- หน้าแรก
- ท่องเที่ยวต่างประเทศ
- 10 ศาสนสถานแห่งศรัทธา...ที่ชื่อว่าสวยที่สุดในโลก
10 ศาสนสถานแห่งศรัทธา...ที่ชื่อว่าสวยที่สุดในโลก

- อ่าน (1,048)
- By Webmaster
- 10:43:46 | 10 พ.ค. 2567
10 ศาสนสถานแห่งศรัทธา...ที่ชื่อว่าสวยที่สุดในโลก
ศาสนสถานที่เราจะพาไปชมกันในวันนี้ ขึ้นชื่อว่าเป็นศาสนสถานที่มีความงดงามวิจิตรเป็นอันดับต้นๆของโลก มีทั้งที่เกิดขึ้นจากฝีมือมนุษย์ และทั้งที่เกิดจากการรังสรรค์ของธรรมชาติ ซึ่งล้วนเป็นผลงานที่แสดงออกมาได้อย่างน่าทึ่งเลยละค่ะ และไม่เพียงแต่ความงดงามที่ปรากฏให้เห็นอย่างเด่นชัด แต่กลับสะท้อนถึงวัฒนธรรมความเป็นอยู่ของคนพื้นเมือง และความศรัทธาของผู้คนออกมาได้เป็นอย่างดี จากองค์ประกอบทั้งหมดทั้งมวลที่กล่าวมาข้างต้น ถูกผสมผสานกันออกมาอย่างมีเสน่ห์และลงตัว จนได้รับการขนานนามว่าเป็น ศาสนสถานที่สวยงามที่สุดโลก และควรค่าแก่การไปเยือนเป็นอย่างยิ่งค่ะ
แผนที่ตั้ง 10 ศาสนสถานแห่งศรัทธา...ที่ชื่อว่าสวยที่สุดในโลก
1. วัดร่องขุ่น : ประเทศไทย
วัดร่องขุ่น (Wat Rong Khun) ตั้งอยู่ที่จังหวัดเชียงราย ประเทศไทย เป็นวัดที่สร้างขึ้นจากความศรัทธาในพระพุทธศาสนาอย่างแรงกล้าของอาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ศิลปินเอกของไทย ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจในการสร้างมาจาก 3 สิ่ง ได้แก่ ชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ โดยภายในวัดมีความวิจิตรงามราวกับดินแดนสวรรค์ ไฮไลท์ของวัดแห่งนี้อยู่ตรงพระอุโบสถสีขาวและผลงานประติมากรรมโดยรอบที่มีความสวยงามแปลกตาเป็นอย่างมาก วัดแห่งนี้จึงถือเป็นแลนด์มาร์กสำคัญของจังหวัดเชียงรายที่ไม่ควรพลาดชมเป็นอย่างยิ่ง
เวลาทำการเปิด - ปิด : เปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00 – 17.00 น.
พิกัด GPS : 19°49'27.2"N 99°45'48.4"E
2. เจดีย์ชเวดากอง : ประเทศพม่า
เจดีย์ชเวดากอง (Shwedagon Pagoda) ตั้งอยู่บริเวณเนินเขาเชียงกุตระ เมืองย่างกุ้ง ประเทศพม่า เป็นมหาเจดีย์ที่ใหญ่ที่สุด และมีความสำคัญสูงสุดของพม่า โดยคำว่า “ ชเว ” หมายถึง ทองคำ และ “ ดากอง ” คือ ชื่อเมืองย่างกุ้งในอดีต ด้วยความสูงของเจดีย์ที่สูงถึง 48 เมตร และความกว้างโดยประมาณ 105 เมตร จึงทำให้เจดีย์แห่งนี้ คือ ศาสนสถานที่โดดเด่นที่สุดในย่างกุ้ง ความงดงามอร่ามตาขององค์เจดีย์ ล้วนแต่เกิดขึ้นจากความศรัทธาต่อองค์เจดีย์ของชาวพม่า ที่นิยมบริจาคเพชรพลอยของมีค่าต่างๆ ให้กับองค์เจดีย์ ว่ากันว่าที่องค์เจดีย์แห่งนี้มีเครื่องประดับมากกว่า 5,000 ชิ้นด้วยกัน โดยเฉพาะเพชรที่ประดับอยู่บนยอดเจดีย์นั้น กล่าวกันว่าขนาดใหญ่เท่าฝ่ามือคนเลยทีเดียว ส่วนด้านล่างรอบๆ เจดีย์จะเป็นที่ประดิษฐานของพระพุทธรูปจำนวนมาก และมีไม้แกะสลักประดับอยู่อย่างสวยงาม ภายในเจดีย์เป็นที่ประดิษฐานของพระบรมสารีริกธาตุในส่วนของเส้นผมจำนวน 8 เส้น
เวลาทำการเปิด - ปิด : เปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 04.00 – 16.30 น.
