10 สถานที่เที่ยวยอดนิยมในจังหวัดอุบลราชธานี ประเทศไทย

  • อ่าน (7,560)
  • ByWebmaster
  • 14:19:17 | 12 ม.ค. 2567

10 สถานที่เที่ยวยอดนิยมในจังหวัดอุบลราชธานี ประเทศไทย

Top 10 Travel Destinations in Ubon Ratchathani, Thailand

 

             จังหวัดอุบลราชธานีตั้งอยู่ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง เป็น จังหวัดที่มีพื้นที่ใหญ่เป็นอันดับสองของภาคอีสานรองจากจังหวัดนครราชสีมา มีพรมแดนติดกับประเทศลาวโดยมีแม่น้ำโขงเป็นเส้นแบ่งเขตแดน จังหวัดอุบลราชธานีมีสภาพภูมิประเทศที่หลากหลายโดยมีทั้งที่ราบสูงอย่างเทือกเขาบรรทัดและทิวเขาพนมดงรัก และยังมีภูเขาสลับซับซ้อนในชายแดนตอนใต้ซึ่งมีพรมแดนติดกับประเทศกัมพูชา มีแม่น้ำสายสำคัญคือ แม่น้ำมูลและแม่น้ำชี อีกทั้งยังมีเกาะแก่งริมแม่น้ำโขงที่สวยงามอยู่หลายแห่ง ด้วยสภาพทางธรรมชาติที่หลากหลายนี้จึงมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมาย เช่น อุทยานแห่งชาติผาแต้ม ผาชะนะได และสามพันโบก เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีวัดวาอาราม และอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่อย่างเขื่อนสิรินธร และสวนสาธารณะที่เป็นปอดแห่งใหญ่ของเมืองอุบลอย่างทุ่งศรีเมือง และมีประเพณีสำคัญคืองานแห่เทียนที่จะจัดขึ้นในช่วงวันอาสาฬหบูชาและเข้าพรรษาเป็นประจำทุกปี

             การเดินทางจากกรุงเทพไปยังจังหวัดอุบลราชธานีนั้นสามารถเดินทางได้หลายทางทั้งทางเครื่องบิน รถยนต์ รถทัวร์ และรถไฟ ขึ้นอยู่กับความสะดวกและความชอบของนักท่องเที่ยว

คำขวัญจังหวัดอุบลราชธานี

เมืองดอกบัวงาม แม่น้ำสองสี มีปลาแซบหลาย หาดทรายแก่งหิน ถิ่นไทยนักปราชญ์ ทวยราษฎร์ใฝ่ธรรม งามล้ำเทียนพรรษา ผาแต้มก่อนประวัติศาสตร์

 
แผนที่ 10 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในจังหวัดอุบลราชธานี


1. ต้นเทียนเฉลิมพระเกียรติ ทุ่งศรีเมือง (Ton Thien Chalerm Phrakiat at Thung Sri Mueang)

 

             ทุ่งศรีเมืองเป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่ที่เปรียบเสมือนปอดแห่งใหญ่ของเมืองอุบลฯ เป็นพื้นที่ที่ชาวเมืองนิยมมาพักผ่อนหย่อนใจและออกกำลังกาย อีกทั้งยังใช้เป็นสถานที่จัดงานเทศกาลและงานประจำเมืองต่างๆ ภายในทุ่งศรีเมืองมีแลนด์มาร์กของจังหวัดอุบลราชธานีตั้งอยู่บริเวณลานเทียนทุ่งศรีเมือง นั่นคือต้นเทียนพรรษาขนาดใหญ่ที่สร้างขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติเนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบของในหลวงรัชกาลที่ 9 ในวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2542 โดยสลักเป็นเรื่องราวจากพระราชนิพนธ์เรื่องพระมหาชนกที่ในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงนิพนธ์จากการดัดแปลงเนื้อเรื่องจากชาดกในทศชาติเรื่อง "พระมหาชนก" ที่ถ่ายทอดในเรื่องของความพากเพียร โดยต้นเทียนนี้ได้รับการแกะสลักอย่างงดงามและวิจิตรบรรจง และตั้งอยู่ที่นี่มาจนกลายเป็นแลนด์มาร์กแห่งทุ่งศรีเมือง

