- หน้าแรก
- ท่องเที่ยวต่างประเทศ
- พิพิธภัณฑ์คาซามะนิลา กรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์
พิพิธภัณฑ์คาซามะนิลา กรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์
- อ่าน (4,829)
- By Webmaster
- 14:47:55 | 1 ต.ค. 2561
พิพิธภัณฑ์คาซามะนิลา กรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์
Casa Manila Museum, Manila, Philippines
พิพิธภัณฑ์คาซามะนิลา ซึ่งเป็นคฤหาสน์สมัยล่าอาณานิคมของสเปน
Casa Manila Museum เป็นคฤหาสน์สมัยอาณานิคมสเปนที่อยู่ในย่านเมืองโบราณอินทรามูรอส สร้างด้วยหินภูเขาไฟและต่อเติมชั้นบนด้วยโครงสร้างไม้กลางคริสต์ศตวรรษที่ 19 ภายในตกแต่งด้วยเครื่องเรือน ของประดับบ้าน และงานศิลปะสมัยโบราณ ตัวอาคารสะท้อนให้เห็นถึงความมั่งคั่งของตระกูลต่างๆ ที่อาศัยอยู่ภายใต้การปกครองของสเปน อธิบายถึงวิถีชีวิตของชาวอาณานิคมในยุคล่าอาณานิคมของสเปนในฟิลิปปินส์
แผนที่ตั้งของเมืองหลวงมะนิลาในประเทศฟิลิปปินส์
อินทรามูรอส มีอายุยาวนานมากว่า 400 ปี ก่อตั้งขึ้นในช่วงปี ค.ศ.1571 ด้วยวัตถุประสงค์เพื่อป้องกันการโจมตีจากข้าศึกและโจรสลัดของชาวสเปน โดยมีผู้นำการก่อสร้างคือ Miguel Lopez de Legazpi
ประวัติของเมืองโบราณอินทรามูรอส
เฟอร์นิเจอร์ส่วนหนึ่งที่อยู่ภายในพิพิธภัณฑ์คาซามะนิลา
อินทรามูรอสเป็นต้นกำเนิดของกรุงมะนิลา เมืองหลวงของประเทศฟิลิปปินส์ ถูกยกย่องให้เป็นมรดก อารยธรรมทางประวัติศาสตร์ใน ค.ศ.1600 ตั้งอยู่บริเวณชายฝั่งของอ่าวมะนิลา ทางตอนใต้ของแม่น้ำปาซิก มีลักษณะเป็นป้อมปราการ ซึ่งกำแพงแต่ละด้านยาว 4 กิโลเมตร ภายในมีพื้นที่ 395 ไร่ เป็นที่ตั้งของชุมชนและสถานที่สำคัญมากมาย เช่น โบสถ์ซานอะกุสติน คอนแวนต์ โรงพยาบาล ค่ายทหาร รวมถึงสถานที่ทางราชการ จนกลายเป็นอาณาจักรขนาดใหญ่ที่ถูกโอบล้อมไว้ด้วยกำแพงหนา เหมือนกับชื่อในภาษาสเปนที่มีความหมายว่า “within the walls”
เฟอร์นิเจอร์โบราณส่วนหนึ่งที่แสดงถึงความเป็นผู้ดีเก่าในสเปน
เครื่องมือเครื่องใช้ที่ยังหลงเหลืออยู่ในคฤหาสน์
ในยุคที่มีการล่าอาณานิคมของสเปนและอเมริกา “อินทรามูรอส” ถือเป็นศูนย์กลางความเจริญ และเป็นอาณาจักรที่ได้รับอิทธิพลทางด้านสถาปัตยกรรมมาจากตะวันตก เดิมทีอินทรามูรอสเคยเป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักรอิสลาม ก่อนจะถูกชาวสเปนเข้ายึดในปี ค.ศ.1571 และเปลี่ยนมะนิลาให้กลายเป็นเมืองหลวงของอาณานิคม
เครื่องเปียโนและเครื่องใช้ที่แสดงถึงความเป็นอยู่ของชาวสเปนในอดีต
ยุคสงครามอินทรามูรอสได้ถูกเปลี่ยนมือหลายต่อหลายครั้ง หลังจากสเปนครอบครองเป็นเวลา 190 ปี ในช่วงปี ค.ศ. 1762 ก็ตกไปอยู่ในมือของอังกฤษ และในอีก 2 ปี หลังจากนั้น สเปนก็สามารถไปชิงกลับมาได้ แต่ในปี ค.ศ.1898 อินทรามูรอสก็ต้องตกอยู่ในการครอบครองของสหรัฐอเมริกา และยืนหยัดท่ามกลางสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งโดนทหารญี่ปุ่นทำลายบางส่วนแล้วเข้ายึดครองในที่สุด
