วัดเขาพระอังคาร จังหวัดบุรีรัมย์ ประเทศไทย

  • อ่าน (8,901)
  • ByWebmaster
  • 11:35:21 | 25 พ.ย. 2563

วัดเขาพระอังคาร จังหวัดบุรีรัมย์ ประเทศไทย

Wat Khao Phra Angkhan, Buriram, Thailand

             วัดเขาพระอังคาร (Wat Khao Phra Angkhan) เป็นวัดที่มีสถาปัตยกรรมสวยงามแปลกตา ภายในโบสถ์มีจิตรกรรมฝาผนังภาพพุทธประวัติที่เขียนบรรยายภาพเป็นภาษาอังกฤษเนื่องจากช่างที่วาดภาพเป็นชาวพม่า ภายในบริเวณวัดพบใบเสมาทำด้วยหินบะซอลต์จำนวน 15 ชิ้น ซึ่งในประเทศไทยไม่ปรากฏใบเสมาที่ทำด้วยหินบะซอลต์มาก่อน


ประวัติ

             วัดเขาพระอังคารตั้งอยู่ที่ อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.บุรีรัมย์ โดยอยู่ห่างจากเขาพนมรุ้ง 20 กิโลเมตร สันนิษฐานว่าสร้างวัดแห่งนี้สร้างขึ้นในยุคเดียวกันกับปราสาทพนมรุ้ง ตัววัดตั้งอยู่บนยอดเขาพระอังคารความสูงประมาณ 320 เมตรจากระดับน้ำทะเล ซึ่งเขาพระอังคารนี้เกิดจากการปะทุของภูเขาไฟในยุคควอเทอร์นารี (Quaternary) ซึ่งมีอายุประมาณ 700,000 ปีมาแล้ว

             ภูเขาพระอังคารเดิมชื่อว่า “ภูเขาลอย” ตามประวัติลายแทงธาตุพนมกล่าวไว้ว่าเมื่อพ.ศ. 8 ได้มีพญาทั้ง 5 นำพระอุรังคธาตุของพระพุทธเจ้าไปบรรจุที่พระธาตุพนม จังหวัดนครพนม และอีกส่วนหนึ่งได้นำพระอังคารธาตุของพระพุทธเจ้ามาประดิษฐานบรรจุไว้บนภูเขาลอย ซึ่งเป็นภูเขาที่มีลักษณะสวยงามรูปร่างเหมือนรูปพญาครุฑนอนคว่ำหน้า และได้เปลี่ยนชื่อภูเขาลอยเป็นภูเขาพระอังคารตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา

             นอกจากภูเขาซึ่งเป็นที่ตั้งของวัดจะมีความศักดิ์สิทธิ์ตามความเชื่อแล้ว ภูเขาพระอังคารยังเป็นแหล่งศึกษาด้านธรณีวิทยาเกี่ยวกับภูเขาไฟและมีความสำคัญเกี่ยวกับโบราณคดี มีทรัพยากรหินที่สำคัญและยังมีทรัพยากรป่าไม้หลากหลายพันธุ์ รวมถึงเป็นแหล่งศึกษาเกี่ยวกับวัฒนธรรม ประเพณี ความเชื่อ ศาสนา และวิวัฒนาการในการสร้างศาสนสถานด้วยฝีมือของบรรพบุรุษของชาวอีสานใต้ในอดีตได้เป็นอย่างดีด้วย    

             นอกจากนี้ยังมีหลักฐานที่แสดงให้เห็นว่าบริเวณที่สร้างวัดเขาพระอังคารนี้เคยเป็นพุทธสถานมาตั้งแต่สมัยทราวดี โดยมีการพบโบราณวัตถุคือใบเสมาหินบะซอลต์สมัยทวารวดี ซึ่งถือเป็นวัดแห่งเดียวในประเทศไทยที่ปรากฏใบเสมาทำด้วยหินบะซอลต์ โดยใบเสมาเหล่านี้มีภาพสลักรูปบุคคล สถูป ดอกบัว และธรรมจักร สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นในราวพุทธศตวรรษที่ 13 -14 อายุประมาณ 1,300 ปีก่อน

             สถาปัตยกรรมสิ่งก่อสร้างภายในวัดเขาพระอังคารที่เห็นในปัจจุบันส่วนใหญ่สร้างขึ้นมาใหม่แทนของเดิมที่ชำรุด ไม่ว่าจะเป็นอุโบสถ ศาลา และอาคารต่างๆ ที่มีสถาปัตยกรรมสวยงาม แปลกตา ที่สร้างโดยประยุกต์สถาปัตยกรรมหลายสมัยเข้าด้วยกันอย่างลงตัว ถือเป็นวัดที่สวยงามยิ่งใหญ่แห่งหนึ่งของจังหวัดบุรีรัมย์ และสิ่งหนึ่งที่เป็นเอกลักษณ์โดดเด่นภายในวัดแห่งนี้คือภาพจิตรกรรมฝาผนังภายในโบสถ์ที่เล่าเรื่องราวพุทธชาดกเป็นภาษาอังกฤษด้วย เหตุที่เป็นภาษาอังกฤษเนื่องจากช่างที่วาดภาพเป็นชาวพม่า

