- หน้าแรก
- ท่องเที่ยวในประเทศ
- วัดเจดีย์หลวง จังหวัดเชียงใหม่ ประเทศไทย
วัดเจดีย์หลวง จังหวัดเชียงใหม่ ประเทศไทย
- อ่าน (7,980)
- ByWebmaster
- 17:51:03 | 24 พ.ค. 2561
วัดเจดีย์หลวง จังหวัดเชียงใหม่ ประเทศไทย
Wat Chedi Luang, Chiang Mai Province, Thailand

วัดเจดีย์หลวง หรือชื่ออย่างเป็นทางการคือ วัดโชติการาม เป็นหนึ่งในวัดสำคัญและแหล่งท่องเที่ยวที่ห้ามพลาด ของเมืองเชียงใหม่ ภาคเหนือของประเทศไทย

ทั้งนี้ วัดเจดีย์หลวงถือเป็นพระอารามหลวงเก่าคู่เมืองเชียงใหม่มาตั้งแต่อดีต ได้รับการบูรณะมาหลายต่อหลายสมัย อีกทั้งภายในวัดยังมีพระเจดีย์โบราณองค์ใหญ่แม้จะได้รับความเสียหายจากแผ่นดินไหวเมื่อหลายร้อยปีก่อนจนยอดถล่มลงมา แต่ขนาดที่เหลืออยู่ก็ยังกว้างถึงด้านละ 60 เมตร ถือเป็น องค์พระเจดีย์ที่มีความสำคัญองค์หนึ่งในเชียงใหม่ และตั้งอยู่ใจกลางตัวเมืองเชียงใหม่ ทั้งยังถือว่าเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ความรุ่งเรืองของเมืองเชียงใหม่ในฐานะศูนย์กลางการปกครองล้านนาในอดีต
และนอกจากพระเจดีย์องค์ใหญ่แล้ว ปัจจุบันวัดเจดีย์หลวงยังเป็นที่ตั้งของ เสาอินทขีล ซึ่งถือเป็นหลักเมืองสำคัญที่ชาวเชียงใหม่ให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่งอีกด้วย

