ชม ”ซูเปอร์บลูมูนสีเลือด” เหนือพระปรางค์วัดอรุณฯ ในรอบ 152 ปี

พระปรางค์วัดอรุณฯและดวงจันทร์ที่เริ่มถูกบดบังด้วยเงาของโลกบางส่วน

           ปัจจุบันหลายคนคงคุ้นเคยกับคำว่า ”ซุปเปอร์มูน” หรือ ”จันทรุปราคา” กันเป็นอย่างดี แต่ไม่บ่อยครั้งนักที่เราจะได้พบกับปรากฏการณ์อันแปลกตาของดวงจันทร์ถึง 3 เหตุการณ์พร้อมๆกันในคืนเดียว ซึ่งถือว่าเป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นในรอบ 152 ปี หรืออาจกล่าวได้ว่าเราจะได้พบกับปรากฏการณ์นี้ได้เพียงครั้งเดียวในชีวิตเท่านั้น

บลัดมูน (Blood Moon) หรือ ”พระจันทร์สีเลือด"

           โดยปรากฏการณ์ทั้ง 3 อย่างประกอบด้วย “ซุปเปอร์มูน” หมายถึงช่วงเวลาที่ดวงจันทร์เคลื่อนตัวเข้าใกล้โลกมากกว่าปกติ จนทำให้มองเห็นขนาดใหญ่ขึ้น 14% และมีความสว่างมากขึ้นถึง 30% ต่อมาคือปรากฏการณ์ ”บลูมูน” ซึ่งหมายถึงปรากฏการณ์ที่มีดวงจันทร์เต็มดวงถึง 2 รอบในเดือนเดียวกัน และปรากฏการณ์สุดท้ายคือ “พระจันทร์สีเลือด” ซึ่งเกิดจากจันทรุปราคาในช่วงที่ดวงจันทร์ถูกเงาของโลกบดบังอย่างสมบูรณ์ จนทำให้กลายเป็นสีแดง

ดวงจันทร์กลมโตโผล่ขึ้นมาจากขอบฟ้าหลังพระอาทิตย์ตก

           ปรากฏการณ์”ซูเปอร์บลูมูนสีเลือด”นี้ ไม่สามารถมองเห็นได้จากทุกมุมโลก โดยพื้นที่แถบยุโรป อเมริกาใต้ และแอฟริกา จะพลาดโอกาสในการชม เนื่องจากดวงจันทร์ได้ลับขอบฟ้าไปแล้วในช่วงเวลาที่เกิดปรากฏการณ์นี้ ส่วนประเทศไทยถือว่าโชคดีทั้งจังหวะเวลา บวกกับท้องฟ้าและสภาพอากาศที่ค่อนข้างเป็นใจ เราเลยมีโอกาสออกไปเก็บภาพบรรยากาศปรากฏการณ์นี้คู่กับ วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร หนึ่งในสัญลักษณ์สำคัญของกรุงเทพมหานครฯ

ความสว่างของซุปเปอร์มูนที่ส่องกระจ่างไปทั่วแม้จะมีหมู่เมฆเคลื่อนตัวมาบดบัง

พระปรางค์วัดอรุณฯและดวงจันทร์ที่ถูกเงาของโลกบดบังไปแล้วครึ่งดวง

           เงาของโลกนั้นเริ่มต้นบดบังดวงจันทร์ตั้งแต่ช่วงเวลาประมาณ 18.48 น. เกิดเป็นจันทรุปราคาบางส่วนที่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า จากนั้นจึงค่อยๆเข้าสู่จันทรุปราคาเต็มดวง ซึ่งทำให้ดวงจันทร์เปลี่ยนเป็นสีแดงจากเงามืดของโลกเป็นเวลานานถึง 1 ชั่วโมง 16 นาที จากนั้นเงามืดก็ค่อยๆคลายออกจนสิ้นสุดเหตุการณ์จันทรุปราคาในเวลา 22.11 น.

ดวงจันทร์ที่ถูกเงาของโลกบดบังไปแล้วครึ่งดวง ก่อนที่จะกลายเป็นพระจันทร์สีเลือดเมื่อถูกเงาทาบทับครบทุกส่วน

ลำดับภาพเหตุการณ์ตั้งแต่ดวงจันทร์เริ่มถูกเงาบดบัง จนกลายเป็นพระจันทร์สีเลือด

           เมื่อดวงจันทร์ค่อยๆเปลี่ยนเป็นสีแดง เราเปลี่ยนมุมเก็บภาพจากมุมกว้างนอกตัววัด และเดินเข้าไปยังตัวพระปรางค์ของวัดอรุณฯ เพื่อเก็บภาพอย่างใกล้ชิดมากขึ้น และพบว่าบริเวณโดยรอบพระปรางค์นั้นเต็มไปด้วยเหล่าช่างภาพมากมายที่เดินทางมาบันทึกภาพเหตุการณ์ประวัติศาสตร์นี้เอาไว้

พระจันทร์สีเลือดที่ค่อยๆลอยสูงขึ้นเคียงข้างองค์พระปรางค์

ภาพโคลสอัพองค์พระปรางค์และพระจันทร์สีเลือด

           ปิดท้ายกันด้วยภาพพระจันทร์สีเลือดเหนือยอดพระปรางค์วัดอรุณ และสำหรับใครที่พลาดโอกาสไป ในวันที่ 21 กรกฎาคม 2561 นี้ ก็จะเกิดปรากฏการณ์จันทรุปราคาขึ้นอีกครั้ง แม้ว่าอาจจะไม่ได้ปรากฏการณ์บลูมูนและซุปเปอร์มูนเกิดขึ้นร่วมด้วยเหมือนในครั้งนี้ แต่ก็ไม่ควรพลาดชมเช่นกัน

พระจันทร์สีเลือดลอยขึ้นสู่ยอดพระปรางค์วัดอรุณฯ