             บริเวณรอบๆ อุโบสถมีพระพุทธรูปปางมารวิชัยจำนวน 108 องค์ ประดิษฐานเรียงรายอยู่โดยรอบ อีกทั้งยังมีใบเสมาหินบะซอลต์ ที่เก่าแก่และทรงคุณค่า ใกล้ๆ กันมีพระนอนประดิษฐานอยู่อย่างงดงามน่าเลื่อมใส ส่วนภายในวิหารหลังที่อยู่ด้านข้างพระอุโบสถประดิษฐานพระคันธารราษฎร์และมีรอยพระพุทธบาทจำลองที่ควรเข้าไปกราบสักการะ


ความงดงามและเป็นเอกลักษณ์ของสถาปัตยกรรมวัดเขาพระอังคาร


บันไดนาคทาสีแดง


ใบเสมาโบราณ สันนิษฐานว่ามีอายุราวพุทธศตวรรษที่ 13 -14  ภาพซ้ายมือเป็นเทวรูปยืนถือดอกบัวแต่งกายตามแบบนิยมของคนในยุคนั้น ส่วนภาพขวามือคือใบเสมาสลักเทวรูปเจ้าเมืองขอม


พระประธานเป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย


จิตรกรรมฝาผนังภาพพุทธประวัติภายในพระอุโอสถพร้อมคำบรรยายภาษาอังกฤษ 


การเดินทางไปจังหวัดบุรีรัมย์

             - เครื่องบิน (Flight) การเดินทางโดยเครื่องบินจากสนามบินดอนเมืองและสุวรรณภูมิ ไปสนามบินจังหวัดบุรีรัมย์ใช้เวลาเดินทางประมาณ 55 นาที  

             - รถยนต์ (Car/ Bus) การเดินทางโดยรถยนต์จากกรุงเทพฯ ไปจังหวัดบุรีรัมย์ มีระยะทาง 400 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 5 ชั่วโมง   

             - รถไฟ (Train) การเดินทางโดยรถไฟจากกรุงเทพฯ ไปจังหวัดบุรีรัมย์ ใช้เวลาเร็วสุดประมาณ 6 ชั่วโมง ทั้งนี้อาจใช้เวลานานกว่านี้ขึ้นอยู่กับประเภทของรถไฟ   


การเดินทางไปวัดเขาพระอังคาร

             วัดเขาพระอังคารตั้งอยู่ที่หมู่ 1 ตำบลเจริญสุข อำเภอเฉลิมพระเกียรติ อยู่ห่างจากตัวจังหวัดบุรีรัมย์ราวๆ 70 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางโดยรถยนต์ 1 ชั่วโมง หากไม่ได้เดินทางโดยรถส่วนตัว จากสถานีขนส่งจังหวัดบุรีรัมย์สามารถนั่งรถโดยสารสายบุรีรัมย์ – นางรอง ไปลงที่สถานีนางรองแล้วต่อรถสองแถวไปยังวัดเขาพระอังคาร หรือนั่งรถโดยสารสายบุรีรัมย์ - จันทบุรี ไปลงที่หมู่บ้านตะโก แล้วต่อรถสองแถวหรือมอเตอร์ไซค์รับจ้างไปยังวัด


เวลาทำการเปิด – ปิด

            เปิดทุกวัน เวลา 8.00 – 17.00 น.


ยอดเจดีย์แต่ละองค์ตั้งอยู่บนฐานสี่เหลี่ยมลดหลั่นกัน กึ่งกลางของฐานแต่ละชั้นทำเป็นชั้นทำเป็นซุ้มเรือนแก้วประดับอย่างสวยงาม


อัตราค่าเข้าชม

             ไม่เสียค่าเข้าชม


สิ่งที่ไม่ควรพลาดเมื่อไปเที่ยววัดเขาพระอังคาร

             สักการะรอยพระพุทธบาทจำลอง และพระอังคารธาตุที่ประดิษฐานในอุโบสถ ชมความงดงามของพระพุทธรูปปางมารวิชัย 108 องค์ที่อยู่รอบอุโบสถ เยี่ยมชมตำหนักหลวงปูวิริยะเมฆ และศาลาเจ้าแม่กวนอิม


รอยพระพุทธบาทจำลอง


เวลาที่เหมาะสมสำหรับการท่องเที่ยว

             สามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปี


พระนอนที่อยู่บริเวณด้านนอก


             
นักท่องเที่ยวที่สนใจไปเที่ยวชม วัดเขาพระอังคาร สามารถศึกษา ข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่

                         วัดเขาพระอังคาร จังหวัดบุรีรัมย์ ประเทศไทย

                         (Wat Khao Phra Angkhan, Buriram, Thailand)

                         ระดับความนิยม : 

                         อัตราค่าเข้าชม : ไม่เสียค่าเข้าชม     

                         เวลาทำการเปิด – ปิด : เปิดทุกวัน เวลา 8.00 – 17.00 น.

