- หน้าแรก
- ท่องเที่ยวในประเทศ
- เสริมสิริมงคลจาก 9 สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ในกรุงเทพฯ รับตรุษจีน 2561
เสริมสิริมงคลจาก 9 สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ในกรุงเทพฯ รับตรุษจีน 2561
- อ่าน (4,347)
- ByWebmaster
- 17:47:13 | 9 ก.พ. 2561
เสริมสิริมงคลจาก 9 สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ในกรุงเทพฯ รับตรุษจีน 2561
เทศกาลตรุษจีนกำลังจะเริ่มต้นขึ้นในวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2561 นี้ ทีมงานพาลั้ลลาจึงรวบรวมสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ 9 แห่งในกรุงเทพฯ เพื่อเป็นข้อมูลทางเลือกสำหรับผู้ที่ต้องการเดินทางไปทำบุญ ขอพร และสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในวันมงคลนี้ ซึ่งมีทั้งวัดวาอาราม และศาลเจ้าขึ้นชื่อมากมายหลายแห่งในกรุงเทพฯ ให้เลือกไปเสริมความเป็นสิริมงคลกัน
1. วัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร
วัดไตรมิตร หรือในชื่อเดิมว่า “วัดสามจีน” ซึ่งมีที่มากจากชาวจีน 3 คนที่ร่วมกันสร้างวัดแห่งนี้ขึ้นมา ภายในพระมหามณฑปเป็นที่ประดิษฐาน “พระพุทธมหาสุวรรณปฏิมากร” หรือ “พระพุทธรูปทองคำสุโขทัยไตรมิตร” พระพุทธรูปที่สร้างด้วยทองคำองค์ใหญ่ที่สุดในโลก พระพุทธรูปทองคำองค์นี้มีหน้าตั้งกว้าง 3.01 เมตร สูง 3.91 เมตร จากฐานองค์พระขึ้นไปเนื้อทองบริสุทธิ์ 40% พระพักตร์มีเนื้อทอง 80% ส่วนพระเกศมีน้ำหนัก 45 กิโลกรัม เป็นเนื้อทองบริสุทธิ์ 99.99%
นอกจากการนมัสการพระพุทธรูปทองคำ นักท่องเที่ยวยังสามารถเพลิดเพลินกับ ศูนย์ประวัติศาสตร์เยาวราช ซึ่งให้ข้อมูลความรู้เกี่ยวกับประวัติความเป็นมาของย่านเยาวราชตั้งแต่ในอดีต ที่บริเวณชั้น 2 และ นิทรรศการพระพุทธรูปทองคำ ซึ่งเล่าเรื่องราวการสร้างพระพุทธรูปตั้งแต่ในสมัยสุโขทัย รวมถึงบอกประวัติความเป็นมาของพระพุทธรูปทองคำ ที่บริเวณชั้น 3 ของพระมหามณฑป
สถานที่ตั้ง : ตั้งอยู่ที่ถนนมิตรภาพไทย-จีน แขวงตลาดน้อย เขตสัมพันธวงศ์
การเดินทาง : รถไฟใต้ดิน MRT ลงที่ สถานีหัวลำโพง จากนั้นเดินต่ออีกประมาณ 200 เมตร
รถประจำทาง สาย 1, 7, 4, 25, 40, 53, 73, 73ก, 177 และ 529
แท็กซี่มิเตอร์ เป็นการเดินทางที่สะดวกสบายและได้รับความนิยมอย่างมาก โดยมีอัตราค่าบริการเริ่มต้นที่ 35 บาท และเพิ่มค่าโดยสารกิโลเมตรละ 5.50 บาทในระยะ 1-10 กิโลเมตรแรก สามารถดูรายละเอียดอัตราค่าบริการเพิ่มเติมได้ที่ http://bit.ly/2laovLG
ข้อมูลติดต่อ : (+66)89-0022700, (+66)2-6231227, http://www.wattraimitr-withayaram.com
เวลาเปิดทำการ : เปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08:00-17:00 น.
