ศาลเจ้าปู่-ย่า จังหวัดอุดรธานี ประเทศไทย

  • อ่าน (9,284)
  • ByWebmaster
  • 10:29:26 | 8 พ.ค. 2564

ศาลเจ้าปู่-ย่า จังหวัดอุดรธานี ประเทศไทย

Chao Pu-Ya Shrine, Udon Thani, Thailand

 

             ศาลเจ้าปู่ย่า (Chao Pu-Ya Shrine) สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวอุดรเชื้อสายจีนให้ความเคารพนับถือมายาวนาน เป็นจุดศูนย์รวมการอนุรักษ์ศิลปะ วัฒนธรรม วิถีบรรพชนและหลักปรัชญาของพี่น้องชาวไทยเชื้อสายจีน ท่ามกลางสถาปัตยกรรมและบรรยากาศที่สวยงามควรค่าแก่การไปเยี่ยมชม

 


ประวัติ

             ศาลเจ้าปู่ย่า ตั้งอยู่หลังสถานีรถไฟใกล้ตลาดหนองบัว ถนนนิตโย เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวอุดรเชื้อสายจีนเคารพนับถือมายาวนาน สันนิษฐานว่าก่อตั้งขึ้นเมื่อพ.ศ. 2488 โดยกลุ่มพ่อค้าชาวจีนที่ได้อัญเชิญผงธูปมาประทับที่ศาลไม้เล็กๆ ริมฝั่งหนองบัว ซึ่งก็คือที่ตั้งของศาลเจ้าปู่ย่าในปัจจุบัน ภายหลังได้ขยับขยายพื้นที่จนกลายเป็นศูนย์วัฒนธรรมไทย-จีน ด้วยการรวบรวมกำลังทรัพย์จากผู้มีจิตศรัทธาเพื่อซื้อที่ดินบริเวณด้านหน้าทางเข้าศาลเจ้าด้านทิศตะวันออกซึ่งเป็นโรงน้ำแข็งเก่า การสร้างศูนย์วัฒนธรรมไทย-จีนมีวัตถุประสงค์เพื่อให้เป็นจุดศูนย์รวมการอนุรักษ์ศิลปะ วัฒนธรรม วิถีบรรพชนและหลักปรัชญาของพี่น้องชาวไทยเชื้อสายจีนในจังหวัดอุดรธานี  ศาลเจ้าปู่-ย่า เป็นศาลเจ้าของชาวจีนที่ใหญ่โตและสวยงาม มีสวนหย่อมริมหนองบัว บริเวณโดยรอบศาลาชมวิวกลางน้ำ 2 หลังมีบรรยากาศร่มรื่น และภายในศาลเจ้าปู่-ย่าแห่งนี้ยังเป็นที่เก็บรักษามังกรทองยาวถึง 99 เมตร ซึ่งใช้แสดงในงานทุ่งศรีเมืองในช่วงเดือนธันวาคมของทุกปีอีกด้วย

             การกราบไหว้ขอพรศาลเจ้าปู่-ย่านั้นนอกจากกราบไหว้ด้วยธูป 30 ดอกแล้ว ยังมีความเชื่อที่ปฏิบัติกันคือต้องถวายส้ม 4 ลูก โดยเมื่อกราบไหว้ครบทั้ง 6 จุด ได้แก่ 1.ทีกง 2. ปึงเถ่ากงม่า 3.ศาลเจ้าพ่อหนองบัว 4.ตี่จู๋เอี๊ย 5.พระสังกัจจายน์ 6.ฉั่งง่วนส่วย แล้วให้เดินไปที่สะพานเก้าเลี้ยวซึ่งเชื่อกันว่าเป็นจุดเชื่อมต่อสวรรค์และเป็นจุดที่องค์เทพเจ้าจะรับรู้ว่าขอพรสิ่งใดไป เสร็จแล้วให้มากราบลาศาลปู่-ย่า พร้อมนำส้มกลับมาด้วย 2 ลูก