การเดินทาง : มีรถสองแถวท้องถิ่นวิ่งให้บริการในอำเภอเมืองอุบลราชธานี โดยจุดหลักๆ สามารถขึ้นได้จากตลาด สถานีขนส่ง และหน้าห้างสรรพสินค้า สามารถสอบถามเส้นทางและราคาได้จากคนขับ หรือถ้าอยู่บริเวณศาลหลักเมืองอุบลสามารถเดินไปยังทุ่งศรีเมืองได้ โดยมีระยะทางประมาณ 230 เมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 นาที

เวลาทำการเปิด-ปิด : เปิดตลอดเวลา

พิกัด GPS : 15°13'48.7"N 104°51'26.4"E

อ่านรายละเอียดเพื่มเติมเกี่ยวกับ ต้นเทียนเฉลิมพระเกียรติ ทุ่งศรีเมือง ได้ที่ : https://www.palanla.com/index.php?op=domesticLocation-detail&id=393


2. หาดพัทยาน้อย (Pattaya Noi)

 

             หาดพัทยาน้อยหรือที่เรียกกันว่า ทะเลอีสานใต้ เป็นสถานตากอากาศและแหล่งเล่นน้ำที่อยู่บริเวณริมอ่างเก็บน้ำในพื้นที่ของเขื่อนสิรินธร มีลักษณะเป็นบึงขนาดใหญ่ที่มีสันทรายกว้าง ซึ่งมองดูคล้ายกับชายทะเล จึงได้รับการตั้งชื่อว่าพัทยาน้อย โดยนักท่องเที่ยวที่มาเล่นน้ำจะสนุกสนานกับเครื่องเล่นแบบสวนน้ำสีสันสดใส และพักผ่อนหย่อนใจบนเรือนแพที่มีร้านอาหารไว้บริการมากมาย

การเดินทาง : จากบริเวณทุ่งศรีเมืองในตัวเมืองอุบลราชธานีไปยังหาดพัทยาน้อย มีระยะทางประมาณ 66.2 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง

เวลาทำการเปิด-ปิด : บริเวณริมอ่างเก็บน้ำเปิดตลอดเวลา  

พิกัด GPS : 15°10'27.3"N 105°21'30.9"E

อ่านรายละเอียดเพื่มเติมเกี่ยวกับ หาดพัทยาน้อย ได้ที่https://www.palanla.com/index.php?op=domesticLocation-detail&id=396


3. วัดสิรินธรวราราม (วัดภูพร้าว) (Wat Sirindhorn Wararam (Wat Phu Prao))

 

             เป็นวัดป่าที่ตั้งอยู่บนเขาใกล้กับแม่น้ำโขง เป็นที่รู้จักกันในนามวัดเรืองแสงจากผลงานพุทธศิลป์ที่ถ่ายทอดออกมาในรูปแบบจิตรกรรมภาพเขียนต้นกัลปพฤกษ์ที่อยู่บนผนังด้านหลังของอุโบสถซึ่งจะเรืองแสงสีเขียวในยามค่ำคืน ก่อให้เกิดภาพที่สวยงามแปลกตา ออกแบบโดยช่างคุณากร ปริญญาปุณโณ โดยได้แรงบันดาลใจมาจากต้นไม้แห่งชีวิตในภาพยนตร์เรื่องอวตาร นอกจากนี้ วัดแห่งนี้ยังมีจุดชมวิวพระอาทิตย์ตกดินที่สวยงามซึ่งสามารถมองเห็นลำน้ำโขงและอ่างเก็บน้ำบริเวณเชิงเขาได้อย่างชัดเจน

การเดินทาง : จากบริเวณทุ่งศรีเมืองในตัวเมืองอุบลราชธานีไปยังวัดสิรินธรวราราม (วัดภูพร้าว) มีระยะทางประมาณ 90.8 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 20 นาที

เวลาทำการเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน เวลา 6:00 น. – 21:00 น.

