อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว จังหวัดอุตรดิตถ์ ประเทศไทย

  • อ่าน (6,915)
  • ByWebmaster
  • 11:12:02 | 25 ม.ค. 2565

อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว จังหวัดอุตรดิตถ์ ประเทศไทย

Phu Soi Dao National Park, Uttaradit, Thailand

 
ขอบคุณภาพประกอบจาก https://thai.tourismthailand.org/

             อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว (Phu Soi Dao National Park) นอกจากจะเป็นภูเขาที่สูงเป็นอันดับ 4 ของประเทศไทยที่เต็มไปด้วยธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์และสวยงาม ยังได้ชื่อว่าเป็นแหล่งชมทุ่งดอกหงอนนาคที่สวยที่สุดในเมืองไทย

 


ประวัติ

             อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว จังหวัดอุตรดิตถ์ เป็นภูเขาที่สูงเป็นอันดับ 4 ของประเทศไทย ด้วยความสูง 1,633 เมตร จากระดับน้ำทะเล ทั่วทั้งบริเวณของภูสอยดาวปกคลุมไปด้วยทุ่งหญ้า มีดอกไม้ป่าหลากหลายชนิดออกดอกหมุนเวียนอวดความงามตลอดทั้งปี โดยในช่วงฤดูฝน ตั้งแต่ปลายเดือน ก.ค. - ปลายเดือน ก.ย. เป็นช่วงเวลาของดอกหงอนนาค เจ้าของฉายา “นางเอกแห่งภูสอยดาว” ภูสอยดาวยังได้ชื่อว่าเป็นดินแดนแห่งทุ่งดอกหงอนนาคที่ใหญ่ที่สุดและสวยงามที่สุดในเมืองไทย นอกจากนี้อุทยานแห่งชาติภูสอยดาวยังเป็นพื้นที่ที่มีป่าสนสามใบที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในเมืองไทยด้วย ภายในพื้นที่ของอุทยานฯ มีจุดท่องเที่ยวที่น่าสนใจด้วยกันหลายจุด อาทิ ลานสนสามใบภูสอยดาว น้ำตกสายทิพย์ และน้ำตกภูสอยดาว

             ลานสนสามใบภูสอยดาว เป็นพื้นที่ป่าธรรมชาติ มีพื้นที่ประมาณ 1,000 กว่าไร่ สภาพพื้นที่ของลานสนสามใบจะเป็นเนินสูงต่ำสลับกันไป ช่วงฤดูฝนกลางทุ่งหญ้ามีดอกไม้ดินชูช่อแย่งกันออกดอกเป็นกลุ่มหนาแน่น เช่น ดอกหงอนนาคจะมีดอกสีม่วง ดอกสร้อยสุวรรณาจะมีดอกสีเหลือง และดอกหญ้ารากหอมจะมีดอกสีม่วงเข้มสวยงาม

             น้ำตกสายทิพย์ ตั้งอยู่บนรอยต่อระหว่างป่าดิบชื้นกับป่าสนเขา เป็นน้ำตกขนาดเล็ก มีสายน้ำไหลลดหลั่นลงมาตามชั้นเตี้ยๆ รวม 7 ชั้น ความสูงแต่ละชั้นประมาณ 5-10 เมตร ฤดูฝนน้ำจะไหลแรง มองดูสวยงามมากและมีน้ำไหลตลอด เมื่อขึ้นเที่ยวบนลานสนสามใบภูสอยดาวสามารถเที่ยวน้ำตกแห่งนี้ได้ด้วย

             น้ำตกภูสอยดาว เป็นน้ำตกขนาดกลางในลำห้วยน้ำพายไหลลงสู่แม่น้ำปาดที่อำเภอน้ำปาด มีน้ำไหลตลอดปี น้ำตกมีทั้งหมด 5 ชั้น แต่ละชั้นมีชื่อที่ไพเราะ ได้แก่ ภูสอยดาว สกาวเดือน เหมือนฝัน กรรณิการ์ และสุภาภรณ์