พระเจดีย์หลวงและวิหารหลวง สถานที่สำคัญภายในวัดเจดีย์หลวงเมืองเชียงใหม่

องค์พระตามคติศิลปะล้านนาในศาลารอบพระเจดีย์หลวงอันงดงามจับตา

พระวิหารหลวงหน้าพระเจดีย์หลวง อีกหนึ่งอาคารที่ไม่ควรพลาดภายในวัดพระเจดีย์หลวง

ภายในพระวิหารหลวงซึ่งประดิษฐานพระอัฎฐารสที่ชาวเชียงใหม่ศรัทธา

พระเจดีย์ประจำปีนักษัตรจำลองภายในพระวิหารหลวง

หออินทขีล ที่ประดาฐานเสาอินทขีลหรือเสาหลักเมืองเชียงใหม่ที่วัดเจดีย์หลวง

วิหารบุรพจารย์อีกหนึ่งสถาปัตยกรรมอันละเอียดประณีตในวัดพระเจดีย์หลวง

ไม่ไกลนักมีเจดีย์ที่แม้จะอายุไม่มากแต่ก็ได้รับการออกแบบมาให้เข้ากับสถาปัตยกรรมอื่นๆเช่นกัน
ความเป็นมาของวัดเจดีย์หลวง
ตำนานเมืองเหนือหลายฉบับเล่าว่า พระเจดีย์องค์ใหญ่ของวัดเจดีย์หลวง ถูกสร้างขึ้นเป็นครั้งแรกในช่วงประมาณปี 1385 (พ.ศ. 1928) อันเป็นสมัยของพระเจ้าแสนเมืองมาผู้เป็นเจ้าเมืองเชียงใหม่ในขณะนั้น และสร้างต่อเนื่องมาจนถึงสมัยพระเจ้าสามฝั่งแถนผู้เป็นโอรส โดยแรกเริ่มพระเจดีย์หรือที่เรียกกันว่า กู่หลวง แห่งนี้มีขนาดไม่ใหญ่นัก จนสมัยถัดมา ได้มีการเสริมฐานและสร้างเพิ่มเติม จนกลายเป็นเจดีย์สูงกว่า 90 เมตร และกว้างถึง 50 เมตร สามารถมองเห็นได้แต่ไกล
แต่น่าเสียดายที่ประมาณช่วงปี 1545 (พ.ศ.2088) ได้เกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งใหญ่ขึ้น ทำให้เจดีย์พักลงมา และถูกทิ้งร้างไว้นานกว่า 400 ปี ก่อนจะกลับมาได้รับความสำคัญอีกครั้ง ในสมัยรัตนโกสินทร์ เมื่อเจ้ากาวิละได้ทรงฟื้นฟูเมืองเชียงใหม่ และได้นำเสาอินทขีลอันเป็นหลักเมืองสำคัญมาประดิษฐานไว้ยังที่นี่ และในสมัยของพลตรีเจ้าแก้วนวรัฐขึ้นเป็นผู้ครองนครเชียงใหม่ปี 1928 (พ.ศ.2471) ได้มีการจัดการกับรากไม้ที่ห่อหุ้มองค์พระเจดีย์อยู่ รวมถึงบูรณะวิหารและบริเวณรอบๆ ก่อนที่องค์พระเจดีย์หลวงจะได้รับการบูรณะครั้งใหญ่โดยกรมศิลปากรในปี 1990 (พ.ศ. 2533) ด้วยงบประมาณกว่า 30 ล้านบาท (อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://www.med.cmu.ac.th/secret/admin/web/custom8.html)

องค์พระเจดีย์หลวงในปัจจุบันหลังผ่านกาลเวลามากกว่า 600 ปี
การเดินทางไปวัดเจดีย์หลวง อ.เมือง จ.เชียงใหม่
วัดเจดีย์หลวง เป็นวัดที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองเชียงใหม่ ซึ่งอยู่ทางภาคเหนือของประเทศไทย และเป็นจังหวัดที่มีความสำคัญทั้งในด้านของเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว และอยู่ห่างจากกรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นเมืองหลวงของประเทศไทยประมาณ 696 กิโลเมตร นักท่องเที่ยวจึงสามารถเดินทางมายังจังหวัดเชียงใหม่ได้หลายวิธี คือ

- เครื่องบิน นักท่องเที่ยวสามารถเลือกใช้บริการเที่ยวบินได้ทั้งจาก ท่าอากาศยานดอนเมือง และท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ มาลงที่ท่าอากาศยานเชียงใหม่ ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากตัวเมืองเชียงใหม่ไปทางใต้ 4 กิโลเมตร โดยใช้เวลาเดินทางเพียง 1.30 – 2 ชั่วโมงเท่านั้น ถือเป็นการเดินทางที่สะดวกสบายและได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก ทั้งนี้ นักท่องเที่ยวสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับสายการบินที่ให้บริการ รวมถึงตารางเวลาเพิ่มเติมได้ที่ http://chiangmaiairportthai.com/
- รถโดยสารประจำทาง บริการขนส่งสาธารณะที่ได้รับความนิยมอย่างมากสำหรับผู้ที่เดินทางไป จ.เชียงใหม่ เนื่องมาจากจำนวนรอบต่อวันที่ค่อนข้างมาก รวมถึงเที่ยวเวลาและผู้ให้บริการที่มีให้เลือกหลากหลาย โดยนักท่องเที่ยวสามารถเลือกขึ้นรถได้ที่ สถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพฯ (จตุจักร) (หรือสถานีหมอชิต) และลงที่สถานีขนส่งผู้โดยสารเชียงใหม่ แห่งที่ 3 ซึ่งใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 9 – 12 ชั่วโมง นักท่องเที่ยวที่ต้องการทราบรายละเอียดเกี่ยวกับการเดินทางด้วยรถโดยสารประจำทางเพิ่มเติม สามารถตรวจสอบเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 1490, 0-2872-1777 หรือเว็บไซต์ http://www.busticket.in.th และเว็บไซต์ http://www.thairoute.com
- รถไฟ เป็นอีกบริการขนส่งสาธารณะสำหรับเดินทางไปเชียงใหม่ ซึ่งได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวที่ต้องการพักผ่อนยาวในระหว่างการเดินทาง เนื่องจากใช้เวลาในการเดินทางยาวประมาณ 11 – 13 ชั่วโมง โดยนักท่องเที่ยวสามารถตรวจสอบรายละเอียดเวลา, ราคา ตลอดจนสำรองที่นั่งล่วงหน้าได้ที่ http://www.railway.co.th/ หรือหมายเลขโทรศัพท์ 1690
- รถยนต์ / รถรับจ้าง เป็นอีกหนึ่งการเดินทางที่ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวเช่นกัน เนื่องจากเป็นการเดินทางที่สะดวกสบาย และนักท่องเที่ยวยังสามารถเลือกแวะพักหรือท่องเที่ยวจังหวัดระหว่างทางซึ่งมีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจไม่แพ้กันได้อีกด้วย
ทั้งนี้หลังจากมาถึงเมืองเชียงใหม่แล้ว นักท่องเที่ยวสามารถไปยังวัดเจดีย์หลวง ซึ่งตั้งอยู่ ใจกลางตัวเมืองเชียงใหม่ อย่างง่ายๆ หลายวิธี อาทิ

