เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้
เราใช้คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ คุณสามารถเลือกตั้งค่าความยินยอมการใช้คุกกี้ได้ โดยคลิก "การตั้งค่าคุกกี้"
วัดพระสิงห์ จังหวัดเชียงใหม่ ประเทศไทย
Wat Phra Singh, Chiang Mai Province, Thailand
วัดพระสิงห์ หรือชื่อเต็มว่า วัดพระสิงห์วรมหาวิหาร เป็นหนึ่งในวัดเก่าแก่สำคัญและแหล่งท่องเที่ยวที่ห้ามพลาด ของเมืองเชียงใหม่ ภาคเหนือของประเทศไทย
โดยวัดพระสิงห์ถือเป็นวัดสำคัญที่เป็น ที่ประดิษฐานของพระสิงห์ (หรือพระพุทธสิหิงค์) ซึ่งเป็นหนึ่งในพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์เก่าแก่คู่บ้านคู่เมือง และภายในวัดยังมีเจดีย์พระสิงห์ ซึ่งเป็นเจดีย์ประจำตัวของผู้ที่เกิดในปีนักษัตรมะโรงอีกด้วย
นอกจากความสำคัญดังกล่าวแล้ว ภายในวัดพระสิงห์ยังเต็มไปด้วยสิ่งก่อสร้างสวยงามตามแบบศิลปะล้านนา ซึ่งนอกจากจะทรงคุณค่าในด้านของงานศิลปะแล้ว ยังเป็นหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญของเมืองเชียงใหม่และแหล่งท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาดอีกด้วย
จุดสรงน้ำเจดีย์พระสิงห์จำลองสำหรับผู้ที่มากราบไหว้พระเจดีย์ที่วัด
วิหารลายคำแห่งวัดพระสิงห์ สถานที่ประดิษฐานพระพุทธสิหิงค์ที่ชาวเมืองเชียงใหม่เคารพ
หอไตรวัดพระสิงห์ หนึ่งในงานสถาปัตยกรรมที่โดดเด่นขึ้นชื่อด้านความสวยงามของวัด
รูปเคารพพ่อปู่ชีวกโกมารภัทจ์ หนึ่งในอุบาสกคนสำคัญตามคติพระพุทธศาสนา
ด้านในโบสถ์วัดพระสิงห์ หนึ่งในสถานที่สำคัญของวัดที่เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้ากราบพระและเป็นที่ปฎิบัติศาสนกิจของพระภิกษุในวัด
ความเป็นมาของวัดพระสิงห์
เชื่อกันว่า วัดพระสิงห์ สร้างขึ้นในช่วงปี 1345 (พ.ศ. 1888) ซึ่งตรงกับสมัยพญาผายูปกครองเชียงใหม่ โดยสันนิฐานว่าทรงสร้างพระเจดีย์ขึ้นเป็นที่ประดิษฐานพระอัฐิของพระบิดา รวมถึงได้สร้างพระอาราม และอาคารสำคัญอื่นๆไว้ด้วย ที่แห่งนี้จึงได้ชื่อว่า วัดลีเชียงพระ อันหมายถึงวัดหน้าตลาด
พระเจดีย์วัดพระสิงห์ซึ่งสร้างมานานกว่า 600 ปี และเจดีย์เล็กรายล้อม
ต่อมาในสมัยของพระเจ้าแสนเมืองมา ได้มีการอัญเชิญ พระพุทธสิหิงค์ ซึ่งเป็นพระศักดิ์สิทธิ์สำคัญเลื่องชื่อซึ่งมีคนนับถือแต่โบราณจากเมืองเชียงราย มาประดิษฐานยังวัดแห่งนี้ จึงกลายเป็นที่มาของชื่อวัดพระสิงห์ตราบจนทุกวันนี้ (อ่านเพิ่มเติมได้ที่ http://www.วัดพระสิงห์เชียงใหม่.com)