             บริเวณใกล้ๆ กันกับศาลเจ้าปู่-ย่า เป็นศูนย์วัฒนธรรมไทย-จีน ภายนอกจัดพื้นที่เป็น “สวนคุณธรรมพันปี 24 กตัญญู” ท่ามกลางแมกไม้มงคล อาทิ ต้นเครามังกร ต้นหลิว ต้นไผ่ดำ ประทัดจีน หงส์ฟู่ ฯลฯ รวมทั้งบ่อปลาคาร์ฟจักรพรรดิ รอบสระบัวตกแต่งด้วยประติมากรรมนูนสูงที่บอกเล่าเรื่องราวตำนานสุดยอด 24 กตัญญูของแผ่นดินจีน พร้อมคำบรรยายภาษาไทยและจีน ส่วนภายในพิพิธภัณฑ์คุณธรรม จัดแสดงเรื่องราวของคนไทยเชื้อสายจีนที่เข้ามาตั้งรกรากในจังหวัดอุดรธานีเมื่อ 120 ปีก่อน ผ่านภาพยนตร์ 3 มิติเรื่องราวความเป็นมาของพลังศรัทธาต่อองค์เทพเจ้าปู่-ย่า เรื่องราวของธุรกิจการค้าในอดีต การรวมตัวของ 9 องค์กร 11 ตระกูลแซ่ ฯลฯ ที่น่าสนใจแวะควรแก่การเข้าไปเยี่ยมชมหากมีเวลา

 
บรรยากาศศาลาชมวิวริมหนองบัวบริเวณติดกับศาลเจ้าปู่ – ย่า

 
ศาลเจ้าปู่-ย่า เป็นศาลเจ้าของชาวจีนที่ใหญ่โตและมีสถาปัตยกรรมสวยงามมาก

 
มองจากตัวอาคารออกไปด้านนอก

 
สิ่งศักดิ์สิทธิ์จุดที่ 1 "ทีตีแป่บ้อ" เรียกสั้นๆ ว่า "ทีกง" หรือ ชื่อภาษาไทย คือ "ศาลเทพยดาฟ้าดิน”

 
สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่  2 คือ "ปึงเถ่ากงม่า" หรือ ชื่อภาษาไทย คือ "เจ้าปู่เจ้าย่า ลูกหลานชาวอุดรส่วนใหญ่มากราบไหว้เพื่อความเป็นสิริมงคลและขอพรให้สมปรารถนาอยู่เสมอ

 
สิ่งศักดิ์สิทธิ์จุดที่ 3 – จุดที่ 6

             สิ่งศักดิ์สิทธิ์แห่งที่ 3 คือ ศาลเจ้าพ่อหนองบัว เนื่องจากที่ตั้งของศาลเจ้าปู่-ย่านั้นตั้งอยู่ริมหนองบัว จึงได้มีการอัญเชิญเจ้าพ่อหนองบัวมาสถิตอยู่ภายในบริเวณศาลเจ้าปู่-ย่า

             สิ่งศักดิ์สิทธิ์แห่งที่ 4 คือ "ตี่จู๋เอี๊ย" หรือ ภาษาไทยเรียก “เจ้าที่เจ้าทาง” ซึ่งก็คือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่คอยปกปักรักษาดูแลสถานที่นั้นๆ    

             สิ่งศักดิ์สิทธิ์แห่งที่ 5 คือ พระสังกัจจายน์ ขุดพบใต้ต้นไทรในบริเวณศาลเจ้าปู่-ย่าเมื่อพ.ศ.2530

             สิ่งศักดิ์สิทธิ์แห่งที่ 6 คือ "ฉั่งง่วนส่วย" เป็นองค์เทพแห่งปัญญาและเชี่ยวชาญในการปราชญ์ เป็นที่นิยมสักการะของนักเรียน นักศึกษา หรือผู้ที่จะไปสอบแข่งขัน