2. ศาลเจ้าแม่กวนอิม มูลนิธิเทียนฟ้า
ศาลเจ้าแม่กวนอิม เป็นส่วนหนึ่งของโรงพยาบาลและมูลนิธิเทียนฟ้า มูลนิธิแห่งแรกของประเทศไทยที่ตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2445 โดยการรวมตัวกันของกลุ่มชาวจีน 5 ภาษา เพื่อสงเคราะห์ผู้ป่วยที่ยากไร้ ให้ได้รับการรักษาพยาบาล ภายในศาลเจ้ามีรูปเคารพของ เจ้าแม่กวนอิม พระโพธิสัตว์ อวโลกิเตศวร ปางประทานพร รูปเคารพสร้างขึ้นจากไม้จันทน์แกะสลัก รูปแบบศิลปะราชวงศ์ถัง แต่สันนิษฐานว่าสร้างขึ้น ในสมัยของราชวงศ์ซ่งหรือเมื่อประมาณ 800-900 ปีที่ผ่านมา ซึ่งผู้คนนิยมเดินทางมาขอพรเพื่อปัดเป่าโรคภัยไข้เจ็บ และขอให้มีสุขภาพแข็งแรง
สถานที่ตั้ง : ถนนเยาวราช แขวงสัมพันธวงศ์ เขตสัมพันธวงศ์ (อยู่ใกล้กับวัดไตรมิตรฯ)
การเดินทาง : รถไฟใต้ดิน MRT ลงที่ สถานีหัวลำโพง จากนั้นเดินต่ออีกประมาณ 400 เมตร
รถประจำทาง สาย 1, 7, 4, 25, 40, 53, 73, 73ก, 177 และ 529
แท็กซี่มิเตอร์ เป็นการเดินทางที่สะดวกสบายและได้รับความนิยมอย่างมาก โดยมีอัตราค่าบริการเริ่มต้นที่ 35 บาท และเพิ่มค่าโดยสารกิโลเมตรละ 5.50 บาทในระยะ 1-10 กิโลเมตรแรก สามารถดูรายละเอียดอัตราค่าบริการเพิ่มเติมได้ที่ http://bit.ly/2laovLG
ข้อมูลติดต่อ : (+66)2-2330955, www.thianfah.com
เวลาเปิดทำการ : เปิดทำการทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง
3. วัดมังกรกมลาวาส (วัดเล่งเน่ยยี่)
วัดมังกรกมลาวาส หรือวัดเล่งเน่ยยี่ เป็นวัดในสังกัดคณะสงฆ์จีนนิกายแห่งประเทศไทย บางคนเรียกวัดนี้ว่า "วัดมังกร" เพราะคำว่า "เล่ง" หรือ "เล้ง" ในภาษาจีนแต้จิ๋ว แปลว่ามังกร (คำว่า “เน่ย” แปลว่า ดอกบัวและคำว่า “ยี่” แปลว่า วัด) และชื่อวัดอย่างเป็นทางการนั้นได้รับพระราชทานมาจากพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5
ภายในวัดเป็นที่ประดิษฐานของเทวรูปศักดิ์ศิทธิ์มากมาย โดยพระประธานหลักของวัดคือ พระโคตมพุทธเจ้า พระอมิตาภพุทธะ พระไภษัชยคุรุพุทธะ ทั้งหมด 3 องค์ หรือ "ซำป้อหุกโจ้ว" พร้อมพระอรหันต์อีก 18 องค์ และยังมีเทพเจ้าคุ้มครองดวงชะตา หรือ "ไท้ส่วย เอี๊ยะ" เทพเจ้าแห่งยาหรือหมอเทวดา "หั่วท้อเซียงซือกง" และที่นิยมไหว้ขอพรมากคือ เทพเจ้าแห่งโชคลาภ "ไฉ่ซิ้งเอี๊ยะ" โดยเทพเจ้าในวัดเล่งเน่ยยี่นั้นมีจำนวทั้งหมด 58 องค์
สถานที่ตั้ง : ตั้งอยู่บนถนนเจริญกรุง ระหว่าง ซอยเจริญกรุง 19 และ 21 เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย
การเดินทาง : รถประจำทาง สาย 1, 7, 4, 25, 40, 53, 73, 73ก, 507, 542 และ 529
แท็กซี่มิเตอร์ เป็นการเดินทางที่สะดวกสบายและได้รับความนิยมอย่างมาก โดยมีอัตราค่าบริการเริ่มต้นที่ 35 บาท และเพิ่มค่าโดยสารกิโลเมตรละ 5.50 บาทในระยะ 1-10 กิโลเมตรแรก สามารถดูรายละเอียดอัตราค่าบริการเพิ่มเติมได้ที่ http://bit.ly/2laovLG
ข้อมูลติดต่อ : (+66)2-2223975
เวลาเปิดทำการ : เปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 06:00-18:00 น.