ปัจจุบัน วัดพระสิงห์เป็นหนึ่งในวัดที่ชาวเชียงใหม่นับถือและศรัทธา อีกทั้งยังเป็นแหล่งรวมงานศิลปะล้านนาอันทรงคุณค่าที่หาได้ยากยิ่งอีกแห่งหนึ่ง ทำให้วัดพระสิงห์ในวันนี้เต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศแวะไปเยี่ยมเยือน
นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติจำนวนไม่น้อยที่แวะมาเยี่ยมเยือนวัดพระสิงห์ทุกวัน
การเดินทางไปวัดพระสิงห์ อ.เมือง จ.เชียงใหม่
วัดพระสิงห์ เป็นวัดที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองเชียงใหม่ ซึ่งอยู่ทางภาคเหนือของประเทศไทย และเป็นจังหวัดที่มีความสำคัญทั้งในด้านของเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว และอยู่ห่างจากกรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นเมืองหลวงของประเทศไทยประมาณ 696 กิโลเมตร นักท่องเที่ยวจึงสามารถเดินทางมายังจังหวัดเชียงใหม่ได้หลายวิธี คือ
- เครื่องบิน นักท่องเที่ยวสามารถเลือกใช้บริการเที่ยวบินได้ทั้งจาก ท่าอากาศยานดอนเมือง และท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ มาลงที่ท่าอากาศยานเชียงใหม่ ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากตัวเมืองเชียงใหม่ไปทางใต้ 4 กิโลเมตร โดยใช้เวลาเดินทางเพียง 1.30 – 2 ชั่วโมงเท่านั้น ถือเป็นการเดินทางที่สะดวกสบายและได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก ทั้งนี้ นักท่องเที่ยวสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับสายการบินที่ให้บริการ รวมถึงตารางเวลาเพิ่มเติมได้ที่ http://chiangmaiairportthai.com/
- รถโดยสารประจำทาง บริการขนส่งสาธารณะที่ได้รับความนิยมอย่างมากสำหรับผู้ที่เดินทางไป จ.เชียงใหม่ เนื่องมาจากจำนวนรอบต่อวันที่ค่อนข้างมาก รวมถึงเที่ยวเวลาและผู้ให้บริการที่มีให้เลือกหลากหลาย โดยนักท่องเที่ยวสามารถเลือกขึ้นรถได้ที่ สถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพฯ (จตุจักร) (หรือสถานีหมอชิต) และลงที่สถานีขนส่งผู้โดยสารเชียงใหม่ แห่งที่ 3 ซึ่งใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 9 – 12 ชั่วโมง นักท่องเที่ยวที่ต้องการทราบรายละเอียดเกี่ยวกับการเดินทางด้วยรถโดยสารประจำทางเพิ่มเติม สามารถตรวจสอบเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 1490, 0-2872-1777 หรือเว็บไซต์ http://www.busticket.in.th และเว็บไซต์ http://www.thairoute.com
