- หน้าแรก
- ท่องเที่ยวต่างประเทศ
- หุบเขานกพิราบ จังหวัดเนฟเชียร์ ประเทศตุรกี
หุบเขานกพิราบ จังหวัดเนฟเชียร์ ประเทศตุรกี
- อ่าน (5,455)
- By Webmaster
- 17:36:30 | 8 พ.ย. 2562
หุบเขานกพิราบ จังหวัดเนฟเชียร์ ประเทศตุรกี
Pigeon Valley, Nevsehir, Turkey
หุบเขานกพิราบ (Pigeon Valley) เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญอีกแห่งใน Cappadocia ซึ่งมีจุดชมวิวอยู่ตรงบริเวณหน้าผาที่ชาวเมืองโบราณได้ขุดเจาะเป็นรู เพื่อให้นกพิราบเข้าไปทำรังอาศัยอยู่อย่างมากมาย
ประวัติ
ชื่อของหุบเขานกพิราบ หรือ Pigeon Valley มีที่มาจากบ้านของนกพิราบที่สลักเข้าไปในหิน ในอดีตนกชนิดนี้ทำหน้าที่เป็นผู้ส่งสารที่สำคัญสำหรับผู้คนที่อาศัยอยู่ในแถบนี้ ทั้งยังเป็นสัตว์เลี้ยงอีกด้วย หุบเขานกพิราบเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญอีกแห่งใน Cappadocia ภูมิประเทศเป็นพื้นที่วกวนดังเขาวงกตทว่ามีความงดงามและน่าอัศจรรย์เป็นระยะทางยาวหลายกิโลเมตรระหว่างเกอเรเม่ (Goreme) และยูชิซาร์ (Uchisar) ภูมิประเทศของที่นี่มีความประหลาด หลากหลาย ราวกับเป็นภูมิประเทศบนดาวดวงอื่น ไกลออกไปมีภูเขาไฟ ส่วนรอบๆ บริเวณนี้ประกอบด้วยหินก่อตัวรูปทรงประหลาด โดยในอดีตนั้นเคยเป็นถ้ำซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของผู้คน
จุดชมวิว หุบเขานกพิราบอยู่ตรงบริเวณหน้าผาที่ชาวเมืองโบราณได้ขุดเจาะเป็นรู เพื่อให้นกพิราบเข้าไปทำรังอาศัยอยู่อย่างมากมาย จากจุดนี้ นักท่องเที่ยวจะสามารถมองเห็นปราสาทอุชิซาร์ (Uchisar Castle) ได้จากระยะไกล ที่นี่เต็มไปด้วยนกพิราบมากมายที่ชาวบ้านเลี้ยงไว้เพื่อนำมูลมาทำเป็นปุ๋ยบำรุงต้นไม้ โดยที่จุดชมวิวจะมีอาหารนกพิราบขายสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการซื้ออาหารเลี้ยงนก
บริเวณริมผาซึ่งเป็นจุดชมวิวที่หุบเขานกพิราบมีต้นไม้จำลองที่เต็มไปด้วยดวงตาสีฟ้าแขวนอยู่โดดเด่น ด้วยเรื่องของความเชื่อกับผู้คนนั้นเป็นของคู่กันมาเนิ่นนาน เช่นกันกับดินแดนแถบนี้ที่มีความเชื่อเรื่องนัยน์ตาปิศาจ โดยเชื่อกันว่าบุคคลพิเศษบางคนมีดวงตาชั่วร้ายที่สามารถจ้องเพื่อทำอันตรายผู้อื่นได้ ซึ่งสิ่งที่จะช่วงปกป้องภัยร้ายจากดวงตาปิศาจนี้ก็คือดวงตาสีฟ้า
ด้วยเหตุนี้ดวงตาสีฟ้าจึงทำหน้าที่เป็นเครื่องรางที่ผู้คนแถบนี้ให้ความนับถือ เมื่อกาลเวลาผ่านไปเครื่องรางของขลังนี้ก็ได้กลายมาเป็นของที่ระลึกจากดินแดนแห่งนี้ซึ่งสามารถพบเห็นได้ทั่วไปโดยปรากฏอยู่ทั้งบนกำไล ต่างหู สร้อยคอ พวงกุญแจ และอื่นๆ อีกหลายอย่าง รวมถึงดวงตาสีฟ้าที่ถูกนำมาแขวนไว้บนต้นไม้จำลองริมผาที่หุบเขานกพิราบแห่งนี้จนกลายเป็นสัญลักษณ์อีกอย่างหนึ่งของที่นี่
นอกจากนี้บริเวณริมขอบผายังมีแผงขายของที่ระลึก และระหว่างใจกลางหุบเขา Pigeon Valley ก็มีคาเฟ่ให้นักท่องเที่ยวได้แวะพักด้วยเช่นกัน
