หุบเขาแห่งรัก จังหวัดเนฟเชียร์ ประเทศตุรกี

  • อ่าน (4,293)
  • By Webmaster
  • 09:12:36 | 13 พ.ย. 2562

หุบเขาแห่งรัก จังหวัดเนฟเชียร์ ประเทศตุรกี

Love Valley, Nevseshir, Turkey

             หุบเขาแห่งรัก (Love Valley) เป็นกลุ่มแท่งหินทรงยาวๆ ตั้งๆ ที่แปลกประหลาดอย่างน่าเหลือเชื่อ หุบเขาแห่งรักตั้งอยู่ทางตอนเหนือของเกอเรเม(Gereme) ใจกลางคัปปาโดเชีย (Cappadocia) ดินแดนมหัศจรรย์ทางธรรมชาติที่ยอดเยี่ยมหนึ่งเดียวแห่งนี้ ขณะเดินเที่ยวชมหินเสาต่างๆ ที่นี่นักท่องเที่ยวจะเกิดความรู้สึกราวกับกำลังต้องมนตร์แห่ง Cappadocia อย่างแท้จริง


ประวัติ

           Love Valley ตั้งอยู่ระหว่างพิพิธภัณฑ์กลางแจ้งเกอเรเม่ และเมือง Goreme เป็นหุบเขาที่ซ่อนเร้นอยู่พร้อมรูปทรงที่แปลกประหลาดน่าอัศจรรย์ใจของบรรดาเสาหิน เนื่องจากรูปทรงของเสาหินบริเวณนี้มีความคล้ายคลึงกับลึงค์ หรืออวัยวะเพศชาย ดูราวกับว่าเป็นการสร้างขึ้นเพื่อแสดงความเคารพต่อความอุดมสมบูรณ์ของเพศชายในสมัยโบราณ อย่างไรก็ตามการก่อตัวของกลุ่มเสาหินที่น่าทึ่งเหล่านี้ จะดูอย่างไรก็อยู่ห่างไกลจากความเป็นไปได้ที่มนุษย์จะสร้างขึ้น

           พื้นที่ที่เป็นกลุ่มเสาหินที่ Love Valley ตั้งอยู่บนความสูงกว่าหนึ่งพันเมตรจากระดับน้ำทะเล โดยทั่วไปพื้นที่บริเวณนี้มีฝนเบาบาง เนื่องจากคัปปาโดเชียเป็นภูมิภาคที่มีฤดูร้อนแห้งแล้งและฤดูหนาวที่อากาศหนาวจัดและมีหิมะตก

           นักท่องเที่ยวสามารถเยี่ยมชม Love Valley จากจุดชมวิวที่ด้านบน หรือเดินลงไปยังฐานของโครงสร้างหินขนาดใหญ่เหล่านี้ก็ได้เช่นกัน ขณะเดินเที่ยวชมหินเสาต่างๆ ที่นี่นักท่องเที่ยวจะต้องเกิดความรู้สึกตะลึงและทึ่ง ราวกับกำลังต้องเวทมนตร์แห่ง Cappadocia อย่างแท้จริง


Love Valley เป็นจุดที่เหมาะสำหรับการถ่ายภาพตอนเช้าๆ ยามพระอาทิตย์ขึ้น


หินรูปทรงประหลาดลักษณะคล้ายลึงค์ที่เป็นเอกลักษณ์ของ Love Valley


ภูมิทัศน์ที่สวยงามแปลกตาของ Love Valley


นอกจากนี้ Love Valley ยังเป็นบริเวณที่นักท่องเที่ยวนิยมมารอชมการลงจอดของบอลลูนด้วยเช่นกัน


