- หน้าแรก
- ท่องเที่ยวในประเทศ
- วัดพระแท่นศิลาอาสน์ จังหวัดอุตรดิตถ์ ประเทศไทย
วัดพระแท่นศิลาอาสน์ จังหวัดอุตรดิตถ์ ประเทศไทย
- อ่าน (5,607)
- ByWebmaster
- 10:26:02 | 25 ม.ค. 2565
วัดพระแท่นศิลาอาสน์ จังหวัดอุตรดิตถ์ ประเทศไทย
Wat Phra Thaen Sila At, Uttaradit, Thailand
วัดพระแท่นศิลาอาสน์ ( Wat Phra Thaen Sila At) วัดเก่าแก่คู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดอุตรดิตถ์ ที่ภาพพระแท่นศิลาอาสน์ได้ปรากฏอยู่ในตราประจำจังหวัด แสดงถึงความศรัทธาเลื่อมใสและความสำคัญขององค์พระแท่นศิลาอาสน์ได้เป็นอย่างดี
ประวัติ
วัดพระแท่นศิลาอาสน์ เดิมชื่อ วัดมหาธาตุ ตั้งอยู่ที่บนเนินเขาเต่า บ้านพระแท่น ตำบลทุ่งยั้ง ติดกับวัดพระยืนพุทธบาทยุคล เป็นวัดโบราณไม่ปรากฏหลักฐานว่าผู้ใดสร้างและสร้างแต่เมื่อใด วัดพระแท่นศิลาอาสน์ได้รับการยกฐานะขึ้นเป็นพระอารามหลวงชั้นตรี สังกัดธรรมยุตินิกาย เมื่อปี พ.ศ. 2549
พระแท่นศิลาอาสน์เป็นพุทธเจดีย์เช่นเดียวกับพระแท่นดงรัง โดยมีประวัติความเป็นมาอย่างต่อเนื่องในพระพุทธศาสนามายาวนาน เชื่อกันมาแต่โบราณว่าสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทั้งห้าพระองค์ในภัทรกัปนี้ ได้เสด็จมาประทับนั่งบนพระแท่นแห่งนี้เพื่อเจริญภาวนา และได้ประทับยับยั้งในเวลาที่ตรัสรู้แล้วเพื่อโปรดสัตว์
ตัวพระแท่นเป็นศิลาแลงมีลักษณะเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า ขนาดกว้าง 8 ฟุต ยาวประมาณ 10 ฟุต สูง 3 ฟุต ที่ฐานพระแท่นประดับด้วยลายกลีบบัวโดยรอบ มีพระมณฑปศิลปะเชียงแสนครอบอยู่ภายในพระวิหารวัดพระแท่นศิลาอาสน์ โดยมีเรื่องเล่าสืบต่อกันมาว่านายช่างที่สร้างวิหารวัดพระแท่นศิลาอาสน์ วัดพระฝาง และวัดสุทัศน์ เป็นนายช่างคนเดียวกัน
บานประตูเก่าของพระวิหารเป็นไม้แกะสลักฝีมือดีแกะไม้ออกมาเด่นเป็นลายซ้อนกันหลายชั้น แม่ลายเป็นก้านขดปลายเป็นรูปภาพต่างๆ เป็นลายเดียวกับลายบานมุขที่วิหารพระพุทธชินราช สันนิษฐานว่าอาจสร้างแต่ครั้งพระเจ้าติโลกราชกษัตริย์แห่งราชอาณาจักรล้านนาเคียงคู่กับสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถกษัตริย์แห่งกรุงศรีอยุธยา ต่อมาพระเจ้าบรมโกศมีพระราชศรัทธาให้ทำประตูมุขตามลายเดิมถวายแทน แล้วโปรดให้เอาบานเดิมไปใช้เป็นบานวิหารวัดพระแท่นศิลาอาสน์ ประตูวิหารเก่าบานดังกล่าวได้ถูกไฟไหม้ไปเมื่อวันที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2451 เหลือแต่กุฏิซึ่งประดิษฐานหลวงพ่อธรรมจักรอยู่เพียงหลังเดียว ต่อมาพระยาวโรดมภักดีศรีอุตรดิตถ์นคร (อั้น หงษนันท์) เจ้าเมืองอุตรดิตถ์ได้เรี่ยไรเงินสร้างและซ่อมแซมวิหาร ภายในวิหารมีซุ้มมณฑปครอบพระแท่นศิลาอาสน์ไว้
