- หน้าแรก
- ท่องเที่ยวต่างประเทศ
- พิพิธภัณฑ์เมืองบรัสเซลส์ เมืองบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม
พิพิธภัณฑ์เมืองบรัสเซลส์ เมืองบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม
- อ่าน (3,846)
- By Webmaster
- 08:50:36 | 16 ธ.ค. 2562
พิพิธภัณฑ์เมืองบรัสเซลส์ เมืองบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม
Brussels City Museum, Brussele, Belgium
อาคารแมซง ดูว์ รัว สถานที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์เมืองบรัสเซลส์
พิพิธภัณฑ์เมืองบรัสเซลส์ (Brussels City Museum) สถานที่ซึ่งตั้งอยู่ภายในสถาปัตยกรรมมรดกโลกอย่างอาคารแมซง ดูว์ รัว แห่งนี้ คือพิพิธภัณฑ์ที่ถ่ายทอดเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ของเมืองบรัสเซลส์ผ่านมรดกทางวัฒนธรรมกว่า 7,000 ชิ้น ทั้งงานประติมากรรม, ภาพวาด, สิ่งทอ, เครื่องแต่งกาย ฯลฯ ที่จะช่วยให้นักท่องเที่ยวเห็นภาพความยิ่งใหญ่ และเสน่ห์ชวนหลงใหลของเมืองได้แบบชัดเจน
แผนที่ตั้ง พิพิธภัณฑ์เมืองบรัสเซลส์ เมืองบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม
ประวัติ
สถาปัตยกรรมของอาคารแมซง ดูว์ รัว
พิพิธภัณฑ์เมืองบรัสเซลส์ (Brussels City Museum) พื้นที่จัดแสดงเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ของเมืองบรัสเซลส์มายาวนานตั้งแต่ปี ค.ศ. 1887 ตัวพิพิธภัณฑ์ตั้งอยู่ในอาคารแมซง ดูว์ รัว (Maison do Rois) อาคารที่มีชื่อเสียงที่สุดหลังหนึ่งของเมืองบรัสเซลส์ ทำให้ก่อนที่ Palanla จะพาผู้อ่านเข้าไปท่องเที่ยวภายใน เรามาเรียนรู้เกี่ยวกับสถาปัตยกรรมสำคัญของพิพิธภัณฑ์แห่งนี้กันดีกว่า เริ่มจากภาษาที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในเมืองบรัสเซลส์มีอยู่สองภาษาคือภาษาฝรั่งเศส (France) กับภาษาดัตช์ (Dutch) ทำให้เป็นเรื่องปกติที่จะพบว่าสถานที่สำคัญหลายแห่งของเมืองจะมีชื่อเรียกอยู่สองภาษา ซึ่งอาคารที่ถูกใช้เป็นพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ก็มีอยู่สองชื่อคือ แมซง ดูว์ รัว (Maison do Rois) ในภาษาฝรั่งเศส / โบรดฮัส (Broodhuis) ในภาษาดัตช์ (แต่ในบทความจะขอเรียกชื่ออาคารเป็นภาษาฝรั่งเศสเพราะมีความเป็นสากล และถูกใช้กันแพร่หลายมากกว่า) ในอดีตพื้นที่บริเวณอาคารเคยเป็นที่ตั้งของตลาดขนมปังซึ่งข้อมูลตรงนี้มีความน่าเชื่อถือมากยิ่งขึ้นเมื่อพบว่า โบรดฮัส (Broodhuis) เป็นรากศัพท์ของคำว่า เบรด ฮอลล์ (Bread Hall) ที่แปลว่า ห้องโถงขนมปัง นั่นเอง โดยการก่อสร้างครั้งแรกของอาคารเริ่มต้นในปี ค.ศ. 1321และเป็นหนึ่งในสามโครงการก่อสร้างสำคัญทางเศรษฐกิจของเมืองในคริสต์ศตวรรษที่ 13 ที่จะแบ่งเป็นตลาดขนมปัง ตลาดผ้า และตลาดเนื้อ น่าเศร้าที่กาลเวลาทำให้ข้อมูลเกี่ยวกับสถาปัตยกรรมของอาคารแมซง ดูว์ รัว ในช่วงนั้นมีน้อยมาก จนมาปี ค.ศ. 1405 อาคารได้รับการบรูณะขึ้นใหม่อีกครั้ง และถูกปรับให้เป็นที่ทำการของหน่วยปกครองต่างๆ ในเมืองบรัสเซลส์ จนถึงปี ค.ศ. 1695 เมื่อกองทัพฝรั่งเศสในเหตุการณ์ปฎิวัติฝรั่งเศสได้เข้ามาบุกทำลายเมืองบรัสเซลส์
