10 สถานที่เที่ยวยอดนิยมในจังหวัดอุบลราชธานี ประเทศไทย

  • อ่าน (5,921)
  • ByWebmaster
  • 16:28:36 | 21 เม.ย. 2564

10 สถานที่เที่ยวยอดนิยมในจังหวัดอุบลราชธานี ประเทศไทย

Top 10 Travel Destinations in Ubon Ratchathani, Thailand

 

             จังหวัดอุบลราชธานีตั้งอยู่ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง เป็น จังหวัดที่มีพื้นที่ใหญ่เป็นอันดับสองของภาคอีสานรองจากจังหวัดนครราชสีมา มีพรมแดนติดกับประเทศลาวโดยมีแม่น้ำโขงเป็นเส้นแบ่งเขตแดน จังหวัดอุบลราชธานีมีสภาพภูมิประเทศที่หลากหลายโดยมีทั้งที่ราบสูงอย่างเทือกเขาบรรทัดและทิวเขาพนมดงรัก และยังมีภูเขาสลับซับซ้อนในชายแดนตอนใต้ซึ่งมีพรมแดนติดกับประเทศกัมพูชา มีแม่น้ำสายสำคัญคือ แม่น้ำมูลและแม่น้ำชี อีกทั้งยังมีเกาะแก่งริมแม่น้ำโขงที่สวยงามอยู่หลายแห่ง ด้วยสภาพทางธรรมชาติที่หลากหลายนี้จึงมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมาย เช่น อุทยานแห่งชาติผาแต้ม ผาชะนะได และสามพันโบก เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีวัดวาอาราม และอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่อย่างเขื่อนสิรินธร และสวนสาธารณะที่เป็นปอดแห่งใหญ่ของเมืองอุบลอย่างทุ่งศรีเมือง และมีประเพณีสำคัญคืองานแห่เทียนที่จะจัดขึ้นในช่วงวันอาสาฬหบูชาและเข้าพรรษาเป็นประจำทุกปี

             การเดินทางจากกรุงเทพไปยังจังหวัดอุบลราชธานีนั้นสามารถเดินทางได้หลายทางทั้งทางเครื่องบิน รถยนต์ รถทัวร์ และรถไฟ ขึ้นอยู่กับความสะดวกและความชอบของนักท่องเที่ยว

คำขวัญจังหวัดอุบลราชธานี

เมืองดอกบัวงาม แม่น้ำสองสี มีปลาแซบหลาย หาดทรายแก่งหิน ถิ่นไทยนักปราชญ์ ทวยราษฎร์ใฝ่ธรรม งามล้ำเทียนพรรษา ผาแต้มก่อนประวัติศาสตร์

 
แผนที่ 10 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในจังหวัดอุบลราชธานี


1. ต้นเทียนเฉลิมพระเกียรติ ทุ่งศรีเมือง (Ton Thien Chalerm Phrakiat at Thung Sri Mueang)

 

             ทุ่งศรีเมืองเป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่ที่เปรียบเสมือนปอดแห่งใหญ่ของเมืองอุบลฯ เป็นพื้นที่ที่ชาวเมืองนิยมมาพักผ่อนหย่อนใจและออกกำลังกาย อีกทั้งยังใช้เป็นสถานที่จัดงานเทศกาลและงานประจำเมืองต่างๆ ภายในทุ่งศรีเมืองมีแลนด์มาร์กของจังหวัดอุบลราชธานีตั้งอยู่บริเวณลานเทียนทุ่งศรีเมือง นั่นคือต้นเทียนพรรษาขนาดใหญ่ที่สร้างขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติเนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบของในหลวงรัชกาลที่ 9 ในวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2542 โดยสลักเป็นเรื่องราวจากพระราชนิพนธ์เรื่องพระมหาชนกที่ในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงนิพนธ์จากการดัดแปลงเนื้อเรื่องจากชาดกในทศชาติเรื่อง "พระมหาชนก" ที่ถ่ายทอดในเรื่องของความพากเพียร โดยต้นเทียนนี้ได้รับการแกะสลักอย่างงดงามและวิจิตรบรรจง และตั้งอยู่ที่นี่มาจนกลายเป็นแลนด์มาร์กแห่งทุ่งศรีเมือง

