- หน้าแรก
- ท่องเที่ยวในประเทศ
- ศาลเจ้าปู่-ย่า จังหวัดอุดรธานี ประเทศไทย
ศาลเจ้าปู่-ย่า จังหวัดอุดรธานี ประเทศไทย
- อ่าน (9,094)
- ByWebmaster
- 10:29:26 | 8 พ.ค. 2564
ศาลเจ้าปู่-ย่า จังหวัดอุดรธานี ประเทศไทย
Chao Pu-Ya Shrine, Udon Thani, Thailand
ศาลเจ้าปู่ย่า (Chao Pu-Ya Shrine) สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวอุดรเชื้อสายจีนให้ความเคารพนับถือมายาวนาน เป็นจุดศูนย์รวมการอนุรักษ์ศิลปะ วัฒนธรรม วิถีบรรพชนและหลักปรัชญาของพี่น้องชาวไทยเชื้อสายจีน ท่ามกลางสถาปัตยกรรมและบรรยากาศที่สวยงามควรค่าแก่การไปเยี่ยมชม
ประวัติ
ศาลเจ้าปู่ย่า ตั้งอยู่หลังสถานีรถไฟใกล้ตลาดหนองบัว ถนนนิตโย เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวอุดรเชื้อสายจีนเคารพนับถือมายาวนาน สันนิษฐานว่าก่อตั้งขึ้นเมื่อพ.ศ. 2488 โดยกลุ่มพ่อค้าชาวจีนที่ได้อัญเชิญผงธูปมาประทับที่ศาลไม้เล็กๆ ริมฝั่งหนองบัว ซึ่งก็คือที่ตั้งของศาลเจ้าปู่ย่าในปัจจุบัน ภายหลังได้ขยับขยายพื้นที่จนกลายเป็นศูนย์วัฒนธรรมไทย-จีน ด้วยการรวบรวมกำลังทรัพย์จากผู้มีจิตศรัทธาเพื่อซื้อที่ดินบริเวณด้านหน้าทางเข้าศาลเจ้าด้านทิศตะวันออกซึ่งเป็นโรงน้ำแข็งเก่า การสร้างศูนย์วัฒนธรรมไทย-จีนมีวัตถุประสงค์เพื่อให้เป็นจุดศูนย์รวมการอนุรักษ์ศิลปะ วัฒนธรรม วิถีบรรพชนและหลักปรัชญาของพี่น้องชาวไทยเชื้อสายจีนในจังหวัดอุดรธานี ศาลเจ้าปู่-ย่า เป็นศาลเจ้าของชาวจีนที่ใหญ่โตและสวยงาม มีสวนหย่อมริมหนองบัว บริเวณโดยรอบศาลาชมวิวกลางน้ำ 2 หลังมีบรรยากาศร่มรื่น และภายในศาลเจ้าปู่-ย่าแห่งนี้ยังเป็นที่เก็บรักษามังกรทองยาวถึง 99 เมตร ซึ่งใช้แสดงในงานทุ่งศรีเมืองในช่วงเดือนธันวาคมของทุกปีอีกด้วย
การกราบไหว้ขอพรศาลเจ้าปู่-ย่านั้นนอกจากกราบไหว้ด้วยธูป 30 ดอกแล้ว ยังมีความเชื่อที่ปฏิบัติกันคือต้องถวายส้ม 4 ลูก โดยเมื่อกราบไหว้ครบทั้ง 6 จุด ได้แก่ 1.ทีกง 2. ปึงเถ่ากงม่า 3.ศาลเจ้าพ่อหนองบัว 4.ตี่จู๋เอี๊ย 5.พระสังกัจจายน์ 6.ฉั่งง่วนส่วย แล้วให้เดินไปที่สะพานเก้าเลี้ยวซึ่งเชื่อกันว่าเป็นจุดเชื่อมต่อสวรรค์และเป็นจุดที่องค์เทพเจ้าจะรับรู้ว่าขอพรสิ่งใดไป เสร็จแล้วให้มากราบลาศาลปู่-ย่า พร้อมนำส้มกลับมาด้วย 2 ลูก
