- หน้าแรก
- ท่องเที่ยวในประเทศ
- ถ้ำนาคา จังหวัดบึงกาฬ ประเทศไทย
ถ้ำนาคา จังหวัดบึงกาฬ ประเทศไทย
- อ่าน (8,043)
- ByWebmaster
- 01:42:02 | 24 ธ.ค. 2564
ถ้ำนาคา จังหวัดบึงกาฬ ประเทศไทย
Naka Cave, Bueng Kan, Thailand
ถ้ำนาคา (Naka Cave) สถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของจังหวัดบึงกาฬ ภายในถ้ำมีหินขนาดใหญ่ที่มีรูปร่างคล้ายกับหัวงูยักษ์หรือพญานาคกำลังนอนหลับหรือก้มดื่มน้ำอยู่ และพื้นผิวของหินยังมีลักษณะเหมือนเกล็ดของงูขนาดใหญ่อย่างน่าอัศจรรย์ด้วย ซึ่งตามความเชื่อในท้องถิ่นนั้นเชื่อว่า พญานาคที่ชาวบ้านเรียกว่า ปู่อือลือ ถูกสาปให้ร่างกลายเป็นหินติดอยู่ในถ้ำแห่งนี้
ประวัติ
ถ้ำนาคา เป็นถ้ำที่อยู่ในเขตพื้นที่ อุทยานแห่งชาติภูลังกา อำเภอบึงโขงหลง จังหวัดบึงกาฬ โดยอยู่ห่างจากวัดถ้ำชัยมงคล ซึ่งเป็นจุดที่รถเข้าถึงประมาณ 1.5 กิโลเมตร จุดเด่นของถ้ำนาคาคือ ประติมากรรมทางธรรมชาติที่งดงามแปลกตา โดยรูปแบบของถ้ำนั้นคดเคี้ยวคล้ายงูยักษ์หรือพญานาคกำลังขดตัว โดยไม่ไกลกันมีหินก้อนใหญ่ก้อนหนึ่งที่มีลักษณะคล้ายกับหัวงูกำลังนอนหลับหรือก้มดื่มน้ำอยู่ นอกจากนี้พื้นผิวหน้าหินยังมีลักษณะคล้ายเกล็ดงูอย่างน่าอัศจรรย์ สร้างความตื่นตาตื่นใจแก่ผู้ที่ได้พบเห็น
ในทางธรณีวิทยา พื้นผิวของหินทรายที่มีลักษณะเหมือนเกล็ดของงูขนาดใหญ่ที่ว่านี้ เกิดจากหินบนพื้นผิวโลกผ่านการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิร้อน - เย็นสลับกันอย่างรวดเร็ว กระบวนการทางกายภาพเกิดการผุพัง ปริแตกตามพื้นผิวโดยรอบหิน เรียกว่าปรากฏการณ์ “ซันแครก” (sun crack) หรือปรากฏการณ์ "หมอนหินซ้อน" โดยจากการคำนวณแล้วหินชนิดนี้มีอายุประมาณ 70 ล้านปี
ซึ่งตามคติชาวบ้านหรือความเชื่อในท้องถิ่นบางส่วนเชื่อว่าพญานาคที่ชาวบ้านเรียกว่า ปู่อือลือ ถูกสาปให้ร่างกลายเป็นหินติดอยู่ในถ้ำแห่งนี้ รวมถึงอีกหลากหลายความเชื่อที่เกี่ยวข้องกับพญานาคเนื่องจากที่ตั้งของถ้ำแห่งนี้อยู่ใกล้กับแม่น้ำโขง
ด้วยความอัศจรรย์ทางธรรมชาตินี้ บวกกับพลังความศรัทธาในเรื่องของพญานาคที่มีมาอย่างยาวนานของคนไทย จึงทำให้มีนักท่องเที่ยวต้องการจะเดินทางไปสัมผัสถ้ำแห่งนี้อย่างต่อเนื่องแม้การเดินทางจะยากลำบาก โดยนักท่องเที่ยวจะต้องเดินเท้าผ่านเส้นทางที่สูงชันไปตามขั้นบันได รวมระยะทางไปกลับร่วม 4 กิโลเมตร จึงจะได้พบกับถ้ำนาคาแห่งนี้
นักท่องเที่ยวที่ต้องการเดินทางไปเที่ยวถ้ำนาคา ปัจจุบันทางอุทยานฯ เปิดให้เข้าชมได้วันละไม่เกิน 350 คนและแบ่งเป็นรอบๆ เพื่อไม่ให้จำนวนนักท่องเที่ยวหนาแน่นจนเกินไปและรักษาธรรมชาติให้คงอยู่ โดยต้องจองคิวล่วงหน้าผ่านแอปพลิเคชัน QueQ