การเดินทาง : มีรถสองแถวท้องถิ่นวิ่งให้บริการในอำเภอเมืองอุบลราชธานี โดยจุดหลักๆ สามารถขึ้นได้จากตลาด สถานีขนส่ง และหน้าห้างสรรพสินค้า สามารถสอบถามเส้นทางและราคาได้จากคนขับ หรือถ้าอยู่บริเวณศาลหลักเมืองอุบลสามารถเดินไปยังทุ่งศรีเมืองได้ โดยมีระยะทางประมาณ 230 เมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 นาที

เวลาทำการเปิด-ปิด : เปิดตลอดเวลา

พิกัด GPS : 15°13'48.7"N 104°51'26.4"E

อ่านรายละเอียดเพื่มเติมเกี่ยวกับ ต้นเทียนเฉลิมพระเกียรติ ทุ่งศรีเมือง ได้ที่ : https://www.palanla.com/index.php?op=domesticLocation-detail&id=393


2. หาดพัทยาน้อย (Pattaya Noi)

 

             หาดพัทยาน้อยหรือที่เรียกกันว่า ทะเลอีสานใต้ เป็นสถานตากอากาศและแหล่งเล่นน้ำที่อยู่บริเวณริมอ่างเก็บน้ำในพื้นที่ของเขื่อนสิรินธร มีลักษณะเป็นบึงขนาดใหญ่ที่มีสันทรายกว้าง ซึ่งมองดูคล้ายกับชายทะเล จึงได้รับการตั้งชื่อว่าพัทยาน้อย โดยนักท่องเที่ยวที่มาเล่นน้ำจะสนุกสนานกับเครื่องเล่นแบบสวนน้ำสีสันสดใส และพักผ่อนหย่อนใจบนเรือนแพที่มีร้านอาหารไว้บริการมากมาย

การเดินทาง : จากบริเวณทุ่งศรีเมืองในตัวเมืองอุบลราชธานีไปยังหาดพัทยาน้อย มีระยะทางประมาณ 66.2 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง

เวลาทำการเปิด-ปิด : บริเวณริมอ่างเก็บน้ำเปิดตลอดเวลา  

พิกัด GPS : 15°10'27.3"N 105°21'30.9"E

อ่านรายละเอียดเพื่มเติมเกี่ยวกับ หาดพัทยาน้อย ได้ที่https://www.palanla.com/index.php?op=domesticLocation-detail&id=396


3. วัดสิรินธรวราราม (วัดภูพร้าว) (Wat Sirindhorn Wararam (Wat Phu Prao))

 

             เป็นวัดป่าที่ตั้งอยู่บนเขาใกล้กับแม่น้ำโขง เป็นที่รู้จักกันในนามวัดเรืองแสงจากผลงานพุทธศิลป์ที่ถ่ายทอดออกมาในรูปแบบจิตรกรรมภาพเขียนต้นกัลปพฤกษ์ที่อยู่บนผนังด้านหลังของอุโบสถซึ่งจะเรืองแสงสีเขียวในยามค่ำคืน ก่อให้เกิดภาพที่สวยงามแปลกตา ออกแบบโดยช่างคุณากร ปริญญาปุณโณ โดยได้แรงบันดาลใจมาจากต้นไม้แห่งชีวิตในภาพยนตร์เรื่องอวตาร นอกจากนี้ วัดแห่งนี้ยังมีจุดชมวิวพระอาทิตย์ตกดินที่สวยงามซึ่งสามารถมองเห็นลำน้ำโขงและอ่างเก็บน้ำบริเวณเชิงเขาได้อย่างชัดเจน

การเดินทาง : จากบริเวณทุ่งศรีเมืองในตัวเมืองอุบลราชธานีไปยังวัดสิรินธรวราราม (วัดภูพร้าว) มีระยะทางประมาณ 90.8 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 20 นาที

เวลาทำการเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน เวลา 6:00 น. – 21:00 น.