นักท่องเที่ยวที่มาเดินเล่นในจัตุรัสกร็อง ปลัส
หลังจากยึดครองเบลเยียมได้สำเร็จ ทางฝรั่งเศสก็ได้สร้างอาคารแห่งนี้ขึ้นใหม่ และเปลี่ยนชื่อเป็นอาคารแมซง ดูว์ รัว (Maison do Rois) ซึ่งเป็นรากศัพท์ของคำว่า คิงส์เฮ้าส์ (King’s House) หรือแปลว่า บ้านของพระราชา ต่อมาในปี ค.ศ. 1860 บรัสเซลส์ได้ทำการซื้ออาคารคืนกลับมาจากบริษัทเอกชนที่ถือครองสิทธิของอาคารในตอนนั้น และทำการออกแบบใหม่ทั้งหมด โดยใช้หลักสถาปัตยกรรมของเออแณน วียอแล-เลอ-ดุก (Eugene Viollet-le-Duc) สถาปนิกที่มีส่วนสำคัญในการก่อตั้งสถาปัตยกรรมฟื้นฟูกอธิค (Neo-Gothic Architecture) แนวสถาปัตย์ที่พยายามฟื้นฟูสถาปัตยกรรมในยุคกลางให้กลับมาเป็นที่นิยมอีกครั้ง ซึ่งเป็นสไตล์ที่ได้รับการยอมรับจนมีการประเมินกันว่าสิ่งก่อสร้างสไตล์ฟื้นฟูกอธิค มีมากกว่าสิ่งก่อสร้างกอธิคต้นฉบับจากยุคกลางซะอีก โดยอาคารแมซง ดูว์ รัว ก็เป็นสถาปัตยกรรมฟื้นฟูกอธิคที่งดงาม และสมบูรณ์แบบที่สุดหลังหนึ่งของบรัสเซลส์ จนได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกพร้อมกับพื้นที่ส่วนอื่นๆ ของจัตุรัสกลางเมืองบรัสเซลส์ (Grand Place) อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ - ปัจจุบันอาคารประกอบไปด้วยซุ้มทางเดินสองชั้น ติดตั้งหอระฆังยอดแหลมอยู่ตรงกลาง และแวดล้อมไปด้วยรูปปั้น งานแกะสลัก ประติมากรรม ส่วนภายในจะมีหอศิลป์สองแห่ง หอคอยกลาง
สถาปัตยกรรมที่อยู่บริเวณใกล้เคียงกับอาคารแมซง ดูว์ รัว
โดยพิพิธภัณฑ์เมืองบรัสเซลส์จะอยู่บริเวณชั้นสองของอาคาร เป็นพิพิธภัณฑ์ที่ดำเนินงานด้านการวิจัย และรวบรวมข้อมูลทางประวัติศาสตร์ของเมืองบรัสเซลส์ เพื่อสร้างความรู้ ความเข้าใจ เกี่ยวกับความเป็นมาของเมืองให้แก่คนในประเทศกับนักท่องเที่ยวที่มาเยือน และเป็นที่จัดเก็บมรดกทางวัฒนธรรมของเมืองที่จัดแสดงอยู่กว่า 7,000 ชิ้น ทั้งงานประติมากรรม, ภาพวาด, สิ่งทอ, เครื่องแต่งกาย ฯลฯ มีนิทรรศการน่าสนใจหมุนเวียนมาสร้างความสนุกสนาน และสาระความรู้ให้ผู้เข้าชมตลอดปี ผลงานที่เป็นไฮไลท์หลักของพิพิธภัณฑ์จะมีตั้งแต่ ผ้าทอมือที่สืบทอดกันมาตั้งแต่สมัยก่อตั้งเมือง, คอลเลกชั่นภาพวาดของจิตกรเนเธอร์แลนด์ช่วงยุคฟื้นฟูศิลปวิทยา (Renaissance), รูปปั้นดั้งเดิมของแมนเนแกน พิส (Manneken Pis) ประติมากรรมชื่อดังของบรัสเซลส์, แบบจำลองผังเมืองบรัสเซลส์ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ฯลฯ เรียกว่าสมศักดิ์ศรีต่อการเป็นพิพิธภัณฑ์หลักของเมืองบรัสเซลส์ และต่อการตั้งอยู่ในอาคารที่มีชื่อเสียงที่สุดหลังหนึ่งของเมืองทีเดียว
