- หน้าแรก
- ท่องเที่ยวต่างประเทศ
- ทะเลสาบโชจิโกะ จังหวัดยามานาชิ ประเทศญี่ปุ่น
ทะเลสาบโชจิโกะ จังหวัดยามานาชิ ประเทศญี่ปุ่น
- อ่าน (4,892)
- By Webmaster
- 03:54:29 | 2 ก.พ. 2566
ทะเลสาบโชจิโกะ จังหวัดยามานาชิ ประเทศญี่ปุ่น
Shojiko Lake, Yamanashi, Japan
ทิวทัศน์ของทะเลสาบโชจิโกะยามฤดูใบไม้เปลี่ยนสี
ทะเลสาบโชจิโกะ คือทะเลสาบที่มีขนาดเล็กที่สุดในบรรดาทะเลสาบทั้ง 5 รอบภูเขาไฟฟูจิ เป็นสถานที่ยอดนิยมสำหรับการทำกิจกรรมทางน้ำและธรรมชาติ ตั้งอยู่ที่จังหวัดยามานาชิ ประเทศญี่ปุ่น
ทะเลสาบโชจิโกะเมตร มีต้นกำเนิดจากการระเบิดของภูเขาไฟฟูจิในอดีต จนทำให้ลาวาที่กระจายตัวออกมาปิดกั้นพื้นที่เดิมซึ่งเป็นแม่น้ำ จนกลายมาเป็นทะเลสาบ นอกจากนี้ยังเชื่อกันว่าแต่เดิมนั้น ทะเลสาบโชจิโกะ ทะเลสาบไซโกะ และทะเลสาบโมโตสุโกะ เคยเป็นทะเลสาบเดียวกันมาก่อน แต่เมื่อภูเขาไฟฟูจิมีการประทุขึ้นอีกครั้ง ทำให้ลาวาไหลมาแบ่งทะเลสาบออกเป็น 3 ส่วนดังที่ปรากฏในปัจจุบัน
ทะเลสาบแห่งนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากองค์กร Unesco พร้อมกันกับภูเขาไฟฟูจิ อุทยานแห่งชาติฟุจิ-ฮะโกะเนะ-อิซุ และน้ำตกชิระอิโตะ ในปี ค.ศ. 2013 มีพื้นที่รวม 0.51 ตารางกิโลเมตร มีความลึก 15.2 เมตร และตั้งอยู่บนความสูงเหนือระดับน้ำทะเล 900 เมตร มีพื้นที่ติดกับป่าแห่งความตาย หรือป่าอาโอกิกาฮาระ ซึ่งมีธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ บวกกับพื้นที่โดยรอบนั้นยังไม่ได้ถูกพัฒนาให้เป็นที่เที่ยวหรือที่พักเหมือนกับทะเลสาบคาวากุจิโกะและทะเลสาบยามานากาโกะ จึงทำให้ทะเลสาบแห่งนี้ได้รับความนิยมในการเดินป่า ตั้งแคมป์ บวกกับขนาดของทะเลสาบที่ไม่ใหญ่จนเกินไป จึงทำให้เหมาะสำหรับการทำกิจกรรมทางน้ำทั้งตกปลา เล่นเจ๊ทสกี และพายเรืออีกด้วย
มุมที่เป็นเอกลักษณ์ของทะเลสาบโชจิโกะ คือจุดที่สามารถมองเห็นภูเขาไฟโอมุระ ซ้อนทับกับภูเขาไฟฟูจิเช่นนี้
ความงดงามของทะเลสาบโชจิโกะถูกแนะนำให้กับชาวโลกเป็นครั้งแรกโดยนักเดินทางชาวอังกฤษชื่อว่า แฮร์รี่ สจ๊วต วิทเวิร์ธ ซึ่งเดินทางมาเยือนทะเลสาบแห่งนี้ตั้งแต่ในยุคเมจิ และนำเรื่องราวการเดินทางไปเขียนลงในหนังสือจนได้รับความสนใจจากชาวต่างชาติจำนวนมาก ทำให้ทะเลสาบแห่งนี้ได้รับการขนานนามว่า “สวิสเซอร์แลนด์แห่งตะวันออก” โดยจุดชมวิวขึ้นชื่อนั้นคือมุมที่สามารถมองเห็นภูเขาโอมุโระ และภูเขาไฟฟูจิซ้อนทับกันเป็นฉากหลังอย่างพอดิบพอดี
การเดินทางไปยังทะเลสาบโชจิโกะจากโตเกียว
