ปราสาทฮิเมจิ จังหวัดเฮียวโงะ ประเทศญี่ปุ่น

  • อ่าน (4,687)
  • By Webmaster
  • 14:41:35 | 27 เม.ย. 2566

ปราสาทฮิเมจิ จังหวัดเฮียวโงะ ประเทศญี่ปุ่น

Himeji Castle, Hyogo, Japan


หอปราการปราสาทฮิเมจิ (Himeji Castle)

             ปราสาทฮิเมจิ (Himeji Castle) เป็นหนึ่งในสมบัติแห่งชาติของประเทศญี่ปุ่น ตั้งอยู่ในเมืองชื่อเดียวกันอย่างเมืองฮิเมจิ โดยได้รับการยอมรับว่าเป็นปราสาทซึ่งมีเอกลักษณ์ที่สุดแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น กับรูปลักษณ์ที่เปล่งประกายสีขาวสง่างาม แถมยังตั้งอยู่ใกล้กับทั้งโอซาก้า และโกเบอีกด้วย โดยตัวปราสาทแห่งนี้ เป็นหนึ่งในสถานที่ซึ่งได้รับความสนใจที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศญี่ปุ่น ไม่ว่าจะเป็นในแง่ของการท่องเที่ยว หรือความสำคัญด้านประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรมของประเทศญี่ปุ่น


แผนที่ตั้ง ปราสาทฮิเมจิ จังหวัดเฮียวโงะ ประเทศญี่ปุ่น


ประวัติ


วิวยามเย็นของหอปราการปราสาทฮิเมจิ (Himeji Castle)


ทิวทัศน์โดยรอบของตัวปราสาทอื่นๆ ในบริเวณปราสาทฮิเมจิ

           ปราสาทฮิเมจิถูกสร้างขึ้นเมื่อปีค.ศ.1346 มีจุดเด่นอยู่ที่ความสวยงาม และใหญ่โต ตลอดจนลักษณะภายนอกที่มีสีขาวสะอาด จนคนญี่ปุ่นเปรียบปราสาทแห่งนี้ว่าเหมือนนกกระสาสีขาวสง่างาม หรือเรียกอีกชื่อว่า “ฮะคุโระโจ” (ปราสาทนกกระสาสีขาว) ซึ่งปราสาทอิเมจิแห่งนี้ได้รับการยอมรับนับถืออย่างมาก จากทั้งนักท่องเที่ยวที่มาเยี่ยมชม หรือคนญี่ปุ่นเอง  

           โดยในปี 1993 ปราสาทฮิเมจิได้รับการคัดเลือกให้เป็นมรดกโลกด้านวัฒนธรรม และยังเป็นมรดกโลกแห่งแรกของญี่ปุ่นอีกด้วย ทำให้ที่นี่เป็นเสมือนภาพแทนของความยิ่งใหญ่ อีกจุดเด่นของปราสาทฮิเมจิคือทางเดินที่สลับซับซ้อน แต่แฝงไปด้วยความงดงาม และความมหัศจรรย์ของการก่อสร้าง นอกจากนี้รอบปราสาทยังมีต้นซากุระกว่า 1,000 ต้น ยิ่งในช่วงฤดูใบไม้ผลิ เราจะสามารถมองเห็นสีชมพูของดอกซากุระ ที่พอมาตัดกับตัวปราการปราสาทสีขาว ยิ่งส่งผลให้ปราสาทนี้สวยงามมากขึ้นไปอีก


การเดินทางจากสนามบินคันไซไปยังเมืองฮิเมจิ

             - รถไฟด่วน (Kansai International Airport Express Haruka) โดยสามารถเดินไปขึ้นได้ที่ Kansai Airport Station ซึ่งตัวสถานีจะเชื่อมต่อกับอาคารผู้โดยสารโดยตรง แล้วลงที่สถานี Shin-Osaka Station โดยจะใช้เวลาประมาณ 50 นาที ระยะทางโดยประมาณ 30 กิโลเมตร และเดินเล็กน้อยเพื่อเปลี่ยนสายไปขึ้น Sanyo Shinkansen เพื่อไปลงที่สถานี Himeji Station ใช้เวลาประมาณ 40 นาที ระยะทางประมาณ 90 กิโลเมตร ก็จะถึงเมืองฮิเมจิเรียบร้อย


การเดินทางจากเมืองฮิเมจิไปยังปราสาทฮิเมจิ

             - รถบัส หลังจากถึงสถานี Sanyo Himeji Station เราสามารถเดินไปขึ้นรถบัส ซึ่งจะอยู่บริเวณทิศเหนือของสถานี แล้วลงที่ป้าย Otemon-mae และจะสามารถเดินเท้าต่อมาถึงปราสาทฮิเมจิได้เลย

