- หน้าแรก
- ท่องเที่ยวต่างประเทศ
- หอคอยแห่งลอนดอน ลอนดอน สหราชอาณาจักร(อังกฤษ)
หอคอยแห่งลอนดอน ลอนดอน สหราชอาณาจักร(อังกฤษ)
- อ่าน (5,305)
- By Webmaster
- 14:57:18 | 7 ส.ค. 2566
หอคอยแห่งลอนดอน ลอนดอน สหราชอาณาจักร(อังกฤษ)
Tower of London, London, England
หอคอยแห่งลอนดอน (Tower of London) แต่เดิมถูกใช้เป็นพระราชวังหลวงแห่งราชวงศ์อังกฤษในยุคกลาง และป้อมปราการของประเทศอังกฤษ ตั้งอยู่ในใจกลางเมืองลอนดอนริมแม่น้ำเทมส์จนเป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์คสำคัญที่ไม่ว่าใครก็ห้ามพลาดเมื่อเดินทางมาถึงกรุงลอนดอน
แผนที่ตั้ง Tower of London กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ
ประวัติและความเป็นมา
หอคอยแห่งลอนดอน เป็นทั้งพระราชวังหลวงและป้อมปราการของประเทศอังกฤษ ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำเทมส์ในกรุงลอนดอน แต่เดิมในปี ค.ศ. 1078 พระราชวังแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นในสไตล์โรมาเนสต์ (Romanesque style) โดยพระเจ้าวิลเลียมที่ 1 แห่งราชวงศ์อังกฤษ สถาปัตยกรรมนี้รู้จักกันในชื่อของ “หอคอยแห่งลอนดอน” หรือเรียกสั้นๆ ว่า “หอ”
ตัวหอคอยคืออาคารแห่งแรกในบริเวณ ที่ถูกสร้างขึ้นโดยพระเจ้าวิลเลียมที่ 1 ปัจจุบันใช้เป็นที่จัดแสดงอาวุธโบราณ เสื้อเกราะ ของประจำตัวกษัตริย์ และของกำนัลที่ได้จากประเทศเพื่อนบ้าน ตลอดจนอาวุธยุทโธปกรณ์ในสมัยกลางจนถึงปี ค.ศ. 1914 ที่นี่ตั้งอยู่แยกตัวออกไปจากนครหลวงลอนดอน (City of London) ทางด้านตะวันออก ภายในบริเวณโบโรแห่งทาวเวอร์แฮมเล็ท (London Borough of Tower Hamlets) ตรงกลางหลังกำแพงชั้นนอกและชั้นใน บริเวณ Tower of London มีลานโล่งที่เรียกว่า เนินหอคอยแห่งลอนดอน หรือ ทาวเวอร์ฮิลล์ (Tower Hill)
นอกจากชื่อ Tower of London แล้ว หอคอยแห่งนี้ยังมีอีกชื่อคือ หอคอยสีขาว (White Tower) ซึ่งแต่เดิม หอคอยแห่งนี้ถูกใช้ประโยชน์หลายอย่าง เป็นทั้งป้อมปราการ พระราชวังของกษัตริย์ เป็นคลังแสงเก็บอาวุธ เป็นท้องพระคลัง สวนสัตว์ หอเก็บเอกสาร โรงกษาปณ์หลวง หอดูดาว และเป็นที่จำคุกสำหรับนักโทษที่มียศสูงศักดิ์จนถึงเชื้อพระวงศ์ในอดีต หอคอยสีขาวนี้ ยังเป็นสถานที่สำหรับทรมานนักโทษและประหารชีวิต เช่นพระราชินีนาถอลิซาเบธที่ 1ก็เคยทรงถูกจำขังในหอคอย จนกระทั่งปี ค.ศ. 1303 จึงได้เปลี่ยนมาเป็นที่เก็บรักษาทรัพย์สินมีค่าแห่งราชวงศ์อังกฤษ ไม่ว่าจะเป็นมงกุฎและเครื่องราชาภิเษกของสหราชอาณาจักรจนถึงปัจจุบัน