พิกัด GPS : 16°47'53.9"N 96°08'58.6"E
3. นครวัด : ประเทศกัมพูชา
นครวัด (Angkor Wat) ศาสนสถานที่ใหญ่ที่สุดในโลก ตั้งอยู่ที่เมืองเสียมราฐ ประเทศกัมพูชา สร้างขึ้นในช่วงกลางพุทธศตวรรษที่ 17 หรือในสมัยของพระเจ้าสุริยวรมันที่ 2 ซึ่งถือเป็นยุครุ่งเรืองของอาณาจักรขะแมร์ วัตถุประสงค์ในการสร้างนั้นเพื่ออุทิศถวายแก่พระวิษณุเทพในศาสนาฮินดูหรือศาสนาพราหมณ์ บริเวณโดยรอบมีพื้นที่กว่า 820,000 ตารางเมตร ใช้เวลาสร้างร่วม 100 ปี มีคูน้ำและกำแพงแก้วล้อมรอบองค์ปราสาทประธานและปราสาทเล็กสี่ด้าน อันเป็นการจำลองลักษณะจักรวาลตามคติของศาสนาพราหมณ์-ฮินดู อีกทั้งภายในปราสาทยังเต็มไปด้วยผลงานศิลปกรรมที่ล้ำค่ามากมาย อาทิ ภาพแกะสลักนางอัปสรที่โด่งดังไปทั่วโลก รวมไปถึงรายละเอียดส่วนประกอบต่างๆของปราสาทที่ยากจะหาที่ไหนเทียบเคียงได้ ความยิ่งใหญ่ของนครวัดได้กลายมาเป็นสัญลักษณ์ของประเทศกัมพูชา ซึ่งปรากฏอยู่บนธงประจำชาติ และยังได้รับได้รับการยกย่องให้เป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมจากองค์การยูเนสโกในปี ค.ศ. 1992
เวลาทำการเปิด - ปิด : เปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 07.00 – 17.30 น.
พิกัด GPS : 13°24'44.8"N 103°52'01.2"E
4. บุโรพุทโธ : ประเทศอินโดนีเซีย
บุโรพุทโธ (Borobudur) ตั้งอยู่บริเวณภาคกลางของเกาะชวาที่ เมืองมาเกอลัง (Magelang) ประเทศอินโดนีเซียถือเป็นศาสนสถานสำคัญแห่งอินโดนีเซีย และเป็นพุทธสถานที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก สร้างขึ้นในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 7-9 หรือประมาณปี พ.ศ. 1393 มีลักษณะเป็นมหาสถูปซึ่งมีระเบียงซ้อนกันเป็นชั้นๆลดหลั่นขึ้นไปคล้ายพีระมิดบนฐานสี่เหลี่ยม ที่ชั้นบนสุดเป็นที่ตั้งของมหาเจดีย์องค์ประธาน ห้อมล้อมด้วยพระพุทธรูปจำนวน 72 องค์ซึ่งประดิษฐานอยู่ภายในเจดีย์ทรงระฆัง ฉลุเป็นช่องสี่เหลี่ยมข้าวหลามตัด สร้างอยู่บนเนินสูงจากพื้นดินราว 15 เมตร จึงเป็นที่มาของชื่อ “บุโรพุทโธ” ที่แปลว่า “วิหารที่สร้างบนภูเขาสูง” และยังได้รับการยกย่องให้เป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมจากองค์การยูเนสโกในปี ค.ศ. 1991 อีกด้วย
เวลาทำการเปิด - ปิด : เปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 06.30 – 16.30 น.
