- หน้าแรก
- ท่องเที่ยวในประเทศ
- วัดประชาคมวนาราม (วัดป่ากุง) จังหวัดร้อยเอ็ด ประเทศไทย
วัดประชาคมวนาราม (วัดป่ากุง) จังหวัดร้อยเอ็ด ประเทศไทย
![](https://palanla.com//upload/core/pic-4971673179288.jpg)
- อ่าน (8,032)
- ByWebmaster
- 19:01:03 | 15 ธ.ค. 2563
วัดประชาคมวนาราม (วัดป่ากุง) จังหวัดร้อยเอ็ด ประเทศไทย
Wat Prachakom Wanaram (Wat Phakoong), Roi Et Province, Thailand
วัดประชาคมวนาราม หรือวัดป่ากุง (Wat Prachakom Wanaram (Wat Phakoong)) วัดของจังหวัดร้อยเอ็ดที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นคือเจดีย์หินทายที่เลียนแบบมาจากเจดีย์โบโรบูโด (บรมพุทโธ) เกาะชวา ประเทศอินโดนีเซีย
ประวัติ
วัดประชาคมวนาราม หรือวัดป่ากุง ตั้งอยู่ที่ตำบลศรีสมเด็จ อำเภอศรีสมเด็จ จังหวัดร้อยเอ็ด วัดนี้มีชื่อทางการว่า วัดประชาคมวนาราม สร้างโดยหลวงปู่ศรี มหาวีโร มีเจดีย์ขนาดใหญ่ทำจากหินทรายธรรมชาติเป็นแห่งแรกในประเทศไทย ก่อสร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์ครบรอบ 90 ปี พรรษา 60 พระเทพวิสุทธิมงคล "หลวงปู่ศรี มหาวีโร" พระเกจิอาจารย์ฝ่ายกัมมัฏฐานชื่อดังแห่งภาคอีสาน
สิ่งที่เป็นเอกลักษณ์โดดเด่นของวัดป่ากุงคือ เจดีย์หินทาย ที่เลียนแบบมาจากเจดีย์โบโรบูโด (บรมพุทโธ) ที่เกาะชวา อินโดนีเซีย ซึ่งถือเป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก โดยเมื่อปี พ.ศ. 2531 หลวงปู่ศรี มหาวีโร ได้ไปปฏิบัติศาสนกิจ ณ มหาเจดีย์บุโรพุทโธ หรือ โบโรบูโดร์ และประทับใจในความยิ่งใหญ่อลังการของมหาเจดีย์บุโรพุทโธและได้เล่าให้คณะศิษย์ฟัง และดำริว่าจะสร้างไว้ที่เมืองไทย
ต่อมาจึงได้เริ่มการก่อสร้างเจดีย์หินทรายแห่งนี้ขึ้นในปี พ.ศ. 2535 ใช้เวลาก่อสร้างนานถึง 12 ปีจึงเสร็จสมบูรณ์ โดยสร้างแล้วเสร็จเมื่อวันที่ 28 ตุลาคม ปีพ.ศ. 2547 และมีพิธียกยอดเจดีย์ทองคำแท้หนัก 101 ขึ้นประดิษฐาน ด้วยแรงศรัทธาของคณะศิษยานุศิษย์ เพื่อเป็นอนุสรณ์แห่งความสมัครสมานสามัคคี เทิดทูนความดีที่หลวงปู่ศรีได้ปฏิบัติ โดยพิธีสมโภชจัดขึ้นเมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2549 ด้วยงบประมาณถึง 40 ล้านบาท
เจดีย์หินทรายวัดป่ากุงนี้สร้างด้วยหินธรรมชาติทั้งหลัง เป็นหินทรายธรรมชาติจากปากช่อง จ. นครราชสีมา ถือเป็นบุโรพุทโธเจดีย์หินทรายแห่งแรกของไทย มีภาพแกสลักที่สวยงาม วิจิตรพิสดารน่าชมมาก ภายนอกเป็นพุทธประวัติและพระเวสสันดรชาดก ซึ่งตรงกับงานประเพณีบุญผะเหวดร้อยเอ็ด ส่วนภายในพระเจดีย์เป็นที่ประดิษฐาน พระบรมสารีริกธาตุซึ่งอยู่จุดศูนย์กลางของเจดีย์ ผนังแกะสลักเรื่องราวพระพุทธประวัติและเวสสันดรชาดก รวมทั้งประวัติของหลวงปู่ศรีและรูปบูรพาจารย์ เนื่องจากวัดประชาคมวนาราม หรือวัดป่ากุงเป็นสถานที่จำพรรษาของพระเทพวิสุทธิมงคล (หลวงปู่ศรี มหาวีโร)