รถจักรยานสำหรับให้นักท่องเที่ยวเช่าเพื่อปั่นชมย่านเก่าอินทรามูรอส
การผ่านมรสุมภัยสงครามมาอย่างโชกโชน รวมทั้งการเผชิญกับแผ่นดินไหว ไฟไหม้ พายุโหมกระหน่ำ ทำให้อินทรามูรอสแทบจะไม่หลงเหลือสิ่งใด และถูกปล่อยทิ้งร้างไว้ในช่วงระยะเวลาหนึ่ง จนกระทั่งรัฐบาลฟิลิปปินส์เข้ามาเก็บเศษซากที่เหลือด้วยการบูรณปฏิสังขรณ์ และเปิดให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวในปัจจุบัน
ความเป็นมาและความสำคัญ
ห้องโถงภายในอาคารพิพิธภัณฑ์คาซา มะนิลา กรุงมะนิลา
พิพิธภัณฑ์คาซามะนิลาเป็นพิพิธภัณฑ์แห่งชาติของชาวฟิลิปปินส์บันทึกเหตุการณ์ทางด้านประวัติศาสตร์นับหลายพันปี ตั้งแต่วัฒนธรรมดั้งเดิมของชาวพื้นเมืองฟิลิปปินส์ไปจนถึงศิลปะทางด้านวัฒนธรรมที่แตกต่างกันออกไป โดยภายในพิพิธภัณฑ์แห่งนี้แบ่งการแสดงนิทรรศการออกไปเป็น 3 ชั้น
เครื่องมือเครื่องใช้ที่เปรียบเสมือนเครื่องบันทึกเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์
พิพิธภัณฑ์คาซาบ้านทรงสเปนสวยงาม โดยย่านที่อยู่อาศัยของชนชั้นสูงชาวสเปนเคยถูกไฟไหม้เสียหายในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 แต่รัฐบาลฟิลิปปินส์ได้มีการบูรณะขึ้นใหม่ในช่วง ค.ศ.1980 ภายในตกแต่งอย่างดี เพื่อถ่ายทอดภาพชีวิตของครอบครัวชาวฟิลิปปินส์ในช่วงที่ตกเป็นอาณานิคมของสเปน
การเดินทางจากสนามบินไปยังเมืองโบราณอินทรามูรอส
- รถแท็กซี่ สีเหลืองคือ แท็กซี่มิเตอร์ ราคาโดยประมาณ 300-500 PPH เริ่มกดมิเตอร์ตามความเป็นจริง สีขาวคือ แท็กซี่เหมา โดยราคาจะเป็นไปตามที่ผู้โดยสารและคนขับตกลงกัน
- ชัตเตอร์บัส จากสนามบิน จุดจอดรถบัสอยู่หน้าอาคาร เทอมินอล 3 เมื่อออกจากอาคารมา ทางด้านขวานักท่องเที่ยวสามารถเลือกใช้บริการจากสนามบินเพื่อเข้าสู่ตัวเมืองได้ โดยมีระยะทาง 11.7 กิโลเมตร ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง และต้องต่อรถแท็กซี่เพื่อไปยังย่านอินทรามูรอสเพื่อเที่ยวชมพิพิธภัณฑ์คาซามะนิลา
การเดินทางภายในย่านอินทรามูรอสไปยังพิพิธภัณฑ์คาซา
- รถสามล้อ หากนักท่องเที่ยวต้องการเที่ยวโดยรอบย่านเก่าอินทรามูรอสพร้อมไกด์ จะอยู่ที่ราคา 900 PPH ต่อ 2 ชม. (ราคาปกติ 305 PPH ต่อ 30 นาที)
- รถแท็กซี่ นักท่องเที่ยวสามารถเรียกรถแท็กซี่เพื่อเดินทางไปยังสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ภายในย่านเก่าอินทรามูรอสได้ และเนื่องจากสถานที่แต่ละที่อยู่ไม่ห่างกันมาก อัตราค่าโดยสาร อยู่ที่ประมาณ 100 PPH
เวลาทำการเปิด – ปิด
โครงสร้างของคฤหาสน์ หรือพิพิธภัณฑ์คาซามะนิลาสร้างด้วยหินภูเขาไฟและต่อเติมชั้นบนด้วยไม้
เปิดให้บริการให้นักท่องเที่ยวเข้าชม ทุกวันอังคาร – วันอาทิตย์ เวลา 9:00 น. – 18:00 น.
