วัดอรุณราชวราราม ราชวรมหาวิหาร จังหวัดกรุงเทพมหานคร ประเทศไทย

  • อ่าน (7,068)
  • ByWebmaster
  • 16:11:59 | 23 ก.พ. 2561

วัดอรุณราชวราราม ราชวรมหาวิหาร จังหวัดกรุงเทพมหานคร ประเทศไทย

Wat Arun Ratchawararam Ratchawaramahawihan, Bangkok, Thailand


พระปรางค์วัดอรุณที่สูงเด่นริมแม่น้ำเจ้าพระยา

           วัดอรุณราชวราราม ราชวรมหาวิหาร หรือวัดแจ้ง เป็นวัดประจำรัชกาลที่ 2 สร้างขึ้นในสมัยกรุงธนบุรี มีจุดท่องเที่ยวที่เปรียบเสมือนสัญลักษณ์ของกรุงเทพมหานคร คือพระปรางค์สีขาวซึ่งตั้งโดดเด่นอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ตั้งอยู่ที่แขวงวัดอรุณ เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพมหานคร



ประวัติความเป็นมาของวัดอรุณ


พระอุโบสถของวัดอรุณ

           วัดอรุณในอดีตมาชื่อว่า “วัดมะกอกนอก” และในสมัยของพระเจ้าตากสิน มีการเปลี่ยนชื่อวัดแห่งนี้เป็น “วัดแจ้ง” เนื่องจากพระเจ้าตากสินได้ยกทัพกลับมาจากการออกศึกสงครามและเดินทางมาถึงบริเวณวัดอรุณฯ ในยามรุ่งแจ้ง จนล่วงมาถึงในสมัยรัตนโกสินทร์ รัชกาลที่ 1 ได้ทรงทำการบูรณะวัดแห่งนี้ขึ้นใหม่ทั้งวัด แต่แล้วได้สิ้นพระชนม์ไปก่อนที่การบูรณะจะสำเร็จ จากนั้นรัชกาลที่ 2 จึงได้เข้ามาสานต่อการบูรณะจนสมบูรณ์ และทำให้วัดแห่งนี้กลายเป็นวัดประจำรัชกาลที่ 2 และมีการเปลี่ยนชื่อวัดจากวัดแจ้งมาเป็น "วัดอรุณราชธาราม"


บรรยากาศอันสวยงามภายในวัดอรุณ

           จากนั้นในสมัยรัชกาลที่ 3 ได้มีการบูรณะวัดอรุณฯ ครั้งใหญ่ขึ้นอีกครั้งหนึ่ง มีการอัญเชิญพระบรมอัฐิของพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย รัชกาลที่ 2 มาบรรจุไว้ที่พระพุทธอาสน์ของพระประธานในพระอุโบสถ และได้ทำการเปลี่ยนชื่อวัดอีกครั้งเป็น “วัดอรุณราชวราราม” ซึ่งใช้มาจนถึงในปัจจุบันนี้

พระพุทธรูปประจำวัดอรุณฯ


พระพุทธธรรมมิศราชโลกธาตุดิลก พระประธานในอุโบสถวัดอรุณ

           พระประธานในอุโบสถวัดอรุณฯ มีนามว่า พระพุทธธรรมมิศราชโลกธาตุดิลก” มีลักษณะเป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย สร้างด้วยศิลปะยุครัตนโกสินทร์ มีความเชื่อกันว่าหุ่นพระพักตร์ของพระพุทธรูปองค์นี้ปั้นโดย พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย รัชกาลที่ 2 ส่วนพระวรกายปั้นโดยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 และที่ฐานของพระพุทธธรรมมิศราชโลกธาตุดิลก ยังเป็นที่ประดิษฐานพระบรมอัฐิของพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยอีกด้วย

การเดินทางไปยังวัดอรุณ

           รถประจำทาง สาย 1, 3, 4, 6, 9, 12, 25, 32, 44, 47, 48, 53 และ 82 โดยลงรถบริเวณท่าเตียน จากนั้นขึ้นเรือข้ามฟากมายังท่าวัดอรุณ

           เรือด่วนเจ้าพระยา ลงเรือที่ท่าเตียน จากนั้นขึ้นเรือข้ามฟากมายังท่าวัดอรุณ ค่าโดยสารเรือด่วนเริ่มต้นที่ 15 บาท และค่าเรือข้ามฟาก 3.50 บาท

           รถแท็กซี่ เป็นการเดินทางที่สะดวกสบายและได้รับความนิยมอย่างมาก โดยมีอัตราค่าบริการเริ่มต้นที่ 35 บาท และเพิ่มค่าโดยสารกิโลเมตรละ 5.50 บาทในระยะ 1-10 กิโลเมตรแรก สามารถดูรายละเอียดอัตราค่าบริการเพิ่มเติมได้ที่ http://bit.ly/2laovLG