บริเวณใกล้ๆ กันกับศาลเจ้าปู่-ย่า เป็นศูนย์วัฒนธรรมไทย-จีน ภายนอกจัดพื้นที่เป็น “สวนคุณธรรมพันปี 24 กตัญญู” ท่ามกลางแมกไม้มงคล อาทิ ต้นเครามังกร ต้นหลิว ต้นไผ่ดำ ประทัดจีน หงส์ฟู่ ฯลฯ รวมทั้งบ่อปลาคาร์ฟจักรพรรดิ รอบสระบัวตกแต่งด้วยประติมากรรมนูนสูงที่บอกเล่าเรื่องราวตำนานสุดยอด 24 กตัญญูของแผ่นดินจีน พร้อมคำบรรยายภาษาไทยและจีน ส่วนภายในพิพิธภัณฑ์คุณธรรม จัดแสดงเรื่องราวของคนไทยเชื้อสายจีนที่เข้ามาตั้งรกรากในจังหวัดอุดรธานีเมื่อ 120 ปีก่อน ผ่านภาพยนตร์ 3 มิติเรื่องราวความเป็นมาของพลังศรัทธาต่อองค์เทพเจ้าปู่-ย่า เรื่องราวของธุรกิจการค้าในอดีต การรวมตัวของ 9 องค์กร 11 ตระกูลแซ่ ฯลฯ ที่น่าสนใจแวะควรแก่การเข้าไปเยี่ยมชมหากมีเวลา
บรรยากาศศาลาชมวิวริมหนองบัวบริเวณติดกับศาลเจ้าปู่ – ย่า
ศาลเจ้าปู่-ย่า เป็นศาลเจ้าของชาวจีนที่ใหญ่โตและมีสถาปัตยกรรมสวยงามมาก
มองจากตัวอาคารออกไปด้านนอก
สิ่งศักดิ์สิทธิ์จุดที่ 1 "ทีตีแป่บ้อ" เรียกสั้นๆ ว่า "ทีกง" หรือ ชื่อภาษาไทย คือ "ศาลเทพยดาฟ้าดิน”
สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ 2 คือ "ปึงเถ่ากงม่า" หรือ ชื่อภาษาไทย คือ "เจ้าปู่เจ้าย่า ลูกหลานชาวอุดรส่วนใหญ่มากราบไหว้เพื่อความเป็นสิริมงคลและขอพรให้สมปรารถนาอยู่เสมอ
สิ่งศักดิ์สิทธิ์จุดที่ 3 – จุดที่ 6
สิ่งศักดิ์สิทธิ์แห่งที่ 3 คือ ศาลเจ้าพ่อหนองบัว เนื่องจากที่ตั้งของศาลเจ้าปู่-ย่านั้นตั้งอยู่ริมหนองบัว จึงได้มีการอัญเชิญเจ้าพ่อหนองบัวมาสถิตอยู่ภายในบริเวณศาลเจ้าปู่-ย่า
สิ่งศักดิ์สิทธิ์แห่งที่ 4 คือ "ตี่จู๋เอี๊ย" หรือ ภาษาไทยเรียก “เจ้าที่เจ้าทาง” ซึ่งก็คือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่คอยปกปักรักษาดูแลสถานที่นั้นๆ
