วัดโพธาราม จังหวัดบึงกาฬ ประเทศไทย

  • อ่าน (5,621)
  • ByWebmaster
  • 13:14:47 | 13 ก.พ. 2564

วัดโพธาราม จังหวัดบึงกาฬ ประเทศไทย

Wat Photharam, Bueng Kan, Thailand

 

             วัดโพธาราม (Wat Photharam) เป็นหนึ่งในวัดสำคัญของจังหวัดบึงกาฬ มีหลวงพ่อพระใหญ่ พระพุทธรูปปางมารวิชัย ความสูงประมาณ 2 เมตร ประดิษฐานอยู่ที่วัดแห่งนี้คู่กับชาวบึงกาฬมาตั้งแต่โบราณ

 


ประวัติ

             วัดโพธาราม ตั้งอยู่ที่บ้านท่าไคร้ ตำบลบึงกาฬ ห่างจากอำเภอเมืองบึงกาฬ 5 กิโลเมตร ภายในวัดมีพระอุโบสถเป็นที่ประดิษฐานหลวงพ่อพระใหญ่ พระพุทธรูปปางมารวิชัย หน้าตักกว้าง 2 ศอก 1 คืบ พระหัตถ์ซ้ายหงายวางบนหน้าตัก พระหัตถ์ขวาคว่ำวางทับพระฌานุ นิ้วพระหัตถ์ทั้ง 5 เหยียดลงอย่างมีระเบียบเหมือนพระพุทธรูปทั่วๆ ประดิษฐานบนแท่นสี่เหลี่ยมซึ่งได้บูรณะขึ้นใหม่เมื่อปี พ.ศ. 2537

             เดิมหลวงพ่อพระใหญ่เป็นพระพุทธรูปทองสำริดที่มีความงดงาม ต่อมามีการพอกปูนฉาบไว้ สันนิษฐานว่าเป็นการอำพรางจากตอนสงคราม ว่ากันว่าผู้คนส่วนใหญ่ที่มาขอพรมักจะสมปรารถนา ทั้งนี้การเข้าไปกราบไหว้พระในอุโบสถสามารถเข้าได้เฉพาะผู้ชายเท่านั้น ส่วนผู้หญิงกราบได้เพียงด้านนอก ชาวบึงกาฬได้จัดให้มีการสมโภชหลวงพ่อพระใหญ่ปีละ 2 คร้ัง คือ ช่วงประเพณีบุญเดือน 3 หรือบุญข้าวจี่ที่มีการถวายปราสาทผึ้งด้วย และประเพณีสรงน้ำหลวงพ่อพระใหญ่ที่จัดขึ้นสัปดาห์หลังเทศกาลสงกรานต์

             ตามตำนานและคำบอกเล่าของคนเฒ่าคนแก่หลายรุ่นที่เล่าสืบต่อกันมาว่า ผู้คนที่อาศัยอยู่ท่าไคร้ส่วนมากได้อพยพครอบครัวมาจากเมืองยศซึ่งก็คือจังหวัดยโสธรในปัจจุบัน มาตั้งถิ่นฐานริมฝั่งแม่น้ำโขงและร่นขึ้นมาทางเขตชัยบุรีหรืออำเภอบึงกาฬในปัจจุบัน จนถึงบ้านท่าไคร้ที่มีความอุดมสมบูรณ์ หลังจากที่ได้ทำการถากถางอยู่เป็นเวลาหลายวันก็พบพุ่มไม้ที่สูงและหนากว่าที่อื่นๆ เมื่อถางป่าดังกล่าวออกก็พบพระพุทธรูปเดิมที่เต็มไปด้วยเถาวัลย์พันรอบองค์อยู่ จึงได้นำเถาวัลย์ออก แล้วปัดกวาดบริเวณรอบๆ จึงพบว่าพระเกตุมาลาของหลวงพ่อหักเพราะถูกช้างป่ากระชากเถาวัลย์ลงมาเพื่อหาอาหารกิน และเห็นเป็นรูปร่างของสถานที่ประกอบกิจกรรมทางพุทธศาสนา อีกทั้งยังพบซากเครื่องปั้นดินเผา โอ่งโบราณ รวมทั้งเครื่องใช้อีกหลายอย่าง ตั้งแต่พบองค์พระพุทธรูปจนถึงปัจจุบันไม่เคยเคลื่อนย้ายหรือต่อเติมแต่อย่างใด เพียงแต่ต่อพระเกตุที่หักให้คงสภาพเดิม และมีเพียงแท่นที่ประดิษฐานเท่านั้นที่สร้างโอบแท่นเดิมไว้เพื่อให้มั่นคงขึ้นยิ่งกว่าเดิม และเมื่อผู้ที่มาขอพรจากหลวงพ่อสมความปรารถนา ก็ได้นำสีทองมาทาสมโภชหลวงพ่อ จึงทำให้องค์หลวงพ่อเหลืองอร่ามเป็นสีทองทั้งองค์ นอกจากหลวงพ่อพระใหญ่แล้วภายในบริเวณวัดยังมีเรือกำปั่นโบราณจัดแสดงอยู่ด้วย