เจดีย์มีรูปทรงแปดเหลี่ยม กว้าง 101 เมตร ยาว101 เมตร (ความกว้างและยาวนั้นกำหนดตามชื่อจังหวัดร้อยเอ็ด) สูง 109 เมตร แบ่งเป็น7 ชั้น ได้แก่
ชั้นที่ 1 เป็นภาพแกะสลักหินทรายเหลืองนูนต่ำเล่าเรื่องราวซึ่งเป็นพระชาติสุดท้ายที่พระโพธิสัตว์ทรงบำเพ็ญทานบารมี
ชั้นที่ 2-3 เป็นภาพแกะสลักหินทรายเหลืองนูนต่ำ เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับพุทธประวัติพระพุทธเจ้า
ชั้นที่ 4 ภาพแกะสลักหินทรายเหลืองนูนต่ำรูปชัยมงคลคาถา
ชั้นที่ 5 ผนังทรงกลมฐานรององค์เจดีย์ เป็นภาพสังเวชนียสถาน 4 ตำบล ประสูติ ตรัสรู้ แสดงปฐมเทศนา และปรินิพพาน
ชั้นที่ 6 เป็นองค์เจดีย์ราย 8 องค์ และองค์เจดีย์ประธาน 1 องค์ และโดยเฉพาะชั้นที่ 7 ยอดเจดีย์ทองคำ น้ำหนักถึง 101 บาท และภายในองค์เจดีย์ยังเป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุที่นำมาจากประเทศอินเดียให้พุทธศนิกชนและนักท่องเที่ยวได้กราบไหว้บูชา ขอพรเพื่อเป็นสิริมงคล
ในทุก ๆ ปี ระหว่างวันที่ 1- 3 พฤษภาคม วัดป่ากุงจะจัดพิธีระลึกถึงพระคุณของหลวงปู่ศรีในวันคล้ายวันเกิด มีกิจกรรมการสวดมนต์ จัดตั้งโรงทาน ทำบุญตักบาตร ซึ่งในช่วงเวลาดังกล่าว จะมีพุทธศาสนิกชนหลั่งไหลมาร่วมงานเป็นจำนวนมาก
วัดประชาคมวนาราม หรือ วัดป่ากุง
เอกลักษณ์โดดเด่นของวัดป่ากุงคือ เจดีย์หินทาย ที่เลียนแบบมาจากเจดีย์โบโรบูโด (บรมพุทโธ) ที่เกาะชวา อินโดนีเซีย
ลวดลายสะท้อนถึงศิลปะแบบชวา
เจดีย์วัดป่ากุงใช้เวลาก่อสร้าง 2 ปีจึงเสร็จสมบูรณ์
พระพุทธรูปที่รายล้อมเจดีย์อยู่มีทั้งหมด 136 องค์
การเดินทางไปจังหวัดร้อยเอ็ด
- เครื่องบิน (Flight) การเดินทางโดยเครื่องบินจากสนามบินดอนเมืองและสุวรรณภูมิ ไปสนามบินจังหวัดร้อยเอ็ดใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง
- รถยนต์ (Car/ Bus) การเดินทางโดยรถยนต์จากกรุงเทพฯ ไปจังหวัดร้อยเอ็ด มีระยะทาง 500 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 7 ชั่วโมง 30 นาที
การเดินทางไปวัดประชาคมวนาราม (วัดป่ากุง)
วัดประชาคมวนาราม (วัดป่ากุง) ตั้งอยู่ที่ ตำบลศรีสมเด็จ อำเภอศรีสมเด็จ จังหวัดร้อยเอ็ด อยู่ห่างจากตัวเมืองร้อยเอ็ด 21 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางโดยรถยนต์ประมาณ 25 นาที ไม่มีรถสาธารณะไปถึง หากไม่ได้เดินทางโดยรถส่วนตัวนักท่องเที่ยวต้องจ้างหรือเหมารถให้ไปส่ง
เวลาทำการเปิด – ปิด
เปิดทุกวัน เวลา 06.00 - 19.00 น.