หุบเขานกพิราบ (Pigeon Valley)
หุบเขานกพิราบ (Pigeon Valley)
หุบเขานกพิราบ (Pigeon Valley)
การเดินทางจาก Istanbul ไปยัง Neveshir
- เครื่องบน (Airplane) จากอิสตันบูลไปเนฟเชียร์มีระยะทางประมาณ 750 กิโลเมตร การเดินทางโดยรถยนต์จะใช้เวลาประมาณ 8 – 10 ชั่วโมง หากนักท่องเที่ยวไม่ได้มีความประสงค์ที่จะเช่ารถขับเพื่อแวะเที่ยวชมที่ต่างๆ ระหว่างทาง การเดินทางโดยเครื่องบินซึ่งใช้เวลาเพียง 1 ชั่วโมง 10 นาที จึงเป็นทางเลือกที่สะดวกและประหยัดเวลาไปได้มาก จากอิสตันบูลมีเที่ยวบินตรงออกจากสนามบิน Istanbul International Airport และจากสนามบิน Sabiha Gokcen International Airport ไปยังสนามบิน Neveshir Kapadokya Airport ที่จังหวัดเนฟเชียร์ ให้บริการ 4 – 6 เที่ยวต่อวัน นักท่องเที่ยวสามารถตรวจสอบตารางเที่ยวบิน ราคา และดูข้อมูลเพิ่มเติมและได้ที่ https://www.google.com/flights?hl=th&authuser=0#flt=/m/09949m./m/08nnz6.2019-11-01*/m/08nnz6./m/09949m.2019-11-05;c:THB;e:1;sd:1;t:f
- รถโดยสารประจำทาง (Bus) หากนักท่องเที่ยวไม่ได้มีเงื่อนไขเรื่องเวลาและต้องการประหยัดค่าเดินทาง ซึ่งราคาตั๋วรถโดยสารสำหรับเส้นทางอิสตันบูล – เนฟเชียร์ นั้นเริ่มต้นที่ 120 ลีราตุรกี หรือราวๆ 640 บาท โดยจะใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 10 ชั่วโมง ทั้งนี้จากอิสตันบูลไปยังเนฟเชียร์จะมีรถให้บริการอยู่เพียงไม่กี่เที่ยว โดยบริษัทที่ให้บริการเดินรถคือ ONCU นักท่องเที่ยวสามารถตรวจสอบตารางเวลาการเดินรถ ราคา และดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.busbud.com/en/bus-schedules-results/sxk96f/sybgbd?outbound_date=2019-10-18&adults=1
- รถเช่า (Rental Car) สำหรับนักท่องเที่ยวที่วางแผนเดินทางท่องเที่ยวในตุรกีโดยการเช่ารถขับเองอยู่แล้ว ก็มีบริษัทเช่ารถยนต์ให้บริการอยู่หลายบริษัท อาทิ Avis, Budget, Enterprise, Europcar, Hertz และ Sixt สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.rentalcars.com/en/city/tr/istanbul/
การเดินทางจากสนามบิน Nevsehir Kapadokya Airport ไป Cappadocia Old Town (Goreme)
- รถยนต์ (Car) จากสนามบิน Nevsehir Kapadokya Airport ไป Cappadocia Old Town หรือ Goreme ซึ่งเป็นศูนย์กลางของที่พัก ร้านอาหาร ร้านค้า บริการรถแท็กซี่ และบริษัทนำเที่ยวในคัปปาโดเชีย นั้นมีระยะทาง 43 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางโดยรถยนต์ประมาณ 40 นาที
- ชัตเทิลบัส (Shuttle Bus) ที่บริเวณหน้าสนามบินมีรถชัตเทิลบัสให้บริการไปยังตัวเมือง Goreme ใช้เวลาเดินทางประมาณ 40 นาที โดยรถจะพาผู้โดยสารไปส่งถึงหน้าโรงแรมของแต่ละคน ค่าโดยสาร 40 ลีราตุรกีโดยประมาณ ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://argeus.com/airport-transfers
การเดินทางไป Pigeon Valley