                         ตั้งอยู่ที่ : หมู่ 1 ตำบลเจริญสุข อำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดบุรีรัมย์

                         โทรศัพท์ :  (+66) 089 7160735, 044782061    

                         เว็บไซต์ : -

                         ข้อมูลอื่นๆที่ควรรู้ : พยากรณ์อากาศ https://www.accuweather.com/

                                         ศูนย์ข้อมูลนักท่องเที่ยวจังหวัดบุรีรัมย์ https://buriram.mots.go.th

                                         ศูนย์ข้อมูลการเดินทางจังหวัดบุรีรัมย์ http://www.buriram.go.th/visitdata/tran.htm

                                         ศูนย์บริการข้อมูลท่องเที่ยวประเทศไทย https://thai.tourismthailand.org

 

สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ

อุทยานแห่งชาติภูผาเทิบ จังหวัดมุกดาหาร ประเทศไทย

อุทยานแห่งชาติภูผาเทิบ (Phu Pha Toep National Park) หรือ อุทยานแห่งชาติมุกดาหาร เป็นหนึ่งในอุทยานที่มีขนาดพื้นที่เล็กที่สุดในประเทศไทย โดยอุทยานแห่งนี้เป็นที่ตั้งของหินรูปทรงประหลาดและถ้ำที่มีจิตรกรรมวาดด้วยมือ

อ่านต่อ

ภูห้วยอีสัน จังหวัดหนองคาย ประเทศไทย

ภูห้วยอีสัน (Phu Huai Isan) เป็นจุดชมวิวทะเลหมอกแห่งใหม่ที่กำลังได้รับความนิยมอย่างมากในช่วงปลายฝนต้นหนาว ด้วยวิวทิวทัศน์ที่สวยงามของทะเลหมอกลอยละล่องเหนือสายน้ำโขง และขุนเขาสลับซับซ้อน ทำให้ที่นี่เป็นจุดหมายปลายทางที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาดเมื่อมาจังหวัดหนองคาย

อ่านต่อ

อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม จังหวัดชัยภูมิ ประเทศไทย

อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม (Pa Hin Ngam National Park) จังหวัดชัยภูมิ เป็นอุทยานแห่งชาติที่มีสภาพป่าสมบูรณ์และมีจุดเด่นทางธรรมชาติที่สวยงามหลายแห่ง โดยเฉพาะทุ่งดอกกระเจียวที่จะออกดอกสีชมพูอมม่วงบานสะพรั่งไปทั่วผืนป่าในช่วงต้นฤดูฝน ประมาณเดือนมิถุนายนถึงเดือนสิงหาคมของทุกปี

อ่านต่อ

ปราสาทพนมวัน จังหวัดนครราชสีมา ประเทศไทย

ปราสาทพนมวัน (Prasat Phanom Wan) อีกหนึ่งปราสาทหินเก่าแก่ในจังหวัดนครราชสีมาที่สร้างขึ้นครั้งแรกตั้งแต่สมัยพุทธศตวรรษที่ 15 เพื่อเป็นเทวสถาน ปราสาทหินแห่งนี้ถือเป็นปราสาทหินที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 5 ของประเทศไทย

อ่านต่อ

5 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในจังหวัดยโสธร ประเทศไทย

จังหวัดยโสธรเป็นจังหวัดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่างของไทยที่ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำชี จังหวัดยโสธรมีสถานที่ท่องเที่ยวเชิงศาสนาและวัฒนธรรมหลายแห่ง เพราะเป็นเมืองที่ผ่านประวัติศาสตร์มาอย่างยาวนานตั้งแต่สมัยทวาราวดี วันนี้ทาง Palanla จึงได้รวบรวมสถานที่ที่เป็นไฮไลท์ของจังหวัดยโสธรมาฝากทุกท่านไว้ในบทความนี้

