วัดกลาง พระอารามหลวง จังหวัดบุรีรัมย์ ประเทศไทย

  • อ่าน (5,237)
  • ByWebmaster
  • 10:52:41 | 25 พ.ย. 2563

วัดกลาง พระอารามหลวง จังหวัดบุรีรัมย์ ประเทศไทย

Wat Klang Phra Aram Luang, Buriram, Thailand

             วัดกลาง พระอารามหลวง (Wat Klang Phra Aram Luang) วัดเก่าแก่คู่บ้านคู่เมืองจังหวัดบุรีรัมย์มาตั้งแต่สมัยโบราณและเป็นพระอารามหลวงแห่งแรกของจังหวัด มีสระน้ำโบราณศักดิ์สิทธิ์อยู่ภายในวัด ที่เชื่อกันว่ามีอายุกว่า 3,000 ปี


ประวัติ

             ตามตำนานเล่าว่าเดิมวัดแห่งนี้เป็นวัดร้างโบราณ สมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึก (สมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก ในขณะนั้น) เสด็จผ่านขณะนำทัพไปปราบเจ้าเมืองนางรองซึ่งเป็นกบฏ และได้หยุดพักทัพบริเวณนี้ซึ่งเป็นแอ่งน้ำขนาดใหญ่ เชื่อกันว่าคือสระน้ำโบราณซึ่งเป็นร่องรอยอารยะธรรมขอม จึงโปรดเกล้าให้ยกวัดร้างเป็นวัด มีพระสงฆ์ให้ชื่อว่า "วัดแปะใหญ่" ในสมัยกรุงธนบุรี และตั้งเป็นวัดโดยสมบูรณ์เมื่อประมาณ พ.ศ. 2329 โดยต่อมาในสมัยรัชกาลที่ 5 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ได้ทรงเปลี่ยนชื่อเป็น “วัดกลาง”

             ในอดีตชาวเมืองยังอาศัยน้ำจากสระน้ำโบราณที่อยู่ภายในวัดกลางสำหรับดื่มกินและใช้ในพิธีถือน้ำพิพัฒน์สัตยาด้วย โดยการนำน้ำในสระไปทำพิธีดื่มกินในพระอุโบสถหลังเก่าซึ่งเป็นที่ตั้งของพระอุโบสถในปัจจุบันนี้เอง

             พระอุโบสถของวัดกลางได้มีการสร้างแล้วรื้อบูรณะหลายครั้ง ทว่าสิ่งที่ไม่ได้เปลี่ยนแปลงคือพระประธาน หรือหลวงพ่อโตซึ่งเป็นพระพุทธรูปปางมารมิชัยทำจากหินศิลาแลงลงรักปิดทองนั้นยังคงประดิษฐานอยู่ดังเดิมมาโดยตลอด เชื่อกันว่ามีหลวงพ่อโตมีพระพุทธคุณเมตตาเรื่องการขอบุตรธิดาและให้โชคลาภ จึงมีผู้คนที่ศรัทธาเดินทางมาสักการะขอพรเป็นจำนวนมาก โดยทางวัดจะให้เปิดเข้าสักการะในวันพระเท่านั้น


วัดกลาง พระอารามหลวงและสระน้ำโบราณด้านข้าง


สระน้ำโบราณ


ภายในพระอุโบสถมีพระประธานคือหลวงพ่อโต เป็นพระพุทธรูปปางมารมิชัยหินศิลาแลงลงรักปิดทอง


การเดินทางไปจังหวัดบุรีรัมย์

             - เครื่องบิน (Flight) การเดินทางโดยเครื่องบินจากสนามบินดอนเมืองและสุวรรณภูมิ ไปสนามบินจังหวัดบุรีรัมย์ใช้เวลาเดินทางประมาณ 55 นาที  

             - รถยนต์ (Car/ Bus) การเดินทางโดยรถยนต์จากกรุงเทพฯ ไปจังหวัดบุรีรัมย์ มีระยะทาง 400 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 5 ชั่วโมง   