พิกัด GPS : 7°36'28.8"S 110°12'16.0"E
5. พรัมบานัน : ประเทศอินโดนีเซีย
พรัมบานัน (Prambanan) เทวสถานที่ใหญ่ที่สุดในประเทศอินโดนีเซีย และเป็นหนึ่งในเทวสถานในศาสนาฮินดูที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียอาคเนย์ ตั้งอยู่บนเกาะจาวา (Java) ที่อยู่ห่างจากเมืองยอกยาการ์ตาไปทางตะวันออกประมาณ 18 กิโลเมตร โดดเด่นด้วยพระปรางค์ที่สร้างขึ้นด้วยหิน มีความสูงถึง 47 เมตร มหาวิหารมีลักษณะ ภายในบริเวณวัดมีเทวลัยหลัก 8 หลังอยู่ตรงกลาง รายล้อมด้วยเทวลัยขนาดเล็กเป็นบริวารอีกมากกว่า 200 หลัง และมีแนวกำแพงล้อมรอบ ทั้งหมดนี้สะท้อนถึงความความยิ่งใหญ่ ความงาม และความสำคัญของศาสนาฮินดูในอดีต จนได้รับการเลือกให้เป็นหนึ่งในมรดกโลกจากองค์กร UNESCO เมื่อปี ค.ศ. 1991
เวลาทำการเปิด - ปิด : เปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 06.30 – 17.00 น.
พิกัด GPS : 7°45'07.3"S 110°29'29.3"E
6. หอสักการะฟ้าเทียนถาน : ประเทศจีน
หอสักการะฟ้าเทียนถาน (Temple of Heaven) เป็นหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวที่โด่งดังในเมืองปักกิ่ง เมืองหลวงของประเทศจีน สถานที่ที่ใช้ประกอบพิธีบวงสรวงต่อสวรรค์ตามคติความเชื่อของจีนโบราณ ตัวหอเป็นอาคารไม้สูง 3 ชั้น ตั้งอยู่บนฐานหินหยกขาว และมีตำหนักต่างๆรายล้อม อยู่บนพื้นที่กว่า 2,700,000 ตารางเมตร หรือ 1,668.75 ไร่ ทำให้หอสักการะฟ้าเทียนถานได้ชื่อว่าเป็นสถานที่เพื่อการประกอบพิธีบวงสรวงที่ใหญ่ที่สุดในโลก และได้รับการยกย่องจาก UNESCO ให้เป็นมรดกโลกในฐานะของสิ่งก่อสร้างที่โดดเด่นด้านสถาปัตยกรรมการวางผัง และด้านวัฒนธรรม ที่สืบทอดต่อกันมายาวนานกว่า 2,000 ปีของประเทศจีน
เวลาทำการเปิด - ปิด : เปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 06.00 – 20.00 น.
พิกัด GPS : 39°52'55.6"N 116°24'23.5"E
7. วัดชิออนอิน : ประเทศญี่ปุ่น
วัดชิออนอิน (Chion-in Temple) ตั้งอยู่ในเขตฮิกาชิยาม่า ของเมืองเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น เป็นวัดศูนย์กลางของพุทธศาสนานิกายโจโด ซึ่งเป็นนิกายที่มีชาวญี่ปุ่นนับถือมากที่สุด วัดแห่งนี้ยังสร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1234 เพื่ออุทิศแด่พระภิกษุโฮเน็น ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งนิกายโจโด ที่มีคนให้ความนับถืออย่างมากในญี่ปุ่น โดยสิ่งก่อสร้างต่างๆ ภายในวัด ล้วนสร้างขึ้นให้มีความใหญ่โตเป็นอย่างมาก สะท้อนให้เห็นถึงพลังความศรัทธาในนิกายโจโดของชาวญี่ปุ่น ตั้งแต่ประตูซานมอน (Sanmon Gate) ประตูทางเข้าวัดที่มีความสูง 24 เมตร กว้าง 50 เมตร ที่สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1619 และถือเป็นประตูซานมอนที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในยุคนั้น รวมไปถึงระฆังยักษ์ (Temple Bell) ซึ่งสร้างขึ้นในปีค.ศ. 1633 มีน้ำหนัก 74 ตัน และต้องใช้คนถึง 25 คนเพื่อตีระฆังนี้ให้ดัง นอกจากนี้ ภายในบริเวณก็ยังมีสวนญี่ปุ่น อย่าง Hojo garden และ Yuzen garden ไว้ให้เที่ยวชมอีกด้วย
เวลาทำการเปิด - ปิด : เปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 09.00 – 16.00 น.