ทางเข้าชั้นที่ 1 ขององค์เจดีย์
รูปปั้นหลวงปู่ศรี มหาวีโร
อัตราค่าเข้าชม
ไม่เสียค่าเข้าชม
สิ่งที่ไม่ควรพลาดเมื่อไปเที่ยว
กราบสักการะพระในเจดีย์หินทรายเพื่อความเป็นสิริมงคล และให้อาหารปลา
สระน้ำภายในวัดป่ากุง
โค้งประตูอันงดงาม
เจดีย์โบโรบูโด (บรมพุทโธ) ที่วัดป่ากุงเลียนแบบมานั้นเป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก
บรรยากาศร่มรื่นภายในวัดป่ากุง
เวลาที่เหมาะสมสำหรับการท่องเที่ยว
สามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปี
นักท่องเที่ยวที่สนใจไปเที่ยวชม วัดประชาคมวนาราม (วัดป่ากุง) สามารถศึกษา ข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่
วัดประชาคมวนาราม (วัดป่ากุง) จังหวัดร้อยเอ็ด ประเทศไทย
(Wat Prachakom Wanaram (Wat Phakoong)), Roi Et Province, Thailand)
ระดับความนิยม :
อัตราค่าเข้าชม : ไม่เสียค่าเข้าชม
เวลาทำการเปิด – ปิด : เปิดทุกวัน เวลา 06.00 - 19.00 น.
ตั้งอยู่ที่ : วัดป่ากุง ตำบลศรีสมเด็จ อำเภอศรีสมเด็จ จังหวัดร้อยเอ็ด
โทรศัพท์ : (+66) 043 508127
เว็บไซต์ : -
ข้อมูลอื่นๆ ที่ควรรู้ : พยากรณ์อากาศ https://www.accuweather.com
ศูนย์ข้อมูลนักท่องเที่ยวจังหวัดร้อยเอ็ด https://roiet.mots.go.th
ศูนย์ข้อมูลการเดินทางจังหวัดร้อยเอ็ด http://www.roiet.go.th/pagein-99.html
ศูนย์บริการข้อมูลท่องเที่ยวประเทศไทย https://thai.tourismthailand.org
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ
![](https://palanla.com//upload/dms/pictures/pic-202307121701922558_33574_37-7900.png)
5 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในจังหวัดยโสธร ประเทศไทย
จังหวัดยโสธรเป็นจังหวัดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่างของไทยที่ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำชี จังหวัดยโสธรมีสถานที่ท่องเที่ยวเชิงศาสนาและวัฒนธรรมหลายแห่ง เพราะเป็นเมืองที่ผ่านประวัติศาสตร์มาอย่างยาวนานตั้งแต่สมัยทวาราวดี วันนี้ทาง Palanla จึงได้รวบรวมสถานที่ที่เป็นไฮไลท์ของจังหวัดยโสธรมาฝากทุกท่านไว้ในบทความนี้
อ่านต่อ![](https://palanla.com//upload/dms/pictures/pic-202307121701921664_66937_37-9155.jpg)
วัดพระพุทธบาทยโสธร จังหวัดยโสธร ประเทศไทย
วัดพระพุทธบาทยโสธร (Wat Phra Buddhabat Yasothon) เป็นวัดที่มีความสวยงามจากหมู่อาคารสีขาวท่ามกลางบรรยากาศที่เงียบสงบ นักท่องเที่ยวที่มาเยือนนิยมมาเที่ยวชมวัดและสักการะโบราณวัตถุทางพุทธศาสนาอันได้แก่ รอยพระพุทธบาท พระพุทธรูปปางนาคปรก และศิลาจารึกโบราณที่มีอายุราวห้าร้อยปี รวมทั้งพระพุทธรูปหยกขาวที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยที่ประดิษฐานอยู่ในพระอุโบสถ และพระบรมสารีริกธาตุที่ประดิษฐานอยู่ภายในเจดีย์ของวัดอีกด้วย วัดแห่งนี้จึงเป็นอีกหนึ่งวัดดังของจังหวัดยโสธรที่ควรค่าต่อการมาเที่ยวชมเป็นอย่างยิ่ง