- รถยนต์ (Car) จาก Cappadocia Old Town หรือ Goreme ไป Pigeon Valley มีระยะทาง 5.5 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางโดยรถยนต์ประมาณ 9 นาที
ทั้งนี้ วิธีเดินทางท่องเที่ยวใน Cappadocia มีอยู่ 2 วิธีหลักๆ (ส่วนการล่องบอลลูนนั้นจะเป็นกิจกรรมสั้นๆ เพียงหนึ่งชั่วโมง) คือ 1. การเช่ารถขับเที่ยวเอง และ 2. การซื้อทัวร์ โดยทั่วไปโปรแกรมทัวร์ของบริษัทต่างๆ ที่ให้บริการจะแบ่งเป็น 3 เส้นทาง ได้แก่
Green Tour : Panorama of Goreme, Underground City, Lunch in Ihlara, Walking in Ihlara Valley, Selime Monastery, Pigeon Valley, Onyx Factory
Red Tour : Uchisar Castle, Love Valley, Goreme Open Air Museum, Pasabag Fairy Chimneys, Avanos-Pottery Demo, Lunch in Avanos, Devrent Magic Valley, Urgup Family Chimneys, Carpet Manufacturer
South Cappadocia Tour : Maskendir Valley, Red Valley, Rose Valley, Cavusin Valley, Underground City, Pigeon Valley Uchisar Castle, Panorama Love Valley
นักท่องเที่ยวสามารถเลือกซื้อทัวร์ตามเส้นทางที่สนใจ โดย Pigeon Valley จะอยู่ในเส้นทางสายสีเขียวที่เรียกว่า Green Tour และอยู่ในเส้นทางสายสีฟ้าที่เรียกว่า South Cappadocia Tour ซึ่งราคาของทัวร์จะอยู่ที่คนละประมาณ 120 ลีราตุรกี เป็นราคาที่รวมรถรับส่งจากที่พักและอาหารกลางวันแล้ว โดยรถจะมารับที่โรงแรมที่พักในตอนเช้า เวลาประมาณ 9.00 – 9.30 น. และกลับมาส่งยังที่พักในช่วงเย็นเมื่อสิ้นสุดโปรแกรมในเวลาประมาณ 16.00 – 18.00 น. ดังนั้นหากนักท่องเที่ยวต้องการซื้อทัวร์มากกว่าหนึ่งเส้นทางจึงต้องไปคนละวันกัน
เวลาทำการเปิด – ปิด
ตลอด 24 ชั่วโมง แต่ช่วงเวลาที่เหมาะสมคือเช้าและเย็นเนื่องจากอากาศไม่ร้อนจัด
หุบเขานกพิราบ (Pigeon Valley)
อัตราค่าเข้าชม
ไม่เสียค่าเข้าชม
หุบเขานกพิราบ (Pigeon Valley)
หุบเขานกพิราบ (Pigeon Valley)
สิ่งที่ไม่ควรพลาดเมื่อไปเที่ยว Pigeon Valley
สิ่งที่ไม่ควรพลาดเมื่อไปเที่ยว Pigeon Valley คือแวะถ่ายภาพกับต้นไม้ริมผาที่เต็มไปด้วยดวงตาสีฟ้าแขวนอยู่ เนื่องจากต้นไม้นี้เป็นเหมือนสัญลักษณ์เฉพาะของที่นี่ ที่บอกให้ทราบว่านักท่องเที่ยวได้เดินทางมาถึงหุบเขานกพิราบแห่งนี้แล้ว
ดวงตาสีฟ้าหลากหลายขนาดที่แขวนอยู่บนต้นไม้ริมผา
เวลาที่เหมาะสมสำหรับการท่องเที่ยว
นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางไปเที่ยว Pigeon Valley ได้ตลอดทั้งปี ทั้งนี้ ช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือฤดูใบไม้ผลิ (เดือนมีนาคม - กลางเดือนมิถุนายน) ซึ่งเป็นช่วงที่สภาพอากาศของประเทศตุรกีกำลังดี ไม่ร้อนหรือหนาวจนเกินไปและเป็นช่วงที่กลางวันยาว นักท่องเที่ยวจึงสามารถใช้เวลาเที่ยวชมสถานที่ได้ยาวนานขึ้น ฤดูใบไม้ร่วง (กลางเดือนกันยายน - ตุลาคม) ก็เป็นทางเลือกที่ดีเช่นกัน แต่กลางวันสั้นและมีโอกาสเกิดฝนตก