พิกัด GPS : 15°09'01.6"N 105°28'01.6"E

อ่านรายละเอียดเพื่มเติมเกี่ยวกับ วัดสิรินธรวราราม (วัดภูพร้าว) ได้ที่https://www.palanla.com/index.php?op=domesticLocation-detail&id=397


4. อุทยานแห่งชาติผาแต้ม (Pha Taem National Park)

 

             อุทยานแห่งชาติผาแต้มเป็นพื้นที่ทางธรรมชาติที่ได้รับการอนุรักษ์และดูแลโดยสำนักอุทยานแห่งชาติ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช โดยมีอาณาบริเวณครอบคลุมถึง 3 อำเภอของจังหวัดอุบลราชธานี ได้แก่ อำเภอโขงเจียม อำเภอศรีเมืองใหม่ และอำเภอโพธิ์ไทร ภายในอุทยานมีสิ่งที่น่าสนใจและควรไปเที่ยวชมมากมาย เช่น ภาพเขียนก่อนประวัติศาสตร์บริเวณริมหน้าผา เสาเฉลียงที่เกิดจากการกัดเซาะของน้ำและสายลมนับล้านปีจนมีรูปร่างแปลกตา จุดชมวิวแม่น้ำโขงจากบนหน้าผาสูง ลานหิน ดงดอกไม้ และมีน้ำตกหลายแห่ง อีกทั้งยังเป็นจุดชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ตกที่สวยงามอีกด้วย

การเดินทาง : จากบริเวณทุ่งศรีเมืองในตัวเมืองอุบลราชธานีไปยังอุทยานแห่งชาติผาแต้ม มีระยะทางประมาณ 93.3 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที

เวลาทำการเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน เวลา 06:00 น. – 16:30 น.

พิกัด GPS : 15°23'55.5"N 105°30'27.1"E

อ่านรายละเอียดเพื่มเติมเกี่ยวกับ อุทยานแห่งชาติผาแต้ม ได้ที่https://www.palanla.com/index.php?op=domesticLocation-detail&id=395


5. เสาเฉลียงคู่ (Sao Cha Lhiang Ku)

 

             เสาเฉลียงคู่เป็นเสาหินสองต้นที่มีอายุนับล้านปีที่มีความสูงไล่เลี่ยกัน โดยแต่ละเสาก็จะมีก้อนหินวางอยู่ด้านบนในแนวนอน มองดูแล้วมีรูปทรงเหมือนดอกเห็ดสองต้น ซึ่งรูปทรงแปลกตาเช่นนี้เกิดขึ้นตามธรรมชาติจากการกัดเซาะของกระแสลม กระแสน้ำ และแสงแดดมาอย่างยาวนาน จึงเป็นสถานที่ที่มีความน่าสนใจทางธรณีวิทยาและยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมอีกแห่งหนึ่งภายในพื้นที่ของอุทยานแห่งชาติผาแต้ม

การเดินทาง : จากบริเวณทุ่งศรีเมืองในตัวเมืองอุบลราชธานีไปยังเสาเฉลียงคู่ มีระยะทางประมาณ 129 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง 10 นาที

เวลาทำการเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน เวลา 06:00 น. – 16:30 น.

พิกัด GPS : 15°36'47.0"N 105°35'45.9"E

อ่านรายละเอียดเพื่มเติมเกี่ยวกับ เสาเฉลียงคู่ ได้ที่https://www.palanla.com/index.php?op=domesticLocation-detail&id=398


6. ผาชะนะได (Pha Chana Dai)

 

             บนผาชะนะไดเป็นจุดที่จะเห็นดวงตะวันขึ้นก่อนใครในสยาม จึงเป็นพื้นที่ที่กรมอุตุนิยมวิทยาใช้คำนวณการขึ้นของดวงอาทิตย์ในประเทศไทย และจะยิ่งสวยงามในช่วงปลายฝนต้นหนาวที่จะเต็มไปด้วยทะเลหมอกในตอนรุ่งเช้า จึงเป็นอีกหนึ่งสถานที่ยอดนิยมในการกางเต็นท์พักแรม บนผามีลักษณะเป็นลานหินกว้างและมีหน้าผาที่สูงชันซึ่งมีความสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 450 เมตร จากบริเวณนี้สามารถชมทัศนียภาพอันสวยงามของแม่น้ำโขงและสภาพภูมิประเทศของฝั่งลาวได้ในมุมกว้างอย่างเต็มตา

การเดินทาง : จากบริเวณทุ่งศรีเมืองในตัวเมืองอุบลราชธานีไปยังผาชะนะไดมีระยะทางประมาณ 138 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง 30 นาที

เวลาทำการเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน เวลา 06:00 น. – 16:30 น.