             - รถไฟ (Train) การเดินทางโดยรถไฟจากกรุงเทพฯ ไปจังหวัดบุรีรัมย์ ใช้เวลาเร็วสุดประมาณ 6ชั่วโมง ทั้งนี้อาจใช้เวลานานกว่านี้ขึ้นอยู่กับประเภทของรถไฟ 


การเดินทางไปวัดกลางพระอารามหลวง

             วัดกลาง พระอารามหลวง ตั้งอยู่ที่ ถ. หลักเมือง เยื้องๆ กับศาลหลักเมืองบุรีรัมย์ มีรถสองแถวที่วิ่งผ่านหลายสาย ค่าบริการ 10 บาทตลอดสาย


เวลาทำการเปิด – ปิด

             เปิดทุกวัน เวลา 06.00 – 20.00 น.


อัตราค่าเข้าชม

             ไม่เสียค่าเข้าชม


สระน้ำศักดิ์สิทธิ์ เชื่อกันว่ามีอายุเก่าแก่กว่า 3,000 ปี


สิ่งที่ไม่ควรพลาดเมื่อไปเที่ยววัดกลางพระอารามหลวง

             กราบสักการะหลวงพ่อโตเพื่อความเป็นสิริมงคล และชมบ่อน้ำโบราณอายุเก่าแก่กว่า 3,000 ปี

             ในอดีตชาวเมืองอาศัยน้ำจากสระน้ำสำหรับดื่มกินและใช้ในพิธีถือน้ำพิพัฒน์สัตยา โดยนำน้ำในสระไปทำพิธีดื่มกินในพระอุโบสถหลังเก่าซึ่งเป็นที่ตั้งของพระอุโบสถในปัจจุบัน


เวลาที่เหมาะสมสำหรับการท่องเที่ยว

             สามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปี


บริเวณประตูทางเข้าวัด


             
นักท่องเที่ยวที่สนใจไปเที่ยวชม วัดกลางพระอารามหลวง สามารถศึกษา ข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่

                        วัดกลางพระอารามหลวง จังหวัดบุรีรัมย์ ประเทศไทย

                        (Wat Klang Phra Aram Luang, Buriram, Thailand)

                        ระดับความนิยม : 

                        อัตราค่าเข้าชม : ไม่เสียค่าเข้าชม    

                        เวลาทำการเปิด – ปิด : เปิดทุกวัน เวลา 06.00 – 20.00 น.  

                        ตั้งอยู่ที่ : 29/8 ถนนหลักเมือง ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดบุรีรัมย์

                        โทรศัพท์ : (+66) 044 621 688    

                        เว็บไซต์ : -   

                        ข้อมูลอื่นๆที่ควรรู้ : พยากรณ์อากาศ https://www.accuweather.com/

                                        ศูนย์ข้อมูลนักท่องเที่ยวจังหวัดบุรีรัมย์ https://buriram.mots.go.th

                                        ศูนย์ข้อมูลการเดินทางจังหวัดบุรีรัมย์ http://www.buriram.go.th/visitdata/tran.htm

                                        ศูนย์บริการข้อมูลท่องเที่ยวประเทศไทย https://thai.tourismthailand.org

 

สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ

5 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในจังหวัดยโสธร ประเทศไทย

จังหวัดยโสธรเป็นจังหวัดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่างของไทยที่ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำชี จังหวัดยโสธรมีสถานที่ท่องเที่ยวเชิงศาสนาและวัฒนธรรมหลายแห่ง เพราะเป็นเมืองที่ผ่านประวัติศาสตร์มาอย่างยาวนานตั้งแต่สมัยทวาราวดี วันนี้ทาง Palanla จึงได้รวบรวมสถานที่ที่เป็นไฮไลท์ของจังหวัดยโสธรมาฝากทุกท่านไว้ในบทความนี้

