- หน้าแรก
- ท่องเที่ยวในประเทศ
- ปราสาทพนมรุ้ง จังหวัดบุรีรัมย์ ประเทศไทย
ปราสาทพนมรุ้ง จังหวัดบุรีรัมย์ ประเทศไทย
- อ่าน (10,080)
- ByWebmaster
- 09:46:48 | 25 พ.ย. 2563
ปราสาทพนมรุ้ง จังหวัดบุรีรัมย์ ประเทศไทย
Panom Rung Historical Park, Buriram, Thailand
ปราสาทพนมรุ้ง (Panom Rung Historical Park) เป็นปราสาทหินเก่าแก่ศิลปะขอมที่มีอายุผ่านกาลเวลามาร่วมพันปี จากการรังสรรค์ด้วยภูมิปัญญาอันแยบยลของคนโบราณ ที่ถ่ายทอดความเชื่อและความศรัทธาในศาสนาฮินดูไศวนิกาย ผ่านลายสลักบนหินนับร้อยนับพันก้อนอย่างวิจิตรงดงาม จนเกิดเป็นเทวสถานอันยิ่งใหญ่บนยอดภูเขาไฟสูงที่ดับสนิทแล้วหนึ่งในหกลูกสำคัญของจังหวัดบุรีรัมย์
ประวัติ
ปราสาทพนมรุ้ง ตั้งอยู่ภายในบริเวณอุทยานประวัติศาสตร์พนมรุ้ง ต.ตาเป๊ก อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.บุรีรัมย์ ปราสาทหินเก่าแก่ที่มีอายุร่วมพันปีที่ตั้งอยู่บนพื้นที่ภูเขาไฟเก่าเมื่อหลายแสนปีก่อนแห่งนี้ เป็นสถานที่ที่สร้างด้วยสถาปัตยกรรมแสนยิ่งใหญ่ และเป็นหลักฐานสำคัญที่ยืนยันว่าประเทศไทยเคยมีเป็นดินแดนแห่งภูเขาไฟมาก่อนทั้งยังเป็นภูเขาไฟที่สูงที่สุดในบุรีรัมย์อีกด้วย พื้นที่ภูเขาไฟในอดีตบริเวณนี้มีความอุดมสมบูรณ์สูงเหมาะแก่การเพาะปลูก จึงทำให้มีกลุ่มชนหลายชุมชนมาตั้งถิ่นฐานและกลายเป็นชุมชนใหญ่ในที่สุด
สันนิษฐานว่าปราสาทพนมรุ้งสร้างขึ้นประมาณพุทธศตวรรษที่ 15 โดยพระเจ้านเรนราทิตย์ ซึ่งเป็นญาติกับพระเจ้าสุริยวรมันที่ 2 ที่ทรงสร้างนครวัด ในประเทศกัมพูชา โดยสร้างขึ้นเพื่อเป็นศาสนสถานของศาสนาฮินดู ลัทธิไศวนิกาย ซึ่งนับถือพระศิวะเป็นใหญ่ โดยจากหลักฐานทางโบราณคดีนั้น นักวิชาการได้ลงความเห็นว่าปราสาทพนมรุ้งไม่ใช่ที่พักของกษัตริย์ แต่เป็นศาสนสถานที่มีการใช้อย่างต่อเนื่อง ผู้ที่อยู่ที่นี่ต้องเป็นคนที่ใกล้ชิดกับพระเจ้า โดยในจารึกได้บรรยายว่ามีนักพรตโยคีมาบำเพ็ญพรตที่ปราสาทแห่งนี้
สิ่งหนึ่งที่เรามักจะได้ยินกันอยู่บ่อยครั้งเมื่อเอ่ยถึงปราสาทพนมรุ้งนั่นก็คือ "ทับหลังนารายณ์” โดยทับหลังนารายณ์บรรทมสินธุ์ที่ปราสาทเขาพนมรุ้งแห่งนี้ เป็นทับหลังที่ถูกขโมยไปแล้วถูกนำกลับมาประดับไว้ที่เดิม หากสังเกตด้านบนของทับหลังนารายณ์บรรทมสินธุ์ สลักเป็นรูปศิวนาฎราช-พระศิวะร่ายรำ อีกทั้งจารึกที่ปราสาทยังบรรยายว่าได้มีสร้างรูปพระนารายณ์ไว้ในเรือนหรือปราสาทของพระศิวะ ด้วยเหตุที่เกี่ยวข้องกับการเชิดชูพระศิวะเหนือพระนารายณ์ที่เป็นตัวแทนของลัทธิไวษณพนิกายนั่นเอง