เวลาในการเปิด-ปิดทำการ

           บริเวณพระปรางค์ เปิดตั้งแต่ 08.00 – 18.00 สำหรับเวลาเปิดปิดของจุดอื่นๆสามารถตรวจสอบเพิ่มเติมได้ที่ http://www.watarun.org/


ความสวยงามของพระปรางค์วัดอรุณในยามค่ำคืน

การซื้อบัตรเข้าชม

           - คนไทย สามารถเข้าชมโดยไม่มีค่าใช้จ่าย

           - ชาวต่างชาติ คนละ 50 บาท


พระพุทธรูปจำนวนมากที่ประดิษฐานอยู่รอบพระอุโบสถวัดอรุณ


ยักษ์วัดแจ้งยืนจังก้า

จุดท่องเที่ยวสำคัญบริเวณวัดอรุณ


พระปรางค์วัดอรุณ


แผนผังของวัดอรุณฯ มองจากมุมสูง

           - พระปรางค์ องค์พระปรางค์เดิมนั้นสร้างขึ้นตั้งแต่ในสมัยอยุธยา และมีความสูงประมาณ 16 เมตรเท่านั้น แต่เมื่อมีการบูรณะวัดครั้งใหญ่ขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 3 ได้มีการต่อเติมองค์พระปรางค์ให้มีความสูงขึ้นถึง 81.85 เมตร โดยองค์พระปรางค์ประกอบด้วย 3 ส่วนหลักๆ คือ ฐาน เรือนธาตุและเรือนยอด มีสัณฐานดุจเขาพระสุเมรุ ด้วยความกว้างราว 234 เมตร ส่วนตัวเรือนฐานทำการย่อมุมลง และเรือนยอดที่ซ้อนกันเป็นชั้นๆ ขึ้นไป ในแต่ละชั้นมีช่องรูปกินนรและกินรี เชิงบาตรเหนือช่องมีรูปมารแบกกระบี่แบกสลับกัน เหนือขึ้นไปเป็นซุ้มคูหารูปพระพายทรงม้า ถัดไปเป็นยอดปรางค์มีรูปครุฑยุดนาคและเทพนมอยู่เหนือซุ้มคูหา ส่วนยอดปรางค์เป็นนภศูลปิดทอง

           - วิหารน้อย มีการสันนิษฐานว่าวิหารน้อยถูกสร้างมาพร้อมกับโบสถ์น้อยในสมัยอยุธยา โดยในอดีตเคยเป็นที่ประดิษฐานพระแก้วมรกต เมื่อครั้งที่ได้อัญเชิญมาจากเมืองเวียงจันทร์ ประเทศลาว ปัจจุบันเป็นที่ประดิษฐาน “พระจุฬามณีเจดีย์” เป็นพระเจดีย์ขนาดใหญ่หล่อด้วยโลหะ มีรูปปั้นท้าวจตุโลกบาลยืนเฝ้าพระเจดีย์อยู่ทั้ง 4 มุม

           - โบสถ์น้อย เป็นพระอุโบสถหลังเก่าของวัดอรุณฯ ภายในประดิษฐาน พระบรมรูปหล่อสมเด็จพระเจ้าตากสินทางด้านซ้ายของบรมรูปหล่อ เป็นที่ตั้งของศาลสถิตดวงพระวิญญาณของพระองค์ ตรงข้ามของพระบรมรูปหล่อฯ เป็น “พระแท่นบรรทม” ที่เชื่อว่าสมเด็จพระเจ้าตากสิน ทรงมาประทับในปลายรัชกาล ส่วนด้านหลังของพระบรมรูปฯ ประดิษฐาน “หลวงพ่อรุ่งมงคล”


พระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย (รัชกาลที่ 2) ที่ประดิษฐานภายในบริเวณวัดอรุณราชวราราม

           - พระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย นอกจากวัดอรุณราชวรารามจะเป็นวัดประจำรัชกาลที่ 2 แล้ว ภายในวัดยังมีพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย (รัชกาลที่ 2) ประดิษฐานอยู่ภายในบริเวณสวนหย่อมด้านตะวันออกเฉียงเหนือของพระปรางค์โดยผินพระพักตร์สู่แม่น้ำเจ้าพระยา พระบรมราชานุสาวรีย์ฯ แห่งนี้สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 9 เนื่องในมหามงคลวโรกาสแห่งราชพิธีกาญจนาภิเษกเมื่อปีพ.ศ. 2539 เพื่อเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย พระมหากษัตริย์ไทยรัชกาลที่ 2 ในราชวงศ์จักรี ที่ได้ทรงบูรณปฏิสังขรณ์วัดแห่งนี้ตั้งแต่พระองค์ยังทรงเป็นสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ ด้วยทรงผูกพันและศรัทธาในวัดอรุณฯ มาก