สิ่งศักดิ์สิทธิ์แห่งที่ 5 คือ พระสังกัจจายน์ ขุดพบใต้ต้นไทรในบริเวณศาลเจ้าปู่-ย่าเมื่อพ.ศ.2530
สิ่งศักดิ์สิทธิ์แห่งที่ 6 คือ "ฉั่งง่วนส่วย" เป็นองค์เทพแห่งปัญญาและเชี่ยวชาญในการปราชญ์ เป็นที่นิยมสักการะของนักเรียน นักศึกษา หรือผู้ที่จะไปสอบแข่งขัน
การเดินทางไปจังหวัดอุดรธานี
- เครื่องบิน (Flight) การเดินทางโดยเครื่องบินจากสนามบินดอนเมืองและสุวรรณภูมิ ไปสนามบินจังหวัดอุดรธานีใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง
- รถยนต์ (Car/ Bus) การเดินทางโดยรถยนต์จากกรุงเทพฯ ไปจังหวัดอุดรธานี มีระยะทาง 576 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 8 ชั่วโมง
- รถไฟ (Train) การเดินทางโดยรถไฟจากกรุงเทพฯ ไปจังหวัดอุดรธานี ใช้เวลาเร็วสุดประมาณ 10 ชั่วโมง ทั้งนี้อาจใช้เวลานานกว่านี้ขึ้นอยู่กับประเภทของรถไฟ
การเดินทางไปศาลเจ้าปู่ย่า
ศาลเจ้าปู่-ย่า ตั้งอยู่หลังสถานีรถไฟใกล้ตลาดหนองบัว ถนนนิตโย อยู่ห่างจากสถานีขนส่งจังหวัดประมาณ 6 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางโดยรถยนต์ 15 นาที
เวลาทำการเปิด – ปิด
เปิดทุกวัน เวลา 09.00 -19.00 น.
บรรยากาศสวยงามรอบๆ ศาลเจ้าปู่ – ย่ายามพลบค่ำ
อัตราค่าเข้าชม
ไม่เสียค่าเข้าชม
สิ่งที่ไม่ควรพลาดเมื่อไปเที่ยวศาลเจ้าปู่ย่า
กราบสักการะศาลเจ้าปู่ย่าเพื่อความเป็นสิริมงคล และเยี่ยมชมเรื่องราวน่าสนใจภายในศูนย์วัฒนธรรมไทย-จีน
การกราบไหว้ขอพรศาลเจ้าปู่-ย่านั้นนอกจากกราบไหว้ด้วยธูป 30 ดอกแล้ว ยังมีความเชื่อที่ปฏิบัติกันคือต้องถวายส้ม 4 ลูก
เวลาที่เหมาะสมสำหรับการท่องเที่ยว
สามารถเที่ยวได้ตลอดปี
นักท่องเที่ยวที่สนใจไปเที่ยวชม ศาลเจ้าปู่-ย่า สามารถศึกษา ข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่
ศาลเจ้าปู่-ย่า จังหวัดอุดรธานี ประเทศไทย
(Chao Pu-Ya Shrine, Udon Thani, Thailand)
ระดับความนิยม :
อัตราค่าเข้าชม : ไม่เสียค่าเข้าชม
เวลาทำการเปิด – ปิด : เปิดทุกวัน เวลา 09.00-19.00 น.