ภายในของ Tower of London หรือ White Tower มีโบสถ์เซนต์จอห์น (Saint John’s Chapel) อยู่ โบสถ์แห่งนี้เป็นโบสถ์เก่าแก่ที่สุดในลอนดอน ถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1080 โดย Norman เพื่อให้เครือญาติแห่งราชวงศ์ได้ใช้ประกอบพิธีทางศาสนา และทำพิธีชำระร่างกายก่อนเข้าร่วมพิธีพระราชพิธีบรมราชาภิเษก
นอกจากนี้ในคริสต์ศตวรรษที่ 12 พระเจ้าริชาร์ด ทรงสร้างกำแพงรอบหอขาวและเริ่มการขุดคูรอบปราสาทโดยใช้น้ำจากแม่น้ำเทมส์แต่ไม่สำเร็จ จนกระทั่งในรัชสมัยของพระเจ้าเฮนรีที่ 3 ในคริสต์ศตวรรษที่ 13 โดยทรงจ้างสถาปนิกชาวดัตช์ผู้เชี่ยวชาญในการขุดคู นอกจากนั้นก็ยังทรงเสริมสร้างกำแพงให้แข็งแรงขึ้นและทรงทำให้หอคอยเป็นที่ประทับสำคัญโดยทรงสร้างพระราชวังแบบที่อยู่อาศัย (palatial buildings) ภายในกำแพงหอคอย การเสริมสร้างเสร็จสิ้นระหว่างปี ค.ศ. 1275 ถึงปี ค.ศ. 1285 โดยพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 1 ผู้ทรงสร้างกำแพงรอบนอกและสร้างกำแพงรอบในเสร็จ ทำให้เป็นกำแพงสองชั้น และทรงถมคูเดิมและขุดคูใหม่รอบกำแพงรอบนอก หอคอยแห่งลอนดอนจึงใช้เป็นพระราชฐานมาจนถึงพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 1 เมื่อโอลิเวอร์ ครอมเวลล์สั่งให้รื้อส่วนที่เป็นพระราชวังทิ้ง
หนึ่งในอาคารที่เชื่อว่าเป็นอาคารขังลืมคนในวัง
บรรยากาศอันโอ่อ่าและน่าเกรงขามภายในพื้นที่ของหอคอยแห่งลอนดอน
หอคอยแห่งลอนดอนเป็นพื้นที่ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโก
จุดจำหน่ายตั๋วสำหรับเข้าชมหอคอยลอนดอน
ภาพเขียนสีสันสวยงามพร้อมข้อความ “ยินดีต้อนรับสู่หอคอยแห่งลอนดอน”
เขตของหอคอยลอนดอน
ที่ทรมานกักขังนักโทษ
ช็อปขายสินค้าที่ระลึกภายในบริเวณหอคอยลอนดอน
ด้านหน้าอาคารสำหรับเข้าชมเครื่องกกุธภัณฑ์
การเดินทางจากสนามบินฮีทโธรวไปยังตัวเมือง(บิ๊กเบน)
- รถไฟฟ้าใต้ดิน จาก Hatton Cross Station ซึ่งเป็นสถานีที่เชื่อมต่อระหว่างสนามบินฮีทโธรว เลือกขึ้นรถไฟฟ้าใต้ดินสาย Piccadilly (สีน้ำเงิน) ลงเปลี่ยนสถานทีที่ Greenpark Station เพื่อเปลี่ยนเป็นสาย Jubilee (สีเทา) และนั่งต่อไปอีกนิด เลือกลง Westminster Station เนื่องจากเป็นสถานีที่อยู่ใกล้กับหอนาฬิกาบิ๊กเบนมากที่สุด ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 50 นาที
- รถประจำทาง นักท่องเที่ยวต้องเริ่มต้นขึ้นรถประจำทางที่ Hatton Cross (Stop C) ซึ่งเป็นป้ายรถประจำทาง สำหรับการเดินทางไปยังตัวเมือง (หอนาฬิกาบิ๊กเบน) ด้วยระยะทาง 31 กิโลเมตร โดยต้องขึ้นรถสาย 490 ไปลงที่ Richmond เพื่อเปลี่ยนไปขึ้นรถไฟฟ้าใต้ดินสาย District (สีเขียว) ลงสถานี Westminster Station และเดินต่ออีกประมาณ 300 เมตร ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง
- แท็กซี่ (Black Cap) เป็นการเดินทางที่สะดวกสบายที่สุดแต่มีราคาค่อนข้างแพง เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่มีสัมภาระค่อนข้างเยอะ ค่าแท็กซี่จากสนามบินฮีทโธรวไปยังตัวเมืองมีราคา 52 – 97 ปอนด์ขึ้นอยู่กับช่วงเวลาและสภาพการจราจร
การเดินทางจากตัวเมืองไปยังหอคอยลอนดอน
- รถไฟฟ้าใต้ดิน นักท่องเที่ยวต้องเดินประมาณ 300 เมตร เพื่อไปขึ้นรถไฟฟ้า สาย Circle (สีเหลือง) ที่สถานี Westminster Station นั่งไปลงยังสถานี Tower Hill ซึ่งเป็นสถานีที่ใกล้หอคอยลอนดอนมากที่สุด ทั้งนี้ต้องเดินต่ออีก 400 เมตร ใช้เวลาเดินทางจากบิ๊กเบนประมาณ 20 นาที
- แท็กซี่ (Black Cap) /รถยนต์ ใช้เวลาประมาณ 30 นาที ในการเดินทางไปยังหอคอยลอนดอน ทั้งนี้ระยะเวลาในการเดินทางขึ้นอยู่กับสภาพการจราจร
เวลาในการเปิด – ปิดทำการ
หอคอยแห่งลอนดอนเปิดให้เข้าชมได้ทุกวันยกเว้นระหว่างวันที่ 24-26 ธันวาคมและวันที่ 1 มกราคมของทุกปี โดยการเปิดให้เข้าชมนั้นจะมีวันเวลาดังนี้
ฤดูร้อน (01 มีนาคม - 31 ตุลาคม)
วันอังคาร – วันเสาร์ เวลา 9.00 น. – 17.30 น.
วันอาทิตย์ - วันจันทร์: 10.00-17.30 น
ฤดูหนาว (1 พฤศจิกายน - 28 กุมภาพันธ์)
วันอังคาร – วันเสาร์ เวลา 9.00 น. – 16.30 น.
วันอาทิตย์ – วันจันทร์ เวลา 10. 00-16.30 น
ทั้งนี้ในวันพฤหัสบดีที่ 28 มีนาคม 2562 หอคอยแห่งลอนดอนจะเปิดให้เข้าชมช้ากว่าปกติโดยเปิดเวลา 10.00 น. เนื่องจากมีการฝึกอบรมพนักงาน
การซื้อบัตรเข้าชม
ผู้ใหญ่ราคา 33.60 ปอนด์, เด็กอายุ 5-15 ปี ราคา 16.80 ปอนด์
เครื่องเกราะกำบังในการออกรบ
จุดท่องเที่ยวสำคัญ
ประตูทางเข้าชมมงกุฎเพชร (The Crown Jewels)
The Crown Jewels หรือมงกุฎเพชร เป็นเครื่องประดับในเครื่องราชกกุธภัณฑ์ของพระมหากษัตริย์ในอดีต ใช้สำหรับพิธีราชาภิเษกและพระราชพิธีอื่นๆ ของพระมหากษัตริย์ ซึ่งจะถูกเก็บรักษาไว้ที่หอคอยลอนดอนมานานกว่า 600 ปี โดยมงกุฎเพชรเป็นวัตถุอัญมณีที่มีผู้เข้าชมมากที่สุดในสหราชอาณาจักรและในบรรดาเครื่องราชกกุธภัณฑ์หรืออัญมณีต่างๆ ทั้งนี้มงกุฎเพชรสามารถระบุได้ถึงสถาปัตยกรรมและยังเป็นสัญลักษณ์ที่แสดงถึงวัฒนธรรมในยุคสมัยต่างๆ ในอดีต
เวลาที่เหมาะสมสำหรับการท่องเที่ยว
นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางไปท่องเที่ยวยังลอนดอนประเทศอังกฤษได้ตลอดทั้งปี โดยประเทศอังกฤษจะมีทั้งหมด 4 ฤดู แบ่งเป็นฤดูใบไม้ผลิ (มีนาคม – พฤษภาคม), ฤดูร้อน (มิถุนายน – สิงหาคม), ฤดูใบไม้ร่วง (กันยายน –พฤศจิกายน) และ ฤดูหนาว (ธันวาคม – กุมภาพันธ์) ทั้งนี้นักท่องเที่ยวสามารถตรวจสอบสภาพอากาศก่อนออกเดินทางได้ที่ https://www.accuweather.com
ข้อมูลทั่วไปที่ควรรู้