ส่วนทวารบาลที่ปราสาทพนมรุ้งนั้น เป็นเพียงทวารจำลองโดยของจริงได้ถูกเก็บรักษาไว้ ตามความเชื่อคือทวารบาลมีหน้าที่เฝ้าศาสนสถานมิให้สิ่งชั่วร้ายทั้งหลายผ่านเข้าสู่ศาสนสถานได้ มีสองแบบคือแบบนั่งกับยืน
นอกจากความงดงาม และยิ่งใหญ่ของสถาปัตยกรรมแล้ว ความน่าอัศจรรย์อย่างหนึ่งของปราสาทศิลปะแบบขอมแห่งนี้ก็คือ ปรากฏการณ์ดวงอาทิตย์ส่องแสงลอดช่องประตูทั้ง 15 บาน โดยในหนึ่งปีจะมีเพียง 4 ครั้งเท่านั้น คือในวันที่ 3-5 เมษายน และ 8-10 กันยายนของทุกปีดวงอาทิตย์จะขึ้น ส่องแสงลอดช่องประตูทั้ง 15 บาน และในวันที่ 6-8 มีนาคม และ 6-8 ตุลาคม ของทุกปี ดวงอาทิตย์ก็จะตก ส่องแสงลอดช่องประตูทั้ง 15 บาน เช่นกัน
ในช่วงเวลาดังกล่าวนี้จะมีนักท่องเที่ยวจำนวนมากเดินทางมาเพื่อชมความอลังการที่ผสานระหว่างธรรมชาติและสิ่งก่อสร้างอันน่าทึ่งของคนสมัยก่อน โดยมีความเชื่อกันว่าปรากฏการณ์นี้เป็นปรากฏการณ์ศักดิ์สิทธิ์ การรับแสงอาทิตย์ที่สอดส่องผ่านช่องประตู และแสงอาทิตย์ที่ไปต้องกับศิวลึงค์ซึ่งเป็นตัวแทนของพระศิวะที่ตั้งอยู่กลางปราสาทเขาพนมรุ้งนั้น เป็นการเสริมพลังชีวิตและเป็นสิ่งมงคลแก่ตนเองและครอบครัวของผู้ที่ได้ชม
แสงอาทิตย์สอดส่องผ่านช่องประตูที่ปราสาทพนมรุ้ง
ประติมากรรมสิงห์คู่นั่ง ลักษณะเดียวกันกับสิงห์คู่ที่อยู่ทางขึ้นปราสาทเขาพระวิหาร
ประติมากรรมรูปทวารบาล
บางส่วนของปราสาทหินเก่าแก่ที่มีอายุร่วมพันปี
นักท่องเที่ยวเดินทางมาเที่ยวชมปราสาทพนมรุ้ง
การเดินทางไปจังหวัดบุรีรัมย์
- เครื่องบิน (Flight) การเดินทางโดยเครื่องบินจากสนามบินดอนเมืองและสุวรรณภูมิ ไปสนามบินจังหวัดบุรีรัมย์ใช้เวลาเดินทางประมาณ 55 นาที
- รถยนต์ (Car/ Bus) การเดินทางโดยรถยนต์จากกรุงเทพฯ ไปจังหวัดบุรีรัมย์ มีระยะทาง 400 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 5 ชั่วโมง
- รถไฟ (Train) การเดินทางโดยรถไฟจากกรุงเทพฯ ไปจังหวัดบุรีรัมย์ ใช้เวลาเร็วสุดประมาณ 6ชั่วโมง ทั้งนี้อาจใช้เวลานานกว่านี้ขึ้นอยู่กับประเภทของรถไฟ
การเดินทางไปปราสาทพนมรุ้ง
ปราสาทพนมรุ้งอยู่ห่างจากตัวจังหวัดบุรีรัมย์ประมาณ 70 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางโดยรถยนต์ 1 ชั่วโมง หากไม่ได้เดินทางโดยรถส่วนตัว จากสถานีขนส่งบุรีรัมย์สามารถนั่งรถสายบุรีรัมย์ – นางรอง ไปลงที่สถานีนางรองแล้วต่อรถสองแถวไปยังอุทยานประวัติศาสตร์พนมรุ้ง หรือนั่งรถโดยสารสายบุรีรัมย์ - จันทบุรี ไปลงที่หมู่บ้านตะโก แล้วต่อรถสองแถวหรือมอเตอร์ไซค์รับจ้างไปยังอุทยานประวัติศาสตร์พนมรุ้ง
เวลาทำการเปิด – ปิด
เปิดให้เข้าชมทุกวัน เวลา 06.00 -18.00 น.
