ทะเลสาบซัลดา จังหวัดเบอร์ดูร์ ประเทศตุรกี

  • อ่าน (4,086)
  • By Webmaster
  • 15:55:03 | 14 ต.ค. 2562

ทะเลสาบซัลดา จังหวัดเบอร์ดูร์ ประเทศตุรกี

Salda Lake, Burdur, Turkey

             ทะเลสาบซัลดา (Salda Lake) ทะเลสาบซึ่งเป็นสิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาติ และเป็นหนึ่งในความงามที่มีเสน่ห์ที่สุดแห่งหนึ่งของตุรกี


ประวัติ

           ทะเลสาบซัลดาตั้งอยู่ในเขต Yesilova ของจังหวัด Burdur ซึ่งอยู่ห่างจากใจกลางจังหวัดเดนิซลี (Denizli) ประมาณ 100 กิโลเมตร ทะเลสาบซัลดามีอาณาบริเวณครอบคลุมพื้นที่ 44 ตารางกิโลเมตร ซึ่งตั้งอยู่ใน Burdur – Denizli – Antalya เรียกว่าเป็นหนึ่งในทะเลสาบที่สะอาดที่สุดของตุรกี ทะเลสาบแห่งนี้ประกอบด้วยโครงสร้างหินปูนที่เรียกว่าหิน Stromatolic ซึ่งเป็นหินประเภทเดียวกับที่พบบนพื้นผิวของดาวอังคาร โดยหินนี้จะผลิตแมกนีเซียมบนพื้นผิวของทะเลสาบจึงทำให้รอบๆ ชายฝั่งมีสีขาวดังที่ปรากฏ

           นักท่องเที่ยวนิยมมาใช้เวลาพักผ่อนและปิกนิกบนชายฝั่งของทะเลสาบซัลดาซึ่งมีทิวทัศน์อันงดงาม รวมถึงชมพระอาทิตย์ขึ้นและตก สำหรับการลงเล่นน้ำในทะเลสาบนั้นนักท่องเที่ยวสามารถลงเล่นได้เฉพาะในบริเวณที่กำหนดไว้เท่านั้น อาทิ YeSilova Municipality Public Beach, Doganbaba Public Beach และ Salda Forest Ministry Natural Park ผู้ที่ไม่ปฏิบัติตามอาจไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าทะเลสาบ

           นอกจากนี้ สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการค้างคืนบนหาดสามารถตั้งแคมป์ได้ 2 ที่ คือ ที่ชายหาด YeSilova Municipality Public Beach และชายหาด Doganbaba Public Beach อย่างไรก็ตามสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ และบังกะโลว์ที่พักจะมีอยู่เฉพาะที่หาด YeSilova Municipality Public Beach เท่านั้น


ทะเลสาบซัลดาเป็นหนึ่งในทะเลสาบที่สะอาดที่สุดในตุรกี


น้ำทะเลใสสีฟ้าคราม เอกลักษณ์อันโดดเด่นของทะเลสาบแห่งนี้จนได้ชื่อว่าเป็น “มัลดีฟส์แห่งตุรกี”


ภูเขาฟากหนึ่งที่โอบล้อมทะเลสาบอยู่คือ “Toros Mountains” 


การเดินทางจาก Istanbul ไปยัง Burdu

           แม้ว่า Lake Salda จะตั้งอยู่ในพื้นที่ของจังหวัด Burdur แต่เนื่องจากจังหวัด Burdur ไม่มีสนามบิน นักท่องเที่ยวจึงต้องนั่งเครื่องบินมาลงที่ Denizli Airport ที่จังหวัด Denizli ซึ่งเป็นจังหวัดใหญ่ใกล้เคียง โดยจากสนามบินเดนิซลีจะมีทัวร์ให้บริการไปยังสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ของ Denizli รวมถึง Burdur โดยตรง