             - เดิน เมื่อถึงสถานี Sanyo Himeji Station สามารถเดินต่อไปยังปราสาทฮิเมจิได้เลย โดยจะใช้เวลาเพียง 22 นาทีเท่านั้น


เวลาในการเปิด-ปิดทำการ


นักท่องเที่ยวกำลังเดินเข้าปราสาทฮิเมจิ (Himeji Castle)


ปราสาทฮิเมจิซึ่งมีนักท่องเที่ยวเข้ามาเยี่ยมชมมากมายตลอดทุกวัน

           เปิดให้เข้าชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 09:00 - 17:00 ประตูปิด 16:00 / ช่วงฤดูร้อน 27 ม.ย. - 31 ส.ค. จะเลื่อนเวลาปิดเป็น 18:00 ประตูปิด 17:00 และจะปิดทำการวันที่ 29 - 30 ธ.ค. เท่านั้น แต่ขอบอกว่าปราสาทฮิเมจิเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมมากที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศญี่ปุ่น เพราะฉะนั้นหากอยากมาเที่ยวปราสาทแบบทั่วทุกพื้นที่ ควรมาตั้งแต่ช่วงเช้า หรือสายๆ เพราะการจะเดินให้ทั่วทุกมุมของปราสาทฮิเมจิอาจจะต้องใช้เวลาทั้งวัน   


อัตราค่าเข้าชม


นักท่องเที่ยวกำลังต่อแถวเพื่อซื้อบัตรเข้าชมปราสาทฮิเมจิ (Himeji Castle)


ตั๋วที่ใช้ในการผ่านเข้าชมปราสาทฮิเมจิ 

           ค่าเข้าชมภายในตัวปราสาทฮิเมจิ และพื้นที่อื่นๆ ภายในตัวปราสาท สำหรับผู้ที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไปราคา 1,000 เยน, นักเรียนราคา 300 เยน  


จุดท่องเที่ยวสำคัญ


ความยิ่งใหญ่ของตัวปราการปราสาทหลักเมื่อมองจากข้างล่าง


โครงสร้างด้านในตัวปราการปราสาทฮิเมจิ


ด้านในของตัวปราการปราสาทฮิเมจิซึ่งจะใช้วัสดุที่ประกอบด้วยไม้เป็นหลัก

           ตัวปราการปราสาทฮิเมจิ ที่มีสีขาวโดดเด่น รวมถึงภายในยังเต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ที่หลากหลายถึง 7 ชั้น แต่ละชั้นก็จะมีการออกแบบ และเรื่องราวที่น่าสนใจแตกต่างกันไป โดยเราจะได้เห็นการออกแบบโครงสร้างที่ใช้ไม้เป็นหลัก ทั้งพื้น เสา คาน ฯลฯ เรียกว่าใครที่ชอบสิ่งก่อสร้างที่เป็นไม้ รับรองว่าจะต้องเพลิดเพลินมากๆ แน่นอน ต่างจากด้านนอกของตัวปราสาทที่เป็นสีขาว และจะมีป้ายไกด์บอกรายละเอียดต่างๆ ที่อยู่ในตัวปราสาทแทบทุกจุด เพื่อให้เราสามารถซึมซับเรื่องราวที่ผ่านมาของตัวปราสาทแห่งนี้ได้อย่างสะดวก


เวลาที่เหมาะสำหรับการท่องเที่ยว


นักท่องเที่ยวเดินเยี่ยมชมปราสาทยามเย็น 


นักท่องเที่ยวที่กำลังต่อแถวรอเข้าไปเยี่ยมชมภายในตัวปราการปราสาทฮิเมจิ

           สามารถมาเที่ยวชมได้ตลอดทั้งปี แต่หากเป็นช่วงฤดูใบไม้ผลิ ซึ่งดอกซากุระบริเวณรอบๆ ออกดอกสีชมพูสวยงาม เวลามองไปจะเห็นตัดกับตัวปราสาทสีขาว ดูงดงามสุดๆ ทำให้การมาเยือนปราสาทแห่งนี้ในช่วงที่ดอกซากุระกำลังบานนั้น เป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดช่วงหนึ่ง หากเราอยากมาชมความยิ่งใหญ่ของปราสาทฮิเมจิแห่งนี้แบบเต็มอิ่ม