อัตราค่าเข้าชม
อัตราค่าเข้าชม 75 PPH สำหรับผู้ใหญ่
และอัตราค่าเข้าชม 50 PPH สำหรับเด็กนักเรียน นักศึกษา ผู้สูงอายุ และผู้พิการ
ข้อปฏิบัติที่มีไว้เพื่อให้นักท่องเที่ยวปฏิบัติและทำความเข้าใจ
จุดท่องเที่ยวสำคัญ
เนื่องจากอาคารพิพิธภัณฑ์คาซามีทั้งหมด 3 ชั้น ภายในมีห้องขนาดใหญ่อยู่มากมาย ซึ่งจุดท่องเที่ยวที่พลาดไม่ได้เลยคือ
อาคารพิพิธภัณฑ์คาซามะนิลามีทั้งหมด 3 ชั้น ทำจากหินภูเขาไฟและต่อเติมด้วยไม้
ชั้น 1 เดินชมมีด ช้อนส้อม หม้อและกระทะสมัยโบราณ รวมทั้งแม่พิมพ์ทำอาหารและเตาถ่านยุคศตวรรษที่ 18 ชมถังเก็บน้ำฝนสำหรับกักเก็บน้ำไว้ใช้ในคฤหาสน์ตลอดทั้งปี จากนั้นแวะชมห้องรับประทานอาหารที่มีโต๊ะรับประทานอาหารขนาด 18 ที่นั่ง พัดลมเพดานที่ทำงานด้วยแรงคน ทำให้รู้สึกเย็นสบาย
ข้าวของเครื่องใช้ในยุคสมัยสเปนล่าอาณานิคมที่ยังหลงเหลืออยู่
ชั้น 2 ห้องนอนและห้องสมุดกึ่งห้องทำงาน นักท่องเที่ยวจะเห็นตู้เซฟและหีบสมบัติเก็บเหรียญเงินและเหรียญทอง ส่วนห้องน้ำออกแบบมาให้สองคนนั่งกระทบไหล่และคุยกันได้อย่างต่อเนื่องระหว่างทำธุระส่วนตัว
ห้องนอนบริเวณชั้น 2 ที่ยังหลงเหลือให้นักท่องเที่ยวได้เข้าชม
ชั้น 3 ห้องนั่งเล่นของครอบครัว ชมเครื่องเรือนโบราณทำจากไม้ เช่น โซฟา เก้าอี้ และนาฬิกาลูกตุ้มขนาดใหญ่ นอกจากนี้ยังมีโต๊ะหินอ่อนที่ขาโต๊ะทำจากไม้ และแท่นวางรูปสลัก เครื่องเรือนในคฤหาสน์มีทั้งเครื่องเรือนแบบจีน ยุโรป และเครื่องเรือนที่ผลิตในฟิลิปปินส์
เครื่องเรือนต่างๆ ที่ทำจากไม้ในสมัยล่าอาณานิคมสเปน
เวลาที่เหมาะสมสำหรับท่องเที่ยว
ทางเดินขึ้นชั้นบนเพิ่มเที่ยวชมนิทรรศการอื่นๆ ภายในพิพิธภัณฑ์
เวลาที่ควรไปท่องเที่ยวมากที่สุดคือช่วงปลายเดือนพฤศจิกายนไปจนถึงเดือนกุมภาพันธ์ เมื่ออุณหภูมิอบอุ่นในตอนกลางวันและค่อนข้างหนาวในเวลากลางคืน (อาจต้องสวมใส่เสื้อสเวตเตอร์แบบบาง) เช่นเดียวกับเดือนแห่งฤดูร้อน หรือเดือนมีนาคมไปจนถึงเดือนเมษายน ซึ่งอาจจะร้อนมาก ด้วยอุณหภูมิสูงถึง 38 องศาเซลเซียส ฉะนั้นนักท่องเที่ยวควรเตรียมหมวกและแว่นกันแดดไปด้วย พร้อมกับดื่มน้ำให้มาก ทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF สูง
ข้อมูลทั่วไปที่ควรรู้
ของฝากที่นักท่องเที่ยวสามารถเลือกซื้อได้ตามชอบ แสดงถึงวัฒนธรรม
หากนักท่องเที่ยวต้องการนำยาประจำตัวใด ๆ ติดตัวไปด้วยต้องได้รับอนุญาตจากทางราชการของประเทศฟิลิปปินส์ก่อนจึงจะสามารถนำยาประจำตัวเข้าไปภายในประเทศได้
นักท่องเที่ยวที่สนใจไปเที่ยว พิพิธภัณฑ์คาซามะนิลา สามารถศึกษา ข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่