พื้นผิวของหินทรายที่มีลักษณะเหมือนเกล็ดของงูขนาดใหญ่
การเดินทางไปจังหวัดบึงกาฬ
- รถยนต์ (Car/ Bus) การเดินทางโดยรถยนต์จากกรุงเทพฯ ไปจังหวัดบึงกาฬ มีระยะทาง 760 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 10 ชั่วโมง 20 นาที
ทั้งนี้ ไม่มีเที่ยวบินบินตรงจากกรุงเทพฯ ไปจังหวัดบึงกาฬ แต่สามารถใช้เส้นทางบิน กรุงเทพฯ-อุดรธานี ซึ่งเป็นสนามบินจังหวัดใกล้เคียง จากนั้นเดินทางต่อโดยรถยนต์ไปจังหวัดบึงกาฬอีกประมาณ 190 กิโลเมตร
สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการเดินทางโดยรถไฟ การรถไฟแห่งประเทศไทยมีขบวนรถไฟออกจากกรุงเทพฯ ไปลงที่สถานีจังหวัดอุดรธานี และจังหวัดหนองคายซึ่งเป็นจังหวัดใกล้เคียงเช่นกัน การเดินทางโดยรถไฟใช้เวลาประมาณ 8 ชั่วโมง 30 นาที - 9 ชั่วโมง 30 นาที
การเดินทางไปถ้ำนาคา
ถ้ำนาคา ตั้งอยู่ที่ อุทยานแห่งชาติภูลังกา ตำบลโพธิ์หมากแข้ง อำเภอบึงโขงหลง จังหวัดบึงกาฬ อยู่ห่างจากตัวจังหวัดประมาณ 90 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางโดยรถยนต์ 1 ชั่วโมง 20 นาที ทั้งนี้รถสามารถเข้าถึงแค่วัดถ้ำชัยมงคล (ห่างจากถ้ำนาคา 1.5 กิโลเมตร) จากนั้นนักท่องเที่ยวต้องเดินเท้าต่อไปยังถ้ำ
เวลาทำการเปิด – ปิด
เปิดให้เข้าชมทุกวัน เวลา 08.00น. – 14.00 น.
อัตราค่าเข้าชม
ค่าเข้าอุทยานฯ ชาวไทย ผู้ใหญ่ 20 บาท เด็ก 10 บาท ชาวต่างชาติ ผู้ใหญ่ 200 บาท เด็ก 100 บาท
สิ่งที่ไม่ควรพลาดเมื่อไปเที่ยวถ้ำนาคา
ชมประติมากรรมธรรมชาติที่มีรูปร่างคล้ายกับหัวงูยักษ์หรือพญานาค และพื้นผิวของหินที่มีลักษณะเหมือนเกล็ดของงูอย่างน่าอัศจรรย์ พร้อมสักการะ ปู่อือลือ ที่ชาวบ้านชื่อว่าถูกสาปให้ร่างกลายเป็นหินติดอยู่ในถ้ำแห่งนี้
ลักษณะของหินที่เรียกว่าปรากฏการณ์ “ซันแครก” (sun crack)
เวลาที่เหมาะสมสำหรับการท่องเที่ยว
สามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปี
ข้อมูลอื่นๆ ที่ควรรู้
นักท่องเที่ยวไม่ควรนำมือไปลูบหรือสัมผัสหิน เนื่องจากจะทำให้ลวดลายเกล็ดพญานาคลบเลือนหายไปได้
นักท่องเที่ยวที่สนใจไปเที่ยวชม ถ้ำนาคา สามารถศึกษา ข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่
ถ้ำนาคา จังหวัดบึงกาฬ ประเทศไทย
(Naka Cave, Bueng Kan, Thailand)
ระดับความนิยม :
อัตราค่าเข้าชม : ค่าเข้าอุทยานฯ ชาวไทย ผู้ใหญ่ 20 บาท เด็ก 10 บาท ชาวต่างชาติ ผู้ใหญ่ 200 บาท เด็ก 100 บาท
เวลาทำการเปิด – ปิด : เปิดให้เข้าชมทุกวัน เวลา 08.00น. – 14.00 น.