ภาพซ้ายคือรูปปั้นศิวลึงค์ประดิษฐานภายในห้องครรภคฤหะ ขวาคือรูปปั้นโคนนทิ พาหนะของพระศิวะ
อัตราค่าเข้าชม
ชาวไทย 20 บาท ชาวต่างชาติ 100 บาท
สิ่งที่ไม่ควรพลาดเมื่อไปเที่ยวปราสาทพนมรุ้ง
ชมความงามและความอัศจรรย์ของสถาปัตยกรรมศิลปะแบบขอมโบราณ และชมปรากฏการณ์พระอาทิตย์ส่องแสงลอดช่องประตูที่ปราสาทพนมรุ้ง
นักท่องเที่ยวเฝ้ารอชมปรากฏการณ์พระอาทิตย์ส่องแสงลอดช่องประตูที่ปราสาทพนมรุ้ง
เวลาที่เหมาะสมสำหรับการท่องเที่ยว
สามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปี ทั้งนี้หากต้องการชมปรากฏการณ์ดวงอาทิตย์ส่องแสงลอดช่องประตูทั้ง 15 บาน หนึ่งปีจะมีเพียง 4 ครั้งเท่านั้น คือในช่วงวันที่ 3-5 เมษายน และ 8-10 กันยายน (ชมดวงอาทิตย์ขึ้น) และในช่วงวันที่ 6-8 มีนาคม และ 6-8 ตุลาคม (ชมดวงอาทิตย์ตก)
นักท่องเที่ยวที่สนใจไปเที่ยวชม ปราสาทพนมรุ้ง สามารถศึกษา ข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่
ปราสาทพนมรุ้ง จังหวัดบุรีรัมย์ ประเทศไทย
(Panom Rung Historical Park, Buriram, Thailand)
ระดับความนิยม :
อัตราค่าเข้าชม : ชาวไทย 20 บาท ชาวต่างชาติ 100 บาท
เวลาทำการเปิด – ปิด : เปิดให้เข้าชมทุกวัน เวลา 06.00 - 18.00 น.
