พิพิธภัณฑ์อาจารย์ฝั้น อาจาโร จังหวัดสกลนคร ประเทศไทย

  • อ่าน (6,360)
  • ByWebmaster
  • 01:50:54 | 27 ธ.ค. 2564

พิพิธภัณฑ์อาจารย์ฝั้น อาจาโร จังหวัดสกลนคร ประเทศไทย

Ajarn Fun Acharo Museum, Sakon Nakhon, Thailand


พิพิธภัณฑ์อาจารย์ฝั้น อาจาโร เป็นอาคารทรงเจดีย์ฐานกลมกลีบบัวสามชั้น 

             พิพิธภัณฑ์อาจารย์ฝั้น อาจาโร (Ajarn Fun Acharo Museum) เป็นพิพิธภัณฑ์ที่สร้างขึ้นเพื่อระลึกถึงพระอาจารย์ฝั้น อาจาโร ซึ่งเป็นพระเกจิอาจารย์ที่มีชื่อเสียงของจังหวัดสกลนคร ตัวอาคารพิพิธภัณฑ์สร้างเป็นทรงเจดีย์ฐานกลมกลีบบัวสามชั้นอย่างงดงาม ภายในจัดแสดงประวัติ ภาพถ่าย และเครื่องอัฐบริขารของพระอาจารย์ฝั้น นอกจากนี้ยังมีรูปปั้นพระอาจารย์ฝั้นขนาดเท่ารูปจริงในอิริยาบทนั่งห้อยเท้าและถือไม้เท้าไว้ในมือ รวมถึงมีตู้กระจกบรรจุอัฐิให้ผู้ที่เลื่อมใสศรัทธาได้ศึกษาเที่ยวชม


แผนที่ตั้ง พิพิธภัณฑ์อาจารย์ฝั้น อาจาโร (Ajarn Fun Acharo Museum) จังหวัดสกลนคร ประเทศไทย


ประวัติ

             พิพิธภัณฑ์อาจารย์ฝั้น อาจาโร ตั้งอยู่ที่วัดป่าอุดมสมพร ตำบลพรรณานิคม อำเภอพรรณนานิคม อาคารพิพิธภัณฑ์มีลักษณะเป็นทรงเจดีย์ฐานกลมกลีบบัวสามชั้น ภายในจัดแสดงเครื่องอัฐบริขารที่ท่านใช้เมื่อยามมีชีวิตอยู่ รวมทั้งมีการจัดแสดงประวัติความเป็นมาตั้งแต่เกิดจนมรณภาพ และยังมีรูปปั้นพระอาจารย์ฝั้นขนาดเท่ารูปจริงในอิริยาบทนั่งห้อยเท้าและถือไม้เท้าไว้ในมือ ใกล้กันมีตู้กระจกบรรจุอัฐิ

             พระอาจารย์ฝั้น  อาจาโร เป็นพระเกจิอาจารย์ที่มีชื่อเสียงและเป็นศิษย์ของหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต พระอาจารย์ฝั้นได้มรณภาพที่วัดป่าอุดมสมพรในคืนวันที่ 4 มกราคม พ.ศ. 2520 รวมอายุได้ 78 ปี และหลังจากพระราชทานเพลิงศพท่านเป็นที่เรียบร้อยแล้วคณะศิษย์ทั้งฝ่ายบรรพชิตและฆราวาสได้มีการประชุมกันเพื่อจัดสร้างพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ขึ้นเพื่อที่ระลึกถึงพระอาจารย์ฝั้นผู้เป็นพระปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ โดยในปีพ.ศ. 2523 ได้มีการจัดสร้างเจดีย์พิพิธภัณฑ์อาจารย์ฝั้น อาจาโรขึ้นบริเวณที่พระราชทานเพลิงศพของท่าน โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 เสด็จมาวางศิลาฤกษ์ พิพิธภัณพ์แห่งนี้สร้างแล้วเสร็จในปี 2525

