- หน้าแรก
- ท่องเที่ยวในประเทศ
- ชวนเที่ยวงาน “อุ่นไอรัก คลายความหนาว” ณ พระลานพระราชวังดุสิตและสนามเสือป่า
ชวนเที่ยวงาน “อุ่นไอรัก คลายความหนาว” ณ พระลานพระราชวังดุสิตและสนามเสือป่า
- อ่าน (4,617)
- ByWebmaster
- 18:18:37 | 15 ก.พ. 2561
ชวนเที่ยวงาน “อุ่นไอรัก คลายความหนาว”
ไม่บ่อยครั้งนักที่จะได้เห็นภาพของพระลานพระราชวังดุสิตและสนามเสือป่าคึกคักไปด้วยนักผู้คนสวมชุดไทย ท่ามกลางบรรยากาศของดอกไม้เมืองหนาวที่บานสะพรั่งงดงาม “อุ่นไอรัก คลายความหนาว” งานที่อบอวลไปด้วยความสุข ความรื่นเริง บรรยากาศย้อนยุค แสนอบอุ่นที่นักท่องเที่ยวจะได้เห็นถึงประวัติศาสตร์บ้านเมือง ความผูกพันอันแนบแน่นของพระมหากษัตริย์กับประชาชน ได้รู้ถึงวิถีการดำเนินชีวิตของชาวไทยในสมัยโบราณจนถึงปัจจุบัน และเลือกซื้อสินค้านานาชนิดจากร้านค้าต่างๆ อย่างเพลิดเพลิน
ความสวยงามของดอกไม้นานาพันธุ์บริเวณทางเข้างาน
เกี่ยวกับงาน “อุ่นไอรัก คลายความหนาว”
นักท่องเที่ยวแต่งชุดไทยย้อนยุคเข้าร่วมงานอย่างต่อเนื่อง
สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณบดินทรเทพยวรางกูร ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้หน่วยราชการในพระองค์จัดงานฤดูหนาว ภายใต้ชื่อ "อุ่นไอรัก คลายความหนาว" ระหว่างวันที่ 8 ก.พ. - 11 มี.ค. 2561 ณ พระลานพระราชวังดุสิตและสนามเสือป่าเพื่อให้ประชาชนได้รับความสุข สนุกสนาน รื่นเริง ท่ามกลางบรรยากาศอันอบอุ่น ย้อนยุค ได้เห็นประวัติศาสตร์ ความผูกพันอันแนบแน่นของสถาบันพระมหากษัตริย์ที่ทรงมีต่อประชาชนและประเทศชาติ ได้รู้ถึงวิถีการดำเนินชีวิตของชาวไทยในสมัยโบราณจนถึงปัจจุบัน
แปลงดอกไม้หลากสีที่ถูกจัดวางไม่อย่างงดงาม ลงตัว
ณ งาน “อุ่นไอรัก คลายความหนาว” พระลานพระราชวังดุสิตและสนามเสือป่าจะถูกเนรมิตให้อบอวลไปด้วยบรรยากาศย้อนยุค โดยภายในงานจะมีนิทรรศการพระราชกรณียกิจของในหลวงรัชกาลที่ 5 และรัชกาลที่ 9 นิทรรศการแสดงวิถีชีวิตของคนไทยสมัยอดีต การแสดงศิลปวัฒนธรรม กิจกรรมการถ่ายภาพโบราณ รวมถึงร้านค้าต่างๆ ที่มาร่วมออกร้านจำนวนมาก โดยจะมีการแบ่งเป็นโซนต่างๆ ดังนี้
1. โซนพระลานพระราชวังดุสิต จัดแสดงนิทรรศการพระราชประวัติและพระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวและพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ซึ่งจะถูกตกแต่งอย่างสวยงามด้วยสถาปัตยกรรมสมัยรัชกาลที่ 5 และรัชกาลที่ 9 มีการจัดสวนพันธุ์ไม้และน้ำพุ งานประดิษฐ์ตามศิลปะไทยแบบชาววัง
2. โซนสนามเสือป่า จัดร้านค้าในพระบรมวงศานุวงศ์และร้านค้ารับเชิญ เช่น ร้านจิตอาสา 904 ร้านภูฟ้า ร้านมูลนิธิเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก ร้านมูลนิธิโครงการหลวง ร้านแม่บ้านเหล่าทัพ รวมทั้งมีการแสดงวัฒนธรรมพื้นบ้านและฉายหนังกลางแปลง
3. โซนร้านอาหารและร้านค้า ในแนวคิดใต้ร่มพระบรมโพธิสมภาร สืบสานชุมชน วิถีไทย โดยจะจัดซุ้มร้านอาหารไทยโบราณที่มีรสชาติอร่อย และการสาธิตเกี่ยวกับศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่นและร้านสตูดิโอให้ถ่ายภาพย้อนยุค
การจัดแสดงนิทรรศการพระราชประวัติและพระราชกรณียกิจ
ไปรษณีย์นฤมิต