บรรยากาศโดยรอบหุบเขานกพิราบ
ข้อมูลอื่นๆ ที่ควรรู้
การขึ้นไปยังจุดชมวิวที่หุบเขานกพิราบ นักท่องเที่ยวจะต้องปีนป่ายขึ้นไปด้านบนตรงขอบผาซึ่งเป็นจุดชมวิวและเป็นลานจอดรถขนาดใหญ่ บางช่วงนั้นชันเกือบ 90 องศา แม้ว่าระว่างทางของเขาหินนั้นจะมีที่ให้เกาะเพื่อปีนป่ายขึ้นไปตลอดทาง แต่นักท่องเที่ยวควรสวมรองเท้าที่เหมาะสำหรับการเดินและไม่ลื่น
นักท่องเที่ยวที่สนใจไปเที่ยวชม Pigeon Valley สามารถศึกษา ข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่
หุบเขานกพิราบ จังหวัดเนฟเชียร์ ประเทศตุรกี
(Pigeon Valley, Nevsehir, Turkey)
ระดับความนิยม :
อัตราค่าเข้าชม : ไม่เสียค่าเข้าชม
เวลาเปิด – ปิด : ตลอด 24 ชั่วโมง แต่ช่วงเวลาที่เหมาะสมคือเช้าและเย็นเนื่องจากอากาศไม่ร้อนจัด
ตั้งอยู่ที่ : Uchisar KasabasI / Nevsehir Kapadokya / Goreme / Turkey
ข้อมูลอื่นๆที่ควรรู้ : พยากรณ์อากาศ https://www.accuweather.com/
เว็บไซต์การท่องเที่ยวเมืองเกอเรเม่ https://www.goreme.com/
เว็บไซต์การท่องเที่ยวประเทศตุรกี https://www.visitturkey.in/
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ
รวมที่เที่ยว 4 เมืองเด่น จาก ออสโล ถึง โอเลซุนด์ ประเทศนอร์เวย์
นอร์เวย์ (Norway) ดินแดนแห่งฟยอร์ดและขุนเขาที่งดงามราวกับภาพวาด การเดินทางจากออสโล (Oslo) เมืองหลวงของประเทศ สู่เบอร์เกน (Bergen) ฟลอม (Flam) และเอลซุนด์ ( Alesund) เปรียบเสมือนการเปิดประตูสู่โลกใหม่ที่เต็มไปด้วยธรรมชาติอันบริสุทธิ์ เส้นทางสายนี้จะพาคุณไปสัมผัสกับบ้านเมืองน่ารักๆ ทัศนียภาพที่สวยงามตระการตาของเทือกเขาสูงชัน น้ำตกที่ไหลเชี่ยว ฟยอร์ดที่ทอดยาว และหมู่บ้านเล็กๆ ที่ซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางธรรมชาติของนอร์เวย์
อ่านต่อรวมที่เที่ยว 3 เมืองเด่น จาก ออสโล ถึง โลโฟเทน ประเทศนอร์เวย์
นอร์เวย์ (Norway) ดินแดนแห่งฟยอร์ดและขุนเขาที่แสนสวยงาม เต็มไปด้วยเส้นทางท่องเที่ยวมากมายที่พร้อมจะมอบความทรงจำสุดประทับใจให้แก่ผู้มาเยือน การเดินทางจากออสโล (Oslo) สู่ทรุมเซอ (Tromso) และโลโฟเทน (Lofoten) นับเป็นอีกหนึ่งเส้นทางท่องเที่ยวที่น่าสนใจ เพราะนักท่องเที่ยวจะได้เดินทางผ่านภูมิประเทศที่หลากหลาย ตั้งแต่เมืองหลวงที่ทันสมัย ไปจนถึงธรรมชาติอันบริสุทธิ์ของอาร์กติก และหมู่เกาะที่สวยงามราวภาพวาด
อ่านต่อหมู่บ้านซอมมารอย เมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์
หมู่บ้านซอมมารอย (Sommarøy) เป็นหมู่บ้านชาวประมงเก่าแก่ทางตะวันตกของเมืองทรุมเซอ (Tromsø) ประเทศนอร์เวย์ อยู่ห่างจากเมืองทรุมเซอไปทางตะวันตกประมาณ 58 กิโลเมตร เป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมเนื่องจากมีหาดทรายขาวและทิวทัศน์สวยงาม
อ่านต่อมหาวิหารอาร์กติก เมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์
