- หน้าแรก
- ท่องเที่ยวในประเทศ
- พระมหาธาตุนภเมทนีดล - นภพลภูมิสิริ จังหวัดเชียงใหม่ ประเทศไทย
พระมหาธาตุนภเมทนีดล - นภพลภูมิสิริ จังหวัดเชียงใหม่ ประเทศไทย
- อ่าน (4,619)
- ByWebmaster
- 14:16:34 | 20 ม.ค. 2565
พระมหาธาตุนภเมทนีดล - นภพลภูมิสิริ จังหวัดเชียงใหม่ ประเทศไทย
Phramahathat Napamathanidol & Phramahathat Napaphol Bhumisiri, Chiangmai Province, Thailand
พระมหาธาตุนภเมทนีดล และ พระมหาธาตุนภพลภูมิสิริ (Phramahathat Napamathanidol & Phramahathat Napaphol Bhumisiri) ปูชนียสถานสำคัญ 2 แห่งเคียงคู่กัน ณ กิโลเมตรที่ 41.5 บนยอดดอยอินทนนท์ จังหวัดเชียงใหม่ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ผู้ที่มาเยือนจะได้สักการะและน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ท่ามกลางทัศนียภาพสวยงามที่โอบล้อมพระมหาสถูปเจดีย์ทั้งสององค์นี้อยู่
ประวัติ
พระมหาธาตุนภเมทนีดล และ พระมหาธาตุนภพลภูมิสิริ ตั้งอยู่ในพื้นที่ตำบลบ้านหลวง อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ สร้างขึ้นโดยกองทัพอากาศร่วมกับพสกนิกรชาวไทย น้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายเป็นพระราชกุศล และเทิดพระเกียรติแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เพื่อเป็นปูชนียสถานสำคัญเคียงคู่กัน ให้ประชาชนที่มาเยี่ยมชมและสักการะ ได้น้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของทั้ง 2 พระองค์
พระมหาธาตุนภเมทนีดล สร้างถวายพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช รัชกาลที่ 9 เนื่องในวโรกาสทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 5 รอบ เมื่อปี พ.ศ. 2530 โดยพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช รัชกาลที่ 9 ได้เสด็จพระราชดำเนิน ในปีพ.ศ. 2531 มาทรงรับและทรงเปิดพระมหาสถูปเจดีย์ฯ ที่กองทัพอากาศร่วมใจบริจาคทรัพย์สร้างเป็นอนุสรณ์ น้อมเกล้าฯ ถวายเป็นพระราชกุศล และพระราชทานชื่อพระมหาสถูปเจดีย์องค์นี้ว่า “พระมหาธาตุนภเมทนีดล” มีความหมายว่า “พระสถูปเจดีย์บรรจุพระบรมธาตุที่ยิ่งใหญ่เพียงฟ้าจรดดิน” ถือเป็นพระมหาสถูปเจดีย์องค์แรกที่ตั้งอยู่บนแผ่นดินที่สูงที่สุดในประเทศไทย มีความสูง 60 เมตร
องค์พระมหาสถูปเจดีย์มีสีน้ำตาล สัณฐานทรงระฆัง 8 เหลี่ยม มีลวดลายแบ่งออกเป็น 3 ช่วง แทนพระบารมี 3 ขั้นตอนที่พระพุทธเจ้าได้ทรงบำเพ็ญ อันประกอบด้วย บารมีขั้นแรก 10 ขั้น อุปบารมี 10 ขั้น และปรมัตถบารมี 10 ขั้น รวมเป็นบารมี 30 ทัศ ส่วนของยอดพระมหาสถูปเจดีย์หรือยอดปลีบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ รูปทรงเจดีย์และฐานมีลักษณะหนักแน่น มั่นคง แข็งแรง มีท่วงท่าสง่าแบบทหาร
ภายในประดิษฐานพระพุทธรูปปางประทานพร มีขนาดหน้าตัก 60 นิ้ว สูง 7.3 ฟุต นาม “พระพุทธบรมศาสดา นวมินทรมหาจักรีราชานุสรณ์ สัฐิพรรษาสถาพรพิพัฒน์” มีความหมายว่า “พระพุทธเจ้าบรมศาสดา สร้างเป็นอนุสรณ์ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 แห่งพระบรมราชจักรีวงศ์ พระชนมพรรษา 60” ผนังห้องโถงประดับด้วยภาพศิลาจำหลัก แบบนูนต่ำ 4 ภาพใหญ่ แสดงพุทธประวัติ 4 ตอนสำคัญ คือ ประสูติ ตรัสรู้ ปฐมเทศนา และปรินิพพาน