- รถบัส จากโตเกียว มีรถบัสของบริษัท Highway Bus วิ่งระหว่างโตเกียว – ทะเลสาบโชจิโกะ-ทะเลสาบโมโตสุโกะ แต่จะให้บริการเฉพาะช่วงฤดูร้อน หรือระหว่างเดือนมิถุนายน-กันยายนเท่านั้น โดยจุดขึ้นรถจะอยู่ที่สถานีรถบัสด่วนพิเศษชินจูกุ (Shinjuku Expressway Bus Terminal) ค่าโดยสารเที่ยวละ 2,200 เยน ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง 45 นาที นักท่องเที่ยวสามารถตรวจสอบตารางเวลาและข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://bus-en.fujikyu.co.jp/highway/detail/id/1
การเดินทางบริเวณทะเลสาบโชจิโกะ
- รถบัส เป็นวิธีการเดินทางรูปแบบเดียวสำหรับระบบขนส่งสาธารณะบริเวณรอบภูเขาไฟฟูจิ โดยนักท่องเที่ยวจะต้องเริ่มต้นจาก สถานีคาวากุจิโกะ (Kawaguchiko Station) ซึ่งมีรถบัสของบริษัท Fujikyu สายสีฟ้า ซึ่งจะวิ่งจากสถานีคาวากุจิโกะ ผ่านทะเลสาบโชจิโกะ และสิ้นสุดปลายทางที่ทะเลสาบโมโตสุกะ ให้บริการตั้งแต่ 09.20-16.40 น. มี 2-day pass จำหน่ายในราคา 1,500 เยน นักท่องเที่ยวสามารถตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://bus-th.fujikyu.co.jp/heritage-tour/detail/id/1/
- รถแท็กซี่ บริเวณรอบภูเขาไฟฟูจิมีรถแท็กซี่ให้บริการทั้งแบบคิดตามมิเตอร์ และแบบเหมา โดยอัตรามิเตอร์เริ่มต้นที่ 730 เยน และเพิ่มขึ้นครั้งละ 90 เยนทุกๆระยะทาง 244 เมตร ส่วนอัตราเหมาเริ่มต้นที่ชั่วโมงละ 6,900 เยน นักท่องเที่ยวสามารถตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://www.fujiq-taxi.jp/en/taxi/
เวลาในการเปิด-ปิดทำการ
เนื่องจากทะเลสาบโชจิโกะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ จึงไม่มีวันหยุดและวันปิดทำการ
นักท่องเที่ยวสามารถมองเห็นภูเขาไฟฟูจิได้จากจุดชมวิวต่างๆที่อยู่โดยรอบทะเลสาบโชจิโกะ
เวลาที่เหมาะสมสำหรับการท่องเที่ยว
บรรยากาศรอบทะเลสาบโชจิโกะยามใบไม้เปลี่ยนสี ที่สามารถมองเห็นภูเขาต่างๆเปลี่ยนสีสันตามเหล่าพรรณไม้
นักท่องเที่ยวสามารถมาเยือนทะเลสาบโชจิโกะได้ตลอดทั้งปี ทั้งนี้ในช่วงฤดูหนาว ระหว่างเดือนธันวาคม - กุมภาพันธ์ ตารางการเดินรถและกิจกรรมต่างๆรอบทะเลสาบอาจมีการยกเลิกหรือเปลี่ยนแปลง นักท่องเที่ยวควรตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมอีกครั้ง
นอกจากนี้ นักท่องเที่ยวยังสามารถตรวจสอบพยากรณ์อากาศล่วงหน้าเพื่อความสะดวกในการท่องเที่ยวได้ที่ https://www.accuweather.com/
ข้อมูลทั่วไปที่ควรรู้
เช่นเดียวกับทะเลสาบอื่นๆในบริเวณใกล้เคียง ทะเลสาบโชจิโกะก็เป็นที่นิยมในการล่องเรือตกปลาเช่นกัน