นอกจากนี้ภายในบริเวณวัดยังมี “พิพิธภัณฑ์ท้องถิ่น” ตกแต่งแบบล้านนา ชั้นล่างมีการจัดแสดงภาพเขียน ภาพถ่ายในอดีตของวัดพระแท่นศิลาอาสน์ ชุดและผ้าไทยโบราณ และจำหน่ายสินค้าจากชุมชน ชั้นสองมีการจัดแสดงพระพุทธรูปเก่าแก่ พระพุทธรูปที่แกะสลักจากไม้ รวมถึงชีวิตความเป็นอยู่ของชาวบ้านในชุมชน อาทิ เครื่องมือจับสัตว์น้ำแบบโบราณ อุปกรณ์เครื่องครัว อุปกรณ์ทำมาหากิน และการละเล่นต่างๆ
ทางราชการได้นำเอาพระแท่นศิลาอาสน์ ไปประดิษฐานไว้ในตราประจำจังหวัดอุตรดิตถ์แสดงถึงความศรัทธาเลื่อมใสและความสำคัญขององค์พระแท่นศิลาอาสน์ได้เป็นอย่างดี ทุกๆ ปี ในวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 3 หรือ ตรงกับวันมาฆบูชา จะมีการจัดงานพระแท่นศิลาอาสน์ ณ วัดแห่งนี้
ป้ายวิหารวัดพระแท่นศิลาอาสน์
พระแท่นศิลาอาสน์
พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ภายในวัด
การเดินทางไปจังหวัดอุตรดิตถ์
- รถยนต์ (Car/ Bus) การเดินทางโดยรถยนต์จากกรุงเทพฯ ไปจังหวัดอุตรดิตถ์ มีระยะทาง 500 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 6 ชั่วโมง
- รถไฟ (Train) การเดินทางโดยรถไฟจากกรุงเทพฯ ไปจังหวัดอุตรดิตถ์ ใช้เวลาประมาณ 8 ชั่วโมง 40 นาที ทั้งนี้ระยะเวลาในการเดินทางขึ้นอยู่กับประเภทของรถไฟ
จังหวัดอุตรดิตถ์ไม่มีสนามบิน สำหรับผู้ที่ต้องการเดินทางโดยเครื่องบินนิยมนั่งไปลงที่จังหวัดใกล้เคียงคือจังหวัดพิษณุโลก แล้วเดินทางโดยรถยนต์ต่อมาที่จังหวัดอุตรดิตถ์
การเดินทางไปวัดพระแท่นศิลาอาสน์
วัดพระแท่นศิลาอาสน์ ตั้งอยู่ที่ ตำบลทุ่งยั้ง อำเภอลับแล จังหวัดอุตรดิตถ์ ห่างจากสถานีขนส่งจังหวัด 5 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางโดยรถยนต์ประมาณ 8 นาที
เวลาทำการเปิด – ปิด
เปิดทุกวัน เวลา 08.00 - 17.00 น.
แผ่นทองคำเปลวที่ปิดทั่วองค์พระบ่งบอกถึงความศรัทธาของผู้คน
อัตราค่าเข้าชม
ไม่เสียค่าเข้าชม
พระพุทธรูปสีขาวภายในวัดพระแท่นศิลาอาสน์
สิ่งที่ไม่ควรพลาดเมื่อไปเที่ยววัดพระแท่นศิลาอาสน์
สักการะพระแท่นศิลาอาสน์เพื่อความเป็นสิริมงคล เยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่น และอุดหนุนสินค้าจากชุมชน
พระวิหารวัดพระแท่นศิลาอาสน์
ตำหนักสมเด็จพระพุทธเจ้าหลวง (รัชกาลที่ 5) และตำหนักสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ภายในวัดพระแท่นศิลาอาสน์
ศาลหลักเมือง ภายในวัดพระแท่นศิลาอาสน์
เวลาที่เหมาะสมสำหรับการท่องเที่ยว
สามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปี
นักท่องเที่ยวที่สนใจไปเที่ยวชม วัดพระแท่นศิลาอาสน์ สามารถศึกษา ข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่
วัดพระแท่นศิลาอาสน์ จังหวัดอุตรดิตถ์ ประเทศไทย
(Wat Phra Thaen Sila At, Uttaradit, Thailand)
ระดับความนิยม :
อัตราค่าเข้าชม : ไม่เสียค่าเข้าชม
เวลาทำการเปิด – ปิด : เปิดทุกวัน เวลา 08.00 - 17.00 น.
