- หน้าแรก
- ท่องเที่ยวในประเทศ
- กู่ช้าง กู่ม้า จังหวัดลำพูน ประเทศไทย
กู่ช้าง กู่ม้า จังหวัดลำพูน ประเทศไทย
- อ่าน (2,396)
- ByWebmaster Webmaster
- 17:41:26 | 9 มี.ค. 2566
กู่ช้าง กู่ม้า จังหวัดลำพูน ประเทศไทย
Khu Chang – Khu Ma, Lamphun Province, Thailand
กู่ช้าง เชื่อว่าถูกสร้างขึ้นเพื่อบรรจุซากพระยาช้าง ชื่อ “ปู่ก่ำงาเขียว” ช้างคู่บารมีของ พระนางจามเทวี ปฐมกษัตริย์แห่งนครหริภุญชัย
กู่ช้าง กู่ม้า (Khu Chang – Khu Ma) เป็นโบราณสถานที่สำคัญของจังหวัดลำพูน โดยเชื่อว่ากู่ช้าง เป็นสุสานช้างศึกคู่บารมีของพระนางจามเทวี ปฐมกษัตริย์แห่งนครหริภุญชัย ส่วนกู่ม้า เป็นสุสานม้าทรงของพระโอรสในพระนางจามเทวี
ประวัติ
กู่ช้าง กู่ม้า เป็นโบราณสถานที่ตั้งอยู่คู่กัน ด้านหน้าโบราณสถานกู่ช้างกู่ม้าเทศบาลเมืองลำพูนได้ปรับปรุงให้เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจของคนในชุมชน กู่ทั้งสองเรียกได้ว่าเป็นทั้งโบราณสถานที่มีความสำคัญเชิงประวัติศาสตร์และโบราณคดีของจังหวัดลำพูน ด้วยความเชื่อว่าเป็นสุสานช้างศึก - ม้าศึก คู่บารมีของพระนางจามเทวี ตลอดจนยังเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจและเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองที่ชาวลำพูนให้ความเคารพนับถืออย่างมาก
ตามตำนานเล่าว่า กู่ช้าง ถูกสร้างขึ้นเพื่อบรรจุซากพระยาช้าง ชื่อ ปู่ก่ำงาเขียว หมายถึงช้างสีคล้ำ งาสีเขียว เป็นช้างคู่บารมีของ พระนางจามเทวี ปฐมกษัตริย์แห่งนครหริภุญชัย ปู่ก่ำงาเขียวเป็นช้างที่มีฤทธิ์มาก เมื่อออกศึกสงคราม เพียงแค่ช้างหันหน้าไปทางศัตรู ก็ทำให้ศัตรูอ่อนแรงลงได้ หลังจากช้างปู่ก่ำงาเขียวล้มเมื่อวันขึ้น 9 ค่ำ เดือน 9 พระนางจามเทวีโปรดให้นำซากช้างมาฝังไว้ที่นี่ และเนื่องจากเมื่อยังมีชีวิตอยู่เป็นช้างที่มีอิทธิฤทธิ์วิเศษ หากงาช้างชี้ไปทางใดก็จะทำให้เกิดภัยพิบัติและผู้คนล้มตาย พระนางจึงโปรดให้สร้างเจดีย์ทรงสูงครอบไว้โดยให้ปลายงาชี้ขึ้นฟ้า กู่ช้างเป็นเจดีย์ฐานเขียงกลม ซ้อนเหลื่อมกันขึ้นไปห้าชั้น รองรับฐานบัวคว่ำ องค์ระฆังเป็นทรงกลม แต่จะยืดสูงขึ้นไปกว่าปกติ ลักษณะคล้ายทรงกรวยก่อด้วยอิฐสูง ประมาณ 30 เมตร ยอดเจดีย์ไม่แหลมอย่างเจดีย์ทั่วไป แต่เป็นยอดตัดมีปล่องคล้ายบ่อน้ำด้านบน