เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้
เราใช้คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ คุณสามารถเลือกตั้งค่าความยินยอมการใช้คุกกี้ได้ โดยคลิก "การตั้งค่าคุกกี้"
13 มุมสวยถ่ายภาพหอไอเฟล ประเทศฝรั่งเศส
13 Best Photo Spots of Eiffel Tower, France
หอไอเฟลถือเป็นสิ่งก่อสร้างที่ไม่เพียงแต่เป็นสัญลักษณ์ของประเทศฝรั่งเศสเท่านั้น แต่ยังถือเป็นสิ่งก่อสร้างซึ่งเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก หอไอเฟลสร้างขึ้นเพื่อใช้เป็นสัญลักษณ์ของงานแสดงสินค้าโลก ในปี ค.ศ. 1889 เพื่อแสดงถึงความยิ่งใหญ่ของประเทศฝรั่งเศส ความเจริญก้าวหน้าทางเทคโนโลยี วิทยาศาสตร์ และความสวยทางศิลปะสถาปัตยกรรม มีลักษณะเป็นหอคอยเหล็ก สร้างขึ้นโดยสถาปนิกที่ชื่อว่ากุสตาฟ ไอเฟล และเนื่องจากหอไอเฟลนั้นมีความสูงอันโดดเด่นจนสามารถมองเห็นได้จากสถานที่แทบทุกแห่งในเมืองปารีส Palanla เราจึงได้คัดเลือก 13 มุมถ่ายภาพหอไอเฟลที่สวยที่สุดมาแนะนำ ให้กับทุกคนที่มีโอกาสได้ไปเยือนเมืองปารีส ประเทศฝรั่งเศสได้ตามไปเก็บภาพกัน
1. มุมถ่ายภาพจัตุรัสทรอคคาเดโร 1 (Trocadero 1)
จัตุรัสทรอคคาเดโร ถือเป็นหนึ่งในจุดที่สามารถชมวิวและถ่ายภาพหอไอเฟลได้ดีที่สุดแห่งหนึ่งในปารีส โดยตำแหน่งของจัตุรัสแห่งนี้ตั้งอยู่บนเนินเขาที่ฝั่งตรงข้ามของแม่น้ำแซน ห่างจากตัวหอไอเฟลประมาณ 700 เมตร จัตุรัสทรอคคาเดโรมีลานกว้างขนาดใหญ่ที่เปิดตลอด 24 ชั่วโมง จากตรงนี้จะสามารถมองเห็นได้ทั้งหอไอเฟล สวนสาธารณะชองเดอมาร์ส และอาคารบางส่วนในเมืองปารีส จึงมีนักท่องเที่ยวแวะเวียนมาถ่ายภาพที่นี่ทุกช่วงเวลาตั้งแต่เช้าตรู่ไปจนถึงในยามค่ำคืนที่หอเหล็กสูงแห่งนี้จะถูกประดับไฟสีทองงามสง่าและสุดโรแมนติก
พิกัด GPS : 48°51'43.4"N 2°17'19.3"E
2. มุมถ่ายภาพจัตุรัสทรอคคาเดโร 2 (Trocadero 2)
มุมที่ 2 เรายังคงอยู่กันที่จัตุรัสทรอคคาเดโร แต่ว่าขยับลงมาด้านล่างอีกนิดจากลานกว้างด้านบนจากตรงนี้จะได้ภาพของหอไอเฟลตั้งตระหง่านยืนเด่นท่ามกลางสวนสาธารณะชองเดอมาร์ส โดยมีฉากหน้าเป็นป้อมปืนใหญ่อันน่าเกรงขามกับเนินหญ้าเขียวขจีของสวนสาธารณะทรอคคาเดโร
พิกัด GPS : 48°51'43.4"N 2°17'19.3"E
3. มุมถ่ายภาพจัตุรัสทรอคคาเดโร 3 (Trocadero 3)
ด้วยพื้นที่อันกว้างใหญ่ของจัตุรัสทรอคคาเดโร และมีวงเวียนอยู่ด้านหน้าซึ่งรถชนิดต่างๆ สามารถขับผ่านเข้าไปได้ ทำให้นักท่องเที่ยวที่ขึ้นรถบัส hop in hop off ของเมืองปารีส หรือรถนำเที่ยวชนิดอื่นๆ ก็สามารถถ่ายภาพสวยๆ ของจัตุรัสทรอคคาเดโรคู่กับหอไอเฟลได้เช่นกัน โดยมุมถ่ายภาพที่ได้นั้นจะมองเห็นทั้งตัวจัตุรัส ตัวอาคารที่มีลักษณะเป็นปีกสองข้างโค้งเข้าไปหาหอไอเฟล รูปปั้นสีทองที่ตั้งอยู่ทั้งสองด้าน และบรรยากาศของนักท่องเที่ยวในบริเวณรอบๆ