ชีวประวัติพระอาจารย์ฝั้น อาจาโร โดยย่อ

             พระอาจารย์ฝั้น อาจาโร เกิดเมื่อวันอาทิตย์ที่ 20 สิงหาคม พ.ศ.2442 ขึ้น 14 ค่ำ เดือน 9 ปีกุน ที่ตำบลพรรณนา อำเภอพรรณานิคม จังหวัดสกลนคร โดยเกิดในตระกูลสุวรรณรงค์ซึ่งเป็นตระกูลเจ้าเมืองพรรณานิคมมาก่อน ท่านได้บรรพชาเป็นสามเณรที่วัดโพนทองเมื่ออายุได้ 19 ปี ต่อมาเมื่ออายุครบ 20 ปีจึงได้อุปสมบทเป็นภิกษุที่วัดสิทธิบังคม บ้านไร่ อำเภอพรรณานิคม โดยมีพระครูป้องเป็นพระอุปัชฌาย์ และมีพระอาจารย์สังกับพระอาจารย์นวลเป็นพระกรรมวาจาจารย์

             ต่อมาในปี พ.ศ. 2463 พระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต ได้เดินทางมายังวัดบ้านม่วงไข่และได้แสดงธรรมเทศนาให้ชาวบ้านฟัง พระอาจารย์ฝั้นที่ได้ไปฟังอยู่ด้วยเช่นกันจึงเกิดความเลื่อมใสศรัทธาในพระธรรมที่พระอาจารย์มั่นแสดง จึงขอมอบตัวเป็นศิษย์โดยทันที และได้ติดตามพระอาจารย์มั่นไปธุดงค์ในที่ต่างๆ พร้อมทั้งฝึกวิปัสสนากรรมฐาน ในปี พ.ศ. 2487 ท่านเดินทางกลับบ้านเกิดที่บ้านบะทอง และพักที่ป่าช้าใกล้ๆ กับหนองแวง ซึ่งต่อมาสถานที่แห่งนี้จึงได้ถูกจัดสร้างเป็น วัดป่าอุดมสมพรนั่นเอง

             จนกระทั่งในวันที่ 4 มกราคม พ.ศ. 2520 เวลา 19.50 น. พระอาจารย์ฝั้นได้ละขันธ์ธาตุไปด้วยอาการสงบ โดยในวันที่ 21 มกราคม พ.ศ. 2521พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 และสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถในรัชกาลที่ 9 ได้เสด็จฯ มาพระราชทานเพลิงศพ พระอาจารย์ฝั้น อาจาโร ณ วัดป่าอุดมสมพร เป็นกรณีพิเศษเป็นการส่วนพระองค์

             สามารถอ่านชีวประวัติของพระอาจารย์ฝั้น ภูริทัตโต โดยละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://www.dharma-gateway.com/monk/monk_biography/lp-phun/lp-phun-hist-01-01.htm


ทางเดินกว้างทอดยาวสู่อาคารพิพิธภัณฑ์อาจารย์ฝั้น อาจาโร


พิพิธภัณฑ์อาจารย์ฝั้น อาจาโร ตั้งอยู่ภายในวัดป่าอุดมสมพร


บริเวณผนังอาคารสลักลวดลายเป็นรูปพระอาจารย์ฝั้นอย่างประณีตงดงาม


รูปปั้นพระอาจารย์ฝั้นในอิริยาบทนั่งห้อยเท้าและถือไม้เท้า


อัฐิของพระอาจารย์ฝั้น อาจาโร


พื้นที่จัดแสดงเครื่องใช้ประจำวันของพระอาจารย์ฝั้นเมื่อยามมีชีวิต


พื้นที่จัดแสดงเครื่องอัฐบริขารและประวัติของพระอาจารย์ฝั้น


ภาพถ่ายพระอาจารย์ฝั้น อาจาโร


เครื่องธุดงค์และเครื่องใช้ประเภทผ้า


บริเวณกำแพงด้านนอกประดับด้วยข้อความเกี่ยวกับหลักธรรม


การเดินทางจากกรุงเทพไปยังจังหวัดสกลนคร

             - รถยนต์ (Car) จากกรุงเทพไปยังจังหวัดสกลนครโดยรถยนต์มีระยะทางประมาณ 651 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 9 ชั่วโมง