           พระบรมรูปหล่อด้วยโลหะสำริด ความสูงจากพระเศียรถึงพระบาท 187 เซนติเมตร สวมเครื่องบรมขัตติยราชภูษิตาภรณ์ ฉลองพระองค์ครุย พระหัตถ์ซ้ายทรงพระแสงกระบี่เศียรนาค ฉลองพระบาทเชิงงอน ประทับยืนอยู่บนแท่นฐานหินอ่อนสามชั้น สูงจากพื้นดินราว 3 เมตร 20 เซนติเมตร มีช้างเผือกสามเชือกเป็นบริวาร หล่อด้วยโลหะผสมรมดำอยู่บนแท่นหินอ่อน ส่วนด้านหลังฐานพระบรมราชานุสาวรีย์มีแผ่นจารึกคำสดุดีพระเกียตริของพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยด้วยภาษาไทยและภาษาอังกฤษ

เวลาที่เหมาะสมสำหรับการท่องเที่ยว


ทัศนยีภาพอันงดงามของวัดอรุณฯ ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา

           นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางไปเยือนวัดอรุณฯได้ตลอดทั้งปี ทั้งนี้อาจหลีกเลี่ยงวันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดสุดสัปดาห์ เนื่องจากจะมีทั้งนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติเป็นจำนวนมาก

           นอกจากนี้ นักท่องเที่ยวยังสามารถตรวจสอบพยากรณ์อากาศล่วงหน้าเพื่อความสะดวกในการท่องเที่ยวได้ที่ https://www.accuweather.com/

การแต่งกาย

           นักท่องเที่ยวควรแต่งกายให้สุภาพ สวมเสื้อมีแขน สวมกระโปรงหรือกางเกงขายาว และไม่สวมเสื้อผ้าที่รัดรูปจนเกินไป


           นักท่องเที่ยวที่สนใจไปเที่ยววัดอรุณฯ สามารถศึกษา ข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่

                       วัดอรุณราชวราราม ราชวรมหาวิหาร จังหวัดกรุงเทพมหานคร ประเทศไทย

                       (Wat Arun Ratchawararam Ratchawaramahawihan, Bangkok, Thailand)

                       ระดับความนิยม : 

                       อัตราค่าเข้าชม : คนไทยเข้าชมฟรี และ 50 บาทสำหรับชาวต่างชาติ

                       เวลาเปิด-ปิด : บริเวณพระปรางค์ เปิดตั้งแต่ 08.00 – 18.00

                                   เวลาเปิดปิดของจุดอื่นๆสามารถตรวจสอบเพิ่มเติมได้ที่ http://www.watarun.org/

                       ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการท่องเที่ยว : ตลอดทั้งปี

                       สถานที่ตั้ง : แขวงวัดอรุณ เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพมหานคร

                       โทรศัพท์ : (+66)2-8912185

                       เว็บไซต์ : http://www.watarun.org/

                       ข้อมูลอื่นๆที่ควรรู้ : เว็บไซต์การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย https://thai.tourismthailand.org/home

                                       เว็บไซต์กองการท่องเที่ยวกรุงเทพมหานคร https://www.bangkoktourist.com/

                                       เว็บไซต์สำหรับตรวจสอบสภาพอากาศ https://www.accuweather.com/

 

 

สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ

10 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในจังหวัดพิจิตร ประเทศไทย

พิจิตร จังหวัดเล็กๆ ที่ซ่อนเสน่ห์เอาไว้มากมาย และไม่ได้มีแค่บึงสีไฟเพียงอย่างเดียว เพราะเมืองชาละวันแห่งนี้มีทั้งธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ วัดวาอารามเก่าแก่ และวิถีชีวิตของผู้คนท้องถิ่นที่น่าสนใจ บทความนี้ Palanla จะพาไปเปิดมุมมองใหม่กับ 10 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเยือนพิจิตร

อ่านต่อ

วัดหิรัญญาราม (วัดบางคลาน) จังหวัดพิจิตร ประเทศไทย

วัดหิรัญญาราม (Wat Hiranyaram) หรือที่ชาวบ้านรู้จักกันดีในชื่อ วัดบางคลาน (Wat Bang Khlan) เป็นวัดเก่าแก่ที่มีชื่อเสียงโด่งดังมากแห่งหนึ่งของจังหวัดพิจิตร โดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นที่รู้จักจาก หลวงพ่อเงิน พระเกจิอาจารย์ชื่อดังที่มีผู้คนให้ความเคารพนับถืออย่างมาก