4. ศาลเจ้าไต่ฮงกง มูลนิธิปอเต๊กตึ้ง
ศาลเจ้าไต้ฮงกง ถูกสร้างขึ้นในปีพ.ศ. 2453 พร้อมกับจัดตั้ง “คณะเก็บศพไต้ฮงกง“ ขึ้นมา เพื่อทำการเก็บศพและจัดการงานศพของผู้ยากไร้และอนาถาในเขตกรุงเทพฯ ตามปณิธานของหลวงปู่ไต่ฮงกง ภิกษุชาวจีนที่ช่วยเหลือประชาชนที่เจ็บป่วย สร้างสะพาน สอนหนังสือ คนจีนสมัยก่อนจึงนับถือเป็นอย่างมาก ต่อมาภายหลังได้เปลี่ยนชื่อคณะเป็น “มูลนิธิฮั่วเคี้ยวป่อเต็กเซี่ยงตึ๊ง“ หรือ “ป่อเต็กตึ๊ง“ ที่เรารู้จักกันดีในปัจจุบัน
ภายในศาลเจ้าประดิษฐานรูปจำลองของ หลวงปู่ไต้ฮงกง และยังเป็นที่ประดิษฐานองค์เจ้าแม่พระโพธิสัตว์กวงอิมอวโลกิเตศวร และ องค์ตี่จั่งอ๊วง หรือ พระกษิติครรภโพธิสัตว์ ซึ่งผู้คนมักเดินทางมาขอพรทั้งในด้านโชคลาภ สุขภาพ และความเจริญในหน้าที่การงาน
สถานที่ตั้ง : ถนนพลับพลาไชย แขวงป้อมปราบศัตรูพ่าย เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย
การเดินทาง : รถประจำทาง สาย 1, 7, 4, 25, 40, 53, 73, 73ก, 507, 542 และ 529
แท็กซี่มิเตอร์ เป็นการเดินทางที่สะดวกสบายและได้รับความนิยมอย่างมาก โดยมีอัตราค่าบริการเริ่มต้นที่ 35 บาท และเพิ่มค่าโดยสารกิโลเมตรละ 5.50 บาทในระยะ 1-10 กิโลเมตรแรก สามารถดูรายละเอียดอัตราค่าบริการเพิ่มเติมได้ที่ http://bit.ly/2laovLG
ข้อมูลติดต่อ : (+66)2-2250020
เวลาเปิดทำการ : 07:00–22:00 น.
5. ศาลเจ้าเล่งบ้วยเอี๊ยะ
ศาลเจ้าเล่งบ้วยเอี๊ยะ ถือเป็นศาลเจ้าเก่าแก่มากที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศไทย เนื่องจากมีหลักฐานเป็นคำจารึกในภาษาจีนว่าศาลเจ้าแห่งนี้ก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ปี พ.ศ. 2201 ซึ่งอยู่ในช่วงอยุธยาตอนกลาง อาคารศาลเจ้าเป็นสถาปัตยกรรมแบบจีนโบราณ มีอาคารหลังเดียว หลังคาใหญ่ปูด้วยกระเบื้องเคลือบสี มีมังกรสองตัวหันหน้าเข้าหากันอยู่ด้านบน
ภายในศาลเจ้าแห่งนี้มีแท่นบูชา เทพเจ้าเล่งบ๊วยเอี๊ยะ หรือเทพเจ้าหางมังกร ส่วนฝั่งช้ายมือตั้งแท่นบูชาเทพเจ้ากวนอู และฝั่งขวามือเป็นแท่นบูชาพระแม่สวรรค์ นอกจากนี้แล้ว ยังเป็นที่เก็บรักษาโบราณวัตถุต่าง ๆ เช่น ป้ายโบราณที่จารึกในรัชสมัยจักรพรรดิกวังซฺวี่ แห่งราชวงศ์ชิง รวมถึงป้ายจารึกในราชวงศ์หมิง รวมทั้งยังมีระฆังจารึกชื่อ เฉิน ไท จื้อ ที่สร้างขึ้นเพื่อประดิษฐานที่ศาลเจ้านี้โดยเฉพาะ
สถานที่ตั้ง : อยู่ระหว่างถนนเยาวราชและถนนเจริญกรุง ซอย 6 แขวงสัมพันธวงศ์ เขตสัมพันธวงศ์
การเดินทาง : รถประจำทาง สาย 1, 7, 4, 25, 40, 53, 73, 73ก, 507, 542 และ 529
แท็กซี่มิเตอร์ เป็นการเดินทางที่สะดวกสบายและได้รับความนิยมอย่างมาก โดยมีอัตราค่าบริการเริ่มต้นที่ 35 บาท และเพิ่มค่าโดยสารกิโลเมตรละ 5.50 บาทในระยะ 1-10 กิโลเมตรแรก สามารถดูรายละเอียดอัตราค่าบริการเพิ่มเติมได้ที่ http://bit.ly/2laovLG
ข้อมูลติดต่อ : (+66)81-6145992
เวลาเปิดทำการ : เปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 07:00-17:00 น.
