- หน้าแรก
- ท่องเที่ยวต่างประเทศ
- พิพิธภัณฑ์ช็อกโกแลตเมืองโคโลญ เมืองโคโลญ ประเทศเยอรมนี
พิพิธภัณฑ์ช็อกโกแลตเมืองโคโลญ เมืองโคโลญ ประเทศเยอรมนี
- อ่าน (4,528)
- By Webmaster
- 17:02:48 | 12 ธ.ค. 2562
พิพิธภัณฑ์ช็อกโกแลตเมืองโคโลญ เมืองโคโลญ ประเทศเยอรมนี
Cologne Chocolate Museum, Cologne, Germany
บริเวณด้านหน้าพิพิธภัณฑ์ช็อกโกแลตเมืองโคโลญ
พิพิธภัณฑ์ช็อกโกแลตเมืองโคโลญ (Cologne Chocolate Museum / ชื่อภาษาเยอรมันคือ Schokoladenmuseum Köln) เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมแห่งเมืองโคโลญ ตั้งอยู่ริมแม่น้ำไรน์ (Rhine River) บริเวณท่าเรือไรโน (Rheinau harbour) ไม่ไกลจากมหาวิหารโคโลญ พิพิธภัณฑ์ช็อกโกแลตจัดแสดงเกี่ยวกับประวัติของช็อกโกแลตตั้งแต่แรกเริ่มจากการปลูกเมล็ดโกโก้ไปจนถึงกระบวนการผลิตช็อกโกแลตในโรงงาน รวมถึงวัฒนธรรมและของสะสมของแต่ละท้องถิ่นที่เกี่ยวข้องกับช็อกโกแลตตั้งแต่ในอดีตจนถึงปัจจุบัน และที่เป็นจุดเด่นที่สุดของพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ก็คือ น้ำพุช็อคโกแลตความสูงราวสามเมตรนอกจากนี้ยังมีส่วนของคาเฟ่และร้านขายช็อกโกแลต ให้นักท่องเที่ยวได้ลิ้มลองรสชาติของช็อคโกแลตและขนมที่ทำจากช็อคโกแลตอันแสนอร่อยอีกด้วย
แผนที่ตั้ง พิพิธภัณฑ์ช็อกโกแลตเมืองโคโลญ (Cologne Chocolate Museum) เมืองโคโลญ ประเทศเยอรมนี
ประวัติ
แฮนส์ อิมฮอฟฟ์ (Hans Imhoff) ผู้ก่อตั้งพิพิธภัณฑ์ช็อกโกแลต เขามีความหลงใหลในการผลิตช็อกโกแลต และมีความฝันว่าอยากจะสร้างพิพิธภัณฑ์ช็อกโกแลตที่มีน้ำพุช็อกโกแลตไหลริน และแล้วฝันของเขาก็เป็นจริง พิพิธภัณฑ์ช็อกโกแลตได้เปิดอย่างเป็นทางการในวันที่ 31 ตุลาคม ค.ศ. 1993 หลังจากการก่อสร้างมาเป็นระยะเวลา 13 เดือน นับเป็นเกียรติแห่งประวัติศาสตร์ของพิพิธภัณฑ์เยอรมนีที่ไม่มีใครคิดว่าจะเป็นไปได้
ด้านในพิพิธภัณฑ์จัดแสดงประวัติความเป็นมาของเมล็ดโกโก้และช็อกโกแลตตั้งแต่ในอดีตราวห้าพันปีก่อนจนถึงการผลิตและแปรรูปช็อกโกแลตในปัจจุบันบนเนื้อที่ราว 4,000 ตารางเมตร โดยในส่วนจัดแสดงประกอบไปด้วย สวนจำลองพื้นที่ป่าในเขตร้อนชื้นซึ่งเป็นต้นกำเนิดของต้นโกโก้ ส่วนจัดแสดงวัฒนธรรมในยุคก่อนประวัติศาสตร์ของโคลัมเบียในอเมริกากลาง ชุดเครื่องลายคราม เครื่องเงิน และเครื่องจักรจากยุคอุตสาหกรรม ขั้นตอนการผลิตช็อกโกแลตที่นักท่องเที่ยวจะได้รู้วิธีการขึ้นรูปช็อกโกแลตทั้งแบบใช้เครื่องจักรและฝีมือคน
จุดเด่นที่สุดของพิพิธภัณฑ์คือน้ำพุช็อกโกแลตความสูงสามเมตรที่มีช็อกโกแลตยี่ห้อลินด์ (Lindt) อันโด่งดังไหลรินลงมาดั่งความฝันที่เป็นจริงของแฮนส์ อิมฮอฟฟ์ ปัจจุบันมีจำนวนนักท่องเที่ยวที่มาเยือนพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ราวหกแสนคนต่อปี นับเป็นสถาบันทางวัฒนธรรมที่มีผู้เข้าชมมากที่สุดในเมืองโคโลญ
น้ำพุช็อกโกแลตเป็นแลนด์มาร์กของพิพิธภัณฑ์ช็อกโกแลต
บริเวณสวนจำลองพื้นที่ป่าในเขตร้อนชื้น
