- หน้าแรก
- ท่องเที่ยวในประเทศ
- วัดบูรพาภิราม จังหวัดร้อยเอ็ด ประเทศไทย
วัดบูรพาภิราม จังหวัดร้อยเอ็ด ประเทศไทย
- อ่าน (5,991)
- ByWebmaster
- 18:50:40 | 15 ธ.ค. 2563
วัดบูรพาภิราม จังหวัดร้อยเอ็ด ประเทศไทย
Wat Buraphaphiram, Roi Et Province, Thailand
วัดบูรพาภิราม (Wat Buraphaphiram) พระอารามหลวงชั้นตรี ที่มีพระพุทธรูปปางประทานพรที่สูงที่สุดในประเทศไทย หรือหลวงพ่อใหญ่ประทับยืนเด่นเป็นสง่า สามารถมองเห็นได้จากระยะไกล หนึ่งในวัดศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองของชาวร้อยเอ็ด
ประวัติ
วัดบูรพาภิรามเป็นพระอารามหลวงชั้นตรี สร้างขึ้นตั้งแต่ปี พ.ศ.2456 เดิมชื่อ วัดหัวรอ ต่อมาได้เปลี่ยนชื่อมาเป็น วัดบูรพาภิราม เพราะในสมัยนั้นได้ใช้เป็น สถานที่สำหรับพักค้างแรมของพ่อค้าและประชานที่อาศัยการเดินเท้าเป็นหลัก เพราะยังไม่มีพาหนะการเดินทางสะดวกเหมือนปัจจุบัน วัดหัวรอจึง เป็นจุดเริ่มของการพักแรมในคืนแรกของการเดินทางและมักเป็นจุดนัดพบกันที่วัดแห่งนี้ ต่อมาพระอธิการหล้าอินทว์โส ได้ขยายวัด ให้กว้างขวางยิ่งขึ้น และได้เรียกชื่อวัดใหม่ว่า "วัดบูรพา" เพราะว่าตั้งอยู่ในทิศบูรพาหรือตะวันออกของเมือง แต่ในเวลาต่อมาได้ เปลี่ยนชื่อวัดใหม่ เพื่อความเหมาะสมว่า "วัดบูรพาภิราม"
วัดบูรพาภิราม มีพระพุทธรูปปางประทานพรที่สูงที่สุดในประเทศไทยคือ พระพุทธรัตนมงคลมหามุนี หรือหลวงพ่อใหญ่ประทับยืนเด่นเป็นสง่ามองเห็นได้จากระยะไกล เป็นที่เคารพเลื่อมใสของชาวร้อยเอ็ด นอกจากนี้หลวงพ่อใหญ่ยังเป็นสัญลักษณ์ประจำจังหวัด ตามคำขวัญของเมืองร้อยเอ็ดว่า "สิบเอ็ดประตูงาม เรืองนามพระสูงใหญ่ ผ้าไหมสาเกตุ บุญผะเหวดประเพณี มหาเจดีย์ไชยมงคลงามน่ายลบึงพระลานชัย เขตกว้างไกลทุ่งกุลา โลกลือชาข้าวหอมมะลิ"
พระพุทธรัตนมงคลมหามุนี หรือหลวงพ่อใหญ่ สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2516 องค์พระนั้นสร้างขึ้นด้วยคอนกรีตเสริมเหล็ก ความสูงของ องค์พระวัดจากพระบาท สูงถึง 101 ศอกเท่ากับชื่อจังหวัด รอบฐานสูงถึง 135 ศอก สูงที่สุดในประเทศไทย และอันดับ 6 ของโลก ใต้ฐานพระเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูป ที่สำคัญยังมีฆ้องเสี่ยงทายตามความเชื่อเพื่ออฐิษฐานขอพรให้เกิดความประสบเป็นสิริมงคลแก่ตนเองและครอบครัว ภายในพระอุโบสถมีภาพเขียนเรื่องราวพุทธประวัติและประเพณีบุญผะเหวด โดยช่างสิบหมู่ กรมศิลปากร เป็นภาพเขียนที่มีความสวยงามอ่อนช้อยอย่างยิ่ง
พระอุโบสถวัดบูรพาภิราม เป็นอุโบสถที่สร้างได้สวยงามกำแพงแก้วมีซุ้มประตูโดยรอบ แต่ละซุ้มมียอดที่สวยงาม หน้าบันของอุโบสถประดับด้วยครุฑขนาดใหญ่ ด้านบนเป็นพระปรมาภิไธยย่อ ภปร.