             - เครื่องบิน (Flight) จากกรุงเทพขึ้นเครื่องบินที่สนามบินดอนเมืองหรือสนามบินสุวรรณภูมิ และลงเครื่องที่สนามบินสกลนคร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 10 นาที

             - ไม่มีสถานีรถไฟในจังหวัดสกลนคร แต่สามารถไปลงที่สถานีอุดรธานี แล้วต่อรถประจำทางหรือเหมารถมายังจังหวัดสกลนครได้

             - หากต้องการเดินทางโดยรถทัวร์ ให้ไปขึ้นรถที่สถานีขนส่งหมอชิต2 แล้วลงที่สถานีขนส่งสกลนคร โดยสามารถตรวจสอบข้อมูลเวลาเดินรถ และค่าโดยสารได้ที่ https://ticket.transport.co.th/


การเดินทางไปพิพิธภัณฑ์อาจารย์ฝั้น อาจาโร

             - รถยนต์ (Car) จากตัวเมืองสกลนคร ไปยัง พิพิธภัณฑ์อาจารย์ฝั้น อาจาโร มีระยะทางประมาณ 42.3 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง

             สามารถเช่ารถขับหรือเหมารถโดยสารท้องถิ่นไปยังสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ในจังหวัดสกลนครได้ตามความสะดวก


เวลาทำการเปิด-ปิด

             เปิดทุกวัน 06:00 น. - 18:00 น.


อัตราค่าเข้าชม

             ไม่เสียค่าเข้าชม


เวลาที่เหมาะสมสำหรับการท่องเที่ยว

             ตลอดทั้งปี 


มุมถ่ายภาพที่ระลึกที่มีฉากหลังเป็นพิพิธภัณฑ์ทรงเจดีย์ภายในวัดป่าอุดมสมพร


             
นักท่องเที่ยวที่สนใจมาเที่ยว พิพิธภัณฑ์อาจารย์ฝั้น อาจาโร สามารถศึกษา ข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่

                         พิพิธภัณฑ์อาจารย์ฝั้น อาจาโร จังหวัดสกลนคร ประเทศไทย

                         (Ajarn Fun Acharo Museum, Sakon Nakhon, Thailand)

                         ระดับความนิยม : 

                         อัตราค่าเข้าชม : ไม่เสียค่าเข้าชม

                         เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน 06:00 น. - 18:00 น.

                         ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการท่องเที่ยว : ตลอดทั้งปี

                         สถานที่ตั้ง : จังหวัดสกลนคร ประเทศไทย

                         โทรศัพท์ : (+66) 084-798-1394

                         เว็บไซต์ : https://db.sac.or.th/museum/museum-detail/1068

                         ข้อมูลอื่นๆ ที่ควรรู้ : พยากรณ์อากาศ https://www.accuweather.com

                                        เว็บไซต์ชีวประวัติอาจารย์ฝั้น อาจาโร https://bit.ly/3sDY3OE 

                                        เว็บไซต์สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดสกลนคร https://sakonnakhon.mots.go.th  

                                        เว็บไซต์การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย https://thai.tourismthailand.org  

 

สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ

อุทยานแห่งชาติภูผาเทิบ จังหวัดมุกดาหาร ประเทศไทย

อุทยานแห่งชาติภูผาเทิบ (Phu Pha Toep National Park) หรือ อุทยานแห่งชาติมุกดาหาร เป็นหนึ่งในอุทยานที่มีขนาดพื้นที่เล็กที่สุดในประเทศไทย โดยอุทยานแห่งนี้เป็นที่ตั้งของหินรูปทรงประหลาดและถ้ำที่มีจิตรกรรมวาดด้วยมือ