ต้นไม้ในเขตป่าร้อนชื้นที่ปลูกอยู่ในบริเวณสวนจำลอง
บริเวณส่วนจัดแสดงการแปรรูปจากเมล็ดโกโก้เป็นช็อกโกแลต
เครื่องจักรที่ใช้ในการผลิตช็อกโกแลต
กระบวนการทำงานของเครื่องจักรและแม่พิมพ์ช็อกโกแลต
ส่วนจัดแสดงร้านขายช็อกโกแลตในช่วงต้นศตวรรษที่ 19
ด้านในร้านขายช็อกโกแลตในช่วงต้นศตวรรษที่ 19
บริเวณส่วนจัดแสดงประวัติความเป็นมาของช็อกโกแลตยี่ห้อดัง
ด้านข้างโถงทางเดินจัดแสดงภาพเขียนและโปสเตอร์ในอดีต
ช็อกโกแลตที่ผลิตออกมาเป็นสินค้ายี่ห้อดัง
การเดินทางจากสนามบินโคโลญบอนน์ (Cologne Bonn Airport) ไปยังสถานีรถไฟกลางโคโลญ (Cologne Central Station)
- รถยนต์ (Car) จาก Cologne Bonn Airport ไปยัง Cologne Central Station มีระยะทางประมาณ 18.4 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 19 นาที
- รถประจำทาง (Bus) จาก Cologne Bonn Airport ให้ขึ้นรถประจำทางสาย 161 ที่สถานีรถประจำทางบริเวณสนามบิน ไปลงยัง Cologne Central Station มีระยะทางประมาณ 18.4 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 19 นาที
- รถไฟ (Train) จาก Cologne Bonn Airport ให้ขึ้นรถไฟสายสีเขียวที่สถานี Köln/Bonn Flughafen ภายในสนามบิน จากนั้นลงที่สถานี Cologne Central Station ใช้เวลาเดินทางประมาณ 20 นาที
หมายเหตุ ชื่อสถานีรถไฟกลางโคโลญนั้นมีชื่อเรียกหลากหลาย โดยชื่อที่เป็นทางการและนิยมเรียกกัน ได้แก่
1. Köln Hauptbahnhof เป็นชื่อทางการในภาษาเยอรมัน
2. Cologne Central Station / Cologne Main Railway Station เป็นชื่อทางการในภาษาอังกฤษ
3. Dom Hauptbahnhof หมายถึง สถานีโบสถ์ เพราะสถานีติดกับมหาวิหารโคโลญ
การเดินทางจากสถานีรถไฟกลางโคโลญ (Cologne Central Station)ไปยัง พิพิธภัณฑ์ช็อกโกแลตเมืองโคโลญ (Cologne Chocolate Museum)
- รถยนต์ (Car) จาก Cologne Central Station ไปยัง Cologne Chocolate Museum มีระยะทางประมาณ 1.9 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 นาที
- รถประจำทาง (Bus) จาก Cologne Central Station ไปยัง Cologne Chocolate Museum ให้ขึ้นรถประจำทางสาย 133 ไปลงยังป้าย Köln Schokoladenmuseum มีระยะทางประมาณ 1.9 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 นาที
- รถไฟ (Train) จาก Cologne Central Station ให้ขึ้นรถไฟสายสีม่วง ลงสถานี Heumarkt และเดินต่อไปยัง ไปยัง Cologne Chocolate Museum ประมาณ 600 เมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 10 นาที
- เดิน (Footpath) จาก Cologne Central Station ไปยัง Cologne Chocolate Museum มีระยะทางประมาณ 1.3 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 17 นาที
เวลาทำการเปิด-ปิด
ตามปกติจะเปิดให้เข้าชมทุกวัน เวลา 10:00 น. – 18:00 น.
แต่ในช่วงเดือนมกราคม - เดือนมีนาคม และเดือนพฤศจิกายน จะปิดทุกวันจันทร์
ในช่วงคริสต์มาสจะมีเวลาเปิด - ปิด ดังนี้
24 - 25 ธันวาคม พิพิธภัณฑ์ปิด
26 ธันวาคม เวลา 10:00 น. – 18:00 น.
