- หน้าแรก
- ท่องเที่ยวในประเทศ
- ปราสาทพนมรุ้ง จังหวัดบุรีรัมย์ ประเทศไทย
ปราสาทพนมรุ้ง จังหวัดบุรีรัมย์ ประเทศไทย

- อ่าน (5,627)
- ByWebmaster
- 09:46:48 | 25 พ.ย. 2563
ปราสาทพนมรุ้ง จังหวัดบุรีรัมย์ ประเทศไทย
Panom Rung Historical Park, Buriram, Thailand
ปราสาทพนมรุ้ง (Panom Rung Historical Park) เป็นปราสาทหินเก่าแก่ศิลปะขอมที่มีอายุผ่านกาลเวลามาร่วมพันปี จากการรังสรรค์ด้วยภูมิปัญญาอันแยบยลของคนโบราณ ที่ถ่ายทอดความเชื่อและความศรัทธาในศาสนาฮินดูไศวนิกาย ผ่านลายสลักบนหินนับร้อยนับพันก้อนอย่างวิจิตรงดงาม จนเกิดเป็นเทวสถานอันยิ่งใหญ่บนยอดภูเขาไฟสูงที่ดับสนิทแล้วหนึ่งในหกลูกสำคัญของจังหวัดบุรีรัมย์
ประวัติ
ปราสาทพนมรุ้ง ตั้งอยู่ภายในบริเวณอุทยานประวัติศาสตร์พนมรุ้ง ต.ตาเป๊ก อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.บุรีรัมย์ ปราสาทหินเก่าแก่ที่มีอายุร่วมพันปีที่ตั้งอยู่บนพื้นที่ภูเขาไฟเก่าเมื่อหลายแสนปีก่อนแห่งนี้ เป็นสถานที่ที่สร้างด้วยสถาปัตยกรรมแสนยิ่งใหญ่ และเป็นหลักฐานสำคัญที่ยืนยันว่าประเทศไทยเคยมีเป็นดินแดนแห่งภูเขาไฟมาก่อนทั้งยังเป็นภูเขาไฟที่สูงที่สุดในบุรีรัมย์อีกด้วย พื้นที่ภูเขาไฟในอดีตบริเวณนี้มีความอุดมสมบูรณ์สูงเหมาะแก่การเพาะปลูก จึงทำให้มีกลุ่มชนหลายชุมชนมาตั้งถิ่นฐานและกลายเป็นชุมชนใหญ่ในที่สุด
สันนิษฐานว่าปราสาทพนมรุ้งสร้างขึ้นประมาณพุทธศตวรรษที่ 15 โดยพระเจ้านเรนราทิตย์ ซึ่งเป็นญาติกับพระเจ้าสุริยวรมันที่ 2 ที่ทรงสร้างนครวัด ในประเทศกัมพูชา โดยสร้างขึ้นเพื่อเป็นศาสนสถานของศาสนาฮินดู ลัทธิไศวนิกาย ซึ่งนับถือพระศิวะเป็นใหญ่ โดยจากหลักฐานทางโบราณคดีนั้น นักวิชาการได้ลงความเห็นว่าปราสาทพนมรุ้งไม่ใช่ที่พักของกษัตริย์ แต่เป็นศาสนสถานที่มีการใช้อย่างต่อเนื่อง ผู้ที่อยู่ที่นี่ต้องเป็นคนที่ใกล้ชิดกับพระเจ้า โดยในจารึกได้บรรยายว่ามีนักพรตโยคีมาบำเพ็ญพรตที่ปราสาทแห่งนี้
สิ่งหนึ่งที่เรามักจะได้ยินกันอยู่บ่อยครั้งเมื่อเอ่ยถึงปราสาทพนมรุ้งนั่นก็คือ "ทับหลังนารายณ์” โดยทับหลังนารายณ์บรรทมสินธุ์ที่ปราสาทเขาพนมรุ้งแห่งนี้ เป็นทับหลังที่ถูกขโมยไปแล้วถูกนำกลับมาประดับไว้ที่เดิม หากสังเกตด้านบนของทับหลังนารายณ์บรรทมสินธุ์ สลักเป็นรูปศิวนาฎราช-พระศิวะร่ายรำ อีกทั้งจารึกที่ปราสาทยังบรรยายว่าได้มีสร้างรูปพระนารายณ์ไว้ในเรือนหรือปราสาทของพระศิวะ ด้วยเหตุที่เกี่ยวข้องกับการเชิดชูพระศิวะเหนือพระนารายณ์ที่เป็นตัวแทนของลัทธิไวษณพนิกายนั่นเอง