ตั้งอยู่ที่ : ต.หมากแข้ง อ.เมืองอุดรธานี จ.อุดรธานี
โทรศัพท์ : (+66) 042 242 444, 082 707 0666
เว็บไซต์ : -
ข้อมูลอื่นๆ ที่ควรรู้ : พยากรณ์อากาศ https://www.accuweather.com
ศูนย์ข้อมูลนักท่องเที่ยวจังหวัดอุดรธานี https://udonthani.mots.go.th
ศูนย์ข้อมูลการเดินทางจังหวัดอุดรธานี https://www.dlt.go.th/site/udonthani/m-about/6907
ศูนย์บริการข้อมูลท่องเที่ยวประเทศไทย https://thai.tourismthailand.org
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ
อุทยานแห่งชาติภูผาเทิบ จังหวัดมุกดาหาร ประเทศไทย
อุทยานแห่งชาติภูผาเทิบ (Phu Pha Toep National Park) หรือ อุทยานแห่งชาติมุกดาหาร เป็นหนึ่งในอุทยานที่มีขนาดพื้นที่เล็กที่สุดในประเทศไทย โดยอุทยานแห่งนี้เป็นที่ตั้งของหินรูปทรงประหลาดและถ้ำที่มีจิตรกรรมวาดด้วยมือ
อ่านต่อภูห้วยอีสัน จังหวัดหนองคาย ประเทศไทย
ภูห้วยอีสัน (Phu Huai Isan) เป็นจุดชมวิวทะเลหมอกแห่งใหม่ที่กำลังได้รับความนิยมอย่างมากในช่วงปลายฝนต้นหนาว ด้วยวิวทิวทัศน์ที่สวยงามของทะเลหมอกลอยละล่องเหนือสายน้ำโขง และขุนเขาสลับซับซ้อน ทำให้ที่นี่เป็นจุดหมายปลายทางที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาดเมื่อมาจังหวัดหนองคาย
อ่านต่ออุทยานแห่งชาติป่าหินงาม จังหวัดชัยภูมิ ประเทศไทย
อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม (Pa Hin Ngam National Park) จังหวัดชัยภูมิ เป็นอุทยานแห่งชาติที่มีสภาพป่าสมบูรณ์และมีจุดเด่นทางธรรมชาติที่สวยงามหลายแห่ง โดยเฉพาะทุ่งดอกกระเจียวที่จะออกดอกสีชมพูอมม่วงบานสะพรั่งไปทั่วผืนป่าในช่วงต้นฤดูฝน ประมาณเดือนมิถุนายนถึงเดือนสิงหาคมของทุกปี
อ่านต่อปราสาทพนมวัน จังหวัดนครราชสีมา ประเทศไทย
ปราสาทพนมวัน (Prasat Phanom Wan) อีกหนึ่งปราสาทหินเก่าแก่ในจังหวัดนครราชสีมาที่สร้างขึ้นครั้งแรกตั้งแต่สมัยพุทธศตวรรษที่ 15 เพื่อเป็นเทวสถาน ปราสาทหินแห่งนี้ถือเป็นปราสาทหินที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 5 ของประเทศไทย
อ่านต่อ5 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในจังหวัดยโสธร ประเทศไทย
จังหวัดยโสธรเป็นจังหวัดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่างของไทยที่ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำชี จังหวัดยโสธรมีสถานที่ท่องเที่ยวเชิงศาสนาและวัฒนธรรมหลายแห่ง เพราะเป็นเมืองที่ผ่านประวัติศาสตร์มาอย่างยาวนานตั้งแต่สมัยทวาราวดี วันนี้ทาง Palanla จึงได้รวบรวมสถานที่ที่เป็นไฮไลท์ของจังหวัดยโสธรมาฝากทุกท่านไว้ในบทความนี้
อ่านต่อวัดพระพุทธบาทยโสธร จังหวัดยโสธร ประเทศไทย
