- หน้าแรก
- ท่องเที่ยวในประเทศ
- วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนารามราชวรวิหาร จังหวัดกรุงเทพมหานคร ประเทศไทย
วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนารามราชวรวิหาร จังหวัดกรุงเทพมหานคร ประเทศไทย
- อ่าน (7,811)
- ByWebmaster
- 14:08:47 | 23 ก.พ. 2561
วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนารามราชวรวิหาร จังหวัดกรุงเทพมหานคร ประเทศไทย
Wat Benchamabophit Dusitvanaram, Bangkok, Thailand
บริเวณหน้าพระอุโบสถวัดเบญฯ ที่เต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก
วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนารามราชวรวิหาร เป็นวัดที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลกจากความงดงามของพระอุโบสถที่สร้างด้วยหินอ่อน ผสมผสานกับรูปแบบศิลปะและสถาปัตยกรรมไทยที่ลงตัว ตั้งอยู่ที่แขวงดุสิต เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร
ประวัติความเป็นมาของวัดเบญจมบพิตร
ความงามของสถาปัตยกรรมที่ใช้ก่อสร้างวัดเบญฯที่สามารถสัมผัสได้จากทุกมุมรอบพระอุโบสถ
ในอดีต วัดเบญฯ มีชื่อว่า”วัดแหลม” ซึ่งเป็นวัดของราษฏรทั่วไป แต่เมื่อมีเหตุการณ์กบฏเจ้าอนุวงศ์แห่งเวียงจันทน์ขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 3 พระองค์จึงโปรดเกล้าฯ ให้พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าพนมวัน กรมพระพิพิธโภคภูเบนทร์ ทรงเป็นแม่ทัพรักษาพระนคร โดยทรงตั้งกองบัญชาการทัพที่วัดแหลมแห่งนี้
พระพุทธรูปจำนวนหนึ่งที่ประดิษฐานอยู่รอบพระอุโบสถ
ภายหลังจากการปราบกบฏเสร็จสิ้น กรมพระพิพิธโภคภูเบนทร์ พร้อมพระอนุชาและพระขนิษฐาร่วมเจ้าจอมมารดาเดียวกันอีก 4 พระองค์ มีความประสงค์ร่วมกันที่จะบูรณปฏิสังขรณ์วัดแหลม และเมื่อการบูรณะเสร็จสิ้น วัดแหลมจึงได้รับพระราชทานนามใหม่ว่า “วัดเบญจบพิตร” ซึ่งหมายความว่า วัดของเจ้านาย 5 พระองค์
พระพุทธรูปประจำวัดเบญจมบพิตร
พระพุทธชินราชจำลองสีทองอร่ามภายในพระอุโบสถ
พระประธานของวัดเบญฯ คือ “พระพุทธชินราชจำลอง” โดยในคราวแรก หลังจากที่มีการสถาปนาวัดเบญฯ ขึ้นเป็นพระอารามหลวงประจำพระราชวังดุสิต พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวมีพระราชประสงค์ที่จะอัญเชิญพระพุทธชินราชจากพิษณุโลก ไปประดิษฐานเป็นพระประธาน ณ พระอุโบสถวัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม
แต่ด้วยเหตุที่พระพุทธชินราชไม่เคยถูกอัญเชิญไปประดิษฐาน ณ ที่แห่งใดเลย และทรงเกรงว่าเมื่อราษฎรชาวพิษณุโลกทราบข่าวการอัญเชิญพระพุทธชินราชไปประดิษฐานยังกรุงเทพมหานครจะพากันเศร้าโศก จึงมีพระราชดำริที่จะหล่อพระพุทธชินราช (จำลอง) ขึ้นแทน โดยมีการหล่อพระพุทธชินราช (จำลอง) ขึ้น ณ โพธิ์สามเส้า ซึ่งก็คือบริเวณเดิมที่มีการหล่อพระพุทธชินราช พระพุทธชินสีห์ และพระศรีศาสดาขึ้น หลังจากนั้นจึงอัญเชิญพระพุทธชินราช (จำลอง) ลงแพแล้วล่องลงมายังกรุงเทพมหานคร เพื่อประดิษฐาน ณ วัดเบญจมบพิตร
การเดินทางไปยังวัดเบญจมบพิตร
- รถประจำทาง สาย 5, 72 และ 503
- รถแท็กซี่ เป็นการเดินทางที่สะดวกสบายและได้รับความนิยมอย่างมาก โดยมีอัตราค่าบริการเริ่มต้นที่ 35 บาท และเพิ่มค่าโดยสารกิโลเมตรละ 5.50 บาทในระยะ 1-10 กิโลเมตรแรก สามารถดูรายละเอียดอัตราค่าบริการเพิ่มเติมได้ที่ http://bit.ly/2laovLG
เวลาในการเปิด-ปิดทำการ
วัดเบญจมบพิตร เปิดทำการทุกวัน ตั้งแต่ 8.30-17.30 น.