ส่วนทวารบาลที่ปราสาทพนมรุ้งนั้น เป็นเพียงทวารจำลองโดยของจริงได้ถูกเก็บรักษาไว้ ตามความเชื่อคือทวารบาลมีหน้าที่เฝ้าศาสนสถานมิให้สิ่งชั่วร้ายทั้งหลายผ่านเข้าสู่ศาสนสถานได้ มีสองแบบคือแบบนั่งกับยืน
นอกจากความงดงาม และยิ่งใหญ่ของสถาปัตยกรรมแล้ว ความน่าอัศจรรย์อย่างหนึ่งของปราสาทศิลปะแบบขอมแห่งนี้ก็คือ ปรากฏการณ์ดวงอาทิตย์ส่องแสงลอดช่องประตูทั้ง 15 บาน โดยในหนึ่งปีจะมีเพียง 4 ครั้งเท่านั้น คือในวันที่ 3-5 เมษายน และ 8-10 กันยายนของทุกปีดวงอาทิตย์จะขึ้น ส่องแสงลอดช่องประตูทั้ง 15 บาน และในวันที่ 6-8 มีนาคม และ 6-8 ตุลาคม ของทุกปี ดวงอาทิตย์ก็จะตก ส่องแสงลอดช่องประตูทั้ง 15 บาน เช่นกัน
ในช่วงเวลาดังกล่าวนี้จะมีนักท่องเที่ยวจำนวนมากเดินทางมาเพื่อชมความอลังการที่ผสานระหว่างธรรมชาติและสิ่งก่อสร้างอันน่าทึ่งของคนสมัยก่อน โดยมีความเชื่อกันว่าปรากฏการณ์นี้เป็นปรากฏการณ์ศักดิ์สิทธิ์ การรับแสงอาทิตย์ที่สอดส่องผ่านช่องประตู และแสงอาทิตย์ที่ไปต้องกับศิวลึงค์ซึ่งเป็นตัวแทนของพระศิวะที่ตั้งอยู่กลางปราสาทเขาพนมรุ้งนั้น เป็นการเสริมพลังชีวิตและเป็นสิ่งมงคลแก่ตนเองและครอบครัวของผู้ที่ได้ชม
แสงอาทิตย์สอดส่องผ่านช่องประตูที่ปราสาทพนมรุ้ง
ประติมากรรมสิงห์คู่นั่ง ลักษณะเดียวกันกับสิงห์คู่ที่อยู่ทางขึ้นปราสาทเขาพระวิหาร
ประติมากรรมรูปทวารบาล
บางส่วนของปราสาทหินเก่าแก่ที่มีอายุร่วมพันปี
นักท่องเที่ยวเดินทางมาเที่ยวชมปราสาทพนมรุ้ง
การเดินทางไปจังหวัดบุรีรัมย์
- เครื่องบิน (Flight) การเดินทางโดยเครื่องบินจากสนามบินดอนเมืองและสุวรรณภูมิ ไปสนามบินจังหวัดบุรีรัมย์ใช้เวลาเดินทางประมาณ 55 นาที
- รถยนต์ (Car/ Bus) การเดินทางโดยรถยนต์จากกรุงเทพฯ ไปจังหวัดบุรีรัมย์ มีระยะทาง 400 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 5 ชั่วโมง
- รถไฟ (Train) การเดินทางโดยรถไฟจากกรุงเทพฯ ไปจังหวัดบุรีรัมย์ ใช้เวลาเร็วสุดประมาณ 6ชั่วโมง ทั้งนี้อาจใช้เวลานานกว่านี้ขึ้นอยู่กับประเภทของรถไฟ
การเดินทางไปปราสาทพนมรุ้ง
ปราสาทพนมรุ้งอยู่ห่างจากตัวจังหวัดบุรีรัมย์ประมาณ 70 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางโดยรถยนต์ 1 ชั่วโมง หากไม่ได้เดินทางโดยรถส่วนตัว จากสถานีขนส่งบุรีรัมย์สามารถนั่งรถสายบุรีรัมย์ – นางรอง ไปลงที่สถานีนางรองแล้วต่อรถสองแถวไปยังอุทยานประวัติศาสตร์พนมรุ้ง หรือนั่งรถโดยสารสายบุรีรัมย์ - จันทบุรี ไปลงที่หมู่บ้านตะโก แล้วต่อรถสองแถวหรือมอเตอร์ไซค์รับจ้างไปยังอุทยานประวัติศาสตร์พนมรุ้ง
เวลาทำการเปิด – ปิด
เปิดให้เข้าชมทุกวัน เวลา 06.00 -18.00 น.