- รถไฟ เป็นอีกบริการขนส่งสาธารณะสำหรับเดินทางไปเชียงใหม่ ซึ่งได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวที่ต้องการพักผ่อนยาวในระหว่างการเดินทาง เนื่องจากใช้เวลาในการเดินทางยาวประมาณ 11 – 13 ชั่วโมง โดยนักท่องเที่ยวสามารถตรวจสอบรายละเอียดเวลา , ราคา ตลอดจนสำรองที่นั่งล่วงหน้าได้ที่ http://www.railway.co.th/ หรือหมายเลขโทรศัพท์ 1690
- รถยนต์ / รถรับจ้าง เป็นอีกหนึ่งการเดินทางที่ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวเช่นกัน เนื่องจากเป็นการเดินทางที่สะดวกสบาย และนักท่องเที่ยวยังสามารถเลือกแวะพักหรือท่องเที่ยวจังหวัดระหว่างทางซึ่งมีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจไม่แพ้กันได้อีกด้วย
ทั้งนี้หลังจากมาถึงเมืองเชียงใหม่แล้ว นักท่องเที่ยวสามารถไปยังวัดพระสิงห์ ซึ่งตั้งอยู่ ใจกลางตัวเมืองเชียงใหม่ อย่างง่ายๆ หลายวิธี อาทิ
- รถโดยสารประจำทางสีแดง (รถแดง) หรือ รถตุ๊กตุ๊ก ซึ่งให้บริการวิ่งวนรอบเมืองเชียงใหม่ นักท่องเที่ยวสามารถเรียกรถได้ทั้งจากที่สถานีขนส่งเชียงใหม่ หรือบริเวณอื่นๆในตัวเมือง โดยสามารถตกลงราคากันได้ประมาณ 15 – 60 บาท/คน ตามแต่จุดที่นักท่องเที่ยวขึ้นรถ
- รถแท็กซี่เมืองเชียงใหม่ ซึ่งมีให้บริการทั้งจาก แท็กซี่ของตัวเมืองเชียงใหม่ โดยนักท่องเที่ยวสามารถดูรายละเอียดและอัตราค่าบริการกรณีเหมาจ่ายได้ที่ http://www.taxichiangmai.com/ หรืออาจเลือกใช้บริการแท็กซี่อย่าง Grabcar ซึ่งเมืองเชียงใหม่มีบริการระบบเรียกรถผ่านแอปพลิเคชัน Grab โดยสามารถตรวจสอบอัตราค่าโดยสารแต่ละครั้งได้บนหน้าจอก่อนที่จะกดเรียกรถไปยังสถานที่ต่างๆ โดยนักท่องเที่ยวสามารถดาวน์โหลดแอป Grab ได้ที่ http://grb.to/2F9a2bx
- รถยนต์/รถจักรยานยนต์ นักท่องเที่ยวที่นำรถไปเอง สามารถนำรถไปจอดภายในบริเวณวัดได้
- การเดินเท้า สำหรับนักท่องเที่ยวที่มีที่พักอยู่ในตัวเมืองแล้ว สามารถเดินทางไปยังวัดพระสิงห์ได้ง่ายๆ โดยสามารถเลือกดูรายละเอียดระยะทางและเวลาเพิ่มเติมโดยการใช้บริการ https://www.google.com/maps
เวลาในการเปิด-ปิดทำการ
นักท่องเที่ยวสามารถไปเที่ยวชมวัดพระสิงห์ได้ ทุกวัน และตลอดเวลา แต่หลังเวลา 17.00 น. ไปจนถึง 07.30 น. อาจไม่สามารถเข้าพื้นที่บางส่วนของวัดได้เนื่องจากเป็นส่วนที่พระสงฆ์จำวัดหรือทำกิจธุระอื่นๆ
บางช่วงเวลา อาทิ เวลาฉันเพลที่โบสถ์นักท่องเที่ยวก็ยังสามารถเข้าไปได้ แต่เวลาเย็นไปจนถึงเช้าตรู่ โบสถ์อาจจะปิดไม่สามารถเข้าได้
อัตราค่าเข้าชม