อ่านต่อ

วัดพระพุทธบาทยโสธร จังหวัดยโสธร ประเทศไทย

วัดพระพุทธบาทยโสธร (Wat Phra Buddhabat Yasothon) เป็นวัดที่มีความสวยงามจากหมู่อาคารสีขาวท่ามกลางบรรยากาศที่เงียบสงบ นักท่องเที่ยวที่มาเยือนนิยมมาเที่ยวชมวัดและสักการะโบราณวัตถุทางพุทธศาสนาอันได้แก่ รอยพระพุทธบาท พระพุทธรูปปางนาคปรก และศิลาจารึกโบราณที่มีอายุราวห้าร้อยปี รวมทั้งพระพุทธรูปหยกขาวที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยที่ประดิษฐานอยู่ในพระอุโบสถ และพระบรมสารีริกธาตุที่ประดิษฐานอยู่ภายในเจดีย์ของวัดอีกด้วย วัดแห่งนี้จึงเป็นอีกหนึ่งวัดดังของจังหวัดยโสธรที่ควรค่าต่อการมาเที่ยวชมเป็นอย่างยิ่ง

อ่านต่อ

8 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในจังหวัดศรีสะเกษ ประเทศไทย

จังหวัดศรีสะเกษเป็นจังหวัดในภาคอีสานตอนล่างที่มีแหล่งท่องเที่ยวหลายแห่ง ทั้งสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ที่เป็นจุดชมวิวอันน่าประทับใจ ไปจนถึงแหล่งโบราณสถานอันทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์ และวัดวาอารามที่สร้างขึ้นอย่างงดงามให้เที่ยวชม วันนี้ทาง Palanla ได้รวบรวม 8 สถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นไฮไลท์ของจังหวัดศรีเกษมาฝากทุกท่านกันในบทความนี้

อ่านต่อ

ผามออีแดง จังหวัดศรีสะเกษ ประเทศไทย

ผามออีแดง (Pha Mor E Daeng) เป็นหน้าผาที่ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร เป็นจุดชมวิวที่มองเห็นปราสาทเขาพระวิหาร ป่าไม้ และบ้านเมืองของกัมพูชาที่อยู่ไกลออกไปได้ ในยามเช้าของช่วงปลายฝนต้นหนาวจะเป็นจุดชมทะเลหมอกที่สวยงาม ส่วนในยามพระอาทิตย์ตกดินจะมองเห็นฝูงค้างคาวบินออกมาจากถ้ำเพื่อหากิน นอกจากนี้ อีกหนึ่งไฮไลท์ของผามออีแดงคือภาพจิตรกรรมโบราณที่ถูกสลักไว้ริมหน้าผาซึ่งมีความเก่าแก่กว่าหนึ่งพันห้าร้อยปีทีเดียว ถือเป็น Unseen Thailand ที่คุ้มค่าต่อการมาเที่ยวชมเป็นอย่างยิ่ง

อ่านต่อ

น้ำตกสำโรงเกียรติ จังหวัดศรีสะเกษ ประเทศไทย

น้ำตกสำโรงเกียรติ (Samrong Kiat Waterfall) เป็นน้ำตกที่มีต้นกำเนิดจากเทือกเขาบรรทัด น้ำตกแห่งนี้มีเอกลักษณ์ตรงที่บริเวณด้านบนหน้าผาจะมีแอ่งลานหินขนาดใหญ่รองรับธารน้ำเอาไว้ก่อนที่จะไหลตกลงมาตามชั้นหน้าผา น้ำตกสำโรงเกียรติมีน้ำไหลตลอดปี และจะมีน้ำมากที่สุดในช่วงฤดูฝน บรรยากาศโดยรอบมีความร่มรื่นจากป่าไม้ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เหมาะกับการมาเล่นน้ำ นั่งพักผ่อนหย่อนใจ และถ่ายภาพสวยๆ ได้อย่างเพลิดเพลิน