แบบจำลองผังเมืองบรัสเซลส์
ประติมากรรมน่าสนใจภายในพิพิธภัณฑ์
งานแกะสลักนูนต่ำที่บอกเล่าเรื่องราวทางประวัติศาสตร์เมืองบรัสเซลส์
ภาพเขียนรูปเหล่าผู้มีอิทธิพลสมัยอดีตของเมืองบรัสเซลส์
ภาพเขียนบอกเล่าพัฒนาการการก่อสร้างเมืองบรัสเซลส์
รูปถ่ายสถานที่สำคัญในเมืองบรัสเซลส์
บอร์ดนิทรรศการแสดงข้อมูลทางประวัติศาสตร์ของเมืองบรัสเซลส์
บอร์ดนิทรรศการแสดงข้อมูลทางประวัติศาสตร์ของเมืองบรัสเซลส์
ไทม์ไลน์แสดงข้อมูลเหตุการณ์สำคัญที่เกิดขึ้นในแต่ละช่วงปีของเมืองบรัสเซลส์
ประติมากรรมรูปปั้นที่แสดงถึงวิถีชีวิตของชาวเมืองบรัสเซลส์ในสมัยอดีต
ภาพเขียนรูปเมืองบรัสเซลส์กำลังลุกเป็นไฟจากเหตุการณ์ปฎิวัติฝรั่งเศส
ภาพแสดงพื้นที่ทางภูมิศาสตร์ต่างๆ ของเมืองบรัสเซลส์
ประติมากรรมน่าสนใจภายในพิพิธภัณฑ์
ตู้จัดแสดงเครื่องแต่งกายของรูปปั้นแมนเนแกน พิส
การเดินทางจากสนามบินบรัสเซลส์ซาเวนเทมไปยังสถานีรถไฟกลางเมืองบรัสเซลส์
- รถยนต์ จากสนามบินไปยังสถานีรถไฟกลางของเมืองบรัสเซลส์ (Brussels Centraal) ระยะทางประมาณ 14 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 32 นาที
- รถบัส จากอาคารผู้โดยสารขาเข้าให้เดินไปขึ้นรถบัสที่สถานีรถบัสประจำสนามบิน โดยขึ้นรถบัสหมายเลข 12 ตรงไปยังสถานีรถไฟกลางเมืองบรัสเซลส์ (Brussels Centraal) ได้เลย ระยะทางประมาณ 14 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 34 นาที สามารถตรวจสอบตารางเวลาการเดินรถ ราคา และข้อมูลอื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่ https://www.delijn.be/nl/routeplanner/index.html
- รถไฟ จากอาคารผู้โดยสารขาเข้าให้ลงไปขึ้นรถไฟ Airport City Express ที่ชั้นใต้ดินของอาคารเพื่อไปลงที่สถานีรถไฟกลางเมืองบรัสเซลส์ (Brussels Station) ระยะทางประมาณ 14 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 25 นาที สามารถตรวจสอบตารางเวลาการเดินรถ ราคา และข้อมูลอื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่ https://www.belgiantrain.be/en
การเดินทางสถานีรถไฟกลางเมืองบรัสเซลล์ไปยังพิพิธภัณฑ์เมืองบรัสเซลส์
- เดิน จากสถานีรถไฟกลางเมืองบรัสเซลส์สามารถเดินไปยังพิพิธภัณฑ์เมืองบรัสเซลส์ได้เลย ระยะทางประมาณ 500 เมตร ใช้เวลาเดินประมาณ 5 นาที
เวลาเปิด-ปิดทำการ
เปิดให้เข้าชมวันอังคาร – อาทิตย์ เวลา 10:00 น. – 17:00 น. (ปิดทุกวันจันทร์และวันที่ 1 ม.ค. / 1 พ.ค. / 1 และ 11 พ.ย. / 25 ธ.ค.)