ความร่มรื่นทั้งจากสายน้ำและพรรณไม้มากมายในวัดเบญฯ
การซื้อบัตรเข้าชม
- ชาวไทย สามารถเข้าชมโดยไม่มีค่าใช้จ่าย
- ชาวต่างชาติ คนละ 20 บาท
บริเวณประตูทางเข้าด้านหน้าของวัดเบญฯ
จุดท่องเที่ยวสำคัญบริเวณวัดเบญจมบพิตร
พระที่นั่งทรงธรรมที่มีรูปแบบสถาปัตยกรรมสวยงามไม่แพ้พระอุโบสถ
- พระที่นั่งทรงธรรม เป็นตึกสองชั้น พื้นชั้นล่างและบันไดปูหินอ่อน ชั้นบนปูไม้ หลังคา 2 ชั้น มุงกระเบื้องเคลือบสี ช่อฟ้าใบระกาลงรักปิดทองทึบ พระที่นั่งทรงธรรมนี้ สมเด็จพระศรีสวรินทิราบรมราชเทวีทรงสร้างขึ้นเพื่อใช้เป็นที่ประทับแรมเวลาทรงธรรมรักษาอุโบสถศีล ต่อมาได้ถูกใช้เป็นที่ประชุมสังฆมนตรี ที่ศึกษาพระปริยัติธรรม จัดงานประจำปีของวัด ตั้งพระศพและศพบุคคลสำคัญของชาติ
หอระฆังบวรวงศ์ที่ตั้งเป็นสง่าอยู่ท่ามกลางสนามหญ้าภายในวัด
- หอระฆังบวรวงศ์ เป็นหอระฆังทรงไทยประกอบหินอ่อน สร้างขึ้นโดยพระบรมวงศานุวงศ์ฝ่ายพระราชวังบวรและข้าราชการ ระฆังภายในหอนำมาจากวัดบวรสถานสุทธาวาส ซึ่งเป็นวัดประจำพระราชวังบวรสถานมงคล โดยชื่อ”หอระฆังบวรวงศ์” นั้นได้รับพระราชทานมาจากรัชกาลที่ 5
พระที่นั่งทรงผนวชที่สร้างขึ้นตั้งแต่ในสมัยรัชกาลที่ 5
- พระที่นั่งผนวช เป็นพระที่นั่งที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดเกล้าฯให้รื้อมาจากพระพุทธรัตนสถาน เป็นหมู่กุฏิประกอบด้วย "พระที่นั่งทรงผนวช" อยู่ด้านทิศเหนือ "พระกุฏิ" อยู่ด้านทิศใต้ กับกุฏิ 2ห้อง 2 หลัง อยู่ด้านตะวันออกและตะวันตก เก็บรวมรวมข้าวของเครื่องใช้ต่างๆเมื่อครั้งพระองค์ออกผนวช โดยจัดแสดงบางส่วนเป็นพิพิธภัณฑ์
เวลาที่เหมาะสมสำหรับการท่องเที่ยว
ความสวยงามของอาคารและการประดับตกแต่งที่ปรากฏชัดอยู่ในทุกรายละเอียด
นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางไปเยือนวัดเบญจมบพิตรได้ตลอดทั้งปี ทั้งนี้อาจหลีกเลี่ยงวันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดสุดสัปดาห์ เนื่องจากจะมีทั้งนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติเป็นจำนวนมาก
นอกจากนี้ นักท่องเที่ยวยังสามารถตรวจสอบพยากรณ์อากาศล่วงหน้าเพื่อความสะดวกในการท่องเที่ยวได้ที่ https://www.accuweather.com/
การแต่งกาย
นักท่องเที่ยวควรแต่งกายให้สุภาพ สวมเสื้อมีแขน สวมกระโปรงหรือกางเกงขายาว และไม่สวมเสื้อผ้าที่รัดรูปจนเกินไป