             - เครื่องบิน (Airplane) จากอิสตันบูลไปเดนิซลีมีระยะทางประมาณ 580 กิโลเมตร การเดินทางโดยรถยนต์จะใช้เวลาประมาณ 6 - 8 ชั่วโมง หากนักท่องเที่ยวไม่ได้มีความประสงค์ที่จะเช่ารถขับเพื่อแวะเที่ยวชมที่ต่างๆ ระหว่างทาง การเดินทางโดยเครื่องบินซึ่งใช้เวลาเพียง 1 ชั่วโมง 15 นาที จึงเป็นทางเลือกที่สะดวกและประหยัดเวลาไปได้มาก จากอิสตันบูลมีเที่ยวบินตรงออกจากสนามบิน Istanbul International Airport และจากสนามบิน Sabiha Gokcen International Airport ไปยังสนามบิน Denizli Airport ของอิซเมียร์ให้บริการ 4 – 7 เที่ยวต่อวัน นักท่องเที่ยวสามารถตรวจสอบตารางเที่ยวบิน ราคา และดูข้อมูลเพิ่มเติมและได้ที่ https://www.google.com/flights?hl=th&authuser=0#flt=/m/09949m.DNZ.2019-10-09*DNZ./m/09949m.2019-10-13;c:THB;e:1;sd:1;t:f

             - รถโดยสารประจำทาง (Bus) หากนักท่องเที่ยวไม่ได้มีเงื่อนไขเรื่องเวลาและต้องการประหยัดค่าเดินทาง ซึ่งราคาตั๋วรถโดยสารสำหรับเส้นทางอิสตันบูล – เดนิซลี นั้นจะเริ่มต้นที่ประมาณ 120 – 143 ลีราตุรกี หรือราวๆ 640 - 765 บาท โดยจะใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 9 – 12 ชั่วโมง ทั้งนี้นักท่องเที่ยวควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้เปรียบเทียบอัตราค่าโดยสารก่อนซื้อตั๋วเพราะราคาอาจแตกต่างกันขึ้นอยู่กับรอบเวลาเดินทาง โดยบริษัทที่ให้บริการเดินรถนั้นมีอยู่หลายบริษัทด้วยกัน ได้แก่ Nilüfer Turizm, Efe Tur, Alaşehir Sarıkız Turizm, Metro Turizm, Pamukkale Turizm นักท่องเที่ยวสามารถตรวจสอบตารางเวลาการเดินรถ ราคา และดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.busbud.com/en/bus-schedules-results/sxk96f/swswvu?outbound_date=2019-10-03&adults=1

              - รถเช่า (Rental Car) สำหรับนักท่องเที่ยวที่วางแผนเดินทางท่องเที่ยวในตุรกีโดยการเช่ารถขับเองอยู่แล้ว ก็มีบริษัทเช่ารถยนต์ให้บริการอยู่หลายบริษัท อาทิ Avis, Budget, Enterprise, Europcar, Hertz และ Sixt สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.rentalcars.com/en/city/tr/istanbul/


การเดินทางจากสนามบิน Denizli Airport ไป Salda Lake

           จากสนามบิน Denizli Airport ไป Salda Lake มีระยะทาง 46.3 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางโดยรถยนต์ประมาณ 55 นาที

           จากสนามบิน Denizli Airport จะมีทัวร์ให้บริการจากสนามบินไปยังสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ โดยตรง ทั้งนี้ทัวร์ส่วนใหญ่จะเริ่มเดินทางออกจากสนามบินตั้งแต่ช่วงเช้า ดังนั้น เที่ยวบินที่นักท่องเที่ยวนั่งมาลงที่เดนิซลีควรมาถึงระหว่างเวลา 07.00 – 08.00 น.


เวลาทำการเปิด – ปิด

           เปิดให้เที่ยวชมทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง


นักท่องเที่ยวสามารถลงเล่นน้ำได้เฉพาะในบริเวณที่กำหนดเท่านั้น


ทะเลสาบซัลดามีอาณาบริเวณครอบคลุมพื้นที่ 44 ตารางกิโลเมตร


อัตราค่าเข้าชม

           ไม่เสียค่าเข้าชม


ความสวยงามน่าประทับใจของทะเลสาบซัลดา 


เวลาที่เหมาะสมสำหรับการท่องเที่ยว

            นักท่องเที่ยวสามารถไปเที่ยว Salda Lake ได้ตลอดทั้งปี สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการพักค้างคืนที่บังกะโลบนหาดควรดำเนินการจองล่วงหน้าเนื่องจากมีนักท่องเที่ยวที่ต้องใช้บริการจำนวนมาก ทั้งนี้ ช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือฤดูใบไม้ผลิ (เดือนมีนาคม - กลางเดือนมิถุนายน) ซึ่งเป็นช่วงที่สภาพอากาศของประเทศตุรกีกำลังดี ไม่ร้อนหรือหนาวจนเกินไปและเป็นช่วงที่กลางวันยาว