งานสิ่งทอที่บอกเล่าเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ของเมืองบรัสเซลส์
โปสเตอร์รูปปั้นแมนเนแกน พิสที่สื่อถึงเหตุการณ์สำคัญต่างๆ ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมานับตั้งแต่รูปปั้นถือกำเนิดขึ้น
อัตราค่าเข้าชม
ผู้ใหญ่ 8 ยูโร / ผู้สูงอายุ 6 ยูโร / นักเรียน-นักศึกษา 4 ยูโร / ทุกวันอาทิตย์แรกของเดือนเข้าชมฟรี
ตราสัญลักษณ์น่าสนใจภายในพิพิธภัณฑ์
ภาพเขียน รูปปั้น งานแกะสลักที่บอกเล่าเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ของเมืองบรัสเซลส์
เวลาที่เหมาะสมในการท่องเที่ยว
ตลอดทั้งปี
บรรยากาศยามเช้าตรู่ด้านหน้าอาคารแมซง ดูว์ รัว
นักท่องเที่ยวที่สนใจไปเที่ยว พิพิธภัณฑ์เมืองบรัสเซลส์ สามารถศึกษา ข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่
พิพิธภัณฑ์เมืองบรัสเซลส์ เมืองบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม
(Brussels City Museum, Brussels , Belgium)
ระดับความนิยม :
อัตราค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 8 ยูโร / ผู้สูงอายุ 6 ยูโร / นักเรียน-นักศึกษา 4 ยูโร / ทุกวันอาทิตย์แรกของเดือนเข้าชมฟรี
เวลาเปิด-ปิด : เปิดให้เข้าชมวันอังคาร – อาทิตย์ เวลา 10:00 น. – 17:00 น.
(ปิดทุกวันจันทร์และวันที่ 1 ม.ค. / 1 พ.ค. / 1 และ 11 พ.ย. / 25 ธ.ค.)
ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการท่องเที่ยว : ตลอดทั้งปี
สถานที่ตั้ง : เมืองบรัสเซลส์, ประเทศเบลเยียม
โทรศัพท์ : (+32) 2-279-43-50
เว็บไซต์ : https://www.brusselscitymuseum.brussels/en
ข้อมูลอื่นๆ ที่ควรรู้ : เว็บไซต์สำนักงานการท่องเที่ยวประเทศเบลเยียม http://walloniabelgiumtourism.co.uk/
เว็บไซต์อย่างเป็นทางการของสำนักงานเมืองบรัสเซลส์ https://www.brussels.be/
เว็บไซต์สำนักงานส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองบรัสเซลส์ https://be.brussels/bruxelles
เว็บไซต์สำหรับตรวจสอบสภาพอากาศ https://www.accuweather.com/
เว็บไซต์การเดินทางขนส่งมวลชนของเมืองบรัสเซลส์ http://www.stib-mivb.be/index.htm?l=fr
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ
ล่องบอลลูนชม 2 ดินแดนมรดกโลก…พุกาม & คัปปาโดเชีย
หากเอ่ยถึง “พุกาม” (Bagan) เชื่อว่าคงจะนึกถึงสิ่งอื่นใดไปไม่ได้ นอกจากทะเลเจดีย์นับพันที่สร้างมาตั้งแต่สมัยโบราณ ตั้งเรียงรายอยู่บริเวณพื้นที่ของเขตเขตมัณฑะเลย์ ประเทศเมียนมาร์ และหากเอ่ยถึง “คัปปาโดเชีย” (Cappadocia) ประเทศตุรกีหรือตุรเคีย แน่นอนว่าก็คงจะต้องมีภาพของบอลลูนหลากสีลอยล่องอยู่เหนือภูมิประเทศแปลกตา ที่เต็มไปด้วยกลุ่มภูเขาหินรูปกรวยโผล่ขึ้นมาจากพื้นดิน... ในครั้งนี้ Palanla จะพาออกเดินทางไปสัมผัสกับความน่าอัศจรรย์ของ 2 ดินแดนมรดกโลก “พุกาม” และ “คัปปาโดเชีย” ด้วยมุมมองจากบนท้องฟ้าผ่านการล่องบอลลูนลมร้อน พร้อมแล้วไปด้วยกัน!