นอกจากหอคอยสีขาวที่เคยใช้เป็นสถานที่สำหรับจำคุก ทรมาน และประหารชีวิตแล้ว Bloody Tower หรือหอคอยสีเลือดก็เป็นสถานที่สำหรับลงโทษ ทรมาน จนถึงประหารชีวิตเช่นกัน ผู้ที่เคยถูกคุมขัง คือ พระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 5 ในวัย 12 พรรษา กับเจ้าชายริชาร์ด ดยุกออฟยอร์ก พระอนุชาในวัย 9 พรรษา
นอกจากนี้ Tower of London ยังมีสัญลักษณ์เป็นกาดำตัวใหญ่ (Ravens) ซึ่งมีความเชื่อว่า หากกาดำทั้ง 6 ตัวที่ประจำอยู่หอคอยแห่งนี้หายไปแม้แต่ตัวเดียว ระบอบกษัตริย์ของอังกฤษจะล่มสลายไปด้วย พระเจ้าชาลส์ที่ 2 จึงทำการสั่งให้ตัดปีกกาข้างหนึ่งเพื่อไม่ให้กาบินหนีไป ปัจจุบันจึงมีกาทั้งสิ้น 7 ตัว เนื่องจากหากกาตัวใดหายหรือตายไปจะได้นำตัวสำรองอีกตัวมาใช้ได้ทัน
นักท่องเที่ยวที่สนใจไปเที่ยว หอคอยแห่งลอนดอน สามารถศึกษา ข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่
หอคอยแห่งลอนดอน ลอนดอน สหราชอาณาจักร(อังกฤษ)
(Tower of London, London, England)
ระดับความนิยม :
อัตราค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ราคา 21.50 ปอนด์, เด็กอายุ 5-15 ปี ราคา 9.70 ปอนด์
เวลาเปิด-ปิด : เปิดทำการทุกวัน
ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการท่องเที่ยว : ตลอดทั้งปี
สถานที่ตั้ง : กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ
เว็บไซต์ : https://www.hrp.org.uk/#gs.rzlkle9N
ข้อมูลอื่นๆที่ควรรู้ : เว็บไซต์พยากรณ์อากาศ https://www.accuweather.com/
การท่องเที่ยวประเทศอังกฤษ https://www.visitbritain.com
ระบบขนส่งสาธารณะของลอนดอนและอัตราค่าโดยสาร https://tfl.gov.uk/maps/track
ตรวจสอบข้อมูลและเวลารถไฟฟ้าใต้ดิน www.tfl.gov.uk
ตรวจสอบการเดินทางข้ามเมือง www.nationalrail.co.uk
เว็บไซต์สำหรับบริษัทรับฝากกระเป๋า www.left-baggage.co.uk/
เว็บไซต์ให้บริการเรียกรถแท็กซี่ www.comcablondon.com
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ
ล่องบอลลูนชม 2 ดินแดนมรดกโลก…พุกาม & คัปปาโดเชีย
หากเอ่ยถึง “พุกาม” (Bagan) เชื่อว่าคงจะนึกถึงสิ่งอื่นใดไปไม่ได้ นอกจากทะเลเจดีย์นับพันที่สร้างมาตั้งแต่สมัยโบราณ ตั้งเรียงรายอยู่บริเวณพื้นที่ของเขตเขตมัณฑะเลย์ ประเทศเมียนมาร์ และหากเอ่ยถึง “คัปปาโดเชีย” (Cappadocia) ประเทศตุรกีหรือตุรเคีย แน่นอนว่าก็คงจะต้องมีภาพของบอลลูนหลากสีลอยล่องอยู่เหนือภูมิประเทศแปลกตา ที่เต็มไปด้วยกลุ่มภูเขาหินรูปกรวยโผล่ขึ้นมาจากพื้นดิน... ในครั้งนี้ Palanla จะพาออกเดินทางไปสัมผัสกับความน่าอัศจรรย์ของ 2 ดินแดนมรดกโลก “พุกาม” และ “คัปปาโดเชีย” ด้วยมุมมองจากบนท้องฟ้าผ่านการล่องบอลลูนลมร้อน พร้อมแล้วไปด้วยกัน!