รถบัสสายสีฟ้าของบริษัท Fujikyu ถือเป็นระบบขนส่งสาธารณะเพียงชนิดเดียวระหว่างสถานีคาวากุจิโกะและทะเลสาบโชจิโกะ ตลอดการเดินทางนักท่องเที่ยวจึงควรตรวจสอบตารางการเดินรถ และรักษาเวลาในการท่องเที่ยวให้ดี
เนื่องจากทัศนวิสัยและสภาพอากาศบริเวณทะเลสาบโชจิโกะอาจมีความแปรปรวนและส่งผลต่อการมองเห็นภูเขาไฟฟูจิเป็นอย่างมาก นอกจากการตรวจสอบพยากรณ์อากาศจากโทรศัพท์มือถือ หรือเว็บไซต์พยากรณ์อากาศที่เป็นสากลอย่าง Accuweather แล้ว นักท่องเที่ยวควรตรวจสอบพยากรณ์อากาศจากหน่วยงานในประเทศญี่ปุ่นควบคู่ไปด้วย เนื่องจากการพยากรณ์อากาศในญี่ปุ่นนั้นค่อนข้างมีความแม่นยำสูง และเชื่อถือได้ โดยหน่วยงานที่ได้รับการยอมรับมากที่สุดคือกรมอุตุวิทยาประเทศญี่ปุ่น (JMA) ที่มีการพยากรณ์สภาพอากาศในทุกจังหวัดของญี่ปุ่นแบบรายชั่วโมง และยังคอยแจ้งเตือนแผ่นดินไหว หรืออุบัติภัยอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับธรรมชาติในประเทศญี่ปุ่นอีกด้วย
เว็บไซต์กรมอุตุวิทยาญี่ปุ่น (Japan Meteorological Agency) : http://www.jma.go.jp/jma/indexe.html
จากตัวอย่างในภาพ หากสัญลักษณ์ในตารางพยากรณ์อากาศในจังหวัด Yamanashi เป็น รูปดวงอาทิตย์ ถือว่ามีโอกาสสูงประมาณ 90% ที่จะมองเห็นภูเขาไฟฟูจิแบบไม่มีเมฆบดบัง หากสัญลักษณ์ในตารางพยากรณ์อากาศเป็น รูปดวงอาทิตย์และก้อนเมฆ จะมีโอกาสประมาณ 50-70% ที่จะมองเห็นภูเขาไฟฟูจิ หากเป็น รูปก้อนเมฆอย่างเดียว จะมีจะมีโอกาสประมาณ 20-40% ที่จะมองเห็นภูเขาไฟฟูจิ และหากเป็น รูปก้อนเมฆพร้อมฝน ถือว่าแทบไม่มีโอกาสมองเห็นภูเขาไฟฟูจิเลย
นอกจากการตรวจสอบพยากรณ์อากาศ เพื่อข้อมูลที่ชัดเจนมากขึ้น บริเวณรอบภูเขาไฟฟูจิยังมี 2 หน่วยงานหลักที่ ติดตั้งกล้อง Webcam ไว้ตามจุดต่างๆ เพื่ออัพเดทภาพภูเขาไฟฟูจิแบบสดๆ หรืออัพเดทเป็นรายนาที ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถเข้าไปตรวจสอบภาพพื้นที่โดยรอบภูเขาไฟฟูจิในช่วงเวลาปัจจุบันได้ทันทีบนเว็บไซต์ เพื่อประกอบการตัดสินใจว่าควรเดินทางไปท่องเที่ยวบริเวณนั้นหรือไม่
1. องค์การการท่องเที่ยวจังหวัดยามานาชิ (Yamanashi Prefecture Tourism Organization)
กล้องขององค์การท่องเที่ยวจังหวัดยามานาชิ มีทั้งหมด 9 ตัว ซึ่งครอบคลุมภาพจากบริเวณทะเลสาบทั้ง 5 แห่ง รวมถึงจุดอื่นๆ ซึ่งมีการทำแผนที่แสดงมุมกล้องอย่างชัดเจนบน เว็บไซต์ : https://www.yamanashi-kankou.jp/fujisanwatcher/live/index.html
2. Fujigoko TV