พิกัด GPS : 15°09'01.6"N 105°28'01.6"E

อ่านรายละเอียดเพื่มเติมเกี่ยวกับ วัดสิรินธรวราราม (วัดภูพร้าว) ได้ที่https://www.palanla.com/index.php?op=domesticLocation-detail&id=397


4. อุทยานแห่งชาติผาแต้ม (Pha Taem National Park)

 

             อุทยานแห่งชาติผาแต้มเป็นพื้นที่ทางธรรมชาติที่ได้รับการอนุรักษ์และดูแลโดยสำนักอุทยานแห่งชาติ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช โดยมีอาณาบริเวณครอบคลุมถึง 3 อำเภอของจังหวัดอุบลราชธานี ได้แก่ อำเภอโขงเจียม อำเภอศรีเมืองใหม่ และอำเภอโพธิ์ไทร ภายในอุทยานมีสิ่งที่น่าสนใจและควรไปเที่ยวชมมากมาย เช่น ภาพเขียนก่อนประวัติศาสตร์บริเวณริมหน้าผา เสาเฉลียงที่เกิดจากการกัดเซาะของน้ำและสายลมนับล้านปีจนมีรูปร่างแปลกตา จุดชมวิวแม่น้ำโขงจากบนหน้าผาสูง ลานหิน ดงดอกไม้ และมีน้ำตกหลายแห่ง อีกทั้งยังเป็นจุดชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ตกที่สวยงามอีกด้วย

การเดินทาง : จากบริเวณทุ่งศรีเมืองในตัวเมืองอุบลราชธานีไปยังอุทยานแห่งชาติผาแต้ม มีระยะทางประมาณ 93.3 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที

เวลาทำการเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน เวลา 06:00 น. – 16:30 น.

พิกัด GPS : 15°23'55.5"N 105°30'27.1"E

อ่านรายละเอียดเพื่มเติมเกี่ยวกับ อุทยานแห่งชาติผาแต้ม ได้ที่https://www.palanla.com/index.php?op=domesticLocation-detail&id=395


5. เสาเฉลียงคู่ (Sao Cha Lhiang Ku)

 

             เสาเฉลียงคู่เป็นเสาหินสองต้นที่มีอายุนับล้านปีที่มีความสูงไล่เลี่ยกัน โดยแต่ละเสาก็จะมีก้อนหินวางอยู่ด้านบนในแนวนอน มองดูแล้วมีรูปทรงเหมือนดอกเห็ดสองต้น ซึ่งรูปทรงแปลกตาเช่นนี้เกิดขึ้นตามธรรมชาติจากการกัดเซาะของกระแสลม กระแสน้ำ และแสงแดดมาอย่างยาวนาน จึงเป็นสถานที่ที่มีความน่าสนใจทางธรณีวิทยาและยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมอีกแห่งหนึ่งภายในพื้นที่ของอุทยานแห่งชาติผาแต้ม

การเดินทาง : จากบริเวณทุ่งศรีเมืองในตัวเมืองอุบลราชธานีไปยังเสาเฉลียงคู่ มีระยะทางประมาณ 129 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง 10 นาที

เวลาทำการเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน เวลา 06:00 น. – 16:30 น.

พิกัด GPS : 15°36'47.0"N 105°35'45.9"E

อ่านรายละเอียดเพื่มเติมเกี่ยวกับ เสาเฉลียงคู่ ได้ที่https://www.palanla.com/index.php?op=domesticLocation-detail&id=398


6. ผาชะนะได (Pha Chana Dai)

 

             บนผาชะนะไดเป็นจุดที่จะเห็นดวงตะวันขึ้นก่อนใครในสยาม จึงเป็นพื้นที่ที่กรมอุตุนิยมวิทยาใช้คำนวณการขึ้นของดวงอาทิตย์ในประเทศไทย และจะยิ่งสวยงามในช่วงปลายฝนต้นหนาวที่จะเต็มไปด้วยทะเลหมอกในตอนรุ่งเช้า จึงเป็นอีกหนึ่งสถานที่ยอดนิยมในการกางเต็นท์พักแรม บนผามีลักษณะเป็นลานหินกว้างและมีหน้าผาที่สูงชันซึ่งมีความสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 450 เมตร จากบริเวณนี้สามารถชมทัศนียภาพอันสวยงามของแม่น้ำโขงและสภาพภูมิประเทศของฝั่งลาวได้ในมุมกว้างอย่างเต็มตา

การเดินทาง : จากบริเวณทุ่งศรีเมืองในตัวเมืองอุบลราชธานีไปยังผาชะนะไดมีระยะทางประมาณ 138 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง 30 นาที

เวลาทำการเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน เวลา 06:00 น. – 16:30 น.

