พิพิธภัณฑ์อาจารย์ฝั้น อาจาโร จังหวัดสกลนคร ประเทศไทย

  • อ่าน (5,987)
  • ByWebmaster
  • 01:50:54 | 27 ธ.ค. 2564

พิพิธภัณฑ์อาจารย์ฝั้น อาจาโร จังหวัดสกลนคร ประเทศไทย

Ajarn Fun Acharo Museum, Sakon Nakhon, Thailand


พิพิธภัณฑ์อาจารย์ฝั้น อาจาโร เป็นอาคารทรงเจดีย์ฐานกลมกลีบบัวสามชั้น 

             พิพิธภัณฑ์อาจารย์ฝั้น อาจาโร (Ajarn Fun Acharo Museum) เป็นพิพิธภัณฑ์ที่สร้างขึ้นเพื่อระลึกถึงพระอาจารย์ฝั้น อาจาโร ซึ่งเป็นพระเกจิอาจารย์ที่มีชื่อเสียงของจังหวัดสกลนคร ตัวอาคารพิพิธภัณฑ์สร้างเป็นทรงเจดีย์ฐานกลมกลีบบัวสามชั้นอย่างงดงาม ภายในจัดแสดงประวัติ ภาพถ่าย และเครื่องอัฐบริขารของพระอาจารย์ฝั้น นอกจากนี้ยังมีรูปปั้นพระอาจารย์ฝั้นขนาดเท่ารูปจริงในอิริยาบทนั่งห้อยเท้าและถือไม้เท้าไว้ในมือ รวมถึงมีตู้กระจกบรรจุอัฐิให้ผู้ที่เลื่อมใสศรัทธาได้ศึกษาเที่ยวชม


แผนที่ตั้ง พิพิธภัณฑ์อาจารย์ฝั้น อาจาโร (Ajarn Fun Acharo Museum) จังหวัดสกลนคร ประเทศไทย


ประวัติ

             พิพิธภัณฑ์อาจารย์ฝั้น อาจาโร ตั้งอยู่ที่วัดป่าอุดมสมพร ตำบลพรรณานิคม อำเภอพรรณนานิคม อาคารพิพิธภัณฑ์มีลักษณะเป็นทรงเจดีย์ฐานกลมกลีบบัวสามชั้น ภายในจัดแสดงเครื่องอัฐบริขารที่ท่านใช้เมื่อยามมีชีวิตอยู่ รวมทั้งมีการจัดแสดงประวัติความเป็นมาตั้งแต่เกิดจนมรณภาพ และยังมีรูปปั้นพระอาจารย์ฝั้นขนาดเท่ารูปจริงในอิริยาบทนั่งห้อยเท้าและถือไม้เท้าไว้ในมือ ใกล้กันมีตู้กระจกบรรจุอัฐิ

             พระอาจารย์ฝั้น  อาจาโร เป็นพระเกจิอาจารย์ที่มีชื่อเสียงและเป็นศิษย์ของหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต พระอาจารย์ฝั้นได้มรณภาพที่วัดป่าอุดมสมพรในคืนวันที่ 4 มกราคม พ.ศ. 2520 รวมอายุได้ 78 ปี และหลังจากพระราชทานเพลิงศพท่านเป็นที่เรียบร้อยแล้วคณะศิษย์ทั้งฝ่ายบรรพชิตและฆราวาสได้มีการประชุมกันเพื่อจัดสร้างพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ขึ้นเพื่อที่ระลึกถึงพระอาจารย์ฝั้นผู้เป็นพระปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ โดยในปีพ.ศ. 2523 ได้มีการจัดสร้างเจดีย์พิพิธภัณฑ์อาจารย์ฝั้น อาจาโรขึ้นบริเวณที่พระราชทานเพลิงศพของท่าน โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 เสด็จมาวางศิลาฤกษ์ พิพิธภัณพ์แห่งนี้สร้างแล้วเสร็จในปี 2525

