์อีกด้วย

อ่านต่อ

ตลาดเครื่องเทศ เมืองอิสตันบูล ประเทศตุรกี

ตลาดเครื่องเทศ (Historical Spice Bazaar / Egyptıan Spıce Bazaar) ในอิสตันบูล เป็นหนึ่งในตลาดที่ใหญ่ที่สุดและเก่าแก่ที่สุดในโลก ตลาดแห่งนี้มีมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 17 ในสมัยจักรวรรดิออตโตมัน เดิมทีเป็นจุดแลกเปลี่ยนเครื่องเทศ ผ้าไหม และสินค้าอื่นๆ จากเอเชียมาสู่ยุโรป

อ่านต่อ

10 สถานที่เที่ยวยอดนิยมในเมืองบูดาเปสต์ ประเทศฮังการี

บูดาเปสต์ (Budapest) เป็นเมืองหลวงของประเทศฮังการี ตัวเมืองถูกแบ่งออกเป็นสองฝั่งด้วยแม่น้ำดานูบที่ไหลผ่านกลางเมือง ทำให้ในเมืองเต็มไปด้วยบรรยากาศโรแมนติกจากสถาปัตยกรรมอันสวยงามเปี่ยมเสน่ห์ที่รอคอยให้นักท่องเที่ยวไปเยี่ยมเยือน Palanla ได้รวบรวมเอา 10 สถานที่เที่ยวยอดนิยมในเมืองบูดาเปสต์มาให้แล้วในบทความนี้

อ่านต่อ

12 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเมืองปราก สาธารณรัฐเช็ก

ปราก (Prague) เมืองหลวงของสาธารณรัฐเช็ก ประเทศที่ไม่มีทางออกสู่ทะเลนี้ ตั้งอยู่ใจกลางของทวีปยุโรป ในอดีต เมืองปรากเคยเป็นศูนย์กลางการปกครองอันยิ่งใหญ่ของทวีปยุโรป ซึ่งอารยธรรมแห่งความยิ่งใหญ่ และเปี่ยมไปด้วยประวัติศาสตร์อันยาวนานนั้น ก็ยังคงสะท้อนอยู่ในวิถีชีวิตของชาวเมือง วัฒนธรรมประเพณี สถาปัตยกรรม ฯลฯ ราวกับมรดกที่สืบทอด และรักษากันมาอย่างดี จนถูกยกให้เป็นเมืองที่มีความน่าหลงใหล ควรค่าแก่การไปสัมผัสความเป็นยุโรปมากที่สุด โดยเมืองปรากยังได้รับการประกาศให้เป็นเมืองมรดกโลก จากองค์การยูเนสโก (UNESCO) ด้วย ปัจจุบันเมืองนี้นับเป็นหนึ่งในหมุดหมายสำคัญ ของบรรดานักท่องเที่ยวที่มาเยือนทวีปยุโรป ไปชม 12 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเมืองปรากพร้อมๆ กันกับ Palanla!

อ่านต่อ

ถนนแฟชั่นบูดาเปสต์ เมืองบูดาเปสต์ ประเทศฮังการี

ถนนแฟชั่นบูดาเปสต์ (Fashion Street Budapest) เป็นถนนช้อปปิ้งที่มีชื่อเสียงในใจกลางเมืองบูดาเปสต์ ประเทศฮังการี ถนนสายนี้เป็นที่รู้จักในด้านร้านค้าแฟชั่นชั้นนำจากแบรนด์ระดับโลก อาทิ Gucci, Louis Vuitton, Dior, Armani, Prada และ Chanel ถนนสายนี้ยังเต็มไปด้วยร้านอาหาร บาร์ และคาเฟ่มากมาย จึงเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวและชาวเมืองบุดาเปสต์เองด้วย

อ่านต่อ

ล่องเรือดินเนอร์ในบูดาเปสต์ เมืองบูดาเปสต์ ประเทศฮังการี

ล่องเรือดินเนอร์ในบูดาเปสต์ (Dinner Cruise Budapest) เป็นวิธียอดเยี่ยมในการชมความสวยงามของเมืองบูดาเปสต์ โดยขณะที่เรือล่องไปตามแม่น้ำดานูบ (Danube River) นักท่องเที่ยวจะได้เพลิดเพลินกับทัศนียภาพที่สวยงามของสะพาน พระราชวัง และสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ รวมทั้งอิ่มอร่อยกับอาหารรสเลิศและเครื่องดื่มแสนอร่อย

อ่านต่อ
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