6. ศาลเจ้าพ่อเสือ พระนคร
ขอบคุณภาพประกอบจากเฟซบุ๊คศาลเจ้าพ่อเสือ https://www.facebook.com/bkktigershrine/
ศาลเจ้าพ่อเสือ พระนคร หรือศาลเจ้าพ่อเสือ เสาชิงช้า สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 3 โดยสถานที่ตั้งในอดีตอยู่บริเวณถนนบำรุงเมือง ต่อมาเมื่อพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ทรงโปรดให้ขยายถนนบำรุงเมือง ได้โปรดให้ย้ายที่ตั้งและพระราชทานที่ให้แก่ศาลเจ้าพ่อเสือมาไว้ที่ทางสามแพร่ง ถนนตะนาว ใกล้กับวัดมหรรณพาราม ซึ่งมีตำนานเกี่ยวกับเจ้าพ่อเสืออยู่แต่เดิม จึงมีการรวมศาลกันเกิดขึ้น จนเป็นศาลเจ้าพ่อเสือในปัจจุบัน
ภายในศาลแห่งนี้เป็นที่ประดิษฐานของรูปเคารพเทพเอี่ยนเถี้ยนส่งเต้, เจ้าพ่อเสือ, เจ้าพ่อกวนอู และเจ้าแม่ทับทิม โดยเจ้าพ่อเสือนั้นเป็นเทพที่ประชาชนทั้งชาวจีนและชาวไทยให้ความเคารพอย่างมาก โดยเฉพาะคนที่มีลูกน้องบริวารในการควบคุมดูแล หรือต้องการเลื่อนยศ เลื่อนตำแหน่ง ขอโชคลาภ และคนที่กำลังมีคดีความต้องขึ้นศาล ซึ่งของที่ประชาชนนิยมนำมาถวายเจ้าพ่อเสือ คือ หมูสามชั้นและไข่
สถานที่ตั้ง : ถนนตะนาว ใกล้เสาชิงช้า เขตพระนคร
การเดินทาง : รถประจำทาง สาย 12, 35, 42 และ 508
แท็กซี่มิเตอร์ เป็นการเดินทางที่สะดวกสบายและได้รับความนิยมอย่างมาก โดยมีอัตราค่าบริการเริ่มต้นที่ 35 บาท และเพิ่มค่าโดยสารกิโลเมตรละ 5.50 บาทในระยะ 1-10 กิโลเมตรแรก สามารถดูรายละเอียดอัตราค่าบริการเพิ่มเติมได้ที่ http://bit.ly/2laovLG
ข้อมูลติดต่อ : (+66)2-2242110, https://www.facebook.com/bkktigershrine/
เวลาเปิดทำการ : เปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 06:00-17:00 น.