วัดพระพุทธบาทยโสธร (Wat Phra Buddhabat Yasothon) เป็นวัดที่มีความสวยงามจากหมู่อาคารสีขาวท่ามกลางบรรยากาศที่เงียบสงบ นักท่องเที่ยวที่มาเยือนนิยมมาเที่ยวชมวัดและสักการะโบราณวัตถุทางพุทธศาสนาอันได้แก่ รอยพระพุทธบาท พระพุทธรูปปางนาคปรก และศิลาจารึกโบราณที่มีอายุราวห้าร้อยปี รวมทั้งพระพุทธรูปหยกขาวที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยที่ประดิษฐานอยู่ในพระอุโบสถ และพระบรมสารีริกธาตุที่ประดิษฐานอยู่ภายในเจดีย์ของวัดอีกด้วย วัดแห่งนี้จึงเป็นอีกหนึ่งวัดดังของจังหวัดยโสธรที่ควรค่าต่อการมาเที่ยวชมเป็นอย่างยิ่ง
อ่านต่อ8 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในจังหวัดศรีสะเกษ ประเทศไทย
จังหวัดศรีสะเกษเป็นจังหวัดในภาคอีสานตอนล่างที่มีแหล่งท่องเที่ยวหลายแห่ง ทั้งสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ที่เป็นจุดชมวิวอันน่าประทับใจ ไปจนถึงแหล่งโบราณสถานอันทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์ และวัดวาอารามที่สร้างขึ้นอย่างงดงามให้เที่ยวชม วันนี้ทาง Palanla ได้รวบรวม 8 สถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นไฮไลท์ของจังหวัดศรีเกษมาฝากทุกท่านกันในบทความนี้
อ่านต่อผามออีแดง จังหวัดศรีสะเกษ ประเทศไทย
ผามออีแดง (Pha Mor E Daeng) เป็นหน้าผาที่ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร เป็นจุดชมวิวที่มองเห็นปราสาทเขาพระวิหาร ป่าไม้ และบ้านเมืองของกัมพูชาที่อยู่ไกลออกไปได้ ในยามเช้าของช่วงปลายฝนต้นหนาวจะเป็นจุดชมทะเลหมอกที่สวยงาม ส่วนในยามพระอาทิตย์ตกดินจะมองเห็นฝูงค้างคาวบินออกมาจากถ้ำเพื่อหากิน นอกจากนี้ อีกหนึ่งไฮไลท์ของผามออีแดงคือภาพจิตรกรรมโบราณที่ถูกสลักไว้ริมหน้าผาซึ่งมีความเก่าแก่กว่าหนึ่งพันห้าร้อยปีทีเดียว ถือเป็น Unseen Thailand ที่คุ้มค่าต่อการมาเที่ยวชมเป็นอย่างยิ่ง
อ่านต่อน้ำตกสำโรงเกียรติ จังหวัดศรีสะเกษ ประเทศไทย
น้ำตกสำโรงเกียรติ (Samrong Kiat Waterfall) เป็นน้ำตกที่มีต้นกำเนิดจากเทือกเขาบรรทัด น้ำตกแห่งนี้มีเอกลักษณ์ตรงที่บริเวณด้านบนหน้าผาจะมีแอ่งลานหินขนาดใหญ่รองรับธารน้ำเอาไว้ก่อนที่จะไหลตกลงมาตามชั้นหน้าผา น้ำตกสำโรงเกียรติมีน้ำไหลตลอดปี และจะมีน้ำมากที่สุดในช่วงฤดูฝน บรรยากาศโดยรอบมีความร่มรื่นจากป่าไม้ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เหมาะกับการมาเล่นน้ำ นั่งพักผ่อนหย่อนใจ และถ่ายภาพสวยๆ ได้อย่างเพลิดเพลิน
อ่านต่อเกาะกลางน้ำ จังหวัดศรีสะเกษ ประเทศไทย
เกาะกลางน้ำ (Koh Klang Nam) เป็นเกาะที่อยู่ใจกลางอ่างเก็บน้ำห้วยน้ำคำในอำเภอเมืองศรีสะเกษ บนเกาะแห่งนี้เป็นสวนสาธาณะขนาดใหญ่และเป็นที่ตั้งของอาคารสำคัญหลายแห่ง เช่น หอศรีลำดวนเฉลิมพระเกียรติที่เป็นหอชมเมืองศรีสะเกษได้รอบทิศ และศรีสะเกษอควาเรียมซึ่งเป็นศูนย์แสดงพันธุ์สัตว์น้ำที่ใหญ่ที่สุดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่นี่จึงเป็นทั้งสถานที่ท่องเที่ยวและสถานที่พักผ่อนหย่อนใจของจังหวัดศรีสะเกษอีกแห่งหนึ่งที่นักท่องเที่ยวให้ความสนใจมาเที่ยวชมเป็นอย่างมาก
อ่านต่อ