นักท่องเที่ยวสามารถเข้าชมวัดพระสิงห์ได้ ฟรี ไม่เสียค่าใช้จ่าย
การเยี่ยมชมความงามภายในวัดพระสิงห์
วัดพระสิงห์เป็นศาสนสถานสำคัญและเก่าแก่ ภายในจึงมีสถาปัตยกรรมและประติมากรรมที่สวยงามทรงคุณค่าจากอดีตอยู่หลายต่อหลายอย่าง อาทิ
โบสถ์วัดพระสิงห์
อาคารสถาปัตยกรรมศิลปะล้านนาอันสวยงาม ที่รอต้อนรับนักท่องเที่ยวอยู่เป็นที่แรกหลังจากเข้าไปในวัดพระสิงห์ โดยโบสถ์แห่งนี้ประดิษฐานพระพุทธรูปองค์ใหญ่ให้ประชาชนมากราบขอพร และยังเป็นสถานที่ทำวัตร, ฉันอาหารของพระเณรในวัดพระสิงห์อีกด้วย
พระประธานภายในโบสถ์วัดพระสิงห์ที่ประชาชนมากราบไหว้ขอพร
โบสถ์แห่งนี้ยังเป็นที่ฉันเพลของพระ-เณรในวัดพระสิงห์อีกด้วย
หอไตร
หรือที่เก็บพระคัมภีร์โบราณ, หนังสือธรรมะ หรือเอกสารอื่นๆของวัด เป็นอาคารครึ่งปูนครึ่งไม้ ที่ผนังปูนด้านนอกประดับด้วยปูนปั้นรูปเทพในอิริยาบถต่างๆ ในสมัยของเจ้าแก้วนวรัฐได้มีการซ่อมแซมที่ฐาน จึงมีการประดับด้วยรูปสัตว์หิมพานต์และลวดลายอย่างจีนเพิ่มเติม ถือเป็นอีกหนึ่งงานฝีมือที่สวยงามของวัด
วิหารลายคำ
วิหารสวยงามที่อยู่ใกล้ๆกับเจดีย์สำคัญของวัด ปัจจุบันเป็นวิหารกึ่งไม้กึ่งปูน และมีการประดับตกแต่งด้วยลวดลายศิลปะล้านนา ถือเป็น งานฝีมือชิ้นเอกของช่างล้านนาจากอดีต อีกทั้งยังเป็นวิหารสำคัญที่ประดิษฐาน พระสิงห์ หรือ พระพุทธสิหิงค์ ที่จะมีการอัญเชิญออกมาให้ประชาชนได้สรงน้ำบูชาในช่วงเทศกาลสงกรานต์เพียงแค่ปีละครั้ง
ด้านข้างวิหารลายคำ ซึ่งตั้งอยู่บนเส้นทางเดินไปนมัสการพระเจดีย์ของวัด
พระเจดีย์วัดพระสิงห์
เจดีย์วัดพระสิงห์ (ขวา) และเจดีย์เล็กรายล้อม (ซ้าย)
พระเจดีย์องค์ใหญ่ซึ่งสันนิฐานว่าสร้างขึ้นกว่า 600 ปีมาแล้วเพื่อเป็นที่บรรจุอัฐิของกษัตริย์ผู้ปกครองเมืองเชียงใหม่ ต่อมาเมื่อวัดพระสิงห์ได้มีฐานะและบทบาทสำคัญขึ้น องค์เจดีย์จึงพลอยได้รับความสำคัญและได้รับการดูแลไว้เรื่อย จนมีสภาพสวยงามดังที่เห็นในปัจจุบัน โดยเชื่อกันว่าพระเจดีย์วัดพระสิงห์องค์นี้ เป็นพระเจดีย์ประจำตัวของผู้ที่เกิดในปีนักษัตรมะโรงต้องเดินทางมาสักการะสักครั้ง
จุดสรงน้ำพระเจดีย์จำลองใกล้กับพระเจดีย์องค์จริง
และนอกจากสถานที่สำคัญดังกล่าวด้านบนแล้ว วัดพระสิงห์ยังเป็นที่ประดิษฐานของพระพุทธรูปที่ชาวเชียงใหม่เคารพศรัทธาอีกมาก อาทิ พระไสยาสน์ ในพระอุโบสถด้านหลังพระเจดีย์ หรือ องค์พระพุทธรูปศิลปะล้านนา ที่อยู่ใกล้กับพระเจดีย์และพระเจดีย์จำลอง
พระไสยาสน์ในวิหารเล็กใกล้กับพระเจดีย์
แถวขององค์พระด้านหน้าองค์พระเจดีย์ที่ประชาชนจะแวะไปกราบไหว้