31 ธันวาคม เวลา 10:00 น. – 17:00 น.
อัตราค่าเข้าชม
ผู้ใหญ่ : วันธรรมดา 12.50 Euro/ วันหยุดสุดสัปดาห์ 13.50 Euro
เด็กนักเรียนอายุไม่เกิน 16 ปี : วันธรรมดา 7.50 Euro/ วันหยุดสุดสัปดาห์ 8.00 Euro
เด็กอายุต่ำกว่า 6 ปี : ไม่เสียค่าเข้าชม
นักศึกษา : วันธรรมดา 9.00 Euro/ วันหยุดสุดสัปดาห์ 10.00 Euro
ผู้สูงอายุ อายุ 65 ปีขึ้นไป : วันธรรมดา 11.00 Euro/ วันหยุดสุดสัปดาห์ 12.00 Euro
นักท่องเที่ยวทุพพลภาพ : วันธรรมดา 7.50 Euro/ วันหยุดสุดสัปดาห์ 8.00 Euro
ตั๋วครอบครัว : วันธรรมดา 31.50 Euro/ วันหยุดสุดสัปดาห์ 34.00 Euro (ผู้ใหญ่ 2 คน กับเด็กอายุไม่เกิน 16 ปี)
น้ำพุช็อกโกแลตตั้งอยู่บริเวณกำแพงกระจกที่มองเห็นแม่น้ำไรน์
เวลาที่เหมาะสมสำหรับการท่องเที่ยว
ตลอดทั้งปี
พิพิธภัณฑ์ตั้งอยู่บริเวณท่าเรือ ต้องเดินข้ามสะพาน Drehbridge ไป
นักท่องเที่ยวที่สนใจมาเที่ยว Cologne Chocolate Museum สามารถศึกษา ข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่
พิพิธภัณฑ์ช็อกโกแลตเมืองโคโลญ เมืองโคโลญ ประเทศเยอรมนี
(Cologne Chocolate Museum, Cologne, Germany)
ระดับความนิยม :
อัตราค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ : วันธรรมดา 12.50 Euro/ วันหยุดสุดสัปดาห์ 13.50 Euro
เด็กนักเรียนอายุไม่เกิน 16 ปี : วันธรรมดา 7.50 Euro/ วันหยุดสุดสัปดาห์ 8.00 Euro
เด็กอายุต่ำกว่า 6 ปี : ไม่เสียค่าเข้าชม
นักศึกษา : วันธรรมดา 9.00 Euro/ วันหยุดสุดสัปดาห์ 10.00 Euro
ผู้สูงอายุ อายุ 65 ปีขึ้นไป : วันธรรมดา 11.00 Euro/ วันหยุดสุดสัปดาห์ 12.00 Euro
นักท่องเที่ยวทุพพลภาพ : วันธรรมดา 7.50 Euro/ วันหยุดสุดสัปดาห์ 8.00 Euro
ตั๋วครอบครัว (ผู้ใหญ่ 2 คน กับเด็กอายุไม่เกิน 16 ปี) : วันธรรมดา 31.50 Euro/ วันหยุดสุดสัปดาห์ 34.00 Euro
เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน วันจันทร์ ถึง วันอาทิตย์
ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการท่องเที่ยว : ตลอดทั้งปี
สถานที่ตั้ง : เมืองโคโลญ ประเทศเยอรมนี
โทรศัพท์ : (+49) 221 931888 - 0
เว็บไซต์ : https://www.schokoladenmuseum.de/en/
ข้อมูลอื่นๆ ที่ควรรู้ : พยากรณ์อากาศ https://www.accuweather.com/th/de/germany-weather
เว็บไซต์ทางการของเมืองโคโลญ https://www.cologne.de
เว็บไซต์ท่องเที่ยวอย่างเป็นทางการของเมืองโคโลญ https://www.cologne-tourism.com/
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ
ล่องบอลลูนชม 2 ดินแดนมรดกโลก…พุกาม & คัปปาโดเชีย
หากเอ่ยถึง “พุกาม” (Bagan) เชื่อว่าคงจะนึกถึงสิ่งอื่นใดไปไม่ได้ นอกจากทะเลเจดีย์นับพันที่สร้างมาตั้งแต่สมัยโบราณ ตั้งเรียงรายอยู่บริเวณพื้นที่ของเขตเขตมัณฑะเลย์ ประเทศเมียนมาร์ และหากเอ่ยถึง “คัปปาโดเชีย” (Cappadocia) ประเทศตุรกีหรือตุรเคีย แน่นอนว่าก็คงจะต้องมีภาพของบอลลูนหลากสีลอยล่องอยู่เหนือภูมิประเทศแปลกตา ที่เต็มไปด้วยกลุ่มภูเขาหินรูปกรวยโผล่ขึ้นมาจากพื้นดิน... ในครั้งนี้ Palanla จะพาออกเดินทางไปสัมผัสกับความน่าอัศจรรย์ของ 2 ดินแดนมรดกโลก “พุกาม” และ “คัปปาโดเชีย” ด้วยมุมมองจากบนท้องฟ้าผ่านการล่องบอลลูนลมร้อน พร้อมแล้วไปด้วยกัน!