พิกัด GPS : 15°37'14.5"N 105°36'58.2"E

อ่านรายละเอียดเพื่มเติมเกี่ยวกับ ผาชะนะได ได้ที่https://www.palanla.com/index.php?op=domesticLocation-detail&id=399


7. สามพันโบก (Sam Phan Bok)

 

             สามพันโบกเป็นแก่งหินขนาดใหญ่ที่มีลักษณะเป็นแอ่งเว้าลงไปเป็นหลุมเป็นบ่อทั่วทั้งบริเวณแก่งซึ่งเกิดจากการกัดเซาะของแรงน้ำวนมานับล้านปี โดยแอ่งเหล่านี้มีจำนวนมากกว่าสามพันแอ่ง จึงเป็นที่มาของชื่อสามพันโบก เนื่องจากคำว่า "โบก" ในภาษาท้องถิ่น หมายถึง "แอ่ง" นั่นเอง และด้วยความสวยงามแปลกตา จึงได้ชื่อว่าเป็นแกรนด์แคนยอนแห่งลำน้ำโขงเลยทีเดียว ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการท่องเที่ยวสามพันโบกคือช่วงฤดูแล้งที่แม่น้ำโขงลดระดับลงจนแก่งหินโผล่พ้นน้ำขึ้นมาประมาณช่วงปลายเดือนพฤศจิกายนถึงต้นเดือนพฤษภาคมของทุกปี

การเดินทาง : จากบริเวณทุ่งศรีเมืองในตัวเมืองอุบลราชธานีไปยังสามพันโบก มีระยะทางประมาณ 119 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 50 นาที

เวลาทำการเปิด-ปิด : เปิดตลอดเวลา

พิกัด GPS : 15°47'54.6"N 105°23'43.4"E

อ่านรายละเอียดเพื่มเติมเกี่ยวกับ สามพันโบก ได้ที่https://www.palanla.com/index.php?op=domesticLocation-detail&id=400


8. หาดชมดาว แก่งหินงาม (Chomdao Beach at Kaenghinngam)

 

             หาดชมดาว แก่งหินงาม เป็นแนวหาดทรายและแก่งหินอันกว้างใหญ่ริมแม่น้ำโขงทอดยาวหลายร้อยเมตรซึ่งจะโผล่พ้นแม่น้ำขึ้นมาในช่วงฤดูแล้ง โดยแก่งหินจะมีรูปร่างแปลกตาซึ่งเกิดจากการกัดเซาะของกระแสน้ำมากว่าร้อยล้านปีจึงทำให้หินมีลักษณะเป็นริ้ว เป็นโพรง และเป็นแอ่ง ในส่วนของหาดทรายริมโขงจะมองดูคล้ายชายหาดริมทะเล บริเวณนี้เป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ตกและยังเป็นจุดชมดาวยอดนิยมอีกด้วย เพราะแสงอาทิตย์กับแสงจันทร์จะตกกระทบลงบนผิวน้ำจนเป็นประกายระยิบระยับสวยงาม โดยช่วงเวลาที่เหมาะสมกับการท่องเที่ยวคือช่วงฤดูแล้งที่แม่น้ำโขงจะลดระดับลงจนแก่งหินงามและหาดชมดาวโผล่ขึ้นมาซึ่งจะอยู่ในช่วงประมาณปลายเดือนพฤศจิกายนถึงต้นเดือนพฤษภาคมของทุกปี

การเดินทาง : จากบริเวณทุ่งศรีเมืองในตัวเมืองอุบลราชธานีไปยังหาดชมดาว แก่งหินงาม มีระยะทางประมาณ 144 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง

เวลาทำการเปิด-ปิด : เปิดตลอดเวลา

พิกัด GPS : 15°54'23.1"N 105°20'50.1"E

อ่านรายละเอียดเพื่มเติมเกี่ยวกับ หาดชมดาว แก่งหินงาม ได้ที่https://www.palanla.com/index.php?op=domesticLocation-detail&id=401


9. ถนนคนเดินเขมราฐ (Khemmarat Walking Street)

 

             ถนนคนเดินแห่งนี้เปิดทุกเย็นวันเสาร์ตั้งแต่สี่โมงเย็นไปจนถึงสามทุ่ม โดดเด่นด้วยเอกลักษณ์ของอาคารบ้านเรือนเก่าแก่ที่สร้างด้วยไม้ ซึ่งบางหลังนั้นมีอายุร่วมสองร้อยปี มีร้านขายอาหารท้องถิ่นอร่อยๆ คาเฟ่สไตล์โฮมเมดเล็กๆ และร้านค้าต่างๆ ที่ขายของที่ระลึก และผลิตภัณฑ์ชุมชนอย่างเช่นผ้าซิ่นและผ้าทอ และยังเต็มไปด้วยมุมถ่ายรูปสวยๆ มากมาย

การเดินทาง : จากบริเวณทุ่งศรีเมืองในตัวเมืองอุบลราชธานีไปยังถนนคนเดินเขมราฐมีระยะทางประมาณ 122 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที

เวลาทำการเปิด-ปิด : ทุกวันเสาร์ เวลา 16:00 – 21:00 น.

พิกัด GPS : 16°02'32.0"N 105°13'25.0"E

อ่านรายละเอียดเพื่มเติมเกี่ยวกับ ถนนคนเดินเขมราฐ ได้ที่https://www.palanla.com/index.php?op=domesticLocation-detail&id=402


10. วัดพระธาตุหนองบัว (Wat Phrathat Nong Bua)

 

             เป็นวัดสำคัญอีกแห่งหนึ่งของจังหวัดอุบลราชธานี เพราะเป็นที่ตั้งของพระธาตุเจดีย์ศรีมหาโพธิ์ที่สร้างขึ้นเพื่อเป็นสัญลักษณ์ครบรอบ 25 ศตวรรษของพุทธศาสนาในปีพ.ศ. 2500 โดยจำลองมาจากเจดีย์ที่พุทธยา ประเทศอินเดีย บริเวณด้านในเป็นที่ประดิษฐานพระบรมราสีริกธาตุ บริเวณด้านนอกกำแพงแก้วมีรูปปั้นพญานาคคู่ตั้งตระหง่านอย่างงดงาม นอกจากเป็นสถานที่ที่มีความสำคัญทางพุทธศาสนาแล้ว ยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก

การเดินทาง : จากบริเวณทุ่งศรีเมืองในตัวเมืองอุบลราชธานีไปยังวัดพระธาตุหนองบัวมีระยะทางประมาณ 4.5 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 10 นาที

เวลาทำการเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน เวลา 6:00 น. - 18:00 น.

พิกัด GPS : 15°15'48.0"N 104°50'20.4"E

อ่านรายละเอียดเพื่มเติมเกี่ยวกับ วัดพระธาตุหนองบัว ได้ที่https://www.palanla.com/index.php?op=domesticLocation-detail&id=394


ข้อมูลอื่นๆ ที่ควรรู้

- เว็บไซต์พยากรณ์อากาศ

  www.accuweather.com

- เว็บไซต์จังหวัดอุบลราชธานี 

  http://ubonratchathani.go.th 

- การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)

  https://thai.tourismthailand.org/ 

- บริการขนส่ง (รถทัวร์ประจำทาง) 

  http://www.busticket.in.th , http://www.thairoute.com 

- สกุลเงินที่ใช้ : บาท (THB)


แอปพลิเคชัน "บริการรถแท็กซี่" ในประเทศไทย

- Grab สามารถดาวน์โหลดได้ที่ App Store (iOS) และ Play Store (Android)
 