พิกัด GPS : 35°00'19.5"N 135°46'56.6"E
8. วิหารฮัมมันดิร ซาฮิบ : ประเทศอินเดีย
วิหารฮัมมันดิร ซาฮิบ (Harmandir Sahib) หรือ วิหารทองคำ (The Golden Temple) ศูนย์รวมความศรัทธาของชาวซิกข์ ตั้งอยู่ในเมืองอมฤตสาร์ รัฐปัญจาบ ประเทศอินเดีย วิหารสีเหลืองทองอร่าม ถูกสร้างขึ้นกลางบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์โซราวอร์ ภายในเป็นที่เก็บรักษาพระมหาคัมภีร์คุรุ กรันต สาหิบ (Guru Granth Sahib) คัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์ของศาสนา ที่ใช้เป็นหลักในการปฏิบัติตนและใช้ชีวิต นอกจากตัววิหารสีเหลืองทองอันโดดเด่น จุดเด่นอีกอย่างหนึ่งของวิหารแห่งนี้ คือ การสร้างประตูทางเข้าออก 4 ทิศ เพื่อแสดงให้เห็นถึงการต้อนรับทุกคนที่มาเยือน โดยไม่มีการแบ่งแยกชนชั้นวรรณะ หรือแม้แต่ศาสนา ดังนั้น วิหารทองคำ ฮัมมันดิร ซาฮิบ จึงไม่ได้เป็นเพียงศาสนสถานสำคัญของชาวซิกข์เท่านั้น แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ของความเป็นพี่น้องและความเท่าเทียมกันของมนุษย์ทุกคน
เวลาทำการเปิด - ปิด : เปิดทุกวัน 24 ชั่วโมง
พิกัด GPS : 31°37'12.9"N 74°52'33.0"E
9. วัดศรีรังกัม : ประเทศอินเดีย
วัดศรีรังกัม (Sri Ranganathaswamy Temple) เป็นศาสนสถานของศาสนาฮินดูที่ใหญ่ที่สุดในโลก และเป็น "ศาสนธานี" ที่สำคัญที่สุดของพระวิษณุ ตั้งอยู่ที่เมืองทามิลนาดู ประเทศอินเดีย วัดศรีรังกัม สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 10 ประกอบไปด้วย หอตัววิหารมีความสูง 236 ฟุต ประดับไปด้วยองค์เทพที่เพ้นท์ด้วยสีสันสดใส มีความเก่าแก่ทางด้านวัฒนธรรม และโดดเด่นด้วยผลงานทางสถาปัตยกรรมมิลักขะ อันประณีต ละเอียดอ่อน ผนวกกับสีสันและลวดลายบนรูปสลักเทวรูปที่งดงามสะดุดตา ปัจจุบันนี้ วัดศรีรังกัมก็ยังคงทำหน้าที่เป็น ศาสนสถานที่มีการประกอบพิธีบูชาอยู่
เวลาทำการเปิด - ปิด : เปิดทุกวัน ช่วงเช้า เวลา 05.30 - 08.30 น. 09.00 – 12.30 น.
ช่วงบ่าย/เย็น เวลา 15.00 – 17.30 น. 19.00 – 20.30 น.
