หุบเขานกพิราบ จังหวัดเนฟเชียร์ ประเทศตุรกี

  • อ่าน (2,932)
  • By Webmaster
  • 17:36:30 | 8 พ.ย. 2562

หุบเขานกพิราบ จังหวัดเนฟเชียร์ ประเทศตุรกี

Pigeon Valley, Nevsehir, Turkey

             หุบเขานกพิราบ (Pigeon Valley) เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญอีกแห่งใน Cappadocia ซึ่งมีจุดชมวิวอยู่ตรงบริเวณหน้าผาที่ชาวเมืองโบราณได้ขุดเจาะเป็นรู เพื่อให้นกพิราบเข้าไปทำรังอาศัยอยู่อย่างมากมาย


ประวัติ

           ชื่อของหุบเขานกพิราบ หรือ Pigeon Valley มีที่มาจากบ้านของนกพิราบที่สลักเข้าไปในหิน ในอดีตนกชนิดนี้ทำหน้าที่เป็นผู้ส่งสารที่สำคัญสำหรับผู้คนที่อาศัยอยู่ในแถบนี้ ทั้งยังเป็นสัตว์เลี้ยงอีกด้วย หุบเขานกพิราบเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญอีกแห่งใน Cappadocia ภูมิประเทศเป็นพื้นที่วกวนดังเขาวงกตทว่ามีความงดงามและน่าอัศจรรย์เป็นระยะทางยาวหลายกิโลเมตรระหว่างเกอเรเม่ (Goreme) และยูชิซาร์ (Uchisar) ภูมิประเทศของที่นี่มีความประหลาด หลากหลาย ราวกับเป็นภูมิประเทศบนดาวดวงอื่น ไกลออกไปมีภูเขาไฟ ส่วนรอบๆ บริเวณนี้ประกอบด้วยหินก่อตัวรูปทรงประหลาด โดยในอดีตนั้นเคยเป็นถ้ำซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของผู้คน

           จุดชมวิว หุบเขานกพิราบอยู่ตรงบริเวณหน้าผาที่ชาวเมืองโบราณได้ขุดเจาะเป็นรู เพื่อให้นกพิราบเข้าไปทำรังอาศัยอยู่อย่างมากมาย จากจุดนี้ นักท่องเที่ยวจะสามารถมองเห็นปราสาทอุชิซาร์ (Uchisar Castle) ได้จากระยะไกล ที่นี่เต็มไปด้วยนกพิราบมากมายที่ชาวบ้านเลี้ยงไว้เพื่อนำมูลมาทำเป็นปุ๋ยบำรุงต้นไม้ โดยที่จุดชมวิวจะมีอาหารนกพิราบขายสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการซื้ออาหารเลี้ยงนก

           บริเวณริมผาซึ่งเป็นจุดชมวิวที่หุบเขานกพิราบมีต้นไม้จำลองที่เต็มไปด้วยดวงตาสีฟ้าแขวนอยู่โดดเด่น ด้วยเรื่องของความเชื่อกับผู้คนนั้นเป็นของคู่กันมาเนิ่นนาน เช่นกันกับดินแดนแถบนี้ที่มีความเชื่อเรื่องนัยน์ตาปิศาจ โดยเชื่อกันว่าบุคคลพิเศษบางคนมีดวงตาชั่วร้ายที่สามารถจ้องเพื่อทำอันตรายผู้อื่นได้ ซึ่งสิ่งที่จะช่วงปกป้องภัยร้ายจากดวงตาปิศาจนี้ก็คือดวงตาสีฟ้า