พระมหาธาตุนภเมทนีดล
ภาพจิตรกรรมนูนต่ำรอบๆ ฐานองค์พระมหาธาตุนภเมทนีดล
พระพุทธบรมศาสดา นวมินทรมหาจักรีราชานุสรณ์ สัฐิพรรษาสถาพรพิพัฒน์
พระมหาธาตุนภพลภูมิสิริ สร้างถวายสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ (พระยศในขณะนั้น) ในวโรกาสทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 5 รอบ เมื่อปี พ.ศ. 2535 พระมหาธาตุนภพลภูมิสิริ มีความหมายว่า “เป็นกำลังแห่งฟ้า เป็นสิริแห่งดิน” ด้วยกองทัพอากาศตระหนักในพระจริยาวัตรของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ที่ทรงอุตสาหะบำเพ็ญมาโดยต่อเนื่องนับแต่ได้ทรงดำรงพระอิสริยยศ เป็นที่ประจักษ์แจ้งถึงความมุ่งมั่นแน่วแน่ในพระราชหฤทัยที่จะทรงจำเริญรอยพระยุคลบาทของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
พระมหาธาตุนภพลภูมิสิริ มีรูปทรง 12 เหลี่ยม องค์เจดีย์ประดับโมเสกแก้วสีม่วงอมชมพูสีเดียวกันตลอดทั้งองค์ ที่ส่วนยอดขององค์เจดีย์เป็นยอดปลี ล้อมด้วยกลีบดอกบัวตูม ประดับด้วยโมเสกแก้วสีทอง เป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ กั้นด้วยฉัตรสีเงิน 9 ชั้น
ภายในเจดีย์มีพระพุทธรูปหินหยกสีขาว ปางรำพึง ประทับยืนบนดอกบัว มีขนาดความสูง 3 เมตร 20 เซนติเมตร นาม “พระพุทธสิริกิติทีฆายุมงคล” มีความหมายว่า พระพุทธเจ้าทรงเป็นสิริมงคลและทรงเจริญพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ประดิษฐานอยู่ ซึ่งเป็นพระประจำวันศุกร์ อันเป็นวันพระราชสมภพของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9
พระมหาธาตุนภพลภูมิสิริ
ภาพจิตรกรรมนูนต่ำรอบๆ องค์พระมหาธาตุนภพลภูมิสิริ
พระพุทธสิริกิติทีฆายุมงคล
นอกจากผู้ที่มาเยี่ยมชมพระมหาธาตุนภเมทนีดล นภพลภูมิสิริ จะได้ชมสถาปัตยกรรมที่งดงาม และกราบสักการะพระมหาธาตุทั้งสองเพื่อความเป็นสิริมงคลแล้ว บริเวณรอบๆ ยังจัดตกแต่งภูมิทัศน์เป็นสวนสวยงาม โดยเฉพาะในยามที่มีหมอกลงนั้นเป็นบรรยากาศที่สวยงามและสดชื่น
บรรยากาศสวยงามสดชื่นภายในสวน
การเดินทางไปจังหวัดเชียงใหม่
- รถยนต์ (Car/ Bus) การเดินทางโดยรถยนต์จากกรุงเทพฯ ไปเชียงใหม่ มีระยะทาง 696 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 8 - 12 ชั่วโมง
- รถไฟ (Train) การเดินทางโดยรถไฟจากกรุงเทพฯ ไปเชียงใหม่ ใช้เวลาประมาณ 11 - 13 ชั่วโมง
- เครื่องบิน(Flight) การเดินทางโดยเครื่องบินจากสนามบินดอนเมืองและสุวรรณภูมิ ไปสนามบินเชียงใหม่ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที
การเดินทางไปพระมหาธาตุนภเมทนีดล นภพลภูมิสิริ
พระมหาธาตุนภเมทนีดล นภพลภูมิสิริ ตั้งอยู่ที่อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ ตำบลบ้านหลวง อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ ห่างจากตัวจังหวัดเชียงใหม่ 104 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางโดยรถยนต์ประมาณ 2 ชั่วโมง
เวลาทำการเปิด – ปิด
เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 05.00 - 17.00 น.