สาธิตการทำขนม “ดอกอัญชัน"
“ล่าเตียง” ขนมไทยโบราณที่หารับประทานได้ยาก
บรรยากาศนักท่องเที่ยวซื้อสินค้าแบบสบายๆ และอบอุ่น
สาธิตการทำหัวโขน
การเดินทางไปลานพระราชวังดุสิตและสนามเสือป่า
นักท่องเที่ยวที่ต้องการเดินทางไปร่วมงาน “อุ่นไอรัก คลายความหนาว” ณ พระลานพระราชวังดุสิตและสนามเสือป่าสามารถเดินทางไปได้ด้วยวิธีต่างๆ ดังนี้
รถชัตเทิ้ลบัส : รับส่งฟรีจาก สนามหลวง หน้ากองสลากเก่า และสนามม้านางเลิ้ง
รถเมล์เฉพาะกิจของ ขสมก. : รับส่งจาก สวนจตุจักร อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ วงเวียนใหญ่ และหัวลำโพง
ทั้งนี้ รถโดยสารที่ให้บริการฟรี จะมีป้ายสัญลักษณ์งาน “อุ่นไอรัก คลายความหนาว” ติดบริเวณกระจกหน้ารถด้านซ้าย โดยรถมีให้บริการทุกวัน และปล่อยรถออกทุกๆ 10 นาที จากท่าต้นทางเที่ยวแรก เวลา 09.00 น. เที่ยวสุดท้าย เวลา 21.00 น. และจากท่าปลายทาง (พื้นที่จัดงาน) เที่ยวสุดท้าย เวลา 22.00 น.พร้อมกันนี้ ยังมีเต็นท์จุดพักคอยให้ประชาชนพร้อมบริการน้ำดื่มอีกด้วย ทั้งนี้ ประชาชนที่จะเดินทางไปเที่ยวงานสามารถสอบถามเส้นทางได้ที่ โทร 1255 และศูนย์ควบคุมและสั่งการจราจร (บก.02) โทร 1197 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
รถยนต์ : ประชาชนที่นำรถส่วนตัวไป สามารถนำรถไปจอดที่สถานที่จอดรถซึ่งถูกจัดเตรียมไว้จำนวน 5 แห่งดังนี้ สวนสัตว์ดุสิตรองรับได้ 300 คัน สนามม้านางเลิ้ง 500 คัน กองสลากเก่า 50 คัน สวนสันติพร 100 คัน หรือสนามหลวง ด้านทิศเหนือ 1,200 คัน
แท็กซี่มิเตอร์ : อัตราค่าบริการเริ่มต้นที่ 35 บาท และเพิ่มค่าโดยสารกิโลเมตรละ 5.50 บาทในระยะ 1-10 กิโลเมตรแรก สามารถดูรายละเอียดอัตราค่าบริการเพิ่มเติมได้ที่ http://bit.ly/2laovLG
พระที่นั่งอนันตสมาคม
จุดคัดกรอง
ระหว่างการจัดงานอุ่นไอรัก จะมีการจัดการจราจรโดยปิดการจราจรในถนนอู่ทองใน จากแยกอู่ทองในถึงพระลานพระราชวังดุสิต จะอนุญาตให้รถผ่านได้เฉพาะที่มีบัตร โดยเข้าทางประตูสนามเสือป่า ด้านปั๊ม ปตท.แล้ววนออกทางถนนศรีอยุธยา ฝั่งตรงข้ามวัดเบญจฯ โดยการจัดงานจะเป็น 2 ช่วงเวลาด้วยกัน คือ
ช่วงเวลากลางวัน 10.00 - 18.00 น. ประชาชนสามารถเข้าเที่ยวงานโดย ผ่านจุดคัดกรอง 3 จุด คือ บริเวณ ถ.อู่ทองใน ใกล้โค้ง ปตท. 1 จุด บริเวณถนนศรีอยุธยา 2 จุด คือฝั่งสวนอัมพรตรงข้าม บช.น. และฝั่งสนามเสือป่า บริเวณหน้าธ.ทหารไทย
ช่วงเวลากลางคืน 18.00 - 22.00 น. จะเปิดจุดคัดกรอง ใน ถ.ราชดำเนินนอก บริเวณใกล้แยกสวนมิสกวันเพิ่มอีก 1 จุดจึงต้องทำการปิดการจราจรบริเวณแยกสวนมิสกวันและ ถ.ศรีอยุธยา บริเวณแยกวัดเบญจฯ และแยก พล.1 โดย ประชาชนสามารถเลี่ยงไปใช้ ถ.พระราม 5 ถ.พิษณุโลก และ ถ.นครราชสีมา ได้
การจำลองนิทรรศการจำลองระบบสาธารณูปโภค การประปา การไฟฟ้า การรถไฟ สภาอุนาโลมแดง หรือสภากาชาด แบงค์สยามกัมมาจล
โดยเล่าเรื่องผ่านภาพระบบ 3 มิติ
เวลาทำการเปิด – ปิด
งาน "อุ่นไอรัก คลายความหนาว" จัดระหว่างวันที่ 8 ก.พ. - 11 มี.ค. 2561 ณ พระลานพระราชวังดุสิตและสนามเสือป่า โดยในวันอาทิตย์ถึงวันพฤหัสบดีงานเริ่มตั้งแต่เวลา 10.30-21.00 น. ส่วนวันศุกร์และวันเสาร์ ขยายเวลาถึง 22.00 น.