การเดินทางจาก Istanbul ไปยัง Neveshir

             - เครื่องบิน (Airplane) จากอิสตันบูลไปเนฟเชียร์มีระยะทางประมาณ 750 กิโลเมตร การเดินทางโดยรถยนต์จะใช้เวลาประมาณ 8 – 10 ชั่วโมง หากนักท่องเที่ยวไม่ได้มีความประสงค์ที่จะเช่ารถขับเพื่อแวะเที่ยวชมที่ต่างๆ ระหว่างทาง การเดินทางโดยเครื่องบินซึ่งใช้เวลาเพียง 1 ชั่วโมง 10 นาที จึงเป็นทางเลือกที่สะดวกและประหยัดเวลาไปได้มาก จากอิสตันบูลมีเที่ยวบินตรงออกจากสนามบิน Istanbul International Airport และจากสนามบิน Sabiha Gokcen International Airport ไปยังสนามบิน Neveshir Kapadokya Airport ที่จังหวัดเนฟเชียร์ ให้บริการ 4 – 6 เที่ยวต่อวัน นักท่องเที่ยวสามารถตรวจสอบตารางเที่ยวบิน ราคา และดูข้อมูลเพิ่มเติมและได้ที่ https://www.google.com/flights?hl=th&authuser=0#flt=/m/09949m./m/08nnz6.2019-11-01*/m/08nnz6./m/09949m.2019-11-05;c:THB;e:1;sd:1;t:f

             - รถโดยสารประจำทาง (Bus) หากนักท่องเที่ยวไม่ได้มีเงื่อนไขเรื่องเวลาและต้องการประหยัดค่าเดินทาง ซึ่งราคาตั๋วรถโดยสารสำหรับเส้นทางอิสตันบูล – เนฟเชียร์ นั้นเริ่มต้นที่ 120 ลีราตุรกี หรือราวๆ 640 บาท โดยจะใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 10 ชั่วโมง ทั้งนี้จากอิสตันบูลไปยังเนฟเชียร์จะมีรถให้บริการอยู่เพียงไม่กี่เที่ยว โดยบริษัทที่ให้บริการเดินรถคือ ONCU นักท่องเที่ยวสามารถตรวจสอบตารางเวลาการเดินรถ ราคา และดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.busbud.com/en/bus-schedules-results/sxk96f/sybgbd?outbound_date=2019-10-18&adults=1

             - รถเช่า (Rental Car) สำหรับนักท่องเที่ยวที่วางแผนเดินทางท่องเที่ยวในตุรกีโดยการเช่ารถขับเองอยู่แล้ว ก็มีบริษัทเช่ารถยนต์ให้บริการอยู่หลายบริษัท อาทิ Avis, Budget, Enterprise, Europcar, Hertz และ Sixt สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.rentalcars.com/en/city/tr/istanbul/


การเดินทางจากสนามบิน Nevsehir Kapadokya Airport ไป Cappadocia Old Town (Goreme)

             - รถยนต์ (Car) จากสนามบิน Nevsehir Kapadokya Airport ไป Cappadocia Old Town หรือ Goreme ซึ่งเป็นศูนย์กลางของที่พัก ร้านอาหาร ร้านค้า บริการรถแท็กซี่ และบริษัทนำเที่ยวในคัปปาโดเชีย นั้นมีระยะทาง 43 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางโดยรถยนต์ประมาณ 40 นาที

             - ชัตเทิลบัส (Shuttle Bus) ที่บริเวณหน้าสนามบินมีรถชัตเทิลบัสให้บริการไปยังตัวเมือง Goreme ใช้เวลาเดินทางประมาณ 40 นาที โดยรถจะพาผู้โดยสารไปส่งถึงหน้าโรงแรมของแต่ละคน ค่าโดยสาร 40 ลีราตุรกีโดยประมาณ ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://argeus.com/airport-transfers


การเดินทางไป Love Valley

             - รถยนต์ (Car) จาก Cappadocia Old Town หรือ Goreme ไป Love Valley มีระยะทาง 4.4 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางโดยรถยนต์ประมาณ 7 นาที

           ทั้งนี้ วิธีเดินทางท่องเที่ยวใน Cappadocia มีอยู่ 2 วิธีหลักๆ (ส่วนการล่องบอลลูนนั้นจะเป็นกิจกรรมสั้นๆ เพียงหนึ่งชั่วโมง) คือ 1. การเช่ารถขับเที่ยวเอง และ 2. การซื้อทัวร์ โดยทั่วไปโปรแกรมทัวร์ของบริษัทต่างๆ ที่ให้บริการจะแบ่งเป็น 3 เส้นทาง ได้แก่