             แต่ละปีภูสอยดาวจะแบ่งช่วงเวลาขึ้นภูเป็น 2 ช่วงคือ ช่วงที่ดอกหงอนนาคบาน (กรกฎาคม – ต้นตุลาคม ซึ่งเป็นช่วงหน้าฝน ไม่สามารถพิชิตยอดได้เนื่องจากอันตราย) และช่วงพิชิตยอด (พฤศจิกายน – กลางเดือนมกราคม) การเดินทางขึ้นไปบนลานสนภูสอยดาวซึ่งเป็นจุดกางเต็นท์นั้น นักท่องเที่ยวจะต้องเดินเท้าจากตีนภูขึ้นไปยังลานสนระยะทาง 6.5 กม. โดยต้องผ่านเนินต่างๆ ทั้งหมด 5 เนินจึงจะถึงลานสน บนลานสนไม่มีไฟฟ้าและร้านค้า ร้านอาหาร นักท่องเที่ยวต้องเตรียมไฟฉาย เสบียงอาหาร น้ำดื่มและเครื่องใช้ต่างๆ ไปเอง โดยทางอุทยานฯ คิดค่าลูกหาบกิโลกรัมละ 30 บาท ด้านบนมีให้เช่าเตาถ่าน เตาแก๊ส และมีห้องน้ำไว้บริการ ทว่าต้องเช่าถังน้ำเพื่อไปตักน้ำจากลำธารมาใช้เอง นักท่องเที่ยวที่สนใจสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 095 629 9528, 091 024 7633 และ 095 625 8839 หรือสอบถามทาง inbox เพจ อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว -  Phu soi dao National Park

 
สนสามใบที่ภูสอยดาว ขอบคุณภาพประกอบจาก http://park.dnp.go.th/

 
น้ำตกสายทิพย์ ขอบคุณภาพประกอบจาก http://park.dnp.go.th

 
น้ำตกภูสอยดาว ขอบคุณภาพประกอบจาก http://park.dnp.go.th


การเดินทางไปจังหวัดอุตรดิตถ์

 

             - รถยนต์ (Car/ Bus) การเดินทางโดยรถยนต์จากกรุงเทพฯ ไปจังหวัดอุตรดิตถ์ มีระยะทาง 500 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 6 ชั่วโมง

             - รถไฟ (Train) การเดินทางโดยรถไฟจากกรุงเทพฯ ไปจังหวัดอุตรดิตถ์ ใช้เวลาประมาณ 8 ชั่วโมง 40 นาที ทั้งนี้ระยะเวลาในการเดินทางขึ้นอยู่กับประเภทของรถไฟ

             จังหวัดอุตรดิตถ์ไม่มีสนามบิน สำหรับผู้ที่ต้องการเดินทางโดยเครื่องบินนิยมนั่งไปลงที่จังหวัดใกล้เคียงคือจังหวัดพิษณุโลก แล้วเดินทางโดยรถยนต์ต่อมาที่จังหวัดอุตรดิตถ์


การเดินทางไปอุทยานแห่งชาติภูสอยดาว

             อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว อยู่ที่ ตำบลห้วยมุ่น อำเภอน้ำปาด จังหวัดอุตรดิตถ์ อยู่ห่างจากตัวจังหวัดประมาณ 150 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางโดยรถยนต์ 2 ชั่วโมง 30 นาที

             นักท่องเที่ยวนิยมใช้บริการรถรับส่งที่ติดต่อจองกับทางเพจของอุทยาน (เพจ อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว -  Phu soi dao National Park) มีทั้งรถเก๋งสำหรับ 4 คน  ราคาเที่ยวละประมาณ 1,500 บาท รวมถึงรถแวนสำหรับ 7 คน รถตู้สำหรับ 10 คน และรถสองแถวสำหรับ 12 คน


เวลาทำการเปิด – ปิด

             ในช่วงขึ้นภู เปิดให้ขึ้นอุทยานแห่งชาติภูสอยดาวได้ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00 - 14.00 น.


อัตราค่าเข้าชม

             ค่าบริการเข้าอุทยานแห่งชาติ ชาวไทย ผู้ใหญ่ 40 บาท เด็ก 20 บาท ชาวต่างชาติ ผู้ใหญ่ 200 บาท เด็ก 100 บาท


สิ่งที่ไม่ควรพลาดเมื่อไปเที่ยวอุทยานแห่งชาติภูสอยดาว

             ชมความงามของทุ่งดอกหงอนนาค ดื่มด่ำกับบรรยากาศของต้นสนสูงชะลูดและทัศนียภาพที่สวยงามโดยรอบลานสนภูสอยดาว เที่ยวน้ำตกสายทิพย์ และน้ำตกภูสอยดาว 