อ่านต่อ

ภูห้วยอีสัน จังหวัดหนองคาย ประเทศไทย

ภูห้วยอีสัน (Phu Huai Isan) เป็นจุดชมวิวทะเลหมอกแห่งใหม่ที่กำลังได้รับความนิยมอย่างมากในช่วงปลายฝนต้นหนาว ด้วยวิวทิวทัศน์ที่สวยงามของทะเลหมอกลอยละล่องเหนือสายน้ำโขง และขุนเขาสลับซับซ้อน ทำให้ที่นี่เป็นจุดหมายปลายทางที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาดเมื่อมาจังหวัดหนองคาย

อ่านต่อ

อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม จังหวัดชัยภูมิ ประเทศไทย

อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม (Pa Hin Ngam National Park) จังหวัดชัยภูมิ เป็นอุทยานแห่งชาติที่มีสภาพป่าสมบูรณ์และมีจุดเด่นทางธรรมชาติที่สวยงามหลายแห่ง โดยเฉพาะทุ่งดอกกระเจียวที่จะออกดอกสีชมพูอมม่วงบานสะพรั่งไปทั่วผืนป่าในช่วงต้นฤดูฝน ประมาณเดือนมิถุนายนถึงเดือนสิงหาคมของทุกปี

อ่านต่อ

ปราสาทพนมวัน จังหวัดนครราชสีมา ประเทศไทย

ปราสาทพนมวัน (Prasat Phanom Wan) อีกหนึ่งปราสาทหินเก่าแก่ในจังหวัดนครราชสีมาที่สร้างขึ้นครั้งแรกตั้งแต่สมัยพุทธศตวรรษที่ 15 เพื่อเป็นเทวสถาน ปราสาทหินแห่งนี้ถือเป็นปราสาทหินที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 5 ของประเทศไทย

อ่านต่อ

5 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในจังหวัดยโสธร ประเทศไทย

จังหวัดยโสธรเป็นจังหวัดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่างของไทยที่ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำชี จังหวัดยโสธรมีสถานที่ท่องเที่ยวเชิงศาสนาและวัฒนธรรมหลายแห่ง เพราะเป็นเมืองที่ผ่านประวัติศาสตร์มาอย่างยาวนานตั้งแต่สมัยทวาราวดี วันนี้ทาง Palanla จึงได้รวบรวมสถานที่ที่เป็นไฮไลท์ของจังหวัดยโสธรมาฝากทุกท่านไว้ในบทความนี้

อ่านต่อ

วัดพระพุทธบาทยโสธร จังหวัดยโสธร ประเทศไทย

วัดพระพุทธบาทยโสธร (Wat Phra Buddhabat Yasothon) เป็นวัดที่มีความสวยงามจากหมู่อาคารสีขาวท่ามกลางบรรยากาศที่เงียบสงบ นักท่องเที่ยวที่มาเยือนนิยมมาเที่ยวชมวัดและสักการะโบราณวัตถุทางพุทธศาสนาอันได้แก่ รอยพระพุทธบาท พระพุทธรูปปางนาคปรก และศิลาจารึกโบราณที่มีอายุราวห้าร้อยปี รวมทั้งพระพุทธรูปหยกขาวที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยที่ประดิษฐานอยู่ในพระอุโบสถ และพระบรมสารีริกธาตุที่ประดิษฐานอยู่ภายในเจดีย์ของวัดอีกด้วย วัดแห่งนี้จึงเป็นอีกหนึ่งวัดดังของจังหวัดยโสธรที่ควรค่าต่อการมาเที่ยวชมเป็นอย่างยิ่ง