- รถโดยสารประจำทางสีแดง (รถแดง) หรือ รถตุ๊กตุ๊ก ซึ่งให้บริการวิ่งวนรอบเมืองเชียงใหม่ นักท่องเที่ยวสามารถเรียกรถได้ทั้งจากที่สถานีขนส่งเชียงใหม่ หรือบริเวณอื่นๆในตัวเมือง โดยสามารถตกลงราคากันได้ประมาณ 15 – 60 บาท/คน ตามแต่จุดที่นักท่องเที่ยวขึ้นรถ
- รถแท็กซี่เมืองเชียงใหม่ ซึ่งมีให้บริการทั้งจาก แท็กซี่ของตัวเมืองเชียงใหม่ โดยนักท่องเที่ยวสามารถดูรายละเอียดและอัตราค่าบริการกรณีเหมาจ่ายได้ที่ http://www.taxichiangmai.com/ หรืออาจเลือกใช้บริการแท็กซี่อย่าง Grabcar ซึ่งเมืองเชียงใหม่มีบริการระบบเรียกรถผ่านแอปพลิเคชัน Grab โดยสามารถตรวจสอบอัตราค่าโดยสารแต่ละครั้งได้บนหน้าจอก่อนที่จะกดเรียกรถไปยังสถานที่ต่างๆ โดยนักท่องเที่ยวสามารถดาวน์โหลดแอป Grab ได้ที่ http://grb.to/2F9a2bx
- รถยนต์/รถจักรยานยนต์ นักท่องเที่ยวที่นำรถไปเอง สามารถนำรถไปจอดภายในบริเวณวัดได้
- การเดินเท้า สำหรับนักท่องเที่ยวที่มีที่พักอยู่ในตัวเมืองแล้ว สามารถเดินทางไปยังวัดเจดีย์หลวงได้ง่ายๆ โดยสามารถเลือกดูรายละเอียดระยะทางและเวลาเพิ่มเติมโดยการใช้บริการ https://www.google.com/maps
เวลาในการเปิด-ปิดทำการ
นักท่องเที่ยวสามารถไปเที่ยวชมวัดเจดีย์หลวงได้ ทุกวัน โดยประตูใหญ่ของวัดเจดีย์หลวงจะเปิดตั้งแต่ เวลา 05.00 น. – 22.30 น.