7. ศาลเจ้าเล่าปุนเถ้ากง (ศาลเจ้าโป๊ยเซียน)
ศาลเจ้าเล่าปุนเถ้ากงเป็นศาลเจ้าเก่าแก่มีอายุกว่าสองร้อยปี ลักษณะเป็นอาคารสถาปัตยกรรมสกุลช่างจีนแต้จิ๋วแบบซี่เตียมกิม ที่หมายถึง "สี่ตำแหน่งทองคำ" เนื่องจากอาคารนี้หากแบ่งเป็นห้องแล้วจะได้พื้นที่เป็นสี่ห้อง มีขนาดโอ่งโถงและมีการตกแต่งลวดลายอย่างวิจิตร โดยชาวจีนแต้จิ๋วในอดีตร่วมกันสร้างขึ้นมาเพื่อเป็นที่ยึดเหนี่ยวทางจิตใจ ขอให้อำนาจสิ่งศักดิ์สิทธิ์ปกป้องคุ้มครองในการดำเนินชีวิตประจำวัน และทำกิจการค้าเจริญรุ่งเรือง
ภายในศาลเจ้าเป็นที่ประดิษฐานของ "เทพเล่าปูนเถ้ากง" อยู่ในอิริยาบถนั่ง มีหนวดเครายาวสีดำ แต่งกายแบบขุนนางจีน มือขวาถือคฑา (อยู่อี้) จากหลักฐานคำจารึกบริเวณที่ประดิษฐานคาดว่าน่าจะสร้างขึ้นในปี พ.ศ.2525
สถานที่ตั้ง : ถนนทรงวาด แขวงสัมพันธวงศ์ เขตสัมพันธวงศ์
การเดินทาง : รถประจำทาง สาย 1, 7, 4, 25, 40, 53, 73, 73ก, 507, 542 และ 529
เรือด่วนเจ้าพระยา ลงที่ท่าราชวงศ์ จากนั้นเดินต่ออีกประมาณ 400 เมตร
แท็กซี่มิเตอร์ เป็นการเดินทางที่สะดวกสบายและได้รับความนิยมอย่างมาก โดยมีอัตราค่าบริการเริ่มต้นที่ 35 บาท และเพิ่มค่าโดยสารกิโลเมตรละ 5.50 บาทในระยะ 1-10 กิโลเมตรแรก สามารถดูรายละเอียดอัตราค่าบริการเพิ่มเติมได้ที่ http://bit.ly/2laovLG
ข้อมูลติดต่อ : (+66)2-2216598, (+66)2-6224665
เวลาเปิดทำการ : เปิดทำการทุกวัน ตั้งแต่ 07:00-17:00 น.
8. ศาลเจ้ากวนอู (คลองสาน)
ศาลเจ้ากวนอู (คลองสาน) เป็นศาลเจ้ากวนอูที่มีความเก่าแก่มากที่สุดในประเทศไทย สร้างขึ้นตั้งแต่ปี พ.ศ.2279 ในสมัยกรุงศรีอยุธยา และยังมีความเชื่อว่าว่าสมเด็จพระเจ้าตากสิน เคยเสด็จมาสักการะเทพเจ้ากวนอูที่ศาลแห่งนี้ ก่อนที่จะกรีธาทัพไปทำสงคราม มีอาคารสองส่วนคือ ส่วนของศาลเจ้า และเก๋งจีนซึ่งตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา
ภายในศาลเจ้ามีรูปเคารพของ เทพเจ้ากวนอูทั้งหมด 3 องค์ องค์เล็กสุดเป็นองค์แรกที่เข้ามาในประเทศไทยราวปี พ.ศ.2279 โดยชาวจีนฮกเกี้ยนได้อัญเชิญมาจากมณฑลฮกเกี้ยนโดยทางเรือ ต่อมาในปี พ.ศ.2345 ได้มีผู้อัญเชิญเจ้าพ่อกวนอูองค์กลางมาเพิ่มอีกองค์หนึ่ง และในปีพ.ศ.2365 มีการบูรณะศาลเจ้าให้มีขนาดใหญ่ขึ้น พร้อมกับได้อัญเชิญเทพเจ้ากวนอูองค์ที่สามมาประทับไว้ร่วมกัน โดยความพิเศษของศาลเจ้าแห่งนี้คือ ผู้ที่จะขอพรต้องจับที่บริเวณเท้าของรูปเคารพเทพกวนอูแล้วอธิษฐาน ซึ่งธรรมเนียมนี้มีข้อห้ามไม่ให้สตรีที่มีประจำเดือนแตะต้องรูปเคารพเด็ดขาด
สถานที่ตั้ง : ซอยสมเด็จเจ้าพระยา หลังอุทยานสมเด็จย่า แขวงสมเด็จเจ้าพระยา เขตคลองสาน
การเดินทาง : รถประจำทาง สาย 6, 42, 43, 20 และ 57
เรือด่วนเจ้าพระยา ลงที่ท่าราชวงศ์ จากนั้นขึ้นเรือข้ามฟากมาลงที่ท่าเรือท่าดินแดง และเดินต่ออีกประมาณ 900 เมตร
แท็กซี่มิเตอร์ เป็นการเดินทางที่สะดวกสบายและได้รับความนิยมอย่างมาก โดยมีอัตราค่าบริการเริ่มต้นที่ 35 บาท และเพิ่มค่าโดยสารกิโลเมตรละ 5.50 บาทในระยะ 1-10 กิโลเมตรแรก สามารถดูรายละเอียดอัตราค่าบริการเพิ่มเติมได้ที่ http://bit.ly/2laovLG
ข้อมูลติดต่อ : (+66)2-4396309
เวลาเปิดทำการ : เปิดทำการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 07:00-18:00 น.