อ่านต่อเกรย์ไฟรเออร์บ็อบบี้ (Greyfriars Bobby Statue) & ฮาจิโกะ (Hachiko)
สุนัข ได้ชื่อว่าเป็นเพื่อนที่แสนดีและซื่อสัตย์ของมนุษย์มายาวนานอยู่ทุกหนแห่งของโลกใบนี้ หลายๆ เรื่องราวถูกถ่ายทอดความประทับใจออกมาผ่านภาพยนตร์ หนังสือ ตลอดจนสร้างเป็นรูปปั้นอนุสรณ์สถานเพื่อเชิดชูและระลึกถึงความรักอันบริสุทธิ์ที่เจ้าตูบและมนุษย์มีต่อกัน เช่นเดียวกับรูปปั้นของสุนัขผู้ซื่อสัตย์ 2 แห่งที่ Palanla จะพาไปชมในวันนี้ ที่แรกคือ รูปปั้นสุนัขเกรย์ไฟรเออร์บ็อบบี้ (Greyfriars Bobby Statue) เมืองเอดินเบอระ ประเทศสกอตแลนด์ และอีกที่คือ รูปปั้นสุนัขฮาจิโกะ (Hachiko) ที่เมืองโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น
อ่านต่อ8 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเมืองอิสตันบูล ประเทศตุรกี
อิสตันบูล (Istanbul) เมืองที่ได้ชื่อว่าเป็นนคร 2 ทวีป ซึ่งมีช่องแคบบอสฟอรัสเป็นเส้นแบ่งระหว่างยุโรปและเอเชียแห่งนี้ คือเมืองที่รุ่มรวยไปด้วยประวัติศาสตร์ความเป็นมานับพันๆ ปี จึงไม่น่าแปลกใจหากอิสตันบลูจะเต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวที่มีสถาปัตยกรรมเก่าแก่และงดงามทรงคุณค่ามากมายที่บอกเล่าเรื่องราวความเป็นยุโรปและเอเชียจากอดีตจนถึงปัจจุบัน Palanla จะพาไปชม 8 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเมืองอิสตันบูลที่หากมีโอกาสไปเยือนประเทศตุรกีไม่ควรพลาด
อ่านต่อล่องเรือชมวิวช่องแคบบอสฟอรัส เมืองอิสตันบูล ประเทศตุรกี
ช่องแคบบอสฟอรัส เป็นช่องแคบเล็กๆ ที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ของตุรกี เคยเป็นทั้งเส้นทางการค้าที่สำคัญ และยังเป็นจุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญมาจนถึงปัจจุบัน การล่องเรือชมวิวช่องแคบบอสฟอรัส (Bosphorus Cruise) จึงเป็นวิธีที่ดีที่จะได้สัมผัสบรรยากาศ สถาปัตยกรรม และวัฒนธรรมที่หลากหลายของอิสตันบูล
อ่านต่ออุโมงค์เก็บน้ำเยเรบาตัน เมืองอิสตันบูล ประเทศตุรกี
อุโมงค์เก็บน้ำเยเรบาตัน (Yerebatan Sarnici) คือหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ของตุรกี ดินแดนที่เต็มไปด้วยประวัติความเป็นมามากกว่าพันปี อุโมงค์เก่าแก่ขนาดใหญ่แห่งนี้คือสถานที่เก็บน้ำในสมัยโบราณที่ยังคงความยิ่งใหญ่และงดงาม กับเอกลักษณ์โดดเด่นอย่างเสากรีกที่ค้ำเรียงรายมากถึง 336 ต้น และเสาเมดูซ่าพร้อมตำนานที่เล่าขานกันมาหลายชั่วอายุคน รวมถึงซากโบราณของพระราชวังใต้ดินแห่งกรุงคอนสแตนติโนเปิลสมัยไบเซนไทน์อีกด้วย
อ่านต่อตลาดเครื่องเทศ เมืองอิสตันบูล ประเทศตุรกี
