- หน้าแรก
- ท่องเที่ยวในประเทศ
- วัดไชยวัฒนาราม จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ประเทศไทย
วัดไชยวัฒนาราม จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ประเทศไทย

- อ่าน (5,663)
- ByWebmaster
- 14:34:55 | 29 มี.ค. 2566
วัดไชยวัฒนาราม จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ประเทศไทย
Wat Chaiwatthanaram, Ayutthaya, Thailand
ทางเดินเข้าไปสู่ปรางค์ประธานของวัดไชยวัฒนาราม
วัดไชยวัฒนาราม เป็นวัดเก่าแก่ในสมัยอยุธยาตอนปลาย และเป็นส่วนหนึ่งของอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา ซึ่งได้รับการยกย่องให้เป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมจากองค์กรยูเนสโก เมื่อปี พ.ศ. 2534 ตั้งอยู่ที่ตำบลบ้านป้อม อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
ประวัติความเป็นมาของวัดไชยวัฒนาราม
หมู่เจดีย์ที่รายล้อมปรางค์ประธาน และในเจดีย์ทุกองค์จะมีพระพุทธรูปประดิษฐานอยู่ภายใน
วัดไชยวัฒนาราม มีชื่อเรียกอื่นๆว่า “วัดไชยยาราม” หรือ “วัดไชยชนะทาราม” ถือเป็นวัดพระอารามหลวงในสมัยอยุธยา สร้างขึ้นโดยสมเด็จพระเจ้าปราสาททองในปี พ.ศ. 2173 ที่ตั้งของวัดแห่งนี้ แต่เดิมเคยเป็นบ้านพักของพระราชมารดาที่ได้สิ้นพระชนม์ไปก่อนที่พระเจ้าปราสาททองได้เสวยราชสมบัติเป็นกษัตริย์ ภายหลังจากที่พระองค์ได้ขึ้นครองราชย์ จึงได้สร้างวัดไชยวัฒนารามขึ้นเพื่ออุทิศผลบุญนี้ให้กับพระราชมารดาของพระองค์
วัดแห่งนี้กลายเป็นวัดหลวงที่ใช้เพื่อบำเพ็ญพระราชกุศลของบรรดาพระมหากษัตริย์ในสมัยอยุธยา และยังถูกใช้เป็นสถานที่ถวายพระเพลิงศพพระบรมวงศานุวงศ์เกือบทุกพระองค์ ทำให้วัดไชยวัฒนารามนั้นได้รับการดูแลและปฏิสังขรณ์เป็นอย่างดีในสมัยนั้น โดยหลังจากการเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่สอง วัดไชยวัฒนารามได้ถูกปล่อยทิ้งให้ร้างเรื่อยมา บางครั้งมีผู้ไม่หวังดีเข้าไปลักลอบขุดหาสมบัติ เศียรพระพุทธรูปถูกตัดขโมย มีการรื้ออิฐที่พระอุโบสถ และกำแพงวัดไปขาย จนกระทั่งกรมศิลปากรได้เข้ามาทำการอนุรักษ์ในปี พ.ศ. 2530 จนแล้วเสร็จในปี พ.ศ. 2535 วัดแห่งนี้จึงกลายเป็นสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์มาจนถึงปัจจุบัน
การเดินทางไปจังหวัดอยุธยาจากกรุงเทพฯ
- รถยนต์ส่วนตัว จากกรุงเทพฯ สามารถเดินทางไปจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้หลายเส้นทางดังนี้
ใช้ทางหลวงหมายเลข 1 (ถนนพหลโยธิน) ขับผ่านประตูน้ำพระอินทร์ แล้วแยกเข้าทางหลวงหมายเลข 32 เลี้ยวซ้ายไปตามทางหลวงหมายเลข 309 เข้าสู่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
ใช้ทางหลวงหมายเลข 304 (ถนนแจ้งวัฒนะ) หรือทางหลวงหมายเลข 302 (ถนนงามวงศ์วาน) เลี้ยวขวาเข้าทางหลวงหมายเลข 306 (ถนนติวานนท์) แล้วข้ามสะพานนนทบุรีหรือสะพานนวลฉวี ไปยังจังหวัดปทุมธานีต่อด้วยเส้นทาง ปทุมธานี-สามโคก-เสนา (ทางหลวงหมายเลข 3111) เลี้ยวแยกขวาที่อำเภอเสนา เข้าสู่ทางหลวงหมายเลข 3263 เข้าสู่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
