- หน้าแรก
- ท่องเที่ยวในประเทศ
- ผาชะนะได จังหวัดอุบลราชธานี ประเทศไทย
ผาชะนะได จังหวัดอุบลราชธานี ประเทศไทย
- อ่าน (8,570)
- ByWebmaster
- 18:05:18 | 20 เม.ย. 2564
ผาชะนะได จังหวัดอุบลราชธานี ประเทศไทย
Pha Chana Dai, Ubon Ratchathani, Thailand
ทัศนียภาพอันสวยงามจากด้านบนหน้าผาของผาชะนะไดซึ่งจะมองเห็นสภาพภูมิประเทศสองฝั่งที่มีแม่น้ำโขงคั่นกลางได้อย่างเต็มตา
ผาชะนะได (Pha Chana Dai) ตั้งอยู่ในบริเวณพื้นที่ของอุทยานแห่งชาติผาแต้ม เป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของจังหวัดอุบลราชธานี เพราะสามารถมองเห็นทิวทัศน์ที่สวยงามของตัวเมือง แม่น้ำโขง และทิวเขาได้จากบนหน้าผาสูงและที่สำคัญคือเป็นจุดที่จะเห็นดวงตะวันขึ้นก่อนใครในสยาม จึงเป็นพื้นที่ที่กรมอุตุนิยมวิทยาใช้คำนวณการขึ้นของดวงอาทิตย์ในประเทศไทย และจะยิ่งสวยงามในช่วงปลายฝนต้นหนาวที่จะเต็มไปด้วยทะเลหมอกในตอนรุ่งเช้า
แผนที่ตั้ง ผาชะนะได (Pha Chana Dai) จังหวัดอุบลราชธานี ประเทศไทย
ประวัติ
ผาชะนะไดตั้งอยู่ในพื้นที่ของป่าดงทานามภายในอุทยานแห่งชาติผาแต้มซึ่งมีความหลากหลายทางธรรมชาติ ผาชะนะไดมีลักษณะเป็นลานหินกว้างและมีหน้าผาที่สูงชันซึ่งมีความสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 450 เมตร จากบริเวณนี้สามารถมองเห็นทัศนียภาพของแม่น้ำโขงและสภาพภูมิประเทศของฝั่งไทยและฝั่งลาว เป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นซึ่งนับเป็นแสงแรกของวัน เพราะเป็นพื้นที่ที่กรมอุตุนิยมวิทยาใช้คำนวณเวลาพระอาทิตย์ขึ้นของประเทศไทย นอกจากนี้ในช่วงเดือนตุลาคมถึงมกราคมจะเป็นช่วงที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวมากที่สุดเพราะจะมีทะเลหมอกที่สวยงามมากอีกแห่งหนึ่งของประเทศไทย
การเตรียมตัวในการเดินทาง
- การเดินทางต้องใช้รถสูง และควรเป็นรถโฟวิลขับเคลื่อนสี่ล้อ เพราะเป็นเส้นทางขึ้นเขา หากฝนตกถนนจะลื่น และอาจติดหล่มได้
- ห้ามรถบัส รถทัวร์ และรถที่มีขนาดล้อตั้งแต่ 6 ล้อขึ้นไปผ่านขึ้นโซนพื้นที่ของผาชะนะได
- ผาชะนะไดตั้งอยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติผาแต้มประมาณ 57 กิโลเมตร สามารถกางเต็นท์พักแรมได้ มีลานกางเต็นท์ไว้คอยบริการนักท่องเที่ยว
- หากต้องการมากางเต็นท์ สิ่งที่ต้องเตรียมไปได้แก่ อาหาร และน้ำดื่ม เพราะบนผาชะนะไดไม่มีร้านค้าสวัสดิการ ไม่มีไฟฟ้า และไม่มีบ้านพัก มีเพียงห้องน้ำและห้องอาบน้ำแยกชายหญิง และสัญญาณโทรศัพท์เท่านั้น นอกจากนี้ต้องปฏิบัติตามข้อห้ามและระเบียบต่างๆ ของอุทยานดังนี้
1. ห้ามให้อาหารสัตว์ป่า
2. ห้ามนำภาชนะที่ทำด้วยโฟมและพลาสติกเข้ามาในอุทยาน
3. ห้ามเก็บพันธุ์ไม้และดอกไม้
4. ห้ามขีดเขียน
5. ห้ามล่าสัตว์ป่า
6. ห้ามก่อกองไฟ
7. ห้ามนำเครื่องดื่มแอลกฮอล์เข้ามา
8. ห้ามส่งเสียงดัง
9. ห้ามนำสัตว์เลี้ยงหรือสัตว์ต่างถิ่นเข้ามา
10. ห้ามพกอาวุธเข้ามา
11. ห้ามเดินออกนอกเส้นทาง