อ่านต่อ

อุทยานเมืองเก่าพิจิตร จังหวัดพิจิตร ประเทศไทย

อุทยานเมืองเก่าพิจิตร (Pichit Historical Park) เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ที่สำคัญแห่งหนึ่งของจังหวัด เชื่อกันว่าเดิมทีบริเวณนี้เป็นที่ตั้งของเมืองพิจิตรเก่า

อ่านต่อ

วัดนครชุม จังหวัดพิจิตร ประเทศไทย

วัดนครชุม (Wat Nakhon Chum) หรือที่ชาวบ้านเรียกกันติดปากว่า "วัดใหญ่" ตั้งอยู่ที่ตำบลเมืองเก่า อำเภอเมือง จังหวัดพิจิตร เป็นวัดเก่าแก่ที่มีประวัติความเป็นมายาวนาน สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยกรุงสุโขทัย โดยเคยเป็นวัดสำคัญของเมืองพิจิตรในอดีต

อ่านต่อ

วัดเขารูปช้าง จังหวัดพิจิตร ประเทศไทย

วัดเขารูปช้าง (Wat Khao Rup Chang) อีกหนึ่งวัดเก่าแก่ของจังหวัดพิจิตรที่สร้างมาตั้งแต่สมัยอยุธยา บนยอดเขาที่มีหินสีขาวซ้อนกันเป็นรูปช้างคุกเข่าโดดเด่นด้วยเจดีย์แบบลังกา ประดับกระเบื้องเคลือบสีทองทั้งองค์

อ่านต่อ

ทุ่งดอกกระเจียวยักษ์บ้านเขาโล้น จังหวัดพิจิตร ประเทศไทย

ทุ่งดอกกระเจียวยักษ์บ้านเขาโล้น (Giant Siam Tulip Field Baan Khao Loan) ตั้งอยู่ที่ตำบลเขาเจ็ดลูก อำเภอทับคล้อ จังหวัดพิจิตร เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่กำลังได้รับความนิยมอย่างมาก โดยเฉพาะในช่วงฤดูฝน เมื่อดอกกระเจียวสีชมพูบานสะพรั่งทั่วทั้งทุ่ง

อ่านต่อ

ตลาดย่านเก่าวังกรด จังหวัดพิจิตร ประเทศไทย

ตลาดย่านเก่าวังกรด ( Yan Kao Wang Krot Market) ตลาดเก่าแก่ตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 ณ ย่านเก่าวังกรด จังหวัดพิจิตร เป็นแหล่งรวมอาหารอร่อยที่เรียงรายด้วยสถาปัตยกรรมอาคารไม้เก่าแก่สวยงาม พร้อมทั้งหอนาฬิกาที่เป็นแลนด์มาร์กสำคัญของชุมชน

อ่านต่อ

น้ำตกไทรโยคใหญ่ จังหวัดกาญจนบุรี ประเทศไทย

น้ำตกไทรโยคใหญ่ (Sai Yok Yai Waterfall) เปรียบเสมือนอัญมณีแห่งเมืองกาญจนบุรี ด้วยความงามของม่านน้ำอันยิ่งใหญ่ที่ไหลรินลงมาจากหน้าผาสูงและกลายเป็นสายน้ำที่ทอดยาว รายล้อมไปด้วยป่าไม้ร่มรื่น ที่นี่จึงเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงอันดับต้นๆ ของจังหวัดกาญจนบุรี

อ่านต่อ

ต้นจามจุรียักษ์ จังหวัดกาญจนบุรี ประเทศไทย

ต้นจามจุรียักษ์ (Giant Monkey Pod Tree) อายุกว่า 100 ปี ที่ยืนตระหง่าน แผ่กิ่งก้านสาขาให้ร่มเงาแก่ผู้คนที่มาพักผ่อนหย่อนใจ คืออีกหนึ่งแลนด์มาร์กของเมืองกาญจนบุรีในปัจจุบัน

อ่านต่อ

คู่มือการดำเนินการตามกระบวนการเคลมประกันรถยนต์ฉบับสมบูรณ์

การมีส่วนร่วมในอุบัติเหตุทางรถยนต์หรือประสบความเสียหายต่อยานพาหนะของคุณอาจเป็นประสบการณ์ที่ตึงเครียดและท่วมท้น อย่างไรก็ตาม การทำความเข้าใจขั้นตอนการเคลมประกันรถยนต์สามารถช่วยบรรเทาความวิตกกังวลและแก้ไขปัญหาได้ราบรื่นยิ่งขึ้น

อ่านต่อ
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