ทั้งนี้ นักท่องเที่ยวสามารถตรวจสอบเส้นทางที่เหมาะสมเพิ่มเติมได้จากแอปพลิเคชัน Google Map
- รถตู้ นักท่องเที่ยวสามรถขึ้นรถตู้กรุงเทพ-อยุธยาได้ที่สถานีขนส่งหมอชิต หรือบริเวณห้างสรรพสินค้าฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต ค่าโดยสารเริ่มต้นที่ 60 บาท ขึ้นอยู่กับระยะทางและจุดขึ้นลงรถ
- รถไฟ นักท่องเที่ยวสามารถใช้บริการรถไฟที่วิ่งเส้นทางสายเหนือจากสถานีหัวลำโพง ลงที่สถานีพระนครศรีอยุธยา โดยมีขบวนรถไฟให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 04.20 – 22.45 น. ค่าโดยสารเริ่มต้นที่ 15 บาทสำหรับรถไฟชั้น 3 นักท่องเที่ยวสามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่การรถไฟแห่งประเทศไทยที่เบอร์ 1690 หรือ www.railway.co.th
การเดินทางไปยังวัดไชยวัฒนาราม
- รถยนต์ส่วนตัว วัดไชยวัฒนารามตั้งอยู่บริเวณนอกเกาะอยุธยา โดยใช้เส้นทางวิ่งข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาด้วยสะพานกษัตราธิราช เมื่อลงจากสะพานให้เลี้ยวซ้าย จากนั้นขับตรงไปอีกประมาณ 750 เมตร จะพบกับตัววัด (มีที่จอดรถบริการที่หน้าวัด)
- รถตุ๊กตุ๊ก ภายในตัวเมืองอยุธยามีรถตุ๊กตุ๊กให้บริการในอัตรา 20-40 บาทต่อคน ขึ้นอยู่กับระยะทาง สำหรับการเหมารถ ค่าเช่าตุ๊กตุ๊กต่อชั่วโมงจะมีราคาอยู่ที่ประมาณ 200 บาท
- Grabcar พื้นที่จ.อยุธยามีระบบเรียกรถผ่านแอปพลิเคชัน Grab ให้บริการ โดยสามารถตรวจสอบอัตราค่าโดยสารแต่ละครั้งได้บนหน้าจอก่อนที่จะกดเรียกรถไปยังสถานที่ต่างๆ โดยนักท่องเที่ยวสามารถดาวน์โหลดแอป Grab ได้ที่ http://grb.to/2F9a2bx
เวลาในการเปิด-ปิดทำการ
วัดไชยวัฒนารามเปิดทำการทุกวัน เวลา 08.00-18.00น.
ส่วนรากฐานของอาคารต่างๆที่เคยปลูกสร้างอยู่รายรอบวัดไชยวัฒนารามในอดีต
การซื้อบัตรเข้าชม
ชาวไทย 10 บาท ชาวต่างชาติ 50 บาท
หรือสามารถซื้อบัตรเข้าชมแบบรวมได้ ชาวไทย 40 บาท ชาวต่างชาติ 220 บาท โดยบัตรนี้สามารถเข้าชมวัดและโบราณสถานบริเวณอุทยานประวัติศาสตร์ได้ ภายในระยะเวลา 30 วัน
บริเวณกำแพงวัดไชยวัฒนารามที่มีพระพุทธรูปขนาดเล็กวางเรียงรายอยู่
เวลาที่เหมาะสมสำหรับการท่องเที่ยว
พื้นที่บริเวณอุโบสถของวัดไชยวัฒนาราม ที่หลงเหลืออยู่เพียงโครงสร้างส่วนฐาน และพระพุทธรูปที่ประดิษฐานอยู่ภายใน
นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางไปเยือนวัดไชยวัฒนารามได้ตลอดทั้งปี ทั้งนี้อาจหลีกเลี่ยงในช่วงฤดูร้อน ระหว่างเดือนมีนาคม-เดือนพฤษภาคม เนื่องจากมีอาการร้อนจัด
นอกจากนี้ นักท่องเที่ยวยังสามารถตรวจสอบพยากรณ์อากาศล่วงหน้าเพื่อความสะดวกในการท่องเที่ยวได้ที่ https://www.accuweather.com/
ข้อมูลทั่วไปที่ควรรู้
เจดีย์รูปแบบต่างๆที่สร้างขึ้นในเขตวัดไชยวัฒนาราม
นักท่องเที่ยวควรแต่งกายให้สุภาพ สวมเสื้อมีแขน สวมกระโปรงหรือกางเกงขายาว และไม่สวมเสื้อผ้าที่รัดรูป จนเกินไป นอกจากนี้ ไม่ควรกระทำสิ่งใดที่เป็นการสร้างอันตรายและความเสียหายต่อตัวโบราณสถาน รวมถึงการปีนป่ายและเข้าไปยังพื้นที่ห้ามเข้าอีกด้วย