ข้อมูลทั่วไปที่ควรรู้


ด้านในของปราสาทซึ่งมีทั้งหมด 7 ชั้น


แม่น้ำสายเล็กๆ ที่อยู่ด้านข้างของทางเข้าปราสาทฮิเมจิ

           แม้ตัวปราสาทฮิเมจิจะไม่ได้ตั้งอยู่ในเมืองโกเบซึ่งเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัดเฮียวโงะ แต่กระนั้นก็อยู่ไม่ห่างจากตัวเมืองโกเบมากนัก ทำให้สามารถเดินทางได้ง่าย และด้วยความที่อยู่ในแถบตังเมืองชื่อดังพอดี ทำให้บริเวณนี้มีความคึกคักตลอดเวลา เหมาะแก่การค้างคืนเพื่ออยู่เที่ยวแถวย่านนั้นต่อได้อีกด้วย


           นักท่องเที่ยวที่สนใจไปเที่ยว ปราสาทฮิเมจิ สามารถศึกษา ข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่  

                       ปราสาทฮิเมจิ จังหวัดเฮียวโงะ ประเทศญี่ปุ่น

                       (Himeji Castle, Hyogo, Japan)

                       ระดับความนิยม :

                       อัตราค่าเข้าชม : อายุ 18 ปีขึ้นไปอยู่ที่ 1,000 เยน, นักเรียน 300 เยน

                       เวลาเปิด-ปิด : เปิดให้เข้าชมทุกวัน 09:00 - 17:00 ประตูปิด (16:00)

                                  ในช่วงฤดูร้อน (27 ม.ย. - 31 ส.ค.) จะเลื่อนเวลาปิดเป็น 18:00 ประตูปิด (17:00)

                       ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการท่องเที่ยว : ตลอดทั้งปี

                       สถานที่ตั้ง : เมืองฮิเมจิ จังหวัดเฮียวโงะ ประเทศญี่ปุ่น

                       โทรศัพท์ : (+81)79-285-1146

                       เว็บไซต์ : http://www.himejicastle.jp/en/

                       ข้อมูลอื่นๆ ที่ควรรู้ : เว็บไซต์องค์การการท่องเที่ยวญี่ปุ่น https://www.jnto.go.jp/eng/

                                        เว็บไซต์องค์การการท่องเที่ยวเมืองฮิเมจิ https://www.himeji-kanko.jp/th/

                                        เว็บไซต์สำหรับตรวจสอบสภาพอากาศ https://www.accuweather.com/

                                        เช็คตารางเวลารถ https://www.himeji-kanko.jp/th/information/

                                        เว็บไซต์การเดินทางขนส่งมวลชนญี่ปุ่น http://www.hyperdia.com/

 

 

สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ

11 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในจังหวัดคานากาว่า ประเทศญี่ปุ่น

จังหวัดคานากาว่า (Kanagawa) เป็นเขตปกครองตนเองที่ตั้งอยู่ใน ภูมิภาคคันโต ของประเทศญี่ปุ่น จังหวัดนี้เป็นที่ตั้งของเมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงหลายเมืองด้วยกัน อาทิ คามาคุระ (Kamakura) โยโกฮาม่า (Yokohama) และฮาโกเน่ (Hakone)…Palanla ได้รวบรวมเอา 11 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในจังหวัดคานากาว่า ตั้งแต่ชายหาด พระใหญ่ วัดเก่าแก่ ศาลเจ้า ไชน่าทาวน์ สวนสนุก อควาเรียม ทะเลสาบ ไปจนถึงกระเช้าลอยฟ้าและจุดชมภูเขาไฟฟูจิ มาไว้แล้วในบทความนี้

อ่านต่อ

สวนหลิวหยวน เมืองซูโจว มณฑลเจียงซู ประเทศจีน

สวนหลิวหยวน หรือ สวนสิงโต (Lion Forest Garden) เป็นสวนจีนโบราณที่สวยงาม ตั้งอยู่ในเมืองซูโจว มณฑลเจียงซู ประเทศจีน สวนแห่งนี้มีประวัติศาสตร์อันยาวนานและมีการเปลี่ยนแปลงเจ้าของและชื่อหลายครั้งตลอดหลายศตวรรษ สวนหลิวหยวน ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในสวนคลาสสิกที่สำคัญที่สุดของซูโจว และเป็นส่วนหนึ่งของ "สวนคลาสสิกของซูโจว" ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมโดยองค์การยูเนสโก (UNESCO) ในปี ค.ศ.2000

อ่านต่อ

สวนจัวเจิ้ง เมืองซูโจว มณฑลเจียงซู ประเทศจีน

สวนจัวเจิ้ง (Humble Administrator’s Garden) เป็นสวนที่ใหญ่ที่สุดในซูโจวและได้ชื่อว่าเป็นสวนที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศจีนตอนใต้ สวนแห่งนี้ถูกใช้เป็นฉากหลังของภาพยนตร์และรายการโทรทัศน์จีนหลายเรื่องด้วยกัน และได้รับการบันทึกให้เป็นมรดกโลกโดยยูเนสโก (UNESCO) ในปี ค.ศ. 1997