             Green Tour : Panorama of Goreme, Underground City, Lunch in Ihlara, Walking in Ihlara Valley, Selime Monastery, Pigeon Valley, Onyx Factory

             Red Tour : Uchisar Castle, Love Valley, Goreme Open Air Museum, Pasabag Fairy Chimneys, Avanos-Pottery Demo, Lunch in Avanos, Devrent Magic Valley, Urgup Family Chimneys, Carpet Manufacturer

             South Cappadocia Tour : Maskendir Valley, Red Valley, Rose Valley, Cavusin Valley, Underground City, Pigeon Valley Uchisar Castle, Panorama Love Valley

           นักท่องเที่ยวสามารถเลือกซื้อทัวร์ตามเส้นทางที่สนใจ โดย Love Valley จะอยู่ในเส้นทางสายสีแดงที่เรียกว่า Red Tour และอยู่ในเส้นทางสายสีฟ้าที่เรียกว่า South Cappadocia Tour ซึ่งราคาของทัวร์จะอยู่ที่คนละประมาณ 120 ลีราตุรกี เป็นราคาที่รวมรถรับส่งจากที่พักและอาหารกลางวันแล้ว โดยรถจะมารับที่โรงแรมที่พักในตอนเช้า เวลาประมาณ 9.00 – 9.30 น. และกลับมาส่งยังที่พักในช่วงเย็นเมื่อสิ้นสุดโปรแกรมในเวลาประมาณ 16.00 – 18.00 น. ดังนั้นหากนักท่องเที่ยวต้องการซื้อทัวร์มากกว่าหนึ่งเส้นทางจึงต้องไปคนละวันกัน


เวลาทำการเปิด – ปิด

           ตลอด 24 ชั่วโมง


พื้นที่ที่เป็นกลุ่มเสาหินที่ Love Valley แห่งนี้ตั้งอยู่บนความสูงกว่าหนึ่งพันเมตรจากระดับน้ำทะเล


อัตราค่าเข้าชม

           ไม่เสียค่าเข้าชม


คัปปาโดเชียเป็นภูมิภาคที่มีฤดูร้อนแห้งแล้งและฤดูหนาวที่อากาศหนาวจัดและมีหิมะตก


นักท่องเที่ยวสามารถเที่ยวชม Love Valley จากจุดชมวิวที่ด้านบน หรือเดินลงไปยังฐานของโครงสร้างหินขนาดใหญ่เหล่านี้ก็ได้เช่นกัน


สิ่งที่ไม่ควรพลาดเมื่อไปเที่ยว Love Valley

           สิ่งหนึ่งที่ไม่ควรพลาดคือ ถ่ายภาพกับม้านั่งที่มีซุ้มโค้งเป็นรูปหัวใจสีแดงซึ่งมีทัศนียภาพอันสวยงามและน่าทึ่งของ Love Valley ฉากหลัง


ที่นั่งรูปหัวใจสีแดง อีกหนึ่งเอกลักษณ์ของการมาเที่ยว Love Valley สำหรับให้นักท่องเที่ยวได้เก็บภาพประทับใจ


เวลาที่เหมาะสมสำหรับการท่องเที่ยว

           นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางไปเที่ยว Love Valley ได้ตลอดทั้งปี ทั้งนี้ ช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือฤดูใบไม้ผลิ (เดือนมีนาคม - กลางเดือนมิถุนายน) ซึ่งเป็นช่วงที่สภาพอากาศของประเทศตุรกีกำลังดี ไม่ร้อนหรือหนาวจนเกินไปและเป็นช่วงที่กลางวันยาว นักท่องเที่ยวจึงสามารถใช้เวลาเที่ยวชมสถานที่ได้ยาวนานขึ้น ฤดูใบไม้ร่วง (กลางเดือนกันยายน - ตุลาคม) ก็เป็นทางเลือกที่ดีเช่นกัน แต่กลางวันสั้นและมีโอกาสเกิดฝนตก