ตั้งอยู่ที่ : อุทยานแห่งชาติภูลังกา อำเภอบึงโขงหลง จังหวัดบึงกาฬ
โทรศัพท์ : (+66) 042 530 766
เว็บไซต์ : -
ข้อมูลอื่นๆที่ควรรู้ : พยากรณ์อากาศ https://www.accuweather.com/
เว็บไซต์จังหวัดบึงกาฬ http://www.buengkan.go.th
สำนักงานการกีฬาและท่องเที่ยว จังหวัดบึงกาฬ https://bungkan.mots.go.th
ศูนย์บริการข้อมูลท่องเที่ยวประเทศไทย https://thai.tourismthailand.org
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ
อุทยานแห่งชาติภูผาเทิบ จังหวัดมุกดาหาร ประเทศไทย
อุทยานแห่งชาติภูผาเทิบ (Phu Pha Toep National Park) หรือ อุทยานแห่งชาติมุกดาหาร เป็นหนึ่งในอุทยานที่มีขนาดพื้นที่เล็กที่สุดในประเทศไทย โดยอุทยานแห่งนี้เป็นที่ตั้งของหินรูปทรงประหลาดและถ้ำที่มีจิตรกรรมวาดด้วยมือ
อ่านต่อภูห้วยอีสัน จังหวัดหนองคาย ประเทศไทย
ภูห้วยอีสัน (Phu Huai Isan) เป็นจุดชมวิวทะเลหมอกแห่งใหม่ที่กำลังได้รับความนิยมอย่างมากในช่วงปลายฝนต้นหนาว ด้วยวิวทิวทัศน์ที่สวยงามของทะเลหมอกลอยละล่องเหนือสายน้ำโขง และขุนเขาสลับซับซ้อน ทำให้ที่นี่เป็นจุดหมายปลายทางที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาดเมื่อมาจังหวัดหนองคาย
อ่านต่ออุทยานแห่งชาติป่าหินงาม จังหวัดชัยภูมิ ประเทศไทย
อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม (Pa Hin Ngam National Park) จังหวัดชัยภูมิ เป็นอุทยานแห่งชาติที่มีสภาพป่าสมบูรณ์และมีจุดเด่นทางธรรมชาติที่สวยงามหลายแห่ง โดยเฉพาะทุ่งดอกกระเจียวที่จะออกดอกสีชมพูอมม่วงบานสะพรั่งไปทั่วผืนป่าในช่วงต้นฤดูฝน ประมาณเดือนมิถุนายนถึงเดือนสิงหาคมของทุกปี
อ่านต่อปราสาทพนมวัน จังหวัดนครราชสีมา ประเทศไทย
ปราสาทพนมวัน (Prasat Phanom Wan) อีกหนึ่งปราสาทหินเก่าแก่ในจังหวัดนครราชสีมาที่สร้างขึ้นครั้งแรกตั้งแต่สมัยพุทธศตวรรษที่ 15 เพื่อเป็นเทวสถาน ปราสาทหินแห่งนี้ถือเป็นปราสาทหินที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 5 ของประเทศไทย
อ่านต่อ5 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในจังหวัดยโสธร ประเทศไทย
จังหวัดยโสธรเป็นจังหวัดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่างของไทยที่ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำชี จังหวัดยโสธรมีสถานที่ท่องเที่ยวเชิงศาสนาและวัฒนธรรมหลายแห่ง เพราะเป็นเมืองที่ผ่านประวัติศาสตร์มาอย่างยาวนานตั้งแต่สมัยทวาราวดี วันนี้ทาง Palanla จึงได้รวบรวมสถานที่ที่เป็นไฮไลท์ของจังหวัดยโสธรมาฝากทุกท่านไว้ในบทความนี้
อ่านต่อวัดพระพุทธบาทยโสธร จังหวัดยโสธร ประเทศไทย