           ด้วยเหตุนี้ดวงตาสีฟ้าจึงทำหน้าที่เป็นเครื่องรางที่ผู้คนแถบนี้ให้ความนับถือ เมื่อกาลเวลาผ่านไปเครื่องรางของขลังนี้ก็ได้กลายมาเป็นของที่ระลึกจากดินแดนแห่งนี้ซึ่งสามารถพบเห็นได้ทั่วไปโดยปรากฏอยู่ทั้งบนกำไล ต่างหู สร้อยคอ พวงกุญแจ และอื่นๆ อีกหลายอย่าง รวมถึงดวงตาสีฟ้าที่ถูกนำมาแขวนไว้บนต้นไม้จำลองริมผาที่หุบเขานกพิราบแห่งนี้จนกลายเป็นสัญลักษณ์อีกอย่างหนึ่งของที่นี่

           นอกจากนี้บริเวณริมขอบผายังมีแผงขายของที่ระลึก และระหว่างใจกลางหุบเขา Pigeon Valley ก็มีคาเฟ่ให้นักท่องเที่ยวได้แวะพักด้วยเช่นกัน


หุบเขานกพิราบ (Pigeon Valley)


หุบเขานกพิราบ (Pigeon Valley)


หุบเขานกพิราบ (Pigeon Valley)


การเดินทางจาก Istanbul ไปยัง Neveshir

             - เครื่องบน (Airplane) จากอิสตันบูลไปเนฟเชียร์มีระยะทางประมาณ 750 กิโลเมตร การเดินทางโดยรถยนต์จะใช้เวลาประมาณ 8 – 10 ชั่วโมง หากนักท่องเที่ยวไม่ได้มีความประสงค์ที่จะเช่ารถขับเพื่อแวะเที่ยวชมที่ต่างๆ ระหว่างทาง การเดินทางโดยเครื่องบินซึ่งใช้เวลาเพียง 1 ชั่วโมง 10 นาที จึงเป็นทางเลือกที่สะดวกและประหยัดเวลาไปได้มาก จากอิสตันบูลมีเที่ยวบินตรงออกจากสนามบิน Istanbul International Airport และจากสนามบิน Sabiha Gokcen International Airport ไปยังสนามบิน Neveshir Kapadokya Airport ที่จังหวัดเนฟเชียร์ ให้บริการ 4 – 6 เที่ยวต่อวัน นักท่องเที่ยวสามารถตรวจสอบตารางเที่ยวบิน ราคา และดูข้อมูลเพิ่มเติมและได้ที่ https://www.google.com/flights?hl=th&authuser=0#flt=/m/09949m./m/08nnz6.2019-11-01*/m/08nnz6./m/09949m.2019-11-05;c:THB;e:1;sd:1;t:f

             - รถโดยสารประจำทาง (Bus) หากนักท่องเที่ยวไม่ได้มีเงื่อนไขเรื่องเวลาและต้องการประหยัดค่าเดินทาง ซึ่งราคาตั๋วรถโดยสารสำหรับเส้นทางอิสตันบูล – เนฟเชียร์ นั้นเริ่มต้นที่ 120 ลีราตุรกี หรือราวๆ 640 บาท โดยจะใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 10 ชั่วโมง ทั้งนี้จากอิสตันบูลไปยังเนฟเชียร์จะมีรถให้บริการอยู่เพียงไม่กี่เที่ยว โดยบริษัทที่ให้บริการเดินรถคือ ONCU นักท่องเที่ยวสามารถตรวจสอบตารางเวลาการเดินรถ ราคา และดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.busbud.com/en/bus-schedules-results/sxk96f/sybgbd?outbound_date=2019-10-18&adults=1

             - รถเช่า (Rental Car) สำหรับนักท่องเที่ยวที่วางแผนเดินทางท่องเที่ยวในตุรกีโดยการเช่ารถขับเองอยู่แล้ว ก็มีบริษัทเช่ารถยนต์ให้บริการอยู่หลายบริษัท อาทิ Avis, Budget, Enterprise, Europcar, Hertz และ Sixt สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.rentalcars.com/en/city/tr/istanbul/


การเดินทางจากสนามบิน Nevsehir Kapadokya Airport ไป Cappadocia Old Town (Goreme)