 

           นักท่องเที่ยวที่สนใจไปเที่ยวชม Love Valley สามารถศึกษา ข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่

                       หุบเขาแห่งรัก จังหวัดเนฟเชียร์ ประเทศตุรกี

                       (Love Valley, Nevsehir, Turkey)

                       ระดับความนิยม : 

                       อัตราค่าเข้าชม : ไม่เสียค่าเข้าชม     

                       เวลาเปิด – ปิด : ตลอด 24 ชั่วโมง

                       ตั้งอยู่ที่ : Goreme, Nevsehir Merkez, Nevsehir, Turkey

                       โทรศัพท์ : -                                 

                       เว็บไซต์ : -

                       ข้อมูลอื่นๆที่ควรรู้ : พยากรณ์อากาศ https://www.accuweather.com/

                                       เว็บไซต์การท่องเที่ยวเมืองเกอเรเม่ https://www.goreme.com

                                       เว็บไซต์การท่องเที่ยวประเทศตุรกี https://www.visitturkey.in/

 

 

สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ

รวมที่เที่ยว 4 เมืองเด่น จาก ออสโล ถึง โอเลซุนด์ ประเทศนอร์เวย์

นอร์เวย์ (Norway) ดินแดนแห่งฟยอร์ดและขุนเขาที่งดงามราวกับภาพวาด การเดินทางจากออสโล (Oslo) เมืองหลวงของประเทศ สู่เบอร์เกน (Bergen) ฟลอม (Flam) และเอลซุนด์ ( Alesund) เปรียบเสมือนการเปิดประตูสู่โลกใหม่ที่เต็มไปด้วยธรรมชาติอันบริสุทธิ์ เส้นทางสายนี้จะพาคุณไปสัมผัสกับบ้านเมืองน่ารักๆ ทัศนียภาพที่สวยงามตระการตาของเทือกเขาสูงชัน น้ำตกที่ไหลเชี่ยว ฟยอร์ดที่ทอดยาว และหมู่บ้านเล็กๆ ที่ซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางธรรมชาติของนอร์เวย์

อ่านต่อ

รวมที่เที่ยว 3 เมืองเด่น จาก ออสโล ถึง โลโฟเทน ประเทศนอร์เวย์

นอร์เวย์ (Norway) ดินแดนแห่งฟยอร์ดและขุนเขาที่แสนสวยงาม เต็มไปด้วยเส้นทางท่องเที่ยวมากมายที่พร้อมจะมอบความทรงจำสุดประทับใจให้แก่ผู้มาเยือน การเดินทางจากออสโล (Oslo) สู่ทรุมเซอ (Tromso) และโลโฟเทน (Lofoten) นับเป็นอีกหนึ่งเส้นทางท่องเที่ยวที่น่าสนใจ เพราะนักท่องเที่ยวจะได้เดินทางผ่านภูมิประเทศที่หลากหลาย ตั้งแต่เมืองหลวงที่ทันสมัย ไปจนถึงธรรมชาติอันบริสุทธิ์ของอาร์กติก และหมู่เกาะที่สวยงามราวภาพวาด

อ่านต่อ

หมู่บ้านซอมมารอย เมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์

หมู่บ้านซอมมารอย (Sommarøy) เป็นหมู่บ้านชาวประมงเก่าแก่ทางตะวันตกของเมืองทรุมเซอ (Tromsø) ประเทศนอร์เวย์ อยู่ห่างจากเมืองทรุมเซอไปทางตะวันตกประมาณ 58 กิโลเมตร เป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมเนื่องจากมีหาดทรายขาวและทิวทัศน์สวยงาม

อ่านต่อ

มหาวิหารอาร์กติก เมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์

มหาวิหารอาร์กติก (Arctic Cathedral) เป็นหนึ่งในแลนด์มาร์คที่โดดเด่นที่สุดของเมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์ ด้วยสถาปัตยกรรมที่เป็นเอกลักษณ์และความหมายอันลึกซึ้ง ทำให้มหาวิหารแห่งนี้กลายเป็นสัญลักษณ์ของเมืองและเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเยือนทรุมเซอ

อ่านต่อ

มหาวิหารทรุมเซอ เมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์

มหาวิหารทรุมเซอ (Tromso Cathedral) หรือที่รู้จักในชื่อ "Tromsdalen Church" เป็นโบสถ์ที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นด้วยโครงสร้างไม้ขนาดใหญ่ และการออกแบบตกแต่งภายในอันงดงาม

อ่านต่อ

ท่าเรือทรุมเซอ เมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์

ท่าเรือทรุมเซอ (Port of Tromsø) ตั้งอยู่ในใจกลางเมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์ ท่าเรือแห่งนี้เป็นมากกว่าแค่จุดขึ้นลงเรือเท่านั้น แต่ยังเป็นหัวใจสำคัญของเมืองทรุมเซอ และเป็นประตูสู่ดินแดนอาร์กติกที่น่าตื่นตาตื่นใจ

อ่านต่อ

กระเช้าไฟฟ้าเฟียลไฮเซน เมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์

กระเช้าไฟฟ้าเฟียลไฮเซน (Fjellheisen Cable Car) เป็นอีกหนึ่งไฮไลต์ที่พลาดไม่ได้เมื่อมาเยือนเมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์ การนั่งกระเช้าลอยฟ้าขึ้นไปบนยอดเขาสโตรสไตเนิน (Storsteinen Mountain) จะพานักท่องเที่ยวไปสัมผัสกับวิวเมืองทรุมเซอและฟยอร์ดอันงดงามแบบ 360 องศา

อ่านต่อ

หมู่บ้านแฮมนอย หมู่เกาะโลโฟเทน ประเทศนอร์เวย์

หมู่บ้านแฮมนอย (Hamnoy) ถือเป็นสัญลักษณ์ของหมู่เกาะโลโฟเทน (Lofoten) มีลักษณะโดดเด่นคือ “โรบูเอ้” สีแดง (Rorbuer) กระท่อมสำหรับพักชั่วคราวของชาวประมงที่เรียงรายอยู่บนโขดหิน และมีฉากหลังเป็นภูเขา เป็นภาพที่ปรากฏอยู่บนโปสการ์ด ของที่ระลึก และสื่อประชาสัมพันธ์ท่องเที่ยวต่างๆ

อ่านต่อ

หมู่บ้านนูส์ฟยอร์ด หมู่เกาะโลโฟเทน ประเทศนอร์เวย์

หมู่บ้านนูส์ฟยอร์ด (Nusfjord) คือหมู่บ้านชาวประมงเล็ก ๆ ตั้งอยู่บนชายฝั่งด้านใต้ของเกาะ Flakstadøya ในอ่าวเวสฟยอร์เดน (Vestfjord) เขตเทศบาล Flakstad ของเมือง Lofoten ประเทศนอร์เวย์ หมู่บ้านแห่งนี้ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในหมู่บ้านชาวประมงที่สวยที่สุดในนอร์เวย์ และอาจจะเป็นหนึ่งในหมู่บ้านชาวประมงที่สวยที่สุดในโลกก็เป็นได้

อ่านต่อ

หมู่บ้านซาคริซอย หมู่เกาะโลโฟเทน ประเทศนอร์เวย์

หมู่บ้านซาคริซอย (Sakrisoy) เป็นหมู่บ้านเล็กๆ ที่ตั้งอยู่เชิงเขาโอลสตินด์ (Olstind) ซึ่งเป็นหนึ่งในภูเขาที่โดดเด่นที่สุดของหมู่เกาะโลโฟเทน (Lofoten) และอีกหนึ่งลักษณะที่โดดเด่นคือหมู่บ้านนี้คือ “โรบูเอ้” สีเหลือง (Rorbuer) กระท่อมสำหรับพักชั่วคราวของชาวประมงที่เรียงรายอยู่ตามริมฝั่งฟยอร์ด

อ่านต่อ
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