ด้านทิศตะวันออกของบริเวณวัดอยู่ติดกับคูรอบเมืองสมัยเก่า ภาย ในบริเวณวัดยังเป็นที่ตั้งศูนย์งานพระธรรมทูต โรงเรียนปริยัติธรรม และมีศาลเจ้าพ่อมเหศักดิ์ ซึ่งเป็นที่เคารพของชาวเมืองอยู่ด้วย ความเชื่อและวิธีการบูชา ชาวร้อยเอ็ดถือว่าพระเจ้าใหญ่นั้นเป็นพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองที่คอยปกป้องคุ้มครองชาวร้อยเอ็ดให้มีชีวิต ความเป็นอยู่อย่างร่มเย็น เป็นสุขด้วยความสูงขององค์พระทำให้เกิดความเชื่อว่า หากได้มากราบไหว้ จะได้อานิสงส์สูงเทียมเมฆ เทียม ฟ้าทำการสิ่งใดก็สำเร็จผลด้วยประการทั้งปวง
นอกจากนี้ ภายในวัดบูรพาภิรามยังมีสิ่งน่าสนใจอื่นๆ คือ หอกลอง ที่อยู่ด้านหน้าของพระพุทธรูป อีกฟากหนึ่งของลานจอดรถ โดยมีกลองขนาดใหญ่อยู่เป็นจำนวนมาก และข้างๆ กันกับหอกลองยังมี “โปง” ทำด้วยไม้ โดยเจาะข้างในให้เป็นโพลง เพื่อให้เสียงก้องกังวานเมื่อใช้ไม้ตีหรือกระทุ้ง โปงใช้ในการตีให้สัญญาณบอกเวลาในสมัยก่อน
องค์พระวัดจากพระบาทมีความสูงถึง 101 ศอก
พระพุทธรัตนมงคลมหามุนี หรือพระเจ้าใหญ่
ใต้ฐานองค์พระเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูป
พระอุโบสถวัดบูรพาภิราม
ป้ายวัดบูรพาภิราม
การเดินทางไปจังหวัดร้อยเอ็ด
- เครื่องบิน (Flight) การเดินทางโดยเครื่องบินจากสนามบินดอนเมืองและสุวรรณภูมิ ไปสนามบินจังหวัดร้อยเอ็ดใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง
- รถยนต์ (Car/ Bus) การเดินทางโดยรถยนต์จากกรุงเทพฯ ไปจังหวัดร้อยเอ็ด มีระยะทาง 500 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 7 ชั่วโมง 30 นาที
การเดินทางไปวัดบูรพาภิราม
วัดบูรพาภิราม ตั้งอยู่ที่ถนนเปรมประชาราษฎร์ อำเภอเมือง จังหวัดร้อยเอ็ด อยู่ห่างจากสถานีขนส่งจังหวัด 3 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางโดยรถยนต์เพียง 10 นาที หากไม่ได้เดินทางโดยรถส่วนตัว นักท่องเที่ยวก็สามารถใช้บริการรถสองแถวได้หลายสายที่วิ่งผ่านวัดบูรพาภิราม ค่าโดยสารคิดตามระยะทาง เริ่มต้นที่ราคา 9 บาท
เวลาทำการเปิด – ปิด
เปิดทุกวัน เวลา 08.30 – 16.30 น.
บรรยากาศของวัดบูรพาภิรามและพระพุทธรัตนมงคลมหามุนีในยามค่ำคืน
อัตราค่าเข้าชม
ไม่เสียค่าเข้าชม
สิ่งที่ไม่ควรพลาดเมื่อไปเที่ยว วัดบูรพาภิราม
ชมความงดงามและสักการะพระพุทธรัตนมงคลมหามุนี หรือ "หลวงพ่อใหญ่" ซึ่งเป็นพระพุทธรูปยืนองค์สูงที่สุด ในประเทศไทยและสูงที่สุดในโลก ด้วยความสูง 67.55 เมตร
เวลาที่เหมาะสมสำหรับการท่องเที่ยว
สามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปี
นักท่องเที่ยวที่สนใจไปเที่ยวชม วัดบูรพาภิราม สามารถศึกษา ข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่
วัดบูรพาภิราม จังหวัดร้อยเอ็ด ประเทศไทย
(Wat Buraphaphiram, Roi Et Province, Thailand)
ระดับความนิยม :
อัตราค่าเข้าชม : ไม่เสียค่าเข้าชม
เวลาทำการเปิด – ปิด : เปิดทุกวัน เวลา 08.30 – 16.30 น.