             - รถยนต์ (Car) จากสนามบิน Nevsehir Kapadokya Airport ไป Cappadocia Old Town หรือ Goreme ซึ่งเป็นศูนย์กลางของที่พัก ร้านอาหาร ร้านค้า บริการรถแท็กซี่ และบริษัทนำเที่ยวในคัปปาโดเชีย นั้นมีระยะทาง 43 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางโดยรถยนต์ประมาณ 40 นาที

             - ชัตเทิลบัส (Shuttle Bus) ที่บริเวณหน้าสนามบินมีรถชัตเทิลบัสให้บริการไปยังตัวเมือง Goreme ใช้เวลาเดินทางประมาณ 40 นาที โดยรถจะพาผู้โดยสารไปส่งถึงหน้าโรงแรมของแต่ละคน ค่าโดยสาร 40 ลีราตุรกีโดยประมาณ ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://argeus.com/airport-transfers


การเดินทางไป Pigeon Valley

             - รถยนต์ (Car) จาก Cappadocia Old Town หรือ Goreme ไป Pigeon Valley มีระยะทาง 5.5 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางโดยรถยนต์ประมาณ 9 นาที

           ทั้งนี้ วิธีเดินทางท่องเที่ยวใน Cappadocia มีอยู่ 2 วิธีหลักๆ (ส่วนการล่องบอลลูนนั้นจะเป็นกิจกรรมสั้นๆ เพียงหนึ่งชั่วโมง) คือ 1. การเช่ารถขับเที่ยวเอง และ 2. การซื้อทัวร์ โดยทั่วไปโปรแกรมทัวร์ของบริษัทต่างๆ ที่ให้บริการจะแบ่งเป็น 3 เส้นทาง ได้แก่

             Green Tour : Panorama of Goreme, Underground City, Lunch in Ihlara, Walking in Ihlara Valley, Selime Monastery, Pigeon Valley, Onyx Factory

             Red Tour : Uchisar Castle, Love Valley, Goreme Open Air Museum, Pasabag Fairy Chimneys, Avanos-Pottery Demo, Lunch in Avanos, Devrent Magic Valley, Urgup Family Chimneys, Carpet Manufacturer

             South Cappadocia Tour : Maskendir Valley, Red Valley, Rose Valley, Cavusin Valley, Underground City, Pigeon Valley Uchisar Castle, Panorama Love Valley

           นักท่องเที่ยวสามารถเลือกซื้อทัวร์ตามเส้นทางที่สนใจ โดย Pigeon Valley จะอยู่ในเส้นทางสายสีเขียวที่เรียกว่า Green Tour และอยู่ในเส้นทางสายสีฟ้าที่เรียกว่า South Cappadocia Tour ซึ่งราคาของทัวร์จะอยู่ที่คนละประมาณ 120 ลีราตุรกี เป็นราคาที่รวมรถรับส่งจากที่พักและอาหารกลางวันแล้ว โดยรถจะมารับที่โรงแรมที่พักในตอนเช้า เวลาประมาณ 9.00 – 9.30 น. และกลับมาส่งยังที่พักในช่วงเย็นเมื่อสิ้นสุดโปรแกรมในเวลาประมาณ 16.00 – 18.00 น. ดังนั้นหากนักท่องเที่ยวต้องการซื้อทัวร์มากกว่าหนึ่งเส้นทางจึงต้องไปคนละวันกัน


เวลาทำการเปิด – ปิด

           ตลอด 24 ชั่วโมง แต่ช่วงเวลาที่เหมาะสมคือเช้าและเย็นเนื่องจากอากาศไม่ร้อนจัด


หุบเขานกพิราบ (Pigeon Valley)


อัตราค่าเข้าชม

           ไม่เสียค่าเข้าชม


หุบเขานกพิราบ (Pigeon Valley)


หุบเขานกพิราบ (Pigeon Valley) 


