7 เส้นทางประวัติศาสตร์ภาคกลาง

  • อ่าน (3,381)
  • ByWebmaster Webmaster
  • 14:17:22 | 3 เม.ย. 2566

7 เส้นทางประวัติศาสตร์ภาคกลาง

             หากเอ่ยถึงเรื่องราวในอดีตของชาติไทย คงมีหลากหลายเหตุการณ์ที่คงไว้ซึ่งประวัติศาสตร์สำคัญๆ แม้ในปัจจุบันนั้น จะเหลือเพียงซากปรักหักพังของโบราณสถาน และอนุสรณ์ของวีรชนบรรพบุรุษไทย แต่ก็ล้วนเป็นสิ่งเตือนใจให้ลูกหลานรำลึกถึงคุณงามความดีของบรรพบุรุษไทย และสถานที่ทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญครั้นอดีตอยู่เสมอ วันนี้ Palanla จะพาท่อง 7 เส้นทางประวัติศาสตร์ที่อยู่ในภูมิภาคกลาง อีกทั้งไม่ไกลจากกรุงเทพฯ อีกด้วยนะคะ แต่ละสถานที่นั้นมีสิ่งที่น่าสนใจ และมีความเป็นมาอย่างไร พร้อมแล้วตามไปเที่ยวได้เลยค่ะ


แผนที่ตั้ง 7 เส้นทางประวัติศาสตร์ภาคกลาง
 

1. อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา

             อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา (Ayutthaya Historical Park)  เป็นเขตโบราณสถานครอบคลุมพื้นที่จำนวนกว่า 3,000 ไร่ และประกอบไปด้วยพระราชวัง วัด และโบราณสถานสำคัญจำนวน 28 แห่ง อุทยานแห่งนี้ได้รับการพิจารณาเป็นมรดกโลกเมื่อวันที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2534 จากองค์กรยูเนสโก ในนาม “นครประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา” ด้วยเหตุผลว่า “เป็นสิ่งที่ยืนยันถึงหลักฐานของวัฒนธรรมหรืออารยธรรมที่ปรากฏให้เห็นอยู่ในปัจจุบันหรือว่าที่สาบสูญไปแล้ว”

เวลาทำการเปิด - ปิด : เปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00 – 18.00 น.

พิกัด GPS : 14°21'02.5"N 100°33'25.4"E

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา ได้ที่ : https://palanla.com/th/domesticLocation/detail/1333
 

2. พระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช จ.พระนครศรีอยุธยา

             พระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช (King Naresuan The Great Monument) เป็นพระรูปทรงม้าศึก เหตุการณ์ตอนทรงม้าออกมาสังหาร “ลักไวทำมู” ทหารเอกของพระเจ้าหงสาวดี ประดิษฐานบนแท่นและลานหินสีขาว พร้อมเครื่องราชูปโภค 4 อย่าง ตั้งตระหง่านอยู่บนเนินหญ้าสีเขียวในสวนสาธารณะสวยงาม โอบล้อมด้วยอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ ในอดีตพื้นที่บริเวณนี้เคยเป็นสมรภูมิรบหลายต่อหลายครั้งด้วยกัน โดยเมื่อปีพ.ศ. 2129 สมเด็จพระนเรศวรมหาราชได้ทรงกระทำศึกที่บริเวณทุ่งภูเขาทอง และเป็นฝ่ายเอาชนะพม่าได้ในที่สุด ภูมิทัศน์บริเวณรอบๆ พระบรมราชานุสาวรีย์มีความสวยงาม ใกล้ๆ กันมีอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ และมีสวนสาธารณะบรรยากาศร่มรื่น สำหรับให้ประชาชนได้พักผ่อนหย่อนใจอีกด้วย

เวลาทำการเปิด – ปิด : เปิดทุกวัน เวลา 06.00 – 20.00 น.