มหาวิหารอาร์กติก (Arctic Cathedral) เป็นหนึ่งในแลนด์มาร์คที่โดดเด่นที่สุดของเมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์ ด้วยสถาปัตยกรรมที่เป็นเอกลักษณ์และความหมายอันลึกซึ้ง ทำให้มหาวิหารแห่งนี้กลายเป็นสัญลักษณ์ของเมืองและเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเยือนทรุมเซอ
อ่านต่อมหาวิหารทรุมเซอ เมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์
มหาวิหารทรุมเซอ (Tromso Cathedral) หรือที่รู้จักในชื่อ "Tromsdalen Church" เป็นโบสถ์ที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นด้วยโครงสร้างไม้ขนาดใหญ่ และการออกแบบตกแต่งภายในอันงดงาม
อ่านต่อท่าเรือทรุมเซอ เมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์
ท่าเรือทรุมเซอ (Port of Tromsø) ตั้งอยู่ในใจกลางเมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์ ท่าเรือแห่งนี้เป็นมากกว่าแค่จุดขึ้นลงเรือเท่านั้น แต่ยังเป็นหัวใจสำคัญของเมืองทรุมเซอ และเป็นประตูสู่ดินแดนอาร์กติกที่น่าตื่นตาตื่นใจ
อ่านต่อกระเช้าไฟฟ้าเฟียลไฮเซน เมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์
กระเช้าไฟฟ้าเฟียลไฮเซน (Fjellheisen Cable Car) เป็นอีกหนึ่งไฮไลต์ที่พลาดไม่ได้เมื่อมาเยือนเมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์ การนั่งกระเช้าลอยฟ้าขึ้นไปบนยอดเขาสโตรสไตเนิน (Storsteinen Mountain) จะพานักท่องเที่ยวไปสัมผัสกับวิวเมืองทรุมเซอและฟยอร์ดอันงดงามแบบ 360 องศา
อ่านต่อหมู่บ้านแฮมนอย หมู่เกาะโลโฟเทน ประเทศนอร์เวย์
หมู่บ้านแฮมนอย (Hamnoy) ถือเป็นสัญลักษณ์ของหมู่เกาะโลโฟเทน (Lofoten) มีลักษณะโดดเด่นคือ “โรบูเอ้” สีแดง (Rorbuer) กระท่อมสำหรับพักชั่วคราวของชาวประมงที่เรียงรายอยู่บนโขดหิน และมีฉากหลังเป็นภูเขา เป็นภาพที่ปรากฏอยู่บนโปสการ์ด ของที่ระลึก และสื่อประชาสัมพันธ์ท่องเที่ยวต่างๆ
อ่านต่อหมู่บ้านนูส์ฟยอร์ด หมู่เกาะโลโฟเทน ประเทศนอร์เวย์
หมู่บ้านนูส์ฟยอร์ด (Nusfjord) คือหมู่บ้านชาวประมงเล็ก ๆ ตั้งอยู่บนชายฝั่งด้านใต้ของเกาะ Flakstadøya ในอ่าวเวสฟยอร์เดน (Vestfjord) เขตเทศบาล Flakstad ของเมือง Lofoten ประเทศนอร์เวย์ หมู่บ้านแห่งนี้ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในหมู่บ้านชาวประมงที่สวยที่สุดในนอร์เวย์ และอาจจะเป็นหนึ่งในหมู่บ้านชาวประมงที่สวยที่สุดในโลกก็เป็นได้
อ่านต่อหมู่บ้านซาคริซอย หมู่เกาะโลโฟเทน ประเทศนอร์เวย์
หมู่บ้านซาคริซอย (Sakrisoy) เป็นหมู่บ้านเล็กๆ ที่ตั้งอยู่เชิงเขาโอลสตินด์ (Olstind) ซึ่งเป็นหนึ่งในภูเขาที่โดดเด่นที่สุดของหมู่เกาะโลโฟเทน (Lofoten) และอีกหนึ่งลักษณะที่โดดเด่นคือหมู่บ้านนี้คือ “โรบูเอ้” สีเหลือง (Rorbuer) กระท่อมสำหรับพักชั่วคราวของชาวประมงที่เรียงรายอยู่ตามริมฝั่งฟยอร์ด
อ่านต่อ