พิกัด GPS : 48°51'46.0"N 2°17'15.0"E
4. มุมถ่ายภาพสะพาน Pont d’lena ด้านขวา
เมืองปารีสนั้นมีแม่น้ำสายหลักคือแม่น้ำแซน ที่ไหลผ่านจุดท่องเที่ยวสำคัญๆ มากมาย ทำให้มีการสร้างสะพานหลากหลายรูปแบบขึ้นมาเพื่อความสะดวกในการคมนาคม โดยหนึ่งในสะพานหลักที่เป็นที่นิยมในการถ่ายภาพหอไอเฟล ก็คือสะพาน Pont d’lena ซึ่งตั้งอยู่ระหว่างหอไอเฟลและจัตุรัสทรอคคาเดโร และตำแหน่งของสะพานยังทอดยาวตรงกับหอไอเฟลอย่างพอดิบพอดี ทำให้สามารถเก็บภาพสวยๆ ทั้งจากตัวสะพาน บรรยากาศของแม่น้ำแซน และต้นไม้สวยๆ บริเวณทางเดินคู่กับหอไอเฟล
พิกัด GPS : 48°51'36.7"N 2°17'28.5"E
5. มุมถ่ายภาพกลางสะพาน Pont d’lena
สำหรับใครที่ต้องการมุมโล่งๆ ของสะพาน Pont d’lena คู่กับหอไอเฟล ก็สามารถย้ายมาถ่ายภาพที่ตรงกลางสะพาน เลือกถ่ายภาพแสงไฟของรถยนต์ที่พุ่งตรงไปยังหอไอเฟลในยามค่ำคืนได้เช่นกัน แต่เนื่องจากพื้นที่ที่ค่อนข้างแคบ จึงต้องใช้เลนส์มุมกว้างที่มีระยะตั้งแต่ 14 mm. ขึ้นไป และนอกจากการเดินหามุมถ่ายภาพบริเวณสะพานแล้ว เรายังสามารถเดินลงไปที่บริเวณทางเดินเลียบแม่น้ำแซน เพื่อหามุมสวยๆ เพิ่มเติมได้อีกด้วย
พิกัด GPS : 48°51'37.3"N 2°17'29.3"E
6. มุมถ่ายภาพสะพาน Passerelle Debilly
ถัดจากสะพาน Pont d’lena มาเพียงไม่ไกล ก็จะพบกับสะพานอีกแห่งหนึ่งคือสะพาน Passerelle Debilly ซึ่งจุดเด่นของสะพานแห่งนี้คือรูปแบบสถาปัตยกรรมที่เป็นแบบสมัยใหม่ มีลักษณะเป็นสะพานเหล็กทรงโค้ง แตกต่างจากสะพานอื่นๆ ในบริเวณเดียวกันที่มักจะถูกสร้างในสไตล์ฝรั่งเศสโบราณ และเนื่องจากสะพานแห่งนี้ตั้งอยู่ไม่ไกลจากหอไอเฟล เมื่อเดินมาบริเวณกลางสะพาน ก็จะสามารถถ่ายภาพเส้นโค้งของแม่น้ำแซนโดยมีหอไอเฟลตั้งอยู่อย่างโดดเด่นทางฝั่งซ้าย และสามารถรอจังหวะที่เรือแล่นผ่านมาเพื่อเพิ่มความน่าสนใจให้กับภาพได้อีกด้วย
พิกัด GPS : 48°51'45.5"N 2°17'48.8"E
7. มุมถ่ายภาพสะพาน Pont de l’Alma
สะพาน Pont de l’Alma เป็นสะพานอีกแห่งที่สามารถถ่ายภาพหอไอเฟลได้อย่างสวยงาม ด้วยตำแหน่งที่ตั้งอยู่ถัดจากสะพาน Passerelle Debilly ซึ่งเป็นสะพานสมัยใหม่ที่มีลักษณะเป็นเหล็กทรงโค้ง ทำให้เมื่อถ่ายรูปคู่กับหอไอเฟลที่เป็นสิ่งก่อสร้างสมัยใหม่ที่สร้างขึ้นด้วยเหล็กเช่นเดียวกันแล้ว จึงเกิดเป็นความเชื่อมโยงที่ลงตัว แถมยังได้บรรยากาศสวยๆ จากแม่น้ำแซน และต้นไม้ที่อยู่ในบริเวณรอบๆ มาช่วยสร้างความงดงามเพิ่มขึ้นได้อีกเช่นกัน