ตั้งอยู่ที่ : ตำบลทุ่งยั้ง อำเภอลับแล จังหวัดอุตรดิตถ์
โทรศัพท์ : (+66) 0 5545 3527
เว็บไซต์ : -
ข้อมูลอื่นๆ ที่ควรรู้ : พยากรณ์อากาศ https://www.accuweather.com/
ศูนย์ข้อมูลนักท่องเที่ยวจังหวัดอุตรดิตถ์ https://uttaradit.mots.go.th
ศูนย์ข้อมูลการเดินทางจังหวัดอุตรดิตถ์ http://www.uttaradit.go.th/journey/index2.htm
ศูนย์บริการข้อมูลท่องเที่ยวประเทศไทย https://thai.tourismthailand.org
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ
วัดป่าแดด จังหวัดเชียงใหม่ ประเทศไทย
วัดป่าแดด (Wat Pa Daed) เป็นอีกหนึ่งวัดดังของเชียงใหม่ที่มีชื่อเสียงในเรื่องของการไหว้ขอพรองค์พระพิฆเนศแห่งความสำเร็จ องค์ท้าวเวสสุวรรณ และหลวงพ่อตาหวาน พระประธานที่ประดิษฐานอยู่ภายในพระวิหารหลวงลายคำ
อ่านต่อตลาดม้งบ้านขุนกลาง จังหวัดเชียงใหม่ ประเทศไทย
ตลาดม้งบ้านขุนกลาง (Hmong Market (Baan Khun Klang) เป็นจุดแวะพักยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวที่มุ่งหน้าสู่ยอดเขาสูงสุดของประเทศไทย เพราะเป็นแหล่งช้อปปิ้งผลิตผลสดๆ ตามฤดูกาล รวมถึงของที่ระลึกและสินค้าพื้นเมืองของชาวเขาเผ่าม้ง
อ่านต่อขัวเหล็ก จังหวัดเชียงใหม่ ประเทศไทย
ขัวเหล็ก (Khua Lek (Iron Bridge)) เป็นสะพานโครงเหล็กโดดเด่นมีเอกลักษณ์ ที่กรุ่นไปด้วยกลิ่นอายของประวัติศาสตร์ ทอดตัวข้ามแม่น้ำปิงที่ไหลเอื่อยผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ คืออีกหนึ่งจุดท่องเที่ยวถ่ายภาพที่น่าสนใจ
อ่านต่อน้ำตกห้วยแก้ว จังหวัดเชียงใหม่ ประเทศไทย
น้ำตกห้วยแก้ว (Huay Kaew Waterfall) เป็นน้ำตกขนาดกลาง แวดล้อมไปด้วยความสมบูรณ์ทางธรรมชาติ ที่อยู่ไม่ไกลจากตัวเมืองเชียงใหม่
อ่านต่อ8 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในจังหวัดพะเยา ประเทศไทย
จังหวัดพะเยาเป็นจังหวัดทางภาคเหนือที่เต็มไปด้วยวัดสวยๆ หลายแห่งที่สร้างขึ้นด้วยสถาปัตยกรรมล้านนาอย่างงดงาม และยังเป็นที่ตั้งของวนอุทยานภูลังกาที่มีธรรมชาติอันสวยงามและอุดมสมบูรณ์ รวมถึงอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่อย่างกว๊านพะเยาให้เที่ยวชมอีกด้วย วันนี้ทาง Palanla จึงได้รวบรวมสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นไฮไลท์ของจังหวัดพะเยามาฝากทุกท่านเพื่อเป็นแนวทางในการจัดทริปเที่ยวเหนือกันในวัดหยุดที่กำลังจะมาถึงนี้
อ่านต่อวัดพระนั่งดิน จังหวัดพะเยา ประเทศไทย