พระอุโบสถวัดโพธาราม


การเข้าไปกราบไหว้พระในพระอุโบสถสามารถเข้าได้เฉพาะผู้ชายเท่านั้น


สถาปัตยกรรมงดงามของพระอุโบสถ


ภายในบริเวณวัดมีเรือกำปั่นโบราณตั้งแสดงอยู่ด้วย


หลวงพ่อพระใหญ่  พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ที่ประดิษฐานอยู่วัดแห่งนี้คู่กับชาวบึงกาฬมาตั้งแต่โบราณ


การเดินทางไปจังหวัดบึงกาฬ

             - รถยนต์ (Car/ Bus) การเดินทางโดยรถยนต์จากกรุงเทพฯ ไปจังหวัดบึงกาฬ มีระยะทาง 760 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 10 ชั่วโมง 20 นาที

             ทั้งนี้ ไม่มีเที่ยวบินบินตรงจากกรุงเทพฯ ไปจังหวัดบึงกาฬ แต่สามารถใช้เส้นทางบิน กรุงเทพฯ-อุดรธานี ซึ่งเป็นสนามบินจังหวัดใกล้เคียง จากนั้นเดินทางต่อโดยรถยนต์ไปจังหวัดบึงกาฬอีกประมาณ 190 กิโลเมตร

             สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการเดินทางโดยรถไฟ การรถไฟแห่งประเทศไทยมีขบวนรถไฟออกจากกรุงเทพฯ ไปลงที่สถานีจังหวัดอุดรธานี และจังหวัดหนองคายซึ่งเป็นจังหวัดใกล้เคียงเช่นกัน การเดินทางโดยรถไฟใช้เวลาประมาณ 8 ชั่วโมง 30 นาที - 9 ชั่วโมง 30 นาที


การเดินทางไปวัดโพธาราม

             วัดโพธาราม ตั้งอยู่ที่บ้านท่าไคร้ หมู่ 5 ต.บึงกาฬ อ.เมือง โดยอยู่ห่างจากตัวจังหวัดบึงกาฬประมาณ 7 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางโดยรถยนต์ 10 นาที


เวลาทำการเปิด – ปิด

             เปิดทุกวัน เวลา 8.00 - 18.00 น.


ชาวบึงกาฬจัดให้มีการสมโภชหลวงพ่อพระใหญ่ปีละ 2 คร้ัง คือ ช่วงประเพณีบุญเดือน 3 หรือบุญข้าวจี่ และประเพณีสรงน้ำหลวงพ่อพระใหญ่ที่จัดขึ้นสัปดาห์หลังเทศกาลสงกรานต์


อัตราค่าเข้าชม

             ไม่เสียค่าเข้าชม


ความงดงามภายในวัดโพธาราม


ระฆังและฆ้องยักษ์ภายในวัดโพธาราม


สิ่งที่ไม่ควรพลาดเมื่อไปเที่ยววัดโพธาราม

             สักการะขอพรหลวงพ่อพระใหญ่เพื่อความเป็นสิริมงคล และชมเรือกำปั่นโบราณที่อยู่ภายในวัด


เวลาที่เหมาะสมสำหรับการท่องเที่ยว

             สามารถท่องเที่ยวได้ทั้งปี   


             
นักท่องเที่ยวที่สนใจไปเที่ยวชม วัดโพธาราม สามารถศึกษา ข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่

                         วัดโพธาราม จังหวัดบึงกาฬ ประเทศไทย

                         (Wat Photharam, Bueng Kan, Thailand)

                         ระดับความนิยม : 

                         อัตราค่าเข้าชม : ไม่เสียค่าเข้าชม

                         เวลาทำการเปิด – ปิด :  เปิดทุกวัน เวลา 8.00 - 18.00 น.