พิพิธภัณฑ์คาซามะนิลา กรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์
(Casa Manila Museum, Manila, Philippines)
ระดับความนิยม :
อัตราค่าเข้าชม : ราคา 75 PPH สำหรับผู้ใหญ่ ราคา 50 PPH สำหรับเด็ก/นักศึกษา/ผู้สูงอายุ/ผู้พิการ
เวลาเปิด – ปิด : ทุกวันอังคาร – วันอาทิตย์ เวลา 9.00 - 18.00 น.
ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการท่องเที่ยว : ช่วงปลายเดือนพฤศจิกายนไปจนถึงเดือนกุมภาพันธ์
สถานที่ตั้ง : ตั้งอยู่ใน Intramuros (ย่านเมืองโบราณ) กรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์
โทรศัพท์ : (+63) 2 527 4084
เว็บไซต์ : www.manila.gov.ph
ข้อมูลอื่น ๆ ที่ควรรู้ : การพยากรณ์อากาศ www.accuweather.com
การท่องเที่ยวฟิลิปปินส์ www.tourism.gov.ph
ตรวจสอบเที่ยวรถไฟฟ้า https://dotcmrt3.gov.ph/
ตรวจสอบเที่ยวบิน www.philippineairlines.com/en
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ
8 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเมืองญาจาง – ดาลัด ประเทศเวียดนาม
หากอยากสัมผัสบรรยากาศเมืองชายทะเลสุดคึกคักอากาศอบอุ่น แล้วไปผ่อนคลายในเมืองแห่งภูเขาอากาศเย็นสบายที่เวียดนามใต้ ญาจางและดาลัดคือคำตอบ! สองเมืองนี้จะพาคุณดื่มด่ำไปกับธรรมชาติที่งดงาม วัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์และกิจกรรมที่หลากหลาย Palanla ได้รวบรวมเอา 8 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเมืองญาจางและดาลัดมาให้แล้วในบทความนี้
อ่านต่ออาสนวิหารญาจาง เมืองญาจาง ประเทศเวียดนาม
อาสนวิหารญาจาง (Christ the King Cathedral Nha Trang) หรือ โบสถ์หินญาจาง สุดยอดสถาปัตยกรรมแบบนีโอโกธิคผสมผสานกับสถาปัตยกรรมแบบโรมัน ที่ตั้งตระหง่านอยู่บนเนินเขาใจกลางเมืองญาจาง ประเทศเวียดนาม อายุเกือบร้อยปีแห่งนี้ เปรียบเสมือนแลนด์มาร์กของเมือง ด้วยผนังหินสีน้ำตาลเข้มที่สลักเสลาอย่างวิจิตรบรรจง และหลังคาสูงชะลูดที่ดูอลังการ ตัดกับท้องฟ้าสีคราม ทำให้โบสถ์แห่งนี้กลายเป็นแลนด์มาร์กที่โดดเด่นและเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยว
อ่านต่อหาดญาจาง เมืองญาจาง ประเทศเวียดนาม
หาดญาจาง (Nha Trang Beach) เป็นหนึ่งในชายหาดที่สวยที่สุดของประเทศเวียดนาม ด้วยชายรูปร่างเหมือนพระจันทร์เสี้ยว ความยาวกว่า 6 กิโลเมตรที่โอบล้อมอ่าวญาจาง ในจังหวัดหวัดคั้ญฮวา ท่ามกลางภูมิทัศน์โดยรอบที่สวยงามของอาคารสถาปัตยกรรมสำคัญๆ มากมาย
อ่านต่อหอคอยแตร่มเฮือง เมืองญาจาง ประเทศเวียดนาม