ตลาดเครื่องเทศ (Historical Spice Bazaar / Egyptıan Spıce Bazaar) ในอิสตันบูล เป็นหนึ่งในตลาดที่ใหญ่ที่สุดและเก่าแก่ที่สุดในโลก ตลาดแห่งนี้มีมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 17 ในสมัยจักรวรรดิออตโตมัน เดิมทีเป็นจุดแลกเปลี่ยนเครื่องเทศ ผ้าไหม และสินค้าอื่นๆ จากเอเชียมาสู่ยุโรป
อ่านต่อ10 สถานที่เที่ยวยอดนิยมในเมืองบูดาเปสต์ ประเทศฮังการี
บูดาเปสต์ (Budapest) เป็นเมืองหลวงของประเทศฮังการี ตัวเมืองถูกแบ่งออกเป็นสองฝั่งด้วยแม่น้ำดานูบที่ไหลผ่านกลางเมือง ทำให้ในเมืองเต็มไปด้วยบรรยากาศโรแมนติกจากสถาปัตยกรรมอันสวยงามเปี่ยมเสน่ห์ที่รอคอยให้นักท่องเที่ยวไปเยี่ยมเยือน Palanla ได้รวบรวมเอา 10 สถานที่เที่ยวยอดนิยมในเมืองบูดาเปสต์มาให้แล้วในบทความนี้
อ่านต่อ12 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเมืองปราก สาธารณรัฐเช็ก
ปราก (Prague) เมืองหลวงของสาธารณรัฐเช็ก ประเทศที่ไม่มีทางออกสู่ทะเลนี้ ตั้งอยู่ใจกลางของทวีปยุโรป ในอดีต เมืองปรากเคยเป็นศูนย์กลางการปกครองอันยิ่งใหญ่ของทวีปยุโรป ซึ่งอารยธรรมแห่งความยิ่งใหญ่ และเปี่ยมไปด้วยประวัติศาสตร์อันยาวนานนั้น ก็ยังคงสะท้อนอยู่ในวิถีชีวิตของชาวเมือง วัฒนธรรมประเพณี สถาปัตยกรรม ฯลฯ ราวกับมรดกที่สืบทอด และรักษากันมาอย่างดี จนถูกยกให้เป็นเมืองที่มีความน่าหลงใหล ควรค่าแก่การไปสัมผัสความเป็นยุโรปมากที่สุด โดยเมืองปรากยังได้รับการประกาศให้เป็นเมืองมรดกโลก จากองค์การยูเนสโก (UNESCO) ด้วย ปัจจุบันเมืองนี้นับเป็นหนึ่งในหมุดหมายสำคัญ ของบรรดานักท่องเที่ยวที่มาเยือนทวีปยุโรป ไปชม 12 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเมืองปรากพร้อมๆ กันกับ Palanla!
อ่านต่อถนนแฟชั่นบูดาเปสต์ เมืองบูดาเปสต์ ประเทศฮังการี
ถนนแฟชั่นบูดาเปสต์ (Fashion Street Budapest) เป็นถนนช้อปปิ้งที่มีชื่อเสียงในใจกลางเมืองบูดาเปสต์ ประเทศฮังการี ถนนสายนี้เป็นที่รู้จักในด้านร้านค้าแฟชั่นชั้นนำจากแบรนด์ระดับโลก อาทิ Gucci, Louis Vuitton, Dior, Armani, Prada และ Chanel ถนนสายนี้ยังเต็มไปด้วยร้านอาหาร บาร์ และคาเฟ่มากมาย จึงเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวและชาวเมืองบุดาเปสต์เองด้วย
อ่านต่อล่องเรือดินเนอร์ในบูดาเปสต์ เมืองบูดาเปสต์ ประเทศฮังการี
ล่องเรือดินเนอร์ในบูดาเปสต์ (Dinner Cruise Budapest) เป็นวิธียอดเยี่ยมในการชมความสวยงามของเมืองบูดาเปสต์ โดยขณะที่เรือล่องไปตามแม่น้ำดานูบ (Danube River) นักท่องเที่ยวจะได้เพลิดเพลินกับทัศนียภาพที่สวยงามของสะพาน พระราชวัง และสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ รวมทั้งอิ่มอร่อยกับอาหารรสเลิศและเครื่องดื่มแสนอร่อย
อ่านต่อ