                         ตั้งอยู่ที่ : บ้านท่าไคร้ หมู่ 5 ต.บึงกาฬ อ.เมือง จ.บึงกาฬ

                         โทรศัพท์ : -

                         เว็บไซต์ : -  

                         ข้อมูลอื่นๆที่ควรรู้ : พยากรณ์อากาศ https://www.accuweather.com/

                                         เว็บไซต์จังหวัดบึงกาฬ http://www.buengkan.go.th

                                         สำนักงานการกีฬาและท่องเที่ยว จังหวัดบึงกาฬ https://bungkan.mots.go.th

                                         ศูนย์บริการข้อมูลท่องเที่ยวประเทศไทย https://thai.tourismthailand.org

 
 

สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ

5 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในจังหวัดยโสธร ประเทศไทย

จังหวัดยโสธรเป็นจังหวัดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่างของไทยที่ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำชี จังหวัดยโสธรมีสถานที่ท่องเที่ยวเชิงศาสนาและวัฒนธรรมหลายแห่ง เพราะเป็นเมืองที่ผ่านประวัติศาสตร์มาอย่างยาวนานตั้งแต่สมัยทวาราวดี วันนี้ทาง Palanla จึงได้รวบรวมสถานที่ที่เป็นไฮไลท์ของจังหวัดยโสธรมาฝากทุกท่านไว้ในบทความนี้

อ่านต่อ

วัดพระพุทธบาทยโสธร จังหวัดยโสธร ประเทศไทย

วัดพระพุทธบาทยโสธร (Wat Phra Buddhabat Yasothon) เป็นวัดที่มีความสวยงามจากหมู่อาคารสีขาวท่ามกลางบรรยากาศที่เงียบสงบ นักท่องเที่ยวที่มาเยือนนิยมมาเที่ยวชมวัดและสักการะโบราณวัตถุทางพุทธศาสนาอันได้แก่ รอยพระพุทธบาท พระพุทธรูปปางนาคปรก และศิลาจารึกโบราณที่มีอายุราวห้าร้อยปี รวมทั้งพระพุทธรูปหยกขาวที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยที่ประดิษฐานอยู่ในพระอุโบสถ และพระบรมสารีริกธาตุที่ประดิษฐานอยู่ภายในเจดีย์ของวัดอีกด้วย วัดแห่งนี้จึงเป็นอีกหนึ่งวัดดังของจังหวัดยโสธรที่ควรค่าต่อการมาเที่ยวชมเป็นอย่างยิ่ง

อ่านต่อ

8 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในจังหวัดศรีสะเกษ ประเทศไทย

จังหวัดศรีสะเกษเป็นจังหวัดในภาคอีสานตอนล่างที่มีแหล่งท่องเที่ยวหลายแห่ง ทั้งสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ที่เป็นจุดชมวิวอันน่าประทับใจ ไปจนถึงแหล่งโบราณสถานอันทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์ และวัดวาอารามที่สร้างขึ้นอย่างงดงามให้เที่ยวชม วันนี้ทาง Palanla ได้รวบรวม 8 สถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นไฮไลท์ของจังหวัดศรีเกษมาฝากทุกท่านกันในบทความนี้

อ่านต่อ

ผามออีแดง จังหวัดศรีสะเกษ ประเทศไทย

ผามออีแดง (Pha Mor E Daeng) เป็นหน้าผาที่ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร เป็นจุดชมวิวที่มองเห็นปราสาทเขาพระวิหาร ป่าไม้ และบ้านเมืองของกัมพูชาที่อยู่ไกลออกไปได้ ในยามเช้าของช่วงปลายฝนต้นหนาวจะเป็นจุดชมทะเลหมอกที่สวยงาม ส่วนในยามพระอาทิตย์ตกดินจะมองเห็นฝูงค้างคาวบินออกมาจากถ้ำเพื่อหากิน นอกจากนี้ อีกหนึ่งไฮไลท์ของผามออีแดงคือภาพจิตรกรรมโบราณที่ถูกสลักไว้ริมหน้าผาซึ่งมีความเก่าแก่กว่าหนึ่งพันห้าร้อยปีทีเดียว ถือเป็น Unseen Thailand ที่คุ้มค่าต่อการมาเที่ยวชมเป็นอย่างยิ่ง