ชีวประวัติพระอาจารย์ฝั้น อาจาโร โดยย่อ

             พระอาจารย์ฝั้น อาจาโร เกิดเมื่อวันอาทิตย์ที่ 20 สิงหาคม พ.ศ.2442 ขึ้น 14 ค่ำ เดือน 9 ปีกุน ที่ตำบลพรรณนา อำเภอพรรณานิคม จังหวัดสกลนคร โดยเกิดในตระกูลสุวรรณรงค์ซึ่งเป็นตระกูลเจ้าเมืองพรรณานิคมมาก่อน ท่านได้บรรพชาเป็นสามเณรที่วัดโพนทองเมื่ออายุได้ 19 ปี ต่อมาเมื่ออายุครบ 20 ปีจึงได้อุปสมบทเป็นภิกษุที่วัดสิทธิบังคม บ้านไร่ อำเภอพรรณานิคม โดยมีพระครูป้องเป็นพระอุปัชฌาย์ และมีพระอาจารย์สังกับพระอาจารย์นวลเป็นพระกรรมวาจาจารย์

             ต่อมาในปี พ.ศ. 2463 พระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต ได้เดินทางมายังวัดบ้านม่วงไข่และได้แสดงธรรมเทศนาให้ชาวบ้านฟัง พระอาจารย์ฝั้นที่ได้ไปฟังอยู่ด้วยเช่นกันจึงเกิดความเลื่อมใสศรัทธาในพระธรรมที่พระอาจารย์มั่นแสดง จึงขอมอบตัวเป็นศิษย์โดยทันที และได้ติดตามพระอาจารย์มั่นไปธุดงค์ในที่ต่างๆ พร้อมทั้งฝึกวิปัสสนากรรมฐาน ในปี พ.ศ. 2487 ท่านเดินทางกลับบ้านเกิดที่บ้านบะทอง และพักที่ป่าช้าใกล้ๆ กับหนองแวง ซึ่งต่อมาสถานที่แห่งนี้จึงได้ถูกจัดสร้างเป็น วัดป่าอุดมสมพรนั่นเอง

             จนกระทั่งในวันที่ 4 มกราคม พ.ศ. 2520 เวลา 19.50 น. พระอาจารย์ฝั้นได้ละขันธ์ธาตุไปด้วยอาการสงบ โดยในวันที่ 21 มกราคม พ.ศ. 2521พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 และสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถในรัชกาลที่ 9 ได้เสด็จฯ มาพระราชทานเพลิงศพ พระอาจารย์ฝั้น อาจาโร ณ วัดป่าอุดมสมพร เป็นกรณีพิเศษเป็นการส่วนพระองค์

             สามารถอ่านชีวประวัติของพระอาจารย์ฝั้น ภูริทัตโต โดยละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://www.dharma-gateway.com/monk/monk_biography/lp-phun/lp-phun-hist-01-01.htm


ทางเดินกว้างทอดยาวสู่อาคารพิพิธภัณฑ์อาจารย์ฝั้น อาจาโร


พิพิธภัณฑ์อาจารย์ฝั้น อาจาโร ตั้งอยู่ภายในวัดป่าอุดมสมพร


บริเวณผนังอาคารสลักลวดลายเป็นรูปพระอาจารย์ฝั้นอย่างประณีตงดงาม


รูปปั้นพระอาจารย์ฝั้นในอิริยาบทนั่งห้อยเท้าและถือไม้เท้า


อัฐิของพระอาจารย์ฝั้น อาจาโร


พื้นที่จัดแสดงเครื่องใช้ประจำวันของพระอาจารย์ฝั้นเมื่อยามมีชีวิต


พื้นที่จัดแสดงเครื่องอัฐบริขารและประวัติของพระอาจารย์ฝั้น


ภาพถ่ายพระอาจารย์ฝั้น อาจาโร


เครื่องธุดงค์และเครื่องใช้ประเภทผ้า


บริเวณกำแพงด้านนอกประดับด้วยข้อความเกี่ยวกับหลักธรรม


การเดินทางจากกรุงเทพไปยังจังหวัดสกลนคร

             - รถยนต์ (Car) จากกรุงเทพไปยังจังหวัดสกลนครโดยรถยนต์มีระยะทางประมาณ 651 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 9 ชั่วโมง