ตั้งอยู่ที่ : อุทยานประวัติศาสตร์พนมรุ้ง ต.ตาเป๊ก อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.บุรีรัมย์
โทรศัพท์ : (+66) 0 4466 6251
เว็บไซต์ : http://virtualhistoricalpark.finearts.go.th/phanomrung/index.php/th
ข้อมูลอื่นๆที่ควรรู้ : พยากรณ์อากาศ https://www.accuweather.com/
ศูนย์ข้อมูลนักท่องเที่ยวจังหวัดบุรีรัมย์ https://buriram.mots.go.th
ศูนย์ข้อมูลการเดินทางจังหวัดบุรีรัมย์ http://www.buriram.go.th/visitdata/tran.htm
ศูนย์บริการข้อมูลท่องเที่ยวประเทศไทย https://thai.tourismthailand.org
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ
อุทยานแห่งชาติภูผาเทิบ จังหวัดมุกดาหาร ประเทศไทย
อุทยานแห่งชาติภูผาเทิบ (Phu Pha Toep National Park) หรือ อุทยานแห่งชาติมุกดาหาร เป็นหนึ่งในอุทยานที่มีขนาดพื้นที่เล็กที่สุดในประเทศไทย โดยอุทยานแห่งนี้เป็นที่ตั้งของหินรูปทรงประหลาดและถ้ำที่มีจิตรกรรมวาดด้วยมือ
อ่านต่อภูห้วยอีสัน จังหวัดหนองคาย ประเทศไทย
ภูห้วยอีสัน (Phu Huai Isan) เป็นจุดชมวิวทะเลหมอกแห่งใหม่ที่กำลังได้รับความนิยมอย่างมากในช่วงปลายฝนต้นหนาว ด้วยวิวทิวทัศน์ที่สวยงามของทะเลหมอกลอยละล่องเหนือสายน้ำโขง และขุนเขาสลับซับซ้อน ทำให้ที่นี่เป็นจุดหมายปลายทางที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาดเมื่อมาจังหวัดหนองคาย
อ่านต่ออุทยานแห่งชาติป่าหินงาม จังหวัดชัยภูมิ ประเทศไทย
อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม (Pa Hin Ngam National Park) จังหวัดชัยภูมิ เป็นอุทยานแห่งชาติที่มีสภาพป่าสมบูรณ์และมีจุดเด่นทางธรรมชาติที่สวยงามหลายแห่ง โดยเฉพาะทุ่งดอกกระเจียวที่จะออกดอกสีชมพูอมม่วงบานสะพรั่งไปทั่วผืนป่าในช่วงต้นฤดูฝน ประมาณเดือนมิถุนายนถึงเดือนสิงหาคมของทุกปี
อ่านต่อปราสาทพนมวัน จังหวัดนครราชสีมา ประเทศไทย
ปราสาทพนมวัน (Prasat Phanom Wan) อีกหนึ่งปราสาทหินเก่าแก่ในจังหวัดนครราชสีมาที่สร้างขึ้นครั้งแรกตั้งแต่สมัยพุทธศตวรรษที่ 15 เพื่อเป็นเทวสถาน ปราสาทหินแห่งนี้ถือเป็นปราสาทหินที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 5 ของประเทศไทย
อ่านต่อ5 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในจังหวัดยโสธร ประเทศไทย
จังหวัดยโสธรเป็นจังหวัดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่างของไทยที่ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำชี จังหวัดยโสธรมีสถานที่ท่องเที่ยวเชิงศาสนาและวัฒนธรรมหลายแห่ง เพราะเป็นเมืองที่ผ่านประวัติศาสตร์มาอย่างยาวนานตั้งแต่สมัยทวาราวดี วันนี้ทาง Palanla จึงได้รวบรวมสถานที่ที่เป็นไฮไลท์ของจังหวัดยโสธรมาฝากทุกท่านไว้ในบทความนี้
อ่านต่อวัดพระพุทธบาทยโสธร จังหวัดยโสธร ประเทศไทย