           นักท่องเที่ยวที่สนใจไปเที่ยวชม Salda Lake สามารถศึกษา ข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่

                       ทะเลสาบซัลดา จังหวัดเบอร์ดูร์ ประเทศตุรกี

                       (Salda Lake, Burdur, Turkey)

                       ระดับความนิยม : 

                       อัตราค่าเข้าชม : ไม่เสียค่าเข้าชม    

                       เวลาเปิด – ปิด : เปิดให้เที่ยวชมทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง

                       ตั้งอยู่ที่ : Burdur, Turkey

                       โทรศัพท์ : (+90) 532 132 3315   

                       เว็บไซต์ : http://www.saldagolu.com

                       ข้อมูลอื่นๆที่ควรรู้ : พยากรณ์อากาศ https://www.accuweather.com/

                                       เว็บไซต์การท่องเที่ยวเมืองเดนิซลี http://www.pamukkale.gov.tr/en

                                       เว็บไซต์การท่องเที่ยวประเทศตุรกี  https://www.visitturkey.in/

 

 

สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ

รวมที่เที่ยว 4 เมืองเด่น จาก ออสโล ถึง โอเลซุนด์ ประเทศนอร์เวย์

นอร์เวย์ (Norway) ดินแดนแห่งฟยอร์ดและขุนเขาที่งดงามราวกับภาพวาด การเดินทางจากออสโล (Oslo) เมืองหลวงของประเทศ สู่เบอร์เกน (Bergen) ฟลอม (Flam) และเอลซุนด์ ( Alesund) เปรียบเสมือนการเปิดประตูสู่โลกใหม่ที่เต็มไปด้วยธรรมชาติอันบริสุทธิ์ เส้นทางสายนี้จะพาคุณไปสัมผัสกับบ้านเมืองน่ารักๆ ทัศนียภาพที่สวยงามตระการตาของเทือกเขาสูงชัน น้ำตกที่ไหลเชี่ยว ฟยอร์ดที่ทอดยาว และหมู่บ้านเล็กๆ ที่ซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางธรรมชาติของนอร์เวย์

อ่านต่อ

รวมที่เที่ยว 3 เมืองเด่น จาก ออสโล ถึง โลโฟเทน ประเทศนอร์เวย์

นอร์เวย์ (Norway) ดินแดนแห่งฟยอร์ดและขุนเขาที่แสนสวยงาม เต็มไปด้วยเส้นทางท่องเที่ยวมากมายที่พร้อมจะมอบความทรงจำสุดประทับใจให้แก่ผู้มาเยือน การเดินทางจากออสโล (Oslo) สู่ทรุมเซอ (Tromso) และโลโฟเทน (Lofoten) นับเป็นอีกหนึ่งเส้นทางท่องเที่ยวที่น่าสนใจ เพราะนักท่องเที่ยวจะได้เดินทางผ่านภูมิประเทศที่หลากหลาย ตั้งแต่เมืองหลวงที่ทันสมัย ไปจนถึงธรรมชาติอันบริสุทธิ์ของอาร์กติก และหมู่เกาะที่สวยงามราวภาพวาด

อ่านต่อ

หมู่บ้านซอมมารอย เมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์

หมู่บ้านซอมมารอย (Sommarøy) เป็นหมู่บ้านชาวประมงเก่าแก่ทางตะวันตกของเมืองทรุมเซอ (Tromsø) ประเทศนอร์เวย์ อยู่ห่างจากเมืองทรุมเซอไปทางตะวันตกประมาณ 58 กิโลเมตร เป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมเนื่องจากมีหาดทรายขาวและทิวทัศน์สวยงาม