             - เครื่องบิน (Flight) จากกรุงเทพขึ้นเครื่องบินที่สนามบินดอนเมืองหรือสนามบินสุวรรณภูมิ และลงเครื่องที่สนามบินสกลนคร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 10 นาที

             - ไม่มีสถานีรถไฟในจังหวัดสกลนคร แต่สามารถไปลงที่สถานีอุดรธานี แล้วต่อรถประจำทางหรือเหมารถมายังจังหวัดสกลนครได้

             - หากต้องการเดินทางโดยรถทัวร์ ให้ไปขึ้นรถที่สถานีขนส่งหมอชิต2 แล้วลงที่สถานีขนส่งสกลนคร โดยสามารถตรวจสอบข้อมูลเวลาเดินรถ และค่าโดยสารได้ที่ https://ticket.transport.co.th/


การเดินทางไปพิพิธภัณฑ์อาจารย์ฝั้น อาจาโร

             - รถยนต์ (Car) จากตัวเมืองสกลนคร ไปยัง พิพิธภัณฑ์อาจารย์ฝั้น อาจาโร มีระยะทางประมาณ 42.3 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง

             สามารถเช่ารถขับหรือเหมารถโดยสารท้องถิ่นไปยังสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ในจังหวัดสกลนครได้ตามความสะดวก


เวลาทำการเปิด-ปิด

             เปิดทุกวัน 06:00 น. - 18:00 น.


อัตราค่าเข้าชม

             ไม่เสียค่าเข้าชม


เวลาที่เหมาะสมสำหรับการท่องเที่ยว

             ตลอดทั้งปี 


มุมถ่ายภาพที่ระลึกที่มีฉากหลังเป็นพิพิธภัณฑ์ทรงเจดีย์ภายในวัดป่าอุดมสมพร


             
นักท่องเที่ยวที่สนใจมาเที่ยว พิพิธภัณฑ์อาจารย์ฝั้น อาจาโร สามารถศึกษา ข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่

                         พิพิธภัณฑ์อาจารย์ฝั้น อาจาโร จังหวัดสกลนคร ประเทศไทย

                         (Ajarn Fun Acharo Museum, Sakon Nakhon, Thailand)

                         ระดับความนิยม : 

                         อัตราค่าเข้าชม : ไม่เสียค่าเข้าชม

                         เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน 06:00 น. - 18:00 น.

                         ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการท่องเที่ยว : ตลอดทั้งปี

                         สถานที่ตั้ง : จังหวัดสกลนคร ประเทศไทย

                         โทรศัพท์ : (+66) 084-798-1394

                         เว็บไซต์ : https://db.sac.or.th/museum/museum-detail/1068

                         ข้อมูลอื่นๆ ที่ควรรู้ : พยากรณ์อากาศ https://www.accuweather.com

                                        เว็บไซต์ชีวประวัติอาจารย์ฝั้น อาจาโร https://bit.ly/3sDY3OE 

                                        เว็บไซต์สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดสกลนคร https://sakonnakhon.mots.go.th  

                                        เว็บไซต์การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย https://thai.tourismthailand.org  

 

สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ

อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม จังหวัดชัยภูมิ ประเทศไทย

อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม (Pa Hin Ngam National Park) จังหวัดชัยภูมิ เป็นอุทยานแห่งชาติที่มีสภาพป่าสมบูรณ์และมีจุดเด่นทางธรรมชาติที่สวยงามหลายแห่ง โดยเฉพาะทุ่งดอกกระเจียวที่จะออกดอกสีชมพูอมม่วงบานสะพรั่งไปทั่วผืนป่าในช่วงต้นฤดูฝน ประมาณเดือนมิถุนายนถึงเดือนสิงหาคมของทุกปี