หอคอยแตร่มเฮือง (Tram Huong Tower) สัญลักษณ์และจุดเช็กอินยอดนิยมของหาดญาจางในปัจจุบัน
อ่านต่อวินเพิร์ลแลนด์ เมืองญาจาง ประเทศเวียดนาม
วินเพิร์ลแลนด์ (Vinpearl Land) เป็นสวนสนุกและรีสอร์ตหรูครบวงจรระดับโลกที่เมืองญาจาง ประเทศเวียดนาม มีจุดเด่นอยู่ที่ทำเลที่ตั้งที่สวยงามติดทะเล และสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน นอกจากนี้ยังมีไฮไลต์สำคัญของการไปเที่ยวที่นี่คือ การนั่งกระเช้าลอยฟ้าข้ามทะเลที่ยาวที่สุดในโลก
อ่านต่อวัดลองเซิน เมืองญาจาง ประเทศเวียดนาม
วัดลองเซิน (Long Son Pagoda) หรือที่รู้จักกันดีในชื่อ “วัดพระใหญ่” เป็นวัดพุทธมหายานเก่าแก่ และใหญ่ที่สุดของเมืองญาจาง ประเทศเวียดนาม นอกจากความสวยงามอลังการของตัววัดแล้ว จากยอดเขายังสามารถมองเห็นวิวของเมืองญาจางและทะเลได้อย่างสวยงาม
อ่านต่อวัดตั๊กลัม เมืองดาลัด ประเทศเวียดนาม
วัดตั๊กลัม (Truc Lam Monastery of Da Lat) เป็นวัดพุทธในนิกายเซนบนยอดเขาเฟืองฮว่าง นอกจากภายในบริเวณวัดจะมีสิ่งก่อสร้างที่สวยงาม ยังมีการจัดตกแต่งภูมิทัศน์โดยรอบด้วยสวนดอกไม้สดสวย ถือเป็นวัดที่งดงามและได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวมากที่สุดในดาลัด
อ่านต่อน้ำตกดาตันลา เมืองดาลัด ประเทศเวียดนาม
น้ำตกดาตันลา (Datanla Waterfall) ไม่เพียงแต่เป็นน้ำตกที่สวยงาม แต่ยังซ่อนเรื่องราวตำนานพื้นเมืองของดาลัดที่น่าสนใจเอาไว้ นอกจากสัมผัสความเย็นฉ่ำของละอองน้ำที่กระเซ็นจากม่านน้ำตกแล้ว ยังมีกิจกรรมสนุกๆ คือการนั่งรถรางลัดเลาะไปตามเส้นทางที่โอบล้อมด้วยธรรมชาติอันเขียวขจี
อ่านต่อเจดีย์มังกรวัดลึงเฟือก เมืองดาลัด ประเทศเวียดนาม
เจดีย์มังกรวัดลึงเฟือก (Linh Phuoc Pagoda) วัดศาสนาพุทธนิกายเซนในดาลัด โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมที่สวยงามและเป็นเอกลักษณ์ ตัวอาคารทำจากเศษกระเบื้องเคลือบงดงามวิจิตร โดยเฉพาะอย่างยิ่งรูปปั้นมังกรขนาดใหญ่ที่พันรอบองค์พระเจดีย์ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของวัด
อ่านต่อฮาจิ เลน ประเทศสิงคโปร์
ตรอกฮาจิ หรือ ฮาจิ เลน (Haji Lane) ถนนสายเล็กๆ ที่เต็มไปด้วยสีสันและความมีชีวิตชีวาในย่านกัมปง กลาม (Kampong Glam) ของสิงคโปร์ เป็นที่รู้จักกันดีในหมู่นักท่องเที่ยวและคนท้องถิ่นในฐานะแหล่งรวมร้านค้าบูติก ร้านอาหาร คาเฟ่ และศิลปะบนท้องถนนที่น่าสนใจ ฮาจิ เลน ไม่เพียงแค่เป็นถนนสายช้อปปิ้ง แต่ยังเป็นเหมือนแกลเลอรี่กลางแจ้งที่แสดงให้เห็นถึงความคิดสร้างสรรค์และวัฒนธรรมที่หลากหลายของสิงคโปร์อีกด้วย
อ่านต่อ