พิกัด GPS : 14°22'19.2"N 100°32'30.3"E

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ พระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ได้ที่https://palanla.com/index.php?op=domesticLocation-detail&id=255
 

3. พระราชานุสาวรีย์สมเด็จพระสุริโยทัย จ.พระนครศรีอยุธยา

             พระราชานุสาวรีย์สมเด็จพระสุริโยทัย (Somdet Phra Suriyothai Monument) เป็นพระราชานุสาวรีย์แห่งวีรสตรีไทยสมัยอยุธยา หล่อด้วยสำริด มีขนาดหนึ่งเท่าครึ่งขององค์จริงประทับอยู่บนหลังพระคชาธาร ณ บริเวณทุ่งมะขามหย่องที่ในอดีตเคยเป็นสมรภูมิการสู้รบระหว่างไทยกับพม่าหลายต่อหลายครั้ง รวมถึงวีรกรรมครั้งยิ่งใหญ่คือเมื่อครั้งที่สมเด็จพระสุริโยทัย พระอัครมเหสีของสมเด็จพระมหาจักรพรรดิทรงทำยุทธหัตถีกับพระเจ้าแปรจนต้องพระแสงของ้าว สิ้นพระชนม์บนคอช้าง นอกจากองค์พระราชานุสาวรีย์อันเป็นที่เคารพบูชาของชาวจังหวัดอยุธยาแล้ว บริเวณทุ่งมะขามหย่องนี้ยังเป็นโครงการตามแนวพระราชดำริของในหลวงรัชกาลที่ 9 ซึ่งก่อให้เกิดประโยชน์แก่ประชาชนจังหวัดพระนครศรีอยุธยาในด้านการป้องกันน้ำท่วม และเป็นแหล่งกักเก็บน้ำอีกด้วย

เวลาทำการเปิด – ปิด : เปิดทุกวัน เวลา 09.00 - 17.00 น.

พิกัด GPS : 14°23'01.8"N 100°31'34.4"E

อ่านข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ พระราชานุสาวรีย์สมเด็จพระสุริโยทัย ได้ที่ : https://palanla.com/index.php?op=domesticLocation-detail&id=256
 

4. พระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระนารายณ์มหาราช จ.ลพบุรี

             พระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระนารายณ์มหาราช (King Narai the Great Monument) เป็นพระบรมราชานุสาวรีย์ที่ประดิษฐานอยู่อย่างโดดเด่นกลางวงเวียนพระนารายณ์ และเป็นแลนด์มาร์กบริเวณใจกลางเมืองลพบุรี พระบรมราชานุสาวรีย์แห่งนี้เป็นพระบรมรูปโลหะรมดำ ขนาดเท่าครึ่งของพระองค์จริง ในพระอิริยาบทประทับยืน ผินพระพักตร์ไปทางทิศตะวันออก พระหัตถ์ขวาทรงพระแสงดาบ พระบาทซ้ายวางเยื้องมาข้างหน้าเล็กน้อย พระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระนารายณ์มหาราชแห่งนี้สร้างขึ้นเพื่อรำลึกถึงคุณูปการณ์ของสมเด็จพระนารายณ์มหาราชที่ทรงมีต่ออาณาจักรอยุธยา และเมืองลพบุรี

เวลาทำการเปิด-ปิด : เปิดตลอดเวลา

พิกัด GPS : 14°47'58.3"N 100°39'11.1"E

อ่านรายละเอียดเพื่มเติมเกี่ยวกับ พระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระนารายณ์มหาราช ได้ที่ : https://palanla.com/index.php?op=domesticLocation-detail&id=553
 

5. พระนารายณ์ราชนิเวศน์ จ.ลพบุรี

             พระนารายณ์ราชนิเวศน์ หรือ วังนารายณ์ (Phra Narai Ratchanivet) เป็นพระราชวังที่สมเด็จพระนารายณ์มหาราชโปรดให้สร้างขึ้นในรัชสมัยของพระองค์ เพื่อใช้เป็นที่ประทับที่เมืองลพบุรี ที่นี่จึงเป็นทั้งที่ประทับ ออกว่าราชการ และต้อนรับแขกเมือง ปัจจุบันพระนารายณ์ราชนิเวศน์คงเหลือเพียงซากปรักหักพังและได้รับการบูรณะดูแลในฐานะโบราณสถานให้ชนรุ่นหลังได้ศึกษาเรียนรู้ ซึ่งนอกจากจะได้เห็นความยิ่งใหญ่ของอาคารต่างๆ ในอดีตแล้ว ภายในบริเวณยังมีพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ สมเด็จพระนารายณ์ให้ศึกษาเที่ยวชมอีกด้วย

เวลาทำการเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน 07:00 – 17:30 น.