วัดพระนั่งดิน (Wat Phra Nang Din) เป็นวัดเก่าแก่อีกแห่งหนึ่งของจังหวัดพะเยา ไฮไลท์ของวัดแห่งนี้อยู่ที่องค์พระประธานภายในวิหารของวัด นามว่าพระเจ้านั่งดินที่ประดิษฐานอยู่บนพื้น ซึ่งต่างจากพระพุทธรูปทั่วไปที่ต้องประดิษฐานอยู่บนฐาน ที่เป็นเช่นนี้เนื่องจากในอดีตเกิดเหตุการณ์อัศจรรย์ที่ไม่มีใครสามารถยกพระพุทธรูปขึ้นได้ แม้ต่อมาในยุคสมัยใหม่จะสามารถยกขึ้นประดิษฐานบนฐานได้ แต่หลังจากนั้นก็เกิดฟ้าผ่าลงหลังคาวิหารถึงสามครั้งจนต้องอัญเชิญพระพุทธรูปนี้ลงมาประดิษฐานไว้บนพื้นเช่นเดิม วัดแห่งนี้จึงเป็นอีกหนึ่งสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวและผู้มีจิตศรัทธาเป็นอย่างมาก
อ่านต่อจุดชมวิวภูลังกา จังหวัดพะเยา ประเทศไทย
จุดชมวิวภูลังกา (Phu Lanka Viewpoint) เป็นจุดชมวิวภายในวนอุทยานภูลังกาซึ่งเป็นอีกหนึ่งแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของอำเภอเชียงคำและอำเภอปง ไฮไลท์ของจุดชมวิวนี้อยู่ที่สามารถชมทัศนียภาพของภูเขาและหน้าผาต่างๆ ได้แบบพาโนรามา มีความสวยงามแตกต่างกันไปตามแต่ละฤดูกาลและชมวิวได้ไกลถึงฝั่งลาว โดยช่วงเวลาที่ได้รับการยอมรับว่าสวยที่สุดคือช่วงปลายฝนต้นหนาวที่มีทะเลหมอกล่องลอยท่ามกลางยอดดอยและหน้าผา เป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่ได้รับความนิยมที่สุดในจังหวัดพะเยา
อ่านต่อ๑๒ วัดสวยในภาคเหนือ พุทธศิลป์แห่งอาณาจักรล้านนา
ภาคเหนือ เป็นหนึ่งในภูมิภาคของประเทศไทย ที่มีวิถีชีวิตของชาวพื้นเมือง และขนบธรรมเนียมประเพณีที่เรียบง่าย มีสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญ และมีชื่อเสียงอยู่มากมาย รวมไปถึงมีผลงานพุทธศิลป์แบบล้านนาสุดแสนจะวิจิตร ที่สะท้อนออกมาในรูปแบบของสถาปัตยกรรมและประติมากรรมในวัดวาอารามต่าง ๆ เป็นเอกลักษณ์ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวแวะมากราบสักการะ พร้อมชื่นชมผลงานศิลปะล้านนาที่อ่อนช้อย และทรงคุณค่า วันนี้ Palanla จึงจะขอชวนออกเดินทางไปเที่ยวชม และรับสิริมงคลกับ 12 วัดสวยในภาคเหนือกันค่ะ
อ่านต่ออุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ จังหวัดเชียงใหม่ ประเทศไทย
อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ (Doi Inthanon National Park) สถานที่ท่องเที่ยวอันมีชื่อเสียงประจำจังหวัดเชียงใหม่ อุทยานที่สวยงาม และแวดล้อมไปด้วยทิวเขาสูงสลับซับซ้อน น้ำตก ถ้ำ ผืนป่าอันอุดมสมบูรณ์ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาเยือนในทุกๆปี
อ่านต่ออุทยานแห่งชาติภูชี้ฟ้า จังหวัดเชียงราย ประเทศไทย
อุทยานแห่งชาติภูชี้ฟ้า (Phu Chi Fa National Park) ผืนป่าบนยอดดอยที่มีจุดชมทะเลหมอก พระอาทิตย์ขึ้น พระอาทิตย์ตก ที่มีความสวยงามติดอันดับต้นๆ ของเมืองไทย
อ่านต่อ