ตั้งแต่เวลาประมาณ 19.30- 21.00 น. จะมีการประดับไฟตามโบราณสถานต่างๆในเขตอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา
นักท่องเที่ยวที่สนใจไปเที่ยว วัดไชยวัฒนาราม สามารถศึกษา ข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่
วัดไชยวัฒนาราม จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ประเทศไทย
(Wat Chaiwatthanaram, Ayutthaya, Thailand)
ระดับความนิยม :
อัตราค่าเข้าชม : ชาวไทย 10 บาท ชาวต่างชาติ 50 บาท
หรือสามารถซื้อบัตรเข้าชมแบบรวมได้ ชาวไทย 40 บาท ชาวต่างชาติ 220 บาท
โดยบัตรนี้สามารถเข้าชมวัดและโบราณสถานบริเวณอุทยานประวัติศาสตร์ได้ ภายในระยะเวลา 30 วัน
เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน เวลา 08.00-18.00 น.
ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการท่องเที่ยว : ตลอดทั้งปี
สถานที่ตั้ง : ตำบลบ้านป้อม อำเภอเมืองพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
โทรศัพท์ : (+66)35-322730
เว็บไซต์ : -
ข้อมูลอื่นๆที่ควรรู้ : เว็บไซต์การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย https://thai.tourismthailand.org/home
เว็บไซต์จังหวัดอยุธยา http://ww2.ayutthaya.go.th/frontpage
เฟซบุ๊คการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ประจำจังหวัดอยุธยา https://www.facebook.com/TatAyutthaya/
เว็บไซต์สำหรับตรวจสอบสภาพอากาศ https://www.accuweather.com/
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ

7 เส้นทางประวัติศาสตร์ภาคกลาง
หากเอ่ยถึงเรื่องราวในอดีตของชาติไทย คงมีหลากหลายเหตุการณ์ที่คงไว้ซึ่งประวัติศาสตร์สำคัญๆ แม้ในปัจจุบันนั้น จะเหลือเพียงซากปรักหักพังของโบราณสถาน และอนุสรณ์ของวีรชนบรรพบุรุษไทย แต่ก็ล้วนเป็นสิ่งเตือนใจให้ลูกหลานรำลึกถึงคุณงามความดีของบรรพบุรุษไทย และสถานที่ทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญครั้นอดีตอยู่เสมอ วันนี้ Palanla จะพาท่อง 7 เส้นทางประวัติศาสตร์ที่อยู่ในภูมิภาคกลาง อีกทั้งไม่ไกลจากกรุงเทพฯ อีกด้วยนะคะ แต่ละสถานที่นั้นมีสิ่งที่น่าสนใจ และมีความเป็นมาอย่างไร พร้อมแล้วตามไปเที่ยวได้เลยค่ะ
อ่านต่อ
วัดไชโยวรวิหาร จังหวัดอ่างทอง ประเทศไทย
วัดไชโยวรวิหาร (Wat Chaiyo Worawihan) วัดเก่าแก่ที่สร้างมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา และต่อมาสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) ได้มาสร้างพระพุทธรูปองค์ใหญ่ขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 4 ทำให้“พระมหาพุทธพิมพ์” หรือ หลวงพ่อโต และวัดไชโยวรวิหารกลายเป็นที่รู้จักและเคารพศรัทธาสืบมาจนปัจจุบัน
อ่านต่อ
วัดหนองโพ (หลวงพ่อเดิม) จังหวัดนครสวรรค์ ประเทศไทย
วัดหนองโพ (หลวงพ่อเดิม) Wat Nong Pho (Wat Luang Por Derm) วัดดังอีกแห่งหนึ่งในจังหวัดนครสวรรค์ เป็นที่รู้จักในฐานะวัดของพระครูนิวาสธรรมขันธ์ (หลวงพ่อเดิม) พระเกจิชื่อดังกับมงคลของท่านคือมีดหมอ
อ่านต่อ
บึงบอระเพ็ด จังหวัดนครสวรรค์ ประเทศไทย