พิกัด GPS : 14°48'00.9"N 100°36'42.6"E

อ่านรายละเอียดเพื่มเติมเกี่ยวกับ พระนารายณ์ราชนิเวศน์ ได้ที่ : https://palanla.com/index.php?op=domesticLocation-detail&id=552
 

6. อนุสาวรีย์วีรชนค่ายบางระจัน จ.สิงห์บุรี

             อนุสาวรีย์วีรชนค่ายบางระจัน (Bang Rachan Memorial Park) ตั้งอยู่บนพื้นที่กว่า 115 ไร่ ภายในบริเวณอุทยานค่ายบางระจัน จังหวัดสิงห์บุรี เป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์โดดเด่นด้วยอนุสาวรีย์วีรชนค่ายบางระจันเป็นรูปหล่อประติมากรรมของหัวหน้าชาวค่ายบางระจันทั้ง 11 คน ได้แก่ นายจันหนวดเขี้ยว นายโชติ นายดอก นายทองแก้ว นายทองเหม็น นายทองแสงใหญ่ นายแท่น นายเมือง พันเรือง ขุนสรรค์ และ นายอิน อนุสาวรีย์แห่งนี้สร้างขึ้นเพื่อรำลึกถึงวีรกรรมอันกล้าหาญของชาวบ้านบางระจันที่ช่วยต่อต้านทัพพม่า และรักษาบ้านเมืองไว้ได้เป็นเวลานานก่อนที่จะเสียกรุงศรีอยุธยาเมื่อปี พ.ศ.2310 ในปัจจุบัน มีการจำลองรูปแบบค่ายในสมัยโบราณ และมีอาคารศูนย์ศึกษาประวัติศาสตร์วีรชนค่ายบางระจันให้ได้เที่ยวชมอีกด้วย

เวลาทำการเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน 09:00 – 18:45 น.

พิกัด GPS : 14°48'19.6"N 100°19'14.4"E

อ่านรายละเอียดเพื่มเติมเกี่ยวกับ อนุสาวรีย์วีรชนค่ายบางระจัน ได้ที่ : https://palanla.com/index.php?op=domesticLocation-detail&id=585
 

7. พระบรมราชานุสรณ์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช (อนุสรณ์ดอนเจดีย์) จ.สุพรรณบุรี

             พระบรมราชานุสรณ์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช หรือ พระบรมราชานุสรณ์ดอนเจดีย์ (Don Chedi Monument) เป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญยิ่งแห่งหนึ่งของประเทศไทย เพราะเป็นสถานที่ที่สมเด็จพระนเรศวรมหาราชทรงกระทำยุทธหัตถีชนะสมเด็จพระมหาอุปราชาแห่งพม่า และได้ประกาศอิสรภาพไม่เป็นเมืองขึ้นของพม่าอีกต่อไป เมื่อชนะศึกแล้วจึงได้สร้างพระเจดีย์องค์นี้ขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์ ปัจจุบันกองทัพบกได้สร้างพระเจดีย์ใหญ่ทรงลังกา ครอบพระเจดีย์องค์จริงที่พระนเรศวรมหาราชทรงสร้างเพื่อเฉลิมฉลองชัยชนะเมื่อปี พ.ศ. 2135 เอาไว้ ซึ่งเจดีย์องค์จริงได้ถูกค้นพบเมื่อปี พ.ศ. 2456 โดยเจ้าพระยาสุพรรณฯเป็นผู้ค้นพบ

เวลาทำการเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน 06.00 – 18.00 น.    

พิกัด GPS : 14°37'59.9"N 100°01'16.1"E

อ่านรายละเอียดเพื่มเติมเกี่ยวกับ พระบรมราชานุสรณ์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ได้ที่ : https://www.palanla.com/th/domesticLocation/detail/1451

 

สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ

สวนสาธารณะเทศบาลโพธาราม จังหวัดราชบุรี ประเทศไทย

สวนสาธารณะเทศบาลโพธาราม (Muang Photharam Municipal Public Park) เป็นสวนสาธารณะที่ตั้งอยู่ริมเขื่อนแม่น้ำแม่กลองในอำเภอโพธาราม ภายในสวนมีบรรยากาศร่มรื่นจากต้นไม้ใหญ่ และยังมีส่วนของจุดชมวิว สนามหญ้า ทางวิ่งออกกำลังกาย ลานกีฬา เครื่องออกกำลังกาย และสนามเด็กเล่น สวนสาธาณะแห่งนี้เหมาะกับคนทุกวัยที่ต้องการมาเดินเล่น พักผ่อนหย่อนใจ ออกกำลังกาย และชมวิวแม่น้ำแม่กลองที่เป็นแม่น้ำสายหลักของจังหวัดราชบุรี และที่นี่ยังใช้เป็นสถานที่จัดงานกิจกรรมและงานประเพณีต่างๆ ของเมืองโพธารามอีกด้วย