ภาพซ้ายคือรูปปั้นศิวลึงค์ประดิษฐานภายในห้องครรภคฤหะ ขวาคือรูปปั้นโคนนทิ พาหนะของพระศิวะ
อัตราค่าเข้าชม
ชาวไทย 20 บาท ชาวต่างชาติ 100 บาท
สิ่งที่ไม่ควรพลาดเมื่อไปเที่ยวปราสาทพนมรุ้ง
ชมความงามและความอัศจรรย์ของสถาปัตยกรรมศิลปะแบบขอมโบราณ และชมปรากฏการณ์พระอาทิตย์ส่องแสงลอดช่องประตูที่ปราสาทพนมรุ้ง
นักท่องเที่ยวเฝ้ารอชมปรากฏการณ์พระอาทิตย์ส่องแสงลอดช่องประตูที่ปราสาทพนมรุ้ง
เวลาที่เหมาะสมสำหรับการท่องเที่ยว
สามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปี ทั้งนี้หากต้องการชมปรากฏการณ์ดวงอาทิตย์ส่องแสงลอดช่องประตูทั้ง 15 บาน หนึ่งปีจะมีเพียง 4 ครั้งเท่านั้น คือในช่วงวันที่ 3-5 เมษายน และ 8-10 กันยายน (ชมดวงอาทิตย์ขึ้น) และในช่วงวันที่ 6-8 มีนาคม และ 6-8 ตุลาคม (ชมดวงอาทิตย์ตก)
นักท่องเที่ยวที่สนใจไปเที่ยวชม ปราสาทพนมรุ้ง สามารถศึกษา ข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่
ปราสาทพนมรุ้ง จังหวัดบุรีรัมย์ ประเทศไทย
(Panom Rung Historical Park, Buriram, Thailand)
ระดับความนิยม :
อัตราค่าเข้าชม : ชาวไทย 20 บาท ชาวต่างชาติ 100 บาท
เวลาทำการเปิด – ปิด : เปิดให้เข้าชมทุกวัน เวลา 06.00 - 18.00 น.
ตั้งอยู่ที่ : อุทยานประวัติศาสตร์พนมรุ้ง ต.ตาเป๊ก อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.บุรีรัมย์
โทรศัพท์ : (+66) 0 4466 6251
เว็บไซต์ : http://virtualhistoricalpark.finearts.go.th/phanomrung/index.php/th
ข้อมูลอื่นๆที่ควรรู้ : พยากรณ์อากาศ https://www.accuweather.com/
ศูนย์ข้อมูลนักท่องเที่ยวจังหวัดบุรีรัมย์ https://buriram.mots.go.th
ศูนย์ข้อมูลการเดินทางจังหวัดบุรีรัมย์ http://www.buriram.go.th/visitdata/tran.htm
ศูนย์บริการข้อมูลท่องเที่ยวประเทศไทย https://thai.tourismthailand.org
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ

วัดบุไผ่ (วัดบ้านไร่ 2) จังหวัดนครราชสีมา ประเทศไทย
วัดบุไผ่ (วัดบ้านไร่ 2) Wat Bu Pai (Wat Ban Rai 2) เป็นวัดที่ตั้งตระหง่านบนเนินเขาในอำเภอวังน้ำเขียว ประดิษฐานรูปหล่อหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ หรือ พระเทพวิทยาคม พระเกจิดังวัดบ้านไร่องค์ใหญ่ที่สุดในโลก
อ่านต่อ
วัดแสงธรรมวังเขาเขียว จังหวัดนครราชสีมา ประเทศไทย
วัดแสงธรรมวังเขาเขียว (Wat Saeng Tham Wang Khao Khiao) เป็นที่ตั้งของพระมหาเจดีย์ศรีแสงธรรมวิสุทธิมงคล พระมหาเจดีย์รูปทรงดอกบัวสีขาวตั้งตระหง่านสง่างามอยู่กลางคูน้ำ ท่ามกลางสวนหย่อมสีเขียวขนาดใหญ่และแวดล้อมด้วยหุบเขาสีเขียวขจีของอำเภอวังน้ำเขียว