อ่านต่อเกรย์ไฟรเออร์บ็อบบี้ (Greyfriars Bobby Statue) & ฮาจิโกะ (Hachiko)
สุนัข ได้ชื่อว่าเป็นเพื่อนที่แสนดีและซื่อสัตย์ของมนุษย์มายาวนานอยู่ทุกหนแห่งของโลกใบนี้ หลายๆ เรื่องราวถูกถ่ายทอดความประทับใจออกมาผ่านภาพยนตร์ หนังสือ ตลอดจนสร้างเป็นรูปปั้นอนุสรณ์สถานเพื่อเชิดชูและระลึกถึงความรักอันบริสุทธิ์ที่เจ้าตูบและมนุษย์มีต่อกัน เช่นเดียวกับรูปปั้นของสุนัขผู้ซื่อสัตย์ 2 แห่งที่ Palanla จะพาไปชมในวันนี้ ที่แรกคือ รูปปั้นสุนัขเกรย์ไฟรเออร์บ็อบบี้ (Greyfriars Bobby Statue) เมืองเอดินเบอระ ประเทศสกอตแลนด์ และอีกที่คือ รูปปั้นสุนัขฮาจิโกะ (Hachiko) ที่เมืองโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น
อ่านต่อ8 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเมืองอิสตันบูล ประเทศตุรกี
อิสตันบูล (Istanbul) เมืองที่ได้ชื่อว่าเป็นนคร 2 ทวีป ซึ่งมีช่องแคบบอสฟอรัสเป็นเส้นแบ่งระหว่างยุโรปและเอเชียแห่งนี้ คือเมืองที่รุ่มรวยไปด้วยประวัติศาสตร์ความเป็นมานับพันๆ ปี จึงไม่น่าแปลกใจหากอิสตันบลูจะเต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวที่มีสถาปัตยกรรมเก่าแก่และงดงามทรงคุณค่ามากมายที่บอกเล่าเรื่องราวความเป็นยุโรปและเอเชียจากอดีตจนถึงปัจจุบัน Palanla จะพาไปชม 8 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเมืองอิสตันบูลที่หากมีโอกาสไปเยือนประเทศตุรกีไม่ควรพลาด
อ่านต่อล่องเรือชมวิวช่องแคบบอสฟอรัส เมืองอิสตันบูล ประเทศตุรกี
ช่องแคบบอสฟอรัส เป็นช่องแคบเล็กๆ ที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ของตุรกี เคยเป็นทั้งเส้นทางการค้าที่สำคัญ และยังเป็นจุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญมาจนถึงปัจจุบัน การล่องเรือชมวิวช่องแคบบอสฟอรัส (Bosphorus Cruise) จึงเป็นวิธีที่ดีที่จะได้สัมผัสบรรยากาศ สถาปัตยกรรม และวัฒนธรรมที่หลากหลายของอิสตันบูล
อ่านต่ออุโมงค์เก็บน้ำเยเรบาตัน เมืองอิสตันบูล ประเทศตุรกี
อุโมงค์เก็บน้ำเยเรบาตัน (Yerebatan Sarnici) คือหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ของตุรกี ดินแดนที่เต็มไปด้วยประวัติความเป็นมามากกว่าพันปี อุโมงค์เก่าแก่ขนาดใหญ่แห่งนี้คือสถานที่เก็บน้ำในสมัยโบราณที่ยังคงความยิ่งใหญ่และงดงาม กับเอกลักษณ์โดดเด่นอย่างเสากรีกที่ค้ำเรียงรายมากถึง 336 ต้น และเสาเมดูซ่าพร้อมตำนานที่เล่าขานกันมาหลายชั่วอายุคน รวมถึงซากโบราณของพระราชวังใต้ดินแห่งกรุงคอนสแตนติโนเปิลสมัยไบเซนไทน์อีกด้วย
อ่านต่อตลาดเครื่องเทศ เมืองอิสตันบูล ประเทศตุรกี