12. ห้ามทิ้งขยะ
บริเวณป่าดงทานามภายในพื้นที่ของอุทยานแห่งชาติผาแต้ม
ลานหินแตกบริเวณป่าดงทานาม
เมื่อถึงด้านบนผาชะนะไดจะพบกับป้ายหินนี้ที่บอกพิกัดลองจิจูด
บรรยากาศโดยรอบด้านบนผาชะนะได
จุดชมวิวที่มีความสูงชัน
ทัศนียภาพจากด้านบนหน้าผาของผาชะนะได
การเดินทางไปจังหวัดอุบลราชธานี
- รถยนต์ (Car) จากกรุงเทพ ไปยัง จังหวัดอุบลราชธานี โดยรถยนต์ มีระยะทางประมาณ 606 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 8 ชั่วโมง 21 นาที
- เครื่องบิน (Flight) จากกรุงเทพ ขึ้นเครื่องที่สนามบินดอนเมืองหรือสนามบินสุวรรณภูมิ และลงเครื่องที่สนามบินอุบลราชธานี ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 10 นาที
- รถไฟ (Train) จากกรุงเทพ ขึ้นรถไฟที่สถานีหัวลำโพงหรือสถานีบางซื่อ ลงที่สถานีอุบลราชธานี ใช้เวลาเดินทางประมาณ 10 ชั่วโมง โดยสามารถตรวจสอบข้อมูลเวลาเดินรถ และค่าโดยสารได้ที่เว็บไซต์การรถไฟแห่งประเทศไทย https://www.dticket.railway.co.th/DTicketPublicWeb/home/Home
- อื่นๆ (others) หากต้องการเดินทางโดยรถทัวร์ ให้ไปขึ้นรถที่สถานีขนส่งหมอชิต2 ใช้เวลาเดินทางประมาณ 9 – 10 ชั่วโมง ลงที่สถานีขนส่งอุบลราชธานี โดยสามารถตรวจสอบข้อมูลเวลาเดินรถ และค่าโดยสารได้ที่เว็บไซต์บริษัทขนส่งจำกัด (บขส) https://ticket.transport.co.th/
การเดินทางไปผาชะนะได
- รถยนต์ (Car) จากตัวเมืองอุบลราชธานีไปยังผาชะนะไดมีระยะทางประมาณ 138 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง 43 นาที
จากที่ทำการอุทยานแห่งชาติผาแต้ม ไปยังผาชะนะไดมีระยะทางประมาณ 57 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง
เนื่องจากไม่มีรถสาธารณะให้บริการในเส้นทางดังกล่าว นักท่องเที่ยวจึงอาจจะต้องเช่ารถขับหรือเหมารถโดยสารท้องถิ่นไปยังผาชะนะได
เวลาทำการเปิด-ปิด
เปิดทุกวัน เวลา 06:00 น. – 16:30 น.
ป้ายกำหนดเวลาขึ้นลงผาชะนะไดบริเวณด่านดงทานาม
อัตราค่าเข้าชม
**ค่าเข้าชมอุทยาน
ชาวไทย : ผู้ใหญ่ 40 บาท เด็ก 20 บาท
ชาวต่างชาติ : ผู้ใหญ่ 400 บาท เด็ก 200 บาท
**ค่านำยานพาหนะเข้าอุทยาน
รถจักรยาน : ไม่เสียค่าบริการ
รถจักรยานยนต์ : 20 บาท
รถยนต์ 4 ล้อ : 30 บาท
**ค่าบริการลานกางเต็นท์ : 30 บาท/คน
ค่าเช่าเต็นท์ : ไม่เกิน 300 บาท/หลัง (เต็นท์มีจำนวนจำกัด)
เวลาที่เหมาะสมสำหรับการท่องเที่ยว
ตลอดทั้งปี แต่ถ้าต้องการชมทะเลหมอกควรมาในช่วงเดือนตุลาคมถึงมกราคม
ลานหินกว้างด้านบนผาชะนะได
นักท่องเที่ยวที่สนใจมาเที่ยว ผาชะนะได สามารถศึกษา ข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่
ผาชะนะได จังหวัดอุบลราชธานี ประเทศไทย
(Pha Chana Dai, Ubon Ratchathani, Thailand)
ระดับความนิยม :
อัตราค่าเข้าชม : ชาวไทย: ผู้ใหญ่ 40 บาท เด็ก 20 บาท
ชาวต่างชาติ: ผู้ใหญ่ 400 บาท เด็ก 200 บาท
เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน เวลา 06:00 น. – 16:30 น.
ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการท่องเที่ยว : ตลอดทั้งปี หากต้องการชมทะเลหมอกควรมาในช่วงเดือนตุลาคมถึงมกราคม
สถานที่ตั้ง : จังหวัดอุบลราชธานี ประเทศไทย
โทรศัพท์ : (+66) 4525 2581
เว็บไซต์ : http://portal.dnp.go.th/Content/nationalpark?contentId=3795
ข้อมูลอื่นๆ ที่ควรรู้ : พยากรณ์อากาศ https://www.accuweather.com
เว็บไซต์จังหวัดอุบลราชธานี http://ubonratchathani.go.th/home/
เว็บไซต์การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ภูมิภาคตะวันออกเฉียงเหนือ https://i-san.tourismthailand.org/
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ
อุทยานแห่งชาติภูผาเทิบ จังหวัดมุกดาหาร ประเทศไทย
อุทยานแห่งชาติภูผาเทิบ (Phu Pha Toep National Park) หรือ อุทยานแห่งชาติมุกดาหาร เป็นหนึ่งในอุทยานที่มีขนาดพื้นที่เล็กที่สุดในประเทศไทย โดยอุทยานแห่งนี้เป็นที่ตั้งของหินรูปทรงประหลาดและถ้ำที่มีจิตรกรรมวาดด้วยมือ
อ่านต่อภูห้วยอีสัน จังหวัดหนองคาย ประเทศไทย
ภูห้วยอีสัน (Phu Huai Isan) เป็นจุดชมวิวทะเลหมอกแห่งใหม่ที่กำลังได้รับความนิยมอย่างมากในช่วงปลายฝนต้นหนาว ด้วยวิวทิวทัศน์ที่สวยงามของทะเลหมอกลอยละล่องเหนือสายน้ำโขง และขุนเขาสลับซับซ้อน ทำให้ที่นี่เป็นจุดหมายปลายทางที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาดเมื่อมาจังหวัดหนองคาย
อ่านต่ออุทยานแห่งชาติป่าหินงาม จังหวัดชัยภูมิ ประเทศไทย
อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม (Pa Hin Ngam National Park) จังหวัดชัยภูมิ เป็นอุทยานแห่งชาติที่มีสภาพป่าสมบูรณ์และมีจุดเด่นทางธรรมชาติที่สวยงามหลายแห่ง โดยเฉพาะทุ่งดอกกระเจียวที่จะออกดอกสีชมพูอมม่วงบานสะพรั่งไปทั่วผืนป่าในช่วงต้นฤดูฝน ประมาณเดือนมิถุนายนถึงเดือนสิงหาคมของทุกปี
อ่านต่อปราสาทพนมวัน จังหวัดนครราชสีมา ประเทศไทย
ปราสาทพนมวัน (Prasat Phanom Wan) อีกหนึ่งปราสาทหินเก่าแก่ในจังหวัดนครราชสีมาที่สร้างขึ้นครั้งแรกตั้งแต่สมัยพุทธศตวรรษที่ 15 เพื่อเป็นเทวสถาน ปราสาทหินแห่งนี้ถือเป็นปราสาทหินที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 5 ของประเทศไทย
อ่านต่อ5 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในจังหวัดยโสธร ประเทศไทย
จังหวัดยโสธรเป็นจังหวัดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่างของไทยที่ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำชี จังหวัดยโสธรมีสถานที่ท่องเที่ยวเชิงศาสนาและวัฒนธรรมหลายแห่ง เพราะเป็นเมืองที่ผ่านประวัติศาสตร์มาอย่างยาวนานตั้งแต่สมัยทวาราวดี วันนี้ทาง Palanla จึงได้รวบรวมสถานที่ที่เป็นไฮไลท์ของจังหวัดยโสธรมาฝากทุกท่านไว้ในบทความนี้
อ่านต่อวัดพระพุทธบาทยโสธร จังหวัดยโสธร ประเทศไทย