การเดินทางไปจังหวัดอุดรธานี

 

             - เครื่องบิน (Flight) การเดินทางโดยเครื่องบินจากสนามบินดอนเมืองและสุวรรณภูมิ ไปสนามบินจังหวัดอุดรธานีใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง

             - รถยนต์ (Car/ Bus) การเดินทางโดยรถยนต์จากกรุงเทพฯ ไปจังหวัดอุดรธานี มีระยะทาง 576 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 8 ชั่วโมง  

             - รถไฟ (Train) การเดินทางโดยรถไฟจากกรุงเทพฯ ไปจังหวัดอุดรธานี ใช้เวลาเร็วสุดประมาณ 10 ชั่วโมง ทั้งนี้อาจใช้เวลานานกว่านี้ขึ้นอยู่กับประเภทของรถไฟ


การเดินทางไปศาลเจ้าปู่ย่า

             ศาลเจ้าปู่-ย่า ตั้งอยู่หลังสถานีรถไฟใกล้ตลาดหนองบัว ถนนนิตโย อยู่ห่างจากสถานีขนส่งจังหวัดประมาณ 6 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางโดยรถยนต์ 15 นาที  


เวลาทำการเปิด – ปิด

             เปิดทุกวัน เวลา 09.00 -19.00 น.

 
บรรยากาศสวยงามรอบๆ ศาลเจ้าปู่ – ย่ายามพลบค่ำ 


อัตราค่าเข้าชม

             ไม่เสียค่าเข้าชม


สิ่งที่ไม่ควรพลาดเมื่อไปเที่ยวศาลเจ้าปู่ย่า

             กราบสักการะศาลเจ้าปู่ย่าเพื่อความเป็นสิริมงคล และเยี่ยมชมเรื่องราวน่าสนใจภายในศูนย์วัฒนธรรมไทย-จีน

 
การกราบไหว้ขอพรศาลเจ้าปู่-ย่านั้นนอกจากกราบไหว้ด้วยธูป 30 ดอกแล้ว ยังมีความเชื่อที่ปฏิบัติกันคือต้องถวายส้ม 4 ลูก


เวลาที่เหมาะสมสำหรับการท่องเที่ยว

             สามารถเที่ยวได้ตลอดปี

 


             
นักท่องเที่ยวที่สนใจไปเที่ยวชม ศาลเจ้าปู่-ย่า สามารถศึกษา ข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่

                         ศาลเจ้าปู่-ย่า จังหวัดอุดรธานี ประเทศไทย

                         (Chao Pu-Ya Shrine, Udon Thani, Thailand)

                         ระดับความนิยม : 

                         อัตราค่าเข้าชม :  ไม่เสียค่าเข้าชม

                         เวลาทำการเปิด – ปิด : เปิดทุกวัน เวลา 09.00-19.00 น.

                         ตั้งอยู่ที่ : ต.หมากแข้ง อ.เมืองอุดรธานี จ.อุดรธานี

                         โทรศัพท์ : (+66) 042 242 444, 082 707 0666

                         เว็บไซต์ : -

                         ข้อมูลอื่นๆ ที่ควรรู้ : พยากรณ์อากาศ https://www.accuweather.com 

                                       ศูนย์ข้อมูลนักท่องเที่ยวจังหวัดอุดรธานี https://udonthani.mots.go.th

                                       ศูนย์ข้อมูลการเดินทางจังหวัดอุดรธานี https://www.dlt.go.th/site/udonthani/m-about/6907

                                       ศูนย์บริการข้อมูลท่องเที่ยวประเทศไทย https://thai.tourismthailand.org

 

สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ

อุทยานแห่งชาติภูผาเทิบ จังหวัดมุกดาหาร ประเทศไทย

อุทยานแห่งชาติภูผาเทิบ (Phu Pha Toep National Park) หรือ อุทยานแห่งชาติมุกดาหาร เป็นหนึ่งในอุทยานที่มีขนาดพื้นที่เล็กที่สุดในประเทศไทย โดยอุทยานแห่งนี้เป็นที่ตั้งของหินรูปทรงประหลาดและถ้ำที่มีจิตรกรรมวาดด้วยมือ

อ่านต่อ

ภูห้วยอีสัน จังหวัดหนองคาย ประเทศไทย

ภูห้วยอีสัน (Phu Huai Isan) เป็นจุดชมวิวทะเลหมอกแห่งใหม่ที่กำลังได้รับความนิยมอย่างมากในช่วงปลายฝนต้นหนาว ด้วยวิวทิวทัศน์ที่สวยงามของทะเลหมอกลอยละล่องเหนือสายน้ำโขง และขุนเขาสลับซับซ้อน ทำให้ที่นี่เป็นจุดหมายปลายทางที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาดเมื่อมาจังหวัดหนองคาย

อ่านต่อ

อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม จังหวัดชัยภูมิ ประเทศไทย

อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม (Pa Hin Ngam National Park) จังหวัดชัยภูมิ เป็นอุทยานแห่งชาติที่มีสภาพป่าสมบูรณ์และมีจุดเด่นทางธรรมชาติที่สวยงามหลายแห่ง โดยเฉพาะทุ่งดอกกระเจียวที่จะออกดอกสีชมพูอมม่วงบานสะพรั่งไปทั่วผืนป่าในช่วงต้นฤดูฝน ประมาณเดือนมิถุนายนถึงเดือนสิงหาคมของทุกปี

อ่านต่อ

ปราสาทพนมวัน จังหวัดนครราชสีมา ประเทศไทย

ปราสาทพนมวัน (Prasat Phanom Wan) อีกหนึ่งปราสาทหินเก่าแก่ในจังหวัดนครราชสีมาที่สร้างขึ้นครั้งแรกตั้งแต่สมัยพุทธศตวรรษที่ 15 เพื่อเป็นเทวสถาน ปราสาทหินแห่งนี้ถือเป็นปราสาทหินที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 5 ของประเทศไทย

อ่านต่อ

5 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในจังหวัดยโสธร ประเทศไทย

จังหวัดยโสธรเป็นจังหวัดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่างของไทยที่ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำชี จังหวัดยโสธรมีสถานที่ท่องเที่ยวเชิงศาสนาและวัฒนธรรมหลายแห่ง เพราะเป็นเมืองที่ผ่านประวัติศาสตร์มาอย่างยาวนานตั้งแต่สมัยทวาราวดี วันนี้ทาง Palanla จึงได้รวบรวมสถานที่ที่เป็นไฮไลท์ของจังหวัดยโสธรมาฝากทุกท่านไว้ในบทความนี้

อ่านต่อ

วัดพระพุทธบาทยโสธร จังหวัดยโสธร ประเทศไทย

วัดพระพุทธบาทยโสธร (Wat Phra Buddhabat Yasothon) เป็นวัดที่มีความสวยงามจากหมู่อาคารสีขาวท่ามกลางบรรยากาศที่เงียบสงบ นักท่องเที่ยวที่มาเยือนนิยมมาเที่ยวชมวัดและสักการะโบราณวัตถุทางพุทธศาสนาอันได้แก่ รอยพระพุทธบาท พระพุทธรูปปางนาคปรก และศิลาจารึกโบราณที่มีอายุราวห้าร้อยปี รวมทั้งพระพุทธรูปหยกขาวที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยที่ประดิษฐานอยู่ในพระอุโบสถ และพระบรมสารีริกธาตุที่ประดิษฐานอยู่ภายในเจดีย์ของวัดอีกด้วย วัดแห่งนี้จึงเป็นอีกหนึ่งวัดดังของจังหวัดยโสธรที่ควรค่าต่อการมาเที่ยวชมเป็นอย่างยิ่ง