อ่านต่อ
ผาเก็บตะวัน จังหวัดนครราชสีมา ประเทศไทย
ผาเก็บตะวัน (Pha Kep Tawan) หนึ่งในที่เที่ยววังน้ำเขียวที่เป็นจุดชมวิวที่มีทัศนียภาพสวยงาม แวดล้อมด้วยความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติ เหมาะแก่การแวะมาชมวิวผ่อนคลาย หรือหากต้องการกางเต็นท์ค้างคืนก็ได้เช่นกัน
อ่านต่อ
วัดป่าโนนสวรรค์ จังหวัดร้อยเอ็ด ประเทศไทย
วัดป่าโนนสวรรค์ (Wat Pa Non Sawan) เป็นวัดที่มีชื่อเสียงของจังหวัดร้อยเอ็ด ภายในวัดมีความน่าตื่นตาตื่นใจของประติมากรรมปูนปั้นมากมายที่ถ่ายทอดเรื่องเกี่ยวกับพุทธประวัติ พระธรรมคำสอน รวมถึงวรรณคดีไทยชื่อดังต่างๆ ให้ได้เดินเที่ยวชม และภายในวัดยังโดดเด่นด้วยองค์เจดีย์ขนาดใหญ่ที่ตกแต่งอย่างงดงาม รวมถึงศิลปะการตกแต่งที่ใช้หม้อดินมาประดับในส่วนต่างๆ โดยรอบจนมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว วัดแห่งนี้จึงเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดร้อยเอ็ดที่ไม่ควรพลาดชม
อ่านต่อ
สวนหินผางาม จังหวัดเลย ประเทศไทย
สวนหินผางาม (Hin Pha Ngam Park) เป็นแนวภูเขาหินปูนอันสลับซับซ้อนที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ มีทิวทัศน์อันสวยงามแปลกตาจนได้รับสมญานามว่าเป็นคุนหมิงเมืองเลย สามารถเดินชมสถานที่ไปตามเส้นทางศึกษาธรรมชาติ หรือจะนั่งรถอีแต๊กเข้าชมก็ได้ โดยจะมีเจ้าหน้าที่นำเที่ยวชมและบรรยายสถานที่เพื่อให้ความรู้ โดยนอกจากจะได้ชมหน้าผาหินปูนรูปร่างแปลกตากับโพรงถ้ำต่างๆ แล้ว นักท่องเที่ยวยังจะได้ชมต้นไม้หายาก และซากดึกดำบรรพ์ของปะการัง เปลือกหอย ซากพืขที่ฝังตัวอยู่ในหิน เนื่องจากในอดีตพื้นที่บริเวณนี้เคยเป็นท้องทะเลมาก่อน สวนหินผางามจึงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สายธรรมชาติไม่ควรพลาดชมเป็นอย่างยิ่ง
อ่านต่อ
ลานคริสต์มาสภูเรือ จังหวัดเลย ประเทศไทย
ลานคริสต์มาสภูเรือ (Poinsettia Garden Phu Ruea) เป็นอีกหนึ่งจุดเช็คอินในช่วงเทศกาลฤดูหนาวปลายปีที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวที่มาเยือนยังอำเภอภูเรือ ด้วยบรรยากาศของเทศกาลสวนดอกไม้เมืองหนาวที่จะจัดขึ้นในฤดูหนาวของทุกปี ทำให้ลานแห่งนี้เต็มไปด้วยพอยน์เซตเทียสีแดงซึ่งมีความสวยงามเป็นอย่างมากท่ามกลางสภาพอากาศที่เย็นสบาย สามารถเดินชมสวนและถ่ายภาพสวยๆ เก็บความประทับใจได้ตามอัธยาศัยโดยไม่เสียค่าเข้าชม
อ่านต่อ
น้ำตกเพียงดิน จังหวัดเลย ประเทศไทย
