- หน้าแรก
- ท่องเที่ยวในประเทศ
- จุดชมวิว 1715 จังหวัดน่าน ประเทศไทย
จุดชมวิว 1715 จังหวัดน่าน ประเทศไทย
- อ่าน (10,598)
- ByWebmaster
- 03:24:22 | 22 ธ.ค. 2564
จุดชมวิว 1715 จังหวัดน่าน ประเทศไทย
Viewpoint 1715, Nan, Thailand
บริเวณจุดชมวิว 1715
จุดชมวิว 1715 (Viewpoint 1715) ตั้งอยู่บริเวณดอยภูคาบนความสูง 1,715 เมตรจากระดับน้ำทะเล และอยู่ภายในเขตอุทยานแห่งชาติดอยภูคา จุดชมวิวแห่งนี้เป็นจุดชมวิวที่สามารถชมทัศนียภาพของขุนเขาอันเขียวขจีที่ทอดตัวเรียงรายอย่างสลับซับซ้อนกินอาณาเขตกว้างใหญ่ได้อย่างเต็มตา และยังเป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นที่มีความสวยงามเป็นอย่างมาก และหากได้มาในช่วงปลายฝนต้นหนาวก็อาจจะได้ชมความสวยงามของทะเลหมอกผืนใหญ่ที่ปกคลุมทิวเขาในบริเวณนี้อีกด้วย
แผนที่ตั้ง จุดชมวิว 1715 (Viewpoint 1715) จังหวัดน่าน ประเทศไทย
ประวัติ
จุดชมวิว 1715 เป็นจุดชมวิวที่ตั้งอยู่บนถนนเส้นทางสายปัว-บ่อเกลือในตำบลภูคา อำเภอปัว โดยอยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติดอยภูคาเพียง 8 กิโลเมตรเท่านั้น และสำหรับตัวเลข 1715 นี้มาจากความสูง 1,715 เมตรจากระดับน้ำทะเลนั่นเอง
จุดชมวิวบริเวณนี้เป็นจุดที่สามารถชมวิวขุนเขาสลับซับซ้อนในมุมกว้างที่มีความสวยงามเป็นอย่างมาก และยังเป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยที่สุดของดอยภูคาอีกด้วย นอกจากนี้ ในช่วงปลายฝนต้นหนาวจะสามารถมองเห็นทะเลหมอกสีขาวผืนใหญ่ปกคลุมทิวเขาได้อย่างเต็มตาซึ่งเป็นทัศนียภาพที่สวยงามน่าประทับใจเป็นอย่างมาก
ตัวเลข 1715 นี้มาจากความสูง 1,715 เมตรจากระดับน้ำทะเล
ทัศนียภาพอันสวยงามของทิวเขาเรียงรายสลับซับซ้อน
เป็นจุดชมวิวทิวเขาอันกว้างใหญ่ได้ในมุมกว้าง
จุดชมวิว 1715 เป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นและจุดชมทะเลหมอกที่มีความสวยงาม
การเดินทางจากกรุงเทพไปยังจังหวัดน่าน
- รถยนต์ (Car) จากกรุงเทพไปยังจังหวัดน่านโดยรถยนต์มีระยะทางประมาณ 676 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 9 ชั่วโมง
- เครื่องบิน (Flight) จากกรุงเทพขึ้นเครื่องบินที่สนามบินดอนเมืองหรือสนามบินสุวรรณภูมิ และลงเครื่องที่สนามบินน่าน ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง
- ไม่มีสถานีรถไฟในจังหวัดน่าน แต่สามารถไปลงที่สถานีเด่นชัยในจังหวัดแพร่ แล้วต่อรถตู้หรือเหมารถมายังจังหวัดน่านได้
- หากต้องการเดินทางโดยรถทัวร์ ให้ไปขึ้นรถที่สถานีขนส่งหมอชิต2 แล้วลงที่สถานีขนส่งน่าน โดยสามารถตรวจสอบข้อมูลเวลาเดินรถ และค่าโดยสารได้ที่ https://ticket.transport.co.th/
การเดินทางไปจุดชมวิว 1715
- รถยนต์ (Car) จากตัวเมืองน่าน ไปยัง จุดชมวิว 1715 มีระยะทางประมาณ 94 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง
สามารถเช่ารถขับหรือเหมารถโดยสารท้องถิ่นไปยังสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ในจังหวัดน่านได้ตามความสะดวก
เวลาทำการเปิด-ปิด
เปิดทุกวัน 06:00 น. - 18:00 น.