เวลาที่เหมาะสมสำหรับการท่องเที่ยว

             แต่ละปีภูสอยดาวจะแบ่งช่วงเวลาขึ้นภูเป็น 2 ช่วงคือ ช่วงที่ดอกหงอนนาคบาน (กรกฎาคม – ต้นตุลาคม ซึ่งเป็นช่วงหน้าฝน ไม่สามารถพิชิตยอดได้เนื่องจากอันตราย) และช่วงพิชิตยอด (พฤศจิกายน – กลางเดือนมกราคม)


ข้อมูลอื่นๆ ที่ควรรู้

             นอกจากค่าเข้าอุทยานฯ แล้ว ยังมีค่ามัดจำขยะ 200 บาท โดยขาลงนักท่องเที่ยวต้องนำขยะใส่ถุงลงมาด้วยเพื่อรับเงินคืน และเมื่อชำระค่าบริการเข้าอุทยานแห่งชาติแล้วนักท่องเที่ยวต้องพกบัตรค่าบริการติดตัวไว้ด้วยเผื่อสำหรับเจ้าหน้าที่ตรวจ

 
ขอบคุณภาพประกอบจาก https://th.wikipedia.org/


             
นักท่องเที่ยวที่สนใจไปเที่ยวชม อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว สามารถศึกษา ข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่

                         อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว จังหวัดอุตรดิตถ์ ประเทศไทย

                         (Phu Soi Dao National Park, Uttaradit, Thailand)

                         ระดับความนิยม : 

                         อัตราค่าเข้าชม : ค่าบริการเข้าอุทยานแห่งชาติ ชาวไทย ผู้ใหญ่ 40 บาท เด็ก 20 บาท ชาวต่างชาติ ผู้ใหญ่ 200 บาท เด็ก 100 บาท

                         เวลาทำการเปิด – ปิด : ในช่วงขึ้นภู อุทยานแห่งชาติเปิดให้ขึ้นลานสนภูสอยดาวทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00 - 14.00 น.

                         ตั้งอยู่ที่ : ต.ห้วยมุ่น อ.น้ำปาด จ.อุตรดิตถ์

                         โทรศัพท์ : (+66) 095 629 9528   

                         เว็บไซต์ : -

                         ข้อมูลอื่นๆ ที่ควรรู้ : พยากรณ์อากาศ https://www.accuweather.com/

                                       ศูนย์ข้อมูลนักท่องเที่ยวจังหวัดอุตรดิตถ์ https://uttaradit.mots.go.th

                                       ศูนย์ข้อมูลการเดินทางจังหวัดอุตรดิตถ์ http://www.uttaradit.go.th/journey/index2.htm

                                       ศูนย์บริการข้อมูลท่องเที่ยวประเทศไทย https://thai.tourismthailand.org

 

สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ

อุโมงค์ขุนตาน จังหวัดลำพูน ประเทศไทย

อุโมงค์ขุนตาน (Khun Tan Tunnel) เป็นอุโมงค์ทางรถไฟที่มีความสำคัญด้านประวัติศาสตร์วิศวกรรมการสร้างอุโมงค์ทางรถไฟของไทย โดยสร้างด้วยความยากลำบากและท้าทายกว่าจะแล้วเสร็จ อุโมงค์แห่งนี้ยังเคยเป็นอุโมงค์รถไฟที่ยาวที่สุดในประเทศไทยถึง 106 ปี ก่อนจะถูกทำลายสถิติโดยอุโมงค์ผาเสด็จในปี พ.ศ. 2567

อ่านต่อ

อุทยานแห่งชาติแม่ปิง จังหวัดลำพูน ประเทศไทย

อุทยานแห่งชาติแม่ปิง (Mae Ping National Park) เป็นอุทยานแห่งชาติที่อยู่ในพื้นที่ของสามจังหวัดในภาคเหนือ ได้แก่ เชียงใหม่ ตาก และลำพูน โดยมีที่ทำการอุทยานตั้งอยู่ที่ตำบลแม่ลาน อำเภอลี้ จังหวัดลำพูน นอกจากธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์แล้ว อุทยานแห่งชาติแม่ปิงยังมีทิวทัศน์ที่สวยงาม และแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจหลายๆ จุดด้วยกัน