อ่านต่อ

เกาะกลางน้ำ จังหวัดศรีสะเกษ ประเทศไทย

เกาะกลางน้ำ (Koh Klang Nam) เป็นเกาะที่อยู่ใจกลางอ่างเก็บน้ำห้วยน้ำคำในอำเภอเมืองศรีสะเกษ บนเกาะแห่งนี้เป็นสวนสาธาณะขนาดใหญ่และเป็นที่ตั้งของอาคารสำคัญหลายแห่ง เช่น หอศรีลำดวนเฉลิมพระเกียรติที่เป็นหอชมเมืองศรีสะเกษได้รอบทิศ และศรีสะเกษอควาเรียมซึ่งเป็นศูนย์แสดงพันธุ์สัตว์น้ำที่ใหญ่ที่สุดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่นี่จึงเป็นทั้งสถานที่ท่องเที่ยวและสถานที่พักผ่อนหย่อนใจของจังหวัดศรีสะเกษอีกแห่งหนึ่งที่นักท่องเที่ยวให้ความสนใจมาเที่ยวชมเป็นอย่างมาก

อ่านต่อ

วัดบุไผ่ (วัดบ้านไร่ 2) จังหวัดนครราชสีมา ประเทศไทย

วัดบุไผ่ (วัดบ้านไร่ 2) Wat Bu Pai (Wat Ban Rai 2) เป็นวัดที่ตั้งตระหง่านบนเนินเขาในอำเภอวังน้ำเขียว ประดิษฐานรูปหล่อหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ หรือ พระเทพวิทยาคม พระเกจิดังวัดบ้านไร่องค์ใหญ่ที่สุดในโลก

อ่านต่อ

วัดแสงธรรมวังเขาเขียว จังหวัดนครราชสีมา ประเทศไทย

วัดแสงธรรมวังเขาเขียว (Wat Saeng Tham Wang Khao Khiao) เป็นที่ตั้งของพระมหาเจดีย์ศรีแสงธรรมวิสุทธิมงคล พระมหาเจดีย์รูปทรงดอกบัวสีขาวตั้งตระหง่านสง่างามอยู่กลางคูน้ำ ท่ามกลางสวนหย่อมสีเขียวขนาดใหญ่และแวดล้อมด้วยหุบเขาสีเขียวขจีของอำเภอวังน้ำเขียว

อ่านต่อ

ผาเก็บตะวัน จังหวัดนครราชสีมา ประเทศไทย

ผาเก็บตะวัน (Pha Kep Tawan) หนึ่งในที่เที่ยววังน้ำเขียวที่เป็นจุดชมวิวที่มีทัศนียภาพสวยงาม แวดล้อมด้วยความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติ เหมาะแก่การแวะมาชมวิวผ่อนคลาย หรือหากต้องการกางเต็นท์ค้างคืนก็ได้เช่นกัน

อ่านต่อ

วัดป่าโนนสวรรค์ จังหวัดร้อยเอ็ด ประเทศไทย

วัดป่าโนนสวรรค์ (Wat Pa Non Sawan) เป็นวัดที่มีชื่อเสียงของจังหวัดร้อยเอ็ด ภายในวัดมีความน่าตื่นตาตื่นใจของประติมากรรมปูนปั้นมากมายที่ถ่ายทอดเรื่องเกี่ยวกับพุทธประวัติ พระธรรมคำสอน รวมถึงวรรณคดีไทยชื่อดังต่างๆ ให้ได้เดินเที่ยวชม และภายในวัดยังโดดเด่นด้วยองค์เจดีย์ขนาดใหญ่ที่ตกแต่งอย่างงดงาม รวมถึงศิลปะการตกแต่งที่ใช้หม้อดินมาประดับในส่วนต่างๆ โดยรอบจนมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว วัดแห่งนี้จึงเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดร้อยเอ็ดที่ไม่ควรพลาดชม

อ่านต่อ
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