วัดเขาพระอังคาร จังหวัดบุรีรัมย์ ประเทศไทย

  • อ่าน (8,149)
  • ByWebmaster
  • 11:35:21 | 25 พ.ย. 2563

วัดเขาพระอังคาร จังหวัดบุรีรัมย์ ประเทศไทย

Wat Khao Phra Angkhan, Buriram, Thailand

             วัดเขาพระอังคาร (Wat Khao Phra Angkhan) เป็นวัดที่มีสถาปัตยกรรมสวยงามแปลกตา ภายในโบสถ์มีจิตรกรรมฝาผนังภาพพุทธประวัติที่เขียนบรรยายภาพเป็นภาษาอังกฤษเนื่องจากช่างที่วาดภาพเป็นชาวพม่า ภายในบริเวณวัดพบใบเสมาทำด้วยหินบะซอลต์จำนวน 15 ชิ้น ซึ่งในประเทศไทยไม่ปรากฏใบเสมาที่ทำด้วยหินบะซอลต์มาก่อน


ประวัติ

             วัดเขาพระอังคารตั้งอยู่ที่ อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.บุรีรัมย์ โดยอยู่ห่างจากเขาพนมรุ้ง 20 กิโลเมตร สันนิษฐานว่าสร้างวัดแห่งนี้สร้างขึ้นในยุคเดียวกันกับปราสาทพนมรุ้ง ตัววัดตั้งอยู่บนยอดเขาพระอังคารความสูงประมาณ 320 เมตรจากระดับน้ำทะเล ซึ่งเขาพระอังคารนี้เกิดจากการปะทุของภูเขาไฟในยุคควอเทอร์นารี (Quaternary) ซึ่งมีอายุประมาณ 700,000 ปีมาแล้ว

             ภูเขาพระอังคารเดิมชื่อว่า “ภูเขาลอย” ตามประวัติลายแทงธาตุพนมกล่าวไว้ว่าเมื่อพ.ศ. 8 ได้มีพญาทั้ง 5 นำพระอุรังคธาตุของพระพุทธเจ้าไปบรรจุที่พระธาตุพนม จังหวัดนครพนม และอีกส่วนหนึ่งได้นำพระอังคารธาตุของพระพุทธเจ้ามาประดิษฐานบรรจุไว้บนภูเขาลอย ซึ่งเป็นภูเขาที่มีลักษณะสวยงามรูปร่างเหมือนรูปพญาครุฑนอนคว่ำหน้า และได้เปลี่ยนชื่อภูเขาลอยเป็นภูเขาพระอังคารตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา

             นอกจากภูเขาซึ่งเป็นที่ตั้งของวัดจะมีความศักดิ์สิทธิ์ตามความเชื่อแล้ว ภูเขาพระอังคารยังเป็นแหล่งศึกษาด้านธรณีวิทยาเกี่ยวกับภูเขาไฟและมีความสำคัญเกี่ยวกับโบราณคดี มีทรัพยากรหินที่สำคัญและยังมีทรัพยากรป่าไม้หลากหลายพันธุ์ รวมถึงเป็นแหล่งศึกษาเกี่ยวกับวัฒนธรรม ประเพณี ความเชื่อ ศาสนา และวิวัฒนาการในการสร้างศาสนสถานด้วยฝีมือของบรรพบุรุษของชาวอีสานใต้ในอดีตได้เป็นอย่างดีด้วย    

             นอกจากนี้ยังมีหลักฐานที่แสดงให้เห็นว่าบริเวณที่สร้างวัดเขาพระอังคารนี้เคยเป็นพุทธสถานมาตั้งแต่สมัยทราวดี โดยมีการพบโบราณวัตถุคือใบเสมาหินบะซอลต์สมัยทวารวดี ซึ่งถือเป็นวัดแห่งเดียวในประเทศไทยที่ปรากฏใบเสมาทำด้วยหินบะซอลต์ โดยใบเสมาเหล่านี้มีภาพสลักรูปบุคคล สถูป ดอกบัว และธรรมจักร สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นในราวพุทธศตวรรษที่ 13 -14 อายุประมาณ 1,300 ปีก่อน