พิกัด GPS : 48°51'50.4"N 2°18'05.6"E
8. มุมถ่ายภาพสะพาน Pont Alexandre III
สะพานอันดับถัดไปที่สามารถถ่ายภาพหอไอเฟลได้สวยงามไม่แพ้กัน ก็คือสะพาน Pont Alexandre III โดยจุดเด่นของสะพานแห่งนี้คือมีรูปปั้นหลากหลายชนิดตั้งอยู่ทั้งบริเวณต้นสะพานและกลางสะพาน ทำให้นอกจากจะได้มุมภาพที่มองเห็นทั้งหอไอเฟลและแม่น้ำแซนเหมือนกับมุมอื่นๆแล้ว เรายังสามารถเลือกใช้รูปปั้นเหล่านี้มาเป็นฉากหน้าสวยๆ ของการถ่ายภาพหอไอเฟลได้เป็นอย่างดี
พิกัด GPS : 48°51'50.0"N 2°18'48.9"E
9. มุมถ่ายภาพจาก Pont de la Concorde
ถัดจากสะพาน Pont Alexandre III ออกไปอีกนิดเป็นสะพานคองคอร์ด (Pont de la Concorde) ที่ตั้งชื่อตามจัตุรัสคองคอร์ด หรือ ปลัส เดอ ลา กงกอร์ (Place de la Concorde) สถานที่แห่งความทรงจำทางประวัติศาสตร์อันเป็นสัญลักษณ์ของสงครามกลางเมืองและการปฏิวัติการปกครองของฝรั่งเศส นักท่องเที่ยวสามารถสรรหามุมถ่ายภาพสวยๆ ของหอไอเฟลจากบริเวณนี้ได้อย่างเพลิดเพลิน ซึ่งจากมุมนี้จะได้ภาพของหอไอเฟลที่ตั้งอยู่ด้านซ้ายมือโดยมีสะพาน Pont Alexandre III ทอดข้ามแม่น้ำแซนอันสงบและสวยงาม
พิกัด GPS : 48°51'51.9"N 2°19'07.2"E
10. มุมถ่ายภาพจากช่องตึก ถนน 5 Avenue de Suffren
นอกจากความโดดเด่นและเป็นเอกลักษณ์ของหอไอเฟลแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่เป็นสัญลักษณ์ของเมืองปารีสก็คือกลุ่มอาคารเก่าแก่อายุหลายร้อยปีที่ได้รับการดูแลรักษาเป็นอย่างดีทั่วทั้งเมือง หลายๆ คนจึงอยากหามุมถ่ายภาพที่สามารถผสมผสานทั้งสองสิ่งนี้เข้าด้วยกันในภาพภาพเดียว โดยมุมที่เราอยากแนะนำนั้นอยู่ที่ถนน 5 Avenue de Suffren ซึ่งตั้งอยู่ไม่ไกลจากตัวหอไอเฟล ซึ่งจากจุดนี้เราจะได้ภาพของอาคารเก่าแก่ของปารีสทั้งสองฝั่ง โดยมีหอไอเฟลอยู่ตรงกลาง ซึ่งแม้ว่าทั้งสองสิ่งนี้จะเป็นงานสถาปัตยกรรมคนละรูปแบบกัน แต่ก็สอดรับกันและสะท้อนให้เห็นถึงกลิ่นอายของเมืองปารีสได้เป็นอย่างดี
พิกัด GPS : 48°51'25.4"N 2°17'31.8"E
11. มุมถ่ายภาพจากสวน Champ de Mars(Champ de Mars 1)
มุมถ่ายภาพอันดับสุดท้ายถือเป็นมุมยอดนิยมอันดับหนึ่งในการถ่ายภาพหอไอเฟล เนื่องจากหอไอเฟลนั้นตั้งอยู่บนพื้นที่ส่วนหนึ่งของสวนสาธารณะชองส์เดอมาร์ส และด้วยขนาดอันกว้างใหญ่ของสวน บวกกับสนามหญ้าสีเขียวขจี และต้นไม้หลากหลายชนิดในบริเวณรอบๆ ทำให้ทุกคนสามารถเดินหามุมถ่ายภาพสวยๆ ของหอไอเฟลได้อย่างไม่ยาก และสวนสาธารณะแห่งนี้ยังเปิดทำการตลอด 24 ชั่วโมง เราจึงสามารถแวะมาถ่ายภาพสวยๆ ได้ในทุกช่วงเวลาไม่ว่าจะเป็นตอนเช้าหรือตอนกลางคืน