อัตราค่าเข้าชม
ชาวไทย ผู้ใหญ่ 50 บาท เด็ก 20 บาท ชาวต่างชาติ ผู้ใหญ่ 200 บาท เด็ก 100 บาท
สิ่งที่ไม่ควรพลาดเมื่อไปเที่ยวพระมหาธาตุนภเมทนีดล นภพลภูมิสิริ
ชมสถาปัตยกรรมที่งดงามของพระมหาธาตุนภเมทนีดล นภพลภูมิสิริ
กราบสักการะ “พระพุทธบรมศาสดา นวมินทรมหาจักรีราชานุสรณ์ สัฐิพรรษาสถาพรพิพัฒน์” และ“พระพุทธสิริกิติทีฆายุมงคล”
ดื่มด่ำกับบรรยากาศโดยรอบที่สวยงามและสดชื่นจากยอดดอยอินทนนท์
ภูมิทัศน์สวยๆ โดยรอบพระมหาธาตุนภเมทนีดล นภพลภูมิสิริ
เวลาที่เหมาะสมสำหรับการท่องเที่ยว
สามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปี
นักท่องเที่ยวที่สนใจไปเที่ยวชม พระมหาธาตุเมทนีดล - นพพลภูมิสิริ สามารถศึกษา ข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่
พระมหาธาตุนภเมทนีดล - นภพลภูมิสิริ จังหวัดเชียงใหม่ ประเทศไทย
(Phramahathat Napamathanidol & Phramahathat Napaphol Bhumisiri, Chiang Mai Province, Thailand)
ระดับความนิยม :
อัตราค่าเข้าชม : ชาวไทย ผู้ใหญ่ 50 บาท เด็ก 20 บาท ชาวต่างชาติ ผู้ใหญ่ 200 บาท เด็ก 100 บาท
เวลาเปิด – ปิด : เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 05.00 - 17.00 น.
ตั้งอยู่ที่ : อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ ตำบลบ้านหลวง อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่
โทรศัพท์ : (+66) 064 354 4868
เว็บไซต์ : -
ข้อมูลอื่นๆที่ควรรู้ : พยากรณ์อากาศ https://www.accuweather.com
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานเชียงใหม่ http://www.tourismchiangmai.org
สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดเชียงใหม่ https://chiangmai.mots.go.th
ศูนย์บริการข้อมูลท่องเที่ยวประเทศไทย https://thai.tourismthailand.org
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ
อุทยานแห่งชาติภูผาเทิบ จังหวัดมุกดาหาร ประเทศไทย
อุทยานแห่งชาติภูผาเทิบ (Phu Pha Toep National Park) หรือ อุทยานแห่งชาติมุกดาหาร เป็นหนึ่งในอุทยานที่มีขนาดพื้นที่เล็กที่สุดในประเทศไทย โดยอุทยานแห่งนี้เป็นที่ตั้งของหินรูปทรงประหลาดและถ้ำที่มีจิตรกรรมวาดด้วยมือ
อ่านต่อภูห้วยอีสัน จังหวัดหนองคาย ประเทศไทย
ภูห้วยอีสัน (Phu Huai Isan) เป็นจุดชมวิวทะเลหมอกแห่งใหม่ที่กำลังได้รับความนิยมอย่างมากในช่วงปลายฝนต้นหนาว ด้วยวิวทิวทัศน์ที่สวยงามของทะเลหมอกลอยละล่องเหนือสายน้ำโขง และขุนเขาสลับซับซ้อน ทำให้ที่นี่เป็นจุดหมายปลายทางที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาดเมื่อมาจังหวัดหนองคาย
อ่านต่ออุทยานแห่งชาติป่าหินงาม จังหวัดชัยภูมิ ประเทศไทย
อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม (Pa Hin Ngam National Park) จังหวัดชัยภูมิ เป็นอุทยานแห่งชาติที่มีสภาพป่าสมบูรณ์และมีจุดเด่นทางธรรมชาติที่สวยงามหลายแห่ง โดยเฉพาะทุ่งดอกกระเจียวที่จะออกดอกสีชมพูอมม่วงบานสะพรั่งไปทั่วผืนป่าในช่วงต้นฤดูฝน ประมาณเดือนมิถุนายนถึงเดือนสิงหาคมของทุกปี
อ่านต่อปราสาทพนมวัน จังหวัดนครราชสีมา ประเทศไทย
ปราสาทพนมวัน (Prasat Phanom Wan) อีกหนึ่งปราสาทหินเก่าแก่ในจังหวัดนครราชสีมาที่สร้างขึ้นครั้งแรกตั้งแต่สมัยพุทธศตวรรษที่ 15 เพื่อเป็นเทวสถาน ปราสาทหินแห่งนี้ถือเป็นปราสาทหินที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 5 ของประเทศไทย
อ่านต่อ5 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในจังหวัดยโสธร ประเทศไทย