ฤดูกาลและเทศกาลสำคัญกับการเที่ยววัดพระสิงห์
วัดพระสิงห์เปิดให้นักท่องเที่ยวมาสัมผัสความสวยงามได้ทุกฤดู โดยช่วงที่ได้รับความนิยมที่สุดคือ ช่วงฤดูหนาวในเดือนพฤศจิกายน – เดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งเป็นช่วงที่อากาศค่อนข้างเย็นสบาย เหมาะแก่การเดินเที่ยวชม แต่หากนักท่องเที่ยวเลือกมาในช่วงฤดูร้อน หรือเดือนมีนาคม – เดือนมิถุนายน นักท่องเที่ยวต้องเตรียมรับมือกับอากาศร้อน (อุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 30 องศาเซสเซียสขึ้นไป) และลมมรสุมหน้าร้อน เช่นเดียวกับในฤดูฝน (เดือนกรกฎาคม – เดือนตุลาคม) ซึ่งมักจะมีฝนฟ้าคะนองกะทันหันบ่อยครั้งจนอาจเป็นอุปสรรคต่อการเที่ยวชมได้
นักท่องเที่ยวที่เลือกมาในวันที่ท้องฟ้าแจ่มใส จะสามารถเดินเที่ยวชมและเก็บรายละเอียดความสวยงามของสถาปัตยกรรมต่างๆได้อย่างเต็มที่
นอกจากนี้ นักท่องเที่ยวสามารถเลือกมาเที่ยวในช่วงงานเทศกาลสำคัญ เช่น เทศกาลสงกรานต์ ซึ่งจะมีการอาราธนาองค์พระสิงห์ออกมาประดิษฐานบนรถบุษบกแห่ไปรอบเมืองให้ประชาชนได้สรงน้ำ และมีการจัดสรงน้ำพระธาตุของวัดอีกด้วย นักท่องเที่ยวยังสามารถร่วมเพลิดเพลินไปกับบรรยากาศสงกรานต์ปี๋ใหม่เมืองไปพร้อมๆกันได้อีกด้วย ทั้งนี้ นักท่องเที่ยวที่สนใจ สามารถตรวจสอบเวลาในการจัดงานเทศกาลต่างๆได้ที่หน้าแฟนเพจการท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ https://www.facebook.com/tatchiangmai/
(แต่มีข้อควรระวังคือ ในช่วงเวลาดังกล่าว อาจจะมีนักท่องเที่ยวจำนวนมากและอาจทำให้การจราจรติดขัดอย่างมากได้ นักท่องเที่ยวจึงควรวางแผนการเดินทางให้ดี)
ช่วงวันธรรมดานักท่องเที่ยวสามารถขับรถเข้าไปจอดด้านในวัดได้ แต่หากเป็นเทศกาล อาจต้องจอดที่อื่นและเดินเท้ามาที่วัด
ทั้งนี้ นักท่องเที่ยวควรใช้เวลาในการเที่ยวชมวัดพระสิงห์ ไม่น้อยกว่า 3-4 ชั่วโมง และสามารถตรวจสอบสภาพอากาศล่วงหน้าได้ที่ www.accuweather.com
ข้อมูลทั่วไปที่ควรรู้ในการเที่ยววัดพระสิงห์ จ.เชียงใหม่
วัดพระสิงห์ นอกจากจะเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมแล้ว ยังเป็นศาสนสถานที่สำคัญที่ชาวเชียงใหม่ให้ความเคารพและศรัทธา นักท่องเที่ยวที่ไปเยี่ยมชม จึงควรแต่งกายสุภาพ งดสวมเสื้อไม่มีแขน และกางเกงหรือกระโปรงสั้น และควรปฏิบัติตามข้อห้ามของทางวัด อาทิ ห้ามผู้หญิงเข้าบางเขต หรือห้ามใส่รองเท้าเข้าไปบางสถานที่ อย่างเคร่งครัด