แอปพลิเคชัน "แผนที่ในการนำทาง" ในประเทศไทย

- Google Map​ สามารถดาวน์โหลดได้ App Store (iOS) และ Play Store (Android)
 

 

สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ

อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม จังหวัดชัยภูมิ ประเทศไทย

อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม (Pa Hin Ngam National Park) จังหวัดชัยภูมิ เป็นอุทยานแห่งชาติที่มีสภาพป่าสมบูรณ์และมีจุดเด่นทางธรรมชาติที่สวยงามหลายแห่ง โดยเฉพาะทุ่งดอกกระเจียวที่จะออกดอกสีชมพูอมม่วงบานสะพรั่งไปทั่วผืนป่าในช่วงต้นฤดูฝน ประมาณเดือนมิถุนายนถึงเดือนสิงหาคมของทุกปี

อ่านต่อ

ปราสาทพนมวัน จังหวัดนครราชสีมา ประเทศไทย

ปราสาทพนมวัน (Prasat Phanom Wan) อีกหนึ่งปราสาทหินเก่าแก่ในจังหวัดนครราชสีมาที่สร้างขึ้นครั้งแรกตั้งแต่สมัยพุทธศตวรรษที่ 15 เพื่อเป็นเทวสถาน ปราสาทหินแห่งนี้ถือเป็นปราสาทหินที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 5 ของประเทศไทย

อ่านต่อ

5 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในจังหวัดยโสธร ประเทศไทย

จังหวัดยโสธรเป็นจังหวัดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่างของไทยที่ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำชี จังหวัดยโสธรมีสถานที่ท่องเที่ยวเชิงศาสนาและวัฒนธรรมหลายแห่ง เพราะเป็นเมืองที่ผ่านประวัติศาสตร์มาอย่างยาวนานตั้งแต่สมัยทวาราวดี วันนี้ทาง Palanla จึงได้รวบรวมสถานที่ที่เป็นไฮไลท์ของจังหวัดยโสธรมาฝากทุกท่านไว้ในบทความนี้

อ่านต่อ

วัดพระพุทธบาทยโสธร จังหวัดยโสธร ประเทศไทย

วัดพระพุทธบาทยโสธร (Wat Phra Buddhabat Yasothon) เป็นวัดที่มีความสวยงามจากหมู่อาคารสีขาวท่ามกลางบรรยากาศที่เงียบสงบ นักท่องเที่ยวที่มาเยือนนิยมมาเที่ยวชมวัดและสักการะโบราณวัตถุทางพุทธศาสนาอันได้แก่ รอยพระพุทธบาท พระพุทธรูปปางนาคปรก และศิลาจารึกโบราณที่มีอายุราวห้าร้อยปี รวมทั้งพระพุทธรูปหยกขาวที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยที่ประดิษฐานอยู่ในพระอุโบสถ และพระบรมสารีริกธาตุที่ประดิษฐานอยู่ภายในเจดีย์ของวัดอีกด้วย วัดแห่งนี้จึงเป็นอีกหนึ่งวัดดังของจังหวัดยโสธรที่ควรค่าต่อการมาเที่ยวชมเป็นอย่างยิ่ง

อ่านต่อ

8 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในจังหวัดศรีสะเกษ ประเทศไทย

จังหวัดศรีสะเกษเป็นจังหวัดในภาคอีสานตอนล่างที่มีแหล่งท่องเที่ยวหลายแห่ง ทั้งสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ที่เป็นจุดชมวิวอันน่าประทับใจ ไปจนถึงแหล่งโบราณสถานอันทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์ และวัดวาอารามที่สร้างขึ้นอย่างงดงามให้เที่ยวชม วันนี้ทาง Palanla ได้รวบรวม 8 สถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นไฮไลท์ของจังหวัดศรีเกษมาฝากทุกท่านกันในบทความนี้