ตั้งอยู่ที่ : ถนนเปรมประชาราษฎร์ อำเภอเมือง จังหวัดร้อยเอ็ด
โทรศัพท์ : (+66) 043 511 374
เว็บไซต์ : -
ข้อมูลอื่นๆ ที่ควรรู้ : พยากรณ์อากาศ https://www.accuweather.com
ศูนย์ข้อมูลนักท่องเที่ยวจังหวัดร้อยเอ็ด https://roiet.mots.go.th
ศูนย์ข้อมูลการเดินทางจังหวัดร้อยเอ็ด http://www.roiet.go.th/pagein-99.html
ศูนย์บริการข้อมูลท่องเที่ยวประเทศไทย https://thai.tourismthailand.org
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ
อุทยานแห่งชาติภูผาเทิบ จังหวัดมุกดาหาร ประเทศไทย
อุทยานแห่งชาติภูผาเทิบ (Phu Pha Toep National Park) หรือ อุทยานแห่งชาติมุกดาหาร เป็นหนึ่งในอุทยานที่มีขนาดพื้นที่เล็กที่สุดในประเทศไทย โดยอุทยานแห่งนี้เป็นที่ตั้งของหินรูปทรงประหลาดและถ้ำที่มีจิตรกรรมวาดด้วยมือ
อ่านต่อภูห้วยอีสัน จังหวัดหนองคาย ประเทศไทย
ภูห้วยอีสัน (Phu Huai Isan) เป็นจุดชมวิวทะเลหมอกแห่งใหม่ที่กำลังได้รับความนิยมอย่างมากในช่วงปลายฝนต้นหนาว ด้วยวิวทิวทัศน์ที่สวยงามของทะเลหมอกลอยละล่องเหนือสายน้ำโขง และขุนเขาสลับซับซ้อน ทำให้ที่นี่เป็นจุดหมายปลายทางที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาดเมื่อมาจังหวัดหนองคาย
อ่านต่ออุทยานแห่งชาติป่าหินงาม จังหวัดชัยภูมิ ประเทศไทย
อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม (Pa Hin Ngam National Park) จังหวัดชัยภูมิ เป็นอุทยานแห่งชาติที่มีสภาพป่าสมบูรณ์และมีจุดเด่นทางธรรมชาติที่สวยงามหลายแห่ง โดยเฉพาะทุ่งดอกกระเจียวที่จะออกดอกสีชมพูอมม่วงบานสะพรั่งไปทั่วผืนป่าในช่วงต้นฤดูฝน ประมาณเดือนมิถุนายนถึงเดือนสิงหาคมของทุกปี
อ่านต่อปราสาทพนมวัน จังหวัดนครราชสีมา ประเทศไทย
ปราสาทพนมวัน (Prasat Phanom Wan) อีกหนึ่งปราสาทหินเก่าแก่ในจังหวัดนครราชสีมาที่สร้างขึ้นครั้งแรกตั้งแต่สมัยพุทธศตวรรษที่ 15 เพื่อเป็นเทวสถาน ปราสาทหินแห่งนี้ถือเป็นปราสาทหินที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 5 ของประเทศไทย
อ่านต่อ5 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในจังหวัดยโสธร ประเทศไทย
จังหวัดยโสธรเป็นจังหวัดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่างของไทยที่ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำชี จังหวัดยโสธรมีสถานที่ท่องเที่ยวเชิงศาสนาและวัฒนธรรมหลายแห่ง เพราะเป็นเมืองที่ผ่านประวัติศาสตร์มาอย่างยาวนานตั้งแต่สมัยทวาราวดี วันนี้ทาง Palanla จึงได้รวบรวมสถานที่ที่เป็นไฮไลท์ของจังหวัดยโสธรมาฝากทุกท่านไว้ในบทความนี้
อ่านต่อวัดพระพุทธบาทยโสธร จังหวัดยโสธร ประเทศไทย