ประตูใหญ่ของวัดเจดีย์หลวงและเวลาในการเปิด – ปิดประตู
อัตราค่าเข้าชม
นักท่องเที่ยวชาวไทย สามารถเข้าชมวัดเจดีย์หลวงได้ ฟรี ไม่เสียค่าใช้จ่าย แต่สำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ต้องเสียค่าบัตรผ่าน 40 บาท/คน
สิ่งที่น่าสนใจภายในวัดเจดีย์หลวง
เนื่องจากความเป็นมาอันเก่าแก่และความสำคัญของวัดเจดีย์หลวง ทำให้ภายในวัดเต็มไปด้วยสิ่งปลูกสร้างทั้งอาคารสถาปัตยกรรมและประติมากรรมอันสวยงามมากมายหลายแห่ง ให้นักท่องเที่ยวเลือกชื่นชมได้ อาทิ
วิหารหลวง
วิหารหลวงที่เห็นในปัจจุบันได้รับการก่อสร้างใหม่ในปี 1928 (พ.ศ. 2471) ด้วยความร่วมมือระหว่างเจ้าคุณอุบาลีคุณปรมาจารย์(สิริจันทะเถระ) และเจ้าแก้วนวรัฐ แต่โครงเดิมของตัววิหารและบันไดนาคที่มีความสวยงามนั้นเคยเป็นของเก่ามาก่อนเป็นอย่างมาก โดยวิหาร(เดิม)แห่งนี้เคยเป็นที่ประกอบพิธีถือน้ำพิพัฒน์สัจจาในสมัยของรัชกาลที่ 5 และภายในวิหารยังเป็นที่ประดิษฐานของ พระอัฎฐารส พระประธานในโบสถ์ซึ่งเป็นพระเก่าแก่สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยปี 1411 (พ.ศ. 1954) อีกด้วย

พระอัฎฐารส พระประธานเก่าแก่ปางห้ามญาติภายในวิหารหลวง
พระธาตุเจดีย์หลวง

ถือเป็นพระเจดีย์ที่ สูงที่สุดในภาคเหนือ โดยมีความสูงประมาณ 80 เมตร ฐานกว้างด้านละ 60 เมตร สันนิฐานว่ารูปทรงถูกสร้างเป็นแบบโลหะปราสาท ส่วนองค์พระเจดีย์ที่เหลืออยู่ในปัจจุบันมีลักษณะอย่างศิลปะพุกาม บริเวณฐานสี่เหลี่ยมเชื่อว่าเคยประดับด้วยปูนปั้นรูปช้าง แต่ปัจจุบันได้รับความเสียหายเนื่องจากกาลเวลา เช่นเดียวกับบันไดนาคที่หลงเหลือให้เห็นไม่มากนัก แต่ก็ยังถือว่าเป็นพระเจดีย์ที่สวยงามและเป็นสัญลักษณ์อีกหนึ่งแห่งของเมืองเชียงใหม่

พระเจดีย์หลวง สัญลักษณ์ของวัดเจดีย์หลวงเมืองเชียงใหม่วันนี้ที่ยังยิ่งใหญ่ตระการตา
หออินทขีล ศาลหลักเมืองเชียงใหม่

เดิมทีเสาอินทขีล หรือเสาหลักเมืองเชียงใหม่นั้น ตั้งอยู่ที่วัดอินทขีลสะดือเมือง แต่ในสมัยของพระเจ้ากาวิละ (1782 – 1813) ซึ่งเป็นเจ้าผู้ครองเชียงใหม่องค์แรกแห่งราชวงศ์ทิพย์จักร และเป็นผู้ฟื้นฟูเมืองเชียงใหม่ที่ตกอยู่ใต้อิทธิพลพม่ามาเนิ่นนานให้รุ่งเรืองอีกครั้ง เนื่องในโอกาสดังกล่าว จึงได้มีการเคลื่อนย้ายเสาหลักเมืองมาประดิษฐานยังวัดเจดีย์หลวง และเป็นหนึ่งในสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองที่ชาวเชียงใหม่ให้ความนับถือตราบจนทุกวันนี้