9. หลวงพ่อซำปอกง วัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร
วัดกัลยาณมิตรสร้างขึ้นตั้งแต่ปี พ.ศ. 2368 จากการบริจาคที่ดิน ซึ่งแต่เดิมเป็นหมู่บ้านที่มีภิกษุจีนพำนักอยู่ และเรียกกันต่อมาว่า "หมู่บ้านกุฎีจีน" ซึ่งผู้บริจาคคือ เจ้าพระยานิกรบดินทร์ (โต กัลยาณมิตร) พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานนามว่า “วัดกัลยาณมิตร”
ภายในพระวิหารหลวงเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปปูนปั้นปางมารวิชัยใหญ่ที่สุดในกรุงเทพฯ มีขนาดหน้าตักกว้าง 11.75 เมตร สูง 15.46 เมตร นามว่า “พระพุทธไตรรัตนนายก” หรือ “หลวงพ่อโต” พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้น ด้วยมีพระประสงค์จะให้เป็นพระพุทธรูปองค์ใหญ่อยู่ริมแม่น้ำแบบเดียวกันกับที่วัดพนัญเชิง จังหวัดอยุธยา โดยพระพุทธรูปองค์นี้ได้รับความเคารพอย่างมากในหมู่คนจีน จนมีชื่อเรียกในภาษาจีนว่า “ซำปอกง” โดยคนจีนส่วนใหญ่ไปขอพรให้ทำมาค้าขึ้น กิจการรุ่งเรืองก้าวหน้า
สถานที่ตั้ง : ซอยอรุณอมรินทร์ 6 ถนนอรุณอมรินทร์ตัดใหม่ แขวงวัดกัลยาณ์ เขตธนบุรี
การเดินทาง : รถประจำทาง สาย 3, 4, 7, 7ก, 9, 21, 37, 56, 82
เรือด่วนเจ้าพระยา ลงที่ท่าเรือราชินี จากนั้นขึ้นเรือข้ามฟากมาลงที่ท่าเรือวัดกัลยาฯ
แท็กซี่มิเตอร์ เป็นการเดินทางที่สะดวกสบายและได้รับความนิยมอย่างมาก โดยมีอัตราค่าบริการเริ่มต้นที่ 35 บาท และเพิ่มค่าโดยสารกิโลเมตรละ 5.50 บาทในระยะ 1-10 กิโลเมตรแรก สามารถดูรายละเอียดอัตราค่าบริการเพิ่มเติมได้ที่ http://bit.ly/2laovLG
ข้อมูลติดต่อ : (+66)2-4664643
เวลาเปิดทำการ : เปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 06:00-17:00 น.
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ
10 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในจังหวัดพิจิตร ประเทศไทย
พิจิตร จังหวัดเล็กๆ ที่ซ่อนเสน่ห์เอาไว้มากมาย และไม่ได้มีแค่บึงสีไฟเพียงอย่างเดียว เพราะเมืองชาละวันแห่งนี้มีทั้งธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ วัดวาอารามเก่าแก่ และวิถีชีวิตของผู้คนท้องถิ่นที่น่าสนใจ บทความนี้ Palanla จะพาไปเปิดมุมมองใหม่กับ 10 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเยือนพิจิตร
อ่านต่อวัดหิรัญญาราม (วัดบางคลาน) จังหวัดพิจิตร ประเทศไทย
วัดหิรัญญาราม (Wat Hiranyaram) หรือที่ชาวบ้านรู้จักกันดีในชื่อ วัดบางคลาน (Wat Bang Khlan) เป็นวัดเก่าแก่ที่มีชื่อเสียงโด่งดังมากแห่งหนึ่งของจังหวัดพิจิตร โดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นที่รู้จักจาก หลวงพ่อเงิน พระเกจิอาจารย์ชื่อดังที่มีผู้คนให้ความเคารพนับถืออย่างมาก