อ่านต่อ![](https://palanla.com//upload/dms/pictures/pic-202307121701918154_78010_37-6480.png)
8 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในจังหวัดศรีสะเกษ ประเทศไทย
จังหวัดศรีสะเกษเป็นจังหวัดในภาคอีสานตอนล่างที่มีแหล่งท่องเที่ยวหลายแห่ง ทั้งสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ที่เป็นจุดชมวิวอันน่าประทับใจ ไปจนถึงแหล่งโบราณสถานอันทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์ และวัดวาอารามที่สร้างขึ้นอย่างงดงามให้เที่ยวชม วันนี้ทาง Palanla ได้รวบรวม 8 สถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นไฮไลท์ของจังหวัดศรีเกษมาฝากทุกท่านกันในบทความนี้
อ่านต่อ![](https://palanla.com//upload/dms/pictures/pic-202307121701916880_78028_37-7297.jpg)
ผามออีแดง จังหวัดศรีสะเกษ ประเทศไทย
ผามออีแดง (Pha Mor E Daeng) เป็นหน้าผาที่ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร เป็นจุดชมวิวที่มองเห็นปราสาทเขาพระวิหาร ป่าไม้ และบ้านเมืองของกัมพูชาที่อยู่ไกลออกไปได้ ในยามเช้าของช่วงปลายฝนต้นหนาวจะเป็นจุดชมทะเลหมอกที่สวยงาม ส่วนในยามพระอาทิตย์ตกดินจะมองเห็นฝูงค้างคาวบินออกมาจากถ้ำเพื่อหากิน นอกจากนี้ อีกหนึ่งไฮไลท์ของผามออีแดงคือภาพจิตรกรรมโบราณที่ถูกสลักไว้ริมหน้าผาซึ่งมีความเก่าแก่กว่าหนึ่งพันห้าร้อยปีทีเดียว ถือเป็น Unseen Thailand ที่คุ้มค่าต่อการมาเที่ยวชมเป็นอย่างยิ่ง
อ่านต่อ![](https://palanla.com//upload/dms/pictures/pic-202307121701916268_93127_37-8809.jpg)
น้ำตกสำโรงเกียรติ จังหวัดศรีสะเกษ ประเทศไทย
น้ำตกสำโรงเกียรติ (Samrong Kiat Waterfall) เป็นน้ำตกที่มีต้นกำเนิดจากเทือกเขาบรรทัด น้ำตกแห่งนี้มีเอกลักษณ์ตรงที่บริเวณด้านบนหน้าผาจะมีแอ่งลานหินขนาดใหญ่รองรับธารน้ำเอาไว้ก่อนที่จะไหลตกลงมาตามชั้นหน้าผา น้ำตกสำโรงเกียรติมีน้ำไหลตลอดปี และจะมีน้ำมากที่สุดในช่วงฤดูฝน บรรยากาศโดยรอบมีความร่มรื่นจากป่าไม้ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เหมาะกับการมาเล่นน้ำ นั่งพักผ่อนหย่อนใจ และถ่ายภาพสวยๆ ได้อย่างเพลิดเพลิน
อ่านต่อ![](https://palanla.com//upload/dms/pictures/pic-202307121701915080_71739_37-2018.jpg)
เกาะกลางน้ำ จังหวัดศรีสะเกษ ประเทศไทย