หออินทขีลที่ประดิษฐานเสาอินทขีลหรือเสาหลักเมือง ที่นอกจากเป็นศูนย์รวมศรัทธาแล้วยังเป็นอีกหนึ่งสถาปัตยกรรมศิลปะล้านนาอันทรงคุณค่า
นอกจากสถานที่สำคัญทั้งสามแห่งด้านบนที่ต้องไปเยือนแล้ว ภายในวัดเจดีย์หลวงยังมีสิ่งอื่นๆที่สวยงามอีกมาก ไม่ว่าจะเป็น วิหารท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต ซึ่งเป็นพระภิกษุที่ได้รับความเคารพนับถืออีกท่านหนึ่ง โดยวิหารของท่านพระอาจารย์มั่นฯ แม้จะไม่ได้มีประวัติเก่าแก่ยาวนาน แต่ก็มีเป็นอาคารสถาปัตยกรรมที่ก่อสร้างด้วยศิลปะล้านนาที่ประณีตงดงามอย่างมาก หรือ ศาลารายรอบพระเจดีย์หลวง ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปองค์สำคัญๆที่มีลักษณะอันเป็นเอกลักษณ์ของศิลปะล้านนาอย่าง องค์พระไสยาสน์ หรือบางองค์ก็ได้รับอิทธิพลจากศิลปะพม่า กลายเป็นความงดงามอันน่าแปลกตาที่ควรไปชื่นชมอย่างยิ่ง

วิหารท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต อีกหนึ่งที่ต้องแวะภายในวัดเจดีย์หลวง

อีกหนึ่งวิหารในวัดเจดีย์หลวงที่โดดเด่นด้วยรูปทรงสถาปัตยกรรมล้านนาซึ่งได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวไม่แพ้กัน

พระไสยาสน์ที่ประดิษฐานอยู่ในศาลารายรอบพระเจดีย์หลวง ที่ผู้คนนิยมไปกราบไหว้บูชา

องค์พระซึ่งได้รับอิทธิพลผสมระหว่างศิลปะพม่าและล้านนาในศาลาราย
ฤดูกาลและเทศกาลสำคัญกับการเที่ยววัดเจดีย์หลวง
นักท่องเที่ยวสามารถมาเที่ยวชมความสวยงามของวัดเจดีย์หลวงได้ทุกฤดู โดยช่วงที่ได้รับความนิยมที่สุดคือ ช่วงฤดูหนาวในเดือนพฤศจิกายน – เดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งเป็นช่วงที่อากาศค่อนข้างเย็นสบาย เหมาะแก่การเดินเที่ยวชม แต่หากนักท่องเที่ยวเลือกไปเที่ยวในช่วงฤดูร้อน หรือเดือนมีนาคม – เดือนมิถุนายน นักท่องเที่ยวต้องเตรียมรับมือกับอากาศร้อน (อุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 30 องศาเซสเซียสขึ้นไป) และลมมรสุมหน้าร้อน เช่นเดียวกับในฤดูฝน (เดือนกรกฏาคม – เดือนตุลาคม) ซึ่งมักจะมีฝนฟ้าคะนองกะทันหันบ่อยครั้งจนอาจเป็นอุปสรรคต่อการเที่ยวชมได้

วันที่อากาศปลอดโปร่ง นักท่องเที่ยวจะสามารถเก็บภาพความงามของสถานที่ได้อย่างชัดเจน
นอกจากนี้ นักท่องเที่ยวสามารถเลือกมาเที่ยวในช่วงเทศกาลประจำปีของวัดเจดีย์หลวงอย่าง งานประเพณีบูชาเสาอินทขีล หรือเสาหลักเมืองสำคัญที่อยู่ภายในวัดเจดีย์หลวง ซึ่งภายในงานจะมีพิธีสำคัญที่หาดูได้ยากหลายอย่าง อาทิ พิธีบูชาเสาอินทขีล, พิธีใส่ขันดอก, การใส่บาตรพระประจำวันเกิด, พิธีสรงน้ำพระเจ้าฝนแสนห่า, พิธีสืบชะตาเมือง เป็นต้น