อัตราค่าเข้าชม
อัตราค่าบริการเข้าอุทยานแห่งชาติ
- ผู้ใหญ่ 20 บาท เด็ก 10 บาท
อัตราค่าบริการสำหรับยานพาหนะ
- รถจักรยานยนต์ 20 บาท
- รถยนต์ 4 ล้อ 30 บาท
- รถยนต์ 6 ล้อ 100 บาท
เวลาที่เหมาะสมสำหรับการท่องเที่ยว
ตลอดทั้งปี
นักท่องเที่ยวที่สนใจมาเที่ยว จุดชมวิว 1715 สามารถศึกษา ข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่
จุดชมวิว 1715 จังหวัดน่าน ประเทศไทย
(Viewpoint 1715, Nan, Thailand)
ระดับความนิยม :
อัตราค่าเข้าชม: ผู้ใหญ่ 20 บาท เด็ก 10 บาท
เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน 06:00 น. - 18:00 น.
ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการท่องเที่ยว : ตลอดทั้งปี
สถานที่ตั้ง : จังหวัดน่าน ประเทศไทย
โทรศัพท์ : (+66) 082-194-1349
เว็บไซต์ : http://portal.dnp.go.th/Content/nationalpark?contentId=1697
ข้อมูลอื่นๆ ที่ควรรู้ : พยากรณ์อากาศ https://www.accuweather.com
เว็บไซต์สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดน่าน http://www.nantourism.go.th
เว็บไซต์การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย https://thai.tourismthailand.org
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ
8 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในจังหวัดพะเยา ประเทศไทย
จังหวัดพะเยาเป็นจังหวัดทางภาคเหนือที่เต็มไปด้วยวัดสวยๆ หลายแห่งที่สร้างขึ้นด้วยสถาปัตยกรรมล้านนาอย่างงดงาม และยังเป็นที่ตั้งของวนอุทยานภูลังกาที่มีธรรมชาติอันสวยงามและอุดมสมบูรณ์ รวมถึงอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่อย่างกว๊านพะเยาให้เที่ยวชมอีกด้วย วันนี้ทาง Palanla จึงได้รวบรวมสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นไฮไลท์ของจังหวัดพะเยามาฝากทุกท่านเพื่อเป็นแนวทางในการจัดทริปเที่ยวเหนือกันในวัดหยุดที่กำลังจะมาถึงนี้
อ่านต่อวัดพระนั่งดิน จังหวัดพะเยา ประเทศไทย
วัดพระนั่งดิน (Wat Phra Nang Din) เป็นวัดเก่าแก่อีกแห่งหนึ่งของจังหวัดพะเยา ไฮไลท์ของวัดแห่งนี้อยู่ที่องค์พระประธานภายในวิหารของวัด นามว่าพระเจ้านั่งดินที่ประดิษฐานอยู่บนพื้น ซึ่งต่างจากพระพุทธรูปทั่วไปที่ต้องประดิษฐานอยู่บนฐาน ที่เป็นเช่นนี้เนื่องจากในอดีตเกิดเหตุการณ์อัศจรรย์ที่ไม่มีใครสามารถยกพระพุทธรูปขึ้นได้ แม้ต่อมาในยุคสมัยใหม่จะสามารถยกขึ้นประดิษฐานบนฐานได้ แต่หลังจากนั้นก็เกิดฟ้าผ่าลงหลังคาวิหารถึงสามครั้งจนต้องอัญเชิญพระพุทธรูปนี้ลงมาประดิษฐานไว้บนพื้นเช่นเดิม วัดแห่งนี้จึงเป็นอีกหนึ่งสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวและผู้มีจิตศรัทธาเป็นอย่างมาก
อ่านต่อจุดชมวิวภูลังกา จังหวัดพะเยา ประเทศไทย
จุดชมวิวภูลังกา (Phu Lanka Viewpoint) เป็นจุดชมวิวภายในวนอุทยานภูลังกาซึ่งเป็นอีกหนึ่งแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของอำเภอเชียงคำและอำเภอปง ไฮไลท์ของจุดชมวิวนี้อยู่ที่สามารถชมทัศนียภาพของภูเขาและหน้าผาต่างๆ ได้แบบพาโนรามา มีความสวยงามแตกต่างกันไปตามแต่ละฤดูกาลและชมวิวได้ไกลถึงฝั่งลาว โดยช่วงเวลาที่ได้รับการยอมรับว่าสวยที่สุดคือช่วงปลายฝนต้นหนาวที่มีทะเลหมอกล่องลอยท่ามกลางยอดดอยและหน้าผา เป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่ได้รับความนิยมที่สุดในจังหวัดพะเยา
อ่านต่อ๑๒ วัดสวยในภาคเหนือ พุทธศิลป์แห่งอาณาจักรล้านนา