อ่านต่อ

วัดพระพุทธบาทยโสธร จังหวัดยโสธร ประเทศไทย

วัดพระพุทธบาทยโสธร (Wat Phra Buddhabat Yasothon) เป็นวัดที่มีความสวยงามจากหมู่อาคารสีขาวท่ามกลางบรรยากาศที่เงียบสงบ นักท่องเที่ยวที่มาเยือนนิยมมาเที่ยวชมวัดและสักการะโบราณวัตถุทางพุทธศาสนาอันได้แก่ รอยพระพุทธบาท พระพุทธรูปปางนาคปรก และศิลาจารึกโบราณที่มีอายุราวห้าร้อยปี รวมทั้งพระพุทธรูปหยกขาวที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยที่ประดิษฐานอยู่ในพระอุโบสถ และพระบรมสารีริกธาตุที่ประดิษฐานอยู่ภายในเจดีย์ของวัดอีกด้วย วัดแห่งนี้จึงเป็นอีกหนึ่งวัดดังของจังหวัดยโสธรที่ควรค่าต่อการมาเที่ยวชมเป็นอย่างยิ่ง

อ่านต่อ

8 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในจังหวัดศรีสะเกษ ประเทศไทย

จังหวัดศรีสะเกษเป็นจังหวัดในภาคอีสานตอนล่างที่มีแหล่งท่องเที่ยวหลายแห่ง ทั้งสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ที่เป็นจุดชมวิวอันน่าประทับใจ ไปจนถึงแหล่งโบราณสถานอันทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์ และวัดวาอารามที่สร้างขึ้นอย่างงดงามให้เที่ยวชม วันนี้ทาง Palanla ได้รวบรวม 8 สถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นไฮไลท์ของจังหวัดศรีเกษมาฝากทุกท่านกันในบทความนี้

อ่านต่อ

ผามออีแดง จังหวัดศรีสะเกษ ประเทศไทย

ผามออีแดง (Pha Mor E Daeng) เป็นหน้าผาที่ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร เป็นจุดชมวิวที่มองเห็นปราสาทเขาพระวิหาร ป่าไม้ และบ้านเมืองของกัมพูชาที่อยู่ไกลออกไปได้ ในยามเช้าของช่วงปลายฝนต้นหนาวจะเป็นจุดชมทะเลหมอกที่สวยงาม ส่วนในยามพระอาทิตย์ตกดินจะมองเห็นฝูงค้างคาวบินออกมาจากถ้ำเพื่อหากิน นอกจากนี้ อีกหนึ่งไฮไลท์ของผามออีแดงคือภาพจิตรกรรมโบราณที่ถูกสลักไว้ริมหน้าผาซึ่งมีความเก่าแก่กว่าหนึ่งพันห้าร้อยปีทีเดียว ถือเป็น Unseen Thailand ที่คุ้มค่าต่อการมาเที่ยวชมเป็นอย่างยิ่ง

อ่านต่อ

น้ำตกสำโรงเกียรติ จังหวัดศรีสะเกษ ประเทศไทย

น้ำตกสำโรงเกียรติ (Samrong Kiat Waterfall) เป็นน้ำตกที่มีต้นกำเนิดจากเทือกเขาบรรทัด น้ำตกแห่งนี้มีเอกลักษณ์ตรงที่บริเวณด้านบนหน้าผาจะมีแอ่งลานหินขนาดใหญ่รองรับธารน้ำเอาไว้ก่อนที่จะไหลตกลงมาตามชั้นหน้าผา น้ำตกสำโรงเกียรติมีน้ำไหลตลอดปี และจะมีน้ำมากที่สุดในช่วงฤดูฝน บรรยากาศโดยรอบมีความร่มรื่นจากป่าไม้ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เหมาะกับการมาเล่นน้ำ นั่งพักผ่อนหย่อนใจ และถ่ายภาพสวยๆ ได้อย่างเพลิดเพลิน

อ่านต่อ

เกาะกลางน้ำ จังหวัดศรีสะเกษ ประเทศไทย

เกาะกลางน้ำ (Koh Klang Nam) เป็นเกาะที่อยู่ใจกลางอ่างเก็บน้ำห้วยน้ำคำในอำเภอเมืองศรีสะเกษ บนเกาะแห่งนี้เป็นสวนสาธาณะขนาดใหญ่และเป็นที่ตั้งของอาคารสำคัญหลายแห่ง เช่น หอศรีลำดวนเฉลิมพระเกียรติที่เป็นหอชมเมืองศรีสะเกษได้รอบทิศ และศรีสะเกษอควาเรียมซึ่งเป็นศูนย์แสดงพันธุ์สัตว์น้ำที่ใหญ่ที่สุดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่นี่จึงเป็นทั้งสถานที่ท่องเที่ยวและสถานที่พักผ่อนหย่อนใจของจังหวัดศรีสะเกษอีกแห่งหนึ่งที่นักท่องเที่ยวให้ความสนใจมาเที่ยวชมเป็นอย่างมาก

อ่านต่อ
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