             สถาปัตยกรรมสิ่งก่อสร้างภายในวัดเขาพระอังคารที่เห็นในปัจจุบันส่วนใหญ่สร้างขึ้นมาใหม่แทนของเดิมที่ชำรุด ไม่ว่าจะเป็นอุโบสถ ศาลา และอาคารต่างๆ ที่มีสถาปัตยกรรมสวยงาม แปลกตา ที่สร้างโดยประยุกต์สถาปัตยกรรมหลายสมัยเข้าด้วยกันอย่างลงตัว ถือเป็นวัดที่สวยงามยิ่งใหญ่แห่งหนึ่งของจังหวัดบุรีรัมย์ และสิ่งหนึ่งที่เป็นเอกลักษณ์โดดเด่นภายในวัดแห่งนี้คือภาพจิตรกรรมฝาผนังภายในโบสถ์ที่เล่าเรื่องราวพุทธชาดกเป็นภาษาอังกฤษด้วย เหตุที่เป็นภาษาอังกฤษเนื่องจากช่างที่วาดภาพเป็นชาวพม่า

             บริเวณรอบๆ อุโบสถมีพระพุทธรูปปางมารวิชัยจำนวน 108 องค์ ประดิษฐานเรียงรายอยู่โดยรอบ อีกทั้งยังมีใบเสมาหินบะซอลต์ ที่เก่าแก่และทรงคุณค่า ใกล้ๆ กันมีพระนอนประดิษฐานอยู่อย่างงดงามน่าเลื่อมใส ส่วนภายในวิหารหลังที่อยู่ด้านข้างพระอุโบสถประดิษฐานพระคันธารราษฎร์และมีรอยพระพุทธบาทจำลองที่ควรเข้าไปกราบสักการะ


ความงดงามและเป็นเอกลักษณ์ของสถาปัตยกรรมวัดเขาพระอังคาร


บันไดนาคทาสีแดง


ใบเสมาโบราณ สันนิษฐานว่ามีอายุราวพุทธศตวรรษที่ 13 -14  ภาพซ้ายมือเป็นเทวรูปยืนถือดอกบัวแต่งกายตามแบบนิยมของคนในยุคนั้น ส่วนภาพขวามือคือใบเสมาสลักเทวรูปเจ้าเมืองขอม


พระประธานเป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย


จิตรกรรมฝาผนังภาพพุทธประวัติภายในพระอุโอสถพร้อมคำบรรยายภาษาอังกฤษ 


การเดินทางไปจังหวัดบุรีรัมย์

             - เครื่องบิน (Flight) การเดินทางโดยเครื่องบินจากสนามบินดอนเมืองและสุวรรณภูมิ ไปสนามบินจังหวัดบุรีรัมย์ใช้เวลาเดินทางประมาณ 55 นาที  

             - รถยนต์ (Car/ Bus) การเดินทางโดยรถยนต์จากกรุงเทพฯ ไปจังหวัดบุรีรัมย์ มีระยะทาง 400 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 5 ชั่วโมง   

             - รถไฟ (Train) การเดินทางโดยรถไฟจากกรุงเทพฯ ไปจังหวัดบุรีรัมย์ ใช้เวลาเร็วสุดประมาณ 6 ชั่วโมง ทั้งนี้อาจใช้เวลานานกว่านี้ขึ้นอยู่กับประเภทของรถไฟ   