ตลาดเครื่องเทศ (Historical Spice Bazaar / Egyptıan Spıce Bazaar) ในอิสตันบูล เป็นหนึ่งในตลาดที่ใหญ่ที่สุดและเก่าแก่ที่สุดในโลก ตลาดแห่งนี้มีมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 17 ในสมัยจักรวรรดิออตโตมัน เดิมทีเป็นจุดแลกเปลี่ยนเครื่องเทศ ผ้าไหม และสินค้าอื่นๆ จากเอเชียมาสู่ยุโรป
อ่านต่อ10 สถานที่เที่ยวยอดนิยมในเมืองบูดาเปสต์ ประเทศฮังการี
บูดาเปสต์ (Budapest) เป็นเมืองหลวงของประเทศฮังการี ตัวเมืองถูกแบ่งออกเป็นสองฝั่งด้วยแม่น้ำดานูบที่ไหลผ่านกลางเมือง ทำให้ในเมืองเต็มไปด้วยบรรยากาศโรแมนติกจากสถาปัตยกรรมอันสวยงามเปี่ยมเสน่ห์ที่รอคอยให้นักท่องเที่ยวไปเยี่ยมเยือน Palanla ได้รวบรวมเอา 10 สถานที่เที่ยวยอดนิยมในเมืองบูดาเปสต์มาให้แล้วในบทความนี้
อ่านต่อ12 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเมืองปราก สาธารณรัฐเช็ก
ปราก (Prague) เมืองหลวงของสาธารณรัฐเช็ก ประเทศที่ไม่มีทางออกสู่ทะเลนี้ ตั้งอยู่ใจกลางของทวีปยุโรป ในอดีต เมืองปรากเคยเป็นศูนย์กลางการปกครองอันยิ่งใหญ่ของทวีปยุโรป ซึ่งอารยธรรมแห่งความยิ่งใหญ่ และเปี่ยมไปด้วยประวัติศาสตร์อันยาวนานนั้น ก็ยังคงสะท้อนอยู่ในวิถีชีวิตของชาวเมือง วัฒนธรรมประเพณี สถาปัตยกรรม ฯลฯ ราวกับมรดกที่สืบทอด และรักษากันมาอย่างดี จนถูกยกให้เป็นเมืองที่มีความน่าหลงใหล ควรค่าแก่การไปสัมผัสความเป็นยุโรปมากที่สุด โดยเมืองปรากยังได้รับการประกาศให้เป็นเมืองมรดกโลก จากองค์การยูเนสโก (UNESCO) ด้วย ปัจจุบันเมืองนี้นับเป็นหนึ่งในหมุดหมายสำคัญ ของบรรดานักท่องเที่ยวที่มาเยือนทวีปยุโรป ไปชม 12 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเมืองปรากพร้อมๆ กันกับ Palanla!
อ่านต่อถนนแฟชั่นบูดาเปสต์ เมืองบูดาเปสต์ ประเทศฮังการี
ถนนแฟชั่นบูดาเปสต์ (Fashion Street Budapest) เป็นถนนช้อปปิ้งที่มีชื่อเสียงในใจกลางเมืองบูดาเปสต์ ประเทศฮังการี ถนนสายนี้เป็นที่รู้จักในด้านร้านค้าแฟชั่นชั้นนำจากแบรนด์ระดับโลก อาทิ Gucci, Louis Vuitton, Dior, Armani, Prada และ Chanel ถนนสายนี้ยังเต็มไปด้วยร้านอาหาร บาร์ และคาเฟ่มากมาย จึงเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวและชาวเมืองบุดาเปสต์เองด้วย
อ่านต่อล่องเรือดินเนอร์ในบูดาเปสต์ เมืองบูดาเปสต์ ประเทศฮังการี
ล่องเรือดินเนอร์ในบูดาเปสต์ (Dinner Cruise Budapest) เป็นวิธียอดเยี่ยมในการชมความสวยงามของเมืองบูดาเปสต์ โดยขณะที่เรือล่องไปตามแม่น้ำดานูบ (Danube River) นักท่องเที่ยวจะได้เพลิดเพลินกับทัศนียภาพที่สวยงามของสะพาน พระราชวัง และสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ รวมทั้งอิ่มอร่อยกับอาหารรสเลิศและเครื่องดื่มแสนอร่อย
อ่านต่อ