พิกัด GPS : 15°37'14.5"N 105°36'58.2"E

อ่านรายละเอียดเพื่มเติมเกี่ยวกับ ผาชะนะได ได้ที่https://www.palanla.com/index.php?op=domesticLocation-detail&id=399


7. สามพันโบก (Sam Phan Bok)

 

             สามพันโบกเป็นแก่งหินขนาดใหญ่ที่มีลักษณะเป็นแอ่งเว้าลงไปเป็นหลุมเป็นบ่อทั่วทั้งบริเวณแก่งซึ่งเกิดจากการกัดเซาะของแรงน้ำวนมานับล้านปี โดยแอ่งเหล่านี้มีจำนวนมากกว่าสามพันแอ่ง จึงเป็นที่มาของชื่อสามพันโบก เนื่องจากคำว่า "โบก" ในภาษาท้องถิ่น หมายถึง "แอ่ง" นั่นเอง และด้วยความสวยงามแปลกตา จึงได้ชื่อว่าเป็นแกรนด์แคนยอนแห่งลำน้ำโขงเลยทีเดียว ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการท่องเที่ยวสามพันโบกคือช่วงฤดูแล้งที่แม่น้ำโขงลดระดับลงจนแก่งหินโผล่พ้นน้ำขึ้นมาประมาณช่วงปลายเดือนพฤศจิกายนถึงต้นเดือนพฤษภาคมของทุกปี

การเดินทาง : จากบริเวณทุ่งศรีเมืองในตัวเมืองอุบลราชธานีไปยังสามพันโบก มีระยะทางประมาณ 119 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 50 นาที

เวลาทำการเปิด-ปิด : เปิดตลอดเวลา

พิกัด GPS : 15°47'54.6"N 105°23'43.4"E

อ่านรายละเอียดเพื่มเติมเกี่ยวกับ สามพันโบก ได้ที่https://www.palanla.com/index.php?op=domesticLocation-detail&id=400


8. หาดชมดาว แก่งหินงาม (Chomdao Beach at Kaenghinngam)

 

             หาดชมดาว แก่งหินงาม เป็นแนวหาดทรายและแก่งหินอันกว้างใหญ่ริมแม่น้ำโขงทอดยาวหลายร้อยเมตรซึ่งจะโผล่พ้นแม่น้ำขึ้นมาในช่วงฤดูแล้ง โดยแก่งหินจะมีรูปร่างแปลกตาซึ่งเกิดจากการกัดเซาะของกระแสน้ำมากว่าร้อยล้านปีจึงทำให้หินมีลักษณะเป็นริ้ว เป็นโพรง และเป็นแอ่ง ในส่วนของหาดทรายริมโขงจะมองดูคล้ายชายหาดริมทะเล บริเวณนี้เป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ตกและยังเป็นจุดชมดาวยอดนิยมอีกด้วย เพราะแสงอาทิตย์กับแสงจันทร์จะตกกระทบลงบนผิวน้ำจนเป็นประกายระยิบระยับสวยงาม โดยช่วงเวลาที่เหมาะสมกับการท่องเที่ยวคือช่วงฤดูแล้งที่แม่น้ำโขงจะลดระดับลงจนแก่งหินงามและหาดชมดาวโผล่ขึ้นมาซึ่งจะอยู่ในช่วงประมาณปลายเดือนพฤศจิกายนถึงต้นเดือนพฤษภาคมของทุกปี

การเดินทาง : จากบริเวณทุ่งศรีเมืองในตัวเมืองอุบลราชธานีไปยังหาดชมดาว แก่งหินงาม มีระยะทางประมาณ 144 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง

เวลาทำการเปิด-ปิด : เปิดตลอดเวลา

พิกัด GPS : 15°54'23.1"N 105°20'50.1"E

อ่านรายละเอียดเพื่มเติมเกี่ยวกับ หาดชมดาว แก่งหินงาม ได้ที่https://www.palanla.com/index.php?op=domesticLocation-detail&id=401


9. ถนนคนเดินเขมราฐ (Khemmarat Walking Street)

 