อ่านต่อ

เนินเขาเสือ เมืองซูโจว มณฑลเจียงซู ประเทศจีน

เนินเขาเสือ หรือเนินหู่ชิว (Tiger Hill) ได้ชื่อว่าเป็นจุดชมวิวที่สวยที่สุดในซูโจว นักท่องเที่ยวนิยมปีนขึ้นไปชมทิวทัศน์ธรรมชาติที่มีเสน่ห์และโบราณวัตถุอันทรงคุณค่าของซูโจว ไม่ว่าจะเป็นหลุมศพโบราณ บ่อน้ำ เจดีย์ และห้องสมบัติ เหมือนได้ย้อนเวลากลับไปสัมผัสความสวยงามของทิวทัศน์ในวรรณคดีจีนโบราณ โดยที่นี่ยังได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก (UNESCO) ด้วย

อ่านต่อ

ทะเลสาบจินจี เมืองซูโจว มณฑลเจียงซู ประเทศจีน

ทะเลสาบจินจี (Jinji Lake) ทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดในซูโจว ซึ่งแวดล้อมไปด้วยสวนสาธารณะริมทะเลสาบ ศูนย์จัดแสดงสินค้า พิพิธภัณฑ์ โรงแรม ฯลฯ ถือเป็นพื้นที่พักผ่อนหย่อนใจและเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมอีกแห่งหนึ่งของเมืองซูโจว

อ่านต่อ

ถนนซานถัง เมืองซูโจว มณฑลเจียงซู ประเทศจีน

ถนนซานถัง (Shantang Street) ถนนโบราณที่มีความเก่าแก่เกือบ 1,200 ปี ครั้งหนึ่งถนนสายนี้เคยเป็นศูนย์กลางการค้าและวัฒนธรรมที่เจริญรุ่งเรืองที่สุดในสมัยราชวงศ์หมิงและราชวงศ์ชิง ปัจจุบันซานถังยังคงเป็นถนนที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ของประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม โดยได้รับการยกย่องว่าเป็น “ภาพย่อของซูโจวเก่า” และยังถูกจัดอันดับให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวระดับ AAAA ของประเทศ

อ่านต่อ

อุทยานวัฒนธรรมแห่งชาติคลองต้ายุ่น เมืองซูโจว มณฑลเจียงซู ประเทศจีน

อุทยานวัฒนธรรมแห่งชาติคลองต้ายุ่น (Grand Canal National Culture Park) เป็นส่วนหนึ่งของคลองต้ายุ่นซึ่งทอดตัวยาวกว่า 3,000 กิโลเมตร และเป็นแหล่งหลอมรวมวัฒนธรรมสำคัญในประเทศจีนมานานกว่า 2,500 ปี ที่นี่ถือเป็นหนึ่งในจุดท่องเที่ยวยอดนิยมของเมืองซูโจว

อ่านต่อ

สะพานโจกากุระ โอฮาชิ จังหวัดอาโอโมริ ประเทศญี่ปุ่น

สะพานโจกากุระ โอฮาชิ (Jogakura Ohashi Bridge) ในเทือกเขาฮักโกดะทางตอนใต้ในเมืองอาโอโมริ เป็นสะพานแขวนคอนกรีตเสริมเหล็กแห่งแรกของญี่ปุ่น และยังถือเป็นสะพานแขวนที่สูงที่สุดในญี่ปุ่น นอกจากสถาปัตยกรรมอันโดดเด่นของตัวสะพานแล้ว สะพานโจกากุระ โอฮาชิยังขึ้นชื่อเรื่องวิวทิวทัศน์ที่งดงาม โดยเฉพาะในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี

อ่านต่อ

พระใหญ่ไดบุทสึวัดเซเรียวจิ จังหวัดอาโอโมริ ประเทศญี่ปุ่น

พระใหญ่ไดบุทสึวัดเซเรียวจิ (Showa Daibutsu Seiryu-Ji) หรือ พระพุทธรูปไดบุทสึแห่งยุคโชวะ เป็นพระพุทธรูปสำริดขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่น ความสูง 21.35 เมตร น้ำหนัก 77 ตันที่ประดิษฐานอยู่ภายในวัดเซเรียวจิ จังหวัดอาโอโมริ

อ่านต่อ

ตลาดปลาอาอูกะ จังหวัดอาโอโมริ ประเทศญี่ปุ่น

ตลาดปลาอาอูกะ (Auga Fresh Market) ศูนย์กลางจำหน่ายอาหารทะเลสดใหม่จากท่าเรืออาโอโมริ ที่เป็นเหมือนครัวของเมืองนี้และเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่นักท่องเที่ยวไม่อาจพลาด

อ่านต่อ
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