หน้าหออินทขีลทุกๆเดือนพฤษภาคมจะมีการจัดงานประเพณีบูชาเสาอินทขีลที่จะมีประชาชนมาร่วมงานอย่างล้นหลามทุกปี
และนอกจากเทศกาลประจำปีนี้แล้ว ในช่วงวันสำคัญต่างๆ อาทิ วันขึ้นปีใหม่, วันสงกรานต์ หรือ ฯลฯ วัดเจดีย์หลวงยังอาจมีกิจกรรมพิเศษสำหรับนักท่องเที่ยวที่แวะไปอีกด้วย ซึ่งนักท่องเที่ยวที่สนใจสามารถตรวจสอบเวลาในการจัดงานเทศกาลต่างได้ที่หน้าแฟนเพจการท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ https://www.facebook.com/tatchiangmai/

บริเวณหน้าพระเจดีย์หลวงซึ่งหากเป็นเทศกาลสำคัญๆ อาทิ ปีใหม่ หรือสงกรานต์ จะมีการกางเต๊ณฑ์ไว้สำหรับจัดกิจกรรมตามประเพณี
แต่มีข้อควรระวังคือ ในช่วงเวลาดังกล่าว อาจจะมีนักท่องเที่ยวจำนวนมากและอาจทำให้การจราจรติดขัดอย่างมากได้ นักท่องเที่ยวจึงควรวางแผนการเดินทางให้ดี
ทั้งนี้ นักท่องเที่ยวควรใช้เวลาในการเที่ยวชมวัดเจดีย์หลวง ไม่น้อยกว่า 3-4 ชั่วโมง และสามารถตรวจสอบสภาพอากาศล่วงหน้าได้ที่ www.accuweather.com
ข้อมูลทั่วไปที่ควรรู้ในการเที่ยววัดเจดีย์หลวง จ.เชียงใหม่
วัดเจดีย์หลวง นอกจากจะเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมแล้ว ยังเป็นศาสนสถานที่สำคัญที่ชาวเชียงใหม่ให้ความเคารพและศรัทธา นักท่องเที่ยวที่ไปเยี่ยมชม จึงควรแต่งกายสุภาพ งดสวมเสื้อไม่มีแขน และกางเกงหรือกระโปรงสั้น และควรปฏิบัติตามข้อห้ามของทางวัด อาทิ ห้ามผู้หญิงเข้าบางเขต หรือห้ามใส่รองเท้าเข้าไปบางสถานที่ อย่างเคร่งครัด

บางบริเวณของวัดอาจเป็นสถานที่สำหรับพระสงฆ์ นักท่องเที่ยวควรตรวจดูให้ดีก่อน
ทั้งนี้ เนื่องจากวัดเจดีย์หลวงตั้งอยู่ใจกลางเมืองเชียงใหม่ จึงมีบริการร้านอาหารและที่พักแรมให้นักท่องเที่ยวเลือกพักมากมายหลายแบบ ไม่ว่าจะเป็นโฮสเทส หรือบูติคโฮเทล และสำหรับนักท่องเที่ยวที่เที่ยวชมวัดพระธาตุดอยสุเทพเสร็จแล้ว แต่ยังมีเวลาเหลือ สามารถเลือกที่จะไปเที่ยวชมสถานที่แห่งอื่นๆที่อยู่ไม่ห่างกันนัก อาทิ วัดพระสิงห์, อนุสาวรีย์สามกษัตริย์ หรือ ฯลฯ หรือรอเลือกซื้อสินค้าที่น่าสนใจในถนนคนเดินวันอาทิตย์ (ถนนท่าแพ) ซึ่งจะจัดขึ้นในบริเวณใกล้ๆก็ได้เช่นกัน