บรรยากาศยามค่ำคืน ประชาชนทุกเพศทุกวัยให้ความสนใจมาเที่ยวงาน
อัตราค่าเข้าชม
ไม่เสียค่าบัตรผ่านประตู
กิจกรรมน่าสนใจ
นอกจากโซนจัดแสดงนิทรรศการพระราชประวัติและพระราชกรณียกิจ โซนการออกบูธของร้านค้า องค์กรต่างๆ และโซนที่ขายอาหารแล้ว กิจกรรมน่าสนใจท่ามกลางบรรยากาศอันอบอุ่นที่ได้รับความนิยมและคึกคักเป็นอย่างมากสำหรับนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวชมงานที่เป็นไฮไลท์นั้นได้แก่
จุดรับเครื่องสักการะพระราชทาน สำหรับสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ลงชื่อรับได้ฟรีตรงฝั่งทางเข้าสวนอัมพร และเมื่อสักการะแล้วยังสามารถนำดอกไม้กลับบ้านได้ด้วย
สอยกัลปพฤกษ์ สีเงินสีทอง ความเพลิดเพลินหนึ่งภายในงานคือกิจกรรมสอยกัลปพฤกษ์ หรือสอยดาว เพียงซื้อบัตรกัลปพฤกษ์ 25 บาท นอกจากจะได้ทำบุญแล้วยังได้ลุ้นรางวัลมากมาย อาทิ ทีวี รถจักรยานยนต์ รถจักรยาน นอกจากนี้ยังมีสลากอุ่นไอรักให้ได้ลุ้นอีกในราคา 129 บาท
บันทึกภาพร่วมกับศิลปินดารา กิจกรรมที่คึกคักและได้รับความสนใจเป็นอย่างมากคือการร่วมบันทึกภาพกับศิลปินดาราในชุดย้อนยุคอันงดงาม มีอยู่ตามจุดต่างๆ ได้แก่ พระที่นั่งวิมานเมฆจำลอง หน้าพระบรมรูปทรงม้า กิจวัตร รัชกาลที่ 5 นิทรรศการในรัชกาลที่ 5 พระมหาเศวตฉัตรจำลอง ร.9 สวนแนวตั้งในสนามเสือป่า ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 18.00 น. เป็นต้นไป ช่างภาพทูลเกล้าถวาย เป็นช่างภาพจิตอาสา เพียงซื้อคูปอง 50 บาท รับภาพที่ระลึก ๑ ใบ
ขึ้นโรงพักสามแยกไปลงบันทึกประจำวัน โรงพักสามแยกเป็นการจำลองเอาโรงพักสถานีตำรวจย้อนยุค ที่เป็นโรงพักแห่งแรกของสถานีตำรวจนครบาล ในสมัยรัชกาลที่ 5 (สน. พลับพลาไชย 2 ในปัจจุบัน) มาไว้ภายในงานเพื่อให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสและร่วมสนุกสนานโดยจะรับแจ้งความเสมือนโรงพักจริงทุกอย่าง
รายได้จากการจัดงานโดยไม่หักค่าใช้จ่ายสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ จะทรงนำไปใช้ในการพระราชกุศล บำบัดทุกข์ บำรุงสุขให้กับประชาชนผู้ได้รับความเดือดร้อนจากภัยและเหตุการณ์ต่างๆ ทั่วภูมิภาคของประเทศ ภายใต้กิจกรรมในโครงการพระราชดำริ “จิตอาสา เราทำความดีด้วยหัวใจ”
ร่วมซึมซับวิถีการดำเนินชีวิตของชาวไทยในสมัยโบราณจนถึงปัจจุบันผ่านกำแพง 3 มิติ
จุดบริการสุขา
ภายในงานมีจุดบริการรถสุขาเคลื่อนที่จาก กทม. ไว้อำนวยความสะดวกแก่ผู้มาเที่ยวอยู่รอบบริเวณงาน ตามจุดต่างๆ ดังนี้
ลานพระราชวังดุสิต ฝั่งสวนอัมพร จำนวน 2 คัน
ฝั่งสนามเสือป่า บริเวณปั๊ม ปตท. จำนวน 2 คัน บริเวณซอกเรือนเพราะชำ จำนวน 1 คัน บริเวณข้างโรงรถสารานุกรมไทย จำนวน 1 คัน