พิกัด GPS : 10°51'44.7"N 78°41'23.9"E
10. วัดทักซัง : ประเทศภูฐาน
วัดทักซัง (Taktsang Monastery) หรืออีกชื่อหนึ่งเรียกว่า วัดรังเสือ เป็นอารามริมผาบนภูเขาสูงกว่า 3,000 ฟุต หนึ่งในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของโลก ตั้งอยู่บนผาสูงในหุบเขาพาโร ประเทศภูฐาน ศาสนสถานแห่งนี้ถือเป็นสถานที่แสวงบุญในเขตหิมาลัยที่ชาวภูฐานนิยมมามากที่สุด เพราะด้วยความเลื่อมใสศรัทธา และทัศนียภาพอันน่าตื่นตาตื่นใจของสถาปัตยกรรมบนผาแห่งนี้ จากพื้นดินสู่อารามวัดทักซังที่สูงเทียมฟ้า ใช้เวลาเดินเท้าประมาณ 2 ชั่วโมง ไปตามแนวผา แนวธงหลากสี และเดินขึ้นบันไดอีก 700 ขั้น ก็จะพบกับศาสนสถาน ท่ามกลางขุนเขาที่ขึ้นชื่อว่าสวยงามที่สุดในโลก
เวลาทำการเปิด - ปิด : เปิดทุกวัน ช่วงเช้า เวลา 08.00 - 13.00 น.
ช่วงบ่าย/เย็น เวลา 14.00 – 18.00 น.
พิกัด GPS : 27°29'19.7"N 89°21'31.5"E
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ

14 สถานที่เที่ยวยอดนิยมในสิงคโปร์
ประเทศสิงคโปร์ ประเทศเล็กๆ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่มีการพัฒนาอย่างรวดเร็วจนกลายเป็นหนึ่งในประเทศศูนย์กลางทางการเงินและศูนย์กลางทางธุรกิจที่สำคัญที่สุดในโลก และยังเป็นประเทศที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรม เชื้อชาติและภาษา จึงทำให้มีที่เที่ยว อาหาร และบรรยากาศหลากหลายรูปแบบ รวมถึงการเดินทางที่สะดวกสบาย ด้วยเหตุนี้ประเทศสิงคโปร์จึงกลายเป็นหนึ่งในจุดหมายท่องเที่ยวยอดนิยมของคนไทยมาโดยตลอด วันนี้ Palanla จะมาแนะนำ 14 สถานที่เที่ยวยอดนิยมในประเทศสิงคโปร์ปี 2025 ไปดูกันว่าจะมีที่ไหนบ้างที่น่าสนใจและเราไม่อยากให้พลาด!
อ่านต่อ
10 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในมาเก๊า
มาเก๊า (Macau) เขตบริหารพิเศษแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน มีภูมิประเทศเป็นเกาะเล็กๆ แต่อัดแน่นไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวมากมายหลายแบบ ทั้งโบราณสถานและสิ่งก่อสร้างใหม่ ทำให้ที่นี่กลายเป็นหนึ่งในเป้าหมายของนักเดินทางชาวไทย ด้วยเวลาเดินทางเพียง 2 ชั่วโมง Palanla จึงขอเอาใจผู้อ่านพาไปเที่ยวที่นี่ ด้วยการรวบรวมสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยม 10 แห่งมาแนะนำ มีอะไรน่าสนใจบ้าง หรือใครกำลังวางแผนไปเที่ยวมาเก๊าก็สามารถดูเอาไว้เป็นตัวเลือกกันได้เลย
อ่านต่อ
10 อันดับพระใหญ่และมีชื่อเสียงที่สุดในโลก
ในโลกที่ความยิ่งใหญ่และความสง่างามมาบรรจบกัน มีการสร้างสรรค์ที่น่าทึ่ง ซึ่งท้าทายขีดจำกัดของความเชื่อและความสำเร็จของมนุษย์ นั่นคือพระพุทธรูปที่ใหญ่ที่สุดในโลก สิ่งก่อสร้างอันยิ่งใหญ่เหล่านี้ เป็นเครื่องพิสูจน์ถึงความศรัทธา และความทุ่มเทที่ฝังรากลึกในวัฒนธรรมและจิตวิญญาณของคนในชาติต่างๆ Palanla จะพาคุณออกเดินทางไปสำรวจ 10 อันดับพระพุทธรูปที่ใหญ่และมีชื่อเสียงที่สุดในโลก มาค้นหาความหมายทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่ฝังอยู่ในสิ่งก่อสร้างอันงดงามเหล่านี้ไปพร้อมๆ กัน