อ่านต่อ

ผามออีแดง จังหวัดศรีสะเกษ ประเทศไทย

ผามออีแดง (Pha Mor E Daeng) เป็นหน้าผาที่ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร เป็นจุดชมวิวที่มองเห็นปราสาทเขาพระวิหาร ป่าไม้ และบ้านเมืองของกัมพูชาที่อยู่ไกลออกไปได้ ในยามเช้าของช่วงปลายฝนต้นหนาวจะเป็นจุดชมทะเลหมอกที่สวยงาม ส่วนในยามพระอาทิตย์ตกดินจะมองเห็นฝูงค้างคาวบินออกมาจากถ้ำเพื่อหากิน นอกจากนี้ อีกหนึ่งไฮไลท์ของผามออีแดงคือภาพจิตรกรรมโบราณที่ถูกสลักไว้ริมหน้าผาซึ่งมีความเก่าแก่กว่าหนึ่งพันห้าร้อยปีทีเดียว ถือเป็น Unseen Thailand ที่คุ้มค่าต่อการมาเที่ยวชมเป็นอย่างยิ่ง

อ่านต่อ

น้ำตกสำโรงเกียรติ จังหวัดศรีสะเกษ ประเทศไทย

น้ำตกสำโรงเกียรติ (Samrong Kiat Waterfall) เป็นน้ำตกที่มีต้นกำเนิดจากเทือกเขาบรรทัด น้ำตกแห่งนี้มีเอกลักษณ์ตรงที่บริเวณด้านบนหน้าผาจะมีแอ่งลานหินขนาดใหญ่รองรับธารน้ำเอาไว้ก่อนที่จะไหลตกลงมาตามชั้นหน้าผา น้ำตกสำโรงเกียรติมีน้ำไหลตลอดปี และจะมีน้ำมากที่สุดในช่วงฤดูฝน บรรยากาศโดยรอบมีความร่มรื่นจากป่าไม้ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เหมาะกับการมาเล่นน้ำ นั่งพักผ่อนหย่อนใจ และถ่ายภาพสวยๆ ได้อย่างเพลิดเพลิน

อ่านต่อ

เกาะกลางน้ำ จังหวัดศรีสะเกษ ประเทศไทย

เกาะกลางน้ำ (Koh Klang Nam) เป็นเกาะที่อยู่ใจกลางอ่างเก็บน้ำห้วยน้ำคำในอำเภอเมืองศรีสะเกษ บนเกาะแห่งนี้เป็นสวนสาธาณะขนาดใหญ่และเป็นที่ตั้งของอาคารสำคัญหลายแห่ง เช่น หอศรีลำดวนเฉลิมพระเกียรติที่เป็นหอชมเมืองศรีสะเกษได้รอบทิศ และศรีสะเกษอควาเรียมซึ่งเป็นศูนย์แสดงพันธุ์สัตว์น้ำที่ใหญ่ที่สุดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่นี่จึงเป็นทั้งสถานที่ท่องเที่ยวและสถานที่พักผ่อนหย่อนใจของจังหวัดศรีสะเกษอีกแห่งหนึ่งที่นักท่องเที่ยวให้ความสนใจมาเที่ยวชมเป็นอย่างมาก

อ่านต่อ

วัดบุไผ่ (วัดบ้านไร่ 2) จังหวัดนครราชสีมา ประเทศไทย

วัดบุไผ่ (วัดบ้านไร่ 2) Wat Bu Pai (Wat Ban Rai 2) เป็นวัดที่ตั้งตระหง่านบนเนินเขาในอำเภอวังน้ำเขียว ประดิษฐานรูปหล่อหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ หรือ พระเทพวิทยาคม พระเกจิดังวัดบ้านไร่องค์ใหญ่ที่สุดในโลก

อ่านต่อ

วัดแสงธรรมวังเขาเขียว จังหวัดนครราชสีมา ประเทศไทย

วัดแสงธรรมวังเขาเขียว (Wat Saeng Tham Wang Khao Khiao) เป็นที่ตั้งของพระมหาเจดีย์ศรีแสงธรรมวิสุทธิมงคล พระมหาเจดีย์รูปทรงดอกบัวสีขาวตั้งตระหง่านสง่างามอยู่กลางคูน้ำ ท่ามกลางสวนหย่อมสีเขียวขนาดใหญ่และแวดล้อมด้วยหุบเขาสีเขียวขจีของอำเภอวังน้ำเขียว

อ่านต่อ
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