อ่านต่อ

สะพานขาวทาชมภู จังหวัดลำพูน ประเทศไทย

สะพานขาวทาชมภู (Tha Chomphu White Bridge) สะพานทางรถไฟสีขาวที่โดดเด่น หนึ่งในแลนด์มาร์กของจังหวัดลำพูน ที่ทอดข้ามแม่น้ำทาและทอดยาวผ่านทุ่งโล่งที่มีทิวทัศน์งดงาม ตั้งอยู่ใกล้ๆ กับอุโมงค์ขุนตาน ซึ่งเป็นสัญญาณว่าใกล้ถึงจุดหมายปลายทางแล้วสำหรับผู้ที่เดินทางโดยรถไฟสายกรุงเทพ-เชียงใหม่

อ่านต่อ

วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม จังหวัดลำพูน ประเทศไทย

วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม (Wat Phrabhuddabat Huai Tom) เป็นวัดที่ใหญ่ที่สุดของอำเภอลี้ วัดแห่งนี้วัดมีตำนานความเป็นมาจากเมื่อครั้งพระพุทธกาล เมื่อพระพุทธเจ้าเสด็จมาที่ดงไม้ตาลและประทับบนดอยนางพี่ ภายในวัดมีพระธาตุเจดีย์ศิลปะล้านนาผสมพม่าโดดเด่นงดงาม

อ่านต่อ

วัดพระพุทธบาทตากผ้า จังหวัดลำพูน ประเทศไทย

วัดพระพุทธบาทตากผ้า (Wat Phrabhuddabat Tak Pha) เป็นปูชนียสถานสำคัญของจังหวัดลำพูน โดยนับถือกันว่ามีรอยพระบาทของพระพุทธเจ้าที่มาประทับไว้ตรงบริเวณที่นำผ้าจีวรมาตาก และมีรอยตารางบนผาหินที่เชื่อว่าคือรอยตากผ้าจีวรพระพุทธเจ้าอยู่

อ่านต่อ

พระมหาธาตุเจดีย์ศรีเวียงชัย จังหวัดลำพูน ประเทศไทย

พระมหาธาตุเจดีย์ศรีเวียงชัย (Phra Mahathat Chedi Si Wiang Chai) เป็นหนึ่งในวัดของจังหวัดลำพูนที่มีสถาปัตยกรรมงดงาม โดดเด่นด้วยพระมหาธาตุเจดีย์ฯ ที่สร้างโดยมีแนวคิดการจำลองแบบมาจากมหาธาตุเจดีย์ชเวดากองในพม่า

อ่านต่อ

ศูนย์อนุรักษ์ช้างไทยจังหวัดลำปาง จังหวัดลำปาง ประเทศไทย

ศูนย์อนุรักษ์ช้างไทยจังหวัดลำปาง (Thai Elephant Conservation Center) เคยเป็นสถานที่ฝึกลูกช้างที่แรกและแห่งเดียวในโลก เริ่มดำเนินการตั้งแต่ปี พ.ศ. 2512 ปัจจุบันเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์เพื่อให้ความรู้และได้สัมผัสกับวิถีชีวิตของช้าง โดยมีกิจกรรมต่างๆ ที่นักท่องเที่ยวสามารถเลือกได้ตามความสนใจ

อ่านต่อ

วัดเชียงราย จังหวัดลำปาง ประเทศไทย

วัดเชียงราย (Wat Chiang Rai) ตั้งอยู่ในอำเภอเมือง จังหวัดลำปาง เป็นวัดที่มีความโดดเด่นในด้านสถาปัตยกรรมและความงดงามของศิลปะ โดยมีจุดเด่นคือ การผสมผสานระหว่างศิลปะไทยล้านนาและศิลปะไทยประยุกต์ที่งดงามลงตัว

อ่านต่อ

น้ำตกทีลอซู จังหวัดตาก ประเทศไทย

น้ำตกทีลอซู (Thi Lor Su Waterfall) จังหวัดตาก เป็นหนึ่งในน้ำตกที่มีความโดดเด่นและสวยงามที่สุดของประเทศไทย

อ่านต่อ

ถ้ำสีฟ้า จังหวัดตาก ประเทศไทย

ถ้ำสีฟ้า (Blue Cave) เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวในอำเภอแม่สอด จังหวัดตาก ลักษณะที่โดดเด่นของถ้ำแห่งนี้คือ เนื้อหินที่ผนังถ้ำจะมีสีฟ้าอมเทา ไม่เหมือนกับถ้ำอื่นๆ ที่มักพบสีแดงหรือสีส้ม ทำให้ชาวบ้านเรียกถ้ำนี้ว่า "ถ้ำสีฟ้า"

อ่านต่อ
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