และในปัจจุบัน วัดพระสิงห์ได้มีการปรับปรุงเพิ่มเติมบริการสำหรับนักท่องเที่ยว ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มห้องน้ำและการสร้างทางลาดขึ้นลงสำหรับผู้ที่ต้องการใช้รถเข็น จึงเป็นอีกสถานที่ที่คนหลายวัยสามารถไปเที่ยวได้อย่างสบายๆ
ใกล้กับลานจอดรถมีร้านจำหน่ายผ้านุ่งสำหรับสุภาพสตรีให้เลือกซื้อหาเปลี่ยนก่อนเข้าโบสถ์หรือสถานที่อื่นๆอีกด้วย
ทั้งนี้ เนื่องจากวัดพระสิงห์ตั้งอยู่ใจกลางเมืองเชียงใหม่ จึงมีบริการร้านอาหารและที่พักแรมให้นักท่องเที่ยวเลือกพักมากมายหลายแบบ ไม่ว่าจะเป็นโฮสเทส หรือบูติคโฮเทล และสำหรับนักท่องเที่ยวที่เที่ยวชมวัดพระธาตุดอยสุเทพเสร็จแล้ว แต่ยังมีเวลาเหลือ สามารถเลือกที่จะไปเที่ยวชมสถานที่แห่งอื่นๆที่อยู่ไม่ห่างกันนัก อาทิ วัดเจดีย์หลวง, อนุสาวรีย์สามกษัตริย์, วัดอินทขีล หรือ ฯลฯ
วัดเจดีย์หลวง, ลานสามกษัตริย์ และวัดอินทขีลซึ่งอยู่ในบริเวณใกล้ๆ ขณะที่วัดอุโมงค์ก็อยู่ห่างออกไปจากตัวเมืองเพียงไม่กี่กิโลเมตร
นักท่องเที่ยวที่สนใจไปเที่ยวชม วัดพระสิงห์ สามารถศึกษา ข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่
วัดพระสิงห์ จังหวัดเชียงใหม่ ประเทศไทย
(Wat Phra Singh, Chiang Mai Province, Thailand)
ระดับความนิยม :
อัตราค่าเข้าชม : ฟรีไม่เสียค่าใช้จ่าย
เวลาเปิด – ปิด : เปิดให้บริการทุกวัน แต่ตั้งแต่ 17.00 น. – 7.30 น. อาจไม่สามารถเข้าพื้นที่บางส่วนของวัดได้
ฤดูกาลต่างๆในการท่องเที่ยว : ฤดูหนาว (เดือนธันวาคม – เดือนกุมภาพันธ์) เป็นฤดูกาลที่ได้รับความนิยมที่สุดในการท่องเที่ยว
ระวังอากาศที่ร้อนจัดในเดือนเมษายน – เดือนมิถุนายน
และหลีกเลี่ยงช่วงเทศกาลเนื่องจากนักท่องเที่ยวจะมีปริมาณมาก
ตั้งอยู่ที่ : อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ ประเทศไทย
โทรศัพท์ : (+66)053-416-027
เว็บไซต์ : www.วัดพระสิงห์เชียงใหม่.com
ข้อมูลอื่นๆที่ควรรู้ : พยากรณ์อากาศ https://www.accuweather.com/
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) https://thai.tourismthailand.org/
สำนักงานการท่องเที่ยว จ.เชียงใหม่ http://www.cm-mots.com/
Facebook Fanpage การท่องเที่ยวเชียงใหม่ https://www.facebook.com/tatchiangmai/
บริการขนส่ง (รถทัวร์ประจำทาง) http://www.busticket.in.th, http://www.thairoute.com
บริการรถเมลล์เชียงใหม่ http://www.cityupdate.in.th/chiangmai/?p=23
ท่าอากาศยานนานาชาติ จ.เชียงใหม่ http://www.airportthai.co.th/chiangmai/th