รอบลานพระราชวังดุสิต บริเวณหน้ารัฐสภา จำนวน 1 คัน บริเวณหน้ากองบัญชาการตำรวจนครบาล จำนวน 2 คัน บริเวณข้างวังปารุสกวัน จำนวน 1 คัน บริเวณริมคลองวัดเบญฯ จำนวน 2 คัน
บริเวณที่จอดรถผู้เข้าร่วมงาน บริเวณสนามหลวง จำนวน 1 คัน บริเวณกองสลากเก่า จำนวน 2 คัน
บรรยากาศความสุข ความอบอุ่นที่พบเห็นได้ทั่วไปภายในงาน
เวลาที่เหมาะสมสำหรับการท่องเที่ยว
ประชาชนสามารถเที่ยวชมงานได้ทั้งเวลากลางวันและกลางคืน แต่ช่วงเวลาที่จะถ่ายรูปออกมาสวยแนะนำว่าเป็นช่วงเย็นก่อนพระอาทิตย์ตกดิน
นักท่องเที่ยวถ่ายภาพคู่กับเรือสุพรรณหงส์จำลองอันวิจิตรงดงาม
ข้อมูลอื่นๆ ที่ควรรู้
ผู้ที่จะไปเที่ยวงาน "อุ่นไอรัก คลายความหนาว" ต้อง เตรียมบัตรประจำตัวประชาชน และแสดงบัตรเพื่อลงทะเบียนกับเจ้าหน้าที่ ณ จุดคัดกรอง
ขอเชิญชวนผู้ที่จะไปเที่ยวงานใส่ชุดไทยย้อนยุคหรือชุดสุภาพ โดยงดใส่กางเกงขาสั้นและกระโปรงเหนือเข่า หากใครต้องการใส่ชุดไทย มีบริการให้เช่าราคาชุดละ 250 บาท โดยร้านอยู่ในโซนสนามเสือป่า บูธของ ททท.
ผู้สูงอายุ หรือคนพิการ สามารถติดต่อขอใช้บริการวีลแชร์ได้ที่จุดคัดกรอง
ไม่อนุญาตให้หยิบหรือแตะต้องดอกไม้ที่จัดแสดงภายในงาน
นักท่องเที่ยวสามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับงาน “อุ่นไอรัก คลายความหนาว” เช็กตารางการแสดงและหนังกลางแปลงได้แบบวันต่อวันที่ https://www.facebook.com/AoonIRak/
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ
10 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในจังหวัดพิจิตร ประเทศไทย
พิจิตร จังหวัดเล็กๆ ที่ซ่อนเสน่ห์เอาไว้มากมาย และไม่ได้มีแค่บึงสีไฟเพียงอย่างเดียว เพราะเมืองชาละวันแห่งนี้มีทั้งธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ วัดวาอารามเก่าแก่ และวิถีชีวิตของผู้คนท้องถิ่นที่น่าสนใจ บทความนี้ Palanla จะพาไปเปิดมุมมองใหม่กับ 10 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเยือนพิจิตร
อ่านต่อวัดหิรัญญาราม (วัดบางคลาน) จังหวัดพิจิตร ประเทศไทย
วัดหิรัญญาราม (Wat Hiranyaram) หรือที่ชาวบ้านรู้จักกันดีในชื่อ วัดบางคลาน (Wat Bang Khlan) เป็นวัดเก่าแก่ที่มีชื่อเสียงโด่งดังมากแห่งหนึ่งของจังหวัดพิจิตร โดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นที่รู้จักจาก หลวงพ่อเงิน พระเกจิอาจารย์ชื่อดังที่มีผู้คนให้ความเคารพนับถืออย่างมาก
อ่านต่ออุทยานเมืองเก่าพิจิตร จังหวัดพิจิตร ประเทศไทย