บรรยากาศของวัดเจดีย์หลวงยามค่ำคืนวันอาทิตย์ที่มีการจัดถนนคนเดินท่าแพ
นักท่องเที่ยวที่สนใจไปเที่ยวชม วัดเจดีย์หลวง สามารถศึกษา ข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่
วัดเจดีย์หลวง จังหวัดเชียงใหม่ ประเทศไทย
(Wat Chedi Luang, Chiang Mai Province , Thailand)
ระดับความนิยม : ![]()
อัตราค่าเข้าชม : ฟรีสำหรับชาวไทย ชาวต่างชาติ 40 บาท
เวลาเปิด – ปิด : เปิดให้บริการทุกวัน โดยประตูวัดจะเปิดตั้งแต่เวลา 05.00 น. – 22.30 น.
ฤดูกาลต่างๆในการท่องเที่ยว : ฤดูหนาว (เดือนธันวาคม – เดือนกุมภาพันธ์) เป็นฤดูกาลที่ได้รับความนิยมที่สุดในการท่องเที่ยว
ระวังอากาศที่ร้อนจัดในเดือนเมษายน – เดือนมิถุนายน
และหลีกเลี่ยงช่วงเทศกาลเนื่องจากนักท่องเที่ยวจะมีปริมาณมาก
ตั้งอยู่ที่ : อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ ประเทศไทย
โทรศัพท์ : (+66)053-814-308
ข้อมูลอื่นๆที่ควรรู้ : พยากรณ์อากาศ https://www.accuweather.com/
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) https://thai.tourismthailand.org/
สำนักงานการท่องเที่ยว จ.เชียงใหม่ http://www.cm-mots.com/
Facebook Fanpage การท่องเที่ยวเชียงใหม่ https://www.facebook.com/tatchiangmai/
บริการขนส่ง (รถทัวร์ประจำทาง) http://www.busticket.in.th, http://www.thairoute.com
บริการรถเมลล์เชียงใหม่ http://www.cityupdate.in.th/chiangmai/?p=23
ท่าอากาศยานนานาชาติ จ.เชียงใหม่ http://www.airportthai.co.th/chiangmai/th
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ
อุโมงค์ขุนตาน จังหวัดลำพูน ประเทศไทย
อุโมงค์ขุนตาน (Khun Tan Tunnel) เป็นอุโมงค์ทางรถไฟที่มีความสำคัญด้านประวัติศาสตร์วิศวกรรมการสร้างอุโมงค์ทางรถไฟของไทย โดยสร้างด้วยความยากลำบากและท้าทายกว่าจะแล้วเสร็จ อุโมงค์แห่งนี้ยังเคยเป็นอุโมงค์รถไฟที่ยาวที่สุดในประเทศไทยถึง 106 ปี ก่อนจะถูกทำลายสถิติโดยอุโมงค์ผาเสด็จในปี พ.ศ. 2567
อ่านต่อ
อุทยานแห่งชาติแม่ปิง จังหวัดลำพูน ประเทศไทย
อุทยานแห่งชาติแม่ปิง (Mae Ping National Park) เป็นอุทยานแห่งชาติที่อยู่ในพื้นที่ของสามจังหวัดในภาคเหนือ ได้แก่ เชียงใหม่ ตาก และลำพูน โดยมีที่ทำการอุทยานตั้งอยู่ที่ตำบลแม่ลาน อำเภอลี้ จังหวัดลำพูน นอกจากธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์แล้ว อุทยานแห่งชาติแม่ปิงยังมีทิวทัศน์ที่สวยงาม และแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจหลายๆ จุดด้วยกัน
อ่านต่อ
สะพานขาวทาชมภู จังหวัดลำพูน ประเทศไทย