การเดินทางไปวัดเขาพระอังคาร

             วัดเขาพระอังคารตั้งอยู่ที่หมู่ 1 ตำบลเจริญสุข อำเภอเฉลิมพระเกียรติ อยู่ห่างจากตัวจังหวัดบุรีรัมย์ราวๆ 70 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางโดยรถยนต์ 1 ชั่วโมง หากไม่ได้เดินทางโดยรถส่วนตัว จากสถานีขนส่งจังหวัดบุรีรัมย์สามารถนั่งรถโดยสารสายบุรีรัมย์ – นางรอง ไปลงที่สถานีนางรองแล้วต่อรถสองแถวไปยังวัดเขาพระอังคาร หรือนั่งรถโดยสารสายบุรีรัมย์ - จันทบุรี ไปลงที่หมู่บ้านตะโก แล้วต่อรถสองแถวหรือมอเตอร์ไซค์รับจ้างไปยังวัด


เวลาทำการเปิด – ปิด

            เปิดทุกวัน เวลา 8.00 – 17.00 น.


ยอดเจดีย์แต่ละองค์ตั้งอยู่บนฐานสี่เหลี่ยมลดหลั่นกัน กึ่งกลางของฐานแต่ละชั้นทำเป็นชั้นทำเป็นซุ้มเรือนแก้วประดับอย่างสวยงาม


อัตราค่าเข้าชม

             ไม่เสียค่าเข้าชม


สิ่งที่ไม่ควรพลาดเมื่อไปเที่ยววัดเขาพระอังคาร

             สักการะรอยพระพุทธบาทจำลอง และพระอังคารธาตุที่ประดิษฐานในอุโบสถ ชมความงดงามของพระพุทธรูปปางมารวิชัย 108 องค์ที่อยู่รอบอุโบสถ เยี่ยมชมตำหนักหลวงปูวิริยะเมฆ และศาลาเจ้าแม่กวนอิม


รอยพระพุทธบาทจำลอง


เวลาที่เหมาะสมสำหรับการท่องเที่ยว

             สามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปี


พระนอนที่อยู่บริเวณด้านนอก


             
นักท่องเที่ยวที่สนใจไปเที่ยวชม วัดเขาพระอังคาร สามารถศึกษา ข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่

                         วัดเขาพระอังคาร จังหวัดบุรีรัมย์ ประเทศไทย

                         (Wat Khao Phra Angkhan, Buriram, Thailand)

                         ระดับความนิยม : 

                         อัตราค่าเข้าชม : ไม่เสียค่าเข้าชม     

                         เวลาทำการเปิด – ปิด : เปิดทุกวัน เวลา 8.00 – 17.00 น.

                         ตั้งอยู่ที่ : หมู่ 1 ตำบลเจริญสุข อำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดบุรีรัมย์

                         โทรศัพท์ :  (+66) 089 7160735, 044782061    

                         เว็บไซต์ : -

                         ข้อมูลอื่นๆที่ควรรู้ : พยากรณ์อากาศ https://www.accuweather.com/

                                         ศูนย์ข้อมูลนักท่องเที่ยวจังหวัดบุรีรัมย์ https://buriram.mots.go.th

                                         ศูนย์ข้อมูลการเดินทางจังหวัดบุรีรัมย์ http://www.buriram.go.th/visitdata/tran.htm

                                         ศูนย์บริการข้อมูลท่องเที่ยวประเทศไทย https://thai.tourismthailand.org

 

สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ

5 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในจังหวัดยโสธร ประเทศไทย

จังหวัดยโสธรเป็นจังหวัดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่างของไทยที่ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำชี จังหวัดยโสธรมีสถานที่ท่องเที่ยวเชิงศาสนาและวัฒนธรรมหลายแห่ง เพราะเป็นเมืองที่ผ่านประวัติศาสตร์มาอย่างยาวนานตั้งแต่สมัยทวาราวดี วันนี้ทาง Palanla จึงได้รวบรวมสถานที่ที่เป็นไฮไลท์ของจังหวัดยโสธรมาฝากทุกท่านไว้ในบทความนี้