             ถนนคนเดินแห่งนี้เปิดทุกเย็นวันเสาร์ตั้งแต่สี่โมงเย็นไปจนถึงสามทุ่ม โดดเด่นด้วยเอกลักษณ์ของอาคารบ้านเรือนเก่าแก่ที่สร้างด้วยไม้ ซึ่งบางหลังนั้นมีอายุร่วมสองร้อยปี มีร้านขายอาหารท้องถิ่นอร่อยๆ คาเฟ่สไตล์โฮมเมดเล็กๆ และร้านค้าต่างๆ ที่ขายของที่ระลึก และผลิตภัณฑ์ชุมชนอย่างเช่นผ้าซิ่นและผ้าทอ และยังเต็มไปด้วยมุมถ่ายรูปสวยๆ มากมาย

การเดินทาง : จากบริเวณทุ่งศรีเมืองในตัวเมืองอุบลราชธานีไปยังถนนคนเดินเขมราฐมีระยะทางประมาณ 122 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที

เวลาทำการเปิด-ปิด : ทุกวันเสาร์ เวลา 16:00 – 21:00 น.

พิกัด GPS : 16°02'32.0"N 105°13'25.0"E

อ่านรายละเอียดเพื่มเติมเกี่ยวกับ ถนนคนเดินเขมราฐ ได้ที่https://www.palanla.com/index.php?op=domesticLocation-detail&id=402


10. วัดพระธาตุหนองบัว (Wat Phrathat Nong Bua)

 

             เป็นวัดสำคัญอีกแห่งหนึ่งของจังหวัดอุบลราชธานี เพราะเป็นที่ตั้งของพระธาตุเจดีย์ศรีมหาโพธิ์ที่สร้างขึ้นเพื่อเป็นสัญลักษณ์ครบรอบ 25 ศตวรรษของพุทธศาสนาในปีพ.ศ. 2500 โดยจำลองมาจากเจดีย์ที่พุทธยา ประเทศอินเดีย บริเวณด้านในเป็นที่ประดิษฐานพระบรมราสีริกธาตุ บริเวณด้านนอกกำแพงแก้วมีรูปปั้นพญานาคคู่ตั้งตระหง่านอย่างงดงาม นอกจากเป็นสถานที่ที่มีความสำคัญทางพุทธศาสนาแล้ว ยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก

การเดินทาง : จากบริเวณทุ่งศรีเมืองในตัวเมืองอุบลราชธานีไปยังวัดพระธาตุหนองบัวมีระยะทางประมาณ 4.5 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 10 นาที

เวลาทำการเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน เวลา 6:00 น. - 18:00 น.

พิกัด GPS : 15°15'48.0"N 104°50'20.4"E

อ่านรายละเอียดเพื่มเติมเกี่ยวกับ วัดพระธาตุหนองบัว ได้ที่https://www.palanla.com/index.php?op=domesticLocation-detail&id=394


ข้อมูลอื่นๆ ที่ควรรู้
: เว็บไซต์พยากรณ์อากาศ https://www.accuweather.com/

                            เว็บไซต์จังหวัดอุบลราชธานี http://ubonratchathani.go.th  

                            การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ภูมิภาคตะวันออกเฉียงเหนือ https://i-san.tourismthailand.org/

                            การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) https://thai.tourismthailand.org/

                            บริการขนส่ง (รถทัวร์ประจำทาง) http://www.busticket.in.th

                            สกุลเงินที่ใช้ : บาท (THB)

                            ตรวจสอบอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ https://www.xe.com/currencyconverter/


แอปพลิเคชันแนะนำสำหรับเรียกใช้บริการรถแท็กซี่ในประเทศไทย

                   - Grab สามารถดาวน์โหลดได้ที่ App Store (iOS) และ Play Store (Android)


อัตราค่าบริการแท็กซี่ (
TAXI FARE)


อัตราค่าครองชีพ (
DAILY COST)


สภาพอากาศ (WEATHER)

 

สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ

วัดบุไผ่ (วัดบ้านไร่ 2) จังหวัดนครราชสีมา ประเทศไทย

วัดบุไผ่ (วัดบ้านไร่ 2) Wat Bu Pai (Wat Ban Rai 2) เป็นวัดที่ตั้งตระหง่านบนเนินเขาในอำเภอวังน้ำเขียว ประดิษฐานรูปหล่อหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ หรือ พระเทพวิทยาคม พระเกจิดังวัดบ้านไร่องค์ใหญ่ที่สุดในโลก