อ่านต่อ

ปราสาทพนมวัน จังหวัดนครราชสีมา ประเทศไทย

ปราสาทพนมวัน (Prasat Phanom Wan) อีกหนึ่งปราสาทหินเก่าแก่ในจังหวัดนครราชสีมาที่สร้างขึ้นครั้งแรกตั้งแต่สมัยพุทธศตวรรษที่ 15 เพื่อเป็นเทวสถาน ปราสาทหินแห่งนี้ถือเป็นปราสาทหินที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 5 ของประเทศไทย

อ่านต่อ

5 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในจังหวัดยโสธร ประเทศไทย

จังหวัดยโสธรเป็นจังหวัดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่างของไทยที่ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำชี จังหวัดยโสธรมีสถานที่ท่องเที่ยวเชิงศาสนาและวัฒนธรรมหลายแห่ง เพราะเป็นเมืองที่ผ่านประวัติศาสตร์มาอย่างยาวนานตั้งแต่สมัยทวาราวดี วันนี้ทาง Palanla จึงได้รวบรวมสถานที่ที่เป็นไฮไลท์ของจังหวัดยโสธรมาฝากทุกท่านไว้ในบทความนี้

อ่านต่อ

วัดพระพุทธบาทยโสธร จังหวัดยโสธร ประเทศไทย

วัดพระพุทธบาทยโสธร (Wat Phra Buddhabat Yasothon) เป็นวัดที่มีความสวยงามจากหมู่อาคารสีขาวท่ามกลางบรรยากาศที่เงียบสงบ นักท่องเที่ยวที่มาเยือนนิยมมาเที่ยวชมวัดและสักการะโบราณวัตถุทางพุทธศาสนาอันได้แก่ รอยพระพุทธบาท พระพุทธรูปปางนาคปรก และศิลาจารึกโบราณที่มีอายุราวห้าร้อยปี รวมทั้งพระพุทธรูปหยกขาวที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยที่ประดิษฐานอยู่ในพระอุโบสถ และพระบรมสารีริกธาตุที่ประดิษฐานอยู่ภายในเจดีย์ของวัดอีกด้วย วัดแห่งนี้จึงเป็นอีกหนึ่งวัดดังของจังหวัดยโสธรที่ควรค่าต่อการมาเที่ยวชมเป็นอย่างยิ่ง

อ่านต่อ

8 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในจังหวัดศรีสะเกษ ประเทศไทย

จังหวัดศรีสะเกษเป็นจังหวัดในภาคอีสานตอนล่างที่มีแหล่งท่องเที่ยวหลายแห่ง ทั้งสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ที่เป็นจุดชมวิวอันน่าประทับใจ ไปจนถึงแหล่งโบราณสถานอันทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์ และวัดวาอารามที่สร้างขึ้นอย่างงดงามให้เที่ยวชม วันนี้ทาง Palanla ได้รวบรวม 8 สถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นไฮไลท์ของจังหวัดศรีเกษมาฝากทุกท่านกันในบทความนี้

อ่านต่อ

ผามออีแดง จังหวัดศรีสะเกษ ประเทศไทย

ผามออีแดง (Pha Mor E Daeng) เป็นหน้าผาที่ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร เป็นจุดชมวิวที่มองเห็นปราสาทเขาพระวิหาร ป่าไม้ และบ้านเมืองของกัมพูชาที่อยู่ไกลออกไปได้ ในยามเช้าของช่วงปลายฝนต้นหนาวจะเป็นจุดชมทะเลหมอกที่สวยงาม ส่วนในยามพระอาทิตย์ตกดินจะมองเห็นฝูงค้างคาวบินออกมาจากถ้ำเพื่อหากิน นอกจากนี้ อีกหนึ่งไฮไลท์ของผามออีแดงคือภาพจิตรกรรมโบราณที่ถูกสลักไว้ริมหน้าผาซึ่งมีความเก่าแก่กว่าหนึ่งพันห้าร้อยปีทีเดียว ถือเป็น Unseen Thailand ที่คุ้มค่าต่อการมาเที่ยวชมเป็นอย่างยิ่ง