อ่านต่อ

วัดพระพุทธบาทยโสธร จังหวัดยโสธร ประเทศไทย

วัดพระพุทธบาทยโสธร (Wat Phra Buddhabat Yasothon) เป็นวัดที่มีความสวยงามจากหมู่อาคารสีขาวท่ามกลางบรรยากาศที่เงียบสงบ นักท่องเที่ยวที่มาเยือนนิยมมาเที่ยวชมวัดและสักการะโบราณวัตถุทางพุทธศาสนาอันได้แก่ รอยพระพุทธบาท พระพุทธรูปปางนาคปรก และศิลาจารึกโบราณที่มีอายุราวห้าร้อยปี รวมทั้งพระพุทธรูปหยกขาวที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยที่ประดิษฐานอยู่ในพระอุโบสถ และพระบรมสารีริกธาตุที่ประดิษฐานอยู่ภายในเจดีย์ของวัดอีกด้วย วัดแห่งนี้จึงเป็นอีกหนึ่งวัดดังของจังหวัดยโสธรที่ควรค่าต่อการมาเที่ยวชมเป็นอย่างยิ่ง

อ่านต่อ

8 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในจังหวัดศรีสะเกษ ประเทศไทย

จังหวัดศรีสะเกษเป็นจังหวัดในภาคอีสานตอนล่างที่มีแหล่งท่องเที่ยวหลายแห่ง ทั้งสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ที่เป็นจุดชมวิวอันน่าประทับใจ ไปจนถึงแหล่งโบราณสถานอันทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์ และวัดวาอารามที่สร้างขึ้นอย่างงดงามให้เที่ยวชม วันนี้ทาง Palanla ได้รวบรวม 8 สถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นไฮไลท์ของจังหวัดศรีเกษมาฝากทุกท่านกันในบทความนี้

อ่านต่อ

ผามออีแดง จังหวัดศรีสะเกษ ประเทศไทย

ผามออีแดง (Pha Mor E Daeng) เป็นหน้าผาที่ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร เป็นจุดชมวิวที่มองเห็นปราสาทเขาพระวิหาร ป่าไม้ และบ้านเมืองของกัมพูชาที่อยู่ไกลออกไปได้ ในยามเช้าของช่วงปลายฝนต้นหนาวจะเป็นจุดชมทะเลหมอกที่สวยงาม ส่วนในยามพระอาทิตย์ตกดินจะมองเห็นฝูงค้างคาวบินออกมาจากถ้ำเพื่อหากิน นอกจากนี้ อีกหนึ่งไฮไลท์ของผามออีแดงคือภาพจิตรกรรมโบราณที่ถูกสลักไว้ริมหน้าผาซึ่งมีความเก่าแก่กว่าหนึ่งพันห้าร้อยปีทีเดียว ถือเป็น Unseen Thailand ที่คุ้มค่าต่อการมาเที่ยวชมเป็นอย่างยิ่ง

อ่านต่อ

น้ำตกสำโรงเกียรติ จังหวัดศรีสะเกษ ประเทศไทย

น้ำตกสำโรงเกียรติ (Samrong Kiat Waterfall) เป็นน้ำตกที่มีต้นกำเนิดจากเทือกเขาบรรทัด น้ำตกแห่งนี้มีเอกลักษณ์ตรงที่บริเวณด้านบนหน้าผาจะมีแอ่งลานหินขนาดใหญ่รองรับธารน้ำเอาไว้ก่อนที่จะไหลตกลงมาตามชั้นหน้าผา น้ำตกสำโรงเกียรติมีน้ำไหลตลอดปี และจะมีน้ำมากที่สุดในช่วงฤดูฝน บรรยากาศโดยรอบมีความร่มรื่นจากป่าไม้ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เหมาะกับการมาเล่นน้ำ นั่งพักผ่อนหย่อนใจ และถ่ายภาพสวยๆ ได้อย่างเพลิดเพลิน

