จังหวัดแม่ฮ่องสอนตั้งอยู่ทางภาคเหนือของประเทศไทย มีสภาพภูมิประเทศเป็นภูเขาสูงสลับซับซ้อน และได้ชื่อว่าเป็น "เมืองสามหมอก" เนื่องจากมีสภาพอากาศปกคลุมไปด้วยหมอกเกือบตลอดทั้งปี และยังมีสภาพทางธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ จึงมีสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติมากมาย รวมถึงวัดวาอารามหลายแห่งที่อยู่คู่บ้านคู่เมืองมาอย่างยาวนาน โดยช่วงท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมมากที่สุดจะเป็นช่วงฤดูหนาวราวเดือนพฤศจิกายนถึงเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปี นักท่องเที่ยวนิยมมาสัมผัสอากาศหนาวและชมทะเลหมอกที่มีความสวยงามติดอันดับต้นๆ ของประเทศ โดยจุดหมายปลายทางยอดนิยมจะเป็นอำเภอปาย ซึ่งเป็นอำเภอเล็กๆ ที่เงียบสงบแต่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวจากวิถีชีวิตชุมชนที่เรียบง่าย มีทิวทัศน์ทางธรรมชาติที่สวยงาม และมีสะพานประวัติศาสตร์ที่เป็นแลนด์มาร์กของเมือง นอกจากนี้ภายในตัวเมืองแม่ฮ่องสอนก็ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงามไม่แพ้กัน เช่น วัดพระธาตุดอยกองมูที่เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง ทุ่งดอกบัวตองที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย และสะพานไม้ไผ่ซูตองเป้ที่ยาวที่สุดในประเทศไทย ซึ่งสิ่งที่กล่าวมาทั้งหมดนี้คือจุดเด่นที่ได้รับการนิยามไว้ในคำขวัญประจำจังหวัดแม่ฮ่องสอนว่า "หมอกสามฤดู กองมูเสียดฟ้า ป่าเขียวขจี ผู้คนดี ประเพณีงาม ลือนามถิ่นบัวตอง"

บ้านจ่าโบ่ (Ban Cha Bo) เป็นชุมชนเล็กๆ ของชาวลาหู่ที่มีความสงบและเรียบง่ายท่ามกลางธรรมชาติบนดอยสูง ซึ่งเป็นเสน่ห์ของการท่องเที่ยววิถีชุมชมท้องถิ่นเชิงอนุรักษ์อีกแห่งหนึ่งของแม่ฮ่องสอน โดยไฮไลท์ของการท่องเที่ยวบ้านจ่าโบ่คือการชมทะเลหมอกที่ร้านก๋วยเตี๋ยวห้อยขาที่สามารถชมวิวทะเลหมอกอันสวยงามและขุนเขาอันเขียวขจีที่โอบล้อมได้อย่างเต็มตา นักท่องเที่ยวนิยมมาสัมผัสอากาศหนาวและธรรมชาติอันสดชื่นกันในช่วงฤดูหนาวของทุกปี

อนุสาวรีย์พระยาสิงหนาทราชา (Phraya Singhanatracha Memorial) เป็นอนุสาวรีย์ที่สร้างขึ้นเพื่อรำลึกถึงคุณงามความดีของพระยาสิงหนาทราชาผู้เป็นเจ้าเมืองแม่ฮ่องสอนคนแรก โดยอนุสาวรีย์แห่งนี้ตั้งอยู่บริเวณถนนศิริมลคลในอำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน บริเวณโดยรอบอนุสาวรีย์ตกแต่งด้วยสวนอย่างสวยงาม และเปิดให้ชาวแม่ฮ่องสอนและประชาชนทั่วไปได้เข้าสักการะเพื่อความเป็นสิริมงคล นอกจากนี้ บริเวณที่ตั้งของอนุสาวรีย์พระยาสิงหนาทราชายังเป็นจุดที่สามารถมองเห็นพระธาตุดอยกองมูได้อย่างชัดเจนอีกด้วย

อนุสรณ์สถานมิตรภาพไทย-ญี่ปุ่น อ.ขุนยวม (Thai-Japan Friendship Memorial Hall Khumyuam) เป็นพิพิธภัณฑ์ที่เก็บรวบรวมเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ของเมืองแม่ฮ่องสอนเอาไว้ โดยเฉพาะในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่ทหารญี่ปุ่นได้เข้ามามีบทบาทในเมืองไทย โดยภายในบริเวณมีการจัดแสดงนิทรรศการบอกเล่าเรื่องราวต่างๆ และข้าวของเครื่องใช้ในสมัยนั้นเอาไว้ให้คนรุ่นหลังได้ศึกษา

ปางอุ๋ง (Pang Oung) ได้ชื่อว่าเป็นสวิตเซอร์แลนด์เมืองไทย ที่นี่เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติในฤดูหนาวของจังหวัดแม่ฮ่องสอนที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ด้วยบรรยากาศที่สวยงามของอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่บนยอดเขาที่รายล้อมด้วยทิวสนและขุนเขา โดยเฉพาะในช่วงพระอาทิตย์ขึ้นก็จะยิ่งมีทัศนียภาพทางธรรมชาติที่สวยงามตราตรึงใจจากสายหมอกสีขาวล่องลอยอยู่เหนืออ่างเก็บน้ำพร้อมกับแสงอาทิตย์ที่สาดส่องลงมากระทบกับผิวน้ำจนเป็นประกาย ทำให้ปางอุ๋งเป็นอีกหนึ่งสถานที่สุดโรแมนติกที่เต็มไปด้วยบรรยากาศอันน่าประทับใจ โดยมีลานกางเต็นท์และบ้านพักไว้บริการนักท่องเที่ยวสายธรรมชาติที่สนใจมาท่องเที่ยวและพักแรม

ถ้ำปลา (Tham Pla) เป็นถ้ำที่มีน้ำใต้ภูเขาไหลอยู่ตลอดเวลาจนเกิดแอ่งน้ำขนาดใหญ่ภายในถ้ำและมีฝูงปลามาอาศัยอยู่อย่างมากมายจนเป็นที่มาของชื่อ “ถ้ำปลา” ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของถ้ำแห่งนี้นั่นเอง โดยถ้ำปลาตั้งอยู่ภายในพื้นที่ของอุทยานแห่งชาติถ้ำปลา-น้ำตกผาเสื่อซึ่งมีสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์และร่มรื่น เป็นอีกหนึ่งจุดหมายปลายทางที่นักท่องเที่ยวสายธรรมชาติไม่ควรพลาด