อ่านต่อ

วัดแสงธรรมวังเขาเขียว จังหวัดนครราชสีมา ประเทศไทย

วัดแสงธรรมวังเขาเขียว (Wat Saeng Tham Wang Khao Khiao) เป็นที่ตั้งของพระมหาเจดีย์ศรีแสงธรรมวิสุทธิมงคล พระมหาเจดีย์รูปทรงดอกบัวสีขาวตั้งตระหง่านสง่างามอยู่กลางคูน้ำ ท่ามกลางสวนหย่อมสีเขียวขนาดใหญ่และแวดล้อมด้วยหุบเขาสีเขียวขจีของอำเภอวังน้ำเขียว

อ่านต่อ

ผาเก็บตะวัน จังหวัดนครราชสีมา ประเทศไทย

ผาเก็บตะวัน (Pha Kep Tawan) หนึ่งในที่เที่ยววังน้ำเขียวที่เป็นจุดชมวิวที่มีทัศนียภาพสวยงาม แวดล้อมด้วยความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติ เหมาะแก่การแวะมาชมวิวผ่อนคลาย หรือหากต้องการกางเต็นท์ค้างคืนก็ได้เช่นกัน

อ่านต่อ

วัดป่าโนนสวรรค์ จังหวัดร้อยเอ็ด ประเทศไทย

วัดป่าโนนสวรรค์ (Wat Pa Non Sawan) เป็นวัดที่มีชื่อเสียงของจังหวัดร้อยเอ็ด ภายในวัดมีความน่าตื่นตาตื่นใจของประติมากรรมปูนปั้นมากมายที่ถ่ายทอดเรื่องเกี่ยวกับพุทธประวัติ พระธรรมคำสอน รวมถึงวรรณคดีไทยชื่อดังต่างๆ ให้ได้เดินเที่ยวชม และภายในวัดยังโดดเด่นด้วยองค์เจดีย์ขนาดใหญ่ที่ตกแต่งอย่างงดงาม รวมถึงศิลปะการตกแต่งที่ใช้หม้อดินมาประดับในส่วนต่างๆ โดยรอบจนมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว วัดแห่งนี้จึงเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดร้อยเอ็ดที่ไม่ควรพลาดชม

อ่านต่อ

สวนหินผางาม จังหวัดเลย ประเทศไทย

สวนหินผางาม (Hin Pha Ngam Park) เป็นแนวภูเขาหินปูนอันสลับซับซ้อนที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ มีทิวทัศน์อันสวยงามแปลกตาจนได้รับสมญานามว่าเป็นคุนหมิงเมืองเลย สามารถเดินชมสถานที่ไปตามเส้นทางศึกษาธรรมชาติ หรือจะนั่งรถอีแต๊กเข้าชมก็ได้ โดยจะมีเจ้าหน้าที่นำเที่ยวชมและบรรยายสถานที่เพื่อให้ความรู้ โดยนอกจากจะได้ชมหน้าผาหินปูนรูปร่างแปลกตากับโพรงถ้ำต่างๆ แล้ว นักท่องเที่ยวยังจะได้ชมต้นไม้หายาก และซากดึกดำบรรพ์ของปะการัง เปลือกหอย ซากพืขที่ฝังตัวอยู่ในหิน เนื่องจากในอดีตพื้นที่บริเวณนี้เคยเป็นท้องทะเลมาก่อน สวนหินผางามจึงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สายธรรมชาติไม่ควรพลาดชมเป็นอย่างยิ่ง

อ่านต่อ

ลานคริสต์มาสภูเรือ จังหวัดเลย ประเทศไทย

ลานคริสต์มาสภูเรือ (Poinsettia Garden Phu Ruea) เป็นอีกหนึ่งจุดเช็คอินในช่วงเทศกาลฤดูหนาวปลายปีที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวที่มาเยือนยังอำเภอภูเรือ ด้วยบรรยากาศของเทศกาลสวนดอกไม้เมืองหนาวที่จะจัดขึ้นในฤดูหนาวของทุกปี ทำให้ลานแห่งนี้เต็มไปด้วยพอยน์เซตเทียสีแดงซึ่งมีความสวยงามเป็นอย่างมากท่ามกลางสภาพอากาศที่เย็นสบาย สามารถเดินชมสวนและถ่ายภาพสวยๆ เก็บความประทับใจได้ตามอัธยาศัยโดยไม่เสียค่าเข้าชม