สะพานขาวทาชมภู (Tha Chomphu White Bridge) สะพานทางรถไฟสีขาวที่โดดเด่น หนึ่งในแลนด์มาร์กของจังหวัดลำพูน ที่ทอดข้ามแม่น้ำทาและทอดยาวผ่านทุ่งโล่งที่มีทิวทัศน์งดงาม ตั้งอยู่ใกล้ๆ กับอุโมงค์ขุนตาน ซึ่งเป็นสัญญาณว่าใกล้ถึงจุดหมายปลายทางแล้วสำหรับผู้ที่เดินทางโดยรถไฟสายกรุงเทพ-เชียงใหม่
อ่านต่อ
วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม จังหวัดลำพูน ประเทศไทย
วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม (Wat Phrabhuddabat Huai Tom) เป็นวัดที่ใหญ่ที่สุดของอำเภอลี้ วัดแห่งนี้วัดมีตำนานความเป็นมาจากเมื่อครั้งพระพุทธกาล เมื่อพระพุทธเจ้าเสด็จมาที่ดงไม้ตาลและประทับบนดอยนางพี่ ภายในวัดมีพระธาตุเจดีย์ศิลปะล้านนาผสมพม่าโดดเด่นงดงาม
อ่านต่อ
วัดพระพุทธบาทตากผ้า จังหวัดลำพูน ประเทศไทย
วัดพระพุทธบาทตากผ้า (Wat Phrabhuddabat Tak Pha) เป็นปูชนียสถานสำคัญของจังหวัดลำพูน โดยนับถือกันว่ามีรอยพระบาทของพระพุทธเจ้าที่มาประทับไว้ตรงบริเวณที่นำผ้าจีวรมาตาก และมีรอยตารางบนผาหินที่เชื่อว่าคือรอยตากผ้าจีวรพระพุทธเจ้าอยู่
อ่านต่อ
พระมหาธาตุเจดีย์ศรีเวียงชัย จังหวัดลำพูน ประเทศไทย
พระมหาธาตุเจดีย์ศรีเวียงชัย (Phra Mahathat Chedi Si Wiang Chai) เป็นหนึ่งในวัดของจังหวัดลำพูนที่มีสถาปัตยกรรมงดงาม โดดเด่นด้วยพระมหาธาตุเจดีย์ฯ ที่สร้างโดยมีแนวคิดการจำลองแบบมาจากมหาธาตุเจดีย์ชเวดากองในพม่า
อ่านต่อ
ศูนย์อนุรักษ์ช้างไทยจังหวัดลำปาง จังหวัดลำปาง ประเทศไทย
ศูนย์อนุรักษ์ช้างไทยจังหวัดลำปาง (Thai Elephant Conservation Center) เคยเป็นสถานที่ฝึกลูกช้างที่แรกและแห่งเดียวในโลก เริ่มดำเนินการตั้งแต่ปี พ.ศ. 2512 ปัจจุบันเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์เพื่อให้ความรู้และได้สัมผัสกับวิถีชีวิตของช้าง โดยมีกิจกรรมต่างๆ ที่นักท่องเที่ยวสามารถเลือกได้ตามความสนใจ
อ่านต่อ
วัดเชียงราย จังหวัดลำปาง ประเทศไทย
วัดเชียงราย (Wat Chiang Rai) ตั้งอยู่ในอำเภอเมือง จังหวัดลำปาง เป็นวัดที่มีความโดดเด่นในด้านสถาปัตยกรรมและความงดงามของศิลปะ โดยมีจุดเด่นคือ การผสมผสานระหว่างศิลปะไทยล้านนาและศิลปะไทยประยุกต์ที่งดงามลงตัว
อ่านต่อ
น้ำตกทีลอซู จังหวัดตาก ประเทศไทย
น้ำตกทีลอซู (Thi Lor Su Waterfall) จังหวัดตาก เป็นหนึ่งในน้ำตกที่มีความโดดเด่นและสวยงามที่สุดของประเทศไทย
อ่านต่อ
ถ้ำสีฟ้า จังหวัดตาก ประเทศไทย
ถ้ำสีฟ้า (Blue Cave) เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวในอำเภอแม่สอด จังหวัดตาก ลักษณะที่โดดเด่นของถ้ำแห่งนี้คือ เนื้อหินที่ผนังถ้ำจะมีสีฟ้าอมเทา ไม่เหมือนกับถ้ำอื่นๆ ที่มักพบสีแดงหรือสีส้ม ทำให้ชาวบ้านเรียกถ้ำนี้ว่า "ถ้ำสีฟ้า"
อ่านต่อ