ลักษณะคล้าย เจดีย์บอบอคยีใน อาณาจักรพยู ทางตะวันตกเฉียงใต้ของพม่า และ เจดีย์ง๊ะจเวนะตาว ในเมืองพุกาม และเจดีย์บริวารรอบๆ เจดีย์มหาโพธิ์ที่พุทธคยา ประเทศอินเดีย สันนิษฐานได้ว่ากู่ช้างได้รับอิทธิพลมาจากเจดีย์แบบพม่า ชาวลำพูนให้ความเคารพนับถือกู่ช้างมาก โดยได้สร้างศาลเจ้าพ่อกู่ช้างไว้ในทางทิศตะวันออกใกล้กับองค์เจดีย์ด้านหน้า ศาลเจ้าพ่อกู่ช้าง มีรูปปั้นจำลองของปู่ก่ำงาเขียว เพื่อให้ประชาชนทั่วไปได้มาสักการะ เชื่อกันว่าหากได้ลอดท้องพระยาช้างเชือกนี้ จะเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต ประสบความสำเร็จในสิ่งที่ปรารถนา ในวันขึ้น 9 ค่ำ เดือน 9 ของทุกปี จะมีงานรดน้ำดำหัว และบวงสรวงเจ้าพ่อ เพื่อขอขมาลาโทษ และขอพรให้เกิดสิริมงคล
ส่วนกู่ม้า ตั้งอยู่ด้านหลังกู่ช้าง เชื่อกันว่าเป็นที่บรรจุซากม้าทรงของพระเจ้ามหันตยศ พระราชโอรสของพระนางจามเทวี ฐานสี่เหลี่ยม องค์เจดีย์ทรงระฆังคว่ำ ส่วนยอดหักพังทลายลงไปแล้ว
กู่ช้าง กู่ม้า เป็นทั้งโบราณสถานที่มีความสำคัญเชิงประวัติศาสตร์และโบราณคดีของจังหวัดลำพูน
รูปปั้นช้างภายในบริเวณกู่ช้าง กู่ม้า
กู่ม้า ตั้งอยู่ด้านหลังกู่ช้าง เชื่อกันว่าเป็นที่บรรจุซากม้าทรงของพระเจ้ามหันตยศ พระราชโอรสของพระนางจามเทวี
รูปปั้นม้าภายในบริเวณกู้ช้าง กู่ม้า
อาศรมพ่อปู่วาสุเทพฤาษี
วิหารพระสิงห์
การเดินทางไปจังหวัดลำพูน
- รถยนต์ (Car/ Bus) การเดินทางโดยรถยนต์จากกรุงเทพฯ ไปจังหวัดลำพูน มีระยะทาง 658 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 8 ชั่วโมง 15 นาที
- รถไฟ (Train) การเดินทางโดยรถไฟจากกรุงเทพฯ ไปจังหวัดลำพูน ใช้เวลาเร็วสุดประมาณ 11ชั่วโมง 30 นาที ทั้งนี้อาจใช้เวลานานกว่านี้ขึ้นอยู่กับประเภทของรถไฟ
จังหวัดลำพูนไม่มีสนามบิน สำหรับผู้ที่เดินทางโดยเครื่องบินนิยมนั่งไปลงที่จังหวัดใกล้เคียงคือจังหวัดเชียงใหม่แล้วเดินทางโดยรถยนต์หรือรถโดยสารประจำทางต่อมาที่จังหวัดลำพูน
การเดินทางไปกู่ช้าง กู่ม้า
กู่ช้าง กู่ม้า ตั้งอยู่ใกล้ชุมชนวัดไก่แก้ว ตำบลในเมือง อำเภอเมืองลำพูน ห่างจากสถานีขนส่งประจำจังหวัดไปทางเหนือ ประมาณ 4 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางโดยรถยนต์ 7 นาที
เวลาทำการเปิด – ปิด
เปิดทุกวัน เวลา 8.00 – 17.00 น.