อ่านต่อ

น้ำตกเพียงดิน จังหวัดเลย ประเทศไทย

น้ำตกเพียงดิน (Peang Din Waterfall) เป็นน้ำตกขนาดกลางที่มีความร่มรื่นจากป่าไม้โดยรอบ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่ได้รับความนิยมในกลุ่มนักท่องเที่ยวสายธรรมชาติและผู้ที่ชอบเล่นน้ำและสัมผัสธรรมชาติอย่างใกล้ชิด เพราะเป็นน้ำตกที่สามารถลงเล่นน้ำได้เพราะมีแอ่งน้ำขนาดใหญ่ อีกทั้งการเดินทางไปก็ค่อนข้างสะดวกเพราะไม่ต้องปีนป่ายหรือเดินเท้าในระยะไกลนัก อีกทั้งยังอยู่ใกล้กับสวนหินผางามหรือคุนหมิงเมืองเลยอีกด้วย

อ่านต่อ

อุทยานแห่งชาติภูลังกา จังหวัดนครพนม ประเทศไทย

อุทยานแห่งชาติภูลังกา (Phu Langka National Park) เป็นพื้นที่ป่าและภูเขาที่ตั้งอยู่ภายในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ภายในอุทยานมีสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติหลายแห่งให้เที่ยวชม ไม่ว่าจะเป็นหน้าผา ถ้ำ และน้ำตก โดยสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นไฮไลท์ในปัจจุบันคือ ถ้ำนาคา ที่เป็นถ้ำที่มีลักษณะของหินที่คล้ายกับงูใหญ่หรือพญานาค ซึ่งตรงตามความเชื่อเกี่ยวกับเจ้าปู่อือลือที่ถูกสาปให้เป็นพญานาคและถูกจองจำ นอกจากนี้ยังมีจุดชมทัศนียภาพของป่าเขาอีกหลายแห่งให้ได้เที่ยวชมอีกด้วย

อ่านต่อ

อนุสรณ์สถานประธานโฮจิมินห์ จังหวัดนครพนม ประเทศไทย

อนุสรณ์สถานประธานโฮจิมินห์ (Ho Chi Minh Museum) เป็นอนุสรณ์สถานที่เกิดขึ้นจากความร่วมมือของประเทศไทยและเวียดนาม เพื่อรำลึกถึงเหตุการณ์ประวัติศาสตร์สมัยที่อดีตประธานาธิบดีโฮจิมินห์เคยเข้ามาพำนักในประเทศไทยในช่วงสงครามเวียดนามเพื่อกอบกู้เอกราชของเวียดนาม ภายในอนุสรณ์สถานมีซุ้มประตูและอาคารพิพิธภัณฑ์ที่สร้างขึ้นด้วยสถาปัตยกรรมแบบผสมผสานระหว่างไทยกับเวียดนามไว้อย่างงดงาม โดยภายในได้จัดแสดงเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ครั้งนั้นและหุ่นท่านโฮจิมินห์เอาไว้ และยังมีอาคารจำลองบ้านพักของท่านโฮจิมินห์และข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ ให้ผู้ที่สนใจได้เที่ยวชมอีกด้วย

อ่านต่อ

บ้านลุงโฮจิมินห์ จังหวัดนครพนม ประเทศไทย

บ้านลุงโฮจิมินห์ (Ho Chi Minh’s House) หรือบ้านลุงโฮ เป็นบ้านที่เคยใช้เป็นที่พำนักของท่านประธานาธิบดีโฮจิมินห์ในช่วงกอบกู้เอกราชของเวียดนาม ปัจจุบันเปิดเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ที่จัดแสดงเรื่องราวที่สำคัญในครั้งนั้น รวมทั้งประวัติและข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ ของท่านโฮจิมินห์ ตัวบ้านมีลักษณะเป็นบ้านโบราณที่สร้างขึ้นด้วยสถาปัตยกรรมไทยผสมเวียดนามอย่างมีเอกลักษณ์ และโดยรอบยังมีความร่มรื่นจากต้นไม้นานาชนิดให้เที่ยวชมอีกด้วย

อ่านต่อ
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