น้ำตกเพียงดิน (Peang Din Waterfall) เป็นน้ำตกขนาดกลางที่มีความร่มรื่นจากป่าไม้โดยรอบ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่ได้รับความนิยมในกลุ่มนักท่องเที่ยวสายธรรมชาติและผู้ที่ชอบเล่นน้ำและสัมผัสธรรมชาติอย่างใกล้ชิด เพราะเป็นน้ำตกที่สามารถลงเล่นน้ำได้เพราะมีแอ่งน้ำขนาดใหญ่ อีกทั้งการเดินทางไปก็ค่อนข้างสะดวกเพราะไม่ต้องปีนป่ายหรือเดินเท้าในระยะไกลนัก อีกทั้งยังอยู่ใกล้กับสวนหินผางามหรือคุนหมิงเมืองเลยอีกด้วย
อ่านต่อ
อุทยานแห่งชาติภูลังกา จังหวัดนครพนม ประเทศไทย
อุทยานแห่งชาติภูลังกา (Phu Langka National Park) เป็นพื้นที่ป่าและภูเขาที่ตั้งอยู่ภายในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ภายในอุทยานมีสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติหลายแห่งให้เที่ยวชม ไม่ว่าจะเป็นหน้าผา ถ้ำ และน้ำตก โดยสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นไฮไลท์ในปัจจุบันคือ ถ้ำนาคา ที่เป็นถ้ำที่มีลักษณะของหินที่คล้ายกับงูใหญ่หรือพญานาค ซึ่งตรงตามความเชื่อเกี่ยวกับเจ้าปู่อือลือที่ถูกสาปให้เป็นพญานาคและถูกจองจำ นอกจากนี้ยังมีจุดชมทัศนียภาพของป่าเขาอีกหลายแห่งให้ได้เที่ยวชมอีกด้วย
อ่านต่อ
อนุสรณ์สถานประธานโฮจิมินห์ จังหวัดนครพนม ประเทศไทย
อนุสรณ์สถานประธานโฮจิมินห์ (Ho Chi Minh Museum) เป็นอนุสรณ์สถานที่เกิดขึ้นจากความร่วมมือของประเทศไทยและเวียดนาม เพื่อรำลึกถึงเหตุการณ์ประวัติศาสตร์สมัยที่อดีตประธานาธิบดีโฮจิมินห์เคยเข้ามาพำนักในประเทศไทยในช่วงสงครามเวียดนามเพื่อกอบกู้เอกราชของเวียดนาม ภายในอนุสรณ์สถานมีซุ้มประตูและอาคารพิพิธภัณฑ์ที่สร้างขึ้นด้วยสถาปัตยกรรมแบบผสมผสานระหว่างไทยกับเวียดนามไว้อย่างงดงาม โดยภายในได้จัดแสดงเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ครั้งนั้นและหุ่นท่านโฮจิมินห์เอาไว้ และยังมีอาคารจำลองบ้านพักของท่านโฮจิมินห์และข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ ให้ผู้ที่สนใจได้เที่ยวชมอีกด้วย
อ่านต่อ
บ้านลุงโฮจิมินห์ จังหวัดนครพนม ประเทศไทย
บ้านลุงโฮจิมินห์ (Ho Chi Minh’s House) หรือบ้านลุงโฮ เป็นบ้านที่เคยใช้เป็นที่พำนักของท่านประธานาธิบดีโฮจิมินห์ในช่วงกอบกู้เอกราชของเวียดนาม ปัจจุบันเปิดเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ที่จัดแสดงเรื่องราวที่สำคัญในครั้งนั้น รวมทั้งประวัติและข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ ของท่านโฮจิมินห์ ตัวบ้านมีลักษณะเป็นบ้านโบราณที่สร้างขึ้นด้วยสถาปัตยกรรมไทยผสมเวียดนามอย่างมีเอกลักษณ์ และโดยรอบยังมีความร่มรื่นจากต้นไม้นานาชนิดให้เที่ยวชมอีกด้วย
อ่านต่อ