อ่านต่อ

พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติราชบุรี จังหวัดราชบุรี ประเทศไทย

พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติราชบุรี (Ratchaburi National Museum) เป็นพิพิธภัณฑ์ที่มีเอกลักษณ์จากการใช้ศาลากลางหลังเก่าของจังหวัดราชบุรีมาก่อตั้งขึ้นเป็นพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ อาคารแห่งนี้เป็นอาคารเก่าแก่ที่สร้างขึ้นด้วยสถาปัตยกรรมที่งดงามและอยู่คู่กับจังหวัดราชบุรีมาอย่างนาวนาน และยังได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานของชาติอีกด้วย ภายในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติราชบุรีมีนิทรรศการท้องถิ่นที่น่าสนใจของจังหวัดราชบุรีให้เที่ยวชม โดยจัดแสดงเรื่องราวทางสภาพภูมิศาสตร์และธรรมชาติวิทยา ประวัติศาสตร์และโบราณคดี ชนเผ่าชาติพันธุ์วิทยา มรดกทางธรรมชาติและวัฒนธรรม และบุคคลสำคัญ ไปจนถึงคลังโบราณวัตถุที่หาชมได้ยากตั้งแต่เครื่องปั้นดินเผาไปจนถึงพระพุทธรูปในยุคต่างๆ

อ่านต่อ

น้ำตกเก้าชั้น จังหวัดราชบุรี ประเทศไทย

น้ำตกเก้าชั้น (Kaew Chan Waterfalls) เป็นน้ำตกกลางหุบเขาที่มีความสูง 9 ชั้น โดยแต่ละชั้นมีความสวยงามแตกต่างกันไป ชั้นที่ได้ชื่อว่าสวยงามที่สุดคือบริเวณชั้นที่ 6 น้ำตกเก้าชั้นสามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปี เพราะมีน้ำไหลทุกฤดูกาล โดยจะมีน้ำมากที่สุดและสวยที่สุดในช่วงฤดูฝน เพราะจะมองเห็นสายน้ำตกสีขาวขนาดใหญ่ไหลลงมาจากหน้าผาสูงท่ามกลางป่าไม้อันเขียวขจีและเสียงของน้ำตก เป็นสถานที่ท่องเที่ยวและพักผ่อนหย่อนใจที่ได้รับความนิยมอีกแห่งหนึ่งของอำเภอสวนผึ้ง

อ่านต่อ

ตลาดน้ำเหล่าตั๊กลัก จังหวัดราชบุรี ประเทศไทย

ตลาดน้ำเหล่าตั๊กลัก (Lao Tuk Luck Floating Market) เป็นตลาดน้ำแห่งแรกของจังหวัดราชบุรีที่ก่อตั้งขึ้นมาก่อนตลาดน้ำดำเนินสะดวก มีลักษณะเป็นตลาดน้ำขนาดย่อมที่ตั้งอยู่บนเรือนไม้ริมน้ำที่ชุมชนชาวไทย-จีนอาศัยอยู่ ตลาดน้ำเหล่าตั๊กลักมีบรรยากาศเรียบง่ายและคลาสสิก แต่มีความพลุกพล่านน้อยกว่าตลาดน้ำดำเนินสะดวก การเดินทางก็แสนง่าย แค่เพียงแค่ข้ามสะพานข้ามแม่น้ำจากฝั่งตลาดน้ำดำเนินสะดวกมายังฝั่งตรงข้าม ก็จะได้พบกับเรือนไม้โบราณของชุมชนชาวจีนและลำคลองที่ตัดผ่าน เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีอาหารทานง่ายอร่อยๆ ให้เลือกมากมาย และมีมุมถ่ายรูปสวยๆ ให้เก็บความประทับใจ นอกจากนี้ในวันหยุดจะมีเสียงดนตรียุค 80 คลอเคล้าสร้างความเพลิดเพลินในการเดินตลาดอีกด้วย