อัตราค่าเข้าชม
ไม่เสียค่าเข้าชม
ด้านหน้าโบราณสถานกู่ช้าง กู่ม้า ทางเทศบาลเมืองลำพูนได้ปรับปรุงให้เป็นสวนสาธารณะสำหรับพักผ่อนหย่อนใจของคนในชุมชน
เวลาที่เหมาะสมสำหรับการท่องเที่ยว
สามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปี
นักท่องเที่ยวที่สนใจไปเที่ยวชม กู่ช้าง กู่ม้า สามารถศึกษา ข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่
กู่ช้าง กู่ม้า จังหวัดลำพูน ประเทศไทย
(Khu Chang – Khu Ma, Lamphun Province, Thailand)
ระดับความนิยม :
อัตราค่าเข้าชม : ไม่เสียค่าเข้าชม
เวลาทำการเปิด – ปิด : เปิดทุกวัน เวลา 8.00 – 17.00 น.
ตั้งอยู่ที่ : ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน
โทรศัพท์ : (+66) 09 5523 6637
เว็บไซต์ : -
ข้อมูลอื่นๆ ที่ควรรู้ : พยากรณ์อากาศ https://www.accuweather.com
ศูนย์ข้อมูลนักท่องเที่ยวจังหวัดลำพูน https://lamphun.mots.go.th
ศูนย์ข้อมูลการเดินทางจังหวัดลำพูน https://www.lamphun.go.th/th/tourist-map
ศูนย์บริการข้อมูลท่องเที่ยวประเทศไทย https://thai.tourismthailand.org
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ
วัดป่าแดด จังหวัดเชียงใหม่ ประเทศไทย
วัดป่าแดด (Wat Pa Daed) เป็นอีกหนึ่งวัดดังของเชียงใหม่ที่มีชื่อเสียงในเรื่องของการไหว้ขอพรองค์พระพิฆเนศแห่งความสำเร็จ องค์ท้าวเวสสุวรรณ และหลวงพ่อตาหวาน พระประธานที่ประดิษฐานอยู่ภายในพระวิหารหลวงลายคำ
อ่านต่อตลาดม้งบ้านขุนกลาง จังหวัดเชียงใหม่ ประเทศไทย
ตลาดม้งบ้านขุนกลาง (Hmong Market (Baan Khun Klang) เป็นจุดแวะพักยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวที่มุ่งหน้าสู่ยอดเขาสูงสุดของประเทศไทย เพราะเป็นแหล่งช้อปปิ้งผลิตผลสดๆ ตามฤดูกาล รวมถึงของที่ระลึกและสินค้าพื้นเมืองของชาวเขาเผ่าม้ง
อ่านต่อขัวเหล็ก จังหวัดเชียงใหม่ ประเทศไทย
ขัวเหล็ก (Khua Lek (Iron Bridge)) เป็นสะพานโครงเหล็กโดดเด่นมีเอกลักษณ์ ที่กรุ่นไปด้วยกลิ่นอายของประวัติศาสตร์ ทอดตัวข้ามแม่น้ำปิงที่ไหลเอื่อยผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ คืออีกหนึ่งจุดท่องเที่ยวถ่ายภาพที่น่าสนใจ
อ่านต่อน้ำตกห้วยแก้ว จังหวัดเชียงใหม่ ประเทศไทย
น้ำตกห้วยแก้ว (Huay Kaew Waterfall) เป็นน้ำตกขนาดกลาง แวดล้อมไปด้วยความสมบูรณ์ทางธรรมชาติ ที่อยู่ไม่ไกลจากตัวเมืองเชียงใหม่
อ่านต่อ8 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในจังหวัดพะเยา ประเทศไทย
จังหวัดพะเยาเป็นจังหวัดทางภาคเหนือที่เต็มไปด้วยวัดสวยๆ หลายแห่งที่สร้างขึ้นด้วยสถาปัตยกรรมล้านนาอย่างงดงาม และยังเป็นที่ตั้งของวนอุทยานภูลังกาที่มีธรรมชาติอันสวยงามและอุดมสมบูรณ์ รวมถึงอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่อย่างกว๊านพะเยาให้เที่ยวชมอีกด้วย วันนี้ทาง Palanla จึงได้รวบรวมสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นไฮไลท์ของจังหวัดพะเยามาฝากทุกท่านเพื่อเป็นแนวทางในการจัดทริปเที่ยวเหนือกันในวัดหยุดที่กำลังจะมาถึงนี้