กล้องของบริษัท Fujigoko TV มีจำนวนกว่า 20 ตัวรอบภูเขาไฟฟูจิ ครอบคลุมทั้งพื้นที่ทะเลสาบทั้ง 5 แห่ง รวมถึงจุดท่องเที่ยวยอดนิยมอื่นๆอย่างโอชิโนะ ฮักไก และภูเขาไฟฟูจิชั้นที่ 5 โดยส่วนใหญ่จะเป็นภาพนิ่งจากกล้องที่มีการอัพเดททุกๆ 1-5 นาที และยังสามารถดูภาพย้อนหลังในช่วงเวลาอื่นของวันได้อีกด้วย เว็บไซต์ : http://www.fujigoko.tv/english/
นักท่องเที่ยวที่สนใจไปเที่ยว ทะเลสาบโชจิโกะ สามารถศึกษา ข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่
ทะเลสาบโชจิโกะ
(Shojiko Lake)
อัตราค่าเข้าชม : ไม่เสียค่าใช้จ่าย
เวลาเปิด-ปิด : ไม่มีวันปิดทำการ
ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการท่องเที่ยว : ตลอดทั้งปี
สถานที่ตั้ง : จังหวัดยามานาชิ ประเทศญี่ปุ่น
โทรศัพท์ : (+81) 555-87-2311 (Shojiko Tourism Association)
ระดับความนิยม :
ข้อมูลอื่นๆที่ควรรู้ : เว็บไซต์การท่องเที่ยวจังหวัดยามานาชิ http://www.yamanashi-kankou.jp/english/
เว็บไซต์สำหรับตรวจสอบสภาพอากาศ https://www.accuweather.com
สถานที่อื่นๆที่น่าสนใจ
หน้าผาโทจินโบ จังหวัดฟุกุอิ ประเทศญี่ปุ่น
หน้าผาโทจินโบ (Tojinbo) ตั้งอยู่ในจังหวัดฟุกุอิ (Fukui) ทางภาคตะวันออกของประเทศญี่ปุ่น เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมจากทั้งนักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่นและชาวต่างชาติ ด้วยความงามของหน้าผาที่สูงชันและวิวทิวทัศน์ที่น่าทึ่ง และไม่เพียงแต่เป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยความงามจากธรรมชาติ แต่ยังแฝงไปด้วยตำนานและความเชื่อที่ลึกซึ้งด้วย
อ่านต่อเมจิจิงกูไกเอ็น กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น
เมจิจิงกูไกเอ็น (Meiji Jingu Gaien) หรือ สวนด้านนอกศาลเจ้าเมจิ เป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่ในย่านชินจูกุและอาโอยามะของกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น สวนนี้มีชื่อเสียงในเรื่องของถนนต้นแปะก๊วยสีเหลืองทองที่สวยงาม ทอดยาวสุดลูกหูลูกตาในช่วงฤดูใบไม้ร่วง
อ่านต่อปราสาทฮิโกเนะ จังหวัดชิงะ ประเทศญี่ปุ่น
ปราสาทฮิโกเนะ (Hikone Castle) เป็นหนึ่งในปราสาทดั้งเดิมไม่กี่แห่งของญี่ปุ่นที่ยังคงสภาพสมบูรณ์อยู่จนถึงปัจจุบัน ด้วยสถาปัตยกรรมอันงดงามและประวัติศาสตร์อันยาวนาน ที่นี่จึงเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของจังหวัดชิงะ
อ่านต่อถนนทิวสนเมตาซีคัวญา จังหวัดชิงะ ประเทศญี่ปุ่น
ถนนทิวสนเมตาซีคัวญา (Metasequoia Namiki Avenue) ในจังหวัดชิงะ ประเทศญี่ปุ่น คือถนนที่ได้รับการจัดอันดับให้เป็นหนึ่งใน 100 ถนนที่สวยที่สุดในญี่ปุ่น และเป็นจุดชมธรรมชาติที่ผู้คนหลั่งไหลมาเยี่ยมชมอยู่เสมอ โดยเฉพาะในช่วงฤดูใบไม้ร่วงที่ทิวสนเปลี่ยนเป็นสีเหลืองอร่ามตลอดสองข้างถนน