บึงบอระเพ็ด (Bueng Borraped Swamp) บึงชื่อคุ้นหูในจังหวัดนครสวรรค์ เป็นบึงทะเลสาบน้ำจืดขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย บึงอันกว้างใหญ่แห่งนี้มีไฮไลต์คือทุ่งดอกบัวสีสันสวยงาม และบรรดานกน้ำหลากสายพันธุ์ที่มีให้ได้ชมกันอยู่โดยตลอด ส่วนในฤดูหนาวก็จะมีนอพยพจากทางตอนเหนือของโลกมาอาศัยอยู่รอบบึงแห่งนี้
อ่านต่อ
ตลาดร้อยปีชุมแสง จังหวัดนครสวรรค์ ประเทศไทย
ตลาดร้อยปีชุมแสง (Chum Saeng 100 Years Market) ชุมชนตลาดใกล้สถานีรถไฟชุมแสง จังหวัดนครสวรรค์ที่มีอายุเก่าแก่กว่าร้อยปี กับบรรยากาศที่ยังคงอบอวลไปด้วยความสวยงามคลาสสิก และของกินอร่อยๆ ให้ได้ลิ้มลอง
อ่านต่อ
พระบรมราชานุสาวรีย์ สมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1 (พระเจ้าอู่ทอง) จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ประเทศไทย
เมื่อมาเที่ยวจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พระบรมราชานุสาวรีย์ สมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1 (พระเจ้าอู่ทอง) (King Ramathibodi 1 Monument) ถือเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่ไม่ควรพลาดมาสักการะปฐมกษัตริย์แห่งกรุงศรีอยุธยา ซึ่งถือเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวกรุงเก่า
อ่านต่อ
11 สถานที่เที่ยวยอดนิยมในจังหวัดพิษณุโลก ประเทศไทย
จังหวัดพิษณุโลกตั้งอยู่บริเวณภาคเหนือตอนล่างของประเทศไทย เป็นจังหวัดที่มีพื้นที่ภูเขาและป่าไม้ขนาดใหญ่จึงมีสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติหลายแห่ง โดยเฉพาะหน้าผา น้ำตก และทุ่งดอกไม้ภายในอุทยานแห่งชาติ นอกจากนี้จังหวัดพิษณุโลกยังเป็นเมืองประวัติศาสตร์อีกด้วย โดยมีการค้นพบหลักฐานทางโบราณคดีว่าพื้นที่บริเวณนี้มีการตั้งรกรากมาตั้งแต่ก่อนกรุงสุโขทัย ด้วยเหตุนี้จังหวัดพิษณุโลกจึงมีโบราณสถานและวัดวาอารามเก่าแก่ให้เที่ยวชมอีกด้วย ทาง Palanla จึงได้รวบรวม 11 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในจังหวัดพิษณุโลกมาฝากทุกท่านกันวันนี้เพื่อเป็นแนวทางในการท่องเที่ยวในวันหยุดครั้งหน้ากัน
อ่านต่อ
อุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง จังหวัดพิษณุโลก ประเทศไทย
อุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง (Thung Salaeng Luang National Park) อุทยานฯ เก่าแก่อันดับ 3 ของประเทศ ฉายา “ทุ่งหญ้าสะวันนาเมืองไทย” กับพื้นที่กว้างขวางครอบคลุม 2 จังหวัด อุดมสมบูรณ์ด้วยพันธุ์ไม้และสัตว์ป่านานาชนิด
อ่านต่อ
ชิงช้าต้นไม้ บ้านสวนชมวิวภูรักไทย จังหวัดพิษณุโลก ประเทศไทย
ชิงช้าต้นไม้ บ้านสวนชมวิวภูรักไทย (Wooden Swing at Ban Suan Chom View) จุดชมวิวบนต้นไม้ที่สามารถชมวิวสวยๆ ของทิวเขาและพื้นที่ราบรอยต่อของ 5 จังหวัด
อ่านต่อ
จุดชมวิวเขาตะเคียนโง๊ะ จังหวัดเพชรบูรณ์ ประเทศไทย
จุดชมวิวเขาตะเคียนโง๊ะ (Khao Ta Kean Ngo View Point) ฐานที่มั่นของผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์หรือสมรภูมิรบภูมิเขาค้อในอดีต ปัจจุบันถือเป็นจุดชมวิว 360 องศาที่มีความสวยงามมากอีกแห่งหนึ่งของจังหวัดเพชรบูรณ์
อ่านต่อ