วัดเชียงราย (Wat Chiang Rai) ตั้งอยู่ในอำเภอเมือง จังหวัดลำปาง เป็นวัดที่มีความโดดเด่นในด้านสถาปัตยกรรมและความงดงามของศิลปะ โดยมีจุดเด่นคือ การผสมผสานระหว่างศิลปะไทยล้านนาและศิลปะไทยประยุกต์ที่งดงามลงตัว
อ่านต่อน้ำตกทีลอซู (Thi Lor Su Waterfall) จังหวัดตาก เป็นหนึ่งในน้ำตกที่มีความโดดเด่นและสวยงามที่สุดของประเทศไทย
อ่านต่อถ้ำสีฟ้า (Blue Cave) เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวในอำเภอแม่สอด จังหวัดตาก ลักษณะที่โดดเด่นของถ้ำแห่งนี้คือ เนื้อหินที่ผนังถ้ำจะมีสีฟ้าอมเทา ไม่เหมือนกับถ้ำอื่นๆ ที่มักพบสีแดงหรือสีส้ม ทำให้ชาวบ้านเรียกถ้ำนี้ว่า "ถ้ำสีฟ้า"
อ่านต่ออุโมงค์ขุนตาน (Khun Tan Tunnel) เป็นอุโมงค์ทางรถไฟที่มีความสำคัญด้านประวัติศาสตร์วิศวกรรมการสร้างอุโมงค์ทางรถไฟของไทย โดยสร้างด้วยความยากลำบากและท้าทายกว่าจะแล้วเสร็จ อุโมงค์แห่งนี้ยังเคยเป็นอุโมงค์รถไฟที่ยาวที่สุดในประเทศไทยถึง 106 ปี ก่อนจะถูกทำลายสถิติโดยอุโมงค์ผาเสด็จในปี พ.ศ. 2567
อ่านต่ออุทยานแห่งชาติแม่ปิง (Mae Ping National Park) เป็นอุทยานแห่งชาติที่อยู่ในพื้นที่ของสามจังหวัดในภาคเหนือ ได้แก่ เชียงใหม่ ตาก และลำพูน โดยมีที่ทำการอุทยานตั้งอยู่ที่ตำบลแม่ลาน อำเภอลี้ จังหวัดลำพูน นอกจากธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์แล้ว อุทยานแห่งชาติแม่ปิงยังมีทิวทัศน์ที่สวยงาม และแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจหลายๆ จุดด้วยกัน
อ่านต่อสะพานขาวทาชมภู (Tha Chomphu White Bridge) สะพานทางรถไฟสีขาวที่โดดเด่น หนึ่งในแลนด์มาร์กของจังหวัดลำพูน ที่ทอดข้ามแม่น้ำทาและทอดยาวผ่านทุ่งโล่งที่มีทิวทัศน์งดงาม ตั้งอยู่ใกล้ๆ กับอุโมงค์ขุนตาน ซึ่งเป็นสัญญาณว่าใกล้ถึงจุดหมายปลายทางแล้วสำหรับผู้ที่เดินทางโดยรถไฟสายกรุงเทพ-เชียงใหม่
อ่านต่อวัดพระพุทธบาทห้วยต้ม (Wat Phrabhuddabat Huai Tom) เป็นวัดที่ใหญ่ที่สุดของอำเภอลี้ วัดแห่งนี้วัดมีตำนานความเป็นมาจากเมื่อครั้งพระพุทธกาล เมื่อพระพุทธเจ้าเสด็จมาที่ดงไม้ตาลและประทับบนดอยนางพี่ ภายในวัดมีพระธาตุเจดีย์ศิลปะล้านนาผสมพม่าโดดเด่นงดงาม
อ่านต่อวัดพระพุทธบาทตากผ้า (Wat Phrabhuddabat Tak Pha) เป็นปูชนียสถานสำคัญของจังหวัดลำพูน โดยนับถือกันว่ามีรอยพระบาทของพระพุทธเจ้าที่มาประทับไว้ตรงบริเวณที่นำผ้าจีวรมาตาก และมีรอยตารางบนผาหินที่เชื่อว่าคือรอยตากผ้าจีวรพระพุทธเจ้าอยู่