สิ่งที่ไม่ควรพลาดเมื่อไปเที่ยว Pigeon Valley

           สิ่งที่ไม่ควรพลาดเมื่อไปเที่ยว Pigeon Valley คือแวะถ่ายภาพกับต้นไม้ริมผาที่เต็มไปด้วยดวงตาสีฟ้าแขวนอยู่ เนื่องจากต้นไม้นี้เป็นเหมือนสัญลักษณ์เฉพาะของที่นี่ ที่บอกให้ทราบว่านักท่องเที่ยวได้เดินทางมาถึงหุบเขานกพิราบแห่งนี้แล้ว


ดวงตาสีฟ้าหลากหลายขนาดที่แขวนอยู่บนต้นไม้ริมผา


เวลาที่เหมาะสมสำหรับการท่องเที่ยว

           นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางไปเที่ยว Pigeon Valley ได้ตลอดทั้งปี ทั้งนี้ ช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือฤดูใบไม้ผลิ (เดือนมีนาคม - กลางเดือนมิถุนายน) ซึ่งเป็นช่วงที่สภาพอากาศของประเทศตุรกีกำลังดี ไม่ร้อนหรือหนาวจนเกินไปและเป็นช่วงที่กลางวันยาว นักท่องเที่ยวจึงสามารถใช้เวลาเที่ยวชมสถานที่ได้ยาวนานขึ้น ฤดูใบไม้ร่วง (กลางเดือนกันยายน - ตุลาคม) ก็เป็นทางเลือกที่ดีเช่นกัน แต่กลางวันสั้นและมีโอกาสเกิดฝนตก


บรรยากาศโดยรอบหุบเขานกพิราบ


ข้อมูลอื่นๆ ที่ควรรู้

           การขึ้นไปยังจุดชมวิวที่หุบเขานกพิราบ นักท่องเที่ยวจะต้องปีนป่ายขึ้นไปด้านบนตรงขอบผาซึ่งเป็นจุดชมวิวและเป็นลานจอดรถขนาดใหญ่ บางช่วงนั้นชันเกือบ 90 องศา แม้ว่าระว่างทางของเขาหินนั้นจะมีที่ให้เกาะเพื่อปีนป่ายขึ้นไปตลอดทาง แต่นักท่องเที่ยวควรสวมรองเท้าที่เหมาะสำหรับการเดินและไม่ลื่น


           นักท่องเที่ยวที่สนใจไปเที่ยวชม Pigeon Valley สามารถศึกษา ข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่

                       หุบเขานกพิราบ จังหวัดเนฟเชียร์ ประเทศตุรกี

                       (Pigeon Valley, Nevsehir, Turkey)

                       ระดับความนิยม : 

                       อัตราค่าเข้าชม : ไม่เสียค่าเข้าชม    

                       เวลาเปิด – ปิด : ตลอด 24 ชั่วโมง แต่ช่วงเวลาที่เหมาะสมคือเช้าและเย็นเนื่องจากอากาศไม่ร้อนจัด

                       ตั้งอยู่ที่ : Uchisar KasabasI / Nevsehir Kapadokya / Goreme / Turkey 

                       ข้อมูลอื่นๆที่ควรรู้ : พยากรณ์อากาศ https://www.accuweather.com/

                                       เว็บไซต์การท่องเที่ยวเมืองเกอเรเม่ https://www.goreme.com/    

                                       เว็บไซต์การท่องเที่ยวประเทศตุรกี https://www.visitturkey.in/

 

 

สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ

21 สถานที่เที่ยวยอดนิยมในปารีส ประเทศฝรั่งเศส

ปารีส คือเมืองหลวงของประเทศฝรั่งเศสและเป็นเมืองแห่งมนตร์ขลังที่อ้าแขนรับ รอให้นักท่องเที่ยวไปสัมผัสกับเสน่ห์เมืองเก่าของยุโรปผสานไปกับความสวยงามของสถาปัตยกรรมยุคปฏิวัติ และความสะดวกสบาย ความทันสมัย รวมไปถึงแฟชั่นใหม่ๆ ที่มีต้อนรับผู้มาเยือนเมืองแห่งนี้อย่างครบครัน

อ่านต่อ

อนุสรณ์สถาน ดัตช์ ฮอโลคอสต์ เมืองอัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์