วัดพระพุทธบาทยโสธร (Wat Phra Buddhabat Yasothon) เป็นวัดที่มีความสวยงามจากหมู่อาคารสีขาวท่ามกลางบรรยากาศที่เงียบสงบ นักท่องเที่ยวที่มาเยือนนิยมมาเที่ยวชมวัดและสักการะโบราณวัตถุทางพุทธศาสนาอันได้แก่ รอยพระพุทธบาท พระพุทธรูปปางนาคปรก และศิลาจารึกโบราณที่มีอายุราวห้าร้อยปี รวมทั้งพระพุทธรูปหยกขาวที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยที่ประดิษฐานอยู่ในพระอุโบสถ และพระบรมสารีริกธาตุที่ประดิษฐานอยู่ภายในเจดีย์ของวัดอีกด้วย วัดแห่งนี้จึงเป็นอีกหนึ่งวัดดังของจังหวัดยโสธรที่ควรค่าต่อการมาเที่ยวชมเป็นอย่างยิ่ง
อ่านต่อ8 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในจังหวัดศรีสะเกษ ประเทศไทย
จังหวัดศรีสะเกษเป็นจังหวัดในภาคอีสานตอนล่างที่มีแหล่งท่องเที่ยวหลายแห่ง ทั้งสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ที่เป็นจุดชมวิวอันน่าประทับใจ ไปจนถึงแหล่งโบราณสถานอันทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์ และวัดวาอารามที่สร้างขึ้นอย่างงดงามให้เที่ยวชม วันนี้ทาง Palanla ได้รวบรวม 8 สถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นไฮไลท์ของจังหวัดศรีเกษมาฝากทุกท่านกันในบทความนี้
อ่านต่อผามออีแดง จังหวัดศรีสะเกษ ประเทศไทย
ผามออีแดง (Pha Mor E Daeng) เป็นหน้าผาที่ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร เป็นจุดชมวิวที่มองเห็นปราสาทเขาพระวิหาร ป่าไม้ และบ้านเมืองของกัมพูชาที่อยู่ไกลออกไปได้ ในยามเช้าของช่วงปลายฝนต้นหนาวจะเป็นจุดชมทะเลหมอกที่สวยงาม ส่วนในยามพระอาทิตย์ตกดินจะมองเห็นฝูงค้างคาวบินออกมาจากถ้ำเพื่อหากิน นอกจากนี้ อีกหนึ่งไฮไลท์ของผามออีแดงคือภาพจิตรกรรมโบราณที่ถูกสลักไว้ริมหน้าผาซึ่งมีความเก่าแก่กว่าหนึ่งพันห้าร้อยปีทีเดียว ถือเป็น Unseen Thailand ที่คุ้มค่าต่อการมาเที่ยวชมเป็นอย่างยิ่ง
อ่านต่อน้ำตกสำโรงเกียรติ จังหวัดศรีสะเกษ ประเทศไทย
น้ำตกสำโรงเกียรติ (Samrong Kiat Waterfall) เป็นน้ำตกที่มีต้นกำเนิดจากเทือกเขาบรรทัด น้ำตกแห่งนี้มีเอกลักษณ์ตรงที่บริเวณด้านบนหน้าผาจะมีแอ่งลานหินขนาดใหญ่รองรับธารน้ำเอาไว้ก่อนที่จะไหลตกลงมาตามชั้นหน้าผา น้ำตกสำโรงเกียรติมีน้ำไหลตลอดปี และจะมีน้ำมากที่สุดในช่วงฤดูฝน บรรยากาศโดยรอบมีความร่มรื่นจากป่าไม้ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เหมาะกับการมาเล่นน้ำ นั่งพักผ่อนหย่อนใจ และถ่ายภาพสวยๆ ได้อย่างเพลิดเพลิน
อ่านต่อเกาะกลางน้ำ จังหวัดศรีสะเกษ ประเทศไทย
เกาะกลางน้ำ (Koh Klang Nam) เป็นเกาะที่อยู่ใจกลางอ่างเก็บน้ำห้วยน้ำคำในอำเภอเมืองศรีสะเกษ บนเกาะแห่งนี้เป็นสวนสาธาณะขนาดใหญ่และเป็นที่ตั้งของอาคารสำคัญหลายแห่ง เช่น หอศรีลำดวนเฉลิมพระเกียรติที่เป็นหอชมเมืองศรีสะเกษได้รอบทิศ และศรีสะเกษอควาเรียมซึ่งเป็นศูนย์แสดงพันธุ์สัตว์น้ำที่ใหญ่ที่สุดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่นี่จึงเป็นทั้งสถานที่ท่องเที่ยวและสถานที่พักผ่อนหย่อนใจของจังหวัดศรีสะเกษอีกแห่งหนึ่งที่นักท่องเที่ยวให้ความสนใจมาเที่ยวชมเป็นอย่างมาก
อ่านต่อ