จังหวัดยโสธรเป็นจังหวัดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่างของไทยที่ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำชี จังหวัดยโสธรมีสถานที่ท่องเที่ยวเชิงศาสนาและวัฒนธรรมหลายแห่ง เพราะเป็นเมืองที่ผ่านประวัติศาสตร์มาอย่างยาวนานตั้งแต่สมัยทวาราวดี วันนี้ทาง Palanla จึงได้รวบรวมสถานที่ที่เป็นไฮไลท์ของจังหวัดยโสธรมาฝากทุกท่านไว้ในบทความนี้
อ่านต่อวัดพระพุทธบาทยโสธร จังหวัดยโสธร ประเทศไทย
วัดพระพุทธบาทยโสธร (Wat Phra Buddhabat Yasothon) เป็นวัดที่มีความสวยงามจากหมู่อาคารสีขาวท่ามกลางบรรยากาศที่เงียบสงบ นักท่องเที่ยวที่มาเยือนนิยมมาเที่ยวชมวัดและสักการะโบราณวัตถุทางพุทธศาสนาอันได้แก่ รอยพระพุทธบาท พระพุทธรูปปางนาคปรก และศิลาจารึกโบราณที่มีอายุราวห้าร้อยปี รวมทั้งพระพุทธรูปหยกขาวที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยที่ประดิษฐานอยู่ในพระอุโบสถ และพระบรมสารีริกธาตุที่ประดิษฐานอยู่ภายในเจดีย์ของวัดอีกด้วย วัดแห่งนี้จึงเป็นอีกหนึ่งวัดดังของจังหวัดยโสธรที่ควรค่าต่อการมาเที่ยวชมเป็นอย่างยิ่ง
อ่านต่อ8 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในจังหวัดศรีสะเกษ ประเทศไทย
จังหวัดศรีสะเกษเป็นจังหวัดในภาคอีสานตอนล่างที่มีแหล่งท่องเที่ยวหลายแห่ง ทั้งสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ที่เป็นจุดชมวิวอันน่าประทับใจ ไปจนถึงแหล่งโบราณสถานอันทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์ และวัดวาอารามที่สร้างขึ้นอย่างงดงามให้เที่ยวชม วันนี้ทาง Palanla ได้รวบรวม 8 สถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นไฮไลท์ของจังหวัดศรีเกษมาฝากทุกท่านกันในบทความนี้
อ่านต่อผามออีแดง จังหวัดศรีสะเกษ ประเทศไทย
ผามออีแดง (Pha Mor E Daeng) เป็นหน้าผาที่ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร เป็นจุดชมวิวที่มองเห็นปราสาทเขาพระวิหาร ป่าไม้ และบ้านเมืองของกัมพูชาที่อยู่ไกลออกไปได้ ในยามเช้าของช่วงปลายฝนต้นหนาวจะเป็นจุดชมทะเลหมอกที่สวยงาม ส่วนในยามพระอาทิตย์ตกดินจะมองเห็นฝูงค้างคาวบินออกมาจากถ้ำเพื่อหากิน นอกจากนี้ อีกหนึ่งไฮไลท์ของผามออีแดงคือภาพจิตรกรรมโบราณที่ถูกสลักไว้ริมหน้าผาซึ่งมีความเก่าแก่กว่าหนึ่งพันห้าร้อยปีทีเดียว ถือเป็น Unseen Thailand ที่คุ้มค่าต่อการมาเที่ยวชมเป็นอย่างยิ่ง
อ่านต่อน้ำตกสำโรงเกียรติ จังหวัดศรีสะเกษ ประเทศไทย
น้ำตกสำโรงเกียรติ (Samrong Kiat Waterfall) เป็นน้ำตกที่มีต้นกำเนิดจากเทือกเขาบรรทัด น้ำตกแห่งนี้มีเอกลักษณ์ตรงที่บริเวณด้านบนหน้าผาจะมีแอ่งลานหินขนาดใหญ่รองรับธารน้ำเอาไว้ก่อนที่จะไหลตกลงมาตามชั้นหน้าผา น้ำตกสำโรงเกียรติมีน้ำไหลตลอดปี และจะมีน้ำมากที่สุดในช่วงฤดูฝน บรรยากาศโดยรอบมีความร่มรื่นจากป่าไม้ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เหมาะกับการมาเล่นน้ำ นั่งพักผ่อนหย่อนใจ และถ่ายภาพสวยๆ ได้อย่างเพลิดเพลิน
อ่านต่อเกาะกลางน้ำ จังหวัดศรีสะเกษ ประเทศไทย
เกาะกลางน้ำ (Koh Klang Nam) เป็นเกาะที่อยู่ใจกลางอ่างเก็บน้ำห้วยน้ำคำในอำเภอเมืองศรีสะเกษ บนเกาะแห่งนี้เป็นสวนสาธาณะขนาดใหญ่และเป็นที่ตั้งของอาคารสำคัญหลายแห่ง เช่น หอศรีลำดวนเฉลิมพระเกียรติที่เป็นหอชมเมืองศรีสะเกษได้รอบทิศ และศรีสะเกษอควาเรียมซึ่งเป็นศูนย์แสดงพันธุ์สัตว์น้ำที่ใหญ่ที่สุดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่นี่จึงเป็นทั้งสถานที่ท่องเที่ยวและสถานที่พักผ่อนหย่อนใจของจังหวัดศรีสะเกษอีกแห่งหนึ่งที่นักท่องเที่ยวให้ความสนใจมาเที่ยวชมเป็นอย่างมาก
อ่านต่อ