อ่านต่อ

8 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในจังหวัดศรีสะเกษ ประเทศไทย

จังหวัดศรีสะเกษเป็นจังหวัดในภาคอีสานตอนล่างที่มีแหล่งท่องเที่ยวหลายแห่ง ทั้งสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ที่เป็นจุดชมวิวอันน่าประทับใจ ไปจนถึงแหล่งโบราณสถานอันทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์ และวัดวาอารามที่สร้างขึ้นอย่างงดงามให้เที่ยวชม วันนี้ทาง Palanla ได้รวบรวม 8 สถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นไฮไลท์ของจังหวัดศรีเกษมาฝากทุกท่านกันในบทความนี้

อ่านต่อ

ผามออีแดง จังหวัดศรีสะเกษ ประเทศไทย

ผามออีแดง (Pha Mor E Daeng) เป็นหน้าผาที่ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร เป็นจุดชมวิวที่มองเห็นปราสาทเขาพระวิหาร ป่าไม้ และบ้านเมืองของกัมพูชาที่อยู่ไกลออกไปได้ ในยามเช้าของช่วงปลายฝนต้นหนาวจะเป็นจุดชมทะเลหมอกที่สวยงาม ส่วนในยามพระอาทิตย์ตกดินจะมองเห็นฝูงค้างคาวบินออกมาจากถ้ำเพื่อหากิน นอกจากนี้ อีกหนึ่งไฮไลท์ของผามออีแดงคือภาพจิตรกรรมโบราณที่ถูกสลักไว้ริมหน้าผาซึ่งมีความเก่าแก่กว่าหนึ่งพันห้าร้อยปีทีเดียว ถือเป็น Unseen Thailand ที่คุ้มค่าต่อการมาเที่ยวชมเป็นอย่างยิ่ง

อ่านต่อ

น้ำตกสำโรงเกียรติ จังหวัดศรีสะเกษ ประเทศไทย

น้ำตกสำโรงเกียรติ (Samrong Kiat Waterfall) เป็นน้ำตกที่มีต้นกำเนิดจากเทือกเขาบรรทัด น้ำตกแห่งนี้มีเอกลักษณ์ตรงที่บริเวณด้านบนหน้าผาจะมีแอ่งลานหินขนาดใหญ่รองรับธารน้ำเอาไว้ก่อนที่จะไหลตกลงมาตามชั้นหน้าผา น้ำตกสำโรงเกียรติมีน้ำไหลตลอดปี และจะมีน้ำมากที่สุดในช่วงฤดูฝน บรรยากาศโดยรอบมีความร่มรื่นจากป่าไม้ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เหมาะกับการมาเล่นน้ำ นั่งพักผ่อนหย่อนใจ และถ่ายภาพสวยๆ ได้อย่างเพลิดเพลิน

อ่านต่อ

เกาะกลางน้ำ จังหวัดศรีสะเกษ ประเทศไทย

เกาะกลางน้ำ (Koh Klang Nam) เป็นเกาะที่อยู่ใจกลางอ่างเก็บน้ำห้วยน้ำคำในอำเภอเมืองศรีสะเกษ บนเกาะแห่งนี้เป็นสวนสาธาณะขนาดใหญ่และเป็นที่ตั้งของอาคารสำคัญหลายแห่ง เช่น หอศรีลำดวนเฉลิมพระเกียรติที่เป็นหอชมเมืองศรีสะเกษได้รอบทิศ และศรีสะเกษอควาเรียมซึ่งเป็นศูนย์แสดงพันธุ์สัตว์น้ำที่ใหญ่ที่สุดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่นี่จึงเป็นทั้งสถานที่ท่องเที่ยวและสถานที่พักผ่อนหย่อนใจของจังหวัดศรีสะเกษอีกแห่งหนึ่งที่นักท่องเที่ยวให้ความสนใจมาเที่ยวชมเป็นอย่างมาก

อ่านต่อ
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