พิกัด GPS : 48°51'24.9"N 2°17'49.2"E
12. มุมถ่ายภาพจากสวน Champ de Mars 2 (Champ de Mars 2)
ภาพถ่ายจากมุมนี้ยังคงอยู่บนพื้นที่ของสวนสาธารณะชองส์เดอมาร์ส แต่ขยับออกมาห่างจากหอไอเฟลมากขึ้นอีกนิดจากจุดแรก ซึ่งจะทำให้ได้ภาพมุมกว้างขึ้นที่มองเห็นทิวต้นไม้สองข้างเรียงตัวเป็นแนวสวยงาม และบรรยากาศของนักท่องเที่ยวที่นั่งพักผ่อนอยู่บนสนามหญ้า บริเวณรอบๆ ฐานของหอไอเฟล
พิกัด GPS : 48°51'22.9"N 2°17'51.4"E
13. มุมถ่ายภาพจากจุดชมวิวหอคอยมงต์ปาร์นาส (Montparnasse Tower)
มุมสวยถ่ายภาพหอไอเฟลแห่งสุดท้ายที่อยากแนะนำคือ จุดชมวิวบนหอคอยมงต์ปาร์นาส หอคอยมงต์ปาร์นาสเป็นตึกรูปแบบโมเดิร์น 59 ชั้นกับความสูง 210 เมตรที่สูงเด่นในย่านมงต์ปาร์นาสของกรุงปารีส ห่างจากหอไอเฟล 3 กิโลเมตร ซึ่งจุดชมวิวภายในหอคอยมงต์ปาร์นาสจะอยู่ที่ชั้น 56 และ 59 จากที่นี่เองเราจะสามารถชมหอไอเฟลและทัศนียภาพรอบๆ ที่สวยงามได้อย่างไร้สิ่งบดบัง แต่การจะขึ้นไปเก็บภาพและดื่มด่ำกับวิวสวยๆ ที่นี่ต้องซื้อตั๋วเข้าชม ราคาอยู่ที่ 18 ยูโร เปิดให้เข้าชมได้ทุกวันตั้งแต่เวลา 09.30 น. - 23.30 น.
พิกัด GPS : 48°50'29.9"N 2°19'17.8"E
หมู่บ้านแฮมนอย (Hamnoy) ถือเป็นสัญลักษณ์ของหมู่เกาะโลโฟเทน (Lofoten) มีลักษณะโดดเด่นคือ “โรบูเอ้” สีแดง (Rorbuer) กระท่อมสำหรับพักชั่วคราวของชาวประมงที่เรียงรายอยู่บนโขดหิน และมีฉากหลังเป็นภูเขา เป็นภาพที่ปรากฏอยู่บนโปสการ์ด ของที่ระลึก และสื่อประชาสัมพันธ์ท่องเที่ยวต่างๆ
อ่านต่อหมู่บ้านนูส์ฟยอร์ด (Nusfjord) คือหมู่บ้านชาวประมงเล็ก ๆ ตั้งอยู่บนชายฝั่งด้านใต้ของเกาะ Flakstadøya ในอ่าวเวสฟยอร์เดน (Vestfjord) เขตเทศบาล Flakstad ของเมือง Lofoten ประเทศนอร์เวย์ หมู่บ้านแห่งนี้ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในหมู่บ้านชาวประมงที่สวยที่สุดในนอร์เวย์ และอาจจะเป็นหนึ่งในหมู่บ้านชาวประมงที่สวยที่สุดในโลกก็เป็นได้
อ่านต่อหมู่บ้านซาคริซอย (Sakrisoy) เป็นหมู่บ้านเล็กๆ ที่ตั้งอยู่เชิงเขาโอลสตินด์ (Olstind) ซึ่งเป็นหนึ่งในภูเขาที่โดดเด่นที่สุดของหมู่เกาะโลโฟเทน (Lofoten) และอีกหนึ่งลักษณะที่โดดเด่นคือหมู่บ้านนี้คือ “โรบูเอ้” สีเหลือง (Rorbuer) กระท่อมสำหรับพักชั่วคราวของชาวประมงที่เรียงรายอยู่ตามริมฝั่งฟยอร์ด