เกาะกลางน้ำ (Koh Klang Nam) เป็นเกาะที่อยู่ใจกลางอ่างเก็บน้ำห้วยน้ำคำในอำเภอเมืองศรีสะเกษ บนเกาะแห่งนี้เป็นสวนสาธาณะขนาดใหญ่และเป็นที่ตั้งของอาคารสำคัญหลายแห่ง เช่น หอศรีลำดวนเฉลิมพระเกียรติที่เป็นหอชมเมืองศรีสะเกษได้รอบทิศ และศรีสะเกษอควาเรียมซึ่งเป็นศูนย์แสดงพันธุ์สัตว์น้ำที่ใหญ่ที่สุดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่นี่จึงเป็นทั้งสถานที่ท่องเที่ยวและสถานที่พักผ่อนหย่อนใจของจังหวัดศรีสะเกษอีกแห่งหนึ่งที่นักท่องเที่ยวให้ความสนใจมาเที่ยวชมเป็นอย่างมาก
อ่านต่อ![](https://palanla.com//upload/dms/pictures/pic-202303031677827064_74966_37-9214.jpg)
วัดบุไผ่ (วัดบ้านไร่ 2) จังหวัดนครราชสีมา ประเทศไทย
วัดบุไผ่ (วัดบ้านไร่ 2) Wat Bu Pai (Wat Ban Rai 2) เป็นวัดที่ตั้งตระหง่านบนเนินเขาในอำเภอวังน้ำเขียว ประดิษฐานรูปหล่อหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ หรือ พระเทพวิทยาคม พระเกจิดังวัดบ้านไร่องค์ใหญ่ที่สุดในโลก
อ่านต่อ![](https://palanla.com//upload/dms/pictures/pic-202303031677826237_89093_37-6298.jpg)
วัดแสงธรรมวังเขาเขียว จังหวัดนครราชสีมา ประเทศไทย
วัดแสงธรรมวังเขาเขียว (Wat Saeng Tham Wang Khao Khiao) เป็นที่ตั้งของพระมหาเจดีย์ศรีแสงธรรมวิสุทธิมงคล พระมหาเจดีย์รูปทรงดอกบัวสีขาวตั้งตระหง่านสง่างามอยู่กลางคูน้ำ ท่ามกลางสวนหย่อมสีเขียวขนาดใหญ่และแวดล้อมด้วยหุบเขาสีเขียวขจีของอำเภอวังน้ำเขียว
อ่านต่อ![](https://palanla.com//upload/dms/pictures/pic-202303031677825478_63890_37-6904.jpg)
ผาเก็บตะวัน จังหวัดนครราชสีมา ประเทศไทย
ผาเก็บตะวัน (Pha Kep Tawan) หนึ่งในที่เที่ยววังน้ำเขียวที่เป็นจุดชมวิวที่มีทัศนียภาพสวยงาม แวดล้อมด้วยความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติ เหมาะแก่การแวะมาชมวิวผ่อนคลาย หรือหากต้องการกางเต็นท์ค้างคืนก็ได้เช่นกัน
อ่านต่อ![](https://palanla.com//upload/dms/pictures/pic-202317011673975462_57311.jpg)
วัดป่าโนนสวรรค์ จังหวัดร้อยเอ็ด ประเทศไทย
วัดป่าโนนสวรรค์ (Wat Pa Non Sawan) เป็นวัดที่มีชื่อเสียงของจังหวัดร้อยเอ็ด ภายในวัดมีความน่าตื่นตาตื่นใจของประติมากรรมปูนปั้นมากมายที่ถ่ายทอดเรื่องเกี่ยวกับพุทธประวัติ พระธรรมคำสอน รวมถึงวรรณคดีไทยชื่อดังต่างๆ ให้ได้เดินเที่ยวชม และภายในวัดยังโดดเด่นด้วยองค์เจดีย์ขนาดใหญ่ที่ตกแต่งอย่างงดงาม รวมถึงศิลปะการตกแต่งที่ใช้หม้อดินมาประดับในส่วนต่างๆ โดยรอบจนมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว วัดแห่งนี้จึงเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดร้อยเอ็ดที่ไม่ควรพลาดชม
อ่านต่อ