วัดพระพุทธบาทยโสธร (Wat Phra Buddhabat Yasothon) เป็นวัดที่มีความสวยงามจากหมู่อาคารสีขาวท่ามกลางบรรยากาศที่เงียบสงบ นักท่องเที่ยวที่มาเยือนนิยมมาเที่ยวชมวัดและสักการะโบราณวัตถุทางพุทธศาสนาอันได้แก่ รอยพระพุทธบาท พระพุทธรูปปางนาคปรก และศิลาจารึกโบราณที่มีอายุราวห้าร้อยปี รวมทั้งพระพุทธรูปหยกขาวที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยที่ประดิษฐานอยู่ในพระอุโบสถ และพระบรมสารีริกธาตุที่ประดิษฐานอยู่ภายในเจดีย์ของวัดอีกด้วย วัดแห่งนี้จึงเป็นอีกหนึ่งวัดดังของจังหวัดยโสธรที่ควรค่าต่อการมาเที่ยวชมเป็นอย่างยิ่ง
อ่านต่อ8 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในจังหวัดศรีสะเกษ ประเทศไทย
จังหวัดศรีสะเกษเป็นจังหวัดในภาคอีสานตอนล่างที่มีแหล่งท่องเที่ยวหลายแห่ง ทั้งสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ที่เป็นจุดชมวิวอันน่าประทับใจ ไปจนถึงแหล่งโบราณสถานอันทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์ และวัดวาอารามที่สร้างขึ้นอย่างงดงามให้เที่ยวชม วันนี้ทาง Palanla ได้รวบรวม 8 สถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นไฮไลท์ของจังหวัดศรีเกษมาฝากทุกท่านกันในบทความนี้
อ่านต่อผามออีแดง จังหวัดศรีสะเกษ ประเทศไทย
ผามออีแดง (Pha Mor E Daeng) เป็นหน้าผาที่ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร เป็นจุดชมวิวที่มองเห็นปราสาทเขาพระวิหาร ป่าไม้ และบ้านเมืองของกัมพูชาที่อยู่ไกลออกไปได้ ในยามเช้าของช่วงปลายฝนต้นหนาวจะเป็นจุดชมทะเลหมอกที่สวยงาม ส่วนในยามพระอาทิตย์ตกดินจะมองเห็นฝูงค้างคาวบินออกมาจากถ้ำเพื่อหากิน นอกจากนี้ อีกหนึ่งไฮไลท์ของผามออีแดงคือภาพจิตรกรรมโบราณที่ถูกสลักไว้ริมหน้าผาซึ่งมีความเก่าแก่กว่าหนึ่งพันห้าร้อยปีทีเดียว ถือเป็น Unseen Thailand ที่คุ้มค่าต่อการมาเที่ยวชมเป็นอย่างยิ่ง
อ่านต่อน้ำตกสำโรงเกียรติ จังหวัดศรีสะเกษ ประเทศไทย
น้ำตกสำโรงเกียรติ (Samrong Kiat Waterfall) เป็นน้ำตกที่มีต้นกำเนิดจากเทือกเขาบรรทัด น้ำตกแห่งนี้มีเอกลักษณ์ตรงที่บริเวณด้านบนหน้าผาจะมีแอ่งลานหินขนาดใหญ่รองรับธารน้ำเอาไว้ก่อนที่จะไหลตกลงมาตามชั้นหน้าผา น้ำตกสำโรงเกียรติมีน้ำไหลตลอดปี และจะมีน้ำมากที่สุดในช่วงฤดูฝน บรรยากาศโดยรอบมีความร่มรื่นจากป่าไม้ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เหมาะกับการมาเล่นน้ำ นั่งพักผ่อนหย่อนใจ และถ่ายภาพสวยๆ ได้อย่างเพลิดเพลิน
อ่านต่อเกาะกลางน้ำ จังหวัดศรีสะเกษ ประเทศไทย
เกาะกลางน้ำ (Koh Klang Nam) เป็นเกาะที่อยู่ใจกลางอ่างเก็บน้ำห้วยน้ำคำในอำเภอเมืองศรีสะเกษ บนเกาะแห่งนี้เป็นสวนสาธาณะขนาดใหญ่และเป็นที่ตั้งของอาคารสำคัญหลายแห่ง เช่น หอศรีลำดวนเฉลิมพระเกียรติที่เป็นหอชมเมืองศรีสะเกษได้รอบทิศ และศรีสะเกษอควาเรียมซึ่งเป็นศูนย์แสดงพันธุ์สัตว์น้ำที่ใหญ่ที่สุดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่นี่จึงเป็นทั้งสถานที่ท่องเที่ยวและสถานที่พักผ่อนหย่อนใจของจังหวัดศรีสะเกษอีกแห่งหนึ่งที่นักท่องเที่ยวให้ความสนใจมาเที่ยวชมเป็นอย่างมาก
อ่านต่อ