อ่านต่อนอร์เวย์ (Norway) ดินแดนแห่งฟยอร์ดและขุนเขาที่งดงามราวกับภาพวาด การเดินทางจากออสโล (Oslo) เมืองหลวงของประเทศ สู่เบอร์เกน (Bergen) ฟลอม (Flam) และเอลซุนด์ ( Alesund) เปรียบเสมือนการเปิดประตูสู่โลกใหม่ที่เต็มไปด้วยธรรมชาติอันบริสุทธิ์ เส้นทางสายนี้จะพาคุณไปสัมผัสกับบ้านเมืองน่ารักๆ ทัศนียภาพที่สวยงามตระการตาของเทือกเขาสูงชัน น้ำตกที่ไหลเชี่ยว ฟยอร์ดที่ทอดยาว และหมู่บ้านเล็กๆ ที่ซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางธรรมชาติของนอร์เวย์
อ่านต่อนอร์เวย์ (Norway) ดินแดนแห่งฟยอร์ดและขุนเขาที่แสนสวยงาม เต็มไปด้วยเส้นทางท่องเที่ยวมากมายที่พร้อมจะมอบความทรงจำสุดประทับใจให้แก่ผู้มาเยือน การเดินทางจากออสโล (Oslo) สู่ทรุมเซอ (Tromso) และโลโฟเทน (Lofoten) นับเป็นอีกหนึ่งเส้นทางท่องเที่ยวที่น่าสนใจ เพราะนักท่องเที่ยวจะได้เดินทางผ่านภูมิประเทศที่หลากหลาย ตั้งแต่เมืองหลวงที่ทันสมัย ไปจนถึงธรรมชาติอันบริสุทธิ์ของอาร์กติก และหมู่เกาะที่สวยงามราวภาพวาด
อ่านต่อหมู่บ้านซอมมารอย (Sommarøy) เป็นหมู่บ้านชาวประมงเก่าแก่ทางตะวันตกของเมืองทรุมเซอ (Tromsø) ประเทศนอร์เวย์ อยู่ห่างจากเมืองทรุมเซอไปทางตะวันตกประมาณ 58 กิโลเมตร เป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมเนื่องจากมีหาดทรายขาวและทิวทัศน์สวยงาม
อ่านต่อมหาวิหารอาร์กติก (Arctic Cathedral) เป็นหนึ่งในแลนด์มาร์คที่โดดเด่นที่สุดของเมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์ ด้วยสถาปัตยกรรมที่เป็นเอกลักษณ์และความหมายอันลึกซึ้ง ทำให้มหาวิหารแห่งนี้กลายเป็นสัญลักษณ์ของเมืองและเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเยือนทรุมเซอ
อ่านต่อมหาวิหารทรุมเซอ (Tromso Cathedral) หรือที่รู้จักในชื่อ "Tromsdalen Church" เป็นโบสถ์ที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นด้วยโครงสร้างไม้ขนาดใหญ่ และการออกแบบตกแต่งภายในอันงดงาม
อ่านต่อท่าเรือทรุมเซอ (Port of Tromsø) ตั้งอยู่ในใจกลางเมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์ ท่าเรือแห่งนี้เป็นมากกว่าแค่จุดขึ้นลงเรือเท่านั้น แต่ยังเป็นหัวใจสำคัญของเมืองทรุมเซอ และเป็นประตูสู่ดินแดนอาร์กติกที่น่าตื่นตาตื่นใจ
อ่านต่อกระเช้าไฟฟ้าเฟียลไฮเซน (Fjellheisen Cable Car) เป็นอีกหนึ่งไฮไลต์ที่พลาดไม่ได้เมื่อมาเยือนเมืองทรุมเซอ ประเทศนอร์เวย์ การนั่งกระเช้าลอยฟ้าขึ้นไปบนยอดเขาสโตรสไตเนิน (Storsteinen Mountain) จะพานักท่องเที่ยวไปสัมผัสกับวิวเมืองทรุมเซอและฟยอร์ดอันงดงามแบบ 360 องศา