วัดพระพุทธบาทยโสธร (Wat Phra Buddhabat Yasothon) เป็นวัดที่มีความสวยงามจากหมู่อาคารสีขาวท่ามกลางบรรยากาศที่เงียบสงบ นักท่องเที่ยวที่มาเยือนนิยมมาเที่ยวชมวัดและสักการะโบราณวัตถุทางพุทธศาสนาอันได้แก่ รอยพระพุทธบาท พระพุทธรูปปางนาคปรก และศิลาจารึกโบราณที่มีอายุราวห้าร้อยปี รวมทั้งพระพุทธรูปหยกขาวที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยที่ประดิษฐานอยู่ในพระอุโบสถ และพระบรมสารีริกธาตุที่ประดิษฐานอยู่ภายในเจดีย์ของวัดอีกด้วย วัดแห่งนี้จึงเป็นอีกหนึ่งวัดดังของจังหวัดยโสธรที่ควรค่าต่อการมาเที่ยวชมเป็นอย่างยิ่ง
อ่านต่อ8 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในจังหวัดศรีสะเกษ ประเทศไทย
จังหวัดศรีสะเกษเป็นจังหวัดในภาคอีสานตอนล่างที่มีแหล่งท่องเที่ยวหลายแห่ง ทั้งสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ที่เป็นจุดชมวิวอันน่าประทับใจ ไปจนถึงแหล่งโบราณสถานอันทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์ และวัดวาอารามที่สร้างขึ้นอย่างงดงามให้เที่ยวชม วันนี้ทาง Palanla ได้รวบรวม 8 สถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นไฮไลท์ของจังหวัดศรีเกษมาฝากทุกท่านกันในบทความนี้
อ่านต่อผามออีแดง จังหวัดศรีสะเกษ ประเทศไทย
ผามออีแดง (Pha Mor E Daeng) เป็นหน้าผาที่ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร เป็นจุดชมวิวที่มองเห็นปราสาทเขาพระวิหาร ป่าไม้ และบ้านเมืองของกัมพูชาที่อยู่ไกลออกไปได้ ในยามเช้าของช่วงปลายฝนต้นหนาวจะเป็นจุดชมทะเลหมอกที่สวยงาม ส่วนในยามพระอาทิตย์ตกดินจะมองเห็นฝูงค้างคาวบินออกมาจากถ้ำเพื่อหากิน นอกจากนี้ อีกหนึ่งไฮไลท์ของผามออีแดงคือภาพจิตรกรรมโบราณที่ถูกสลักไว้ริมหน้าผาซึ่งมีความเก่าแก่กว่าหนึ่งพันห้าร้อยปีทีเดียว ถือเป็น Unseen Thailand ที่คุ้มค่าต่อการมาเที่ยวชมเป็นอย่างยิ่ง
อ่านต่อน้ำตกสำโรงเกียรติ จังหวัดศรีสะเกษ ประเทศไทย
น้ำตกสำโรงเกียรติ (Samrong Kiat Waterfall) เป็นน้ำตกที่มีต้นกำเนิดจากเทือกเขาบรรทัด น้ำตกแห่งนี้มีเอกลักษณ์ตรงที่บริเวณด้านบนหน้าผาจะมีแอ่งลานหินขนาดใหญ่รองรับธารน้ำเอาไว้ก่อนที่จะไหลตกลงมาตามชั้นหน้าผา น้ำตกสำโรงเกียรติมีน้ำไหลตลอดปี และจะมีน้ำมากที่สุดในช่วงฤดูฝน บรรยากาศโดยรอบมีความร่มรื่นจากป่าไม้ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เหมาะกับการมาเล่นน้ำ นั่งพักผ่อนหย่อนใจ และถ่ายภาพสวยๆ ได้อย่างเพลิดเพลิน
อ่านต่อเกาะกลางน้ำ จังหวัดศรีสะเกษ ประเทศไทย
เกาะกลางน้ำ (Koh Klang Nam) เป็นเกาะที่อยู่ใจกลางอ่างเก็บน้ำห้วยน้ำคำในอำเภอเมืองศรีสะเกษ บนเกาะแห่งนี้เป็นสวนสาธาณะขนาดใหญ่และเป็นที่ตั้งของอาคารสำคัญหลายแห่ง เช่น หอศรีลำดวนเฉลิมพระเกียรติที่เป็นหอชมเมืองศรีสะเกษได้รอบทิศ และศรีสะเกษอควาเรียมซึ่งเป็นศูนย์แสดงพันธุ์สัตว์น้ำที่ใหญ่ที่สุดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่นี่จึงเป็นทั้งสถานที่ท่องเที่ยวและสถานที่พักผ่อนหย่อนใจของจังหวัดศรีสะเกษอีกแห่งหนึ่งที่นักท่องเที่ยวให้ความสนใจมาเที่ยวชมเป็นอย่างมาก
อ่านต่อ