วัดพระพุทธบาทยโสธร (Wat Phra Buddhabat Yasothon) เป็นวัดที่มีความสวยงามจากหมู่อาคารสีขาวท่ามกลางบรรยากาศที่เงียบสงบ นักท่องเที่ยวที่มาเยือนนิยมมาเที่ยวชมวัดและสักการะโบราณวัตถุทางพุทธศาสนาอันได้แก่ รอยพระพุทธบาท พระพุทธรูปปางนาคปรก และศิลาจารึกโบราณที่มีอายุราวห้าร้อยปี รวมทั้งพระพุทธรูปหยกขาวที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยที่ประดิษฐานอยู่ในพระอุโบสถ และพระบรมสารีริกธาตุที่ประดิษฐานอยู่ภายในเจดีย์ของวัดอีกด้วย วัดแห่งนี้จึงเป็นอีกหนึ่งวัดดังของจังหวัดยโสธรที่ควรค่าต่อการมาเที่ยวชมเป็นอย่างยิ่ง
อ่านต่อ8 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในจังหวัดศรีสะเกษ ประเทศไทย
จังหวัดศรีสะเกษเป็นจังหวัดในภาคอีสานตอนล่างที่มีแหล่งท่องเที่ยวหลายแห่ง ทั้งสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ที่เป็นจุดชมวิวอันน่าประทับใจ ไปจนถึงแหล่งโบราณสถานอันทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์ และวัดวาอารามที่สร้างขึ้นอย่างงดงามให้เที่ยวชม วันนี้ทาง Palanla ได้รวบรวม 8 สถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นไฮไลท์ของจังหวัดศรีเกษมาฝากทุกท่านกันในบทความนี้
อ่านต่อผามออีแดง จังหวัดศรีสะเกษ ประเทศไทย
ผามออีแดง (Pha Mor E Daeng) เป็นหน้าผาที่ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร เป็นจุดชมวิวที่มองเห็นปราสาทเขาพระวิหาร ป่าไม้ และบ้านเมืองของกัมพูชาที่อยู่ไกลออกไปได้ ในยามเช้าของช่วงปลายฝนต้นหนาวจะเป็นจุดชมทะเลหมอกที่สวยงาม ส่วนในยามพระอาทิตย์ตกดินจะมองเห็นฝูงค้างคาวบินออกมาจากถ้ำเพื่อหากิน นอกจากนี้ อีกหนึ่งไฮไลท์ของผามออีแดงคือภาพจิตรกรรมโบราณที่ถูกสลักไว้ริมหน้าผาซึ่งมีความเก่าแก่กว่าหนึ่งพันห้าร้อยปีทีเดียว ถือเป็น Unseen Thailand ที่คุ้มค่าต่อการมาเที่ยวชมเป็นอย่างยิ่ง
อ่านต่อน้ำตกสำโรงเกียรติ จังหวัดศรีสะเกษ ประเทศไทย
น้ำตกสำโรงเกียรติ (Samrong Kiat Waterfall) เป็นน้ำตกที่มีต้นกำเนิดจากเทือกเขาบรรทัด น้ำตกแห่งนี้มีเอกลักษณ์ตรงที่บริเวณด้านบนหน้าผาจะมีแอ่งลานหินขนาดใหญ่รองรับธารน้ำเอาไว้ก่อนที่จะไหลตกลงมาตามชั้นหน้าผา น้ำตกสำโรงเกียรติมีน้ำไหลตลอดปี และจะมีน้ำมากที่สุดในช่วงฤดูฝน บรรยากาศโดยรอบมีความร่มรื่นจากป่าไม้ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เหมาะกับการมาเล่นน้ำ นั่งพักผ่อนหย่อนใจ และถ่ายภาพสวยๆ ได้อย่างเพลิดเพลิน
อ่านต่อเกาะกลางน้ำ จังหวัดศรีสะเกษ ประเทศไทย
เกาะกลางน้ำ (Koh Klang Nam) เป็นเกาะที่อยู่ใจกลางอ่างเก็บน้ำห้วยน้ำคำในอำเภอเมืองศรีสะเกษ บนเกาะแห่งนี้เป็นสวนสาธาณะขนาดใหญ่และเป็นที่ตั้งของอาคารสำคัญหลายแห่ง เช่น หอศรีลำดวนเฉลิมพระเกียรติที่เป็นหอชมเมืองศรีสะเกษได้รอบทิศ และศรีสะเกษอควาเรียมซึ่งเป็นศูนย์แสดงพันธุ์สัตว์น้ำที่ใหญ่ที่สุดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่นี่จึงเป็นทั้งสถานที่ท่องเที่ยวและสถานที่พักผ่อนหย่อนใจของจังหวัดศรีสะเกษอีกแห่งหนึ่งที่นักท่องเที่ยวให้ความสนใจมาเที่ยวชมเป็นอย่างมาก
อ่านต่อ