อ่านต่อ

เกาะกลางน้ำ จังหวัดศรีสะเกษ ประเทศไทย

เกาะกลางน้ำ (Koh Klang Nam) เป็นเกาะที่อยู่ใจกลางอ่างเก็บน้ำห้วยน้ำคำในอำเภอเมืองศรีสะเกษ บนเกาะแห่งนี้เป็นสวนสาธาณะขนาดใหญ่และเป็นที่ตั้งของอาคารสำคัญหลายแห่ง เช่น หอศรีลำดวนเฉลิมพระเกียรติที่เป็นหอชมเมืองศรีสะเกษได้รอบทิศ และศรีสะเกษอควาเรียมซึ่งเป็นศูนย์แสดงพันธุ์สัตว์น้ำที่ใหญ่ที่สุดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่นี่จึงเป็นทั้งสถานที่ท่องเที่ยวและสถานที่พักผ่อนหย่อนใจของจังหวัดศรีสะเกษอีกแห่งหนึ่งที่นักท่องเที่ยวให้ความสนใจมาเที่ยวชมเป็นอย่างมาก

อ่านต่อ

วัดบุไผ่ (วัดบ้านไร่ 2) จังหวัดนครราชสีมา ประเทศไทย

วัดบุไผ่ (วัดบ้านไร่ 2) Wat Bu Pai (Wat Ban Rai 2) เป็นวัดที่ตั้งตระหง่านบนเนินเขาในอำเภอวังน้ำเขียว ประดิษฐานรูปหล่อหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ หรือ พระเทพวิทยาคม พระเกจิดังวัดบ้านไร่องค์ใหญ่ที่สุดในโลก

อ่านต่อ

วัดแสงธรรมวังเขาเขียว จังหวัดนครราชสีมา ประเทศไทย

วัดแสงธรรมวังเขาเขียว (Wat Saeng Tham Wang Khao Khiao) เป็นที่ตั้งของพระมหาเจดีย์ศรีแสงธรรมวิสุทธิมงคล พระมหาเจดีย์รูปทรงดอกบัวสีขาวตั้งตระหง่านสง่างามอยู่กลางคูน้ำ ท่ามกลางสวนหย่อมสีเขียวขนาดใหญ่และแวดล้อมด้วยหุบเขาสีเขียวขจีของอำเภอวังน้ำเขียว

อ่านต่อ

ผาเก็บตะวัน จังหวัดนครราชสีมา ประเทศไทย

ผาเก็บตะวัน (Pha Kep Tawan) หนึ่งในที่เที่ยววังน้ำเขียวที่เป็นจุดชมวิวที่มีทัศนียภาพสวยงาม แวดล้อมด้วยความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติ เหมาะแก่การแวะมาชมวิวผ่อนคลาย หรือหากต้องการกางเต็นท์ค้างคืนก็ได้เช่นกัน

อ่านต่อ

วัดป่าโนนสวรรค์ จังหวัดร้อยเอ็ด ประเทศไทย

วัดป่าโนนสวรรค์ (Wat Pa Non Sawan) เป็นวัดที่มีชื่อเสียงของจังหวัดร้อยเอ็ด ภายในวัดมีความน่าตื่นตาตื่นใจของประติมากรรมปูนปั้นมากมายที่ถ่ายทอดเรื่องเกี่ยวกับพุทธประวัติ พระธรรมคำสอน รวมถึงวรรณคดีไทยชื่อดังต่างๆ ให้ได้เดินเที่ยวชม และภายในวัดยังโดดเด่นด้วยองค์เจดีย์ขนาดใหญ่ที่ตกแต่งอย่างงดงาม รวมถึงศิลปะการตกแต่งที่ใช้หม้อดินมาประดับในส่วนต่างๆ โดยรอบจนมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว วัดแห่งนี้จึงเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดร้อยเอ็ดที่ไม่ควรพลาดชม

อ่านต่อ
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