อ่านต่อพระมหาธาตุเจดีย์ศรีเวียงชัย (Phra Mahathat Chedi Si Wiang Chai) เป็นหนึ่งในวัดของจังหวัดลำพูนที่มีสถาปัตยกรรมงดงาม โดดเด่นด้วยพระมหาธาตุเจดีย์ฯ ที่สร้างโดยมีแนวคิดการจำลองแบบมาจากมหาธาตุเจดีย์ชเวดากองในพม่า
อ่านต่อศูนย์อนุรักษ์ช้างไทยจังหวัดลำปาง (Thai Elephant Conservation Center) เคยเป็นสถานที่ฝึกลูกช้างที่แรกและแห่งเดียวในโลก เริ่มดำเนินการตั้งแต่ปี พ.ศ. 2512 ปัจจุบันเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์เพื่อให้ความรู้และได้สัมผัสกับวิถีชีวิตของช้าง โดยมีกิจกรรมต่างๆ ที่นักท่องเที่ยวสามารถเลือกได้ตามความสนใจ
อ่านต่อวัดเชียงราย (Wat Chiang Rai) ตั้งอยู่ในอำเภอเมือง จังหวัดลำปาง เป็นวัดที่มีความโดดเด่นในด้านสถาปัตยกรรมและความงดงามของศิลปะ โดยมีจุดเด่นคือ การผสมผสานระหว่างศิลปะไทยล้านนาและศิลปะไทยประยุกต์ที่งดงามลงตัว
อ่านต่อน้ำตกทีลอซู (Thi Lor Su Waterfall) จังหวัดตาก เป็นหนึ่งในน้ำตกที่มีความโดดเด่นและสวยงามที่สุดของประเทศไทย
อ่านต่อถ้ำสีฟ้า (Blue Cave) เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวในอำเภอแม่สอด จังหวัดตาก ลักษณะที่โดดเด่นของถ้ำแห่งนี้คือ เนื้อหินที่ผนังถ้ำจะมีสีฟ้าอมเทา ไม่เหมือนกับถ้ำอื่นๆ ที่มักพบสีแดงหรือสีส้ม ทำให้ชาวบ้านเรียกถ้ำนี้ว่า "ถ้ำสีฟ้า"
อ่านต่ออุโมงค์ขุนตาน (Khun Tan Tunnel) เป็นอุโมงค์ทางรถไฟที่มีความสำคัญด้านประวัติศาสตร์วิศวกรรมการสร้างอุโมงค์ทางรถไฟของไทย โดยสร้างด้วยความยากลำบากและท้าทายกว่าจะแล้วเสร็จ อุโมงค์แห่งนี้ยังเคยเป็นอุโมงค์รถไฟที่ยาวที่สุดในประเทศไทยถึง 106 ปี ก่อนจะถูกทำลายสถิติโดยอุโมงค์ผาเสด็จในปี พ.ศ. 2567
อ่านต่ออุทยานแห่งชาติแม่ปิง (Mae Ping National Park) เป็นอุทยานแห่งชาติที่อยู่ในพื้นที่ของสามจังหวัดในภาคเหนือ ได้แก่ เชียงใหม่ ตาก และลำพูน โดยมีที่ทำการอุทยานตั้งอยู่ที่ตำบลแม่ลาน อำเภอลี้ จังหวัดลำพูน นอกจากธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์แล้ว อุทยานแห่งชาติแม่ปิงยังมีทิวทัศน์ที่สวยงาม และแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจหลายๆ จุดด้วยกัน
อ่านต่อสะพานขาวทาชมภู (Tha Chomphu White Bridge) สะพานทางรถไฟสีขาวที่โดดเด่น หนึ่งในแลนด์มาร์กของจังหวัดลำพูน ที่ทอดข้ามแม่น้ำทาและทอดยาวผ่านทุ่งโล่งที่มีทิวทัศน์งดงาม ตั้งอยู่ใกล้ๆ กับอุโมงค์ขุนตาน ซึ่งเป็นสัญญาณว่าใกล้ถึงจุดหมายปลายทางแล้วสำหรับผู้ที่เดินทางโดยรถไฟสายกรุงเทพ-เชียงใหม่
อ่านต่อ