อ่านต่ออุทยานเมืองเก่าพิจิตร จังหวัดพิจิตร ประเทศไทย
อุทยานเมืองเก่าพิจิตร (Pichit Historical Park) เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ที่สำคัญแห่งหนึ่งของจังหวัด เชื่อกันว่าเดิมทีบริเวณนี้เป็นที่ตั้งของเมืองพิจิตรเก่า
อ่านต่อวัดนครชุม จังหวัดพิจิตร ประเทศไทย
วัดนครชุม (Wat Nakhon Chum) หรือที่ชาวบ้านเรียกกันติดปากว่า "วัดใหญ่" ตั้งอยู่ที่ตำบลเมืองเก่า อำเภอเมือง จังหวัดพิจิตร เป็นวัดเก่าแก่ที่มีประวัติความเป็นมายาวนาน สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยกรุงสุโขทัย โดยเคยเป็นวัดสำคัญของเมืองพิจิตรในอดีต
อ่านต่อวัดเขารูปช้าง จังหวัดพิจิตร ประเทศไทย
วัดเขารูปช้าง (Wat Khao Rup Chang) อีกหนึ่งวัดเก่าแก่ของจังหวัดพิจิตรที่สร้างมาตั้งแต่สมัยอยุธยา บนยอดเขาที่มีหินสีขาวซ้อนกันเป็นรูปช้างคุกเข่าโดดเด่นด้วยเจดีย์แบบลังกา ประดับกระเบื้องเคลือบสีทองทั้งองค์
อ่านต่อทุ่งดอกกระเจียวยักษ์บ้านเขาโล้น จังหวัดพิจิตร ประเทศไทย
ทุ่งดอกกระเจียวยักษ์บ้านเขาโล้น (Giant Siam Tulip Field Baan Khao Loan) ตั้งอยู่ที่ตำบลเขาเจ็ดลูก อำเภอทับคล้อ จังหวัดพิจิตร เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่กำลังได้รับความนิยมอย่างมาก โดยเฉพาะในช่วงฤดูฝน เมื่อดอกกระเจียวสีชมพูบานสะพรั่งทั่วทั้งทุ่ง
อ่านต่อตลาดย่านเก่าวังกรด จังหวัดพิจิตร ประเทศไทย
ตลาดย่านเก่าวังกรด ( Yan Kao Wang Krot Market) ตลาดเก่าแก่ตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 ณ ย่านเก่าวังกรด จังหวัดพิจิตร เป็นแหล่งรวมอาหารอร่อยที่เรียงรายด้วยสถาปัตยกรรมอาคารไม้เก่าแก่สวยงาม พร้อมทั้งหอนาฬิกาที่เป็นแลนด์มาร์กสำคัญของชุมชน
อ่านต่อน้ำตกไทรโยคใหญ่ จังหวัดกาญจนบุรี ประเทศไทย
น้ำตกไทรโยคใหญ่ (Sai Yok Yai Waterfall) เปรียบเสมือนอัญมณีแห่งเมืองกาญจนบุรี ด้วยความงามของม่านน้ำอันยิ่งใหญ่ที่ไหลรินลงมาจากหน้าผาสูงและกลายเป็นสายน้ำที่ทอดยาว รายล้อมไปด้วยป่าไม้ร่มรื่น ที่นี่จึงเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงอันดับต้นๆ ของจังหวัดกาญจนบุรี
อ่านต่อต้นจามจุรียักษ์ จังหวัดกาญจนบุรี ประเทศไทย
ต้นจามจุรียักษ์ (Giant Monkey Pod Tree) อายุกว่า 100 ปี ที่ยืนตระหง่าน แผ่กิ่งก้านสาขาให้ร่มเงาแก่ผู้คนที่มาพักผ่อนหย่อนใจ คืออีกหนึ่งแลนด์มาร์กของเมืองกาญจนบุรีในปัจจุบัน
อ่านต่อคู่มือการดำเนินการตามกระบวนการเคลมประกันรถยนต์ฉบับสมบูรณ์
การมีส่วนร่วมในอุบัติเหตุทางรถยนต์หรือประสบความเสียหายต่อยานพาหนะของคุณอาจเป็นประสบการณ์ที่ตึงเครียดและท่วมท้น อย่างไรก็ตาม การทำความเข้าใจขั้นตอนการเคลมประกันรถยนต์สามารถช่วยบรรเทาความวิตกกังวลและแก้ไขปัญหาได้ราบรื่นยิ่งขึ้น
อ่านต่อ