อ่านต่อ8 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเมืองญาจาง – ดาลัด ประเทศเวียดนาม
หากอยากสัมผัสบรรยากาศเมืองชายทะเลสุดคึกคักอากาศอบอุ่น แล้วไปผ่อนคลายในเมืองแห่งภูเขาอากาศเย็นสบายที่เวียดนามใต้ ญาจางและดาลัดคือคำตอบ! สองเมืองนี้จะพาคุณดื่มด่ำไปกับธรรมชาติที่งดงาม วัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์และกิจกรรมที่หลากหลาย Palanla ได้รวบรวมเอา 8 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเมืองญาจางและดาลัดมาให้แล้วในบทความนี้
อ่านต่ออาสนวิหารญาจาง เมืองญาจาง ประเทศเวียดนาม
อาสนวิหารญาจาง (Christ the King Cathedral Nha Trang) หรือ โบสถ์หินญาจาง สุดยอดสถาปัตยกรรมแบบนีโอโกธิคผสมผสานกับสถาปัตยกรรมแบบโรมัน ที่ตั้งตระหง่านอยู่บนเนินเขาใจกลางเมืองญาจาง ประเทศเวียดนาม อายุเกือบร้อยปีแห่งนี้ เปรียบเสมือนแลนด์มาร์กของเมือง ด้วยผนังหินสีน้ำตาลเข้มที่สลักเสลาอย่างวิจิตรบรรจง และหลังคาสูงชะลูดที่ดูอลังการ ตัดกับท้องฟ้าสีคราม ทำให้โบสถ์แห่งนี้กลายเป็นแลนด์มาร์กที่โดดเด่นและเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยว
อ่านต่อหาดญาจาง เมืองญาจาง ประเทศเวียดนาม
หาดญาจาง (Nha Trang Beach) เป็นหนึ่งในชายหาดที่สวยที่สุดของประเทศเวียดนาม ด้วยชายรูปร่างเหมือนพระจันทร์เสี้ยว ความยาวกว่า 6 กิโลเมตรที่โอบล้อมอ่าวญาจาง ในจังหวัดหวัดคั้ญฮวา ท่ามกลางภูมิทัศน์โดยรอบที่สวยงามของอาคารสถาปัตยกรรมสำคัญๆ มากมาย
อ่านต่อหอคอยแตร่มเฮือง เมืองญาจาง ประเทศเวียดนาม
หอคอยแตร่มเฮือง (Tram Huong Tower) สัญลักษณ์และจุดเช็กอินยอดนิยมของหาดญาจางในปัจจุบัน
อ่านต่อวินเพิร์ลแลนด์ เมืองญาจาง ประเทศเวียดนาม
วินเพิร์ลแลนด์ (Vinpearl Land) เป็นสวนสนุกและรีสอร์ตหรูครบวงจรระดับโลกที่เมืองญาจาง ประเทศเวียดนาม มีจุดเด่นอยู่ที่ทำเลที่ตั้งที่สวยงามติดทะเล และสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน นอกจากนี้ยังมีไฮไลต์สำคัญของการไปเที่ยวที่นี่คือ การนั่งกระเช้าลอยฟ้าข้ามทะเลที่ยาวที่สุดในโลก
อ่านต่อวัดลองเซิน เมืองญาจาง ประเทศเวียดนาม
วัดลองเซิน (Long Son Pagoda) หรือที่รู้จักกันดีในชื่อ “วัดพระใหญ่” เป็นวัดพุทธมหายานเก่าแก่ และใหญ่ที่สุดของเมืองญาจาง ประเทศเวียดนาม นอกจากความสวยงามอลังการของตัววัดแล้ว จากยอดเขายังสามารถมองเห็นวิวของเมืองญาจางและทะเลได้อย่างสวยงาม
อ่านต่อ