อ่านต่อเกรย์ไฟรเออร์บ็อบบี้ (Greyfriars Bobby Statue) & ฮาจิโกะ (Hachiko)
สุนัข ได้ชื่อว่าเป็นเพื่อนที่แสนดีและซื่อสัตย์ของมนุษย์มายาวนานอยู่ทุกหนแห่งของโลกใบนี้ หลายๆ เรื่องราวถูกถ่ายทอดความประทับใจออกมาผ่านภาพยนตร์ หนังสือ ตลอดจนสร้างเป็นรูปปั้นอนุสรณ์สถานเพื่อเชิดชูและระลึกถึงความรักอันบริสุทธิ์ที่เจ้าตูบและมนุษย์มีต่อกัน เช่นเดียวกับรูปปั้นของสุนัขผู้ซื่อสัตย์ 2 แห่งที่ Palanla จะพาไปชมในวันนี้ ที่แรกคือ รูปปั้นสุนัขเกรย์ไฟรเออร์บ็อบบี้ (Greyfriars Bobby Statue) เมืองเอดินเบอระ ประเทศสกอตแลนด์ และอีกที่คือ รูปปั้นสุนัขฮาจิโกะ (Hachiko) ที่เมืองโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น
อ่านต่อ8 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเมืองอิสตันบูล ประเทศตุรกี
อิสตันบูล (Istanbul) เมืองที่ได้ชื่อว่าเป็นนคร 2 ทวีป ซึ่งมีช่องแคบบอสฟอรัสเป็นเส้นแบ่งระหว่างยุโรปและเอเชียแห่งนี้ คือเมืองที่รุ่มรวยไปด้วยประวัติศาสตร์ความเป็นมานับพันๆ ปี จึงไม่น่าแปลกใจหากอิสตันบลูจะเต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวที่มีสถาปัตยกรรมเก่าแก่และงดงามทรงคุณค่ามากมายที่บอกเล่าเรื่องราวความเป็นยุโรปและเอเชียจากอดีตจนถึงปัจจุบัน Palanla จะพาไปชม 8 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเมืองอิสตันบูลที่หากมีโอกาสไปเยือนประเทศตุรกีไม่ควรพลาด
อ่านต่อล่องเรือชมวิวช่องแคบบอสฟอรัส เมืองอิสตันบูล ประเทศตุรกี
ช่องแคบบอสฟอรัส เป็นช่องแคบเล็กๆ ที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ของตุรกี เคยเป็นทั้งเส้นทางการค้าที่สำคัญ และยังเป็นจุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญมาจนถึงปัจจุบัน การล่องเรือชมวิวช่องแคบบอสฟอรัส (Bosphorus Cruise) จึงเป็นวิธีที่ดีที่จะได้สัมผัสบรรยากาศ สถาปัตยกรรม และวัฒนธรรมที่หลากหลายของอิสตันบูล
อ่านต่ออุโมงค์เก็บน้ำเยเรบาตัน เมืองอิสตันบูล ประเทศตุรกี
อุโมงค์เก็บน้ำเยเรบาตัน (Yerebatan Sarnici) คือหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ของตุรกี ดินแดนที่เต็มไปด้วยประวัติความเป็นมามากกว่าพันปี อุโมงค์เก่าแก่ขนาดใหญ่แห่งนี้คือสถานที่เก็บน้ำในสมัยโบราณที่ยังคงความยิ่งใหญ่และงดงาม กับเอกลักษณ์โดดเด่นอย่างเสากรีกที่ค้ำเรียงรายมากถึง 336 ต้น และเสาเมดูซ่าพร้อมตำนานที่เล่าขานกันมาหลายชั่วอายุคน รวมถึงซากโบราณของพระราชวังใต้ดินแห่งกรุงคอนสแตนติโนเปิลสมัยไบเซนไทน์อีกด้วย
อ่านต่อตลาดเครื่องเทศ เมืองอิสตันบูล ประเทศตุรกี