อนุสรณ์สถาน ดัตช์ ฮอโลคอสต์ (Dutch Holocaust Memorial of Names) ในเมืองอัมสเตอร์ดัม ที่โดดเด่นด้วยเขาวงกตกำแพงอิฐและกระจกแห่งนี้ สร้างขึ้นเพื่อรำลึกถึงเหตุการณ์ฮอโลคอสต์ หรือการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยมีเหยื่อชาวดัตช์ผู้เคราะห์ร้ายจำนวน 102,000 คนถูกขับไล่ออกจากประเทศและถูกสังหารอย่างโหดเหี้ยมในค่ายกักกันนาซีเยอรมัน

อ่านต่อ

หมู่บ้านชาวประมงโวเลนดัม เมืองอัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์

หมู่บ้านชาวประมงโวเลนดัม (Volendam) หรือฉายา "ไข่มุกแห่งซุยเดอร์ ซี" (The Pearl Of The Zuiderzee) เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงและได้รับความนิยมมากที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศเนเธอร์แลนด์ ด้วยเอกลักษณ์เฉพาะตัวอันมีเสน่ห์โวเลนดัมได้ดึงดูดบรรดาจิตรกรเอกในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 อย่างเรอนัวร์และปีกัสโซให้เดินทางมาที่นี่ เพื่อสัมผัสกับบรรยากาศและสร้างแรงบันดาลใจให้กับผลงานของพวกเขามาแล้ว

อ่านต่อ

กังหันลมแอเดรียน (1779) เมืองฮาร์เลม ประเทศเนเธอร์แลนด์

กังหันลมแอเดรียน (1779) (Windmill De Adriaan (1779)) เป็นกังหันลมขนาดใหญ่ริมแม่น้ำสปาร์เนอร์ และยังเป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์กสำคัญของเมืองฮาร์เลมอีกด้วย กังหันลมแห่งนี้สร้างขึ้นตั้งแต่ปีค.ศ.1779 ผ่านประวัติศาสตร์มาอย่างยาวนาน และมีการบูรณะซ่อมแซมให้ใช้งานได้จริงอยู่เสมอจนถึงปัจจุบัน ภายในอาคารด้านล่างของกังหันลมเป็นพื้นที่ของพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงนิทรรศการกังหันลมที่น่าสนใจ และยังสามารถขึ้นไปชมวิวความสวยงามริมแม่น้ำจากระเบียงอาคารด้านบนได้อีกด้วย

อ่านต่อ

ศาลากลางเมืองฮาร์เลม เมืองฮาร์เลม ประเทศเนเธอร์แลนด์

ศาลากลางเมืองฮาร์เลม (Town Hall Haarlem) เป็นอีกหนึ่งอาคารเก่าแก่สไตล์โกธิคที่ตั้งอยู่ใกล้กับบริเวณจัตุรัสตลาดกลางของเมืองฮาร์เลม อาคารแห่งนี้มีอายุหลายร้อยปีและยังใช้เป็นที่ทำการปกครองเมืองฮาร์เลมอยู่จนถึงปัจจุบัน เป็นอีกหนึ่งมุมถ่ายภาพสวยๆ ของเมือง และหากมาเที่ยวในช่วงฤดูใบไม้ผลิก็จะได้เห็นคู่บ่าวสาวมาทำพิธีแต่งงานกันที่นี่อีกด้วย

อ่านต่อ

มหาวิหารเซนต์บาโวฮาร์เลม เมืองฮาร์เลม ประเทศเนเธอร์แลนด์

มหาวิหารเซนต์บาโวฮาร์เลม (St. Bavo Haarlem) เป็นมหาวิหารเก่าแก่ที่สร้างขึ้นด้วยสถาปัตยกรรมโกธิคอย่างวิจิตรงดงาม โดดเด่นด้วยหอคอยสูง เป็นแลนด์มาร์กสำคัญที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองฮาร์เล็มใกล้กับจตุรัสตลาดกลาง และยังเป็นมหาวิหารที่ใหญ่เป็นอันดับต้นๆ ของประเทศเนเธอร์แลนด์อีกด้วย ภายในประดับด้วยกระจกสี ภาพเขียน และโบราณวัตถุต่างๆ ที่นี่จึงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเที่ยวเมืองฮาร์เลม