ภาคเหนือ เป็นหนึ่งในภูมิภาคของประเทศไทย ที่มีวิถีชีวิตของชาวพื้นเมือง และขนบธรรมเนียมประเพณีที่เรียบง่าย มีสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญ และมีชื่อเสียงอยู่มากมาย รวมไปถึงมีผลงานพุทธศิลป์แบบล้านนาสุดแสนจะวิจิตร ที่สะท้อนออกมาในรูปแบบของสถาปัตยกรรมและประติมากรรมในวัดวาอารามต่าง ๆ เป็นเอกลักษณ์ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวแวะมากราบสักการะ พร้อมชื่นชมผลงานศิลปะล้านนาที่อ่อนช้อย และทรงคุณค่า วันนี้ Palanla จึงจะขอชวนออกเดินทางไปเที่ยวชม และรับสิริมงคลกับ 12 วัดสวยในภาคเหนือกันค่ะ
อ่านต่ออุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ จังหวัดเชียงใหม่ ประเทศไทย
อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ (Doi Inthanon National Park) สถานที่ท่องเที่ยวอันมีชื่อเสียงประจำจังหวัดเชียงใหม่ อุทยานที่สวยงาม และแวดล้อมไปด้วยทิวเขาสูงสลับซับซ้อน น้ำตก ถ้ำ ผืนป่าอันอุดมสมบูรณ์ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาเยือนในทุกๆปี
อ่านต่ออุทยานแห่งชาติภูชี้ฟ้า จังหวัดเชียงราย ประเทศไทย
อุทยานแห่งชาติภูชี้ฟ้า (Phu Chi Fa National Park) ผืนป่าบนยอดดอยที่มีจุดชมทะเลหมอก พระอาทิตย์ขึ้น พระอาทิตย์ตก ที่มีความสวยงามติดอันดับต้นๆ ของเมืองไทย
อ่านต่อวัดจามเทวี จังหวัดลำพูน ประเทศไทย
วัดจามเทวี (Wat Chamdhevi) วัดคู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดลำพูน ภายในวัดมีเจดีย์บรรจุอัฐิของพระนางจามเทวี ปฐมกษัตริย์แห่งนครหริภุญไชย วัดแห่งนี้ยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์โบราณคดีที่สำคัญแห่งหนึ่งของประเทศไทยด้วย
อ่านต่อกู่ช้าง กู่ม้า จังหวัดลำพูน ประเทศไทย
กู่ช้าง กู่ม้า (Khu Chang – Khu Ma) เป็นโบราณสถานที่สำคัญของจังหวัดลำพูน โดยเชื่อว่ากู่ช้าง เป็นสุสานช้างศึกคู่บารมีของพระนางจามเทวี ปฐมกษัตริย์แห่งนครหริภุญชัย ส่วนกู่ม้า เป็นสุสานม้าทรงของพระโอรสในพระนางจามเทวี
อ่านต่อพระสถูปเจดีย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราชราชานุสรณ์ จังหวัดเชียงใหม่ ประเทศไทย
พระสถูปเจดีย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราชราชานุสรณ์ (King Naresuan Stupa) เป็นอนุสรณ์สถานที่สร้างขึ้นในรูปแบบของสถูปเจดีย์พร้อมกับพระบรมรูปเพื่อรำลึกถึงคุณงามความดีของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช และรำลึกเหตุการณ์ครั้งที่สมเด็จพระนเรศวรมหาราชเคยเสด็จมาประทับแรมที่เมืองงายแห่งนี้ก่อนกรีฑาทัพต่อไปยังเมืองอังวะของพม่าเมื่อปี พ.ศ. 2147 โดยสร้างขึ้นในบริเวณที่เคยเป็นเส้นทางเดินทัพเมื่อในอดีต นักท่องเที่ยวและชาวเมืองเชียงใหม่นิยมมาสักการะและขอพร นอกจากนี้ ภายในบริเวณยังมีส่วนนิทรรศการค่ายหลวงจำลองที่ประทับของสมเด็จพระนเรศวรมหาราชซึ่งกรมศิลปากรจัดสร้างขึ้นเพื่อให้ประชาชนทั่วไปได้เที่ยวชมและเรียนรู้ประวัติศาสตร์อีกด้วย
อ่านต่อน้ำตกแม่สา จังหวัดเชียงใหม่ ประเทศไทย
น้ำตกแม่สา (Mae Sa Waterfall) เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย และเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติยอดนิยมในอำเภอแม่ริม น้ำตกแห่งนี้เป็นน้ำตกขนาดใหญ่มีอยู่ด้วยกันทั้งหมด 10 ชั้น สามารถเดินขึ้นไปชมความงดงามในแต่ละชั้นได้ตามทางเดินที่ทางอุทยานจัดทำไว้ให้ และหากใครสนใจเล่นน้ำคลายร้อนก็สามารถลงเล่นน้ำได้เช่นกัน โดยชั้นที่เป็นที่นิยมคือชั้นที่ 3-6 เพราะค่อนข้างปลอดภัยและสามารถเล่นได้ทั้งครอบครัว นอกจากนี้ภายในบริเวณยังมีร้านค้า ร้านอาหาร และห้องน้ำให้บริการอีกด้วย
อ่านต่อ