ตลาดเครื่องเทศ (Historical Spice Bazaar / Egyptıan Spıce Bazaar) ในอิสตันบูล เป็นหนึ่งในตลาดที่ใหญ่ที่สุดและเก่าแก่ที่สุดในโลก ตลาดแห่งนี้มีมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 17 ในสมัยจักรวรรดิออตโตมัน เดิมทีเป็นจุดแลกเปลี่ยนเครื่องเทศ ผ้าไหม และสินค้าอื่นๆ จากเอเชียมาสู่ยุโรป
อ่านต่อ10 สถานที่เที่ยวยอดนิยมในเมืองบูดาเปสต์ ประเทศฮังการี
บูดาเปสต์ (Budapest) เป็นเมืองหลวงของประเทศฮังการี ตัวเมืองถูกแบ่งออกเป็นสองฝั่งด้วยแม่น้ำดานูบที่ไหลผ่านกลางเมือง ทำให้ในเมืองเต็มไปด้วยบรรยากาศโรแมนติกจากสถาปัตยกรรมอันสวยงามเปี่ยมเสน่ห์ที่รอคอยให้นักท่องเที่ยวไปเยี่ยมเยือน Palanla ได้รวบรวมเอา 10 สถานที่เที่ยวยอดนิยมในเมืองบูดาเปสต์มาให้แล้วในบทความนี้
อ่านต่อ12 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเมืองปราก สาธารณรัฐเช็ก
ปราก (Prague) เมืองหลวงของสาธารณรัฐเช็ก ประเทศที่ไม่มีทางออกสู่ทะเลนี้ ตั้งอยู่ใจกลางของทวีปยุโรป ในอดีต เมืองปรากเคยเป็นศูนย์กลางการปกครองอันยิ่งใหญ่ของทวีปยุโรป ซึ่งอารยธรรมแห่งความยิ่งใหญ่ และเปี่ยมไปด้วยประวัติศาสตร์อันยาวนานนั้น ก็ยังคงสะท้อนอยู่ในวิถีชีวิตของชาวเมือง วัฒนธรรมประเพณี สถาปัตยกรรม ฯลฯ ราวกับมรดกที่สืบทอด และรักษากันมาอย่างดี จนถูกยกให้เป็นเมืองที่มีความน่าหลงใหล ควรค่าแก่การไปสัมผัสความเป็นยุโรปมากที่สุด โดยเมืองปรากยังได้รับการประกาศให้เป็นเมืองมรดกโลก จากองค์การยูเนสโก (UNESCO) ด้วย ปัจจุบันเมืองนี้นับเป็นหนึ่งในหมุดหมายสำคัญ ของบรรดานักท่องเที่ยวที่มาเยือนทวีปยุโรป ไปชม 12 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเมืองปรากพร้อมๆ กันกับ Palanla!
อ่านต่อถนนแฟชั่นบูดาเปสต์ เมืองบูดาเปสต์ ประเทศฮังการี
ถนนแฟชั่นบูดาเปสต์ (Fashion Street Budapest) เป็นถนนช้อปปิ้งที่มีชื่อเสียงในใจกลางเมืองบูดาเปสต์ ประเทศฮังการี ถนนสายนี้เป็นที่รู้จักในด้านร้านค้าแฟชั่นชั้นนำจากแบรนด์ระดับโลก อาทิ Gucci, Louis Vuitton, Dior, Armani, Prada และ Chanel ถนนสายนี้ยังเต็มไปด้วยร้านอาหาร บาร์ และคาเฟ่มากมาย จึงเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวและชาวเมืองบุดาเปสต์เองด้วย
อ่านต่อล่องเรือดินเนอร์ในบูดาเปสต์ เมืองบูดาเปสต์ ประเทศฮังการี
ล่องเรือดินเนอร์ในบูดาเปสต์ (Dinner Cruise Budapest) เป็นวิธียอดเยี่ยมในการชมความสวยงามของเมืองบูดาเปสต์ โดยขณะที่เรือล่องไปตามแม่น้ำดานูบ (Danube River) นักท่องเที่ยวจะได้เพลิดเพลินกับทัศนียภาพที่สวยงามของสะพาน พระราชวัง และสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ รวมทั้งอิ่มอร่อยกับอาหารรสเลิศและเครื่องดื่มแสนอร่อย
อ่านต่อ