อ่านต่อ

มหาวิหารอาร์กติก เมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์

มหาวิหารอาร์กติก (Arctic Cathedral) เป็นหนึ่งในแลนด์มาร์คที่โดดเด่นที่สุดของเมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์ ด้วยสถาปัตยกรรมที่เป็นเอกลักษณ์และความหมายอันลึกซึ้ง ทำให้มหาวิหารแห่งนี้กลายเป็นสัญลักษณ์ของเมืองและเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเยือนทรุมเซอ

อ่านต่อ

มหาวิหารทรุมเซอ เมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์

มหาวิหารทรุมเซอ (Tromso Cathedral) หรือที่รู้จักในชื่อ "Tromsdalen Church" เป็นโบสถ์ที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นด้วยโครงสร้างไม้ขนาดใหญ่ และการออกแบบตกแต่งภายในอันงดงาม

อ่านต่อ

ท่าเรือทรุมเซอ เมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์

ท่าเรือทรุมเซอ (Port of Tromsø) ตั้งอยู่ในใจกลางเมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์ ท่าเรือแห่งนี้เป็นมากกว่าแค่จุดขึ้นลงเรือเท่านั้น แต่ยังเป็นหัวใจสำคัญของเมืองทรุมเซอ และเป็นประตูสู่ดินแดนอาร์กติกที่น่าตื่นตาตื่นใจ

อ่านต่อ

กระเช้าไฟฟ้าเฟียลไฮเซน เมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์

กระเช้าไฟฟ้าเฟียลไฮเซน (Fjellheisen Cable Car) เป็นอีกหนึ่งไฮไลต์ที่พลาดไม่ได้เมื่อมาเยือนเมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์ การนั่งกระเช้าลอยฟ้าขึ้นไปบนยอดเขาสโตรสไตเนิน (Storsteinen Mountain) จะพานักท่องเที่ยวไปสัมผัสกับวิวเมืองทรุมเซอและฟยอร์ดอันงดงามแบบ 360 องศา

อ่านต่อ

หมู่บ้านแฮมนอย หมู่เกาะโลโฟเทน ประเทศนอร์เวย์

หมู่บ้านแฮมนอย (Hamnoy) ถือเป็นสัญลักษณ์ของหมู่เกาะโลโฟเทน (Lofoten) มีลักษณะโดดเด่นคือ “โรบูเอ้” สีแดง (Rorbuer) กระท่อมสำหรับพักชั่วคราวของชาวประมงที่เรียงรายอยู่บนโขดหิน และมีฉากหลังเป็นภูเขา เป็นภาพที่ปรากฏอยู่บนโปสการ์ด ของที่ระลึก และสื่อประชาสัมพันธ์ท่องเที่ยวต่างๆ

อ่านต่อ

หมู่บ้านนูส์ฟยอร์ด หมู่เกาะโลโฟเทน ประเทศนอร์เวย์

หมู่บ้านนูส์ฟยอร์ด (Nusfjord) คือหมู่บ้านชาวประมงเล็ก ๆ ตั้งอยู่บนชายฝั่งด้านใต้ของเกาะ Flakstadøya ในอ่าวเวสฟยอร์เดน (Vestfjord) เขตเทศบาล Flakstad ของเมือง Lofoten ประเทศนอร์เวย์ หมู่บ้านแห่งนี้ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในหมู่บ้านชาวประมงที่สวยที่สุดในนอร์เวย์ และอาจจะเป็นหนึ่งในหมู่บ้านชาวประมงที่สวยที่สุดในโลกก็เป็นได้

อ่านต่อ

หมู่บ้านซาคริซอย หมู่เกาะโลโฟเทน ประเทศนอร์เวย์

หมู่บ้านซาคริซอย (Sakrisoy) เป็นหมู่บ้านเล็กๆ ที่ตั้งอยู่เชิงเขาโอลสตินด์ (Olstind) ซึ่งเป็นหนึ่งในภูเขาที่โดดเด่นที่สุดของหมู่เกาะโลโฟเทน (Lofoten) และอีกหนึ่งลักษณะที่โดดเด่นคือหมู่บ้านนี้คือ “โรบูเอ้” สีเหลือง (Rorbuer) กระท่อมสำหรับพักชั่วคราวของชาวประมงที่เรียงรายอยู่ตามริมฝั่งฟยอร์ด

อ่านต่อ
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