อ่านต่อหมู่บ้านแฮมนอย (Hamnoy) ถือเป็นสัญลักษณ์ของหมู่เกาะโลโฟเทน (Lofoten) มีลักษณะโดดเด่นคือ “โรบูเอ้” สีแดง (Rorbuer) กระท่อมสำหรับพักชั่วคราวของชาวประมงที่เรียงรายอยู่บนโขดหิน และมีฉากหลังเป็นภูเขา เป็นภาพที่ปรากฏอยู่บนโปสการ์ด ของที่ระลึก และสื่อประชาสัมพันธ์ท่องเที่ยวต่างๆ
อ่านต่อหมู่บ้านนูส์ฟยอร์ด (Nusfjord) คือหมู่บ้านชาวประมงเล็ก ๆ ตั้งอยู่บนชายฝั่งด้านใต้ของเกาะ Flakstadøya ในอ่าวเวสฟยอร์เดน (Vestfjord) เขตเทศบาล Flakstad ของเมือง Lofoten ประเทศนอร์เวย์ หมู่บ้านแห่งนี้ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในหมู่บ้านชาวประมงที่สวยที่สุดในนอร์เวย์ และอาจจะเป็นหนึ่งในหมู่บ้านชาวประมงที่สวยที่สุดในโลกก็เป็นได้
อ่านต่อหมู่บ้านซาคริซอย (Sakrisoy) เป็นหมู่บ้านเล็กๆ ที่ตั้งอยู่เชิงเขาโอลสตินด์ (Olstind) ซึ่งเป็นหนึ่งในภูเขาที่โดดเด่นที่สุดของหมู่เกาะโลโฟเทน (Lofoten) และอีกหนึ่งลักษณะที่โดดเด่นคือหมู่บ้านนี้คือ “โรบูเอ้” สีเหลือง (Rorbuer) กระท่อมสำหรับพักชั่วคราวของชาวประมงที่เรียงรายอยู่ตามริมฝั่งฟยอร์ด
อ่านต่อนอร์เวย์ (Norway) ดินแดนแห่งฟยอร์ดและขุนเขาที่งดงามราวกับภาพวาด การเดินทางจากออสโล (Oslo) เมืองหลวงของประเทศ สู่เบอร์เกน (Bergen) ฟลอม (Flam) และเอลซุนด์ ( Alesund) เปรียบเสมือนการเปิดประตูสู่โลกใหม่ที่เต็มไปด้วยธรรมชาติอันบริสุทธิ์ เส้นทางสายนี้จะพาคุณไปสัมผัสกับบ้านเมืองน่ารักๆ ทัศนียภาพที่สวยงามตระการตาของเทือกเขาสูงชัน น้ำตกที่ไหลเชี่ยว ฟยอร์ดที่ทอดยาว และหมู่บ้านเล็กๆ ที่ซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางธรรมชาติของนอร์เวย์
อ่านต่อนอร์เวย์ (Norway) ดินแดนแห่งฟยอร์ดและขุนเขาที่แสนสวยงาม เต็มไปด้วยเส้นทางท่องเที่ยวมากมายที่พร้อมจะมอบความทรงจำสุดประทับใจให้แก่ผู้มาเยือน การเดินทางจากออสโล (Oslo) สู่ทรุมเซอ (Tromso) และโลโฟเทน (Lofoten) นับเป็นอีกหนึ่งเส้นทางท่องเที่ยวที่น่าสนใจ เพราะนักท่องเที่ยวจะได้เดินทางผ่านภูมิประเทศที่หลากหลาย ตั้งแต่เมืองหลวงที่ทันสมัย ไปจนถึงธรรมชาติอันบริสุทธิ์ของอาร์กติก และหมู่เกาะที่สวยงามราวภาพวาด
อ่านต่อหมู่บ้านซอมมารอย (Sommarøy) เป็นหมู่บ้านชาวประมงเก่าแก่ทางตะวันตกของเมืองทรุมเซอ (Tromsø) ประเทศนอร์เวย์ อยู่ห่างจากเมืองทรุมเซอไปทางตะวันตกประมาณ 58 กิโลเมตร เป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมเนื่องจากมีหาดทรายขาวและทิวทัศน์สวยงาม
อ่านต่อ