อ่านต่อ

ตลาดน้ำอโยธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ประเทศไทย

ตลาดน้ำอโยธยา (Ayothaya Floating Market) ตลาดน้ำที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์วัฒนธรรมไทยที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวที่มาเยือนเมืองเก่าแห่งนี้

อ่านต่อ

วัดราชบูรณะ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ประเทศไทย

วัดราชบูรณะ (Wat Ratchaburana) อนุสรณ์สถานแห่งการแย่งชิงราชบัลลังค์ เป็นอีกหนึ่งในวัดที่ใหญ่ และเก่าแก่มากที่สุดในพระนครศรีอยุธยา สร้างโดยสมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 2 หรือ เจ้าสามพระยา เมื่อปี พ.ศ. 1967

อ่านต่อ

วัดมเหยงคณ์ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ประเทศไทย

วัดมเหยงคณ์ (Wat Mahaeyong) อดีตพระอารามหลวง และกลายเป็นวัดร้างไปภายหลังกรุงศรีอยุธยาแตกเมื่อ พ.ศ. 2310 ปัจจุบันวัดแห่งนี้ยังทำหน้าที่เป็นสถานปฏิบัติธรรม ใจกลางโบราณสถานที่เก่าแก่ของอยุธยาอีกด้วย

อ่านต่อ

10 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในจังหวัดนครสวรรค์ ประเทศไทย

จังหวัดนครสวรรค์ตั้งอยู่บริเวณภาคกลางตอนบน เป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่เป็นแหล่งเกษตรกรรมของไทย อีกทั้งยังได้รับสมญานามว่าเป็นประตูสู่ภาคเหนือ และเป็นพื้นที่ต้นกำเนิดของแม่น้ำเจ้าพระยาอีกด้วย ด้วยเหตุนี้ จังหวัดนครสวรรค์จึงมีทิวทัศน์ทางธรรมชาติที่สวยงาม และมีสถานที่ท่องเที่ยวหลากหลายโดยเฉพาะวัดและตลาดที่สะท้อนถึงวัฒนธรรมและความเป็นอยู่ของชาวนครสวรรค์ได้เป็นอย่างดี วันนี้ทาง Palanla จึงได้รวบรวม 10 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของจังหวัดนครสวรรค์มาฝากทุกท่านกันในบทความนี้

อ่านต่อ

หอชมเมืองนครสวรรค์ จังหวัดนครสวรรค์ ประเทศไทย

หอชมเมืองนครสวรรค์ (Nakhon Sawan Observation Tower) เป็นหอชมเมืองที่ตั้งอยู่บนเขาคีรีวงศ์ จุดชมวิวจะตั้งอยู่บริเวณชั้น 10 ของหอชมเมืองซึ่งสามารถชมวิวเมืองนครสวรรค์จากมุมสูงได้โดยรอบ และมองเห็นทิวทัศน์ของธรรมชาติที่อยู่ไกลออกไปได้อย่างเต็มตา นอกจากนี้บริเวณชั้น 1 ยังมีร้านขายของที่ระลึกซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ชุมชนท้องถิ่นให้เลือกซื้ออีกด้วย หอชมเมืองนครสวรรค์จึงเป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์กของเมืองปากน้ำโพที่ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก

อ่านต่อ

พาสาน อาคารสัญลักษณ์ต้นน้ำเจ้าพระยา จังหวัดนครสวรรค์ ประเทศไทย

พาสาน อาคารสัญลักษณ์ต้นน้ำเจ้าพระยา (Pasaan, The Headwaters of the Chao Phraya River Symbol Building) ตั้งอยู่บริเวณแหลมเกาะยม ซึ่งเป็นจุดที่แม่น้ำปิง วัง ยม น่านมาบรรจบกันและก่อกำเนิดเป็นแม่น้ำเจ้าพระยา พาสานถือเป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์กของนครสวรรค์ที่นักท่องเที่ยวนิยมมาเที่ยวชม เดินเล่น ชมวิว ดูพระอาทิตย์ตกดิน และถ่ายภาพความสวยงามของอาคารและทิวทัศน์แม่น้ำโดยรอบกันอย่างเพลิดเพลิน

อ่านต่อ
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