อ่านต่อ

น้ำตกสำโรงเกียรติ จังหวัดศรีสะเกษ ประเทศไทย

น้ำตกสำโรงเกียรติ (Samrong Kiat Waterfall) เป็นน้ำตกที่มีต้นกำเนิดจากเทือกเขาบรรทัด น้ำตกแห่งนี้มีเอกลักษณ์ตรงที่บริเวณด้านบนหน้าผาจะมีแอ่งลานหินขนาดใหญ่รองรับธารน้ำเอาไว้ก่อนที่จะไหลตกลงมาตามชั้นหน้าผา น้ำตกสำโรงเกียรติมีน้ำไหลตลอดปี และจะมีน้ำมากที่สุดในช่วงฤดูฝน บรรยากาศโดยรอบมีความร่มรื่นจากป่าไม้ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เหมาะกับการมาเล่นน้ำ นั่งพักผ่อนหย่อนใจ และถ่ายภาพสวยๆ ได้อย่างเพลิดเพลิน

อ่านต่อ

เกาะกลางน้ำ จังหวัดศรีสะเกษ ประเทศไทย

เกาะกลางน้ำ (Koh Klang Nam) เป็นเกาะที่อยู่ใจกลางอ่างเก็บน้ำห้วยน้ำคำในอำเภอเมืองศรีสะเกษ บนเกาะแห่งนี้เป็นสวนสาธาณะขนาดใหญ่และเป็นที่ตั้งของอาคารสำคัญหลายแห่ง เช่น หอศรีลำดวนเฉลิมพระเกียรติที่เป็นหอชมเมืองศรีสะเกษได้รอบทิศ และศรีสะเกษอควาเรียมซึ่งเป็นศูนย์แสดงพันธุ์สัตว์น้ำที่ใหญ่ที่สุดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่นี่จึงเป็นทั้งสถานที่ท่องเที่ยวและสถานที่พักผ่อนหย่อนใจของจังหวัดศรีสะเกษอีกแห่งหนึ่งที่นักท่องเที่ยวให้ความสนใจมาเที่ยวชมเป็นอย่างมาก

อ่านต่อ

วัดบุไผ่ (วัดบ้านไร่ 2) จังหวัดนครราชสีมา ประเทศไทย

วัดบุไผ่ (วัดบ้านไร่ 2) Wat Bu Pai (Wat Ban Rai 2) เป็นวัดที่ตั้งตระหง่านบนเนินเขาในอำเภอวังน้ำเขียว ประดิษฐานรูปหล่อหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ หรือ พระเทพวิทยาคม พระเกจิดังวัดบ้านไร่องค์ใหญ่ที่สุดในโลก

อ่านต่อ

วัดแสงธรรมวังเขาเขียว จังหวัดนครราชสีมา ประเทศไทย

วัดแสงธรรมวังเขาเขียว (Wat Saeng Tham Wang Khao Khiao) เป็นที่ตั้งของพระมหาเจดีย์ศรีแสงธรรมวิสุทธิมงคล พระมหาเจดีย์รูปทรงดอกบัวสีขาวตั้งตระหง่านสง่างามอยู่กลางคูน้ำ ท่ามกลางสวนหย่อมสีเขียวขนาดใหญ่และแวดล้อมด้วยหุบเขาสีเขียวขจีของอำเภอวังน้ำเขียว

อ่านต่อ
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