นักท่องเที่ยวที่สนใจไปเที่ยว วัดเบญจมบพิตร สามารถศึกษา ข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่
อัตราค่าเข้าชม : คนไทยไม่เสียค่าใช้จ่ายในการเข้าชม และ 20 บาทสำหรับนักท่องเที่ยวต่างประเทศ
เวลาเปิด-ปิด : เปิดทำการทุกวัน ตั้งแต่ 8.30-17.30 น.
ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการท่องเที่ยว : ตลอดทั้งปี
สถานที่ตั้ง : แขวงดุสิต เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร
โทรศัพท์ : (+66)2-2822667
เว็บไซต์ : http://www.watbencha.com/
ระดับความนิยม :
ข้อมูลอื่นๆที่ควรรู้ : เว็บไซต์การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย https://thai.tourismthailand.org/home
เว็บไซต์กองการท่องเที่ยวกรุงเทพมหานคร https://www.bangkoktourist.com/
เว็บไซต์สำหรับตรวจสอบสภาพอากาศ https://www.accuweather.com/
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ
10 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในจังหวัดพิจิตร ประเทศไทย
พิจิตร จังหวัดเล็กๆ ที่ซ่อนเสน่ห์เอาไว้มากมาย และไม่ได้มีแค่บึงสีไฟเพียงอย่างเดียว เพราะเมืองชาละวันแห่งนี้มีทั้งธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ วัดวาอารามเก่าแก่ และวิถีชีวิตของผู้คนท้องถิ่นที่น่าสนใจ บทความนี้ Palanla จะพาไปเปิดมุมมองใหม่กับ 10 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเยือนพิจิตร
อ่านต่อวัดหิรัญญาราม (วัดบางคลาน) จังหวัดพิจิตร ประเทศไทย
วัดหิรัญญาราม (Wat Hiranyaram) หรือที่ชาวบ้านรู้จักกันดีในชื่อ วัดบางคลาน (Wat Bang Khlan) เป็นวัดเก่าแก่ที่มีชื่อเสียงโด่งดังมากแห่งหนึ่งของจังหวัดพิจิตร โดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นที่รู้จักจาก หลวงพ่อเงิน พระเกจิอาจารย์ชื่อดังที่มีผู้คนให้ความเคารพนับถืออย่างมาก
อ่านต่ออุทยานเมืองเก่าพิจิตร จังหวัดพิจิตร ประเทศไทย
อุทยานเมืองเก่าพิจิตร (Pichit Historical Park) เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ที่สำคัญแห่งหนึ่งของจังหวัด เชื่อกันว่าเดิมทีบริเวณนี้เป็นที่ตั้งของเมืองพิจิตรเก่า
อ่านต่อวัดนครชุม จังหวัดพิจิตร ประเทศไทย