อุทยานเมืองเก่าพิจิตร (Pichit Historical Park) เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ที่สำคัญแห่งหนึ่งของจังหวัด เชื่อกันว่าเดิมทีบริเวณนี้เป็นที่ตั้งของเมืองพิจิตรเก่า
อ่านต่อวัดนครชุม จังหวัดพิจิตร ประเทศไทย
วัดนครชุม (Wat Nakhon Chum) หรือที่ชาวบ้านเรียกกันติดปากว่า "วัดใหญ่" ตั้งอยู่ที่ตำบลเมืองเก่า อำเภอเมือง จังหวัดพิจิตร เป็นวัดเก่าแก่ที่มีประวัติความเป็นมายาวนาน สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยกรุงสุโขทัย โดยเคยเป็นวัดสำคัญของเมืองพิจิตรในอดีต
อ่านต่อวัดเขารูปช้าง จังหวัดพิจิตร ประเทศไทย
วัดเขารูปช้าง (Wat Khao Rup Chang) อีกหนึ่งวัดเก่าแก่ของจังหวัดพิจิตรที่สร้างมาตั้งแต่สมัยอยุธยา บนยอดเขาที่มีหินสีขาวซ้อนกันเป็นรูปช้างคุกเข่าโดดเด่นด้วยเจดีย์แบบลังกา ประดับกระเบื้องเคลือบสีทองทั้งองค์
อ่านต่อทุ่งดอกกระเจียวยักษ์บ้านเขาโล้น จังหวัดพิจิตร ประเทศไทย
ทุ่งดอกกระเจียวยักษ์บ้านเขาโล้น (Giant Siam Tulip Field Baan Khao Loan) ตั้งอยู่ที่ตำบลเขาเจ็ดลูก อำเภอทับคล้อ จังหวัดพิจิตร เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่กำลังได้รับความนิยมอย่างมาก โดยเฉพาะในช่วงฤดูฝน เมื่อดอกกระเจียวสีชมพูบานสะพรั่งทั่วทั้งทุ่ง
อ่านต่อตลาดย่านเก่าวังกรด จังหวัดพิจิตร ประเทศไทย
ตลาดย่านเก่าวังกรด ( Yan Kao Wang Krot Market) ตลาดเก่าแก่ตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 ณ ย่านเก่าวังกรด จังหวัดพิจิตร เป็นแหล่งรวมอาหารอร่อยที่เรียงรายด้วยสถาปัตยกรรมอาคารไม้เก่าแก่สวยงาม พร้อมทั้งหอนาฬิกาที่เป็นแลนด์มาร์กสำคัญของชุมชน
อ่านต่อน้ำตกไทรโยคใหญ่ จังหวัดกาญจนบุรี ประเทศไทย
น้ำตกไทรโยคใหญ่ (Sai Yok Yai Waterfall) เปรียบเสมือนอัญมณีแห่งเมืองกาญจนบุรี ด้วยความงามของม่านน้ำอันยิ่งใหญ่ที่ไหลรินลงมาจากหน้าผาสูงและกลายเป็นสายน้ำที่ทอดยาว รายล้อมไปด้วยป่าไม้ร่มรื่น ที่นี่จึงเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงอันดับต้นๆ ของจังหวัดกาญจนบุรี
อ่านต่อต้นจามจุรียักษ์ จังหวัดกาญจนบุรี ประเทศไทย
ต้นจามจุรียักษ์ (Giant Monkey Pod Tree) อายุกว่า 100 ปี ที่ยืนตระหง่าน แผ่กิ่งก้านสาขาให้ร่มเงาแก่ผู้คนที่มาพักผ่อนหย่อนใจ คืออีกหนึ่งแลนด์มาร์กของเมืองกาญจนบุรีในปัจจุบัน
อ่านต่อคู่มือการดำเนินการตามกระบวนการเคลมประกันรถยนต์ฉบับสมบูรณ์
การมีส่วนร่วมในอุบัติเหตุทางรถยนต์หรือประสบความเสียหายต่อยานพาหนะของคุณอาจเป็นประสบการณ์ที่ตึงเครียดและท่วมท้น อย่างไรก็ตาม การทำความเข้าใจขั้นตอนการเคลมประกันรถยนต์สามารถช่วยบรรเทาความวิตกกังวลและแก้ไขปัญหาได้ราบรื่นยิ่งขึ้น
อ่านต่อ