อ่านต่อ

8 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในจังหวัดศรีสะเกษ ประเทศไทย

จังหวัดศรีสะเกษเป็นจังหวัดในภาคอีสานตอนล่างที่มีแหล่งท่องเที่ยวหลายแห่ง ทั้งสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ที่เป็นจุดชมวิวอันน่าประทับใจ ไปจนถึงแหล่งโบราณสถานอันทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์ และวัดวาอารามที่สร้างขึ้นอย่างงดงามให้เที่ยวชม วันนี้ทาง Palanla ได้รวบรวม 8 สถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นไฮไลท์ของจังหวัดศรีเกษมาฝากทุกท่านกันในบทความนี้

อ่านต่อ

ผามออีแดง จังหวัดศรีสะเกษ ประเทศไทย

ผามออีแดง (Pha Mor E Daeng) เป็นหน้าผาที่ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร เป็นจุดชมวิวที่มองเห็นปราสาทเขาพระวิหาร ป่าไม้ และบ้านเมืองของกัมพูชาที่อยู่ไกลออกไปได้ ในยามเช้าของช่วงปลายฝนต้นหนาวจะเป็นจุดชมทะเลหมอกที่สวยงาม ส่วนในยามพระอาทิตย์ตกดินจะมองเห็นฝูงค้างคาวบินออกมาจากถ้ำเพื่อหากิน นอกจากนี้ อีกหนึ่งไฮไลท์ของผามออีแดงคือภาพจิตรกรรมโบราณที่ถูกสลักไว้ริมหน้าผาซึ่งมีความเก่าแก่กว่าหนึ่งพันห้าร้อยปีทีเดียว ถือเป็น Unseen Thailand ที่คุ้มค่าต่อการมาเที่ยวชมเป็นอย่างยิ่ง

อ่านต่อ

น้ำตกสำโรงเกียรติ จังหวัดศรีสะเกษ ประเทศไทย

น้ำตกสำโรงเกียรติ (Samrong Kiat Waterfall) เป็นน้ำตกที่มีต้นกำเนิดจากเทือกเขาบรรทัด น้ำตกแห่งนี้มีเอกลักษณ์ตรงที่บริเวณด้านบนหน้าผาจะมีแอ่งลานหินขนาดใหญ่รองรับธารน้ำเอาไว้ก่อนที่จะไหลตกลงมาตามชั้นหน้าผา น้ำตกสำโรงเกียรติมีน้ำไหลตลอดปี และจะมีน้ำมากที่สุดในช่วงฤดูฝน บรรยากาศโดยรอบมีความร่มรื่นจากป่าไม้ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เหมาะกับการมาเล่นน้ำ นั่งพักผ่อนหย่อนใจ และถ่ายภาพสวยๆ ได้อย่างเพลิดเพลิน

อ่านต่อ

เกาะกลางน้ำ จังหวัดศรีสะเกษ ประเทศไทย

เกาะกลางน้ำ (Koh Klang Nam) เป็นเกาะที่อยู่ใจกลางอ่างเก็บน้ำห้วยน้ำคำในอำเภอเมืองศรีสะเกษ บนเกาะแห่งนี้เป็นสวนสาธาณะขนาดใหญ่และเป็นที่ตั้งของอาคารสำคัญหลายแห่ง เช่น หอศรีลำดวนเฉลิมพระเกียรติที่เป็นหอชมเมืองศรีสะเกษได้รอบทิศ และศรีสะเกษอควาเรียมซึ่งเป็นศูนย์แสดงพันธุ์สัตว์น้ำที่ใหญ่ที่สุดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่นี่จึงเป็นทั้งสถานที่ท่องเที่ยวและสถานที่พักผ่อนหย่อนใจของจังหวัดศรีสะเกษอีกแห่งหนึ่งที่นักท่องเที่ยวให้ความสนใจมาเที่ยวชมเป็นอย่างมาก

อ่านต่อ
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