อ่านต่อ
10 อันดับกวนอิมองค์ใหญ่และมีชื่อเสียงที่สุดในโลก
เจ้าแม่กวนอิมเป็นพระโพธิสัตว์ในพระพุทธศาสนานิกายมหายาน มีผู้เคารพนับถือบูชาในหลายประเทศ เช่น จีน ญี่ปุ่น เกาหลี เวียดนาม รวมทั้งไทย โดยมีความเชื่อว่าพระองค์ทรงเป็นสัญลักษณ์แห่งความเมตตา กรุณา และความช่วยเหลือแก่ผู้ตกทุกข์ได้ยาก ในบทความนี้ Palanla จะพาไปสำรวจ 10 อันดับรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมองค์ใหญ่และมีชื่อเสียงที่สุดในโลกในปัจจุบัน
อ่านต่อ
หลวงพ่อสัจจธรรม กรุงทิมพู ประเทศภูฏาน
หลวงพ่อสัจจธรรม (Great Buddha Dordenma) เป็นพระพุทธรูปที่อยู่สูงที่สุดในโลก ประดิษฐานอยู่ที่กรุงทิมพู ประเทศภูฏาน ดินแดนแห่งเทือกเขาหิมาลัย
อ่านต่อ
ไดคันนงแห่งสวนคิตะโนะมิยาโกะ จังหวัดฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น
ไดคันนงแห่งสวนคิตะโนะมิยาโกะ (Dai Kannon of Kita no Miyako Park) หรือที่รู้จักกันในชื่อ ฮอกไกโดคันนง เป็นรูปปั้นของพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร หรือเจ้าแม่กวนอิม ที่ตั้งอยู่ในสวนคิตะโนะมิยาโกะ บนเกาะฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น รูปปั้นไดคันนงแห่งสวนคิตะโนะมิยาโกะ เคยเป็นรูปปั้นที่เคยสูงที่สุดในโลกเมื่อเปิดให้เข้าชมในปีค.ศ.1989
อ่านต่อ
เจ้าแม่กวนอิมแห่งหนานชาน มณฑลไห่หนาน ประเทศจีน
เจ้าแม่กวนอิมแห่งหนานชาน หรือ พระโพธิสัตว์กวนอิมแห่งเกาะไหหลำ (Guanyin of Nanshan) ได้รับการจดบันทึกในกินเนสบุ๊คว่า เป็นเจ้าแม่กวนอิมที่สูงที่สุดในโลกในปัจจุบัน ประดิษฐานอยู่ใกล้กับวัดหนานชานแห่งเมืองซานย่า บนชายฝั่งทางตอนใต้ของมณฑลไห่หนาน ประเทศจีน
อ่านต่อ
พระใหญ่จงหยวน มณฑลเหอหนาน ประเทศจีน
พระใหญ่จงหยวน หรือนิยมเรียกในชื่อ Spring Temple Buddha ที่แปลว่า พระพุทธรูปวัดบ่อน้ำพุ ถือเป็นพระพุทธรูปที่สูงที่สุดในโลก ประดิษฐานอยู่ที่วัดฟัวเฉวียน ในเมืองหลู่ซัน มณฑลเหอหนาน ประเทศจีน
อ่านต่อ
พระโพธิสัตว์กวนอิมพันมือแห่งกุยชาน มณฑลหูหนาน ประเทศจีน
พระโพธิสัตว์กวนอิมพันมือแห่งกุยชาน (Guishan Guanyin) มณฑลหูหนาน ประเทศจีน เป็นประติมากรรมเจ้าแม่กวนอิมความสูง 99.19 เมตร ซึ่งจัดเป็นหนึ่งในรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมที่สูงที่สุดในโลก
อ่านต่อ
เจ้าแม่กวนอิมแห่งไท่หู เมืองซูโจว มณฑลเจียงซู ประเทศจีน
เจ้าแม่กวนอิมแห่งไท่หู (Guanyin of Taihu) ประดิษฐานอยู่ภายในพื้นที่ของ Great Ruyi Holy Land บนเกาะซีซาน (Xishan Island) ทางทิศใต้ของทะเลสาบไท่หู (Taihu Lake) มณฑลเจียงซู ประเทศจีน
อ่านต่อ