วัดนครชุม (Wat Nakhon Chum) หรือที่ชาวบ้านเรียกกันติดปากว่า "วัดใหญ่" ตั้งอยู่ที่ตำบลเมืองเก่า อำเภอเมือง จังหวัดพิจิตร เป็นวัดเก่าแก่ที่มีประวัติความเป็นมายาวนาน สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยกรุงสุโขทัย โดยเคยเป็นวัดสำคัญของเมืองพิจิตรในอดีต
อ่านต่อวัดเขารูปช้าง จังหวัดพิจิตร ประเทศไทย
วัดเขารูปช้าง (Wat Khao Rup Chang) อีกหนึ่งวัดเก่าแก่ของจังหวัดพิจิตรที่สร้างมาตั้งแต่สมัยอยุธยา บนยอดเขาที่มีหินสีขาวซ้อนกันเป็นรูปช้างคุกเข่าโดดเด่นด้วยเจดีย์แบบลังกา ประดับกระเบื้องเคลือบสีทองทั้งองค์
อ่านต่อทุ่งดอกกระเจียวยักษ์บ้านเขาโล้น จังหวัดพิจิตร ประเทศไทย
ทุ่งดอกกระเจียวยักษ์บ้านเขาโล้น (Giant Siam Tulip Field Baan Khao Loan) ตั้งอยู่ที่ตำบลเขาเจ็ดลูก อำเภอทับคล้อ จังหวัดพิจิตร เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่กำลังได้รับความนิยมอย่างมาก โดยเฉพาะในช่วงฤดูฝน เมื่อดอกกระเจียวสีชมพูบานสะพรั่งทั่วทั้งทุ่ง
อ่านต่อตลาดย่านเก่าวังกรด จังหวัดพิจิตร ประเทศไทย
ตลาดย่านเก่าวังกรด ( Yan Kao Wang Krot Market) ตลาดเก่าแก่ตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 ณ ย่านเก่าวังกรด จังหวัดพิจิตร เป็นแหล่งรวมอาหารอร่อยที่เรียงรายด้วยสถาปัตยกรรมอาคารไม้เก่าแก่สวยงาม พร้อมทั้งหอนาฬิกาที่เป็นแลนด์มาร์กสำคัญของชุมชน
อ่านต่อน้ำตกไทรโยคใหญ่ จังหวัดกาญจนบุรี ประเทศไทย
น้ำตกไทรโยคใหญ่ (Sai Yok Yai Waterfall) เปรียบเสมือนอัญมณีแห่งเมืองกาญจนบุรี ด้วยความงามของม่านน้ำอันยิ่งใหญ่ที่ไหลรินลงมาจากหน้าผาสูงและกลายเป็นสายน้ำที่ทอดยาว รายล้อมไปด้วยป่าไม้ร่มรื่น ที่นี่จึงเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงอันดับต้นๆ ของจังหวัดกาญจนบุรี
อ่านต่อต้นจามจุรียักษ์ จังหวัดกาญจนบุรี ประเทศไทย
ต้นจามจุรียักษ์ (Giant Monkey Pod Tree) อายุกว่า 100 ปี ที่ยืนตระหง่าน แผ่กิ่งก้านสาขาให้ร่มเงาแก่ผู้คนที่มาพักผ่อนหย่อนใจ คืออีกหนึ่งแลนด์มาร์กของเมืองกาญจนบุรีในปัจจุบัน
อ่านต่อคู่มือการดำเนินการตามกระบวนการเคลมประกันรถยนต์ฉบับสมบูรณ์
การมีส่วนร่วมในอุบัติเหตุทางรถยนต์หรือประสบความเสียหายต่อยานพาหนะของคุณอาจเป็นประสบการณ์ที่ตึงเครียดและท่วมท้น อย่างไรก็ตาม การทำความเข้าใจขั้นตอนการเคลมประกันรถยนต์สามารถช่วยบรรเทาความวิตกกังวลและแก้ไขปัญหาได้ราบรื่นยิ่งขึ้น
อ่านต่อ