อ่านต่อ

จัตุรัสตลาดกลาง เมืองฮาร์เลม ประเทศเนเธอร์แลนด์

จัตุรัสตลาดกลาง (Grote Markt) เป็นจัตุรัสที่ตั้งอยู่บริเวณใกล้กับมหาวิหารเซนต์บาโวฮาร์เลมและศาลากลางเมืองฮาร์เลม บริเวณนี้เป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวที่สำคัญของเมืองเพราะรายล้อมด้วยแหล่งท่องเที่ยวที่สามารถเดินถึงกันได้ บริเวณจัตุรัสตลาดกลางจะเปิดเป็นตลาดนัดในวันเสาร์โดยมีสินค้าหลากหลายประเภทจำหน่าย เช่น อาหาร ขนม ผักผลไม้ ดอกไม้ และของใช้ทั่วไป นอกจากการเดินชมตลาดแล้ว ที่นี่ยังเป็นจุดถ่ายภาพที่สวยงามอีกแห่งหนึ่งของเมืองฮาร์เลมอีกด้วย

อ่านต่อ

บ้านลูกบาศก์ เมืองรอตเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์

บ้านลูกบาศก์ (Cube Houses) เป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงสถาปัตยกรรมที่ผสมผสานกับศิลปะการออกแบบภายในที่น่าสนใจ มีลักษณะเป็นบ้านทรงลูกบาศก์ที่ตั้งเอียงอยู่บนเสาทรงหกเหลี่ยม ด้านในแสดงให้เห็นถึงการออกแบบห้องต่างๆ และการจัดวางพื้นที่ใช้สอยอย่างคุ้มค่าและลงตัวเหมาะกับการใช้ชีวิตในเมืองตามแนวคิดของ Piet Blom ซึ่งเป็นผู้ออกแบบบ้านลูกบาศก์เหล่านี้

อ่านต่อ

โบสถ์เซนต์ลอว์เรน เมืองรอตเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์

โบสถ์เซนต์ลอว์เรน (Grote of Sint-Laurenskerk) เป็นโบสถ์ประจำเมืองรอตเตอร์ดัม สร้างขึ้นด้วยสถาปัตยกรรมโกธิคที่ผ่านประวัติศาสตร์มายาวนานกว่าห้าร้อยปี โดดเด่นด้วยหอคอยสูงที่ด้านบนประดับด้วยนาฬิกา บริเวณโดยรอบตกแต่งด้วยสนามหญ้าและสวนอันร่มรื่น ที่นี่จึงเป็นแลนด์มาร์กอีกแห่งหนึ่งของเมืองที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยว โดยทางโบสถ์จะเปิดให้ขึ้นไปชมวิวด้านบนหอคอยได้ในช่วงเดือนมีนาคมถึงตุลาคมของทุกปี

อ่านต่อ

สะพานอีรามัส เมืองรอตเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์

สะพานอีรามัส (Erasmus Bridge) หรือสะพานหงส์ เป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์กของเมืองรอตเตอร์ดัม สะพานแห่งนี้เป็นสะพานที่ด้านบนขึงด้วยสายเคเบิลทอดข้ามแม่น้ำ Nieuwe Maas เพื่อเชื่อมพื้นที่ทางด้านทิศเหนือและทิศใต้ของเมืองรอตเตอร์ดัมเข้าไว้ด้วยกัน บริเวณนี้เป็นจุดชมวิวริมแม่น้ำที่สวยงามอีกแห่งหนึ่งที่สามารถชมวิวสะพานและแม่น้ำได้แบบพาโนรามา เป็นจุดแวะเที่ยวที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก

อ่านต่อ
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