อ่านต่อ

น้ำตกสำโรงเกียรติ จังหวัดศรีสะเกษ ประเทศไทย

น้ำตกสำโรงเกียรติ (Samrong Kiat Waterfall) เป็นน้ำตกที่มีต้นกำเนิดจากเทือกเขาบรรทัด น้ำตกแห่งนี้มีเอกลักษณ์ตรงที่บริเวณด้านบนหน้าผาจะมีแอ่งลานหินขนาดใหญ่รองรับธารน้ำเอาไว้ก่อนที่จะไหลตกลงมาตามชั้นหน้าผา น้ำตกสำโรงเกียรติมีน้ำไหลตลอดปี และจะมีน้ำมากที่สุดในช่วงฤดูฝน บรรยากาศโดยรอบมีความร่มรื่นจากป่าไม้ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เหมาะกับการมาเล่นน้ำ นั่งพักผ่อนหย่อนใจ และถ่ายภาพสวยๆ ได้อย่างเพลิดเพลิน

อ่านต่อ

เกาะกลางน้ำ จังหวัดศรีสะเกษ ประเทศไทย

เกาะกลางน้ำ (Koh Klang Nam) เป็นเกาะที่อยู่ใจกลางอ่างเก็บน้ำห้วยน้ำคำในอำเภอเมืองศรีสะเกษ บนเกาะแห่งนี้เป็นสวนสาธาณะขนาดใหญ่และเป็นที่ตั้งของอาคารสำคัญหลายแห่ง เช่น หอศรีลำดวนเฉลิมพระเกียรติที่เป็นหอชมเมืองศรีสะเกษได้รอบทิศ และศรีสะเกษอควาเรียมซึ่งเป็นศูนย์แสดงพันธุ์สัตว์น้ำที่ใหญ่ที่สุดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่นี่จึงเป็นทั้งสถานที่ท่องเที่ยวและสถานที่พักผ่อนหย่อนใจของจังหวัดศรีสะเกษอีกแห่งหนึ่งที่นักท่องเที่ยวให้ความสนใจมาเที่ยวชมเป็นอย่างมาก

อ่านต่อ

วัดบุไผ่ (วัดบ้านไร่ 2) จังหวัดนครราชสีมา ประเทศไทย

วัดบุไผ่ (วัดบ้านไร่ 2) Wat Bu Pai (Wat Ban Rai 2) เป็นวัดที่ตั้งตระหง่านบนเนินเขาในอำเภอวังน้ำเขียว ประดิษฐานรูปหล่อหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ หรือ พระเทพวิทยาคม พระเกจิดังวัดบ้านไร่องค์ใหญ่ที่สุดในโลก

อ่านต่อ

วัดแสงธรรมวังเขาเขียว จังหวัดนครราชสีมา ประเทศไทย

วัดแสงธรรมวังเขาเขียว (Wat Saeng Tham Wang Khao Khiao) เป็นที่ตั้งของพระมหาเจดีย์ศรีแสงธรรมวิสุทธิมงคล พระมหาเจดีย์รูปทรงดอกบัวสีขาวตั้งตระหง่านสง่างามอยู่กลางคูน้ำ ท่ามกลางสวนหย่อมสีเขียวขนาดใหญ่และแวดล้อมด้วยหุบเขาสีเขียวขจีของอำเภอวังน้ำเขียว

อ่านต่อ

ผาเก็บตะวัน จังหวัดนครราชสีมา ประเทศไทย

ผาเก็บตะวัน (Pha Kep Tawan) หนึ่งในที่เที่ยววังน้ำเขียวที่เป็นจุดชมวิวที่มีทัศนียภาพสวยงาม แวดล้อมด้วยความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติ เหมาะแก่การแวะมาชมวิวผ่อนคลาย หรือหากต้องการกางเต็นท์ค้างคืนก็ได้เช่นกัน

อ่านต่อ

วัดป่าโนนสวรรค์ จังหวัดร้อยเอ็ด ประเทศไทย

วัดป่าโนนสวรรค์ (Wat Pa Non Sawan) เป็นวัดที่มีชื่อเสียงของจังหวัดร้อยเอ็ด ภายในวัดมีความน่าตื่นตาตื่นใจของประติมากรรมปูนปั้นมากมายที่ถ่ายทอดเรื่องเกี่ยวกับพุทธประวัติ พระธรรมคำสอน รวมถึงวรรณคดีไทยชื่อดังต่างๆ ให้ได้เดินเที่ยวชม และภายในวัดยังโดดเด่นด้วยองค์เจดีย์ขนาดใหญ่ที่ตกแต่งอย่างงดงาม รวมถึงศิลปะการตกแต่งที่ใช้หม้อดินมาประดับในส่วนต่างๆ โดยรอบจนมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว วัดแห่งนี้จึงเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดร้อยเอ็ดที่ไม่ควรพลาดชม

อ่านต่อ
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