อ่านต่อวัดพระนั่งดิน จังหวัดพะเยา ประเทศไทย
วัดพระนั่งดิน (Wat Phra Nang Din) เป็นวัดเก่าแก่อีกแห่งหนึ่งของจังหวัดพะเยา ไฮไลท์ของวัดแห่งนี้อยู่ที่องค์พระประธานภายในวิหารของวัด นามว่าพระเจ้านั่งดินที่ประดิษฐานอยู่บนพื้น ซึ่งต่างจากพระพุทธรูปทั่วไปที่ต้องประดิษฐานอยู่บนฐาน ที่เป็นเช่นนี้เนื่องจากในอดีตเกิดเหตุการณ์อัศจรรย์ที่ไม่มีใครสามารถยกพระพุทธรูปขึ้นได้ แม้ต่อมาในยุคสมัยใหม่จะสามารถยกขึ้นประดิษฐานบนฐานได้ แต่หลังจากนั้นก็เกิดฟ้าผ่าลงหลังคาวิหารถึงสามครั้งจนต้องอัญเชิญพระพุทธรูปนี้ลงมาประดิษฐานไว้บนพื้นเช่นเดิม วัดแห่งนี้จึงเป็นอีกหนึ่งสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวและผู้มีจิตศรัทธาเป็นอย่างมาก
อ่านต่อจุดชมวิวภูลังกา จังหวัดพะเยา ประเทศไทย
จุดชมวิวภูลังกา (Phu Lanka Viewpoint) เป็นจุดชมวิวภายในวนอุทยานภูลังกาซึ่งเป็นอีกหนึ่งแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของอำเภอเชียงคำและอำเภอปง ไฮไลท์ของจุดชมวิวนี้อยู่ที่สามารถชมทัศนียภาพของภูเขาและหน้าผาต่างๆ ได้แบบพาโนรามา มีความสวยงามแตกต่างกันไปตามแต่ละฤดูกาลและชมวิวได้ไกลถึงฝั่งลาว โดยช่วงเวลาที่ได้รับการยอมรับว่าสวยที่สุดคือช่วงปลายฝนต้นหนาวที่มีทะเลหมอกล่องลอยท่ามกลางยอดดอยและหน้าผา เป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่ได้รับความนิยมที่สุดในจังหวัดพะเยา
อ่านต่อ๑๒ วัดสวยในภาคเหนือ พุทธศิลป์แห่งอาณาจักรล้านนา
ภาคเหนือ เป็นหนึ่งในภูมิภาคของประเทศไทย ที่มีวิถีชีวิตของชาวพื้นเมือง และขนบธรรมเนียมประเพณีที่เรียบง่าย มีสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญ และมีชื่อเสียงอยู่มากมาย รวมไปถึงมีผลงานพุทธศิลป์แบบล้านนาสุดแสนจะวิจิตร ที่สะท้อนออกมาในรูปแบบของสถาปัตยกรรมและประติมากรรมในวัดวาอารามต่าง ๆ เป็นเอกลักษณ์ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวแวะมากราบสักการะ พร้อมชื่นชมผลงานศิลปะล้านนาที่อ่อนช้อย และทรงคุณค่า วันนี้ Palanla จึงจะขอชวนออกเดินทางไปเที่ยวชม และรับสิริมงคลกับ 12 วัดสวยในภาคเหนือกันค่ะ
อ่านต่ออุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ จังหวัดเชียงใหม่ ประเทศไทย
อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ (Doi Inthanon National Park) สถานที่ท่องเที่ยวอันมีชื่อเสียงประจำจังหวัดเชียงใหม่ อุทยานที่สวยงาม และแวดล้อมไปด้วยทิวเขาสูงสลับซับซ้อน น้ำตก ถ้ำ ผืนป่าอันอุดมสมบูรณ์ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาเยือนในทุกๆปี
อ่านต่ออุทยานแห่งชาติภูชี้ฟ้า จังหวัดเชียงราย ประเทศไทย
อุทยานแห่งชาติภูชี้ฟ้า (Phu Chi Fa National Park) ผืนป่าบนยอดดอยที่มีจุดชมทะเลหมอก พระอาทิตย์ขึ้น พระอาทิตย์ตก ที่มีความสวยงามติดอันดับต้นๆ ของเมืองไทย
อ่านต่อ